หัวข้อ: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ พฤษภาคม 28, 2010, 11:49:05 PM สงสัยครับ บางทีเวลาเรานอนหลับแล้วมีฟ้าร้องฟ้าผ่าแบบดังลั่นบ้าน แล้วไม่รู้สึกเลยแบบว่าตอนตื่นเช้ามาถามคนนอนข้างๆว่าเมื่อคืนฝนตกเหรอเห็นบ้านเปียกๆ ถ้าเป็นว่าในกรณีเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากเสียงฟ้าร้องเป็นเสียงปืน ในระยะที่เหมือนกับเราถือปืนยิงนี่ มันจะต้องตื่นทุกคนหรือไม่ครับ แล้วถ้าไม่ตื่นเวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้าๆ ในหูมันจะมีเสียงวิ้งๆๆ ไหมครับ สงสัยมานานแล้ว แต่ไม่รู้จะทดลองอย่างไร ขอแบบวิชาการหน่อยนะครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 12:13:36 AM เอาแบบวิชาการนะครับ...
หูและกลไกของการได้ยินเสียง คลื่นเสียงเกิดจากการอัดและขยายของตัวกลาง การอัดขยายนี้จะส่งต่อ ๆ กันไป จนถึงหูของผู้ฟังแล้วส่งต่อไปยังสมองในเทอม ของระดับเสียง ความดัง และคุณภาพของเสียง โดยปกติหูคนเราไวต่อการรับรู้เสียงที่มีความถี่สูงมากกว่าเสียงที่มีความถี่ต่ำ เมื่อ เสียงนั้นมีระดับความเข้มเสียงเท่ากัน นอกจากนี้ความไวต่อการรับรู้เสียงของคนเรายังขึ้นอยู่กับอายุ โดยพบว่าเด็กมีความรู้สึกไว ต่อช่วงความถี่สูงมากกว่าผู้ใหญ่ความไวต่อการได้ยินเสียงของคนจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าความไวต่อการ ได้ยินเสียง จะลดลงด้วยสาเหตุอื่น ๆ อีกเช่น การได้รับฟังเสียงดังมากเกินไปเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือจากการใช้ยาบางชนิด (http://www.hearingworld.co.uk/images/ear_anatomy.gif) รูปที่ 3 ส่วนประกอบของหู หูของคนเราเป็นอวัยวะของร่างกายที่ใช้รับเสียง แบ่งออกได้ 3 ส่วน ได้แก่ หูส่วนนอก หูส่วนกลางและหูส่วนใน 1. หูส่วนนอก ประกอบด้วยใบหู ช่องหูหรือรูหู (Auditory canal) และเยื่อแก้วหู (tympanic membrane) โดยใบหูจะทำหน้าที่ ในการรับเสียง สำหรับในสัตว์บางชนิด หูส่วนนี้จะมีขนาดใหญ่เพื่อใช้หาทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียง ส่วนช่องหูมีลักษณะเป็นท่อยาว ดังนั้นความดันของเสียงตอนปลายท่อด้านในที่ปิดอยู่จึงมีมากกว่าปากท่อด้านนอก ความดันที่เพิ่มนั้นจะเกิดเมื่อความยาวของ คลื่นเสียงยาวกว่าความยาวท่อ 4 เท่า คือความดังเมื่อผ่านช่องหูจะเพิ่มขึ้น 12 เดซิเบล ในช่วงความถี่ 2,400 - 4,000 Hz แต่ถ้าความยาวคลื่นต่ำกว่าหรือสูงกว่านี้ ความดังเมื่อผ่านช่องหูจะเพิ่มเพียง 5 เดซิเบล ในช่วงความถี่ 2,000 - 6,000 Hz ช่องหูทำหน้าที่ในการกำทอนเสียง (resonance) ซึ่งสั่นด้วยความถี่ประมาณ 3000 เฮิรตซ์ แล้วส่งไปยังเยื่อแก้วหู นอกจากนี้แล้ว ช่องหูยังช่วย ในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้มีค่าคงที่ และยังเป็นเครื่องป้องกันอันตรายให้แก่หูอีกด้วย เยื่อแก้วหูเป็นส่วนกั้น ระหว่างหูชั้นนอกกับหูชั้นกลาง โดยแยกอากาศในช่องหูชั้นนอกไม่ให้ติดต่อกับหูชั้นกลาง เยื่อแก้วหูทำหน้าที่เป็นเครื่องรับความดันเสียง 2. หูส่วนกลาง ทำหน้าที่ปรับคลื่นเสียงเพื่อให้เข้าไปกระตุ้นหูชั้นใน โดยการเปลี่ยนพลังงานเสียงจากอากาศให้ผ่าน