๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 06:53:53 PM



หัวข้อ: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 06:53:53 PM

 แหม...ขออีกสักหัวข้อนะครับพี่น้อง ::014::

เพื่อนๆพี่ๆว่า ในอนาคตอันใกล้สัก10-20 ปี

มนุษย์จะค้นพบสุดขอบจักรวาลไหมครับ

ไม่ใช่อะไรครับ ผมสงสัยจริงๆว่า จักรวาลนี่มันมีที่สิ้นสุดไหมครับ

บางข้อมูลก็บอกว่ามีหลายจักรวาล โห.......แล้วต่อกันอย่างไร

( อย่าหาว่าไร้สาระครับ  สงสัยและอยากรู้จริงๆ )


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 07:05:54 PM

ที่เห็น ดาวดาวด้วยตาเปล่าบนท้องฟ้่า นี่กาแลกซี่เดียวกับ เรา

ชอบหัวข้อ เกี่ยวกับ จักรวาลเหมือนกัน ครับ.

สุดขอบระบบสุริยะ ที่มีดาวอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง  เห็นดูสารคดี ว่ามียานเดินทางไปถึง แต่

ขอบของจักรวาล มันเกินความความสามารถของ มนุษย์ ที่จะไปปักธง..
ถึงจะเป็นการตี๋ตี๋วเดินทางเที่ยวเดียว ทั้งชีวิต.  ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติหน้า มันเกินกว่าเทคโนโลยี่ ของมนุษย์

ขนาดความเร็วแสง ขนาดเอาโทรจิต มาเอาชนะได้ แล้ว นา .  ;D



หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 07:08:38 PM
มันขยายตัวตลอดเวลาครับ 10-20ปีมนุษย์เราก็คงยังไม่มีปัญญาเห็นสุดขอบจักรวาลได้ครับ
คงต้องพึ่งทฤษฎีกันต่อไป  :D

ลองติดตามสารคดีทางUBC เรื่อง The Universe ดูครับสนุกดีผมชอบ  :VOV: ::002::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 07:15:18 PM
นั่นสครับพี่ Ro@d  

สมัยก่อนผมไม่เข้าใจที่เขาบอกว่า 50 ปีแสง 100 ปีแสง

แต่มาตอนนี้ผมสงสัยว่า ขนาดเราใช้ความเร็วขนาดนั้น

ในชั่วชีวิตคนยังเดินทางไปนอกโลกได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ( ผมหมายถึงกับกาแลคซี่อื่นๆครับ )

แล้วมนุษย์เราจะมีวิธีอื่นไหมครับ นอกจากทำยานอวกาศให้แล่นได้เร็วเท่าแสงหรือเร็วกว่าแสง ( แล้วคนจะนั่งได้ไหมเนี่ย )


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 07:33:57 PM
จักรวาลมีเป็นล้าน ๆ จักรวาล  ไม่มีทางเดินทางไปได้สุดขอบจักรวาลหรอก ครับ  :D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: อดิศักดิ์--รักในหลวง-- ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 09:17:53 PM
ถ้าสามารถสร้างยานอวกาศที่มีความเร็วแสง   เอาครอบครัวมนุษย์ไปอาศัยบนยานอวกาศนั้น  ติ้งต่างว่าไม่มีปัญหาเรื่องการอยู่-กิน  ครอบครัวนั้นออกลูก หลาน กี่ชั่วคนจึงจะสำรวจจักรวาลได้ทั่วล่ะ  ผมว่าไม่สามารถคาดเดาได้เลยแหละครับ  มันไกลจากความคิดเราเหลือเกิน   หากจะสร้างภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับจักรวาล  ก็สามารถสร้างได้ไม่มีวันจบสิ้น  จินตนาการไปได้เรื่อย ๆ  ;D ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 09:22:16 PM


เรื่องนี้ ทำให้คิดถึง เครื่องทะลุมิติ ทะลุกาลเวลา แต่ทะลุออกไปนอกโลก ไปท่องจักรวาลเลย..  ;D





หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 09:44:55 PM
ผมคิดถึงทฤษฏีรูหนอนครับ  :VOV: ถ้าทำเกิดการยุบตัว(บิดเบี้ยว)ของอวกาศได้ อาจเป็นมวลที่หนักจนดิ่งลึกลงไปจนสร้างรูหนอนได้  :VOV:
แต่จะผ่านรูหนอนไปได้รึเปล่านี่ซิ  ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 10:02:30 PM
ตอบตามความเข้าใจนะครับ  ;D ;D

จักรวาลได้ก่อรูปร่างเมื่อประมาณ 15 พันล้านปีที่แล้ว และขยายตัวด้วยความเร็วแสง (1,079,252,848.8 Km/h) แต่ทฤษฎีในปัจจุบันเชื่อว่าจักรวาลขายตัวด้วยความเร่งที่เพิ่มขึ้น มิใช่ความเร็วคงที่ นั้นหมายความว่า ปัจจุบันนี้จักรวาลมีเส้นผ่านศูนย์มากกว่า 15 พันล้านปีแสง หากเราสามารถสร้างพาหนะใดๆที่เดินทางด้วยความเร็วแสงก็ต้องใช้เวลามากกว่า 15 พันล้านปี จึงจะเดินทางถึงขอบจักรวาลที่อยู่ ณ.เวลาปัจจุบันได้ หรือในอนาคตมนุษย์เราอาจจะทำให้ทฤษฎี การปั่นแรงโน้มถ่วง ขึ้นมาได้สำเร็จก็อาจจะทำให้การเดินทางไปที่ใดๆก็ได้ในจักรวาลเป็นไปได้

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ  ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ชยันโต ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 10:17:19 PM
ความฝันตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงปัจจุบัน คือการได้ขึ้นไปท่องอวกาศนอกโลก  :VOV: :<><>
และสุดๆคืออยากไปเหยียบดวงจันทร์ แม้จะรู้ว่ามันไม่เป็นจริงแต่ก็จะฝันต่อไป ::014:: :) :) ;)


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 10:24:51 PM
จักรวาลกว้างไกลแค่ไหน...ผมจะไม่ไปไหนหรอกอยู่มันบนโลกนี้แหละ
มีอะไรหนุกๆให้ทำเยอะดี ยิงปืน ขับรถ เที่ยว ป่าเขา ทะเล

โดยเฉพาะวิธีการขยายพันธ์ของมนุษย์บนโลกใบนี้มัน คลาสสิคสุดๆแล้ว


ไม่ไป ยืนยันว่า...ไม่ไป


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ กรกฎาคม 09, 2009, 11:14:07 PM
นั่นสครับพี่ Ro@d 
สมัยก่อนผมไม่เข้าใจที่เขาบอกว่า 50 ปีแสง 100 ปีแสง
แต่มาตอนนี้ผมสงสัยว่า ขนาดเราใช้ความเร็วขนาดนั้น
ในชั่วชีวิตคนยังเดินทางไปนอกโลกได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ( ผมหมายถึงกับกาแลคซี่อื่นๆครับ )
แล้วมนุษย์เราจะมีวิธีอื่นไหมครับ นอกจากทำยานอวกาศให้แล่นได้เร็วเท่าแสงหรือเร็วกว่าแสง ( แล้วคนจะนั่งได้ไหมเนี่ย )
ฝึกจิตให้สำเร็จขั้นปรมัติ(บรรลุพระนิพพาน) เดินทางท่องจักรวาลได้ด้วยจิตครับ สนุก แบบเดียวกับที่เราเล่นอินเตอร์เน็ต  


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 02:21:41 AM
ศาสดาของ พุทธศาสนา เดินทางไปถึงแล้วครับ ด้วยจิต


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 08:39:25 AM
จักรวาลในเปลือกนัท คู่กับจินตนาการ ได้อรรถรสกว่าจินตนาการ

ในฝัน เลยสุดขอบจักรวาล เป็นอีกมิติหนึ่ง เป็นภพภาวะที่สมดุลย์ สว่าง
พระพุทธเจ้าองค์โต ล้อมรอบด้วยสงฆ์สาวกองค์เล็ก ๆ  มีรัศมีล้อมพระพระพุทธเจ้า ถัดไปเป็นพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง นับไม่ถ้วน เหมือนคำว่าเม็ดทรายในมหาสมุทร


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 09:49:25 AM
 :VOV:
ครับ
ที่ผมทราบจักรวาลมีเป็นแสนๆๆครับ
 :VOV:


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:02:00 AM
เคยไปนอนเล่นบนชั้นดาดฟ้า แล้วจินตนาการเอาว่า สุดฟากฟ้าจะเป็นอะไร ก็นึกภาพเอาเองว่าเหมือนไข่ไก่ โลกเราเป็นไข่แดง อวกาศเป็นไข่ขาว เปลือกไข่เป็นขอบอวกาศ แต่

