๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: M629 ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:09:33 PM



หัวข้อ: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: M629 ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:09:33 PM
เมื่อวานเย็นได้ดูข่าวสมเด็จพระนางเจ้า เสด็จค่ายนวมินทร์
อยากรู้เรื่องทหารเสื่อฯ ครับ
ประวัติ ความเป็นมา หลักสูตร ภารกิจ และอื่นๆ
พี่ๆ เพื่อนๆ ท่านไดพอมีรายละเอียดบ้างมั้ยครับ
หรือ อาจจะมีทหารเสือบางท่านในนี้ ?
ขอบคุณครับผม


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:14:43 PM


ทหารเสือราชินี ชีวิตพลี เพื่อแผ่นดิน

เอ่ยถึงคำว่า ทหารเสือ คนไทยมักจะได้ยินและนำมาใช้กันติดปาก กับบุคคลที่มีความเก่งกล้าสามารถ ด้วยว่าเราเคยรู้จักกันจากตำนาน นาตายัง ทหารเสือนักรบชื่อกระฉ่อนของฝรั่งเศส ในขณะที่ประเทศไทย ผู้ที่เป็น ทหารเสือ ตัวจริงนั้นมีอยู่ เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า

ทหารเสือ เป็นหลักสูตรพิเศษหลักสูตรหนึ่งของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อค่ายอันเป็นที่ตั้งของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ว่า ค่ายนวมินทราชินี พร้อมทั้งพระราชทานสมญานามของกรมฯ ว่า กรมทหารเสือนวมินทราชินี
     
ต่อมาในปี 2524 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับอนุมัติจากกองทัพบกให้ดำเนินการฝึกหลักสูตรทหารเสือ เพื่อเป็นการสนองในพระราชเสาวนีย์ ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ผู้บังคับการพิเศษของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้กำลังพลได้รับการฝึกพิเศษ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจทุกรูปแบบ ทุกสภาพภูมิประเทศ โดยคุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึก ต้องเป็นกำลังพลที่รับราชการอยู่ในหน่วยของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ และส่วนหนึ่งยังแบ่งให้กับกำลังพลนอกหน่วยที่กองทัพบกอนุมัติให้เข้ารับการฝึก
     
ระยะเวลาการฝึกทหารเสือ ใช้เวลาทั้งสิ้น 16 สัปดาห์ โดย 4 สัปดาห์แรก เป็น การปรับสภาพร่างกายและจิตใจ เตรียมร่างกายให้พร้อมในการฝึกภาคต่อ ๆ ไป และมีการปูพื้นฐานด้านการยิงปืนฉับพลัน การดำน้ำ โดดร่ม การต่อสู้ป้องกันตัว การต่อต้านการก่อการร้ายสากล รวมถึงการสอนภาษาของประเทศใกล้เคียง และภาษามือด้วย
     
นอกจากการฝึกแล้ว ยังต้องทดสอบ มาตรฐานในด้านสภาพร่างกาย โดยต้องวิ่งระยะ 1 ไมล์ 3 ไมล์ 5 ไมล์ วิ่งประกอบอาวุธและเครื่องสนาม 12 ไมล์ การเดินเร่งรีบพร้อมรบ 65 กิโลเมตร และว่ายน้ำระยะไกล ตลอดจนการทดสอบการใช้อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 และปืนพก 86 ในลักษณะการยิงฉับพลัน ซึ่งผู้ที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้ารับการฝึกในภาคต่อไป

ขั้นต่อไปเป็น ภาคป่า-ภูเขา ระยะ เวลาอีก 4 สัปดาห์ โดยใช้พื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นการฝึกการแทรกซึมทางอากาศด้วยอากาศยาน (บล. 8 หรือ ซี 130) หลังจากนั้นจะฝึกแทรกซึมทางพื้นดิน เข้าปฏิบัติการต่อที่หมายในลักษณะหน่วยทหารขนาดเล็ก หรือชุดปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการนำความรู้ในภาคที่ตั้งมาปฏิบัติจริงในภูมิประเทศทุรกันดาร และภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง

เรื่องที่ทำการฝึกหลักคือการจัดตั้งและใช้กำลังกองโจร การพิสูจน์ทราบพื้นที่ป่า การฝึกขี่บังคับม้าและการบรรทุกต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยองค์พระประมุข การศึกษางานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ และเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประจำทุกปี

จากนั้นเป็นภาคทะเล ระยะเวลา 3 สัปดาห์ ใช้พื้นที่ชายฝั่ง จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง มุ่งเน้นการแทรกซึมทางน้ำ การดำน้ำทางยุทธวิธี การใช้เรือยาง การลาดตระเวนชายฝั่ง การยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การโดดร่มลงทะเล การดำรงชีพในทะเล และประเพณีชาวเรือ

ภาคปฏิบัติการในเมือง ระยะเวลา 3 สัปดาห์ ระยะเวลา 3 สัปดาห์ ใช้พื้นที่  จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ มุ่งเน้นการปฏิบัติในพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง การต่อต้านการก่อการร้ายสากล การชิงตัวประกัน การขับขี่จักรยานยนต์ทางยุทธวิธี รวมถึงการฝึกยิงปืนพกระบบ PPC

สุดท้ายคือภาคอากาศ ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ใช้พื้นที่ภายในค่ายนวมินทราชินี เป็นการฝึกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในพื้นฐานของการกระโดดร่มแบบ กระตุกเองการบังคับร่ม การพับร่ม และการแก้ไขเหตุติดขัด

เมื่อจบการฝึก กำลังพลที่สำเร็จการฝึกหลักสูตรทหารเสือทุกนาย จะได้พระราชทานเครื่องหมายแสดงขีดความสามารถทหารเสือ จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ผู้บังคับการพิเศษ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ

เครื่องหมายเชิดชูเกียรติทหารเสือ ทำด้วยโลหะ ประดับหน้าอกเสื้อชุดปกติ เป็นรูป หัวใจสีม่วงประดับพระนามาภิไธยย่อ สก. หมายถึง ผู้บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์สุจริต และจริงใจ ทั้งนี้เพราะผู้ที่ใกล้ตาย หัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง ในห้วงเวลานั้น บุคคลผู้นั้นจะไม่พูดปดหรือปิดบังสิ่งใด ๆ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานหัวใจสีม่วงนี้แก่กำลังพล ด้วยทรงมุ่งหวังให้ทหารเสือทุกนายมีความซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนรูป เสือประคองหัวใจสีม่วง หมายถึง กำลังพลทหารเสือทุกนายที่เทิดทูนความซื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีแทบเบื้องพระยุคลบาท ภูเขา เกลียวคลื่น ก้อนเมฆ หมายถึงทุกหนแห่ง ไม่ว่าบนฟ้า พื้นดิน ภูเขา หรือในทะเล ทหารเสือทุกนายพร้อมจะดั้นด้นไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของชาติ และองค์พระมหากษัตริย์

ในวันนี้ 21 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเครื่องหมายทหารเสือ แก่ผู้ที่จบหลักสูตรรุ่นที่ 13 รุ่นล่าสุด จำนวน 72 นาย ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้เหล่าทหารเสือราชินี ทุกนาย ใช้ความรู้ความสามารถที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก นำไปรับใช้ชาติบ้านเมือง สืบต่อไป.

ข้อมูลจำเพาะ

กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2493 ตามคำขอขององค์การสหประชาชาติ ในการจัดตั้งกำลังเข้าช่วยเหลือรัฐบาลของสาธารณรัฐเกาหลีใต้ เพื่อยับยั้งการรุกรานของฝ่ายคอมมิวนิสต์ โดยใช้นามหน่วยครั้งนั้นว่า “กรมผสมที่ 21” ก่อนแปรสภาพมาเป็นชื่อในปัจจุบันเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2502

ในการรบสงครามเกาหลี ปี 2493-2515 ทหารไทยได้สร้างวีรกรรมเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ จนได้รับสมญานามจากกองทัพสหประชาชาติในสมรภูมิเกาหลีว่า “พยัคฆ์น้อย” และยังสร้างชื่ออีกครั้ง ในนามกรมอาสาสมัคร “จงอางศึก” ในการปฏิบัติการสงครามเวียดนาม ระหว่างปี 2511-2512 ตลอดจนการปฏิบัติราชการในการป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และการช่วยเหลือประชาชนใน จ.น่าน จนก่อเกิดวีรกรรมบ้านห้วยโกร๋น ในปี 2518 รวมถึงการยับยั้งการรุกรานของเวียดนาม ที่สมรภูมิเขาพนมประ อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี ในปี 2526 เป็นผลให้กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญและเครื่องอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีประดับธงไชยเฉลิมพล


กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 1 ข้อมูล

(http://tinypic.com/b4xnjr.jpg)

(http://tinypic.com/b4xnpe.jpg)

(http://tinypic.com/b4xnw5.jpg)


