๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: xiehua dun ที่ มกราคม 05, 2007, 04:08:02 PM



หัวข้อ: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มกราคม 05, 2007, 04:08:02 PM
เปาบุ้นจิ้น เป็นชาวเมืองหุ้นหนำกุ้ย ขึ้นกับเมืองกุยจิวเสีย อยู่ตำบลเปาเก แซ่เปา ชื่อบุ้นจิ้น เป็นบุตรชายของเปาเบ๊ะบ้วน และนางหลีสี อันหยิน มีพี่ชายสองคน คือเปาบุ้นกุ้ย และ เปาบุ้นลุ้ย
     เปาบุ้นกุ้ยเป็นพี่ชายคนโต มีภรรยาชื่อนางหลิวสี เปาบุ้นลุ้ยเป็นพี่ชายรอง มีภรรยาชื่อนางกังสี ส่วนเปาบุ้นจิ้น มีภรรยาชื่อ นางเตียวกุยกี
     ในช่วงที่เปาบุ้นจิ้นเกิดปรากฎว่า มีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั้งบ้าน พอคลอดออกมาร้อง อุแว้ อุแว้ แสงสว่างได้ส่องกระจายไปทั่วบ้าน แสดงว่ามีคนดีมาเกิด และคนดีคนนี้จะสร้างความสงบสุขให้แก่บ้านเมือง เป็นที่พึ่งพิงของราษฎรได้ในภายหน้า
     เปาบุ้นจิ้นเกิดมามีหน้าดำมิดหมี บ้านใกล้เรือนเคียงพากันมาเยี่ยม เห็นทารกหน้าดำปี๋ ต่างทำหน้าเบ้ไปตามๆกัน นึกรังเกียจทารกว่าจะเป็นปีศาจมาเกิด หน้าตาจึงได้ผิดมนุษย์มนาไปเช่นนี้
     ชาวบ้านก็โจษขานกันว่า ปีศาจมาเกิด ทำให้เปาเบ๊ะบ้วน ใจคอไม่ดี พลอยนึกไปในทางอกุศลแก่ลูกของตนว่า
     “อ้ายเด็กคนนี้คงเป็นปีศาจมาเกิด ขืนเลี้ยงไว้จะเป็นเสนียดจัญไรแก่บ้าน
     ได้ปรึกษากับหลีสีอันหยิน เห็นพ้องกันว่า จะต้องเอาไปทิ้งไว้ในป่า หากเอาไว้ในบ้านจะนำความพินาศมสู่ตระกูลเปา
     เปาเบ๊ะบ้วน เป็นชาวบ้านธรรมดา มีอาชีพทางเกษตร ทำไร่ทำนา คบหาสมาคมเฉพาะคนพวกเดียวกัน แม้จะมั่งมีเงินทอง ก็หาได้เรียนหนังสือหนังหาไม่ ไม่ได้ศึกษาทางธรรม จึงไม่อาจเข้าใจเหตุผล ไม่อาจแยกแยะชั่วดีได้อย่างถูกต้อง แม้นางหลีสีอันหยินก็ไม่รู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รู้แต่เรื่องทำมาหากินเท่านั้น หนำซ้ำยังเป็นคนเชื่อถือโชคลางอีกด้วย จึงตัดสินใจไปด้วยโหจริต คิดจะเอาลูกไปทิ้ง
     ในขณะที่บิดา มารดา กำลังปรึกษากันอย่างโง่ๆอยู่นั้น นางหลิวสี บุตรสะใภ้คนโตผู้มีสติปัญญา ซึ่งนั่งอยู่ในที่ไม่ไกลได้ยินเข้าจึงขอร้องบิดามารดาจะรับเลี้ยงไว้ ถ้ามีภัยอันตรายเกิดขื้น ก็จะขอรับผิดชอบเอง ไม่ให้เสียแก่บิดามารดา
     แม้บิดามารดาจะไม่เห็นด้วย และถึงกับโกรธขึ้ง แต่นางหลิวสีสะใภ้ใจบุญผู้ฉลาดก็ดื้อดึงเอาไว้ เพราะนางเห็นนิมิตต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะเปาบุ้นจิ้นคลอดออกมานั้น นางเชื่อว่า โตขึ้นเด็กคนนี้จะต้องเป็นผู้มีบุญวาสนามาก นางหลิวสีรับทารกนั้นไปเลี้ยงไว้ แล้วใหตั้งชื่อว่า เปาบุ้นจิ้น
     บิดามารดาจะรังเกียจเดียดฉันอย่างไร แต่เปาบุ้นกุ้ย และเปาบุ้นลุ้ย พร้อมพี่สะใภ้ทั้งสองไม่เคยรังเกียจ กลับจะให้ความเมตตามากยิ่งขึ้น
     เปาบุ้นจิ้น เป็นเด็กมีสติปัญญาดี ไม่มีความประพฤติเสียหายเมื่อโตขึ้นได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความรู้สูง ครั้นสมัครไปสอบไล่ ก็สามารถสอบไล่ได้เป็นจอหงวน ได้รับพระราชทานช่อดอกไม้ทองเสียบหมวกจากฮ่องเต้
