๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

       


                  ขอตวามกรุณาเรียนท่าน ผบ.ทบ./ผอ.คสช   ช่วยปลดล็อคอาวุธปืนโครงการสวัสดิการ ทบ.ด้วยครับ จะได้เหมือนกับของ สน.อส.           
                            ขอบคุณครับ

ใช้อำนาจที่ควรจะเอาไปแก้ปัญหาใหญ่ของประเทศชาติ  เอามาทำเพื่อตัวเอง เหมาะสมแล้วหรือครับ

        ผมคิดว่าเป็นการปลดล๊อคเป็นการให้ความเสมอภาคแก่กำลังพลของ ทบ.เท่าเทียมกับ โครงการ สน.อส.  และเห็นควรปลดล็อคทุกโครงการด้วย    หลังจากที่  คสช. ได้แก้ปัญหาหลัก ๆ  จนหมดสิ้นแล้วขอได้ช่วยพืจารณาด้วยครับ     แต่ถ้าเป็นการไม่เหมาะสมก็ต้องขออภัยท่านด้วยครับ

 งั้นขอเป็นยึด ปตท. รื้อระบบใหม่หน่อยครับ พูดแทนคนไทยทั้งประเทศครับ

ข้ออ้างเรื่องความเสมอภาค  มันต้องพูดกันตั้งแต่เริ่มโครงการ
แต่เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติแล้ว  และผู้ซื้อก็ทราบเงื่อนไข ตกลงยอมรับ  และที่สำคัญก็คือซื้อโดยความสมัครใจ ไม่มีใครบังคับ
แต่พอเห็นโครงการอื่นมีเงื่อนไขที่ดีกว่า  ก็อยากจะขอแก้ไขสิ่งที่ตัวเองตกลงใจไปแล้ว
แนวความคิดเช่นนี้  ผมคงไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

    ถ้าเสนอได้ ผมว่าน่าจะเป็นเงื่อนไขการขอป.3 กับภาษีที่ท่านมาร์คขึ้น(หรือเปล่า) แล้วก็ยกเลิกระบบโควต้า อีกตัวที่ไม่เกี่ยวคือกฏหมายลิขสิทธ์สื่อต่างๆครับ
แต่ปํญหาใหญ่ตอนนี้คงต้องจัดการเรื่องเลือกตั้งก่อน

ขอแทรก นิดนึง  จะเป็นเรื่อง บ๊วยสุด ของปฎิบัติการ ครั้งนี้ เลยละ   ::005::  ::005::

 ::014::

ผมเองยังมีอยู่ 2 หน่อเลยครับ ที่ต้องโอนทางมรดกเท่านั้น  ;D

เอาเรื่องใหญ่ที่สุดก่อนดีกว่าครับ... เรื่องการบังคับใช้กฎหมายของประเทศ, เริ่มที่เรื่องหมิ่นสถาบันก่อนเลย แล้วก็เรื่องล้างระบบส่วยของผู้บังคับใช้กฎหมาย(ส่วนน้อย) แล้วที่เหลือนั่นกลไกฟันเฟืองที่มีคุณธรรมตาม(เพราะบังคับใช้กฎหมาย/ระเบียบที่ได้ผล)แล้ว ก็จะหมุนปรับตัวไปแคะ"สนิมในระบบ"ออกได้เองครับ...

ถ้าจะให้เท่าเทียม ก็ยกเลิกโควต้าไปเลยครับ แล้วทำให้ราคาถูกเท่ากันหมด(มีหน่วยงานควบคุมราคา) แบบนี้ถึงจะเรียกเท่าเทียมกันจริงๆครับ  ;D ::014::

เอาเรื่องใหญ่ให้จบก่อนดีกว่าครับ   ::014::

เอาเรื่องที่เกี่ยวกับคนส่วนใหญ่ทั่วไปดีกว่า เช่น เรื่องการศึกษา , ชาวนา , พลังงาน  ...  ::002::     เรื่องส่วนตัวแบบนี้ไปไม่ควรครับ ซื้อแล้วก็แล้วกันไป