พอมานึกอีกที เปลือกไข่มันจะไปสุดถึงใหน คิดไปคิดมาหลับไม่รู้ตัว ::013::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:17:13 AM
ขนาดทะเลบนโลกเราเรายังสำรวจได้ไม่ถึง 30 % เลยครับ  ถ้าจักวาลนี้ผมตายแล้วเกิดอีกสามชาติจะสำรวจหมดรึเปล่าก็ไม่รู้   ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: NOOM 19 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:49:02 AM
สุดขอบของจักรวาลอยู่ที่ไหนผมไม่ทราบ แต่ผมชอบบทสนทนาของนักบินอวกาศกับพิธีกร ตอนที่นักบินอวกาศพูดว่า "ผมอยากให้ผู้มีอำนาจและผู้นำประเทศหลายๆประเทศขึ้นไปบนอวกาศกับผม เขาจะรู้เห็นว่ามนุษย์เรานั้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆนิดเดียวในโลกใบนี้ อย่าคิดทำลายกันเลย"


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ไพโรจน์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:59:31 AM
ศาสดาของ พุทธศาสนา เดินทางไปถึงแล้วครับ ด้วยจิต


     มีเพียงคุณ A.K.A.47 คนเดียวที่ตอบแนวนี้   เรื่องนี้มีคำตอบใน " คิริมานนทสูตร "  ในตอนสังคายนาพระไตรปิฎก พระอานนท์ได้เล่าให้พระมหากัสสปะ และ คณะพระอรหันต์ฟัง

       ผมฟังเสียงบรรยายซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงมานะครับ  ไม่ได้อ่านพระไตรปิฎกนะครับ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:00:57 AM
:VOV:
ครับ
ที่ผมทราบจักรวาลมีเป็นแสนๆๆครับ
 :VOV:

ต้องใช้คำว่าเอกภพซินะ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:20:59 AM
ถ้าหาคำตอบเรื่องกำเนิดได้ก็หาจุดสิ้นสุดได้ครับ :)


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:36:28 AM
ที่ใดๆ มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ต้องมีเหตุปัจจัยแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ณที่นั้น
เมื่อทำการระงับเหตุปัจจัยแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปอย่างถูกต้อง
การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ย่อมไม่เกิด


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:56:22 PM

  ขอบคุณทุกๆท่านครับผม

มีหลากหลายความคิดเห็นดีครับ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:14:44 PM
ศาสดาของ พุทธศาสนา เดินทางไปถึงแล้วครับ ด้วยจิต


     มีเพียงคุณ A.K.A.47 คนเดียวที่ตอบแนวนี้   เรื่องนี้มีคำตอบใน " คิริมานนทสูตร "  ในตอนสังคายนาพระไตรปิฎก พระอานนท์ได้เล่าให้พระมหากัสสปะ และ คณะพระอรหันต์ฟัง

       ผมฟังเสียงบรรยายซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงมานะครับ  ไม่ได้อ่านพระไตรปิฎกนะครับ
นึกว่าเฮียฟังแต่เพลงแร๊พ ::005::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:22:23 PM
ชีวิตนี้ผมสนใจแต่นางงามจักรวาลเท่านั้นครับ เรื่องของระบบสุริยะ เรื่องของดวงดาวอยู่ไกลเกินไป
แม้แต่รูปที่ถ่ายมายังเห็นได้ไม่ชัด สู้รูปทางงามจักรวาลไม่ได้


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:28:20 PM
ชีวิตนี้ผมสนใจแต่นางงามจักรวาลเท่านั้นครับ เรื่องของระบบสุริยะ เรื่องของดวงดาวอยู่ไกลเกินไป
แม้แต่รูปที่ถ่ายมายังเห็นได้ไม่ชัด สู้รูปทางงามจักรวาลไม่ได้

โอ้ เหมือนผมครับพี่บุญ คิดเรื่องนอกโลกมากปวดหัวและกลัวหลุดโลกครับ พี่บุญเคยเห็นคุณ นาตาลี ศรีชาพันธุ์ ตัวจริงหรือเปล่าครับ? สวยกว่าในรูปมาก ขนาดผู้หญิงยังว่าสวยไม่มีที่ติ รูปโฉมเพอเฟกไปหมด


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ..GlockGlack.. ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:34:00 PM
เป็นเรื่องที่คิดไปก็ปวดหัวเปล่าครับ ;D

ขับรถเอง ความเร็วยังไม่เกิน 120 กม./ชม.  ไม่อยากจะนึกถึงความเร็วระดับปีแสง ;D

ถ้าจะคิด  ผมว่าคิดเรื่องย้อนอดีตแบบหนังเรื่อง Somewhere In Time ม่วนกว่าครับ ;)


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:38:49 PM
เป็นเรื่องที่คิดไปก็ปวดหัวเปล่าครับ ;D

ขับรถเอง ความเร็วยังไม่เกิน 120 กม./ชม.  ไม่อยากจะนึกถึงความเร็วระดับปีแสง ;D

ถ้าจะคิด  ผมว่าคิดเรื่องย้อนอดีตแบบหนังเรื่อง Somewhere In Time ม่วนกว่าครับ ;)
Event Horizon เรื่องนี้ก็สนุกครับพี่ GlockGlack ยิ่งปิดไฟมืดๆ ใส่ดูฟังดูนะได้อารมณ์สุด  ;D ;D
วลีเด็ด "ที่ที่เราจะไปไม่ต้องใช้ลูกตาหรอก"  :OO ::003::

(http://fantomplanet.files.wordpress.com/2008/05/event_horizon_ver1.jpg)



หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ..GlockGlack.. ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:58:31 PM
เป็นเรื่องที่คิดไปก็ปวดหัวเปล่าครับ ;D

ขับรถเอง ความเร็วยังไม่เกิน 120 กม./ชม.  ไม่อยากจะนึกถึงความเร็วระดับปีแสง ;D

ถ้าจะคิด  ผมว่าคิดเรื่องย้อนอดีตแบบหนังเรื่อง Somewhere In Time ม่วนกว่าครับ ;)
Event Horizon เรื่องนี้ก็สนุกครับพี่ GlockGlack ยิ่งปิดไฟมืดๆ ใส่ดูฟังดูนะได้อารมณ์สุด  ;D ;D
วลีเด็ด "ที่ที่เราจะไปไม่ต้องใช้ลูกตาหรอก"  :OO ::003::

(http://fantomplanet.files.wordpress.com/2008/05/event_horizon_ver1.jpg)

ดูจากภาพแล้วน่าดูจังครับ :D

แต่ไม่เอาแบบน่ากลัวนะครับ ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 02:02:24 PM
ดูจากภาพแล้วน่าดูจังครับ :D

แต่ไม่เอาแบบน่ากลัวนะครับ ;D
เป็นหนังแนวท่องอวกาศครับ พล๊อคหนัง ยานลำนี้สร้างขึ้นมาโดยใช้ทฤษฎีเดินทางโดยใช้เครื่องปั่นแรงโน้มถ่วง สนุกมากครับ  ;D ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:21:12 PM

ถ้าประตูวิเศษของโดราเอม่อนมีจริงๆก็ดีเนาะ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:56:23 PM
ด้วยความเคารพ มิใช่อวดภูมิ

เรื่อยเปื่อยไปด้วยคนครับ ผมก็ชอบคิดเรื่องแนวนี้ หากมีจังหวะ และอารมณ์พาไป คิดได้สนุกดี แต่ก็ระวังคำที่จะพูด กลัวว่าจะโดนด่าว่า"บ้า"

ตะวันตก มุ่งเน้นทางวัตถุ หากจำไม่ผิด ขณะนี้ยานอวกาศของมนุษย์โลก เดินทางออกไปได้ไกลสุด ก็ขอบๆระบบสุริยะนี่เอง เริ่มเดินทางไปเมื่อ สักประมาณ 30ปี ได้แล้วมั้งครับ ข้อมูลไม่ยืนยันน๊ะครับ เพราะลืมๆ เอากันแบบหยาบๆ เมื่อก่อนติดตามมาก จนเดี๋ยวนี้ อย่างอื่นมันเข้ามายุ่งจนละเลยไป(หากจำไม่ผิดน่าจะชื่อ"ยานวอยเอจเจอร์"ประมาณนี้แหละครับ

จักรวาล กว้างเท่าใหน ไม่มีใครรู้แจ้ง มีแต่คาดการณ์ คำนวนเท่านั้น ไม่มีใครเห็นของจริง

หากใครมีแนวความเชื่อแบบ สวรรค์ มนุษย์ นรก แหล่งที่อยู่ของเผ่าพันธุ์อื่น ก็จะซ้อนกันอยู่ในแนวตั้ง กับโลกมนุษย์ สวรรค์อยู่บน นรกอยู่ต่ำใต้ แต่อยู่ที่ใหน ไม่มีใครรู้ ไปได้อย่างไร ตามความเชื่อ

