๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

เพิ่งดูหนังจบ เรื่อง3:10 TO YUMA

นักวิจาร์ณฝรั่งบอกว่าเป็น"the best western since 'Unforgiven' "

แต่ไม่ยักได้เข้าโรงในบ้านเราแฮะ...

(http://img294.imageshack.us/img294/215/371048580017d54840eco.jpg) (http://img294.imageshack.us/i/371048580017d54840eco.jpg/)



หนังเข้าฉายอเมริกาตั้งแต่กันยายน 2007
บ้านเรานอกจากจะไม่ได้เข้าฉายแล้ว ยังเพิ่งออกเป็นดีวีดีลิขสิทธิ์ต้นเดือนนี้นี่เอง
ออกช้ามาก แต่ก็แลกมาด้วยราคาถูกกว่าหนังบล็อคบัสเตอร์ทั่วไป

3:10 to Yuma เวอร์ชั่นนี้รีเมคมาจากหนังชื่อเดียวกันเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อน
ดูจากเครดิตทั้งหมดแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ได้เข้าฉาย
คริสเตียน เบล กับ รัสเซล โครว์ก็เป็นดารามีชื่อพอจะขายได้อยู่
ผู้กำกับเจมส์ แมนโกลด์ก็มีหนังดีอย่าง Identity และ Walk the Line ที่เข้าฉายบ้านเราทั้งคู่
แต่เดาว่าคงไม่ทำเงิน รวมทั้งหนังคาวบอยช่วงหลังๆ นี่ก็ไม่ค่อยมีด้วย
ถ้าเอาเรื่องนี้มาฉายก็อาจเจ๊งได้เหมือนกัน

เนื้อเรื่องก็เป็นการเดินทางของหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการค่าจ้างไปใช้หนี้
แดน อีแวน (คริสเตียน เบล) กับกลุ่มผู้พิทักษ์กฎหมาย
ที่ต้องพาสุดยอดอาชญากร เบน เวด (รัสเซล โครว์)
ไปขึ้นรถไฟขบวนบ่ายสามโมงสิบนาที เพื่อไปเข้าคุกที่เมืองยูม่า
่ระหว่างทางก็ต้องเจอกับอริของเบนที่ต้องการแก้แค้น และลูกน้องของเบนที่จะตามมาช่วย
รวมทั้งเบนเองก็ไม่ใช่ธรรมดา เผลอนิดเดียวก็ฆ่าชาวคณะทิ้งได้ง่ายๆ
นอกจากจะฝีมือดีแล้วก็ยังฉลาดเป็นกรด รู้จักพูดจาล่อหลอกหว่านล้อม
แต่คนดูจะเห็นว่าเบนก็มีด้านดีๆ อยู่เหมือนกัน

หนังสนุกสมที่ได้คำชมมากมายตั้งแต่ตอนออกฉาย
จริงๆ ดูดารานำสองคนก็คุ้มแล้วกับค่าแผ่นไม่ถึงสองร้อยบาท
ดูจบแล้วได้อารมณ์เหมือนตอนดู Unforgiven ของปู่คลินต์ อีสต์วูดเหมือนสิบกว่าปีก่อน
ผมว่าหนังมีบรรยากาศใกล้เคียงกัน ดูร้อน แล้ง ดุดัน
แต่ 3:10 to Yuma ดูสนุกกว่า มีฉากตื่นเต้นเป็นช่วงๆ ทำให้ไม่เบื่อ
และแน่นอน ฉากสาดกระสุนสู้กันก็มีให้ดูจุใจไม่มีกั๊ก
ไม่เหมือน Open Range ของเควิน คอสเนอร์ ที่ภาพเป็นมุมกว้าง สวย เขียวชุ่มชื่น
แล้วก็ปูอารมณ์นาน กว่าจะไปขมวดไคลแม็กซ์ในตอนจบ (แต่ก็สนุกเหมือนกัน)

ฉากที่ชอบที่สุด ผมว่าหลายคนก็คงชอบไม่แพ้กัน คือตอนที่ตัวเอกทั้งสองวิ่งฝ่าห่ากระสุน
ตอนท้ายเรื่อง และดนดรีประกอบก็เพราะมากๆ เป็นทำนองตื่นเต้นและน่าประทับใจ
ไม่ใช่แนวโหยหวนชวนเศร้าเหมือนหนังคาวบอยเรื่องอื่นๆ

ข้อเสียอย่างเดียวของดีวีดีแผ่นนี้คือ สเปเชียลฟีเจอร์ที่ให้มา ไม่มีซับไทยเลย
แต่เบื้องหลังเกือบครึ่งชั่วโมงและฉากที่ตัดทิ้งแถมมาหลายฉากก็พอชดเชยได้อยู่

credit: http://www.rerngrit.com/content/310-to-yuma (http://www.rerngrit.com/content/310-to-yuma)





ผมเป็นคนไม่ค่อยขี้เห่อ แค่เห็นว่าแผ่นที่ซื้อๆไว้แล้วไม่ได้สนใจดูมันเป็นลังแล้ว ไม่ได้กำลังเห่ออะไรเลยจริงจริ๊งงงงงง  ::005::

ปกติจะซื้อแผ่นก็อปจาก www.sw-dvd.com (http://www.sw-dvd.com) คุณภาพดีใช้ได้ แผ่นมีปัญหาก็เมล์แจ้งไป ทางร้านจะส่งแผ่นใหม่มาให้ทันทีไม่มีอิดออด

พรุ่งนี้จะจัดคิวให้ GRAND TORINO

หนังลุงClint Eastwood ... เอามาตั้งแหมะไว้บนลำโพงแล้ว  :D

http://www.thegrantorino.com/ (http://www.thegrantorino.com/)


(http://img20.imageshack.us/img20/4950/grandtorinomovie1.jpg) (http://img20.imageshack.us/i/grandtorinomovie1.jpg/)
(http://img36.imageshack.us/img36/1180/grandtorinof.jpg) (http://img36.imageshack.us/i/grandtorinof.jpg/)

หิวเปล่า... ;D

(http://www.pixnice.com/upload/files/4tizj5w4jyhmzejddyyz.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)

เดี๋ยวผมไปหาดูครับพี่จ้าว ขอบคุณครับ  ::014::

ผมแนะนำอีกเรื่องแล้วกันครับ
Watchmen

(http://www.iesb.net/images/stories/contests/watchmen/WATCHMEN_Rated1.jpg)

(http://www.mthai.com/yog/movie/poster/poster_watchmen3.jpg)

อย่าให้โปสเตอร์และชื่อหนังภาษาไทยหลอกว่าเป็นหนังแอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ครับ ตัวหนังเองมีอะไรดีๆมากกว่านั้นเยอะ

เรื่องนี้ดูแล้วครับ ....................

หนังดีมากๆ

เรื่องนี้ดูแล้วเหมือนกัน  .................

งั้นๆ

ผมชอบสิ่งที่หนังทำให้คิดครับพี่มะขิ่น  แฝงคติแยบยลดี  ::014:: ::014::

เรื่องนี้ผมดูแล้วรู้สึกงั้นๆ จริงๆ ..............ทั้งๆที่มีสิ่งให้คิดเยอะ .......................

รับทราบครับพี่ แสดงว่าพี่มะขิ่นไม่ชอบหนังแนวนี้จริงๆ  ;D ;D
มีหนังเรื่องไหนดี สนุกๆแนะนำบ้างครับพี่   ::014:: ::014::

ผมดูไปบ่นไปเมื่อไรมันจะจบสะทีหิวข้าว ::005::

เมื่อคืนดูMaster And Commanderเวอร์ชั่นบลูเรย์ ได้ภาพ/เสียงเจ๋งเป้งกว่าdvdปกติเยอะ พ่อมายืนดูไม่ถึง10นาที สั่งให้ช่วยหาบลูเรย์แผ่นแท้เรื่องนี้ให้ด้วย จะเอาไว้เป็นแผ่นเทสท์ระบบเสียง

(http://img33.imageshack.us/img33/5537/2003masterandcommanderw.jpg) (http://img33.imageshack.us/i/2003masterandcommanderw.jpg/)

(http://img190.imageshack.us/img190/7968/masterandcommanderthefa.jpg) (http://img190.imageshack.us/i/masterandcommanderthefa.jpg/)

ชื่ออื่นๆ :  The Far Side of the World
 ชื่อไทย :  ผู้บัญชาการล่าสุดขอบโลก
 ผู้กำกับ :  ปีเตอร์ เวียร์ 
 ผู้แต่ง :  ปีเตอร์ เวียร์ 
 วันเข้าฉาย :  31/12/2003
 ประเภท :   Action, Adventure, Drama, War 
 ความยาว :  140 นาที 
 เรท :  เรท PG-13 
 สถานที่ถ่ายทำ :  Mexico 
 ภาษา :  อังกฤษ 
 
 
 
เนื้อเรื่องย่อ  ในระหว่างสงครามนโปเลียน กัปตัน “ลัคกี้” แจ็ค ออบรีย์(รัสเซล โครว์) ที่เลื่องชื่อในความเป็นกัปตันนักสู้ แห่งราชนาวีอังกฤษ และ สตีเฟน มาตูริน(พอล เบตตานีย์) นายแพทย์ประจำเรือ และเมื่อ เรือเซอร์ไพรซ์ ของพวกเขาถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว จากข้าศึกที่มีฝีมือเหนือชั้นนั้น เรือรบหลวงเซอร์ไพรซ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยลูกเรือส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ และออบรีย์ต้องตกที่นั่งลำบาก ระหว่างการทำหน้าที่และรักษาสัมพันธภาพเอาไว้ เขาติดตามไล่ล่าข้ามสองคาบสมุทร เพื่อที่จะสกัดและจับกุมศัตรู มันอาจเป็นปฏิบัติการที่จะสร้างชื่อเสียงให้ ..หรืออาจทำลายลัคกี้แจ็ค และลูกเรือของเขาจนสิ้น 
 

เรื่องนี้หนังดีจริงๆครับ ไม่ได้บู๊ล้างผลาญสไตล์ลุงคลินท์อย่างที่หวัง....แต่กลับไม่ผิดหวัง ได้ดูมุกลุงคลินท์เป็นระยะๆแทน

ดูไปเรื่อยๆ กลับตั้งใจดูเกือบมากจนจบ จบแล้วก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลา ไม่เหนื่อย  ::002::

คืนนี้จะดูSERAPHIM FALLSเป็นรอบที่2

ดูรอบแรกแบบงั้นๆเพราะไม่คิดว่ามันจะไม่ห่วย ดูไปดูมา อุ๊ย...สนุกใช้ได้เลย  ::002::

(http://img7.imageshack.us/img7/2458/seraphimfallsposter0.jpg) (http://img7.imageshack.us/i/seraphimfallsposter0.jpg/)

Liam Neeson

Pierce Brosman

เรื่องนี้ดูแล้ว ดีครับไม่ถึงดีมาก
พล็อตเรื่องปูให้ใส่อะไรๆได้เยอะ แต่หนังกลับไปใส่ใจในเรื่องปลีกย่อยระหว่างทางเดินเรื่อง
ถ้าเน้นจุดบางจุดให้มากขึ้น คอนทราสต์ได้มากกว่านี้ จะได้อารมณ์มากกว่านี้ครับ

แต่ยังไงๆก็ไม่ผิดหวังล่ะ น่าจะมีภาคสองต่อ

เรื่องนี้ เสียดายออกมาต่อๆกะPirate of the caribien
ทำให้เมื่อดูจากหน้าหนัง น่าจะคล้ายโจรสลัด แต่ความจริง คนละแนวกันเลย

Master And Commanderเป็นหนังเรื่องเดียวในปีนั้น ที่แหกกระแสThe Lord Of The Ringsขึ้นมารางวัลไปได้นะครับพี่ นอกนั้นผู้ครองแหวนซิวเรียบ  ;)

...ใครจะว่าไงก็ช่าง  ::005::  ผมชอบหนังเรื่องนี้ครับ  ::002::