คนด้อยสิทธิที่สุดคือ ประชาชนผู้ไร้สังกัด

การห้ามการนำเข้า และการกำหนดโควต้า เหตุผล เพื่อควบคุมปริมาณปืนที่นำเข้าในประเทศ
การยกเว้นข้อห้ามนำเข้า เหตุผล เพื่อเป็นสวัสดิการให้ ข้าราชการ-ประชาชนในสังกัดของรัฐ

หลักการนั้นสวยหรู แต่ที่สุดก็คือการคอร์รับชั่น  และการตลาดโดยอาศัยช่องทางการใช้อำนาจแบบฉ้อฉล

เดี๋ยวก็จะถึงวงรอบการต้องต่อคำสั่งชั่วคราวแบบรายปีกันแล้ว ถ้าคนได้อำนาจมท.๑ยังมองไม่เห็น เซ็นตามชงของมหาดไทยอีก .... ก็เอวัง
 ::004::

ใครอยากได้อะไรที่เป็นเรื่องกระจิบกระจอกเชิญสโมสรทบ. วิภาวดี

ถ้าเสนอได้ อยากเสนอแบบรัฐบาลจีนประกาศเมื่อเร็วๆนี้  ที่ห้ามทางราชการ จัดพิธีต้อนรับ เลี้ยงส่ง พรมแดง  ดอกไม้ ...... ฯลฯ    อยู่ต่างจังหวัดเห็นสำนักงานต่างๆใช้จ่ายกันสิ้นเปลืองจริงๆ   ละลายงบกะเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วเรื่องสำคัญก็ดันบอกมีเงินไม่พอ  ไอ้พวกจัดปีใหม่  รุ่นน้องสอบบรรจุได้ก็ตามแห่กันไปส่ง  เหมารถกันเป็นหมื่น  ถ้ารุ่นพี่จะขนาดไหน  งานเลี้ยงสารพัดงาน ทั้งๆที่ไม่ควรดื่มสุราในสถานที่ราชการ  ไม่นับพวกดูงาน  สัมนา(ปลอม)  อีกนะ   ::009:: ::009:: ::009::

น่าจะถือเป็นวาระแห่งชาตินะ  ประกาศไป ได้ใจชาวบ้านกันขรม

ใช่เลยครับพี่

 ว่าเรื่องปืนสวัสดิการไม่มีใครคิดที่จะลองเช็คดูบ้างหรือครับว่ายอดมีทั้งหมดกี่กระบอก แล้วมีกี่กระบอกที่ยังอยู่กับเจ้าของ แล้วมีกี่กระบอกที่หาย โดยเฉพาะ กล๊อคเจน4 ราคาดีจริงๆถ้ายังไม่เคยได้ยิงซักนัดราคาแพงกว่าสวัสดิการอีกครับ  ;D

เมื่อเช้าฟังข่าว  เห็นว่าตำรวจจะยกเครื่องใหม่ แล้วดึงเรื่องใบอนุญาตพกพามาขึ้นกับตำรวจ .... อันนี้ผมเห็นด้วย

ไอ้ที่มีก็ใช้ไปปืนก็ไม่ได้พังง่าย อยากได้อีกก็รีบซื้อสวัสดิการใหม่ครับ ก่อนที่ความเสมอภาคอาจหมายถึงยกเลิกให้มีปืนสวัสดิการข้าราชการและให้ทุกคนซื้อราคาร้านค้าเท่ากันทุกคนครับ ::014::

เรื่องป.๑๒ ที่เดิมมท.๑ รวบอำนาจให้ตัวเองเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ
สตช.ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา กฤษฎีกามีความเห็นว่ามท.๑ใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย
คือห้ามได้เป็นการชั่วคราว แต่จะเปิดช่องข้อยกเว้นให้ตัวเป็นผู้อนุญาตเองนั้นไม่ได้