ไปสวรรค์ก็ต้องทำความดี

ไปนรก ก็ทำความชั่ว

อื่นๆอีกมากมาย


พูดมากไม่ได้ มันเกี่ยวโยงกับความเชื่อ(ศาสนา)

หากจะไปกับปัจจุบัน ทางตะวันออก จะเดินทางด้วยจิต ใช้ฌาณ เดินทาง

ความเร็วของจิตนั้น เคยมีผู้กล่าวใว้(ขออภัยที่ผมนิสัยไม่ดี ไม่เคยจำรายละเอียด และหาอ้างอิงให้ไม่ได้) ความเร็วจิตจะเดินทางด้วยความเร็วที่ยกกำลังขึ้นไปเรื่อยๆ


ด้วยความเคารพ ขออภัยที่ผิดเพี้ยนไปจากกระทู้ น๊ะครับ

เอาสนุก อิๆ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 07:08:52 PM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 07:16:15 PM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D

     แถวบ้านผม(ชัยภูมิ) มีให้เห็นบ่อยๆครับ  เคบไปเอากับพี่ชายสดๆเลยหล่นลงทุ่งนาเสียงดังตึ๊บ...  หลุมกว้างสักเมตรเศษๆ  น้ำงี้เดือดเป็นสิบนาทีเลยครับ  บ้านผมเรียกหินตับกา ดำมันเงา เวลาเอามาเคาะกันเสียงจะใสๆกังวานเพราะดีครับ   :D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ..GlockGlack.. ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 07:33:56 PM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D

     แถวบ้านผม(ชัยภูมิ) มีให้เห็นบ่อยๆครับ  เคบไปเอากับพี่ชายสดๆเลยหล่นลงทุ่งนาเสียงดังตึ๊บ...  หลุมกว้างสักเมตรเศษๆ  น้ำงี้เดือดเป็นสิบนาทีเลยครับ  บ้านผมเรียกหินตับกา ดำมันเงา เวลาเอามาเคาะกันเสียงจะใสๆกังวานเพราะดีครับ   :D
เอามาฝากผมสักเข่งได้ไหมครับ? ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 08:06:04 PM
ด้วยความเคารพ มิใช่อวดภูมิ

เรื่อยเปื่อยไปด้วยคนครับ ผมก็ชอบคิดเรื่องแนวนี้ หากมีจังหวะ และอารมณ์พาไป คิดได้สนุกดี แต่ก็ระวังคำที่จะพูด กลัวว่าจะโดนด่าว่า"บ้า"

ตะวันตก มุ่งเน้นทางวัตถุ หากจำไม่ผิด ขณะนี้ยานอวกาศของมนุษย์โลก เดินทางออกไปได้ไกลสุด ก็ขอบๆระบบสุริยะนี่เอง เริ่มเดินทางไปเมื่อ สักประมาณ 30ปี ได้แล้วมั้งครับ ข้อมูลไม่ยืนยันน๊ะครับ เพราะลืมๆ เอากันแบบหยาบๆ เมื่อก่อนติดตามมาก จนเดี๋ยวนี้ อย่างอื่นมันเข้ามายุ่งจนละเลยไป(หากจำไม่ผิดน่าจะชื่อ"ยานวอยเอจเจอร์"ประมาณนี้แหละครับ

จักรวาล กว้างเท่าใหน ไม่มีใครรู้แจ้ง มีแต่คาดการณ์ คำนวนเท่านั้น ไม่มีใครเห็นของจริง

หากใครมีแนวความเชื่อแบบ สวรรค์ มนุษย์ นรก แหล่งที่อยู่ของเผ่าพันธุ์อื่น ก็จะซ้อนกันอยู่ในแนวตั้ง กับโลกมนุษย์ สวรรค์อยู่บน นรกอยู่ต่ำใต้ แต่อยู่ที่ใหน ไม่มีใครรู้ ไปได้อย่างไร ตามความเชื่อ

ไปสวรรค์ก็ต้องทำความดี

ไปนรก ก็ทำความชั่ว

อื่นๆอีกมากมาย


พูดมากไม่ได้ มันเกี่ยวโยงกับความเชื่อ(ศาสนา)

หากจะไปกับปัจจุบัน ทางตะวันออก จะเดินทางด้วยจิต ใช้ฌาณ เดินทาง

ความเร็วของจิตนั้น เคยมีผู้กล่าวใว้(ขออภัยที่ผมนิสัยไม่ดี ไม่เคยจำรายละเอียด และหาอ้างอิงให้ไม่ได้) ความเร็วจิตจะเดินทางด้วยความเร็วที่ยกกำลังขึ้นไปเรื่อยๆ


ด้วยความเคารพ ขออภัยที่ผิดเพี้ยนไปจากกระทู้ น๊ะครับ

เอาสนุก อิๆ

   ถ้าพี่เข้มจะไปจักรวาลอื่น..อย่าลืมโอนให้ผมบ้างสัก บอก นะ

รับรองผมจะอยู่เฝ้าโลกนี้จักรวาลนี้ให้เองกลับมาเมื่อไหร่ยังได้ยิงปืนของรักของหวงเสมอ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: General Lee ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 08:38:59 PM
พร้อมจะไปอวกาศกันหรือยังครับกับ Project Virgin galactic
Virgin Galactic promotional trailer starring Richard Branson (http://www.youtube.com/watch?v=t4h247PPOrY#lq-lq2-hq)

ปัจจุบันยานแม่ White knight เสร็จแล้วน่ะครับ(เก็บเงินรอได้เลยครับ ;D)
Virgin Galactic White Knight 2 (http://www.youtube.com/watch?v=YFdL8b03qdU#ws-lq-lq2-hq-vhq-hd)


อัตราค่าโดยสารซึ่งเริ่มต้นที่ $200,000 หรือ ประมาณ 7 ล้านบาท

แอบเขียนไว้นี้ครับ
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=71580.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=71580.0)

web virgin galactic
http://www.virgingalactic.com/flash.html?language=english (http://www.virgingalactic.com/flash.html?language=english)

ปล.พอดีทำproject เรื่องนี้อยู่ครับ ท่านใดสนใจสอบถามได้เลยครับยินดีครับ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 08:45:30 PM
ด้วยความเคารพ มิใช่อวดภูมิ

เรื่อยเปื่อยไปด้วยคนครับ ผมก็ชอบคิดเรื่องแนวนี้ หากมีจังหวะ และอารมณ์พาไป คิดได้สนุกดี แต่ก็ระวังคำที่จะพูด กลัวว่าจะโดนด่าว่า"บ้า"
 

ถ้าผมรวยมากกว่าคนที่รวยที่สุดในโลก เมื่อผมตายผมอยากให้ศพของผมอยู่ในแคปซูล จ่ายเงินให้องค์การนาซ่าหรือหน่วยงานอวกาศอันทันสมัยของประเทศไดก็ได้ พาร่างไร้วิญญาณของผมขึ้นไปพร้อมกับจรวด แล้วปล่อยแคปซูลที่บรรจุร่างไร้วิญญาณของผมให้ล่องลอยไปในจักรวาลอันเวิ้งว้างไร้ขอบเขต ค้นหาสุดขอบของจักรวาล.. ???

 หยุดแค่นี้ก่อนเดี๋ยวมีคนหาว่าผมบ้า..เหมือนกัน ครับ :)  ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:42:31 PM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D
ของแปลกที่สุดที่ผมเคยเก็บได้ในป่าคือ ไม้กลายเป็นหินครับพี่ Ro@d  ;D ;D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 12:57:14 AM
ต้องคิดค้นยาน ที่เดินทางความเร็วเท่ากับใจ ( ใจไวกว่าแสง  ;D)...