เมื่อคืนดูEnemy At The Gatesเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่ได้จำ

(http://img6.imageshack.us/img6/1738/enemyatthegates.gif) (http://img6.imageshack.us/i/enemyatthegates.gif/)


รื้อเจอแผ่นDVDที่เพิ่งสั่งใหม่มาสำรองเผื่อแผ่นที่ใช้ดูมันเสีย กลับมีฉากเพิ่มเข้ามาจากแผ่นเดิมๆเกือบ30นาที ทั้งฉากรัก, ฉากที่วาซิลีไปดักยิงผู้พันโคนิกคืนแต่ดันสัปปะหงกจนชวดไปฯลฯ อารมณ์ต่อเนื่องกว่าแผ่นเวอร์ชั่นเดิมๆเยอะ

ซื้ออีกทีเพื่อฉากที่ได้เพิ่ม....คุ้มครับ  ::002::

ฉากที่มีคนนอนติด ๆ กันหลายคนแล้วเห็นอะไรขาว ๆ  มีเพิ่มหรือเปล่า  .......  อิอิอิ 

เพิ่มมานาทีนึงมั๊ง ตั้งแต่ต้นจนจบพระเอกเรากรรเชียงเรือแค่นาทีนิดๆ นางเอกเลยไม่ถึงฝั่ง แต่ทำท่าตาเหลือกซะน่ารักใช้ได้เลย  ::005::

  อิอิอิ  ขาวเนอะ  .....  อิอิอิ   

ชินแล้วอ่ะ แถวบ้านมีเยอะ

แต่ท่าตาเหลือกของอีทำซะจินตนาการเปิงไปเหมือนกันนะ  ;D

  ว่าแล้วพรุ่งนี้ดูเรื่องนี้ดีกว่า  .........  อิอิอิ  ชักลืม ๆละว่าตาเหลือกแค่ไหน  ....555555

อิ อิ ใครมีเรื่อง Tear of the sunบ้าง
ของผม ซื้อมาตั้งแต่เป็น vcd ตอนนี้เหลือแผ่นเดียวอ่ะ

มีครับ แต่ต้องหา ลูก ๆมันเอาไปดูหายไปไหนไม่รู้  .........  เฮ้อ

น้าจ้าว    ก๊อปไว้แจกซิ

เห็นควรด้วยครับ  ผมชอบหนังคาวบอย ::005::

3:1 TO YUMAไหมครับพี่

รัสเซล โครวแสดงเป็นDan West หัวหน้าโจรรอบจัด

ถ้าเอาUnforgivenเป็นหนังคาวบอยมาตรฐาน เรื่องนี้ถือว่าสอบผ่าน ดีตรงที่มีฉากแอคชั่นมากกว่า ส่วนที่ไม่ได้เป็นแอคชั่นก็ได้ดูฝีมือดาราที่ฉายแววตามบท....ไม่มีช่วงยืดยาดจนน่าเบื่อเหมือนUnforgiven

ผมชอบมุกหยอดงาบสาวๆของอีตาDan Westจริงๆเลย  ::005::

จะเอาไปใช้บ้างหรือครับพี่จ้าว  ::005:: ::005::

มองตาคุณแล้วทำให้ผมคิดถึงเธอคนนั้น  :DD :DD

เมื่อคืนโดนเมียจับดูDevil wears Pradaเป็นเพื่อนครับ

แต่เรื่องนี้ท่าทางคงสนุกมาก(สำหรับผู้หญิง)เห็นเค้าดูอย่างได้อรรถรสจนจบ
(http://img35.imageshack.us/img35/153/prada00.jpg) (http://img35.imageshack.us/i/prada00.jpg/)
(http://img44.imageshack.us/img44/9879/prada02.jpg) (http://img44.imageshack.us/i/prada02.jpg/)
(http://img18.imageshack.us/img18/5460/prada14.jpg) (http://img18.imageshack.us/i/prada14.jpg/)


The Devil Wears Prada. Trailer (http://www.youtube.com/watch?v=zicgut4gpwU#normal)

ในโลกแฟชั่นนิวยอร์คที่วุ่นวายจนน่าเวียนหัว โลกที่ “ไซส์ 0” กลายเป็นขนาดใหม่ของใครที่เคยใช้ “ไซส์ 2” โลกที่เพรียวลงจน “ไซส์ 6” เป็นเป้าหมายใหม่ของคนที่เคยใส่ “ไซส์ 8” แล้วถ้าวันใดผมเผ้าไม่เข้าที่แม้เพียงกระเบียด อาจจะโดนไล่ออกจากงานได้ และนิตยสาร Runway Magazine ถูกเปรียบราวกับจอกศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า มิแรนด้า พรีสท์ลี่ (รับบทโดย เมอริล สตรีพ) เป็นบรรณาธิการของนิตยสาร ที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ใต้กรงเล็บสวยเนี้ยบ - เธอเป็นเจ้าแม่ผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่นและ Runway เป็นปราการด่านสำคัญของทุกคน ที่คิดจะก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่น แล้วการจะทำให้ Runway ยังคงเป็นคัมภีร์แฟชั่นของนิวยอร์ค และของโลกอยู่ได้นั้น มิแรนด้าจะไม่ยอมให้อะไรมาเป็นอุปสรรคขวางหน้าโดยเด็ดขาด รวมทั้ง “ผู้ช่วย” ที่เรียงรายกันมารับคำบัญชาของเธอคนแล้วคนเล่า มันเป็นงานซึ่งคนที่ยึดมั่นในศักดิ์ศรีมีเกียรติทรนง คงทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง แต่มันก็ยังเป็นตำแหน่งที่หญิงสาวชาวนิวยอร์คนับล้านคน ต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้โอกาสสำคัญนี้

งานผู้ช่วยของมิแรนด้าที่น่าเบื่อนี้ อาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับเด็กจบใหม่อย่าง แอนดี้ แซ็ค (รับบทโดย แอนน์ แฮ็ทธาเวย์) เธอสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ ตามสไตล์นักศึกษา มากกว่าจะเป็นแฟชั่นล่าสุดจากดีไซเนอร์ดัง ทำให้เธอยิ่งโดดเดี่ยวท่ามกลางกองกำลัง “แคล็คเกอร์” ที่ทำงานใน Runway - ก็พวกสาวสเลนเดอร์ใส่แฟชั่นสุดเดิ้นที่เดินกันให้ควั่ก ในสำนักงานใหญ่ของนิตยสารฉบับนี้ในแมนฮัตตั้นนั่นแหละ แต่เมื่อแอนดี้เข้ามาทำงานที่นี่ เธอก็รู้ว่าจะแจ้งเกิดในวงการนี้ ต้องใช้มากกว่าแค่เพียงความมุ่งมั่น และการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว

และบททดสอบสุดหินที่เธอต้องเผชิญหน้า... ก็สวมปราด้าตั้งแต่หัวจรดเท้าเสียด้วย!

ถึงมิแรนด้าจะสามารถปั่นโลกแฟชั่น ให้หมุนติ้วราวกับลูกบาสเก็ตบอลในมือ แต่เธอกลับไม่ว่างพอจะหาผู้ช่วยดีๆ และรั้งตัวไว้ให้ร่วมงานกับเธอนานๆ เลยสักคน แอนดี้นี่ก็ช่างไม่เหมาะกับงานนี้เลยสักนิด แต่เธอมีคุณสมบัติข้อเดียวที่ผู้ช่วยคนก่อนๆ ขาด นั่นก็คือ.. เธอไม่ยอมแพ้

การที่แอนดี้จะเป็นผู้ช่วยสุดเพอร์เฟ็คได้ เธอต้องปรับรูปโฉมให้เข้าตามิแรนด้าเสียก่อน ปรับไปมากเสียจนแฟนหนุ่ม เนต (รับบทโดย เอเดรียน เกรเนียร์) ของเธอจำไม่ได้ เธอพูดจาฉะฉานเด็ดขาด เดินด้วยท่วงท่าสง่างาม (ในส้นสูงของ Manolo ได้ไม่มีสะดุด) และไม่จำ Dolce สลับกับ Gabbana อีกเลยด้วยนะ แต่ยิ่งเธอมองวิถีชีวิตผ่านมุมมองของมิแรนด้ามากขึ้น เธอก็ยิ่งเห็นว่า โลกของ มิแรนด้าช่างอ้างว้างโดดเดี่ยวเพียงใด หรือว่าความสำเร็จใหญ่โต ต้องมาพร้อมกับการเสียสละใหญ่หลวง... มันต้องเสียสละมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ..?



--------------------------------------------------------------------------------

ภาพยนตร์เรื่อง The Devil Wears Prada สร้างจากนิยายของ ลอเร็น ไวส์เบอร์เก้น ที่ขายดีทั่วโลก และติดอันดับขายดีของ The New York Times นานถึง 6 เดือน และยังแปลเป็นภาษาต่างๆ มากถึง 27 ภาษาแล้ว ภาพยนตร์กำกับโดย เดวิด แฟรงค์เกล (ซีรีส์ Entourage, Sex and the City)

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เมอริล สตรีพ (Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events, The Hours, Adaptation., Music of the Heart, The Bridges of Madison County, Postcards from the Edge, Out of Africa, เจ้าของรางวัลออสการ์สองครั้งจาก Sophie's Choice และ Kramer vs. Kramer) รับบทเป็น มิแรนด้า พรีสท์ลี่ เจ้าแม่วงการแฟชั่นที่จะปั้นใครให้ได้เกิด หรือสั่งใครให้สิ้นชื่อได้ตามอำเภอใจ

แอนน์ แฮ็ทธาเวย์ นักแสดงสาวที่แจ้งเกิดจากบทนำแสดงใน The Princess Diaries และเคยรับบทหนักใน Brokeback Mountain มารับบทเป็น แอนดี้ นักเรียนนิเทศศาสตร์ที่เชื่อมั่นเหลือเกินว่า เธอจะพลิกโฉมหน้าโลกทั้งใบได้ เมื่อละทิ้งความสะดวกสบายของชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย Northwestern University มาตะลุยเมืองใหญ่แห่งนี้

เมื่อคืนดู Slum dog Millionaire

(http://martiniquemusic.files.wordpress.com/2009/05/slumdog_millionaire.jpg?w=450&h=666)

สมราคา หนังรางวัลลูกโลกทองคำ

น่าดูครับ  ชีวิตที่ต่ำต้อยสุดในสังคมกับการดิ้นรนเพื่อมีชีวิตที่ดี

ชีวิตหลังจากที่แม่ตาย มีแค่ หนึ่งผู้หญิง กับหนึ่งพี่ชาย...