ปีที่แล้ว มท.๑ เลยเล่นตามภาษิตสุนัขในรางหญ้า กินไม่ได้ก็ห้ามใครมากิน  ก็ออกคำสั่งระงับป.๑๒ซะ
นี่ก็ใกล้พ้นระยะเวลาบังคับแล้ว ถ้าไม่มีการชงไม่มีการต่อคำสั่งอีก ผบ.ตร.ก็จะสามารถออกป.๑๒ได้แล้ว

เมื่อคืนลองนึกดูเล่นๆ ว่าผอ.คสช. มางานนี้มีอะไรบ้างที่ต้องทำ

นึกมานึกไป และเรียงลำดับความสำคัญมากน้อยตามกำลังสติปัญญาน้อยๆของผม
ได้เกือบ30อย่าง...  แต่ละอย่าง งานล้างอุจจาระให้ผู้อื่นทั้งนั้นเลยครับ

และที่สำคัญไม่มีเรื่องปืนเลย   ;D ;D ;D


ตอนนี้สังคมคนรักปืนถูกกฎหมายคงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องเสียสละ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ

เพียงแค่เรานึกถึงตัวเองเป็นคนสุดท้ายก็พอครับ 



ขอบพระคุณ
::014:: ::014:: ::014::

ผมฟังว่าไม่ใช่แบบนั้นนะครับ
เหมือนกับจะตั้งองค์กรคล้าย ๆ กับโฮมแลนด์ซิเคียวริตี้ของอเมริกา  แล้วโอนงานทะเบียนอาวุธปืนไปที่นั่น
ส่วนเรื่องใบพก  เป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว (ต่างประเทศก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น) ถ้าเรื่องปืนหลุดจากมหาดไทย ก็จะปลดล็อคไปเอง

ถ้าพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการไทยทุกคนมีทัศนะคติแบบนี้ ผมว่า อเมริกา คงอิจฉาเรา ประเทศของเรา คงจะน่าอยู่มากกว่านี้
ขอบคุณครับ

สำหรับประเด็นที่อยากแก้ไขกฎหมายอาวุธปืนให้มีเสรีมากขึ้น  น่าจะเลิกฝันกันได้แล้ว
ไม่มีที่ไหนที่เขาทำแบบนี้หรอกครับ  มีแต่แก้ไขให้เข้มงวดมากขึ้น
ประเทศเกิดใหม่ หรือพ้นจากการเป็นเมืองขึ้น  เขาจะห้ามอาวุธปืนไว้ก่อนเลย

อเมริกาเป็นประเทศที่เกิดด้วยปืน โดยเฉพาะกองทหารอาสา ที่จับปืนขึ้นสู้กับทหารอังกฤษ เคียงข้างทหารประจำการ  ดังนั้นรัฐธรรมนูญอเมริกา จึงรับรองสิทธิการมีและการพกปืนเอาไว้  แต่ภาครัฐก็มีความพยายามตีความรัฐธรรมนูญ  ออกกฎหมายจำกัดสิทธิเรื่องปืนมากขึ้น ๆ ทุกที

ประเทศไทย เริ่มต้นมาด้วยการมีเสรีเรื่องปืน เพราะเดิมไม่มีกฎหมายห้ามมาก่อน
กฎหมายฉบับแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยา จึงทำแต่เพียงบังคับให้นำปืนที่มีไปให้ภาครัฐจดบันทึกไว้เท่านั้น
ต่อมาในสมัย ร.5 ก็ห้ามมีปืนกล กับห้ามพกปืน
จนถึง พ.ศ.2455 จึงเริ่มมี พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ บังคับเรื่องต้องขอใบอนุญาต
ทิศทางของกฎหมายปืนเมืองไทย  จึงเป็นไปในทางที่จะเข้มงวดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ขอบคุณครับผู้การฯ 
ถ้าสามารถตั้งขึ้นมาได้จริง .... ขออย่างเดียว   อย่าให้นักการเมืองไปยุ่งวุ่นวายหรือโยกย้ายได้ง่ายๆ    ถ้าเป็นองค์กรที่มีคณะกรรมการเหมือนของทางตุลาการ  ไว้คอยตรวจสอบองค์กรตัวเอง  ไม่เล่นเส้นสายหรือช่วยกันในทางที่ผิด .... คราวนี้วงการตำรวจคงมีเกียรติมีศักดิ์ศรีกว่าเดิมเยอะครับ