     ต่อมา ได้รับตำแหน่งเป็นนายอำถอเมืองเตี้ยตักกุ้ย แทนนายอำเภอคนเก่าที่ถึงแก่กรรม ตอนนั้นอายเพียง ๑๙ ปีนับว่าหนุ่มที่สุด
     บิดา มารดา พี่ซาย และพี่สะใภ้ ดีใจกันใหญ่หน้าดำของเปาบุ้นจิ้น ที่บิดามารดาเคยตั้งข้อรังเกียจ ก็ไม่รู้สึกกันอีกต่อไปนี่แหละหนาคนเรา !
     เปาบุ้นจิ้นได้เป็นนายอำเภอมาไม่นานนัก ก็ได้สละโสดแต่งงานกับนางเตียวกุยกี
     แม้ใบหน้าของเปาบุ้นจิ้นจะดำคล้ำไปหน่อย ผิดกับเจ้าสาวซึ่งสวยงามยิ่งนัก แต่เปาบุ้นจิ้นก็เป็นคนดี มีวาสนาได้เป็นขุนนางตั้งแต่ยังหนุ่ม นางเตียวกุยจึงมีความพอใจ
     ไม่ถึงกับต้องหล่อเหลา ขอเพียงเป็นคนเอาการเอางานขยันอดทน มีความคิดสร้างสรรค์ ฝันใฝ่ในทางดีงาม ไม่มีผู้หญิงที่ฉลาดคนไหนหรอกจะไม่เหลียวแล
     นายอำเภอเปาบุ้นจิ้น ได้ทำหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตยสุจริต อุทิศชีวิตเพื่อบ้านเมือง บำบัดทุกข์บำรุงสุข ราษฎรจนเป็นทียินดีกันทั่วหน้า จึงได้รับแต่งตั้งเป็นตุลาการเป็นเจ้าเมือง ได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ เป็นที่เกรงขามของบรรดาข้าราชการทั้งน้อยใหญ่ แม้องค์ฮ่องเต้ก็ยังทรงเกรงพระทัย
     ขุนนางกังฉินทั้งเกลียดและกลัวท่าน แต่ขุนนางตงฉิน และราษฎรทั้วไปรักท่าน เพราะเปาบุ้นจิ้นท่านเป็นขุนนางที่ติดดิน ไม่ใช่ขุนนางที่คอยฟังแต่รายงาน ท่านคอยตรวจตราสุขทุกข์ของราษฎรด้วยตัวของท่านเอง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นไม่ว่าที่ไหน ท่านจึงแก้ไขได้หมด ท่านเป็นข้าราชการประเภทที่เรียกว่า “รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด”
     ถ้าพูดถึงการตัดสินคดีความของท่านแล้ว นับว่าไร้เทียมทานท่านเป็นตุลาการที่เที่ยงธรรมที่สุด เพราะท่านไม่ได้อ่านเฉพาะคำฟ้องเท่านั้น แต่ท่านพยายามไขว่คว้าพยานหลักฐานมาด้วยตนเองท่านออกพบปะประชาชน ค้นหาความจริงนอกบัลลังก์ศาล คำพิพากษาของท่านจึงบริสุทธิ์ ไม่มีใครสงสัยท่านจึงได้ชื่อว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งความยุติธรรม”
     ในฐานะเป็นขุนนางผู้ใหญให้คำ ปรึกษาแก่จักพรรดิ์องค์ฮ่องเต้เปาบุ้นจิ้นกระทำหน้าที่นี้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างแท้จริง อันไหนควรก็บอกว่าควร อันไหนไม่ควรก็บอกว่าไม่ควร
     เปาบุ้นจิ้นกล้าขัดพระทัยองค์ฮ่องเต้ ถ้าพระองค์จะทรงกระทำในสิ่งที่ผิด กล้าแนะนำองค์ฮ่องเต้ในสิ่งที่ถูก ทำให้องค์ฮ่องเต้ไม่กล้ากระทำผิด ทรงมีหริโอตตัปปะมากขึ้น ดำรงพระองค์อยู์ในทศพิธราชธรรม และรักรราษฎรมากขึ้น เห็นราษฎรเป็นเหมือนลูกหลาน ที่จะต้องทรงรักษาดูแลให้อยู่เย็นเป็นสุขกันทั่วหน้า
     เมื่อองค์ฮ่องเต้ดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรม คือ
     ๑. บำรุงเลี้ยงช่วยเหลือราษฎรให้อยู่ดีมีสุข ทรงสละพระราชทรัพย์ เพื่อราษฎรได้อยู่สำราญใจ (ทาน)