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:22:01 PM
มาตรฐานในด้านสภาพร่างกาย โดยต้องวิ่งระยะ 1 ไมล์ 3 ไมล์ 5 ไมล์ วิ่งประกอบอาวุธและเครื่องสนาม 12 ไมล์ การเดินเร่งรีบพร้อมรบ 65 กิโลเมตร และว่ายน้ำระยะไกล ตลอดจนการทดสอบการใช้อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 และปืนพก 86 ในลักษณะการยิงฉับพลัน ซึ่งผู้ที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้ารับการฝึกในภาคต่อไป

เยี่ยมเลยครับ วันก่อนวิ่ง 1 ไมล์ สบาย  3 ไมล์ ก็พอได้ พอเห็น 5 ไมล์ จบครับ   ;D ;D ;D ;D  คาดว่าแย่ แหงๆ   ;D ;D ;D ;D 

ทหารนี่แข็งแรงจริงๆครับ (ถ้าไม่กินเหล้า)


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:25:41 PM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นการฝึกที่หนักมากๆ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:32:00 PM
มาตรฐานในด้านสภาพร่างกาย โดยต้องวิ่งระยะ 1 ไมล์ 3 ไมล์ 5 ไมล์ วิ่งประกอบอาวุธและเครื่องสนาม 12 ไมล์ การเดินเร่งรีบพร้อมรบ 65 กิโลเมตร และว่ายน้ำระยะไกล ตลอดจนการทดสอบการใช้อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 และปืนพก 86 ในลักษณะการยิงฉับพลัน ซึ่งผู้ที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้ารับการฝึกในภาคต่อไป

เยี่ยมเลยครับ วันก่อนวิ่ง 1 ไมล์ สบาย 3 ไมล์ ก็พอได้ พอเห็น 5 ไมล์ จบครับ ;D ;D ;D ;D คาดว่าแย่ แหงๆ ;D ;D ;D ;D

ทหารนี่แข็งแรงจริงๆครับ (ถ้าไม่กินเหล้า)

แต่ที่ผมรู้จักกว่า 90 %  ดื่มหมดครับ  คงเหลืออีก 10 % ที่ยังพอมีแรง  ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: NOOM 19 รักในหลวง ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:35:50 PM
แล้วช่วงนี้ค่ายนวมิทร์มีงานอะไรหรือครับเห็นมี BLACKHAWK กับ BELL 212 บินทั้งวันเลย BLACKHAWK นะไม่เท่าไรครับแต่เจ้า 212 นี้เสียงดังจริงเมื่อวันอาทิตย์ไม่ได้นอนเลย วิ่งออกมาดูยังมีหน้ายิ้มกับโบกมือให้ด้วย  >:(


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: ekkawit ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:38:28 PM
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล ;) ;)


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:43:02 PM
หลักสูตรที่เมื่อเป็นทหารแล้วส่วนใหญ่จะได้ติดตัวมาโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกคือหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" ครับ  :D~


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ สิงหาคม 25, 2005, 12:44:10 PM
ผมเคยรับราชการอยู่ที่ ร.21 รอ. ในตำแหน่ง ผบ.หมวดเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มม. และ ผบ.หมวดรถสายพาน (M113)...........

เข้ารับการฝึก ทหารเสือรุ่นที่ 4 เมื่อปี 2529..........ฝึกได้แค่ ภาคที่ตั้ง ภาคอากาศและภาคป่าภูเขา พอดีคำสั่งออก ย้ายไปอยู่ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ศูนย์สงครามพิเศษ............เลยไม่จบหลักสูตร

หลักสูตรนี้ เปิดฝึกกันทีประมาณ 18 -24เดือนครับกว่าจะจบ เพราะมีภารกิจหลักต้องปฏิบัติอยู่ด้วย เช่น การถวายอารักขา  การป้องกันชายแดน  การฝึกตามวงรอบของ ทบ. เลยเป็นการฝึกแบบ...............พอตารางว่างจากภารกิจหลัก ก็ตั้งวงรอบฝึกกันรอบหนึ่ง เลยยาวกว่าจะจบกัน

รุ่นผมเรียน ตอนแรกภาคที่ตั้ง 1 เดือน ทั้งยิงปืนฉับพลันด้วย M16 1911 รวมทั้งอาวุธค่ายตะวันออก ตลอดจนอาวุธหนักประเภทจรวดต่อสู้รถถัง..........เทคนิคการขับรถ 4WD มอร์เตอร์ไซค์ ในชุดไล่ล่ารถถัง  ฯลฯ พอจบภาคที่ตั้ง ก็สลายตัว ไปฝึกภาคกองร้อยตามวงรอบของ ทบ. ฝึกเสร็จมาพักเดียว 15-20 วัน รวมกันฝึกภาคอากาศ(ดิ่งพสุธา)กันอีก.....................ทำอย่างนี้ไป จนกว่าจะครบหลักสูตร.............

ระหว่างนั้นผมกำลังจะย้ายไปอยู่ ศูนย์สงครามพิเศษ..............พอการฝึกยืดไปเรื่อย คำสั่ง ทบ.ออก............เลยย้ายไปเสียก่อนจบ...........เสียดายครับ เสียเหงื่อไปเยอะแล้ว



หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ สิงหาคม 25, 2005, 02:24:48 PM
สุดยอดครับ......


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ สิงหาคม 25, 2005, 02:29:17 PM
หลักสูตรที่เมื่อเป็นทหารแล้วส่วนใหญ่จะได้ติดตัวมาโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกคือหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" ครับ :D~

แหม......ผมอุตส่าห์นั่งนึกตั้งนาน...
เดี๋ยวนี้ ลีลานะ...


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 02:31:03 PM
หลักสูตรที่เมื่อเป็นทหารแล้วส่วนใหญ่จะได้ติดตัวมาโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกคือหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" ครับ :D~

แหม......ผมอุตส่าห์นั่งนึกตั้งนาน...
เดี๋ยวนี้ ลีลานะ...

แหม  พี่ล่ะก็ทำเป็นถ่อมตัว  ระดับพี่  แค่หางตาก็ออกแล้วมั๊งครับ   :DD :DD :DD


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ สิงหาคม 25, 2005, 02:33:50 PM
หลักสูตรที่เมื่อเป็นทหารแล้วส่วนใหญ่จะได้ติดตัวมาโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกคือหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" ครับ :D~

แหม......ผมอุตส่าห์นั่งนึกตั้งนาน...
เดี๋ยวนี้ ลีลานะ...

นึกตั้งนาน...ไม่ใช่นึกแล้ว....คิดลึกเลยล่ะ ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่ง_รักในหลวงมากครับ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 02:44:32 PM
             ;D สุดยอดครับหลักสูตรนี้   ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 02:48:14 PM
ขอบคุณครับน้องโจ

ทหารเสือราชินีในความคิดของผมที่ได้ยินมาแต่เยาว์วัย คือกลุ่มทหารที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี พร้อมที่จะสละชีพเพื่อประเทศชาติ
ได้ตลอดเวลา ........ เพิ่งรู้ว่ากว่าจะได้ฉายามาต้องผ่านการฝึกฝนหนักหน่วงมากมายทีเดียว สมศักดิ์ศรีชายชาติทหาร 8) 8)


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Mr_Watt ที่ สิงหาคม 25, 2005, 03:20:29 PM
 :Dขอบคุณครับ คุณnatjoe


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 03:24:05 PM
ได้ยินคำว่า "ทหารเสือราชินี" บ่อยมาก อยากทราบว่ามี "ทหารเสือพระราชา" ด้วยหรือเปล่าครับ สงสัยมานานแล้วครับ ถ้ามีคือหน่วยไหนครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ สิงหาคม 25, 2005, 05:29:46 PM
ขอบคุณคุณโจครับ :o ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Thanapong รักในหลวง ที่ สิงหาคม 25, 2005, 06:09:06 PM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ผมเคยรับราชการอยู่ที่ ร.21 รอ. ในตำแหน่ง ผบ.หมวดเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มม. และ ผบ.หมวดรถสายพาน (M113)...........

เข้ารับการฝึก ทหารเสือรุ่นที่ 4 เมื่อปี 2529..........ฝึกได้แค่ ภาคที่ตั้ง ภาคอากาศและภาคป่าภูเขา พอดีคำสั่งออก ย้ายไปอยู่ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ศูนย์สงครามพิเศษ............เลยไม่จบหลักสูตร

หลักสูตรนี้ เปิดฝึกกันทีประมาณ 18 -24เดือนครับกว่าจะจบ เพราะมีภารกิจหลักต้องปฏิบัติอยู่ด้วย เช่น การถวายอารักขา การป้องกันชายแดน การฝึกตามวงรอบของ ทบ. เลยเป็นการฝึกแบบ...............พอตารางว่างจากภารกิจหลัก ก็ตั้งวงรอบฝึกกันรอบหนึ่ง เลยยาวกว่าจะจบกัน

รุ่นผมเรียน ตอนแรกภาคที่ตั้ง 1 เดือน ทั้งยิงปืนฉับพลันด้วย M16 1911 รวมทั้งอาวุธค่ายตะวันออก ตลอดจนอาวุธหนักประเภทจรวดต่อสู้รถถัง..........เทคนิคการขับรถ 4WD มอร์เตอร์ไซค์ ในชุดไล่ล่ารถถัง ฯลฯ พอจบภาคที่ตั้ง ก็สลายตัว ไปฝึกภาคกองร้อยตามวงรอบของ ทบ. ฝึกเสร็จมาพักเดียว 15-20 วัน รวมกันฝึกภาคอากาศ(ดิ่งพสุธา)กันอีก.....................ทำอย่างนี้ไป จนกว่าจะครบหลักสูตร.............