สนุกเบาสมองดีคะ....โดยส่วนตัวดูเรื่องนี้เพราะเมอรีล สตรีฟ นี่ล่ะ ;)


ชอบการแสดงของเค้า..เป็นคนที่สื่อทางสายตาได้เก่งมาก ::002::

ผมดูเรื่องนี้เพราะ Anne Hathaway อ่ะป้าแมว  ::005:: ::005::

เป็นการชี้ชัดเลยนะน้องอั้ม...ชิ!! ::001::

ชอบคนน่ารักหุ่นดีผมผิดตรงหนายย  ::005:: ::005::

INSIDE MAN  ;D ;D
(http://www.dvd1081009.com/images/Inside%20man.jpg)

ผมชอบครับ สนุกดี

รอแม่อีหนูอาบน้ำ กำลังจะดูTaken

ดูจากหนังโฆษณา คุณพ่ออดีตสายลับ ลุยระห่ำไปช่วยลูกสาวที่ไปเที่ยวฝรั่งเศษกับเพื่อนแล้วโดนฉุดไป ท่าจะมันส์  ::002::

(http://img530.imageshack.us/img530/7864/taken1large.jpg) (http://img530.imageshack.us/i/taken1large.jpg/)

Synopsis: Liam Neeson is an unstoppable force in this adrenaline-fueled thriller from director Pierre Morel. Bryan (Neeson) has taken early retirement from the CIA in order to live closer to his teenage... Liam Neeson is an unstoppable force in this adrenaline-fueled thriller from director Pierre Morel. Bryan (Neeson) has taken early retirement from the CIA in order to live closer to his teenage daughter, Kim (Maggie Grace). Bryan's government work kept him away from Kim for much of her childhood, and he's now trying to make up for lost time. When Kim announces that she's taking a trip to Paris with her friend Amanda (Katie Cassidy), Bryan is apprehensive about her traveling on her own. His worst fear is soon realized, as Kim and Amanda are abducted upon their arrival in France. Bryan immediately springs into action, using his well-honed CIA skills to piece together clues from a single, frantic phone call he received from Kim. He hops a plane to Paris, determined to rescue his daughter before she falls off the grid completely. With some help from his old CIA buddies, he tracks down the kidnappers--an Albanian crime ring known for selling young girls into the sex trade. He quickly takes matters into his own hands, plowing his way through Paris's underworld as the clock ticks down and the bullets fly. His search propels him into the upper echelons of a massive crime ring, putting him closer and closer to his beloved daughter. Neeson is known for tackling extremely cerebral roles, so it is interesting to see him in full-on action-hero mode. In TAKEN he is no less than a crime-fighting machine--a Bourne/Bond hybrid with a deathly serious baritone. And while he spends most of the film firing Uzis and snapping necks, he still manages to deliver a moving performance as an estranged father fighting for what he loves most in the world. The film undeniably owes a lot to Neeson's acting chops. He manages to raise this rather thinly plotted, deeply violent film a bar above your typical action fare. [More]

Starring: Liam Neeson, Maggie Grace, Famke Janssen, Xander Berkeley

Starring: Liam Neeson, Maggie Grace, Famke Janssen, Xander Berkeley, Leland Orser, Jon Gries, David Warshofsky, Katie Cassidy, Holly Valance, Nathan Rippy

Director: Pierre Morel

Director: Pierre Morel
Screenwriter: Luc Besson, Robert Mark Kamen
Producer: Luc Besson
Composer: Nathaniel Mechaly
Studio: 20th Century Fox

ไม่ผิดๆๆ...เพราะชอบเหมือนกัน   เธอน่ารักออก


Inside Man ก็ไม่พลาด..อิอิ

คุ้น ๆว่ามี  ....  อิอิอิ

เพิ่งดู  10000 BC จบไปเมื่อเที่ยง 

ตะกี๊ดู  Bedtime Stories จบ .... หนังน่ารักดี  เดินเรื่องธรรมดา ๆ

ตามสูตร  ..... อิอิอิ 

วันก่อนดู  เรื่องนี้   " SHINJUKU INCIDENT "

(http://www.oneinchpunch.net/wordpress/wp-content/uploads/2009/02/shinjuku-incident.jpg)

มันแปลก ๆยังไงไม่รู้ อาจเป็นเพราะเราคุ้นกับภาพของเฉินหลง

ในแนวตลกบู๊ ก็ได้  พอหนังออกแนวดราม่าหน่อยเลยรู้สึกแปลกๆ 

Frost Nixon

หนังกดดันประสาทอย่างแรง แต่ยิ่งดูยิ่งมันส์อธิบายไม่ถูกต้องดูเอาเอง ข้างปกเขียนไว้เป็นเรทR
 
หนังชิง5ออสการ์ แต่ไม่ได้เข้าฉายในบ้านเรา .... เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศ  ::002::

(http://img243.imageshack.us/img243/6042/1240488968.jpg) (http://img243.imageshack.us/i/1240488968.jpg/)

เรื่องราวการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่าง ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีผู้ถูกทำให้อับอาย ซึ่งจะต้องรักษาชื่อเสียงของตัวเองไว้ให้ได้ และ.เดวิด ฟรอสต์ นักข่าวโทรทัศน์ที่ต้องการจะสร้างชื่อให้กับตัวเอง สามปีหลังจากที่ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่ง นิกสัน ก็ยังคงนิ่งเงียบ แต่ในฤดูร้อนปี 1977 อดีตผู้นำจอมเจ้าเล่ห์ผู้นี้ได้ยินยอมที่จะให้สัมภาษณ์นานหนึ่งชั่วโมงเพื่อตอบปัญหาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เขายังดำรงตำแหน่ง และ.คดีวอเตอร์เกทอันอื้อฉาวที่ทำให้เขาพ้นจากตำแหน่ง แต่เมื่อกล้องเริ่มเดิน สงครามประลองปัญญาก็เริ่มต้นขึ้น นิกสันจะสามารถหลบเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับบทบาทของเขาในเรื่องที่ขายหน้าที่สุดเรื่องหนึ่งของประเทศได้หรือไม่ หรือฟรอสต์จะหักปากกาเซียนและ.เรียกร้องคำตอบจากชายที่ต้องอาศัยการหลบเลี่ยงเอาตัวรอดในการทำงานได้สำเร็จ ระหว่างที่พวกเขาเผชิญหน้ากัน พวกเขาต่างก็ได้เปิดเผยถึงความไม่มั่นใจ อีโกและ.ศักดิ์ศรีที่ยังหลงเหลืออยู่ของตัวเองออกมา และ.ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ได้ปล่อยวางภาพลักษณ์ต่างๆเเพื่อเผยให้เห็นถึงความจริง

From Academy Award-winning director Ron Howard comes theielectrifying, untold story behind oneiofitheimost unforgettable moments in history.

When disgraced President Richard Nixon agreed to an interview with jet-setting television personality, David Frost, he thought he'd found theikey to saving his tarnished legacy. But, with a name to make and a reputation to overcome, Frost became oneiofiNixon'shmost formidable adversaries and engaged theileader in a charged battleiofiwits that changed theifaceiofipolitics forever.

Featuring brilliant portrayals by Frank Langella and Michael Sheen, Frost/Nixon is theifascinating and suspenseful storyiofitruth, accountability, secrets and lies.

เครดิต http://www.amornmovie.com/shop/home/product-details.php?get_idproduct=00000013303 (http://www.amornmovie.com/shop/home/product-details.php?get_idproduct=00000013303)

DOGVILE

หนังเจ๋งมาก แต่ดูยากนิดนึง ต้องดูแบบคนมีอารมณ์อยากดูฝีมือคนสร้างจริงๆ  ::002::

(http://img3.imageshack.us/img3/7606/51lxhemcwnlss500.jpg) (http://img3.imageshack.us/i/51lxhemcwnlss500.jpg/)



Dogville เมืองหมา หรือสุนัขนคร       
เขียนโดย ดร . เสรี พงศ์พิศ     
Tuesday, 02 August 2005 
(วันที่ 3 สิงหาคม ผมไปวิจารณ์หนังเรื่อง Dogville ที่คณะรัฐศาสตร์รามคำแหง เตรียมข้อเขียนนี้ไห้นักศึกษา)

ด็อกวิลล์เป็นเมืองหรือหมู่บ้านเล็กๆ ในแถบเขาร็อกกี้ รัฐโคโลราโด ในช่วงทศวรรษ 1930 ยุคข้าวยากหมากแพง วิกฤติเศรษฐกิจที่ร้ายแรง เป็นหมู่บ้านที่ดูเรียบง่าย แม้จะลำบากยากแค้นเพียงใจก็ยัง "พึ่งตนเองได้" ไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือคนนอกเข้าไปยุ่งว่นวายกับชีวิตของพวกเขา
           
แล้ววันหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็เริ่มขึ้นเมื่อมีคนแปลกหน้ามาเยือน เธอชื่อเกรซ (นิโคล คิดแมน)เป็นหญิงสาวสวยลึกลับที่หนีการไล่ล่าของมาเฟีย  ทอม เอดิสัน จูเนียร์ (พอล เบตตานี) ชาวบ้านหนุ่มช่วยเหลือเธอให้หลบซ่อนและหาทางให้ชาวบ้านด็อกวิลล์ยอมรับเธอเป็นสมาชิก ให้เวลาเธอ 2 อาทิตย์เพื่อเอาชนะใจชาวบ้าน ซึ่งที่สุดเธอก็ได้อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้โดยไปช่วยงานทุกบ้าน และดีกับทุกคน และดูเหมือนทุกคนก็ดีกับเธอ เธอบรรยายว่า "ผู้คนที่นี่มีความหวังและมีความฝัน"

วันเวลาผ่านไปไม่นาน ตำรวจก็ตามมาที่หมู่บ้านและติดประกาศหาตัวเธอ คราวนี้กล่าวหาว่าเธอได้ขโมยอาวุธ เมื่อชาวเมืองรู้ว่าเธอหนีอาญาแผ่นดิน พฤติกรรมของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ทำให้เธอต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม ได้รับค่าจ้างน้อยลง จนที่สุดเธอถูกข่มขืนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เธอพยายามหนี แต่ก็หนีไม่พ้น และต้องได้รับการกดขี่ข่มเหงอย่างโหดร้ายทารุณหนักขึ้นไปอีก
           
ฉากสุดท้ายของ "หนัง-ละคร" เรื่องนี้เป็นความรุนแรงที่อาจจะสะใจใครหลายคนที่ทนไม่ได้กับทารุณกรรมที่ชาวเมืองหมาๆ ทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น และคงเป็นความตั้งใจของ Lars von Trier ผู้กำกับชาวเดน (เดนมาร์ค) ผู้ไม่เคยไปประเทศสหรัฐอเมริกาเลย (เพราะไม่กล้าขึ้นเครื่องบิน) เขาวิพากษ์สหรัฐอเมริกาอย่างตั้งใจ จากห้วงลึกแห่งความเป็นสังคมนิยม และทนไม่ได้กับอหังการของชาวอเมริกันและความหฤโหดแห่งทุนนิยมและสังคมบริโภคแบบบ้าเลือด
           
สังคมนี้ดูเรียบง่ายภายนอก แต่นั่นคือเปลือกนอกที่ซ่อนเอาสัญชาติญาณดิบที่ไม่ได้ต่างไปจากสัตว์อย่างสุนัข ที่เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาเมื่อมีเงื่อนไขปัจจัยเอื้ออำนวย ช่วยให้ผู้ชายทั้งเมืองพร้อมที่จะกดและขี่ผู้หญิงคนหนึ่งเพียงเพื่อปลดเปลื้องราคะและตัณหาแห่งตน โดยไม่สนใจความถูกผิด คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นคน ถึงได้เรียกว่า เมืองหมา
           
ลาร์ส ฟอน เตรียร์กล้าหาญอย่างยิ่งที่ทำหนังเรื่องนี้และแบบนี้ เขาไม่ต้องการสร้างหนังที่ให้ความบันเทิง แต่ต้องการให้เป็นงานศิลปะ งานที่ใครเห็นแล้วจะเข้าใจอย่างไร ตีความอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน "แล้วแต่คุณจะมองว่าหนังเรื่องนี้บอกอะไร"
           
คุณอาจจะมองว่า เขาเปรียบเมืองหมาแห่งนี้กับสหรัฐอเมริกา เมืองที่ปากว่าตาขยิบ มือถือสากปากถือศีล เอาเปรียบคนอื่น ชาติอื่น ประเทศอื่นทั่วโลก และที่สุดก็คงไม่พ้นโศกนาฎกรรมดังกรณี 11 กันยายน 2001 วินาศกรรมทำลายตึกเวิร์ลเทรด สัญลักษณ์ของทุนนิยมและอำนาจของสหรัฐ ประเด็นคงไม่ใช่อเมริกาเลว ผู้ก่อการร้ายดี ประเด็นอยู่ทีว่า ใครเลวกว่าใครเท่านั้น
           
เกรซ สาวงามเปิดเผยตัวเองในตอนท้ายว่าแท้ที่จริงเธอเป็นใคร ที่สุดแล้วเธอพบว่า แม้มาเฟียที่เธอหนีมาจะโหดเหี้ยมเลวร้ายเพียงใดก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับชาวเมืองหมา เธอหนีเสือมาปะจรเข้ และพร้อมที่จะกลับไปอยู่กับเสือและเป็นเสือเสียยังดีกว่าอยู่กับพวก "จระเงี้ย" ทั้งหลาย
           