     ๒. มีความประพฤติดีงาม ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชน (ศีล)
     ๓. สละความสุขส่วนพระองคได้ เพื่อประโยชน์ และความสุขของประชาชนและสันติความสงบของบ้านเมือง ตลอดจนพระชนม์ชีพก็สามารถสละได้ หากว่าจะสามารถยังความสุข ความเจริญให้เกิดแก่ราษฎรได้ (ปริจจาคะ)
     ๔. ทรงปฏิบัติภารกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีความจริงใจต่อประชาชน (อาชชวะ)
     ๕. มีอัธยาศัยอ่อนโยน กิริยาสุภาพ นุ่มนวล ไม่เย่อหยิ่งหยาบกระด้าง เห็นแล้วงามสง่า น่าภักดี (มัททวะ)
     ๖. สามารถระงับดับกิเลสได้ ไม่ลุ่มหลงในความสุขสำราญ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย และมุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรปฎิบัติภารกิจให้สมบูรณ์ (ตปะ)
     ๗. ไม่โกรธเกรี้ยว ลุอำนาจแก่โทสะ จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องที่ทรงกระทำ และเสียหายแก่ธรรม กับมีเมตตกรุณาประจำพระทัย (อักโกธะ)
     ๘. ไม่ทำอะไรที่เป็นการกดขี่บีบคั้นราษฎร เช่นไม่เก็บภาษีอย่างขูดรีด ปีไหนเศรษฐกิจไม่ดี ราษฎรยากจน ก็ควรงดเก็บภาษีหรือเก็บภาษีให้น้อยลง ทำให้ราษฎรมีทุนทำมาหากินต่อไปได้ ไม่ลุ่มหลงอำนาจ จนขาดเมตตากรุณา แล้วหาเหตุเบียดเบียนราษฎรให้เป็นทุกข์ (อริหิงสา)
     ๙. มีความอดทน อดทนต่อภารกิจ อดทนต่อความเจ็บไขได้ป่วย อดทนต่อความบีบคั้นทางใจ ทนต่อกิเลสที่มายั่วยวนกวนใจได้ ไม่ยอมละทิ้งสิ่งดีงาม (ขันติ)
     ๑๐. วางพระองค์หนักแน่นอยู่ในธรรมไม่หวั่นไหวในโลกธรรมยึดมั่นในหลักนิติธรรมอันถูกต้อง ไม่ประพฤติผิดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม (อวิโรธนะ)
     ฮ่องเต้ที่ดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรม จะไม่มีเวลาสำหรับกระทำผิดให้เสียหาย จะมีเวลาแต่ปกครองราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข จะทรงรักษาราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข พระองค์จะทรงรักราษฎรมากขึ้นห่วงใยราษฎรยิ่งกว่าพระองค์เอง
     เมื่อฮ่องเต้ทรงรักและห่วงใยราษฎร ราษฎรก็ย่อมจงรักภักดีต่อพระองค์ องค์ฮ่องเต้อยู่ได้ด้วยราษฎรภักดี หาใช่อยู่ที่ความประจบสอพลอของเหล่าขุนนางไม่
     ขุนนางอย่างเปาบุ้นจิ้น จะไม่แนะนำให้องค์ฮ่องเต้ออกไปจากหลักธรรมอันนี้ จะไม่ประจบสอพลอเพื่อเอาดีเฉพาะตัว นี่แหละขุนนางตงฉิน ผู้จงรักภักดีที่แท้จริง
     เปาบุ้นจิ้นเริ่มรับราชการมาตั้งแต่อายุ ๑๕ ปี จนถึง ๑๐๕ ปีอันเป็นปีที่หมดอายุพอดี รวมเวลารับราชการนับได้ ๙๐ ปีเต็มๆ
     ตั้งแต่ทำราชการมา เปาบุ้นจิ้นมีแต่ความซื่อสัตย์ สุจริตไม่เคยฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่เคยกินตามน้ำหรือทวนน้ำ ไม่ใช่ว่าโง่เขลาคอร์รัปชั่นไม่เป็น หามิได้ เปาบุ้นจิ้นเป็นคนฉลาดมาก ทำการอันใดไม่เคยพลาด แม้มีอำนาจล้นมือแต่ไม่เคยใช้อานาจในทางมิชอบ
     คนเช่นนี้แหละจึงจะเรียกว่าเป็นผู้รับใช้แผ่นดิน และประชาชนผู้ยิ่งใหญ่