ระหว่างนั้นผมกำลังจะย้ายไปอยู่ ศูนย์สงครามพิเศษ..............พอการฝึกยืดไปเรื่อย คำสั่ง ทบ.ออก............เลยย้ายไปเสียก่อนจบ...........เสียดายครับ เสียเหงื่อไปเยอะแล้ว


แหม  ผู้การครับฝึกมาได้ขนาดนี้ก็ดีแล้วครับถือได้ว่าสุดยอดจริงๆครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ สิงหาคม 25, 2005, 06:59:41 PM
หลักสูตรที่เมื่อเป็นทหารแล้วส่วนใหญ่จะได้ติดตัวมาโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกคือหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" ครับ :D~

แหม......ผมอุตส่าห์นั่งนึกตั้งนาน...
เดี๋ยวนี้ ลีลานะ...

ไม่ต้องลีลาหรอก แปลแว้บเดียวก็รู้


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: M629 ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:04:05 PM
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล เป็นพระคุณครับ
อ่านแล้ว รู้เลยว่า ตัวเองไม่มีทางเป็นทหารเสือได้แน่ๆ
ว่าแต่ว่าหลักสูตร พยัคฆ์นารี นี่ เปิดสอนกันที่ไหนครับ อยากเรียนครับ อยากเรียน.
 


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Noppadol ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:05:23 PM
ชอบจริงๆทหารเนี่ย....ตอนมัธยมก็ฝันอยากเข้านายร้อย
แต่กรรม ดันตัวเล็กแถมโง่อีก...
       อ้อ..!   พึ่งรู้มาไม่นานนี้เองว่าไทยเราก็มีซีลด้วย..
เคยได้ยินแต่จู่โจมทำลายใต้น้ำกองทัพเรือ...ไม่นึกว่าจะเป็นซีล
ใครรู้รายละเอียด..เล่าให้ฟังทีครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:15:09 PM
 
ชอบจริงๆทหารเนี่ย....ตอนมัธยมก็ฝันอยากเข้านายร้อย
แต่กรรม ดันตัวเล็กแถมโง่อีก...
 อ้อ..! พึ่งรู้มาไม่นานนี้เองว่าไทยเราก็มีซีลด้วย..
เคยได้ยินแต่จู่โจมทำลายใต้น้ำกองทัพเรือ...ไม่นึกว่าจะเป็นซีล
ใครรู้รายละเอียด..เล่าให้ฟังทีครับ

***ประวัติหน่วย*** 
   
 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังทางเรือของทั้งฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายอักษะ ต่างก็ได้ส่งหน่วยรบพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยรบขนาดเล็ก ที่ได้รับการฝึกให้มีขีดความสามารถเหนือทหารทั่วไป เข้าปฎิบัติการเพื่อทำลายกองเรือ สิ่งก่อสร้าง และสถานที่ ที่มีความสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้าม ทำการก่อวินาศกรรม และ ปฎิบัติการลับอื่น ๆ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ภารกิจของหน่วยรบพิเศษ ได้มีการพัฒนาทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรบ รวมทั้งการพิจารณาหายุทธวิธีใหม ่ๆ เพื่อให้การปฎิบัติภารกิจประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น ปี พ.ศ. 2495 กระทรวงกลาโหม มีความคิดที่จะจัดตั้ง หน่วยทำลายใต้น้ำ โดยมีตัวแทนจากทุก ๆ เหล่าทัพ และ เจ้าหน้าที่จาก ทร.สหรัฐฯ ประจำหน่วย MAAG (MILITARY ASSISTANCE ADVISORY GROUP) ที่ประชุมมีมติให้ ทร.จัดตั้งหน่วยฝึก แต่เกิดปัญหาเนื่องจากครูผู้ฝึกสอนฝ่ายอเมริกันไม่พร้อม จึงระงับการฝึกไว้ ปี พ.ศ. 2469 บริษัท SEA SUPPLY เสนอให้การสนับสนุนการฝึก ให้กับกำลังพลของ ทร. และ ตร. ซึ่งผ่านการโดดร่มมาแล้ว กำลังพลชุดแรกมี ข้าราชการทร.จำนวน 7 นาย ตร.จำนวน 8 นาย เดินทางไปเข้ารับการฝึกใน วันที่ 4 มี.ค2496 โดยทราบเพียงแต่ว่าสถานที่ฝึกมีชื่อว่าเกาะ Z (ZULU) หลังจากนั้น 61วัน ชุดฝึก ได้เดินทางกลับ โดยมีผู้สำเร็จการฝึกนักทำลายใต้น้ำรุ่นแรกจำนวน 15 นาย หลังจากนั้นกองเรือยุทธการได้มีความคิดที่จะดำเนินการฝึก จึงขออนุมัติ ทร.จัดตั้งหน่วยฝึกและอบรมหน่วยทำลายใต้น้ำ เมื่อ 24 พ.ย. 96 โดย ร.ท. วิศนุ ปราบศากุน ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผ.บ.หน่วยฝึกฯ มีทหารอเมริกันและผู้ผ่านการฝึกในต่างประเทศมาแล้วเป็นครูฝึก รุ่นแรกนี้มีผู้เข้ารับการฝึกจำนวน 62 นาย สำเร็จการฝึกจำนวน 14 นาย ซึ่งเป็นการฝึกระดับต้น (PRIMARY COURSE) หลังจากนั้นทร. อนุมัติให้ข้าราชการ ไปอบรม นทต.ระดับสูง(ADVANCE COURSE) ณ.ที่ใดไม่มีใครทราบเพราะเป็นความลับสุดยอด หลังจากเสร็จสิ้นการฝึก ทำให้พวกเขามีขีดความสามารถมากขึ้น ปี พ.ศ.2489 ทร. อนุมัติ จัดตั้งอัตรา หมวดทำลายใต้น้ำ บก.กร. หลังจากนั้น 1 ปี มีการเปิดการฝึกรุ่นที่2 หน่วยฝึกตั้งอยู่ที่เรือหลวงท่าจีน(ลำเก่า) ปี พ.ศ. 2502 ย้ายที่ตั้งมาที่เกาะพระ ปี พ.ศ. 2514 ปรับปรุงการจัดกำลังพลเป็น แผนกปฏิบัติงานชายฝั่ง กองการฝึกปฏิบัติการฝ่ายการศึกษา กฝร.จัดกำลังพลเป็น 2 หมวด (นักทำลายใต้น้ำจู่โจม และ นักทำลายใต้น้ำ) วัน ที่ 18 มิ.ย. 2519 ย้ายอาคารที่ทำการใหม่มาทางตะวันออกของเกาะพระ โดยมี พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ได้กรุณามาเป็นประธานในพิธี และได้บันทึกในสมุดเยี่ยมหน่วยว่า “พิธีเปิดตึกที่ทำการหมวดทำลายใต้น้ำจู่โจม ในวันนี้เป็นพิธีที่มีเกียรติยศยิ่ง 20 กว่าปีมาแล้วที่หน่วยนี้ได้ถือกำเนิดมาแต่ไม่เคยมีที่ทำการเป็นของตนเองเลย บัดนี้หน่วยนี้มีที่ทำการอันสง่างามกับเป็นหน่วยงานที่มีคุณค่าต่อกองทัพเรือ และ ประเทศเป็นอย่างมาก ขออวยพรให้หน่วยงาน และตึกที่ทำการอันสง่างามนี้ จงสถิตย์สถาพรชั่วกาลนานเทอญ” วัน ที่ 18 มี.ค.2534 กองทัพเรืออนุมัติให้ใช้อัตราหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ มีการจัดอัตราระดับกรม ประกอบด้วย กองบังคับการ ,กองรบพิเศษ 1,2,3 ,โรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือ และ กองสนับสนุน โดยมี น.อ. นคร อรัณยะนาค ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือเป็นท่านแรก
 