และคงต้องเรียน สาขาเอก ไสยศาสตร์...จบในขั้นสูงสุด  :D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 01:32:18 AM
แหม...ขออีกสักหัวข้อนะครับพี่น้อง

เพื่อนๆพี่ๆว่า ในอนาคตอันใกล้สัก10-20 ปี

มนุษย์จะค้นพบสุดขอบจักรวาลไหมครับ

ไม่ใช่อะไรครับ ผมสงสัยจริงๆว่า จักรวาลนี่มันมีที่สิ้นสุดไหมครับ

บางข้อมูลก็บอกว่ามีหลายจักรวาล โห.......แล้วต่อกันอย่างไร

( อย่าหาว่าไร้สาระครับ  สงสัยและอยากรู้จริงๆ )

  คำถามเรื่องนี้ผมขออนุญาตยังไม่ตอบ  ถึงแม้จะติดตามอ่านมาหลายวัน
แต่ผมจะขอร้องสมาชิกท่านใดที่เก่งวิชา
ภูมิศาสตร์ช่วยหาให้ผมทีว่า"เทือกเขาอัลไต"(พิมพ์ผิดไม่ว่ากันน่ะผมจบมาจากลาว)
อยู่ส่วนไหนของแผนที่โลก  ผมโง่ครับหาไม่เจอ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 01:35:01 AM
จักรวาลกว้างไกลแค่ไหน...ผมจะไม่ไปไหนหรอกอยู่มันบนโลกนี้แหละ
มีอะไรหนุกๆให้ทำเยอะดี ยิงปืน ขับรถ เที่ยว ป่าเขา ทะเล

โดยเฉพาะวิธีการขยายพันธ์ของมนุษย์บนโลกใบนี้มัน คลาสสิคสุดๆแล้ว


ไม่ไป ยืนยันว่า...ไม่ไป

เช่นกัน.......ในโลกยังไปไม่ครบเลย    


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 01:42:44 AM
  อืม...ตอบก็ได้"จักรวาล"ไม่มีที่สิ้นสุดครับ  แถวปากทางลาดพร้าว,ตรงข้ามตลาดบางกะปิ,หน้ารามฯ,ในรามฯ ยังมีจักรวาลเลยครับ.............แต่เป็นร้านรับถ่ายรูป/อัดรูปน่ะครับ ::005::
  ที่อื่นก็อาจจะมีแต่ผมยังไม่ได้ผ่านไป


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: watchrapong(รักในหลวง) ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 04:52:02 AM

   เคยฟังพระเทศท่านว่า ตอนพระศาสดาเอาชนะพญามารได้สำเร็จ พญามารกลัวบุญบารมีพระศาสดาถอยหนีไป สุดขอบสกลจักวาล ผมว่าพญามารคงไปไกลน่าดูครับ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 07:44:18 AM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D


ครับ
หินดาวตกมีขายครับ
มีร้าน1 อยู่ตรง 3 แยกตรงถนนสุรวงศ์ กับถนนเจริญกรุงครับ
เคยเข้าไปดู มีมากมาย หลายราคาครับ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 08:32:40 AM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D


ครับ
หินดาวตกมีขายครับ
มีร้าน1 อยู่ตรง 3 แยกตรงถนนสุรวงศ์ กับถนนเจริญกรุงครับ
เคยเข้าไปดู มีมากมาย หลายราคาครับ


ขอบคุณมากครับ คุณ กอบ.  :D


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 12:40:50 PM
...............ผมว่าจักวาลหาที่สุดมิได้..............เหมือนใจผู้หญิง.....................บางคน.......... ::014::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: JOKER48111 **รักเมืองไทย_รักในหลวง** ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 12:57:42 PM
ขอรับฟังครับ


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 07:06:40 PM
เพิ่งนึกคำตอบได้ สุดขอบจักรวาลน่าจะอยู่ที่เดียวกับสุดขอบกาลเวลาครับ..ผมว่า..5555..
(กาลเวลาล่ะมีที่สิ้นสุดไหม ?)


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Ch@i-Yo. ที่ กรกฎาคม 11, 2009, 10:06:11 PM

เวลาผมไปเที่ยว ถึงคราวต้องอยู่กับธรรมชาติ ผมจะก้ม มองหาหินแปลก ๆ.. หินอุกาบาต หินจากดวงดาว
ที่เดินทางมาไกลโพ้น

แต่ยังเก็บไม่ได้ สักชิ้นเลยครับ.. เคยเห็นชิ้นขนาดหลายกิโล ที่ ชาวบ้านนำมาถวายวัด 
ดำมัน เลื่อม เป็นริ้ว เหมือนน้ำไหล  :D


ครับ
หินดาวตกมีขายครับ
มีร้าน1 อยู่ตรง 3 แยกตรงถนนสุรวงศ์ กับถนนเจริญกรุงครับ
เคยเข้าไปดู มีมากมาย หลายราคาครับ


ผมก็ชอบดวงดาว อวกาศครับ แหงนหน้ามองดูดาวทุกคืน เพราัะบ้านอยู่กลางทุ่ง หินที่ว่าผมได้มา 2 ก้อน ก้อนแรกป้าให้ก่อนเสีย  ก้อนที่สองเอาพระไปแลกมา ลองใช้แว่นขยายส่องดูเห็นเป็นลายสวยงามมาก พี่ที่ให้แลกมามีหลายก้อน ลองทุบดู แตกเป็นเหมือนแก้วสีดำ เคยเห็นที่ไนท์ฯ เชียงใหม่ขายก้อนละ 50-100 บาท สงสัยว่าทำไมมันเยอะขนาดนี้ และไปขุดมาจากไหน ผมว่าหากเป็นอุกาบาตที่ตกลงใส่โลกน่าจะฝังดินลึกหลายสิบเมตร ขอความเห็นเพื่อนสมาชิกด้วยครับ   


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ กรกฎาคม 12, 2009, 12:08:36 PM
ตอบตามความเข้าใจนะครับ  ;D ;D

จักรวาลได้ก่อรูปร่างเมื่อประมาณ 15 พันล้านปีที่แล้ว และขยายตัวด้วยความเร็วแสง (1,079,252,848.8 Km/h) แต่ทฤษฎีในปัจจุบันเชื่อว่าจักรวาลขายตัวด้วยความเร่งที่เพิ่มขึ้น มิใช่ความเร็วคงที่ นั้นหมายความว่า ปัจจุบันนี้จักรวาลมีเส้นผ่านศูนย์มากกว่า 15 พันล้านปีแสง หากเราสามารถสร้างพาหนะใดๆที่เดินทางด้วยความเร็วแสงก็ต้องใช้เวลามากกว่า 15 พันล้านปี จึงจะเดินทางถึงขอบจักรวาลที่อยู่ ณ.เวลาปัจจุบันได้ หรือในอนาคตมนุษย์เราอาจจะทำให้ทฤษฎี การปั่นแรงโน้มถ่วง ขึ้นมาได้สำเร็จก็อาจจะทำให้การเดินทางไปที่ใดๆก็ได้ในจักรวาลเป็นไปได้

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ  ::014:: ::014::

ผิดถูกอย่างไรไม่รู้ .... แค่อยากรู้ว่า ๑๕ พันล้านปีที่ว่า ... วัดอย่างไร ....

การประมาณการทางวิทยาศาสตร์ อย่าฟังแต่ตัวเลข ต้องหาด้วยว่าเขาคิดมาอย่างไร ....

งานวิทยาศาสตร์บางอย่าง เก็บกระดูกได้ไม่กี่ชิ้น แต่สามารถสร้างรูปร่างเต็ม ๆ ของเจ้าของกระดูกได้ แถมรู้ว่าเป็นเพศหญิงเสียด้วย  ::007:: ::007:: ::007::

(http://www.selamta.net/Lucy_files/image002.jpg) (http://www.selamta.net/Lucy.htm)

ผมเคยผ่าน ๆ ตาความคิดที่ว่า .... คุณไปที่ (หรือมองเห็น) ขอบของจักรวาลไม่ได้หรอก เพราะอวกาศมันโค้ง  ::005:: ::005::

คำอธิบายคือ เมื่อเดินทางตรงไปเรื่อย ๆ (ไกล ๆ นาน ๆ) แรงโน้มถ่วงจากดวงดาวต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดึงคุณทีละน้อย ทีละน้อย ... จนคุณค่อย ๆ ตีโค้งกลับมาที่เดิม  ::007:: ::007::  ไม่เฉพาะกับวัตถุ แม้กับแสงก็ด้วยครับ  :OO

ตอนเด็ก ๆ เคยอ่านการตูนสั้นเรื่องหนึ่ง ... พระเอกได้พบรักกับนางเอกซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาว .... ที่ใช้ยานความเร็วเหนือแสง วิ่งผ่านอวกาศมา เพื่อ .... ใช้กล้องดูดาวเฝ้าดูแสงจากดาวของเธอ .... เพื่อให้เห็นภาพอดีตของเธอกับคนรัก เมื่อครั้งคนรักยังมีชิวิตอยู่ ..... สุดท้ายพระเอกก็ต้องแห้วไปตามระเบียบ เพราะนางเอกก็กระโดดขึ้นยานวิ่งล่วงหน้าแสงแห่งอดีตไปยังดาวถัดไป  ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 05:56:45 PM

>> ขออนุญาตดึงกระทู้ครับ <<

(http://www.kalyanamitra.org/daily/images/bd130548.gif)

ความลับของจักรวาล ในพระไตรปิฏก

ขนาดของจักรวาล

จักรวาลอันหนึ่ง โดยยาวและโดยกว้าง ประมาณ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ (๑ โยชน์ = ๑๖ กิโลเมตร)
ส่วนโดยรอบปริมณฑลทั้งสิ้น (ของจักรวาลนั้น) ประมาณ ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์

ขนาดหนาของแผ่นดิน ในจักรวาลนั้น
แผ่นดินนี้ กล่าวโดยความหนา มีประมาณถึงเท่านี้ คือ ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์

ขนาดหนาของน้ำรองแผ่นดิน สิ่งที่รองแผ่นดินนั้นหรือ
คือน้ำอันตั้งอยู่บนลม โดยความหนามีประมาณถึงเท่านี้ คือ ๔๘๐,๐๐๐ โยชน์