ช่องหูชั้นกลาง เข้าไป เป็นการสั่นสะเทือนของของเหลว ภายในหูชั้นกลางประกอบด้วยกระดูกสามชิ้น (Ossicles) คือกระดูกรูปฆ้อน กระดูกรูปทั่ง และกระดูกรูปโกลนซึ่งยึดกันอย่างสมดุลด้วยระบบคานดีดคานงัด (lever system) ตรงบริเวณปลายกระดูกรูป โกลนจะติดต่อกับ หน้าต่างรูปไข่ กระดูกทั้งสามทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงที่มากระทบแก้วหูให้เป็นคลื่นของเหลวขึ้นในหูส่วนใน หูส่วนกลางนี้ติดต่อกับ โพรงอากาศผ่านหลอดยูสเตเชียน (eustachian) ปกติช่องนี้จะปิด แต่ในขณะเคี้ยวหรือกลืนอาหารท่อนี้จะเปิด อากาศภายในหู ส่วนกลาง จึงสามารถติดต่อกับภายนอกได้ เป็นการปรับความดัน 2 ด้านของเยื่อแก้วหูให้เท่ากัน ทำให้การได้ยินดีขึ้น 3. หูส่วนใน ประกอบด้วยหลอดครึ่งวงกลม 3 หลอด (semicircular canals) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการสมดุลของร่างกาย และกระดูก รูปหอย (cochlea) ซึ่งเป็นช่องมีลักษณะคล้ายหอยโข่ง ภายในบรรจุของเหลวมีเยื่อบาซิลาร์ (basilar) ขึงอยู่เกือบตลอดความยาว ยกเว้นปลายสุด ตรงปากทางเข้าเป็นช่องเปิดรูปไข่และวงกลม ตลอดความยาวของเยื่อบาซิลลาร์มีปลายประสาทที่ไวต่อเสียงที่มี ความถี่ต่ำ ๆ กันเรียงรายอยู่ ปลายประสาทที่อยู่กันค่อนไปทางช่องเปิดรูปไข่จะไวต่อเสียงที่มีความถี่สูง ส่วนปลายประสาทที่อยู่ลึก เข้าไปข้างในจะไวต่อเสียงที่มีความถี่ต่ำ กลไกการได้ยินสียง ช่องหูจะทำให้คลื่นเสียงที่มีความถี่ระหว่าง 2,000 5,000 Hz มีพลังงานสูงขึ้นเนื่องจากเกิด resonance ในช่องหู ถ้าความถี่ ต่ำกว่า 400 Hz การรับคลื่นเสียงไม่ค่อยดี ทั้งใบรูและช่องหูทำให้เกิดการขยายเสียง เมื่อคลื่นเสียงไปกระทบแก้วหู ซึ่งต่ออยู่กับกระดูก 3 ชิ้น ซึ่งประกอบกันแบบคานดีดคานงัดจึงมีการได้เปรียบเชิงกลเกิดขึ้นทำให้มีแรงเพิ่มขึ้น กระดูกโกลนซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งสุดท้ายมี ความแตกต่างระหว่างพื้นที่กับหน้าต่างรูปไข่มาก เมื่อมีแรงมากระทำจะทำให้ความดันเพิ่มขึ้น จึงเกิดการขยายเสียงขึ้นประมาณ 30 เท่า จากนั้นเสียงก็จะเดินทางเข้าสู่หูส่วนใน สัญญาณเสียงก็จะเกิดการขยายอีก เมื่อคลื่นเสียงผ่านหูส่วนในก็จะทำให้เยื่อบาซิลาร์สั่น ปลายประสาทที่เยื่อบาซิลาร์ก็ส่งสัญญาณต่อไปยังสมอง ทำให้เกิดความรู้สึกในการได้ยินเสียง อ้างอิง...http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/95/wave1/wave_5.htm (http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/95/wave1/wave_5.htm) ประสาทการรับการได้ยินอยู่ในกลุ่มของ special somatic sensory nerve คือกลุ่มประสาทการรับรู้เสียง แสง และกลิ่น... ซึ่งไม่ได้หลับไปตามช่วงการพักของสมองครับ... แปลว่า... หลับอยู่ก็ได้ยินเสียงครับ... ;) ปล.ถ้าเอาแบบไม่วิชาการ ผมจะตอบว่า"นาฬิกาปลุกใช้ปลุกได้ไงครับ"...ฮา... ::007:: หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 05:52:51 AM ขอบคุณมากครับพี่รุต บวก ๑