 ๑๗ เม.ย. ๒๕๔๗
๔๙ ปี วันสถาปนาหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ วันนี้เมื่อปี พุทธศักราช ๒๒๗๗ เป็นวันที่พระมหากษัตริย์ไทยผู้ยิ่งใหญ่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระราชสมภพ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถทางด้านการดำเนินกลยุทธ ในการทำสงครามนอกแบบ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และตามลำน้ำเพื่อกอบกู้เอกราช ทางหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองทัพเรือ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงให้ถือเอาวันนี้เป็นวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นผู้นำในการกอบกู้อิสรภาพกลับคืนมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ และทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงของสยามประเทศ พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งทั้งการรบทางบกและทางน้ำ ทรงเชี่ยวชาญในการทำสงครามแบบกองโจร ทั้งในพื้นที่ทุรกันดาร ตามลำน้ำ และตามชายฝั่งทะเล ทรงใช้กำลังทหารขนาดเล็ก ที่มีความเชี่ยวชาญ กล้าหาญ แข็งแรง เข้ารบตัดรอนกำลังข้าศึกหลายครั้ง จนสามารถนำทัพพิชิตกองทัพอันยิ่งใหญ่ของข้าศึก พระลักษณะอันเข้มแข็งเฉียบขาด พระปรีชาสามารถ และกลยุทธในการทำสงครามแบบกองโจรของพระองค์ล้วนเป็นแบบอย่างของการดำเนินการสงครามพิเศษทางเรือในปัจจุบัน
นับตั้งแต่อดีต จวบจนปัจจุบัน ข้าราชการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ได้น้อมนำพระจริยวัตร และพระลักษณะดังกล่าวของพระองค์มาเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และ องค์ยุทธวิธี ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันรูปแบบการทหารจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่โดยพื้นฐานแล้ว ผู้ปฏิบัตินั้นก็คือทหารที่ต้องมีความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มีวินัย ฉลาดเฉลียวสามารถแก้ไขสถานการณ์ เฉพาะหน้า ซึ่งเป็นแบบอย่างของทหารในกองกำลังของพระองค์
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือได้เติบโตขึ้นมาตามกาลเวลา นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมวดทำลายใต้น้ำขึ้นในปีนี้มีอายุ ๔๙ ขวบปี ทางหน่วยไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ มีการพัฒนาทุกด้าน ควบคู่กันไปแม้จะประสบปัญหาเศรษฐกิจยุคฟองสบู่แตกทั้งนี้ด้วยพระบุญญาบารมี แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั่นเอง
ในการพัฒนา
 
 - ทางด้านการฝึกหัดและศึกษา ในปีที่ผ่านมา มีกำลังพลของหน่วยได้รับทุนการฝึกและศึกษาในต่างประเทศ หลายคนเช่น หลักสูตร BASIC UNDERWATER DEMOLITION/SEAL ที่ USA. ซึ่งผู้ที่ผ่านหลักสูตรเหล่านั้นก็ได้นำความรู้ เทคนิคใหม่ ๆ มาพัฒนาการฝึกในหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม พัฒนาการฝึกยุทธวิธีของหน่วยด้วย อีกทั้งยังมีผู้ที่ได้รับทุน ADVANCED CLEARANCE DIVING จากประเทศออสเตรเลีย และก็ได้นำความรู้มาพัฒนาในด้านการดำน้ำภายในหน่วยให้มีความทันสมัย ปลอดภัยยิ่งขึ้นรวมทั้งนี้มีผู้ได้รับทุน ด้านการปราบปรามการก่อการร้ายสากล หัวข้อ CRISIS RESPONSE TEAM , USA. และ GSG-9 , จากประเทศเยอรมัน
สำหรับการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ ในหน่วยทางโรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือก็ได้ทำการเปิดหลักสูตร นักเรียนนักทำลายใต้น้ำ จู่โจมชั้นต้น ทุกปี เพื่อที่จะคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถมาบรรจุในหน่วยทดแทนกำลังพลที่ต้องปลดประจำการออกไป นอกจากนั้นทางหน่วยยังได้รับ ความไว้วางใจจากกองทัพเรือให้มีการฝึก นักเรียนนายเรือ ในหลักสูตรนักเรียนปฏิบัติการใต้น้ำ หรือทำให้นักเรียนนายเรือมีการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจและสร้างให้พวกเขามีลักษณะบุคลิกภาพการเป็นผู้นำอีกทั้งมีความสามารถในการดำน้ำแบบ SCUBA (SELF CONTAINED UNDER WATER BREATING APPARATUS) อีกด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในอนาคตของพวกเขาเมื่อออกรับราชการเป็นนายทหารประจำเรือ อย่างน้อยพวกเขาสามารถใช้ความรู้ความสามารถในการดำน้ำแก้ไขข้อขัดข้องเบื้องต้นคือการสำรวจใต้ท้องเรือ และยังนำไปดำสันทนาการตามพื้นที่ในหมู่เกาะ ในกองเรือภาคต่าง ๆ อีกด้วย

อีกทั้งหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ยังได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบหลักสูตร การดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์จากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในปีนี้จะมีการเปิดหลักสูตรเป็นรุ่นที่ ๙ ในแต่ละปี มีนักเรียนที่เข้ามารับการฝึกประมาณ ๖๒ คน รวมทั้งข้าราชการจากกองทัพเรือ และเอกชนจากหลายสาขา กลุ่มนักดำน้ำอนุรักษ์เหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ที่จะรักษาหวงแหนทรัพยากรใต้น้ำของประเทศ เมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาออกไป จะมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมในเชิงอนุรักษ์ทุกปี เช่น การวางทุนดำน้ำบริเวณหมู่เกาะทะเลอันดามัน และการดำน้ำเก็บของตามชายหาดพัทยา สัตหีบ โดยร่วมกับเอกชน ห้างร้าน องค์กรท้องถิ่น
รูปแบบการสอนในแต่ละหลักสูตรได้มีการพัฒนาปรับปรุงตลอดเวลาให้มีความเหมาะสมกับเวลาที่เปลี่ยนไป นอกเหนือจากหลักสูตรเหล่านั้นทาง โรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือ. ยังได้สนับสนุนกรมพลศึกษาในหลักสูตร BASIC LIFE SAVING และ การดำน้ำของกรมประมงและกรมป่าไม้ด้วย

- งานสนับสนุนหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษไปสนับสนุนกองเรือภาค ๑, ๒, ๓ กองเรือป้องกันฝั่ง และหน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขงชุดปฏิบัติการพิเศษนี้เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จอยู่หลายงาน อย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ งาน ลากเรือ PAK ONE มาจม ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษ เก็บข้อมูล สำรวจตัวเรือ นำมาวางแผน อีกทั้งข้อมูลซึ่งเป็นภาพถ่ายใต้น้ำทั้งภาพนิ่ง และ VDO เป็นการทำงานรูปแบบใหม่ คือ นำภาพประมวลจากการสำรวจมาวางแผน ซึ่งทำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนที่จะทำการระเบิดปล่อย GAS LPG ในถังให้เรือจม ลง โดยสมบูรณ์
แม้กระทั่งงานการสอนการดำน้ำ ให้กับนักเรียนดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ของกองเรือภาค ๒ กลุ่มนักเรียนนั้นมาจากหลายชนชั้น หลายระดับอาชีพ ในท้องถิ่นทำให้กองทัพเรือได้ใกล้ชิดกับประชาชนมากยิ่งขึ้น สำหรับ ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองเรือภาค ๓ ก็มีการทำงานอนุรักษ์ร่วมกับองค์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกรมประมง กรมป่าไม้ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในการวางทุ่นดำน้ำ เพื่อรักษาสภาพปะการังที่สวยงามที่เคยติดระดับ TOP TEN ของโลก ในหมู่เกาะสิมิลัน และในหมู่เกาะบริเวณนั้น นอกจากนั้นยังเป็นชุดที่ทำงานลับตรวจจับอาวุธสงครามได้หลายครั้งให้กับ กองเรือภาค ต่าง ๆ เสมอมา

- ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ที่ ต.แสมสาร ก็ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย จากเกาะที่เคยเป็นพื้นที่ธรรมดา ปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งความรู้ ทางด้านพืช สัตว์ ทรัพยากร ทางธรรมชาติทั้งบนเกาะและชายฝั่ง โครงการได้ดำเนินการขยายไปอย่างรวดเร็วมีการสำรวจเกาะในประเทศไทยเพิ่มขึ้นหลายสิบเกาะ มีนักวิชาการสาขาต่าง ๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาร่วมกันทำงานกับหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ นอกจากการศึกษาแล้ว กองทัพเรือยังสามารถรักษาผลประโยชน์ทรัพยากรบนเกาะของประเทศ เราได้อีกด้วย ซึ่งนอกเหนือจากการลาดตระเวนของเรือในน่านน้ำไทย ปัจจุบันมีเยาวชนจากโรงเรียนต่าง ๆ ขอเข้าชมและทัศนศึกษาธรรมชาติวิทยาในเกาะแสมสารหลายคณะ
- ทางด้านยุทธวิธี การรบในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินเข้าชนตึก WORLD TRADE และเพนตากอน การรบแบบต่อต้านการก่อการร้าย ทางหน่วยก็มีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา มีการคิดค้นยุทธวิธีใหม่ ๆ ไม่ให้มีความล้าสมัย แม้ว่าจะถูกจำกัดด้วยงบประมาณก็ตาม

- ทางด้านกำลังพลของหน่วยฯ ในแต่ละปี สถิติการสำเร็จการศึกษาของนร.นทต. จู่โจมโดยเฉลี่ยประมาณ ๓๐% ของผู้เข้ารับการฝึก หลังจากนั้นจะมาพัฒนาขีดความสามารถในหลักสูตรขั้น ADVANCE ทำให้ข้าราชการมีความรู้ ความสามารถพื้นฐาน ความเข้าใจในรูปแบบการปฏิบัติเดียวกันและเกิดแนวความคิดในการทำงานประจำชุดปฏิบัติการพิเศษต่อไป
ในแต่ละปียังมีการฝึกร่วมกับ US NAVY SEAL อีกปีละ ๕ ครั้ง อีกทั้งมีการฝึกร่วมกับทหาร ตำรวจ ที่เป็นหน่วยรบพิเศษ อื่น ๆ ด้วย ทำให้ขีดความสามารถของกำลังพลนักทำลายใต้น้ำสูงขึ้น
- ทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ แม้งบประมาณที่ได้รับจะน้อย ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ทางหน่วยเหนือก็ยังให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหา อาวุธและยุทโธปกรณ์ ที่จำเป็นมาทดแทน รวมทั้งได้จัดหาอาวุธที่ใช้ในการต่อต้านการก่อการร้ายสากลนำเข้ามาทดแทนชุดเดิมอีกด้วย