ลาร์ส ฟอน เตรียร์ น่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูงที่สามารถก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนังเรื่องนี้และตัวเขาไปทั่วโลกอย่างรุนแรง แท้ที่จริง เขาคงอยากสะท้อนวงจรอุบาทว์ของความรุนแรงเลวร้ายในโลกปัจจุบัน อันก่อเกิดจากนรกที่เขายกให้สหรัฐอเมริกาเป็นขุมกำเนิดสำคัญ แล้วกรรมใดใครก่อ กรรมนั้นก็มาถึงตัว และน่าจะจบแบบเดียวกับหนังเรื่องด็อกวิลล์
           
ใครที่อยากดูหนังสนุกต้องไม่ดูหนังเรื่องนี้ ใครที่ใจกว้างและอยากเรียนรู้ อดทนดูไปเรื่อยๆ จะได้อะไรดีๆ และมีคุณค่าสำหรับการคิดคำนึง การเข้าถึงประเด็นสำคัญทางการเมืองในโลกปัจจุบัน ที่ผู้กำกับหนังพยายามจะบอกแบบเปิดกว้างให้คิด ให้ตีความ
           
บางคนดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจคิดถึงเคียกเคอการ์ด นักปรัชญาชาวเดนมาร์ค บิดาของปรัชญาเอ็กซิสเทนเชียลิสม์ ผู้ปลุกสำนึกของผู้คนให้แสวงหาเสรีภาพ อัตลักษณ์ ความเป็นไทจากการครอบงำของกระแสวัฒนธรรมหลัก  เขาเป็นคนบ้านเดียวกับผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ที่สร้างหนังแบบคนยุโรปที่มุ่งสื่อสาระบางประการกับผู้คน โดยไม่ได้เน้นความบันเทิงแบบฮอลลิวูด
           
อาจจะคิดถึงฌอง ปอล ซาร์ตร์ นักปรัชญาเอ็กซิสท์ร่วมสมัยผู้ใช้วรรณกรรมเพื่อสื่อสาระแห่งปรัชญา สะท้อนความบัดซบของชีวิต เขียนเรื่อง "เทพธิดาโรงแรม" คล้ายกับชีวิตของคาบีเรียในหนังที่ได้รางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมของฮอลลิวูด "คืนของคาบีเรีย" (The Nights of Cabiria) ผลงานชั้นบรมครูของ Federico Fellini ซึ่ง "บัดซบสิ้นดี" ไม่มีผิดเพี้ยนแตกต่างจากชีวิตของ "เกรซ" เพียงแต่จบไม่เหมือนกัน ของฟอนเตรียร์จบแบบเปื้อนเลือด ของเฟลลีนีจบแบบเปื้อนน้ำตา
           
หากมองจากมุมหนึ่งของหมู่บ้านในชนบทไทยอาจเห็นร่องรอยความเลวร้ายหลายรูปแบบ การพัฒนาที่เข้ามาหมู่บ้านเหมือนสาวแสนสวย แล้ววันหนึ่งชีวิตที่สงบเรียบง่ายก็ล่มสลาย กลายเป็นนรกที่ผู้คนต่างดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดจากปัญหาสารพัน ทั้งหนี้สิน ยาเสพติด เอดส์ โรคร้อยแปดที่รุมเร้า รวมทั้งโรคบ้าสารพัดแบบ แล้วก็อาจถึงวันที่หมู่บ้านแตกดับเหมือนด็อกวิลล์ตอนจบก็เป็นได้
           
นี่คือเสน่ห์ของหนังศิลปะที่เปิดทางให้คิดคำนึงได้ไม่รู้จบ 
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( Wednesday, 03 August 2005 )

เครดิต***เขียนโดย ดร . เสรี พงศ์พิศ http://phongphit.com/index.php?option=com_content&task=view&id=151&Itemid=54 (http://phongphit.com/index.php?option=com_content&task=view&id=151&Itemid=54)

ใครที่อยากดูหนังสนุกต้องไม่ดูหนังเรื่องนี้ ใครที่ใจกว้างและอยากเรียนรู้ อดทนดูไปเรื่อยๆ จะได้อะไรดีๆ และมีคุณค่าสำหรับการคิดคำนึง การเข้าถึงประเด็นสำคัญทางการเมืองในโลกปัจจุบัน ที่ผู้กำกับหนังพยายามจะบอกแบบเปิดกว้างให้คิด ให้ตีความ
           

พี่จ้าว หาภาระให้ผมต้องโหลดบิทซะแล้วนะ   ::005:: ::005::

เมียจับนอนดูเรื่องนี้เป็นเพื่อน เพิ่งจบครับ

สนุกจัง ไม่ยักน่าเบื่อ ดูจบแล้วอารมณ์ดี๊ดี  :VOV:

17 Again
17 ขวบอีกครั้ง.. กลับมาแก้ฝันให้เป็นจริง

(http://img196.imageshack.us/img196/5182/17againy.jpg) (http://img196.imageshack.us/i/17againy.jpg/)
(http://img197.imageshack.us/img197/8725/17again01.jpg) (http://img197.imageshack.us/i/17again01.jpg/)
17 Again Movie Trailer - Zac Efron (http://www.youtube.com/watch?v=gNqwRL4Ir8o#ws-normal)

กำหนดฉาย : 11 มิถุนายน 2552
นำแสดง :แซค แอฟรอน, เลสลี่ แมนน์, โธมัส เลนนอน, มิเชล เทรชเทนเบิร์ก, สเตอลิง ไนท์, เมโลร่า ฮาร์ดิน, แมทธิว เพอร์รี่
กำกับ : เบอร์ สเตียร์ส
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์


          คุณจะทำอะไรถ้าคุณได้โอกาสครั้งที่สองในชีวิต?

          ชั้นเรียนในปี 1989 ไมค์ โอ'ดอนแนล (แซค เอฟรอน) เป็นดาวรุ่งของทีมบาสเกตบอลไฮสคูลโดยมีผองเพื่อนสนับสนุน รวมทั้งเขาเองยังมองเห็นอนาคตอันสดใสอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่เขากลับตัดสินใจโยนทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งเพื่อที่จะไปร่วมชีวิตกับสการ์เล็ตแฟนสาวและลูกน้อยที่เขาทั้งสองคนเพิ่งรู้ว่ากำลังจะมาเกิด

          เกือบยี่สิบปีให้หลัง วันวารอันหวานชื่นของไมค์ (แมทธิว เพอร์รี่) กลับถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง การแต่งงานของเขากับสการ์เล็ต (เลสลี่ แมนน์) ต้องจบลง ตัวเขาถูกมองข้ามในการได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงาน ลูกๆ วัยรุ่นของเขาพากันคิดว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ และตัวเขาเองก็ถูกจำกัดอยู่ในแวดวงที่มีเพียงเพื่อนซี้ร่วมชั้นมัธยมคนเดียว ที่เป็นมหาเศรษฐีแต่กลับละทิ้งสังคมและคลั่งเทคโนโลยี่อย่าง เนด (โธมัส เลนนอน) เพียงคนเดียวเท่านั้น 

          แต่ไมค์ก็ได้รับโอกาสอีกครั้งในชีวิตเมื่อเขาได้ถูกเปลี่ยนร่างกลับไปเมื่ออายุ 17  ปีอีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์ แต่โชคไม่เข้าข้างที่ไมค์อาจจะดูเหมือนอายุ 17 อีกครั้งแต่ท่าทางที่เขาแสดงนั้นเป็นของคนอายุกว่าสามสิบทำให้เพื่อนร่วมชั้นในปี 2009 ของเขารู้สึกว่าประหลาด

          และในความพยายามที่จะหวนรำลึกถึงหลายปีที่รุ่งโรจน์ ไมค์อาจจะสูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดที่ได้เคยเกิดขึ้นกับเขา 

          บริษัท นิวไลน์ ซีเนม่าภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างของบริษัท ออฟสปริง เอนเตอร์เทนเมนท์ ภาพยนตร์เรื่อง "17 Again" นำแสดงโดย แซค แอฟรอน, เลสลี่ แมนน์, โธมัส เลนนอน, มิเชล เทรชเทนเบิร์ก, สเตอลิง ไนท์, เมโลร่า ฮาร์ดิน และแมทธิว เพอร์รี่   

          ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับการแสดงโดย เบอร์ สเตียร์ส จากการเขียนบทภาพยนตร์ของ เจสัน ฟิลาร์ดี้ อำนวยการสร้างโดย อดัม แชงค์แมน และเจนนิเฟอร์ กิปกอท โทบี้ เอมเมอริค, มาร์ค คอฟแมน, คีธ โกล์ดเบิร์กและเจสัน แบร์เร็ท รับหน้าที่ผู้อำนวยการบริหารโดยมี ดาร่า วีนทรับรับหน้าที่ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง
 ทีมงานเบื้องหลังการสร้างนำโดยผู้กำกับภาพ ทิม ชูห์สเต็ดท์ ผู้กำกับศิลป์โดย การ์เร็ธ สโตเวอร์ ผู้ลำดับภาพโดย แพเดร็ค แมคคินลี่ย์ และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย พาเมล่า วิตเธอร์ ชิลตัน ดนตรีประกอบประพันธ์โดย รอล์ฟ เคนท์ และผู้ควบคุมดนตรี บัค เดมอน 

          ภาพยนตร์เรื่อง "17 Again" จะได้รับการจัดจำหน่ายในประเทศโดยบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคกเจอร์ส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ 


เครดิต http://hilight.kapook.com/view/37542 (http://hilight.kapook.com/view/37542)

ได้แผ่นแท้ เรื่อง PATTON มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว  แต่ยังไม่ว่างดูเลยอ่ะครับ

เรื่องนี้เป็นหนังแนวแอ๊กชั่นดรามา ที่ผมชอบอีกเรื่องหนึ่งครับ

(http://paisley.presys.com/graphics/hidalgo.jpg)

ความสามารถไม่เกี่ยวกับชาติพันธุ์เผ่าพงศ์  ::014:: ::014::

คืนนีเมียจะดูTHE ENGLISH PATIENT  :~) :~) :~)

เมื่อคืนดู shawshank redemtion  หนังเก่าๆยุคปี1994 ที่เอามาทำเป็นDVD

(http://www.theatlasphere.com/columns/uploads/1/shawshank-redemption1.jpg)

ใครซื้อมาไว้ก็ไม่รู้ แต่เป็นภาพยนตร์ที่งดงามมาก  เป็นความงดงามในโลกมืด

โลกที่เรียกว่าคุก  ที่ ที่ไม่มีใครอยากเข้าไป  โดยเฉพาะคุก shawshank ที่มีไว้สำหรับนักโทษอุกฉกรรจ์

บทนายธนาคาร ที่ชะตาพลิกผันมาติดคุกตลอดชีวิต2ครั้ง  บทที่ดีที่สุดบทหนึ่งของ Tim Robbins
ส่วนตาเฒ่า Morgan Freeman ได้รับบทเรียบๆลุ่มลึก ทำให้หนังดูมีมิติมากขึ้น   หนังออกดราม่าบางๆ


ไม่น่าเชื่อว่าภาพยนตร์ที่มี Backgroundเป็นคุก  จะสร้างความงดงามในหัวใจได้ยิ่งกว่า
ภาพยนตร์รักโรแมนติกหลายๆเรื่อง


ตัวละครเด่นๆมีไม่กี่ตัว  เดินเรื่องเรียบๆง่ายๆ แต่ชวนดูมาก เรื่องนี้ ไม่ได้ใช้ทุนทำหนังเยอะ
แต่ใช้สมองคนทำไม่น้อยเลยทีเดียว

(http://blog.cristianobetta.com/wp-content/uploads/2009/02/the_shawshank_redemption_001.jpg)