นึกน้อยใจที่ตนเองชอบปืนเหมือนกันไหมครับ ทั้งที่กฎหมายทุกอย่างจะพัฒนาให้เขี้ยวกว่าเดิม

ถ้าจะแก้ให้เข้มงวด ผมเห็นว่าสมควรครับ แต่ควรจะให้สิทธิกับผู้ที่ปฏิบัติตามกฏหมายด้วย ถ้าขอได้ ขอ 2 อย่าง พอครับ

1.ให้ร้านเช็คประวัติจากเลข 13 หลัก ถ้าไม่มีประวัติชั่วร้าย ก็ซื้อปืนได้ ไม่ต้องขอ ป.3 ให้ยุ่งยาก ซื้อแล้ว เอาไปขึ้น ป.4 ทำประวัติด้วย
2. เข้มงวดกับปืนเถื่อน ส่วนปืนที่มีทะเบียนก็ผ่อนคลายลง เช่น มีป.4 ก็สามารถนำปืนออกไป "ใช้" ได้ คือให้ ป.4 เป็นเหมือนใบอนุญาตพกพา ไม่ต้องออก ป.12 ซ้ำอีก ก็ในเมื่ออนุญาตให้ "มีและใช้" เอาเก็บไว้บ้าน เวลาไปนอกบ้าน แล้วจะใช้ยังไงครับ ส่วนใครมีปืนเถื่อน อาวุธสงคราม ก็จะถูกดำเนินคดี เสียประวัติ จะถูกตัดสิทธิ์ข้อ 1 ไปเอง ใครจะเสี่ยงก็เอา หรือปืนมีทะเบียนก็เถอะ ถ้าพกไปในที่ปลอดอาวุธ หรือที่ต้องห้ามก็โดนเหมือนกัน จะถูกตัดสิทธิ์ข้อ 1 คนรักปืนคงไม่ยอมเสี่ยงหรอกครับ

แค่นี้ ก็จะมีคนดีๆ อยากปฏิบัติตามกฏหมายอีกเยอะครับ ไม่ใช่ว่า ปืนเถื่อน ไม่เถื่อน มีโทษเหมือนกัน แถมปืนเถื่อนดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะไม่พันมาถึงตัว โยนทิ้งก็ได้ ปืนเถื่อนเลยเกลี่อนเมือง

เรียนถามครับเรื่องการห้ามปืนกึ่งอัตโนมัติ กระสุนชนวนกลางห้ามตั้งแต่ตอนไหนครับ

ห้ามเฉพาะที่ลำกล้องยาว 160 มม.ขึ้นไปเท่านั้น

ห้ามสั่ง/นำเข้า (แต่ยังออก ป.๔ ได้)  ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ ตั้งแต่ ๑๗ ส.ค.๒๔๙๑
ห้ามออกใบอนุญาตทุกชนิด ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ ตั้งแต่ ๑๗ ก.ย.๒๕๐๑ (ปัจจุบัน กฎฯ นี้ยกเลิกไปแล้ว ใช้ กฎฯ ๑๑ แทน)

ขอโทษครับลืมเรื่องความยาวลำกล้อง

ได้ทราบมาว่าท่าน ผบ.ทบ. กำชับในที่ประชุมว่า"ห้ามคุยเรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง" นะครับ  ::014:: ::014::