- ทางด้านอาคารสถานที่ ทางหน่วยมีการพัฒนาที่ตั้งหน่วยในปัจจุบันให้มีความสะอาด เรียบร้อย สวยงามตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการจัดสร้างสนามยิงปืนขึ้นมา เพื่อสะดวกต่อการซักซ้อมและการสนับสนุนในพื้นที่ ในขณะนี้ยังทำการสร้างห้องอาคารจำลอง สำหรับการฝึกการเข้าห้อง CQB ( CLOSE QUARTER BUILDING ) ซึ่งมีความจำเป็นต่อการพัฒนาขีดความสามารถของชุด ASSULT (โจมตี) นอกจากนั้น ทางหน่วยได้จัดทำพิพิธภัณฑ์ นทต. จู่โจม ขึ้นมาสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลในอดีต ผลงานของหน่วย วิธีการรบต่าง ๆ อาวุธ อุปกรณ์การดำน้ำในสมัยแรก อีกทั้งยังมีถ้วยชามสังคโลกจากงานโบราณคดีใต้น้ำ พ.ศ. ๒๕๑๗ และ ที่ยึดได้จากเรือออสเตรเลียไทด์ ซึ่งได้รับ การสนับสนุนจากกรมศิลปากร อีกทั้ง ยังมีเรื่องราวรูปภาพของเรือ PAK ONE ที่เป็นข่าวใหญ่ในประเทศ อีกด้วย ภาพเหตุการณ์จมเรือคราม อุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจของ นทต. จู่โจม จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผลงานที่ผ่านมา เช่นงานสนับสนุนการจัดงานชุมนุมลูกเสือโลก การสนับสนุน ทร.ในการรักษาความปลอดภัยในงานประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC สนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษในการตรวจค้นไม้สักเถื่อน บริเวณหนองน้ำพุ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย และ ประวัติของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ
- ด้านการข่าว มีชุดปฏิบัติการพิเศษ เป็นเบื้องหลังความสำเร็จการจับการขนยาเสพติดใน พื้นที่ทางทะเลอันดามัน ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่มาแล้ว และ ยังมีชุดที่ดูแล ความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านกองเรือยุทธการอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับ ปปส. หาข่าวสารด้านยาเสพติด และ ผู้กระทำการผิดกฎหมาย สามารถจำกุมผู้กระทำผิดได้หลายครั้ง
- ทางด้านการบริการและสังคม ในแต่ละปีหน่วยสงครามพิเศษทางเรือมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่ บุตร ธิดา ของข้าราชการที่เรียนดี และบำเพ็ญประโยชน์ในสถานที่ ๆ สำคัญอีกด้วย เช่น วัดต่าง ๆ อีกทั้งยังได้จัดงานบุญทอดกฐิน ซึ่งได้รับความสำเร็จไปด้วยดี
- ทางด้านการกีฬา เป็นการง่ายที่จะพัฒนานักกีฬาบางประเภท จาก นทต.จู่โจม เนื่องจากมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ในช่วง ปีที่ผ่านมา มีนักกีฬา จากนสร. ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่กองทัพเรือ คือ ได้รับรางวัลที่ ๑ การแข่งขันการวิ่ง CROSS COUNTRY และมีการได้รับไตรกีฬา อันดับ ๑ ของประเทศ นอกจากนั้น ยังได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ ประเภท ปัญจกีฬาสาขา SPORT ADVENTURE ที่ได้เดินทางไปแข่งระดับโลก ที่เกาะฮ่องกงอีก กีฬาประเภทพายเรือ ว่ายน้ำและโปโลน้ำ ทางหน่วยก็นำชัยมาให้แก่ กองเรือยุทธการ เกือบทุกปี
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ในปี ๔๗ นี้ก็จะมีอายุครบ ๔๙ ปี เป็นหน่วยที่ได้รับความสนใจจากประชาชน ทั่วไป เพราะมีการฝึกที่หนัก เป็นที่รู้จักว่า มีสัปดาห์นรก คนที่สามารถผ่านหลักสูตรนี้ได้คงต้องเป็นคนที่มีความแข็งแรงอดทนเหนือมนุษย์ อื่น สำหรับเหตุผลของหลักสูตรนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ที่ต้องฝึกให้หนัก และแข็งแรงนั้นเนื่องจาก ภารกิจที่กองทัพเรือได้มอบหมายให้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นภารกิจที่เสี่ยงอันตราย เข้าถึงระยะประชิดใกล้ข้าศึก ใช้กำลังทั้งกายและใจ อาศัยการทำงานเป็นทีม มีปฏิฏาณไหวพริบ จงรักภักดีต่อประเทศชาติ ดังตัวอย่างภารกิจที่จะเสนอ คือ
- การลาดตระเวนของหน่วยรบขนาดเล็ก
- การรบในป่า
- การแทรกซึมทางน้ำโดยเรือเร็วเข้าโจมตีที่หมาย
- การดำน้ำโจมตี และดำน้ำก่อวินาศกรรมเรือ
- การรบแบบกองโจร
- ต่อต้านการก่อการร้ายสากล
- การหาข่าวทางลับ
- การกระโดดร่มเข้าที่หมายที่กำหนด
- วัตถุระเบิด และ การทำลายใต้น้ำ
- ปฏิบัติตามภารกิจที่กองเรือยุทธการ และ กองทัพเรือมอบหมาย
คงจะเห็นแล้วว่าทำไมมนุษย์กบ หรือนักทำลายใต้น้ำเหตุใดจึงต้องถูกร่างหลักสูตรให้นาน ๗ เดือน และมีหัวข้อการฝึกที่ แตกต่างมากมายจากหลักสูตรรบพิเศษ อื่น ผู้ที่จะมายืนอยู่ในจุดนี้ ต้องมีความพร้อมที่จะเสียสละ และเหน็ดเหนื่อย พร้อมที่จะฝึกศึกษาหาความรู้ความชำนาญ ให้เท่าทันต่ออาวุธ ยุทธวิธี และอุปกรณ์พิเศษที่จะใช้ ต่อไป
ในปีที่ผ่านมานั้น นสร.ได้รับความไว้วางใจจากกองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ ในการมอบหมายกิจที่สำคัญ มากมาย และ สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าจะได้รับภารกิจมากมาย นสร. ก็ยังคงดำเนินการพัฒนาให้มีความก้าวหน้าในทุกด้าน เพื่อความเหมาะสมและ ทันสมัย โดยระลึกอยู่เสมอว่าในอายุ ๔๙ ขวบปีของ นสร.กร.นั้น พวกเราจะ ดำรงความพร้อมให้สูงสุดเพื่อคอยรับใช้กองทัพเรือ และประเทศชาติต่อไป

 
 ***ภาระกิจ*** 
       
 1 . จัดเตรียมกำลังพลสำหรับปฏิบัติการ การสงครามพิเศษทางเรือและปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบ รวมทั้งการฝึกและศึกษาเกี่ยวกับการสงครามพิเศษทางเรือ เป็นหน่วยกำลังรบขึ้นตรงต่อกองเรือยุทธการ โดยมี ผบ.นสร. เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

2. กองรบพิเศษ ปฏิบัติการการสงครามพิเศษทางเรือ และปฏิบัติกิจพิเศษอื่น ตามที่ได้รับมอบหมาย

3. โรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือ ฝึกและศึกษาอบรมทดสอบ ประเมินผล เกี่ยวกับการสงครามพิเศษทางเรือ และปกครองบังคับบัญชาผู้เข้ารับการฝึกและศึกษาของ นสร.

4. กองสนับสนุนหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ สนับสนุนการส่งกำลังบำรุง การบริการให้แก่หน่วยในความรับผิดชอบของ นสร.   
       