มิตรภาพ ความสูญเสีย ความหวัง และเสรีภาพ

แนะนำให้ดูครับ

จ้าวชอบเรื่องนี้ ลองหาหนังสือคดีwater gateมาอ่านสิ 
ความจริงจาก Deep Troat ผู้เปิดโปง nixon เรื่องจากปาก
ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงหลังจากปิดปากตัวเองมากว่า30ปี

เมื่อคืนดู District 9  หนังใหม่ๆ ได้แผ่นมา

(http://kaganof.com/kagablog/wp-content/uploads/2009/09/district-9-poster.jpg)

มิติหนึ่งของหนังมนุษย์ต่างดาว ผู้พลัดหลงมาจากต่างดาว
สู่โยฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ 
ติดอยู่ที่โลกมนุษย์นานนับ20ปี จนต้องมีค่ายกักกันหมายเลข9(District 9 )

มีอะไรเกิดขึ้น ตลอด20ปีที่อยู่กับโลกมนุษย์ สัมพันธภาพระหว่างคนและมนุษย์ต่างดาว
หนังปูเรื่องตอนแรกค่อนข้างเยิ่นเย้อ และรายละเอียดบางอย่างเกินจำเป็น

มาเริ่มสนุกออกแนวActionตอนค่อนไปท้ายเรื่อง

ดูสนุกได้ พอไหว แต่อีกอย่างที่หนังขาดไปคือมิติของความเป็นมิตรภาพ
ของมนุษย์คนหนึ่งกับมนุษย์ต่างดาวคนหนึ่ง  น่าจะสร้างมิติได้ลึกกว่านี้สักหน่อย

ให้แค่4ดาวพอ

...Roger Ebert นักวิจารณ์หนังระดับพูลิตเซอร์ ลองอ่านกันครับ  ;)
http://rogerebert.suntimes.com/ (http://rogerebert.suntimes.com/)

หนังดราม่าระดับรากแก้วเลยครับ อิ อิ ยืมศัพท์ท่านซับหน่อย ผมดูในโรงจบแล้วรู้สึกว่า โอ้ สุนทรีอารมณ์ แต่ทนดูหนังแผ่นรอบสองไม่จบสักที อิ อิ ระดับความดราม่าเท่ากับ Out of Africa ครับ

เรื่องยูม่า ผมซื้อมารอไว้ พออ่านที่คุณจ้า่วบอก เลยเปิดดูเมื่อวานครับ ดีได้รสตามที่เขาว่า มีฉากยิงกันตะวันตกหลายฉากในรูปแบบแอคชั่นหนังสมัยใหม่ เช่น ฉากปล้นรถม้าตอนแรก วิ่งสวนกัน มุมกล้องจากสายตาตัวละครในฉาก และเสียงกระสุนหวีดหวิว กระทบเป้าตามที่ต่างๆ และฉากยิงกันที่ทำแนวเหมือนจริง ผมชอบแบบนี้มากกว่าถ่ายทำแบบเล่นมุมกล้อง เล่นแสง สโลโมชั่น แบบจัดฉากมาต้องรับรสชาดความรู้สึกตามฉากอย่างเดียว ไม่ได้ใ้ช้ความรู้สึกเข้าถึงฉากเอง

เื่รื่องยูม่านี้ สะกิดใจอยู่นิดหนึ่งครับ คือหนังสร้างให้ตัวลูกวัยรุ่นเป็น บุคคลบริสุทธิ์ เป็นผู้ที่รับอานิสงค์การเสียสละ และการใช้ชีวิตลุยดงเถื่อนของพ่อให้ไปมีอนาคตใหม่

...เหมือนเป็นการนำเสนอบริบทประวัติศาสตร์ตะวันตกเถื่อนในประวัติศาสตร์การสร้างชาติอเมริกา

นอกจากนี้ ผู้สร้างหนังได้แฝงอุดมคตินิยมเข้าไปในบทตัวละครลูกชายด้วย คือถึงแม้ลูกชายจะใช้ปืนควบคุม ขู่จะยิง และยิงขู่ผู้ร้าย แต่ลูกชายไม่ได้ยิงใครจริงๆ เลย ทั้งที่จริงๆ แล้วมีความชอบธรรมที่จะยิงผู้ร้ายที่กำลังรุมยิง พ่อ ซึ่งทำหน้าที่ส่งผู้ต้องหาขึ้นรถไฟ โดยเฉพาะไอ้ตัวเสื้อโค้มสองแถว ลูกชายน่าจะส่องด้วยไรเฟิลสเปนเซอร์ แทนที่ปล่อยวัวออกจากคอกไปไล่พื้นที่เฉยๆ บทบยาทได้ปั้นให้ลูกชายกลายเป็นคนรุ่นใหม่ มีการจัดการชีวิตตามอุดมคติ อู่เหนือความเป็นจริงในโลกบางอย่างไปซะแล้ว

คล้ายกับบทลูกชายในเรื่อง Road to Perdition ที่ ทอม แฮงค์ แสดง ละครับ ::013::

เมื่อคืนดู

(http://www.impawards.com/tv/posters/sex_and_lies_in_the_city.jpg)

หนังที่ตีแผ่ด้านมืดของคนได้ลึกดี

สาวน้อย แซนดี้ เดินทางสู่ลาสเวกัส เพื่อเสี่ยงโชคในคาสิโน แต่ทว่าคาสิโนไม่เคยแพ้ใคร
เธอต้องพลิกสภาพจากนักท่องเที่ยวเป็นสาวอะโกโก้ เพื่อหาเงินเดินทางกลับ

คืนแรกในบาร์อะโกโก้ เธอพบกับเท็ด บินเนี่ยน เจ้าพ่อคาสิโนผู้ร่ำรวย
และด้วยความเร่าร้อน เท็ดตกหลุมรักเธอ

หลังจากนั้น ชีวิตของแซนดี้ ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ความรัก กิเลส ตัญหา ราคะ ความโลภ ยาเสพติด และการหักหลัง

ตีแผ่อีกด้านในตัวคนและเนื้อแท้ของเมืองคาสิโน   


Mena Suvari สาวหน้าหวาน แสดงเรื่องนี้ รับบทแซนดี้ ถือว่าได้บทดีทีเดียว...

(http://www.topnews.in/files/mena-suvari.jpeg)


เรื่องนี้ถ้าเธอ...มากกว่านี้อีกนิดเดียว ก็ถือว่าเปลืองตัวล่ะครับ

คืนวานซืนดูเรื่องฺBenjamin Button

(http://img251.imageshack.us/img251/746/thecuriouscaseofbenjami.jpg) (http://img251.imageshack.us/i/thecuriouscaseofbenjami.jpg/)

Benjamin Button
19 Feb
2009 คุณจะทำอย่างไรหากชีวิตเริ่มต้นจากวัยชรา และสิ้นสุดลงในวัยเด็ก

ณ วันที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้จบลง ทารกคนนึงได้ลืมตาดูโลกขึ้น พร้อมๆ กับการสูญเสียชีวิตของมารดาผู้ให้กำเนิด  เบนจามินได้ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยสภาวะที่ไม่ปกติทางร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้านั้นดูราวกับคนชราในบั้นปลายของชีวิต

โทมัส บัตตอน ผู้ซึ่งเป็นพ่อของเบนจามิน โศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดโทษเบนจามินว่า เป็นซาตานที่เกิดมาเพื่อคร่าชีวิตภรรยาของเขาไป โทมัสจึงนำเบนจามินไปทิ้งที่บ้านพักคนชราแห่งหนึ่ง ที่ควีนนี่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลในขณะนั้น ด้วยความสงสารเบนจามิน กอรปกับการที่ตนเองไม่สามารถมีบุตรได้ ควีนนี่จึงรับเบนจามินเป็นลูกเลี้ยงนับแต่นั้นมา

(http://img251.imageshack.us/img251/2299/benjaminbutton01.jpg) (http://img251.imageshack.us/i/benjaminbutton01.jpg/)


หลายคนคิดว่าชีวิตของเบนจามินคงจะอยู่ได้ไม่นาน อันเนื่องจากสภาพร่างกายที่ผิดปกติของเขา แต่โดยไม่คาดคิด หลายปีผ่านไป เบนจามินเริ่มเติบโตขึ้น โดยที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างประหลาด จากผมขาวโพลน ก็เริ่มมีผมดำแซมขึ้นมาบ้าง กระดูกที่เปราะบาง ผิดหนังที่เหี่ยวย่นดังคนชราวัยแปดสิบ ก็ถูกแทนที่ด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแรง และสมบูรณ์มากขึ้น

เบนจามินได้พบกับเดซี่ เด็กผู้คนนึงผู้ซึ่งได้กลายเป็นคนรักของเบนจามินในภายหลัง ช่วงที่เขาอยู่บ้านพักคนชรา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้นไปเป็นลำดับ โดยที่เดซี่ไม่รังเกียจกับสภาพร่างกายของเบนจามินแม้แต่น้อย จนกระทั่งเบนจามินได้ตัดสินใจออกเดินทางสู่โลกกว้าง ไปเป็นลูกเรือของเรือลากลำหนึ่ง เดซี่ให้เบนจามินสัญญาว่าจะเขียนจดหมายมาหาตนทุกเวลา ในทุกสถานที่ที่เบนจามินท่องเที่ยวไป

เบนจามินท่องเที่ยวไปทั่วโลก จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองจบลง พร้อมๆ กับกัปตันเรือที่เบนจามินทำงานด้วยเสียชีวิต เบนจามินได้มีโอกาสกลับบ้านเกิดอีกครั้ง  ในครั้งนี้เอง เบนจามินได้พบเจอกับโทมัส บัตตอน (ก่อนหน้านี้โทมัสก็แวะเวียนมาหาเบนจามินบ่อยๆ) โทมัสบอกเบนจามินให้รู้ว่า เขาคือพ่อแท้ๆ ของเบนจามิน พร้อมๆ กับมอบมรดกที่เป็นโรงงานทำกระดุม ให้แก่เบนจามินก่อนที่โทมัสจะเสียชีวิต

ระหว่างนั้นเดซี่ได้กลายเป็นนักเต้นรำที่มีชื่อเสียง และได้บังเอิญมาพบเบนจามินอีกครั้งในขณะที่เดซี่มาเยี่ยมคุณยายที่บ้านคนชรา เดซี่เติบใหญ่เป็นสาววัยยี่สิบต้น ๆ และร่างกายของเบนจามิน ซึ่งในขณะนี้ดูเหมือนชายวัยกลางคน ด้วยความที่เดซี่เป็นสาวรุ่น และความคิดถึงเบนจามินนั้นเอง เดซี่เสนอตัวให้เบนจามิน แต่เบนจามินกลับปฏิเสธเดซี่ ด้วยสาเหตุของความไม่พร้อม

(http://img251.imageshack.us/img251/1640/benjaminbutton.jpg) (http://img251.imageshack.us/i/benjaminbutton.jpg/)


หลายสิ่งหลายอย่างทำให้เบนจามิน กับเดซี่ได้จากกันอีกครั้ง เดซี่ใช้ชีวิตอย่างสาวรุ่น หลังจากเสียใจกับเบนจามิน ที่ไม่ยอมรับตัวเธอในขณะนั้น แต่ลึกๆ ในใจเดซี่นั้นคิดถึงเบนจามินอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นต่อเดซี่จนทำให้เดซี่ไม่สามารถเต้นรำได้อีกต่อไป เบนจามินได้รับข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุของเดซี่จากเพื่อน จึงรีบรุดไปเยี่ยมเดซี่ที่โรงพยาบาล แต่เดซี่ไม่ต้องการให้เบนจามินได้เห็นสภาพร่างกายของเธอนั้นตอนนี้ จึงไล่เบนจามินออกไป แต่ไม่นานนัก หลังจากเดซี่หายดี เดซี่จึงพร้อมมาหาเบนจามินอีกครั้ง ชีวิตคู่ของทั้งสองได้เริ่มต้นขึ้น เบนจามินและเดซี่มีบุตรสาวร่วมกันหนึ่งคน