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2007, 04:14:56 PM
ขอบคุณครับ.ท่านเปาบุ้นจิ้นน่าจะเกิดเป็นคนไทยนะครับ.จะได้ประหารชีวิต.ไอ้พวกที่มันก่อกวนบ้านเราอยู่ตอนนี้.. >:( >:(


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: korpat ที่ มกราคม 05, 2007, 04:15:45 PM
ขอบคุณมากครับ  อยากได้คนอย่างท่านเปาบุ้นจิ้นมาปกครองบ้านเมืองเราบ้างครับ


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 05, 2007, 04:19:54 PM
อ้าวที่แท้ท่านเป็นคนจีนหรอกหรือ ผมเคยดูโทรทัศน์อยู่ตอนหนึ่ง ที่ขุนนางระดับท่านอ๋อง บอกว่า "เปาปุ้นจิ้นเจ้าเป็นคนยโส" ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ มกราคม 05, 2007, 04:21:06 PM
ของไทยเราพอมีใครใกล้ๆท่านเปาบ้างหรือเปล่าครับ ขอสักคน2คนถ้าพอมี


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มกราคม 05, 2007, 04:25:10 PM
อ้าวที่แท้ท่านเป็นคนจีนหรอกหรือ ผมเคยดูโทรทัศน์อยู่ตอนหนึ่ง ที่ขุนนางระดับท่านอ๋อง บอกว่า "เปาปุ้นจิ้นเจ้าเป็นคนยโส" ;D

ถ้าท่านเปาเป็นคนยโสจริง หม่ำ จ๊กมกคงจะภูมิใจมาก

มุขนี้โดนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2007, 04:53:39 PM
อ้าวที่แท้ท่านเป็นคนจีนหรอกหรือ ผมเคยดูโทรทัศน์อยู่ตอนหนึ่ง ที่ขุนนางระดับท่านอ๋อง บอกว่า "เปาปุ้นจิ้นเจ้าเป็นคนยโส" ;D
พี่จอยเล่นมุขนี้แล้วจะให้ผมเล่นมุขอะไรละ.....ยังงี้วัยรุ่นเซ็ง


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ มกราคม 05, 2007, 05:03:43 PM
...ผมไม่ชอบเปาบุ้นจิ้นเลย  ทำให้ผมไม่ได้ไปวิ่งตอนเย็นๆ  เพราะต้องนั่งเฝ้า ทีวี แย่ๆๆ  ;D ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 05, 2007, 05:05:48 PM
ไม่ยากเลยพี่แก้ว ให้เขาก็อปปี้ใว้ก็ได้ ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐพนธ์ ที่ มกราคม 05, 2007, 05:07:53 PM
 ;D ;Dดูในหนังช่อง3 ไมไม่เคยเห็นเมียท่านเปาซ๊ะที ;D ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 05, 2007, 05:20:05 PM
สวรรค์มีตา   ;D ;D ;D ขอนายอำเภอย่างท่านเปาหนึ่งคน   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: SAVOK CZ ที่ มกราคม 05, 2007, 06:18:23 PM
ของไทยเราพอมีใครใกล้ๆท่านเปาบ้างหรือเปล่าครับ ขอสักคน2คนถ้าพอมี
ที่ซื่อสัตย์ยุติธรรมแบบเปาปุ้นจิ้น ผมไม่ทราบ แต่ไอ้ที่ี่หน้าดำๆนี่พอมีอยู่คนนึงในเวปครับพี่บุญ


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: FUFUFUFU ที่ มกราคม 05, 2007, 06:25:32 PM
        ขอบคุณครับที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน มาให้คิด และมาให้เตือนสติ
   เพิ่งรู้ครับว่า ท่านมีเมียด้วย
   เพิ่งรู้ครับว่า ท่านรับราชการตั้งแต่ อายุ 15 โอโหเจ๋งจริงๆท่านเปา
   