นึกแล้ว เฮ้อ เที่ยวร้านเหล้าตอนยี่สิบกว่าๆ นี่ ทำหูผมเสื่อมไปบ้างแล้วแน่ๆ นึกถึงเรื่องเที่ยวๆ พี่ฯเน ที่แต่งงานกับพี่ตุ๋มติ๋ม รุ่นเดียวกันนี่เป็นเพื่อนพี่รุตสมัยประถม ม.ต้น หรือเปล่าครับ? หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 11:01:49 AM ขอบคุณ คุณหมอรุต ครับ สรุปว่าผมเข้าใจถูกอยู่อย่างนึงว่าได้ยิน แต่จะตื่นหรือไม่ตื่นมันก็ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นว่าหลับแบบลึก หรือเมาอะไรประมาณนั้นครับ ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่า พวก จนท.สนามที่มานั่งหลับ อยู่ข้างหลังแนวยิงโดยที่ไม่ได้สวมเครื่องป้องกันเสียงนี่ ก็เสี่ยงต่อการที่จะตื่นมาแล้วประสาทหูเสื่อมถูกต้องไหมครับ คือ ผมอยากรู้ว่ากรณีที่ได้ยินแต่จะด้วยความเคยชิน เมา หรือหลับลึกอะไรก็แล้วแต่ มันตื่นมาแล้วจะทำให้หูดับหรือหูตึงไปด้วยหรือเปล่าครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 05:17:53 PM ขอบคุณมากครับพี่รุต บวก ๑ นึกแล้ว เฮ้อ เที่ยวร้านเหล้าตอนยี่สิบกว่าๆ นี่ ทำหูผมเสื่อมไปบ้างแล้วแน่ๆ นึกถึงเรื่องเที่ยวๆ พี่ฯเน ที่แต่งงานกับพี่ตุ๋มติ๋ม รุ่นเดียวกันนี่เป็นเพื่อนพี่รุตสมัยประถม ม.ต้น หรือเปล่าครับ? ไม่รู้จักทั้งสองท่านที่น้องต๊อกถามมาครับ... สงสัยคนละรุ่นกับผมครับ... :D หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 05:49:59 PM ขอบคุณครับพี่รุต บังเอิญเห็นพี่ๆ เขาอายุก่อนผมสองรุ่น
หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 10:25:35 PM ขอบคุณครับพี่รุต บังเอิญเห็นพี่ๆ เขาอายุก่อนผมสองรุ่น แต่ผมรุ่นเดียวกับต๊อกนะครับ... แก่เดือนแค่นั้นเอง... :DD หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ พฤษภาคม 29, 2010, 10:51:28 PM รู้แต่ว่าระเบิดขวดระเบิดคามือหูจะอื้อ แต่ไม่ได้ยินเสียงเหมือนตอนยิงปืน
หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 02:07:16 AM ขอบคุณครับพี่รุต บังเอิญเห็นพี่ๆ เขาอายุก่อนผมสองรุ่น แต่ผมรุ่นเดียวกับต๊อกนะครับ... แก่เดือนแค่นั้นเอง... :DD อุ๊ยยยย รุ่นอะไรครับพี่? รุ่นแฟนคลับปืนสวัสดิการ Colt SAA ล๊อต ๑ แน่เลยครับ หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ คนสันขวาน ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 11:30:49 AM ผมได้ยินทั้งปืนใหญ่ปืนเล็กก็ไม่อื้อนะครับเพียงแต่ตอนสะดุ้งตื่นจะมีอาการหลงทิศไม่รู้ไหนเหนือไหนใต้ไหนฝั่งพม่าไหนฝั่งไทยอยู่ชั่วขณะหนึ่งครับ
หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 08:38:51 PM ผมได้ยินทั้งปืนใหญ่ปืนเล็กก็ไม่อื้อนะครับเพียงแต่ตอนสะดุ้งตื่นจะมีอาการหลงทิศไม่รู้ไหนเหนือไหนใต้ไหนฝั่งพม่าไหนฝั่งไทยอยู่ชั่วขณะหนึ่งครับ [+1] ครับ ตอบตรงมากครับ คือผมก็จำได้ว่าเวลาสะดุ้งตื่นจากฟ้าผ่าแบบดังมากๆมันก็ ไม่วิ๊ง ไม่อื้อ ไม่ดับ เหมือนได้ยินตอนตื่นครับ เพียงแต่ไม่เข้าใจเหตุผลแค่นั้นเองครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 07:27:12 AM ขอบคุณครับอาหมอรุต หัวข้อ: Re: เวลาหลับถ้าได้ยินเสียงปืนตื่นขึ้นมาจะหูอื้อไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: duriankuan 2499 ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 09:11:19 AM ;D
|