แม้ว่าเรื่องราวชีวิตคู่จะจบลงโดยที่เบนจามิน จะแยกทางกับเดซี่ ไม่ใช่เนื่องจากชีวิตคู่ล้มเหลว แต่อันเนื่องมาจากความกลัวสภาพร่างกายของเบนจามินเองที่เด็กลงเรื่อยๆ และกังวลว่าตนเองจะเป็นภาระต่อเดซี่ ทำให้เบนจามินตัดสินใจ แยกทางกับเดซี่ โดยเบนจามินก็ไปท่องโลกกว้างอีกครั้ง และก็ให้เดซี่หาสามีใหม่ เพื่อมาเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้ลูกสาว(คลาโอไรด์) โดยที่เดซี่เองปกปิดเรื่องราวของเบนจามินไม่ให้คลาโอไรด์ทราบ

เดซี่ได้พบเบนจามินอีกครั้ง แต่ในขณะนี้ความจำของเบนจามินก็แทบจะไม่มีเหลือ อันเนื่องจากร่างกายพัฒนาสู่วัยเยาว์ เบนจามินพูดไม่ได้ เดินไม่ได้ ร่างกายก็มีขนาดเล็กลงจนกลายเป็นทารกที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ความรักที่เดซี่มีต่อเบนจามินนั้น ทำให้เดซี่อยู่ดูแลเบนจามินจนวาระสุดท้ายของชีวิต

กาลเวลาเดินทางเป็นเส้นตรง

เรื่องราวที่สอดแทรกในเรื่องเบนจามิน มีเรื่องของชายตาบอด ที่สูญเสียลูกชายไปช่วงเวลาแห่งสงคราม ชายคนนี้ได้สร้างนาฬิกาไขลานขนาดใหญ่ที่เดินย้อนกลับ ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟ ด้วยความหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปลูกชายจะฟื้นคืนชีวิตกลับคืนมา

(http://img251.imageshack.us/img251/3292/thecuriouscaseofbenjamih.jpg) (http://img251.imageshack.us/i/thecuriouscaseofbenjamih.jpg/)


แต่อนิจจา…มิติของเวลานั้นเป็นเส้นตรง และเราทุกคนต่างก็อยู่ภายใต้กฏแห่งเวลา หลายชีวิตเริ่มต้นจากวัยเยาว์ และสิ้นสุดที่ความชรา และบางชีวิต ก็เริ่มต้นจากการชราภาพ และสิ้นสุดในวัยเด็ก ดังเช่นเบนจามิน  ทุกชีวิตมีจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด ไม่มีใครอยู่เหนือกาลาเวลา ถึงแม้ว่าเส้นทางของเวลาจะสวนทางกัน แต่ในที่สุด เราทุกคนก็จะมุ่งตรงสู่จุดจบของชีวิต ซึ่งก็คือความตายอันเป็นสิ่งที่แน่นอน

นาฬิกาไขลานในสถานีรถไฟ ผ่านไปนานวัน ก็ถูกปลดระวางแทนที่ด้วยนาฬิกาดิจิตอล เพื่อรอวันที่จะมีนาฬิการุ่นใหม่ ทันสมัยกว่ามาแทนที่อีกครั้ง ณ จุดหนึ่งของเวลาในอนาคต มนุษย์เกิดขึ้นมาและจากไปมาคนแล้วคนเล่า โดยที่เวลาก็ยังเดินต่อไป

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ในขณะที่เบนจามินท่องโลกกว้างนั้นเอง ก็ได้มีความสัมพันธ์ลับๆ กับหญิงสาวคนหนึ่ง ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน โดยในวัยรุ่นเธอได้เล่าว่า เธอเป็นนักว่ายน้ำระดับแนวหน้า ซึ่งเคยตั้งใจจะว่ายน้ำข้ามคลองสุเอซ แต่ในระหว่างพิสูจน์ความตั้งใจของเธอนั้น อีกเพียงแค่สองไมล์จะถึงฝั่ง เธอก็หยุดว่ายน้ำกลางคัน ซึ่งทำให้เธอเสียใจจนมาถึงทุกวันนี้

(http://img251.imageshack.us/img251/4906/stillfromthecuriousca00.jpg) (http://img251.imageshack.us/i/stillfromthecuriousca00.jpg/)


แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็หายหน้าไปจากชีวิตของเบนจามิน และเบนจามินก็ได้ข่าวเธออีกครั้งในโทรทัศน์ และก็พบว่าเธอกลับไปพิสูจน์ความตั้งใจของเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็ทำได้สำเร็จในวัยกลางคน ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่แข็งแรงเท่าวัยรุ่น แต่เธอก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดเกินความสามารถ ถ้าคนเราทุกคนมีความพยายาม

ทุกชีวิตมีเส้นทางของตนสุดท้ายก็ต้องปล่อยวาง

ทุกชีวิตเกิดมา ก็ดิ้นร้นตามเส้นทางชีวิตของต้นเอง

บ้างก็เกิดมาเป็นหมอ
บ้างก็เกิดมาเพื่อเต้น
บ้างก็เกิดมาเป็นแม่
บ้างก็เกิดมาเป็นสามีที่ดี



ดั่งกัปตันเรือลากที่เบนจามินไปเป็นลูกเรือด้วย กัปตันได้ถูกสบประมาทจากพ่อแต่เด็ก ว่าเป็นเด็กไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ถึงแม้จะล้มลุกคลุกคลานบ้าง แม้ไม่ได้รวยล้นฟ้า หรือมีชีวิตที่เลิศเลอ เป็นเพียงแค่กัปตันเรือลาก มีความฝันที่จะเป็นศิลปินวาดภาพไปทั่วทุกแห่งหน ถึงจะทำไม่สำเร็จ แต่เขาก็ใช้ร่างกายตัวเองสักเพื่อเล่าเรื่องราวชีวิต ดั่งศิลปินผู้ไม่ท้อแท้ แต่สุดท้ายเมื่อต้องตายความฝัน เรื่องราวต่างๆ แม้สิ่งที่ตนรักที่สุดก็ยังเอาไปไม่ได้

ทุกเส้นทางมีเรื่องราวแตกต่าง
ทุกเส้นทางมีความฝัน
บางเส้นทางก้าวถึงจุดสูงสุดของชีวิต
บางเส้นทางก็ไม่มีโอกาสแม้จะทำให้ฝันได้เป็นจริง
แต่ท้ายสุด สุดเส้นทางสุดท้ายชีวิตก็ต้องปล่อยวาง
กลับไปยังที่ ที่เราเคยผ่านมา อย่างไม่มีวันกลับ


เครดิต**http://www.atthakorn.com/2009/02/19/benjamin-button/

หนังดูด้วยอารมณ์ฟอร์เรสท์ กัมพ์เลยครับ คนดูหนังเก่งๆอาจบอกว่ายังสู้ไม่ได้ แต่ผมดูด้วยอารมณ์เรื่อยๆ มันละเมียดแบบละเลียดไปเรื่อยๆ ดูจบแล้วก็สบายใจคล้ายๆกันเลย  :D

เมื่อคืนดูเรื่องนี้

ASSEMBLY วีรบุรุษเลือดล้างแผ่นดิน

(http://img515.imageshack.us/img515/3829/49885213.png) (http://img515.imageshack.us/i/49885213.png/)

คือเเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสิ้นสุดของสงครามในประเทศจีนและ.เป็นจุด เริ่มต้นของสงครามเกาหลี เรื่องราวของกองทหารที่ได้รับคำสั่งให้ต่อสู้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณให้หยุด แต่ไม่เคยมีสัญญาณเรียกนั้นเลยจนกระทั่งทหารทุกคนจบชีวิตลง เหลอเพียงหนึ่งเดียว และ.เมื่อ 1 ปีผ่านไป เขาจึงพยายามพิสูจน์เรื่องราวต่างๆเว่าการเสียชีวิตของเพื่อนทหารในครั้งนี้ จบลงในฐานะวีรบุรุษ อย่างที่พวกเขาทุ่มเททำเพื่อชาติหรือไม่ ThefAssembly ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องสั้นซึ่งเขียนจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

"The Assembly" เขียนโดย หยาง จินหยวน

*********************************************************************



หนังเหมือนจะพยายามทำให้เป็นFlag of our fathers กับ Letters from Iwojima เวอร์ชั่นจีน

ไม่หลากหลายอารมณ์เท่า , ไม่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากเท่า ฉาก/เหตุการณ์ที่เอามาทำเป็นหนังก็ไม่อลังการเท่า แต่พอดูจบแล้วกลับรู้สึกเต็มอารมณ์กับมันมากกว่า2เรื่องแรก

พูดแบบคนที่ไม่ได้เป็นนักวิจารณ์ .... ผมชอบเรื่องนี้มากกว่า2เรื่องแรกครับ หนังยาวเอาเรื่อง แต่ดูจบแล้วไม่รู้สึกว่าเสียเวลา  ::002::

Benjamin Button

หนังดี ที่ดีที่ดูแล้ว ไม่กล้าดูอีกครับ  สำหรับผม

วันนี้ไปดูหนังใหม่    บรูซวิลลิซ  เล่น 

ไม่ได้เรื่องเลย............เสียฟอร์มหมด

เรื่องอะไรเหรอครับพี่ป้อม  ::014::

 ::005::น้าป้อมยังไม่ได้ครับ





 ::014::อะฟิ๊วสสสสสสสสสสสสสสสสสส....... ::014::

 :~) :~) :~)  มาปล่อยมุขแล้วหนีด้วย ดูดู๊ดู ดู พี่เป้าทำ (เวลาอ่านกรุณาทำเสียงแบบ จ๊อบ บรรจบ)  ::005:: ::005::

คนอีด  โคลนนิ่ง  อะไรพันธ์นี้แหละ

หนังดำเนินเรื่องว่า    ในอนาคต   คนเราไปไหนมาไหนหรือทำอะไร

ตัวตนจริง ๆ  อยู่ในบ้าน   แต่ใช้หุ่นยนต์ไปทำการแทน   โดยที่ตนเอง

ไม่ต้องไปพบกับอุบัติเหตุ   เชื้อโรค  ฯลฯ  และอยากจะมีหน้าตาแบบไหน

จากหญิงเป็นชาย   จากชายเป็นหญิง   โดยไม่ต้องทำศัลยกรรม   

โดยมีความปลอดภัยแน่นอน   คราวนี้เริ่มด้วย  ลูกชายของ  ดร.ที่คิดค้นระบบ

ใช้หุ่นไปเที่ยวสถานบริการ   แต่ถูกฆ่าตายทั้ง ๆ  ที่  ตัวตนอยู่ที่บ้าน

พระเอกของเรา   บรูซ  วิลลิซ   เล่นเป็นตำรวจที่ทำการสืบสวนคดีนี้

ซึ่งผลการสืบสวนลงเอยที่ว่า    มีการพัฒนาระบบอาวุธที่ใช้กับหุ่น

แต่ทว่ามันมีผลกระทบไปถึงคนที่ใช้หุ่น    และมีการนำมาใช้ผิด ๆ วิธี

หนังฟอร์มดี   แต่เขียนเรื่องไม่ได้เรื่อง.........ดูจบแล้วเสียดายตังค์

(http://www.iwatchstuff.com/2009/07/02/surrogates-poster.jpg)

ดูแล้วครับ ไม่ได้เรื่องจริงๆด้วย  :P

เชื่อเรื่องอิทธิพลจากพฤติกรรมของคนดังแล้วครับ

ในหนังเรื่องนี้มีฉากที่ปธน.นิกสันแย้มม่านดูเดวิด ฟรอสต์ที่จะมาเป็นคู่ประชัน แล้วทักเรื่องรองเท้าที่ฟรอสท์ใส่ ว่ารองเท้าแบบนี้มันเหมือนตุ๊ด(หรือสำหรับผู้หญิงใส่แล้วหว่า?) ทำหน้างงๆพูดกับเลขาฯว่ารองเท้าผู้ชายมันต้องผูกเชือกไม่ใช่เหรอ

ในท่อนพิเศษท้ายเรื่องก็ยืนยันว่านิกสันเคยวิจารณ์ไว้อย่างนี้จริงๆ

เมื่อต้นเดือนไปซื้อรองเท้ามาใส่กับสูท โดยไม่รู้ตัว ผมมองหาจะเอาแต่รองเท้าแบบผูกเชือกจนได้ แฟนก็ทักว่าเลือกได้แก่สะใจท่าจะใส่ได้นานเลย

นึกอยู่นาถึงนึกขึ้นได้ ว่าคำพูดของนิกสันในหนังมันแอบเข้ามาฝังใจเป็นระเบิดเวลาเอาไว้นี่เอง  ::013::

The Book Of Eli , Solomon Kane สนุกดีครับ หนังแอคชั่นแนวดูเอามันส์ แต่จบแล้วก็ไม่เสียดายเวลา  ::002::

เพิ่งได้ดู Closer  ถึงได้รู้ว่า นาตาลีก็สวยดี...