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: makarms ที่ มกราคม 05, 2007, 06:45:59 PM
อ้าวที่แท้ท่านเป็นคนจีนหรอกหรือ ผมเคยดูโทรทัศน์อยู่ตอนหนึ่ง ที่ขุนนางระดับท่านอ๋อง บอกว่า "เปาปุ้นจิ้นเจ้าเป็นคนยโส" ;D
;D ;D ;D คิดได้ไงเนี้ย..........5555 ด้วยความเคารพครับ


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: vuttichai ที่ มกราคม 05, 2007, 08:10:42 PM
ชอบๆดูทุกวันดูแล้วดูอีกไม่เบื่อ อยากให้คนที่มีอำนาจมีคุณธรรมแบบนี้ .


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Τσρ Κσρ รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2007, 08:17:11 PM
อ้าวที่แท้ท่านเป็นคนจีนหรอกหรือ ผมเคยดูโทรทัศน์อยู่ตอนหนึ่ง ที่ขุนนางระดับท่านอ๋อง บอกว่า "เปาปุ้นจิ้นเจ้าเป็นคนยโส" ;D

เจอมุขนี้เข้าไป ตายกันพอดีครับ   :OO


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Charoon รักในหลวงครับ ที่ มกราคม 05, 2007, 08:18:16 PM
ถ้าหากมีนายอำเภอเหมือนอย่าง เปาปุ้นจิน แล้วพวกเราก็มิต้อง ได้ ป.๓ กันซิ (ไม่เอาอะ) ๕๕๕


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2007, 10:07:01 PM
อยากให้ข้าราชการไทย เป็นอย่างนี้ ซักร้อยละ 50 ประเทศไทย คงจะยิ่งใหญ่มากกว่านี้เป็นแน่แท้


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มกราคม 05, 2007, 10:41:45 PM
"เปาบุ้นจิ๋น" ตามที่นักประวัติศาสตร์  สืบค้น พบว่า เป็นชายร่างเล็ก ผิวขาวซีด  สูงไม่น่าเกิน 160 เซ็นติเมตร 

เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีผลงานโดดเด่น ในประวัติศาสตร์จีน จึงมีการนำเรื่องมา แต่งเป็นบทละครพื้นบ้าน  แล้ว คติของคนในยุคถัดๆมา จะมีความเชื่อว่า คนตัวโต มีท่าทีสง่าผ่าเผย เป็นบุคคลที่มี ลักษณะดีน่าคบหา  คนผิวสีเข้ม แบบคนกรำแดด เป็น คนซื่อสัตย์   คนตัวเล็กผอมบาง ผิวขาวซีด เป็นคนเจ้าเล่ห์ 

ด้วยเหตุนี้ ใน " งิ้ว" จึงมีการเปลี่ยนแปลง บุคคลิคลักษณะ "เปาบุ้นจิ๋น"

"เปาบุ้นจิ๋น" มีบทบาทเป็นนักปกครองมากกว่า ตุลาการ   เพราะจะว่าไปแล้ว  จีน ในยุคอดีต - ปัจจุบัน แทบไม่มี ระบบ ศาล จริงๆ  ใช้ระบบ รัฐศาสตร์ ตัดสินคดีความเป็นส่วนใหญ่

ทายาท "เปาบุ้นจิ๋น" ปัจจุบัน อยู่ที่ ไต้หวัน


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: sigsax ที่ มกราคม 05, 2007, 10:43:32 PM
เปาปุนจิ้น  มีหวังเฉา กับ หม่าฮั้น  และเครื่องประหารหัวสุนัข 
ดูแล้วก็ชอบตรงความซื่อสัตย์สุตจริต ของแกแหละครับ
ขอบคุณสำหรับประวัติมากครับ


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 06, 2007, 06:35:56 AM
อยากให้ข้าราชการไทย เป็นอย่างนี้ ซักร้อยละ 50 ประเทศไทย คงจะยิ่งใหญ่มากกว่านี้เป็นแน่แท้

ขอแค่ 20 ผมว่าก็เฮงแล้ว ;D ;D ;D  เอาตั้ง 50 แนะ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2007, 08:14:37 AM
...ผมไม่ชอบเปาบุ้นจิ้นเลย ทำให้ผมไม่ได้ไปวิ่งตอนเย็นๆ เพราะต้องนั่งเฝ้า ทีวี แย่ๆๆ ;D ;D
อืม.พึ่งรู้ครับ.พี่แก้วก็ชอบเปาบุ้นจิ้น... ;D ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ มกราคม 06, 2007, 12:28:27 PM
นางหลิวสี บุตรสะใภ้คนโตผู้มีสติปัญญา