ขนาดความหนาของลมรองน้ำ
ลมอัน (พัดดัน) ขึ้นฟ้า (โดยความหนา) มีประมาณ ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์ นี่เป็นความตั้งอยู่พร้อมมูลแห่งโลก

ขนาดภูเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) และต้นไม้ประจำทวีป
อนึ่ง ในจักรวาลที่ตั้งอยู่พร้อมมูลอย่างนี้นั้น มี
ภูเขาสิเนรุอันเป็นภูเขาสูงที่สุด หยั่ง (ลึก) ลงไปในมหาสมุทร ๘๔,๐๐๐ โยชน์ สูงขึ้นไป (ในฟ้า) ก็ประมาณเท่ากันนั้น
ภูเขาใหญ่ทั้งหลาย คือภูเขายุคันธร ภูเขาอิสินธร ภูเขากรวีกะ ภูเขาสุทัสสนะ ภูเขาเนมินธระ
ภูเขาวินตกะ ภูเขาอัสสกัณณะ อันตระการไปด้วยรัตนะหลากๆ ราวกะภูเขาทิพย์ หยั่ง (ลึก) ลงไป
(ในมหาสมุทร) และสูงขึ้นไป (ในฟ้า) โดยประมาณกึ่งหนึ่งแต่ประมาณแห่งภูเขาสิเนรุไปตามลำดับ
ภูเขาใหญ่ทั้ง ๗ นั้น (ตั้งอยู่) โดยรอบภูเขาสิเนรุเป็นที่อยู่ของ (จาตุ)มหาราช เป็นที่ๆ เทวดา และยักษ์อาศัยอยู่

ภูเขาหิมวาสูง ๕๐๐ โยชน์ ยาวและกว้าง ๓,๐๐๐ โยชน์ (เท่ากัน) ประดับไปด้วยยอดถึง ๘๔,๐๐๐ ยอด
ต้นชมพู (หว้า) ชื่อนคะ วัดรอบลำต้นได้ ๑๕ โยชน์ ลำต้นสูง ๕๐ โยชน์ และกิ่ง (แต่ละกิ่ง)
ก็ยาว ๕๐ โยชน์ แผ่ออกไปวัดได้ ๑๐๐ โยชน์โดยรอบ และสูงขึ้นไปก็เท่ากันนั้น ด้วยอานุภาพของ
ต้นชมพู (นี้) ไรเล่า ทวีปนี้จึงถูกประกาศชื่อว่า ชมพูทวีป
ก็แลขนาดของต้นชมพูนี้ใด ขนาดนั้นนั่นแหละเป็นขนาดของต้นจิตรปาฏลี (แคฝอย) ของพวกอสูร
ต้นสิมพลี (งิ้ว) ของพวกครุฑ ต้นกทัมพะ (กระทุ่ม) ในอมรโคยานทวีป ต้นกัปปะในอุตตรกุรุทวีป
ต้นสิรีระ (ซึก) ในบุพพวิเทหทวีป ต้นปาริฉัตตกะ ในดาวดึงส์ เพราะเหตุนั้นแล ท่านโบราณจารย์จึงกล่าวไว้ว่า
(ต้นไม้ประจำภพและทวีป คือ) ต้นปาฏลี ต้นสิมพลี ต้นชมพู ต้นปาริตฉัตตะของพวกเทวดา
ต้นกทัมพะ ต้นกัปปะ และต้นที่ ๗ คือ ต้นสิรีสะ ดังนี้


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 05:58:47 PM

(http://www.phobos.pcm.hr/slike/pinwheel-galaxy-m101.jpg)

ขนาดภูเขาจักรวาล

ภูเขาจักรวาล หยั่ง (ลึก) ลงไปในมหาสมุทร ๘๒,๐๐๐ โยชน์
สูงขึ้นไป (ในฟ้า) ก็เท่ากันนั้น
ภูเขาจักรวาลนี้ตั้งล้อมโลกธาตุทั้งสิ้นนั้นอยู่

ขนาดของภพและทวีป
ในโลกธาตุนั้น มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ภพดาวดึงส์ ๑๐,๐๐๐ โยชน์ ภพอสูร มหานรกอเวจี และชมพูทวีปก็
เท่ากันนั้น อมรโคยานทวีป ๗,๐๐๐ โยชน์ บุพพวิเทหทวีปก็เท่านั้น อุตตรกุรุทวีป ๘,๐๐๐ โยชน์ อนึ่ง ในโลกธาตุนั้น
ทวีปใหญ่ๆ ทวีป ๑ ๆ มีทวีปน้อยเป็นบริวาร ทวีปละ ๕๐๐
สิ่งทั้งปวง (ที่กล่าวมานี้) นั้น (รวม) เป็นจักรวาล ๑ ชื่อว่า โลกธาตุอัน ๑ ๑ในระหว่างแห่งโลกธาตุ
ทั้งหลายมีโลกันตนรก (แห่งละ ๑)

๑. มหาฎีกาว่า จักรวาล ก็คือโลกธาตุ โลกธาตุได้ชื่อว่า จักรวาล ก็เพราะมีภูเขาจักรวาล ซึ่งสัณฐานดังกง
รถล้อมอยู่โดยรอบเท่านั้นเองไม่ใช่จักรวาลอัน ๑ โลกธาตุอัน ๑
๒. ท่านว่าจักรวาลหรือโลกธาตุนั้นมีมากนัก ช่องว่างในระหว่างจักรวาล ๓ จักรวาลต่อกัน มีโลกันตนรก ๑
ทุกแห่งไป โดยนัยนี้ คำว่า โลกันตนรก ก็แปลว่า นรกอันตั้งอยู่ในช่องระหว่างจักรวาล ๓ อันนั่นเอง


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:00:58 PM

พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "จูฬนีสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๒๑๕ เล่ม ๒๐ ว่า
จักรวาล ประกอบด้วยดวงจันทร์ โลก ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจร ไปร่วมกัน
จะมีขุนเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) (เป็นภูเขาทิพย์ที่เห็นได้เฉพาะผู้มีอภิญญา) ทวีปต่างๆ ที่ตั้งชื่อกันในสมัย
นั้นคือ ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป อุตรกุรุทวีป และปุพพวิเทหทวีป มหาสมุทรทั้ง ๔ (นับกันได้ในสมัยนั้น)
มีนรกขุมต่างๆ สวรรค์ชั้นต่างๆ และพรหมโลกชั้นต่างๆ
โลกธาตุ มี ๓ ขนาด คือ โลกธาตุอย่างเล็กมีจำนวนพันจักรวาล โลกธาตุอย่างกลางมีจำนวนล้านจักรวาล
โลกธาตุอย่างใหญ่มีจำนวน แสนโกฏิจักรวาล

ทั้งโลกธาตุอย่างเล็กก็ดี อย่างกลางก็ดี อย่างใหญ่ก็ดี ยังมีอีกจำนวนมากมาย
"ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกดับไปในที่สุด"
กำเนิดของโลกพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "อัคคัญญสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๖๑ เล่ม ๑๑ ว่า
เกิดมีน้ำขึ้นในห้วงอวกาศอันมืดมิดก่อนแล้วนานๆไปเกิดการรวมตัวงวดเข้าเป็นง้วนดิน แล้วพัฒนาเป็นกระบิดิน
ต่อไปเป็นเครือดิน จากนั้นมีต้นข้าวและพืชทั้งหลายเกิดขึ้น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หมู่ดาว
นรกขุมต่างๆ เทวโลก และพรหมโลกชั้นต่างๆ ก็เกิดขึ้นเอง

กำเนิดชีวิตพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "เพราะมีความอยาก จึงมีการเกิดเป็นสัตว์เป็นบุคคลขึ้นมา
เมื่อไม่มีความอยากการเกิดเป็นสัตว์เป็นบุคคลก็ไม่มี"


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:01:40 PM

กำเนิดชีวิตในจักรวาลอื่น ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงกันอยู่ว่ามีหรือไม่มี ?
และยังคงไม่มีใครสามารถสร้างเครื่องมือติดต่อค้นหาเพื่อตอบคำถามนี้ได้
แต่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แน่นอนมากว่าสองพันปีแล้วว่า "มี"