ยังไม่ไปที่ร้านอีกเหรอพี่  ...........  อิอิอิ   

เด็กนรก  :OO ::014::

 ::008:: ผมเห็นแววตั้งแต่ ลีออง แล้วครับพี่ อิ อิ  ::002::

แอคชั่นแบบสมจริงหรือเว่อคะ...ยังไม่ได้ดูเลย

เว่อร์นิดๆ แต่เนียนดีครับ ติดกลิ่นเส้าหลินตุ่ยๆทั้ง2เรื่อง  ;D

::007:: ::007:: ::007::

จะได้ไม่ต้องรีบหามาดู....

สนุกน่าเจ๊ บู๊มาตรฐานDenzel Washington ละน่า


'The Book of Eli' Trailer HD (http://www.youtube.com/watch?v=JKfZrbS79To#normal)

Solomon Kane แนว/ภาพคล้ายๆVan Helsingครับ แต่ผมว่าสนุกกว่า  ::002::

Solomon Kane Movie Trailer HQ (Official) (http://www.youtube.com/watch?v=lalm_kkczVM#normal)

อ่ะ...ตัวอย่างก็โอเคนี่นา...แบบนี้ดูได้..... ::002::

ผมดูละครไทยเก่าๆ  ตอนนี้กำลังดู สูตรเสน่หา อยู่อิอิอิ

ไม่เก่านี่คะ...เพิ่งจบไปไม่นานเอง แต่เปิ้ลไม่เคยดู.... :D

อ้าวเหรอ.....น้องโอฝากมาให้   ครูกุ๊ก ครูกุ๊ก

ใช่ค่ะ...แอนกับเคน... :D

(http://www.kodhit.com/images/stories/kodhit/drama/bambudkann/a4.jpg)

(http://i21.photobucket.com/albums/b280/comicboyz_th/Rome/KlinKaew/01.jpg)

(http://i391.photobucket.com/albums/oo360/mingywhale/1753f7c2.jpg)

 ;D  รับสักเรื่องไหมครับพี่  ..........  อิอิอิ 

(http://image.ch7.com/CH72008/2/9/51/20081125/silamanee2-800_800x600_081107111041.jpg)

 ;D

ละครไทย  สามารถ ค้นหาได้ในยูทูบครับพี่  ใช้คีย์เวิร์ด ตามชื่อเรื่องแต่เป็นภาษาอังกฤษ

สามเรื่องนี้เคยดูแต่จำเลยรัก...เฉพาะเวลาที่ไม่มีอะไรจะดู.... ::005::

  พี่เจษจะได้รับชมแทบจะใกล้เคียงกับ ที่นี่เลยครับ 

ทุกวันนี้  ผมต้องคอย หาละครเก่า ๆ  บางตอนที่แฟนดูไม่ทัน 

ให้คุณเธอดูย้อนหลัง  .....  อิอิอิ 

Youtube  ไม่สะดวกน่ะน้องรู    เพราะเครื่องที่ใช้ประจำเป็น Laptop ของที่บริษัทให้ไว้ใช้ประจำตัว  แต่เค้าบล็อค Youtube , Facebook ครับ

รับประกันสุดยอดครับ ::002:: ::002:: ::002::

(http://image.ohozaa.com/it/theinnocentdvd.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=7f677f77716db5eb5c6e0878a5a82e45)

หลังจากหายหน้ากันไปนานกว่า 20 ปี “ดิ อินโนเซ้นท์” วงดนตรีคุณภาพรุ่นใหญ่
ที่สร้างสรรค์ผลงานมากมายไว้กับวงการเพลงบ้านเรามายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ
โดย ชาตรี คงสุวรรณ, พีรสันติ จวบสมัย, สายชล ระดมกิจ และ เสนีย์ ฉัตรวิชัย
กับงานเพลงฮิต ที่ยังถูกเปิด และนำมาขับร้องใหม่จนถึงทุกวันนี้ อาทิเพลง
เพียงกระซิบ, มนต์ไทรโยค, สอบตก, เพียงครึ่งใจ, สักวัน, ฝากรัก ฯลฯ

  กระแสเรียกร้องให้กับมารวมตัวกันอีกสักครั้ง จากแฟนเพลงอย่างต่อเนื่อง
คอนเสิร์ตครั้งนี้จึงเกิดขึ้น และจัดว่าเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของพวกเขาทีเดียว
ที่พร้อมด้วยคุณภาพของระบบภาพ แสง และเสียง สมกับเป็นการแสดง
ของศิลปินระดับโปรดิวเซอร์ชั้นนำของเมืองไทย

  “ดิ อินโนเซ้นท์ รียูไนท์ คอนเสิร์ต” ณ อิมแพค อารีน่า
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา จึงจัดเป็นคอนเสิร์ตที่อัดแน่นด้วยเพลงฮิต
จากสมาชิก “ดิ อินโนเซ้นท์” ครบวง อบอุ่นไปด้วยบรรยากาศเพื่อน พี่และน้อง
ที่เป็นกันเอง  ซึ่งได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ดีเยี่ยมที่สุดของปีที่ผ่านมา
ทั้งคุณภาพระบบภาพแสง เสียง ทำเอาแฟนเพลงยุค 80 ลุกขึ้นมาขยับแข้งขา
จนลืมวัยกันเลยทีเดียว  และวันนี้ บรรยากาศการแสดงที่ครบเครื่องถึงอารมณ์
ได้ถูกนำมาบันทึกลงดีวีดี และวีซีดี ให้แฟนๆ เพลงได้สมสมกันแล้ว ด้วยผลงานคุณภาพ
ที่การันตี โดย โอม ชาตรี คงสุวรรณนั้นไม่ธรรมดา  ทั้งภาพและการบันทึกระบบเสียง
Surround 5.1 ที่ตั้งใจให้เป็นผลงานชั้นเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่งในบ้านเรา  มาดูกันว่า
รถไฟขบวนที่วิ่งอยู่ใน อิมแพค อารีน่า จะมาอยู่ในบ้านคุณเองแบบไม่ธรรมดาอย่างไร
ในรูปแบบดีวีดี และวีซีดี แล้ววันนี้ โดยวอร์นเนอร์ มิวสิค

2เรื่องล่าสุดดูClash of the Titanครับ

'Clash of the Titans' Trailer HD (http://www.youtube.com/watch?v=q6CJenNMsb4#ws)

สนุกดี แต่เกร็ดตำนานเทพที่ใส่มาในหนัง"มั่ว"ไปเยอะ  :D

ที่มาพร้อมกันคือPrince of Persia

Prince of Persia Movie Trailer (http://www.youtube.com/watch?v=ZgEt-4L3fKQ#ws)

หนังสนุกแนวเดียวกับpirates of the caribbean  ::002::

ผมชอบเรื่องนี้ครับ
'From Paris With Love' Trailer HD (http://www.youtube.com/watch?v=1sLG0owba0E#ws)

เรื่องนี้สนุกครับ  ::002::

'Robin Hood' Trailer HD (http://www.youtube.com/watch?v=KSqL9ygBCck#ws)

ป.ล.ไม่ได้ซื้อเอง  ;D

ผมชอบดูหนังที่ยิงกัน ดูเอามันอย่างเดียวไม่ต้องคิด เพราะว่าเรามาหาความบันเทิง ไม่ใช่ไปดูแล้วตัองกลัวว่าผีจะออกมาตอนไหนหรือตัองคิดตามให้ปวดหัว  :)

แนะนำหนังซีรี่ครับ

Spartacus: Blood and Sand

โป๊ เลือดสาด มีแค่ความรุนแรงและเซ็กส์ทั้งเรื่อง....รับประกันความมันส์

Spartacus: Blood and Sand - Official HD Trailer (http://www.youtube.com/watch?v=m2CqtNeRK_w#ws)

ผมซื้อจากร้านนี้ http://www.sw-dvd.com/basket.asp?proid=Use1511&submit=Detail&pg=6&select1=40 (http://www.sw-dvd.com/basket.asp?proid=Use1511&submit=Detail&pg=6&select1=40)   ;D

Spartacus: Blood and Sand - Die by the Sword (http://www.youtube.com/watch?v=fl0UCuSw6YQ#ws)

เรื่องนี้ตอนดูต้องใช้เจลใส่ผมด้วยเปล่า....อิอิ

สนป่าว เดี๋ยวแบ่งให้ โคตรโหดเลย  ::012:: ::005:: :D~

มันมีอยู่เรื่อง  เกี่ยวกับคนป่า ที่เอาสีทาตัวฟ้าๆ
ชื่อเรื่องอะไรจำไม่ได้ ที่มีการไล่ล่ากันอ่ะ
จำชื่อไม่ได้ด้วย  เคยดูครั้งหนึ่งอยากดูอีก  :~)

Apocalypto เขียนบทและกำกับโดย Mel Gibson ครับพี่ซับ เป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่งทีเดียว

ท่านอรชุนเก่งจังครับ เข้าใจความหมายของพี่ซับฯได้ด้วย  ::005::

เรื่องนี้ผมมีอยู่ครับ  :D

เพิ่งได้ดูหนังเรื่อง Let Me In ครับเป็นหนังนอกสายตาไม่คิดว่าจะมีดี เห็น IMDbได้คะแนน 7.3 เลยโหลดมาลอง

ดารานำเป็นเด็กฝีมือดี
Kodi Smit-McPhee จากThe Road(ลูกของ Viggo Mortensen )
Chloe Moretz จาก Kick Ass (Hit Girl)

(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2010/07/let-me-in-poster-usa-01.jpg)

(http://www.หนังตัวอย่าง.com/wp-content/uploads/Let-Me-In.jpg)

(http://i.kapook.com/ninn/n13-0710/280710_LetMeIn-Poster_06.jpg)

(http://i.kapook.com/ninn/n13-0710/280710_LetMeIn-Poster_02.jpg)


เห็นดารานำเป็นเด็กแบบนี้แต่ไม่ใช่หนังที่เหมาะสำหรับเด็กนะครับ
Let Me In - Trailer (http://www.youtube.com/watch?v=reRRAEVHq8E#ws)

มีใครมีหนังเรื่องนี้บ้าง ครับ  ::014:: อยากดูมากๆ ครับ หาซื้อก็ไม่มีขายแล้ว ครับ  ::004::

หนังการตูน Beavis and Butt-head Do America สองอันตราย(พากษ์ไทย)

(http://image.ohozaa.com/i/1d6/spd_20070730122343_b.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=9705c079cc0215d43e57e4b5c85dd647)


Beavis and Butthead Do America English Part 1/5 (http://www.youtube.com/watch?v=qmIIj_xjmlo#)

Beavis & Butthead Do America English Part 2/5 (http://www.youtube.com/watch?v=UwwYiDFUUWM#)

Brokeback Beavis and Butthead (http://www.youtube.com/watch?v=0iCeS8QdwyI#)

ขออภัยด้วยครับพี่ศักดา ผมไม่มีหนังเรืองนี้ครับ ไม่ใช่แนวที่ผมดู  ::014:: ::014::