     


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:17:29 PM
 ***การฝึก นทต. จู่โจม***
     
 
เดือนมีนาคมของทุกปีจะมีเด็กหนุ่มผู้กล้าที่เป็นข้าราชการสังกัดเหล่าทัพต่างๆ เดินทางมารายตัว วันนี้มีจำนวน 100 นาย ที่ผ่านการทดสอบร่างกายเข้ามา ผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

หลังจากที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ ผมก็เบนเข็มชีวิตตนเอง มาพิสูจน์ถึงความเป็นลูกผู้ชาย แก่นแท้ที่ฝังอยู่ภายในตนเอง คำว่านักทำลายใต้น้ำจู่โจมนั้น เป็นคำที่หลายคนทราบถึงความสามารถ ของพวกเขา และ เครื่องหมายปลาฉลามขาว 2 ตัว โต้เกลียวคลื่น มีสมอและธงชาติอยู่ตรงกลาง เป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าทหารกล้า ที่จะครอบครอง ผมเช่นกัน ผมอยากเป็นสมาชิกของกลุ่มคนกล้า อยากได้เครื่องหมาย
 
 
 
 มนุษย์กบมาประดับบนเครื่องแบบ ผมหยั่งถึงความสามารถตนเอง ผมรู้ว่าต้องทำได้ มีพี่ มาบอกว่าเอ็งต้อง เตรียมใจไป 200 ผมทำตาม ทิ้งทุกอย่าง ไม่บอกทางบ้าน ให้เป็นกังวล คิดเพียงว่า 7-8 เดือนข้างหน้าประตูนรกเปิดรอผมอยู่ มันเป็นทางเดินที่เหมาะกับผม
 
 เดือนแรก เป็นการเตรียมร่างกายให้ ผู้เข้ารับการฝึก หรือเรียก พวกผมว่า นักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ครูฝึกจะเริ่มต้นแนะนำ ทุกอย่างจะเริ่มจากง่ายไปยาก ร่างกายของพวกเราแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น ก็เป็นการเปิดการฝึกในต้นเดือนที่สอง ทุกๆอย่างลำบากขึ้น เริ่มมีเครื่องช่วยฝึกเข้ามา เช่น เรือยาง ซุง หลายคนเริ่มทยอย ลาออกไป ก่อนจะถึงสัปดาห์นรก 2สัปดาห์ ผู้เข้ารับการฝึก ลาออกเป็นว่าเล่นจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ในวัน ๆหนึ่งเราฝึกกันไปตามตาราง คือ วิ่ง ว่าย น้ำ PT. ซุง เรือยาง วันๆ คิดเพียงว่าเอาตัวให้รอดและปลอดภัย ไม่คิดสิ่งอื่นใด คิดแต่ว่าเดี๋ยวก็หมดวันนี้   
     
 ทุกอย่างที่ครูฝึกป้อนมามันเป็นเกมส์ที่ทำให้พวกเรามีสภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งเพื่อเตรียมรับสภาพที่ทารุณในสัปดาห์นรก บางคนยอมแพ้ไปง่ายๆ แม้ร่างกายเขาจะไปได้แต่เมื่อคิดว่าจะต้องเจออะไรในวันข้างหน้าก็ต้องหันหลังจากไป บางคนก็เกิดบาดเจ็บไม่สามารถทำการฝึกต่อได้ ที่เหลือไม่กี่คนคือพวกที่พร้อมจะเข้าไปเผชิญหน้ากับพญามัจจุราช ในสัปดาห์นรกแล้ว
 
  เที่ยงคืนของวันหนึ่งผมตื่นมาด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงดังของปืน ปะทัด เสียงตะโกนโหวกเหวกของครูฝึกหลายคน พวกเราวิ่งขวักไขว่ทำตามคำสั่งของครูฝึกแล้วก็มารวมกลุ่มอยู่ตรงบ่อน้ำแข็ง แน่นอนแล้วเราต้องลงไปแช่ในนั้น หลังจากนั้นผมก็รู้ชะตากรรมของตนเองว่าจะเจออะไรอีก 5 วันข้างหน้า เวลามันผ่านไปได้ช้ามาก สิ่งที่เราฝึกก็มีเพียงเรือยางหากอยู่ในน้ำเราก็พายบนบกเราก็แบก ขึ้นเขาลงทะเลไปตามที่ครูฝึกบอกให้ไป รวมทั้งซุงที่แบกกันเป็นทีม หากมีคนใดคนหนึ่งเอาเปรียบ เพื่อนในทีมก็จะลำบากมากขึ้น หากทีมใดมีคนลาออก เพื่อนที่เหลือต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ทุกสิ่งคือเกมส์การแข่งขันระหว่างทีม หากทีมใดมีความสามัคคี
 
   
 มาก ก็จะเหนื่อยน้อยกว่าทีมที่ขาดความพร้อมเพรียง มันไม่ใช่การทรมานให้เราอดทนอย่างเดียว ความอ่อนล้า,หิว,ง่วง,กระหาย,เหนื่อย ,เจ็บและ ปวด มันทำให้คนแสดงธาตุแท้ ออกมา คนอ่อนแอ,คนที่เห็นแก่ตัว,คนที่ใจไม่สู้ ทำงานร่วมทีมกับเราไม่ได้ต้องเดินออกไป วันที่สามแล้วร่างกายของหลายคนเริ่มอ่อนล้า ตาเริ่มเหม่อลอย บางคนร้องให้จะลาออกเพื่อนในทีมก็ช่วยกันปลอบ ผมเห็นน้องในทีมคนหนึ่งมีอาการไอ
  หน้าแดงผิดปกติ ผมบอกให้เขาหยุดพักแต่ได้รับการปฎิเสธ เนื่องจากในสัปดาห์นรกหากใครหยุดพักเกินหนึ่งชั่วโมงก็ต้องออกไปตามกติกา คำพูดสุดท้ายที่ได้ยิน “ไม่มีปัญหา ผมสบายดีครับพี่” หลังจากนั้นเป็นชั่วโมงว่ายน้ำ และ ถอดชุดในน้ำ สิ่งที่ทำให้พวกเราตื่นจากความง่วง เหนื่อย ล้า เมื่อมีเสียงจากครูฝึกบอกให้รีบช่วยคนหมดสติขึ้นเรือยางนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน คนที่หมดสติเป็นน้องคนนั้นนั่นเอง การฝึกยังคงดำเนินต่อไป (นร.คนนั้นหมดสติในห้อง I.C.U. เป็นเวลา 3 เดือน และได้จบชีวิตลง) 
   
 
วันที่ 4 ทุกคนอ่อนล้ามากขึ้น แผลตามตัวก็มากขึ้น มีข้อสอบง่ายๆให้พวกเราทำ 10 ข้อ แต่ทำกันไม่ค่อยได้ เพราะพอนั่งกับพื้นตาก็เริ่มปิดทันที สะดุ้งทีก็เพราะครูฝึกมาสะกิด ตอนนี้ผมเคลื่อนที่ไปตามแรงเฉื่อยและคอยปลอบเพื่อนร่วมทีมและตัวเองว่า “ชีวิตเราไม่ลำบากอย่างนี้ตลอดไปหรอก ทนอีกนิดหน่อย”

เราต้อนรับวันใหม่วันสุดท้ายของสัปดาห์นรกในวินาทีแรกเช่นทุกวัน วันนี้มีแบกซุงขึ้นเขาทุกคนช่วยกันใช้ทั้งเรี่ยวแรงที่เหลือ สติที่ยังพอมีร่วมแรงร่วมใจนำไปให้เสร็จภารกิจ ทีมผมขึ้นไปถึงทีมแรก และได้พักรอทีมที่เหลือ เมื่อขึ้นมากันหมดผมจำได้ว่ามีน้องทหารอากาศหมดสติ แต่ก็ได้รับการปฐมพยาบาล เมื่อฟื้น 
   
  ขึ้นมาก็สู้ต่อไป ในวันนี้เราอยู่กับซุงเกือบทั้งวัน ตกเย็นครูฝึกหลอกว่าจะจบสัปดาห์นรกหลายครั้ง และหลายคนร้องไห้ดีใจ แต่ก็ต้องผิด หวังเมื่อเกมส์ต่างๆไม่ยอมหยุดซักที ชั่วโมงสุดท้ายมาถึงไม่มีใครรู้เมื่อครูฝึกบอกให้โยนซุงทิ้ง เพื่อนร่วมทีมผมคนหนึ่งลอยตามซุงไปเมื่อทุกคนช่วยกันออกแรงดันซุงทิ้งไปเพราะ เขาหลับขณะแบกมันอยู่แต่ปลอดภัย ครูฝึกมาแสดงความยินดีผมยังคิดว่าโดนหลอก แต่มันเป็นความจริงผมหลุดจากนรกแล้ว 

หลังจากสัปดาห์นรก ผมนอน กินสิ่งที่อยาก และ รักษาแผลตามตัว ผมหายง่วง หายเหนื่อย หายอยาก และ หายเจ็บ เตรียมตัวสู้ต่อไปในวันข้างหน้า

99% ของ นักเรียนที่ผ่านสัปดาห์นรกแล้วต้องจบหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หลายคนคิดว่าสัปดาห์นรกเป็นช่วงเวลาที่หนักที่สุด แต่ไม่ใช่หรอกเพราะมีเดือนนรกซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายรออยู่

ปัจจุบันมีคนนำเครื่องหมายของพวกเราไปใช้ โดยไม่เข้าใจความหมาย และความยากลำบากกว่าพวกเราจะได้มา ความศักดิ์สิทธิ์ของเครื่องหมายมีมาก เกินกว่าจะเป็นสิ่งที่ใช้ประดับบนเครื่องแบบ และ คิดว่า ทำให้ตนเอง ดูน่าเกรงขามเมื่อได้ติดเครื่องหมายหลายๆอย่างบนหน้าอก
 
 