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า "ดวงอาทิตย์ มีเส้นผ่าศูยน์กลางประมาณ ๑,๔๐๐,๐๐๐ กิโลเมตร
หรือโตกว่าโลกประมาณ ๑๐๙ เท่า มีน้ำหนักประมาณ ๒ x ๑,๐๓๐ กิโลกรัม (หรือ ๒๐ ตามด้วย ๐ จำนวน ๓๐ ตัว)
เนื้อตัวทั้งหมดของดวงอาทิตย์เป็นธาตุไฮโดรเจนซึ่งเป็นธาตุเบา เผาไหม้ตัวเองด้วยปฏิกิริยา
เทอร์โมนิวเคลียร์ จากภายในใจกลางออกมาไม่ใช่เผาไหม้เฉพาะพื้นผิว
สิ้นมวลของตัวเองวินาทีละ ๔ ล้านตัน เผาไหม้อย่างนี้มาแล้ว ๕,๕๐๐ ล้านปี
และจะเผาไหม้อย่างนี้ต่อไปอีก ๕,๕๐๐ ล้านปี" เมื่อเป็นเช่นนี้ลองคิดดูว่าวันหนึ่งมีกี่วินาที ?
ต่อให้ดวงอาทิตย์หรือดาวฤกษ์นั้นใหญ่โตขนาดไหนก็ตาม น่าจะย่อยยับหมดสิ้นภายในวันเดียว
แต่ดวงอาทิตย์หรือดาวฤกษ์นั้นก็ยังอยู่ยืนยาวมานานนับพันๆล้านปี โดยยังมีขนาดเท่าเดิม "
นี้คือความมหัศจรรย์ที่ยังคงเหนือการพิสูจน์

อีกอย่างหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนว่า "เวลาอันยาวนานในอนาคต
ดวงอาทิตย์จะขยายตัวบวมขึ้นจนมีขนาดโตถึงวงโคจรของโลก
แล้วกลืนกินโลกและดาวเคราะห์วงในทั้งหมด และเมื่อเวลายาวนานอีกต่อไป
ก็จะค่อยๆยุบตัวลงกลายเป็นดาวแคระ คือจะมีขนาดเล็กลงเท่าโลกแต่มีความร้อนจัด
ดาวฤกษ์บางดวงก็ยุบตัวลงเป็นดาวนิวตรอนที่มีขนาดเส้นผ่าศูยน์กลางเพียง ๒๕-๓๐
กิโลเมตร และดาวฤกษ์บางดวงก็ยุบตัวลงเป็นหลุมดำ"


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:02:17 PM

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ในอนาคตอันยาวไกลในสุริยะจักรวาล จะมีดวงอาทิตย์เกิดขึ้น
เองเพิ่มขึ้นทีละดวงๆ จนครบ ๗ ดวง แล้วเผาไหม้โลกและดาวเคราะห์บริวารทั้งหมด
นรกทุกขุม สวรรค์ทุกชั้น และพรหมโลกชั้นต่ำๆ รวมทั้งดวงอาทิตย์ทั้ง ๗ ดวงนั้น
ก็พินาศไปด้วย แล้วก็จะมีแต่ความมืดมิดจนนานแสนนาน ก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่อีก" (สุริยะสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ หน้า ๘๓)

นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย คือปุถุชนผู้ที่ยังมีกิเลสตัณหา ตั้งทฤษฎีมาจากการคาดคะเน
การนึกคิด การเดา การสันนิษฐาน การค้นคว้าทดลอง การสังเกตจดจำ
การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก แต่ทฤษฎีเหล่านั้นก็ยังไม่ตายตัว
พร้อมที่จะถูกลบล้างได้ตลอดเวลา
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย คือบุคคลพิเศษ วิเศษ เป็นอัจฉริยะมนุษย์ เป็นบุคคลเอก
ที่ไม่มีใครเสมอเหมือน เป็นผู้สิ้นกิเลสตัณหา เป็นผู้มีญาณวิเศษรู้อดีต ปัจจุบัน
และอนาคต เป็นผู้ตรัสรู้ เป็นผู้รู้แจ้งโลก ดังนั้นพระสูตรหรือทฤษฎีต่างๆที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว
จึงตายตัวไม่มีใครลบล้างได้



ลักษณะของจักรวาล คือ มีเขาสิเนรุเป็นแกนกลาง มี เขาสัตตบริภัณฑ์ คือ เขาล้อมรอบ ๗ ชั้น
ซึ่งมี สีทันดรมหาสมุทร คั่นอยู่ในระหว่าง ตั้งเป็นรูปร่างขึ้นไว้ก่อน ภูมิสวรรค์อยู่พ้นทวีปทั้งหลาย
ซึ่งเป็นที่อยู่ของมนุษย์ เช่น ชมพูทวีปซึ่งมีอินเดียเป็นศูนย์กลาง จึงอยู่พ้นป่าหิมพานต์
พ้นภูเขาหิมวันตะหรือ หิมาลัย พ้นมหาสมุทรแห่งทวีปทั้งปวง แล้วถึงภูเขาสัตตบริภัณฑ์
ตั้งต้นแต่ภูเขาสุทัสสนะ จนถึงภูเขาอัสสกัณณะ จึงเป็นอันถึงสวรรค์ชั้นที่ ๑ เพราะยอดเขา
สัตตบริภัณฑ์เหล่านี้เองเป็นที่อยู่ของท้าวมหาราช ๔ องค์กับบริวาร นับเป็นสวรรค์ชั้นที่ ๑ เรียกว่า จาตุมหาราชิก

ท้าวมหาราช ๔ องค์นี้ แบ่งกันครอบครอง ดั่งนี้


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:03:33 PM

๑)ด้านทิศตะวันออกของเขาสิเนรุเป็นที่อยู่ของ ท้าวธตรัฏฐะ
มีพวกคนธรรพ์เป็นบริวาร (ถัดออกไปเป็นปุพพวิเทหทวีป)

๒)ด้านทิศใต้เป็นที่อยู่ของ ท้าววิรุฬหก มีพวกกุมภัณฑ์เป็นบริวาร
(ถัดออกไปเป็นชมพูทวีป) พวกกุมภัณฑ์นี้ ท่านอธิบายว่าได้แก่ ทานพรากษส

๓)ด้านทิศตะวันตกของเขาสิเนรุเป็นที่อยู่ของ ท้าววิรูปักข์ มีพวกนาคเป็นบริวาร (ออกไปเป็น อมรโคยานทวีป)

๔)ด้านทิศเหนือของเขาสิเนรุเป็นที่อยู่ของ ท้าวกุเวร มีพวกยักษ์เป็นบริวาร (ถัดออกไปเป็นอุตตรกุรุทวีป)

ท้าวมหาราชที่ ๔ ครองอยู่ ๔ ทิศของเขาสิเนรุ มีกล่าวถึงใน อาฏานาฏิยสูตร
หน้าที่ของท้าวมหาราชที่ ๔ และบริวารตามที่ได้กล่าวไว้ คือเป็นผู้รับด่านหน้า
ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อป้องกันพวกอสูรซึ่งเป็นศัตรูของเทพชั้นดาวดึงส์จะ
ยกมาตีเอาถิ่นสวรรค์ชั้นนั้น แต่ใน สุตตันตปิฎก ติกนิบาต ได้มีแสดงหน้าที่ให้
เป็นผู้ตรวจ ซึ่งเป็นที่อยู่ของหมู่มนุษย์อีกด้วย แสดงเป็นพระพุทธภาษิตมีความว่า
ในวัน ๘ ค่ำแห่งอมาตย์บริษัทของท้าวมหาราชทั้ง ๔ เที่ยวตรวจดูโลก ในวัน ๑๔ ค่ำแห่งปักข์
บุตรทั้งของท้าวมหาราชทั้ง ๔ เที่ยวตรวจดูโลก ในวัน ๑๕ ค่ำแห่งปักษ์
ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ตรวจดูโลกเองว่าพวกมนุษย์พากันบำรุงบิดามารดา
บำรุงสมณพราหมณ์ เคารพนบน้อมผู้ใหญ่ในตระกูล รักษาอุโบสถ ทำบุญกุศล
มีจำนวนมากด้วยกันอยู่หรือ เมื่อตรวจดูแล้ว ถ้าเห็นว่ามีจำนวนน้อย ก็ไปบอกแก่พวกเทพชั้นดาวดึงส์
ซึ่งประชุมกันใน สุธรรมสภา พวกเทพชั้นดาวดึงส์ เมื่อได้ฟังดั่งนั้นก็มีใจหดหู่ว่า ทิพยกายจักลดถอย
อสุรกายจักเพิ่มพูน แต่ถ้าเห็นว่าพวกมนุษย์พากันทำดี มีบำรุงมารดาบิดาเป็นต้น เป็นจำนวนมาก
ก็ไปบอกแก่พวกเทพชั้นดาวดึงส์เหมือนอย่างนั้น พวกเทพชั้นดาวดึงส์ก็พากันมีใจชื่นบานว่า
ทิพยกายจักเพิ่มพูน อสุรกายจักลดถอย ๑


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:04:42 PM
ท้าวมหาราชทั้ง ๔ มีหน้าที่เป็น จตุโลกบาล คือ เป็นผู้คุ้มครองโลกทั้ง ๔ ทิศ

ตามที่เชื่อถือกันมาเก่าก่อนพระพุทธศาสนา แต่เมื่อพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นแล้ว

พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง ธรรมเป็นโลกบาล คือ คุ้มครองโลกไว้ ๒ ข้อ คือ หิริ

ความละอายใจ ที่จะทำชั่ว โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อความชั่ว เพราะเหตุนี้

จึงไม่กล่าวให้ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ทำหน้าที่คุ้มครองโลกโดยตรง จะไม่กล่าวถึงเลย

ก็จะขัดขวางต่อความเชื่อของคนทั้งหลายจนเกินไป จึงกล่าวเปลี่ยนไปให้มีหน้า

ที่เที่ยวตรวจดูโลกมนุษย์ ว่าได้พากันทำดีมากน้อยอย่างไร แล้วก็นำไปรายงาน

พวกเทพชั้นดาวดึงส์ พวกเทพชั้นนั้นได้รับรายงานแล้วก็เพียงแต่มีใจชื่นบานหรือ

ไม่เท่านั้น เห็นได้ว่าท่านผู้รวบรวมร้อยกรองเรื่องนี้ไว้ในพระสุตตันตปิฎก ต้องการ

จะรักษาเรื่องเก่าที่คนส่วนมากเชื่อถือ ด้วยวิธีนำมาเล่าให้เป็นประโยชน์ในทางตักเตือนให้ทำดี

เหมือนอย่างที่มีคำเก่ากล่าวไว้ว่า ถึงคนไม่เห็น เทวดาก็ย่อมเห็น คือ สดงจตุโลกบาลที่

เขาเชื่อกันอยู่แล้วในทางที่อาจเข้าใจเป็นธรรมาธิษฐาน ซึ่งเป็นข้อมุ่งหมายโดยตรง

ถึงจะเชื่อว่ามีตัวตนอยู่จริงและคอยมาตรวจดูโลกว่า ใครทำดีไม่ดีอย่างไรก็ไม่เสียหาย

กลับจะดีเพราะจะได้เกิดละอายกลัวเกรงว่า จตุโลกบาลจะรู้จะเห็นว่าทำไม่ดี หรือไม่ทำดี

เป็นอันหนุนให้เกิดหิริโอตตัปปะขึ้นได้ ผู้ที่ไม่ยอดเชื่อเสียอีกอาจจะร้ายกว่า

เพราะไม่มีที่ละอายยำเกรง เว้นไว้แต่จะมีภูมิธรรมในจิตใจดีอยู่แล้ว หรือมีที่ละอายยำ

เกรงอย่างอื่นแทนอยู่ วันที่ท่านกล่าวว่าจตุโลกบาลมาตรวจดูโลก เดือนหนึ่งมีไม่กี่วัน

ดูเหมือนจะน้อยไป แต่คงไม่หมายความว่าตรวจกรรมของคนเฉพาะวันนั้น วันอื่นไม่เกี่ยวข้องด้วย

ควรเข้าใจว่า ตรวจดูรู้ย้อนไปถึงวันอื่นๆ ในระหว่างที่ไม่ได้ลงมานั้นด้วย ตัวของเราเองทุกๆ

คนนึกย้อนตรวจดูกรรมของตนเองภายใน ๗ วันยังจำได้ ไฉนโลกบาลจะไม่รู้กรรมที่ตนเองทำ

แม้จะลืมไปแล้ว โลกบาลก็ต้องรู้ เมื่อเชื่อว่าโลกบาลมีจริง ก็ควรจะเชื่ออย่างนี้ด้วย

จึงจะเป็นโลกบาลที่สมบูรณ์ สรุปลงแล้วทำความเข้าใจว่า โลกบาลมาตรวจตราดูที่จิตใจนี้เอง

จะเกิดประโยชน์มาก.


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:06:40 PM

ตามหลักในการจัดภูมิต่างๆ สัตว์ดิรัจฉานเป็นอบายภูมิต่ำกว่าภูมิมนุษย์และสวรรค์

พระอาจารย์จึงกล่าวว่าในสวรรค์ไม่มีสัตว์เดียรัจฉาน การเกิดในสวรรค์ เกิดโดยอุปปาติก

กำเนิดอย่างเดียว จึงน่ามีปัญหาว่า พวกนาคซึ่งเป็นบริวารของท้าวมหาราชจะจัดว่าเป็นภูมิอะไร

นอกจากนี้ บริวารของท้าวมหาราชจำพวกอื่น เช่น พวกกุมณฑ์ ก็มีลักษณะพิกล

ยักษ์บางพวกก็ดุร้าย เป็นผีเที่ยวสิงมนุษย์ก็มี ดูต่ำต้อยกว่าภูมิมนุษย์

แต่ก็อยู่ในสวรรค์ชั้นหนึ่งนี้ด้วย ตามที่กล่าวมานี้ น่าเห็นว่าเก็บเอามาจากเรื่องเก่าๆ

จึงฟังไม่สนิทตามหลักการจัดภูมิต่าง ๆ ดั่งกล่าว

(http://www.nasa.gov/images/content/133520main_aliens-planets-browse.jpg)

ชมพูทวีป หมายถึง โลกมนุษย์ทั้งหมด ไม่ใช่อินเดีย-เนปาล
อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ ดังมีหลักฐานที่พระพุทธเจ้าแสดงดังนี้

ทวีปต่างๆในจักรวาล

๑) ชมพูทวีป ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)

-มีธาตุมรกตอยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุมรกตทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของชมพูทวีปมีสีน้ำเงินแกมเขียว

-มนุษย์ที่ชมพูทวีป มีความสูง ๔ ศอก มีอายุประมาณ ๑๐๐ ปี (อาจตายก่อนอายุได้ ไม่แน่นอน)

-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ อายุยิ่งหย่อนขึ้นอยู่กับคุณธรรม ไม่แน่นอน
 
-สมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "พระวิปัสสี" มนุษย์ในชมพูทวีปมีอายุถึง ๘๐,๐๐๐ ปี

-สมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "พระเรวะตะ" มนุษย์ในชมพูทวีปมีความสูงถึง ๘๐ ศอก

-แต่เมื่อคุณธรรมเสื่อมลง จิตใจหยาบช้าลง อาหารเลวลง อายุก็ลดลง ร่างกายก็เตี้ยลง

-ต่อไปภายภาคหน้ามนุษย์ในชมพูทวีป จะมีอายุเพียง ๑๐ ปี เท่านั้น และตัวจะเตี้ยถึงขนาด

ต้องสอยมะเขือกิน เรียกยุคนั้นว่า "ยุคทมิฬ" เป็นยุคที่เสื่อมที่สุดของ "ชมพูทวีป"

-ดอกไม้ประจำชมพูทวีปคือ "ชมพู (ไม้หว้า)" ...เพราะเหตุนี้ ถึงเรียกว่า "ชมพูทวีป"

เพราะดอกไม้ประจำทวีปนี้คือ ดอก "ชมพู"

-ชมพูทวีป เป็นทวีปเดียวที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต้องมาตรัสรู้ที่ทวีปนี้เท่านั้น


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:08:54 PM

๒) อมรโคยานทวีป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)

-เป็นแผ่นดินกว้าง ๗,๐๐๐ โยชน์ ประกอบด้วยเกาะ และแม่น้ำใหญ่น้อย

-มีธาตุแก้วผลึกอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุแก้วผลึกทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของอมรโคยานทวีปมีสีแก้วผลึก

-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีรูปหน้าเหมือนพระจันทร์ครึ่งซีก มีใบหน้าวงกลม คล้ายวงพระจันทร์ คนหน้าเหมือนดั่งเดือนแรม จมูกโด่ง คางแหลม

-มนุษย์ที่อมรโคยานทวีป มีความสูง ๖ ศอก มีอายุ ๕๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุ เป็นกฏตายตัว)
 
-ดอกไม้ประจำอมรโคยานทวีปคือ "กะทัมพะ (ไม้กระทุ่ม)"

๓) ปุพพวิเทหะทวีป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)

-เนื้อที่กว้าง ๗,๐๐๐ โยชน์ มีเกาะ ๔๐๐ เกาะ
 
-มีธาตุเงินอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุเงินทำให้ทองฟ้า
และมหาสมุทรของปุพพวิเทหะทวีปมีสีเงิน

-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีรูปหน้าเหมือนพระจันทร์เต็มดวง คนหน้ากลมเหมือนดวงจันทร์
มีใบหน้าตอนบนโค้งตัดลงมาเหมือนบาตร

-มนุษย์ที่ปุพพวิเทหะทวีป มีความสูง ๙ ศอก มีอายุ ๗๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุ เป็นกฏตายตัว)

-ดอกไม้ประจำปุพพวิเทหะทวีปคือ "สิรีสะ (ไม้ทรึก)"


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:09:45 PM

๔) อุตรกุรุทวีป ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)

-มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยม เนื้อที่กว้าง ๘,๐๐๐ โยชน์ เป็นที่ราบ

-มีธาตุทองคำอยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุทองคำทำให้ทองฟ้า
และมหาสมุทรของอุตรกุรุทวีปมีสีเหลืองทอง

-มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ รูปร่างงาม มีลักษณะใบหน้าเป็นรูป ๔ เหลี่ยม รักษาศีล ๕ เป็นนิจ
ไม่ยึดถือสมบัติ บุตร ภรรยา สามี ว่าเป็นของๆตน

-มนุษย์ที่อุตรกุรุทวีป มีความสูง ๑๓ ศอก มีอายุ ๑,๐๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุ เป็นกฏตายตัว)

-มีต้นไม้นานาชนิด ดอกไม้ประจำอุตรกุรุทวีปคือ "กัปปรุกขะ (กัลปพฤกษ์)"
ถ้าอยากได้อะไร ก็ไปนึกเอาที่ต้นกัลปพฤกษ์ จะสมปรารถนา

-มนุษย์ที่อุตรกุรุทวีป เมื่อตายจากทวีปนี้ ทุกคนจะได้ไปเกิดใน "เทวภูมิ ชั้นตาวติงสาห์ภูมิ" ทุกๆคน เป็นกฏตายตัว

-ในภาษาบาลี "อุตร" แปลว่า "เหนือ" ...เพราะเหตุนี้ ถึงเรียกทวีปนี้ว่า "อุตรกุรุทวีป"


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 15, 2010, 06:12:45 PM

(http://www.khunya.in.th/WebpageGroup1/pic/universe1.jpg)

ไม่ไหวๆ อ่านต่อกันเองนะครับ >> http://board.palungjit.com/f8/ความลับของจักรวาล-ในพระไตรปิฏก-174040.html (http://board.palungjit.com/f8/ความลับของจักรวาล-ในพระไตรปิฏก-174040.html)


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ ที่ มีนาคม 15, 2010, 10:38:03 PM
มีคนบอกว่า  ถ้าหากเราพบขอบจักรวาลจริง มันจะมีความหมายอะไร  ในเมื่อคนเรายังฆ่ากันเองอยู่


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ มีนาคม 15, 2010, 10:59:05 PM



ไม่อยากรู้ว่าจักวาลสิ้นสุดแค่ไหน

และไม่อยากให้มีหลายภพชาติด้วย ขนาดชาตินี้วุ่นวายขนาดนี้

ชาติต่อไป  ยากจะมีความสุขง่ายๆ ขอแค่

ชาตินี้ขอเป็นคนดีครับ ถึงแม้บางครั้งคนดีอาจจะต้องลำบาก

ก็จะน้อมรับมันครับ ::014:: ::014:: ::014::



หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: ไพโรจน์ ที่ มีนาคม 16, 2010, 11:05:38 AM
ขอบคุณ..คุณNattapolเป็นอย่างสูงที่ช่วยให้ผม และ เพื่อน ๆ มีปัญญามากขึ้น  ::014::


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ มีนาคม 18, 2010, 02:10:54 PM
ในทางจักรวาลวิทยา(Cosmology) มีบอกไว้เหมือนกันครับ ลองเข้าไปดูที่ SunflowerCosmos.org หัวข้อ ขนาดของจักรวาลดูครับ



หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 18, 2010, 02:21:06 PM
สุดขอบจักรวาลแล้วมันจะเป็นอะไรนะ ว่างเปล่า หรือเป็นอะไร


อยากมีที่ดินสัก หนึ่งตารางปีแสงแล้วซิ

เอาไว้ปลูกยางพาราสักหนึ่งตารางเดือนแสง

เอาไว้ปลูกมังคุดสักหนึ่งตารางเดือนแสง

เอาไว้ปลูกทุเรียนสักหนึ่งตารางเดือนแสง

เอาไว้ปลูกล็องก็องสักหนึ่งตารางเดือนแสง

เอาไว้ปลูกข้าวหอมมะลิสักหนึ่งตารางเดือนแสง


เฮ้อ ยังเหลือที่ว่างอีกหลายตารางเดือนแสงเลย ทำอะไรดี



หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ มีนาคม 18, 2010, 02:47:45 PM
สุดขอบจักรวาลแล้วมันจะเป็นอะไรนะ ว่างเปล่า หรือเป็นอะไร
อยากมีที่ดินสัก หนึ่งตารางปีแสงแล้วซิ
เอาไว้ปลูกยางพาราสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกมังคุดสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกทุเรียนสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกล็องก็องสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกข้าวหอมมะลิสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เฮ้อ ยังเหลือที่ว่างอีกหลายตารางเดือนแสงเลย ทำอะไรดี

 ::007:: ::007:: ::007:: ::007::................


หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: tip1976 - รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2010, 04:19:52 PM
สุดขอบจักรวาลแล้วมันจะเป็นอะไรนะ ว่างเปล่า หรือเป็นอะไร
อยากมีที่ดินสัก หนึ่งตารางปีแสงแล้วซิ
เอาไว้ปลูกยางพาราสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกมังคุดสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกทุเรียนสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกล็องก็องสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เอาไว้ปลูกข้าวหอมมะลิสักหนึ่งตารางเดือนแสง
เฮ้อ ยังเหลือที่ว่างอีกหลายตารางเดือนแสงเลย ทำอะไรดี

 ::007:: ::007:: ::007:: ::007::................
::014::

 ขุดบ่อน้ำไว้รดต้นไม้ที่ปลูกไว้ครับ

 ;D



หัวข้อ: Re: สุดขอบจักรวาล
เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ มีนาคม 18, 2010, 04:35:59 PM
                การกล่าวถึงขนาดของจักรวาล นั้นคือ กำลังกล่าวถึงสิ่งที่ใหญ่ที่สุด และถ้าถามว่าจักรวาลมีขนาดใหญ่ แค่ไหนกัน คงตอบได้ว่าลึกเข้าไปถึง 14 พันล้านปีแสง
(ข้อมูลที่มนุษย์สำรวจได้ด้วยเครื่องมือขณะนี้)

               คำว่า 14 พันล้านปีแสง คงนึกยากอยู่เหมือนกันว่า จะอภิมหาไพศาลเพียงใด  ดังนั้นจึงขยายคำตอบให้ชัดขึ้น ว่ามีสิ่งใดบ้าง บรรจุอยู่ในพื้นที่ ขนาด 14 พันล้าน
ปีแสง เพื่อจะมองเห็นขนาดความยิ่งใหญ่ สัดส่วนต่างๆในจักรวาลได้ชัดเจนขึ้น

                อวกาศ มีความลึกและไกล ในวันนี้เชื่อว่ามีระยะทาง 14 พันล้านปีแสง เดิมที่เดียว ในอดีตจักรวาล ปรากฎขึ้นหลังจากการระเบิดครั้งใหญ่ (Big bang) เริ่มจากการ
ก่อตัวของดาว ดวงแรกเพียงดวงเดียว หลังจากนั้นจึงมี การวิวัฒน์อย่างสืบเนื่องของจักรวาล มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และขยายตัวต่อเนื่องทุกวินาที

ระยะทางที่เราสามารถมองเห็น จากการสำรวจ

               มองออกไปยังท้องฟ้า กาแล็คซี่ ระยะไกล 7 พันล้านปีแสง ภาพที่เห็นกำลังแสดงกาแล็คซี่ อายุเท่ากับจักรวาลเกิดมา ครึ่งทาง คือ 6.7 พันล้านปี (จักรวาลปรากฎ
หลังจากการระเบิดของ Big Bang 13.7 พันล้านปี)

              ถ้ามองออกไปยังกาแล็คซี่ ระยะไกลไปอีก 12 พันล้านปีแสง ภาพที่เห็นกำลังแสดงกาแล็คซี่ อายุเท่ากับจักรวาลเกิดมา 1.7 พันล้านปี

             แต่ระยะที่ไกลไปกว่า 14 พันล้านปีแสง ไม่สามารถที่จะเห็นอะไรได้เลย ไม่มีคลื่นคลื่นแสงใดๆ เพราะเป็นเวลาก่อนจักรวาลเกิด

ดังนั้นการมองออกไปข้างนอกในอวกาศ เท่ากับเห็นเหตุการณ์อดีตเพราะภาพที่เห็นนั้น เดินทางด้วยแสงมาสู่สายตาเรา ยิ่งไกลมากยิ่งเป็นเหตุการณ์อดีตมากขึ้น
ไปเรื่อยๆตามลำดับ

            คำว่า ปีแสง (Light year) คือ การวัดระยะแสง (หรือการแผ่รังสีใดๆ) เดินทางในสูญญากาศเท่ากับ 1 ปี (ของเขต Tropical zone) โดยมีความเร็ว 300,000 กม.
เพราะฉะนั้นแสงเดินทาง 1 ปีเท่ากับ 9,500,000,000,000 กม.


*ข้อมูลจาก sunflowercosmos.org