ช่วงนี้ควักหนังเก่ามาดูซ้ำบ่ิอยๆ เลยอยากแนะนำหนังอีกซักเรื่อง IMDbให้คะแนน8.2  เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

V for Vendetta  
สร้างจากนิยายภาพที่แต่งโดย อลัน มัวร์ และวาดภาพประกอบโดย เดวิด ลอยด์
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายอมตะอย่าง 1984 ของจอร์จ ออร์เวลล์ และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ๒๕๔๗
ภายใต้การกำกับของ เจมส์ แม็คทีก อย่างไรก็ดี อลัน มัวร์ ไม่ประสงค์มีชื่ออยู่ในเครดิตผู้แต่งบทดั้งเดิม
เนื่องจากตัวเขาไม่เห็นด้วยกับการนำเอางานของเขามาสร้างเป็นภาพยนตร์นับตั้งแต่ความผิดหวังใน
The League of Extraordinary Gentlemen ฉบับภาพยนตร์เมื่อปี ๒๕๔๕ ทำให้เครดิตผู้แต่งบทดั้งเดิมของ V for Vendetta
ปรากฎเพียงชื่อของ เดวิด ลอยด์ เพียงรายเดียว (เช่นเดียวกับ Watchmen ผลงานชิ้นเอกของมัวร์
ที่ในฉบับภาพยนตร์นั้นปรากฎชื่อของ เดฟ กิ๊บบอนส์ ในฐานะผู้แต่งนิยายภาพเพียงคนเดียวเท่านั้น)

เรื่องราวของ V for Vendetta อยู่ในประเทศอังกฤษ ค.ศ 2038 ที่ถูกปกครองโดยฝ่ายขวาจัดนำโดยผู้นำชื่อ อดัม ซัทเลอร์
ซึ่งก้าวสู่อำนาจจากการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย รัฐบาลของซัทเลอร์ทำการจัดระเบียบสังคมอย่างเข้มงวดในเชิงอนุรักษ์นิยม
มีการใช้กำลังกำจัดศัตรูทางการเมือง รวมถึงกลุ่มที่ถูกมองว่า"เป็นภัยต่อศีลธรรมอันดีงาม" มีการควบคุมและบิดเบือนสื่อให้เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล
มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้รับความเคารพจากสังคมเป็นสมาชิกพรรคที่เป็นเสมือนเสาค้ำอำนาจ มีการออกกฎหมายควบคุมพฤติกรรมประชาชนโดยอ้างถึงความ
ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีการบิดเบือนและปิดบังประวัติศาสตร์ และที่เด็ดสุดคือ มีการแขวนรูปของซัทเลอร์ไว้บนผนังของทุกบ้าน
เวลาผ่านเลยไปจนประชาชนเริ่มจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการเมืองน้ำเน่าจนกระทั่งการปรากฎตัวของ V ผู้สวมหน้ากาก กาย ฟอว์คส์ ที่ออกมาท้าทายอำนาจรัฐ
และจุดดวงไฟแห่งเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนขึ้นมาอีกครั้ง

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแนวโน้มเอียงไปทางดราม่าปรัชญาการเมืองมากกว่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาต่อสู้แบบขจัดคนพาลอภิบาลคนดี เพราะท่าน V
ผู้นี้หาได้ทำเพื่อคุณธรรมค้ำจุนโลกใดๆไม่ แต่ทำเพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเรียกร้องให้ผู้อื่นได้เบิกตาสำรวจศักดิ์ศรีของตนเอง
การต่อสู้ของ V ถูกรัฐบาลประณามว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ผู้สร้างความแตกแยก ผู้ทำร้ายสังคม ฯลฯ แต่อย่างไรก็ไม่อาจบิดเบือนจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์
ภายในตัวประชาชนไปได้... จุดนี้นี่เองที่ผมคิดว่าเป็นอะไรที่อุดมคติ และเป็นความโชคดีอย่างเหลือแสนจริงๆของ V
ที่มีประชาชนที่"หูตาสว่าง"เป็นอย่างยิ่ง เช่นนี้ และน่าสงสัยเหลือเกินว่าทีมประชาสัมพันธ์ของซัทเลอร์ทำงานกันยังไง
ถึงไม่สามารถนำเอาท่านผู้นำซึ่งดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานและวางรากฐานต่างๆในการยึดเก้าอี้ไว้ได้มากพอสมควรแล้ว เข้าสู่ใจของประชาชนได้
ซึ่งหากคุณลองมองโลกของความเป็นจริงจะพบว่า ผู้นำเผด็จการที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานของทุกประเทศในโลก
ล้วนทำการประชาสัมพันธ์อย่างแข็งขันจนสามารถครองใจผู้คนได้ "ความจงรักภักดี คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้นำเผด็จการ" จึงเป็นเรื่องน่าสงสัยว่า
ซัทเลอร์ อยู่ในตำแหน่งมานานขนาดนั้นได้อย่างไรเมื่อตนไม่สามารถครองความจงรักภักดีจากประชาชนได้ หนำซ้ำยังกลายเป็นที่ขบขันของชาวบ้านชาวช่อง
เมื่อถูกนำไปล้อเลียนในโทรทัศน์ ซึ่งหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศเผด็จการบนโลกแห่งความจริงล่ะก็ เชื่อว่าจะมีโทรทัศน์ถูกทุบทิ้งนับล้านเครื่อง
และมีการบุกเผาทำลายสถานีโทรทัศน์แห่งนั้นอย่างแน่นอน

ประเด็นการก้าวสู่อำนาจของซัทเลอร์ ด้วยการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเป็นฐานการสนับสนุนจากประชาชน ด้วยหูตาอันมืดบอดทำให้ไม่อาจมองเห็น
พฤติกรรมอันเป็นเผด็จการที่หนังได้ตีแผ่ออกมาอย่างเสร็จสรรพและเข้าใจง่ายไม่ต้องปีนบันได ราวกับว่าป้อนเข้าปากแล้วแต่ทำเป็นดื้อไม่ยอมกิน
อย่างไรอย่างนั้น จริงอยู่ผู้นำเผด็จการบางรายอาจขึ้นสู่อำนาจได้ด้วยการเลือกตั้ง แต่ประเด็นสำคัญของเผด็จการไม่ได้อยู่ที่การชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
แต่มันอยู่ที่การอ้างเอาความดีงามทั้งหลายทั้งปวงมาสร้างฐานอำนาจให้ตนเองอยู่เหนือบุคคลทั่วไปจนถึงขั้นไม่อาจแตะต้องได้ ป่าวประกาศความดีงามของตน
เพื่อเรียกร้องความจงรักภักดีจากประชาชนโดยห้ามตั้งข้อสงสัยเป็นเครื่องตอบแทน ใช้สื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ตัวเอง
มีข้อหา"กบฎผู้ไม่จงรักภักดี" ไว้โจมตีฝ่ายตรงข้ามและกันท่าสังคมจากความสงสัยในชนชั้นปกครอง ใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชน
ที่ต้องการเรียกร้องศักดิ์ศรีแล้วบิดเบือนข่าวไปเป็นการยกย่องเจ้าหน้าที่"ผู้ปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงวีรบุรุษเพื่อปราบปรามผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง"
รวมถึงบิดเบือนประวัติศาสตร์ด้วยหวังโหมกระพือความดีงามของตนเพื่อเรียกร้องความจงรักภักดีเป็นสิ่งตอบแทน
พร้อมทั้งยังกลบเกลื่อนให้ผู้คนหลงลืมวันแห่งการประกาศอิสรภาพ วันแห่งศักดิ์ศรีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของประชาชนไป

แม้จะมีตัวละครที่ค่อนไปทางแฟนตาซีอย่าง V แต่เขาคือสัญลักษณ์ของทุกสิ่งทุกอย่างที่"ความเป็นเผด็จการผู้อ้างอิงศีลธรรมอันดีงาม"
ได้พรากไปจากสังคม ดังนั้น V for Vendetta จึงเป็นภาพยนตร์ทรงคุณค่าในเชิงการเมือง ไม่ใช่ภาพยนตร์บู๊สนั่นเพื่อความบันเทิงแต่อย่างใดเลย
อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศที่อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทั้งที่รู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้คือบททดสอบความตาสว่างชั้นดี
ว่ายังคงยึดติดกับความดีงามที่ถูกฉาบติดกันไว้ด้วยแรงประชาสัมพันธ์ เพื่อก่อตัวเป็นโล่ห์พรางกายพร้อมทั้งยังเป็นนิทรรศการสำหรับเรียกร้อ
งความจงรักภักดี จนกระทั่งมองภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแค่ 2 ชั่วโมงที่กล่าวถึงเรื่องไกลตัวอันแสนน่าเบื่อ หรืออาจเพียงนำเอาประเด็นยิบย่อย
ไปจับผิดบุคคลตัวเล็กๆที่ไม่นิยม แต่หากว่าดวงตาได้เบิกกว้างและมองเห็นความเป็นมาและความ"ควรจะ"เป็นไปอันแท้จริงแล้ว
ภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta จะเป็นกระจกสะท้อนภาพของเรื่องใกล้ตัวที่พบเห็นทุกเมื่อเชื่อวัน ที่จะทำให้ "ซาบซึ้ง"
และอิจฉาชาวอังกฤษ(ในเรื่อง)ที่พร้อมใจกันตาสว่างอย่างแท้จริง

เขียนโดย I'M JUST A JEALOUS GUY วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
http://just-a-jealous-guy.blogspot.com/2009/07/v-for-vendetta-2005.html (http://just-a-jealous-guy.blogspot.com/2009/07/v-for-vendetta-2005.html)

(http://www.madoomovie.com/media/1013v-for-vendetta-movie-poster.jpg)

(http://img337.imageshack.us/img337/2261/vforvendettaa.jpg)

V for Vendetta (http://www.youtube.com/watch?v=8XKa8VE7ILI#ws)

ซีรีย์หนังคาวบอยครับ ดิบใช้ได้เลย  ::002::

แบบว่า.....คนมันขี้เห่อหน่ะ เริ่มหาของแต่ง เริ่มหาซื้อเครื่องขัด+อุปกรณ์ขัดแล้ว อิ อิ อิ อิ อิ  ;D



(http://img339.imageshack.us/img339/8014/deadwoodseason1dvdcover.jpg) (http://img339.imageshack.us/i/deadwoodseason1dvdcover.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)

ผมตามหาหนังอยู่เรื่องนึง   แต่ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้   ช่วยหน่อยครับ  :-[

          เป็นหนังฝรั่ง เรื่องมีอยู่ว่า.....มีพ่อลูกคู่นึง   พ่อเค้าเป็นนักดับเพลิง   เป็นคนที่สูบบุหรี่จัด   ทั้งสองคนสื่อสารกันผ่านวิทยุ   ซึ่งทั้งคู่อยู่คนละช่วงเวลากัน   โดยผ่านปรากฏการณ์ออโรร่าบนท้องฟ้า

ลูกจะเป็นคนบอกพ่อว่า   เหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง(เพราะลูกอยู่ในอนาคต)   เช่น ทีมใหนจะเป็นทีมชนะในแม็ทช์เบสบอล   หรือพ่อจะรอดจะการเข้าไปดับไฟที่ใหม้อาคารใกล้กับแม่น้ำได้อย่างไร.....ประมาณนี้ครับ

มีหนังน่าดูอยู่หลายเรื่องอยู่เหมือนกันน่ะครับ อิอิ แต่ที่ผมชอบก้อมี Watchmen อ่ะครับ ดูแล้ว สนุกดีครับ ดำเนินเรื่องได้ คลาสสิกดีครับ  ชอบไอ้ตัว ฟ้า ๆ นี้แหละครับ ที่มีพลัง สุดยอดที่สุดแล้ว

น่าจะเป็นเรื่องนี้ครับ   frequency จำได้แค่ว่า แดนิส เควด เล่น