เครื่องหมายความสามารถของนักทำลายใต้น้ำจู่โจม นั้น

อาร์มแถบสีธงไตรรงค์ หมายถึง ชาติไทย
สมอสีเงินขัดมัน หมายถึง ทหารเรือ
ปลาฉลามสีเงินขัดมัน หมายถึง การปฏิบัติงานใต้น้ำมีความกล้า อดทน
คลื่นสีทอง หมายถึง คลื่นหัวแตกบริเวณใกล้ฝั่งที่เป็นอุปสรรคที่ต้องเอาชนะให้ได้ ด้วยความสามัคคี

ผู้ที่จะได้รับการประดับเครื่องหมาย จะต้องเป็น

1. เป็นผู้สำเร็จหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยทหารในกองทัพไทยว่าเป็นสุดยอดของหลักสูตรการรบพิเศษที่ฝึกหนักที่สุด ยากที่สุด และฝึกนานที่สุดของประเทศไทย
2. เป็นผู้ทรงคุณวุฒิประกอบคุณงามความดี และ ให้การสนับสนุนกองทัพเรือ โดยกองทัพเรือมอบเครื่องหมายนักทำลายใต้น้ำจู่โจมกิตติมศักดิ์ให้

หลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมของราชนาวีไทย ซึ่งเทียบเท่าหลักสูตร BASIC UNDERWATER DEMOLITION/SEAL
ของ USA มีภารกิจทำลายสิ่งกีดขวางหน้าหาด สนับสนุนการยกพลขึ้นบกของกองทัพเรือ ตลอดจนการปฏิบัติการพิเศษใน
ทางลับโดยการแทรกซึมเข้าทางบก ในน้ำ หรือทางอากาศที่มีทั้งอันตราย และ ความเสี่ยงสูง รวมถึงการปฏิบัติหาข่าวซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวดในทางยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี

ในการฝึกสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความตั้งใจของอาสาสมัคร นร.นทต.จู่โจม ที่จะใช้สติปัญญา แรงกาย และ ความเข้มแข็ง
ของจิตใจ เพื่ออ่านปัญหาสมมุติต่างๆ ตลอดการฝึกหลักสูตรอันยาวนานถึง ๓๑ สัปดาห์นับจากอดีตจวบจนปัจจุบันหลักสูตรนี้ได้รับการยอมรับจากหน่วยทหารทุกหน่วยว่าเป็นสุดยอดของการรบพิเศษที่ฝึกหนัก
ยาก และนานที่สุด หลายต่อหลายคนปรารถนา จะได้รับการประดับเครื่องหมายความสามารถพิเศษรูปฉลามคู่ทะยานบนเกลียวคลื่น
ประดุจฉลามร้ายอันมีพิษสงรอบตัว ยามอยู่ในทะเลเปรียบเสมือนความจัดเจน และความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งมีอยู่เต็มในตัว
มนุษย์กบทุกๆคนที่พร้อมจะฟันฝ่าอุปสรรคให้บรรลุภารกิจของทางราชการ

หนทางสายนี้ช่างท้าทายและเย้ายวนทหารและตำรวจวัยฉกรรจ์ กระหายที่จะผ่านไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้ได้ แต่หากเพราะหนทางสายนี้มิได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ดังนั้นหลายคนต้องล้มเลิกกลางคัน บางคนก็ย้อนกลับมา จะมีเพียง ๓๐% โดยประมาณของอาสาสมัครที่สามารถฟันฝ่าขวากหนามบนเส้นทางไปถึงจุดหมายอันแสนไกล


กว่าจะเป็น SEAL

หลังจากสำเร็จหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมชั้นต้น ข้าราชการเหล่าทหารเรือก็จะได้รับการบรรจุเข้าทำงานที่หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ และเข้ารับการฝึกอบรมต่อในหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมชั้นสูง ซึ่งเป็นหลักสูตรที่อบรมเฉพาะข้าราชการของหน่วย เท่านั้นเพราะเนื้อหาการฝึก เน้นการปฏิบัติการจริง ให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถออกไปทำงานได้ดี
หลังจากนั้น นักทำลายใต้น้ำจู่โจม ต้องไปฝึกหลักสูตรส่งทางอากาศอีกครั้งจึงจะได้เป็น SEAL อย่างเต็มตัว

 
     


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:18:26 PM
      
   
           
   
           
       
       
       
       
           
 กฎของผู้ปฏิบัติการ (Operator Principles)
 

1 . ไม่ทำภารกิจให้ล้มเหลว
2 . ไม่มีผู้ชนะร่วมในสนามรบ ผู้ชนะคือผู้ฆ่า ผู้แพ้คือผู้ถูกฆ่า สู้เพื่อชัยชนะ ฝึกให้หนักเพื่อที่จะเป็นผู้อยู่รอด
3 . ทุกครั้งที่เผชิญหน้าในภารกิจ คอยเตือนภัยระวังป้องกันให้กับเพื่อนร่วมทีม
ไม่ย่อหย่อนที่จะป้องกันเพื่อน และ ระลึกเสมอว่าพร้อมที่จะปะทะ กับข้าศึก
4 . ไม่หันหลังให้กับภัยคุกคาม
5 . การต่อสู้ในสนามรบมันไม่มีความยุติธรรม อย่าหวังว่าจะได้ความยุติธรรมจากศัตรู
6 . อย่านำมีดมาดวลกับปืน ( Law of Gross Weight and Heavy Caliber )
7 . ไม่ละทิ้งเพื่อนร่วมทีม
8 . ต่อสู้ให้เหมือนกับการฝึก
9 . ฝึกศึกษาในแนวทางที่ถูกต้องคุณจะปฎิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องในช่วงที่เหลือของชีวิต
หากเรียนรู้ในสิ่งที่ผิด คุณก็ปฏิบัติในสิ่งที่ผิด และ พยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตค้นหาสิ่งที่ถูกต้อง
10 . คุณไม่เพียงแต่เล็งเท่านั้น คุณต้องยิง
11 . ใช้แหล่งข่าวที่ดีมาประมวลก่อนทำการเข้าตี ไม่กระทำเหมือนคนตาบอด ทุกครั้งโจมตีต้องรวดเร็ว มั่นใจ ฉับไว ฮึกเหิม
12 . ไม่มีใครแทนใครได้ในแต่ละประสบการณ์ เมื่อคุณเลือกรูปแบบที่จะนำมาปฏิบัติภารกิจ ประสบการณ์เก่า ๆ ควรจะเป็นกุญแจนำสู่ความสำเร็จภารกิจนั้น
13 . ทำการยิงเพื่อที่จะนำการยิงครั้งต่อไปให้แม่นยำขึ้น
14 . นักรบคือผู้ที่มีความแข็งจากในสู่นอก

 
 
 
 


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:26:35 PM
รวมภาพ (บางส่วน)  ครับ

(http://tinypic.com/b5fms1.jpg)(http://tinypic.com/b5fncz.jpg)(http://tinypic.com/b5fnh5.jpg)


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:28:35 PM
(http://tinypic.com/b5fnnk.jpg)

.
(http://tinypic.com/b5fq1c.jpg)

.
(http://tinypic.com/b5fq8l.jpg)

.
(http://tinypic.com/b5fqqp.jpg)


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: selextor ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:30:07 PM
ผมชอบ UDT พี่ชายผมก็เป็น UDT เหมือนกัน
คุณ natjoe เรียนมารุ่นไหนครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:32:45 PM
ขอทราบประวัติของคอมมานโดตำรวจ ชัยยะ หน่อยครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:33:59 PM
ผมชอบ UDT พี่ชายผมก็เป็น UDT เหมือนกัน
คุณ natjoe เรียนมารุ่นไหนครับ

ขออภัยครับ ผมมิได้ผ่านการฝึกหลักสูตรนี้มาครับ  แค่หาข้อมูลมาให้ครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Noppadol ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:43:18 PM
โอ.....ขอบคุณมาก.คุณnatjoe
         ผม print เก็บไว้อ่านแล้ว
         คุณnatjoeเป็นทหารเรือหรือครับ...
         อยากเจอตัวเป็นๆจริงๆ จะเลี้ยงข้าวให้พุงแตก
         ยังไงแล้วผมขอบูชารูปนี้นะครับ...

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 07:54:24 PM
 :~) :~) :~)ข้าวไม่ต้องก็ได้ครับ  ขอเป็นอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" แทนแล้วกันครับ   :D~


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 08:03:13 PM
ยังไงแล้วผมขอบูชารูปนี้นะครับ...