       นางหลิวสี คนนี้แหละที่ เปาบุ้นจิ้น  เรียกว่า "แม่ซ้อ "  และ ได้ประหาร เปาเหมี่ยน  ซึ่งเป็นลูกชายแท้  ๆ  ของ นางเอง ซึ่งตอนนั้น เปาเหมี่ยน เป็นนายอำเภอ  เล็ก ๆ ถ้าจำไม่ผิดคือ "อำเภอลั่วหยาง "  แม้จะมีบุญคุณต่อกัน  ถึงจะผูกพันด้วยสายเลือด แต่ ท่านเปาฯ ไม่เคยนำสิ่งเหล่านั้นมาเกี่ยวข้อง กับการพิจารณาคดีความเลย 


   


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ มกราคม 12, 2007, 05:27:13 PM
...ตอน "ประหารมังกร" เมื่อวานไม่ได้ดูครับ  ไปถึงไหนแล้ว  ใครดูบ้างครับ  :)


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ตังเม ที่ มกราคม 12, 2007, 05:44:10 PM
เมื่อก่อนแม่เรายังใช้  เปาปุ้นจิ้น  ซักผ้าเลยค่ะ.  ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ มกราคม 12, 2007, 05:46:14 PM
เมื่อก่อนแม่เรายังใช้  เปาปุ้นจิ้น  ซักผ้าเลยค่ะ.  ;D

...ว้า นึกว่าจะมาตอบผม  ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ENOLA GAY ที่ มกราคม 13, 2007, 07:13:23 PM
เมื่อก่อนแม่เรายังใช้  เปาปุ้นจิ้น  ซักผ้าเลยค่ะ.  ;D

ไม่น่าเลยท่านเปาฯ เป็นถึงขุนนาง ตุลาการผู้ยิ่งใหญ่ คุณงามความดีขจรขจายไปทั่วหล้า วันนี้ต้องมาถูกคนไทยใช้ซักผ้า ;D


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Charoon รักในหลวงครับ ที่ มกราคม 13, 2007, 09:03:41 PM
เมื่อก่อนแม่เรายังใช้  เปาปุ้นจิ้น ซักผ้าเลยค่ะ. ;D

ปัจจุบันผมก็ยังใช้เปาเหมือนกับแม่น้องตังเมอยู่เลยครับ

(http://www.lion.co.th/about/images/p2.jpg)


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มกราคม 13, 2007, 09:22:53 PM
เมื่อก่อนแม่เรายังใช้  เปาปุ้นจิ้น ซักผ้าเลยค่ะ. ;D

ปัจจุบันผมก็ยังใช้เปาเหมือนกับแม่น้องตังเมอยู่เลยครับ

(http://www.lion.co.th/about/images/p2.jpg)
ตอนนี้ เปาไม่มีปุ้นจิ้นแล้วครับ มีแต่เปาซอฟท์ เปาคัลเลอร์ เปายูวีไวท์


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: นายอันตราย ที่ มกราคม 14, 2007, 01:07:17 AM
เมื่อก่อนแม่เรายังใช้ เปาปุ้นจิ้น ซักผ้าเลยค่ะ. ;D

ปัจจุบันผมก็ยังใช้เปาเหมือนกับแม่น้องตังเมอยู่เลยครับ

ตอนนี้ เปาไม่มีปุ้นจิ้นแล้วครับ มีแต่เปาซอฟท์ เปาคัลเลอร์ เปายูวีไวท์

อื่ม.......ก็นี้ไงครับ ทายาท ท่านเปา


หัวข้อ: Re: ประวัติเปาบุ้นจิ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Charoon รักในหลวงครับ ที่ มกราคม 14, 2007, 06:55:16 AM
ตอนนี้ เปาไม่มีปุ้นจิ้นแล้วครับ มีแต่เปาซอฟท์ เปาคัลเลอร์ เปายูวีไวท์

อื่ม.......ก็นี้ไงครับ ทายาท ท่านเปา

ทายารุ่นเหลน ไม่ต้องใช้ปุ้นจิ้น ก็เป็นที่รู้ว่า เป็นทายาทท่านเปาฯ แห่งเมือง ไคฟง  ขออนุญาต องค์รักษ์ซิล แทนองค์รักษ์จั่น ๕๕๕