5555555555555555555555


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: SAVOK CZ ที่ สิงหาคม 25, 2005, 08:26:41 PM
เอิ๊กกกก ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 25, 2005, 09:53:53 PM
:~) :~) :~)ข้าวไม่ต้องก็ได้ครับ ขอเป็นอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร "พยัคฆ์นารี" แทนแล้วกันครับ :D~

ระวังจะเจอแผน "นารีพิฆาต"เอานะท่าน ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2005, 01:06:16 AM
ขอบคุณท่านโจคับ...;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2005, 02:22:54 AM
 ;D ข้อมูลดี ๆ อ่านกว่าจะหมด แทบแย่ ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: PPM ที่ สิงหาคม 26, 2005, 04:30:03 AM
ผมเคยอ่านหนังสือหลักสูตรรบพิเศษ ของ จ.ส.ต.พลาม พรมจำปา เป็นตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร เค้าเป็นนักล่าเครื่องหมายสมัยนั้น ได้ถึง 6 หลักสูตร หลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หลักสูตรจู่โจม หลักสูตรลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก หลักสูตรกระโดดร่มชั้นสูง หลักสูตรกู้ทำลายวัตถุระเบิด ทร. และ หลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายสากล  เค้าเขียนหนังสือไว้ดีมากครับเล่าประสบการณ์ เหมือนกับว่าเราได้เห็นการฝึกกับเค้าไปด้วย อ่านแล้วภาคภูมิใจแทนคนไทยครับ หารู้ไม่ว่าที่เรา อยู่กันสบายๆทุกวันนี้ มีใครหลายคนฝึกหนักเพื่อพิทักษ์อธิปไตย ของเราอยู่ ขอเป็นกำลังใจแด่ทหารหาร และตำรวจทุกท่านครับ 


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: vichai01++รักในหลวง++ ที่ สิงหาคม 26, 2005, 07:43:03 AM
ผมเคยอ่านหนังสือหลักสูตรรบพิเศษ ของ จ.ส.ต.พลาม พรมจำปา เป็นตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร เค้าเป็นนักล่าเครื่องหมายสมัยนั้น ได้ถึง 6 หลักสูตร หลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หลักสูตรจู่โจม หลักสูตรลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก หลักสูตรกระโดดร่มชั้นสูง หลักสูตรกู้ทำลายวัตถุระเบิด ทร. และ หลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายสากล เค้าเขียนหนังสือไว้ดีมากครับเล่าประสบการณ์ เหมือนกับว่าเราได้เห็นการฝึกกับเค้าไปด้วย อ่านแล้วภาคภูมิใจแทนคนไทยครับ หารู้ไม่ว่าที่เรา อยู่กันสบายๆทุกวันนี้ มีใครหลายคนฝึกหนักเพื่อพิทักษ์อธิปไตย ของเราอยู่ ขอเป็นกำลังใจแด่ทหารหาร และตำรวจทุกท่านครับ

 ;D ;Dรู้สึกว่าเมื่อเร็วๆล่าสุดนี้ดาบตำรวจพลาม ได้วิ่งเพื่อสันติสุขจากเชียงรายถึงนราธิวาสครับ(แข็งแรงจริงๆ) ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ สิงหาคม 26, 2005, 09:55:18 AM
  อ่านเรื่องที่คุณ Natjoe นำมาลงแล้ว ..ต้องยอมรับครับว่า ..เป็นอะไรที่ มากกว่า ความน่าภาคภูมิใจมากเลยครับ....เคยดูหน่วยนี้ในสารคดีหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนเท่านี้   ...ปกติถ้ามีเวลา ผมชอบอ่านมากกว่าครับ  โดยเฉพาะเรื่องที่ผู้เขียน เขียนจากประสบการณ์ชีวิตจริงๆ  อ่านแล้วให้ความรู้สึก ของภาพ ความต่อเนื่องและอารมณ์..มากกว่าครับ....มีโอกาส เล่าเรื่องสนุกๆ อีกนะครับ.. :D :D
 
    ??? ??? สงสัยจัง....???  เห็นรูป ข้างต้นที่คุณ Noppadol นำมาลง เป็นรูปของคุณ Natjoe หรือเปล่าครับ?  เห็นนำมาแซวและลงมาหลายครั้งแล้ว??? ???


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2005, 10:48:47 AM
      ??? ??? สงสัยจัง....???  เห็นรูป ข้างต้นที่คุณ Noppadol นำมาลง เป็นรูปของคุณ Natjoe หรือเปล่าครับ?  เห็นนำมาแซวและลงมาหลายครั้งแล้ว??? ???

 ;D เป็นรูปกุมารทองครับ กุมารทองชื่อ Natjoe :DD ;D


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ สิงหาคม 26, 2005, 10:50:07 AM
;D ;Dรู้สึกว่าเมื่อเร็วๆล่าสุดนี้ดาบตำรวจพลาม ได้วิ่งเพื่อสันติสุขจากเชียงรายถึงนราธิวาสครับ(แข็งแรงจริงๆ) ;D ;D

ตอนนี้ท่านอายุเท่าไรครับ  ;D ;D ;D ;D  แข็งสุดๆ ;D ;D ;D ;D 


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Supreeda ที่ สิงหาคม 26, 2005, 11:22:04 AM
ผมเคยอ่านหนังสือหลักสูตรรบพิเศษ ของ จ.ส.ต.พลาม พรมจำปา เป็นตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร เค้าเป็นนักล่าเครื่องหมายสมัยนั้น ได้ถึง 6 หลักสูตร หลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หลักสูตรจู่โจม หลักสูตรลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก หลักสูตรกระโดดร่มชั้นสูง หลักสูตรกู้ทำลายวัตถุระเบิด ทร. และ หลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายสากล เค้าเขียนหนังสือไว้ดีมากครับเล่าประสบการณ์ เหมือนกับว่าเราได้เห็นการฝึกกับเค้าไปด้วย อ่านแล้วภาคภูมิใจแทนคนไทยครับ หารู้ไม่ว่าที่เรา อยู่กันสบายๆทุกวันนี้ มีใครหลายคนฝึกหนักเพื่อพิทักษ์อธิปไตย ของเราอยู่ ขอเป็นกำลังใจแด่ทหารหาร และตำรวจทุกท่านครับ

เคยอ่านเหมือนกันครับ ขอคารวะรบพิเศษทุกท่าน "รับคำสั่ง ทำทันที ทำดีที่สุด"


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 26, 2005, 12:42:54 PM
ผมเคยเข้ารับการฝึกกับ ครูฝึกจากรบพิเศษ(หมวกแดง)ที่ติดอาร์มแขนว่า "พรานเวหา"ครั้งหนึ่ง ซึ้งในรสพระธรรมมากครับ  ยอมรับว่าหนักจริง ๆ 10 วันเนี่ย เดินอย่างเดียว ทั้งเครื่องหลัง ปืน  ไม่ได้นอนเลย เพียงแค่แอบ งีบตอนเดิน หรือพักหน่วย แล้วก็เดินต่อ เท้าไม่ต้องพูดถึง เค้าเรียกว่า ยางแตกครับ เลือดซิบ ๆ หนังลอก น้ำไม่ต้องอาบ  ล้างหน้าแปรงฟัน ไม่ต้องพูดถึง ชุดฝึกก็ชุดเดียวรวด  แต่ก็ต้องฝึก เค้าบอกว่าถ้าใครอยากเป็นพรานเวหา  ห้ามเป็นโรคประจำตัว 3 อย่าง  1. โรคหัวใจ(ใจฝ่อ) 2. โรคปอด(ปอดแหก) 3.โรคตา(ตาขาว)  ถ้าใครเป็นโรค 3 อย่างนี้ไม่ต้องคิดจะไปฝึกเป็นพรานเวหาครับ  โห....ยอมรับจริง ๆ ร่างกายเค้าเนี่ยบางคนอายุมากกว่าพ่อผมอีกยังแข็ง แรง กว่าผมหลายเท่า พวกเขาฝึกหนักมาก อย่างมาฝึกให้พวกผมนี่แค่ขี้เล็บของเขาเลยหล่ะ...  :<<


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: มะจัง ที่ สิงหาคม 26, 2005, 01:20:43 PM
เหมือนกุมารทองครับ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Point_Blank ที่ สิงหาคม 26, 2005, 03:08:50 PM
ลองหาหนังสือ ท๊อปกันท์ ฉบับเดือนสิงหามาอ่านดูสิครับ ข้อมูลของ ร.๒๑ ทหารเสือพระราชินีถูกรวบรวมไว้แล้ว...........ก๊าบ


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Noppadol ที่ สิงหาคม 26, 2005, 06:12:48 PM
เอ...พี่ๆมีใครพอรู้ข่าวบ้างครับที่กองทัพอากาศจะหาเครื่องบินรบใหม่
ทีนี้เค้าไปเล็ง F-16 ADF ที่เป็นเครื่องที่สิงค์โปร์ปลดประจำการแล้ว
ผมก็เลย.........  ไม่รู้มันจริงมั้ย
           มาเลเซียมี มิก-29 พม่ามีซู-27 เวียดนามก็มี สิงค์โปร์ F-18
โอย..จะเป็นลม 


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: Noppadol ที่ สิงหาคม 26, 2005, 06:17:57 PM
รูปครับ..

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: ทหารเสือราชินี
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2005, 08:01:17 PM
 ;D เครื่องบินใหม่ของ ทอ. มีตัวเลือกอยู่ 3 ตัวเลือกที่เป็นตัวเต็งอยู่ตอนนี้ครับ คือ Su30 / Jas39 และ F-16 C/D ครับ F-16 ADF คงไม่เอาหรอกครับ เครื่องที่ได้รับจากสิงคโปร์แลกกับการใช้พื้นที่ฝึกในประเทศไทย เป็นเครื่องที่ยังไม่ได้ปรับปรุงครับ ;D