๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 03, 2013, 08:30:54 PM



หัวข้อ: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 03, 2013, 08:30:54 PM
           พอดีมีโอกาสได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตขนาด ๐.๓๕๗  และ ๐.๔๕  ของบ้านอื่นมาครับ  อ่านแล้วกลัวหลายคนจะจำยอมให้เงื่อนไขต่างๆ เพราะคิดว่าไม่มีทางไหนจะได้อีกแล้ว ... เลยอยากเล่าเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองบ้างเพื่ออย่างน้อยให้รู้ว่าคนที่สู้มีอีกเยอะครับ จริงๆ   ถึงความยุติธรรมจะราคาแพงและยาวนานบ้าง  แต่ผมเชื่อว่าต้องได้มาซึ่งความยุติธรรมนั้นครับ

           ผมได้ยื่นขอ ป.๓ ไว้เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๖  ครับเป็นอาวุธปืนกระบอกแรก  โดยประสงค์จะจ่ายค่าธรรมเนียมตามที่กฏหมายกำหนดไว้  ระหว่างนี้ก็เจอลูกนิ่งมาตลอด ทั้งถาม ทั้งท้วง  แล้วสุดท้ายก็ได้รับคำสั่งทางปกครองไม่อนุญาตในที่สุด  โดยในคำสั่งมีการแจ้งเหตุผลอันเป็นเท็จ  อ้างว่าให้ผมไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วไม่ไปบ้าง  ผู้ปกครองท้องที่ไม่อนุญาตบ้าง  และเหตุผลสุดคลาสสิค  ๐.๔๕  มีอานุภาพร้ายแรง

           ข้อเท็จจริงผมตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งทุกประการและผู้ปกครองท้องที่เซ็นรับรองให้

           อย่างอื่นยังพอว่า .. แต่ที่รู้สึกแย่มากคือมีข้าราชการผู้มีความรู้กฏหมายชั้นเนติบัณฑิตท่านนึงซึ่งเป็นผู้จัดทำคำสั่งทางปกครองอันเป็นเท็จนั้น  ได้ถามคำถามนี้กับผมในวันที่ผมไปขอเอกสารที่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยซึ่งเป็นสิทธิของคู่กรณีเมื่อได้รับคำสั่งทางปกครอง  และมีการสนทนาถึงพฤติการณ์ต่างๆ จนถึงทางออกของผมหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็คือศาลปกครอง  เป็นคำถามที่ถามผมสั้นๆ  ง่ายๆ  แต่ฟังได้ยากมากๆ ...

           " แล้ว .. คิดว่าศาลปกครองนี่จะสั่งอำเภอออกใบอนุญาติให้คุณได้มั้ย !!!!!!!! "

           เป็นคำถามจากข้าราชการทีรู้กฏหมาย  และรู้อำนาจศาล และย่อมรู้แล้วว่าคำสั่งที่ออกให้ผมมันมิชอบด้วยกฏหมายทั้งรูปแบบ ขั้นตอน เนื้อหา กฏหมาย  แต่ก็กล้าทำเพราะรู้ว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจสั่งให้ทางอำเภอออกใบอนุญาตอยู่แล้ว   เป็นคำถามของข้าราขการที่เงินเดือนได้มาจากเงินภาษีของราษฎรที่เจ็บปวดจริงๆ ครับ ... ตอนนี้ได้ยื่นอุทธรณ์ไป ๖๐ วันแล้ว  หลักฐานที่ยื่นไปถ้าถึงมือ มท.๑ น่าจะหักล้างเหตุผลที่ระบุไว้ในคำสั่งทางปกครองได้ทั้งหมด  แต่ถ้าไม่ได้หรือ ๙๐ วันไม่ทราบผลก็คงต้องศาลปกครองสมใจท่านปลัดเขาล่ะครับ

           ขอให้ผมเป็นผู้พบเจอเรื่องแบบนี้เป็นรายสุดท้ายในประเทศนะครับ  และถ้าเป็นคนสุดท้ายไม่ได้  ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมให้ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีนะครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ กันยายน 03, 2013, 08:51:48 PM
เป็นกำลังใจให้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 03, 2013, 08:59:23 PM
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณมากครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ กันยายน 03, 2013, 08:59:49 PM

......เป็นกำลังใจให้ครับ เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงคำว่าดุลพิจต้องหมดไป... >:(


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: duke1 ที่ กันยายน 03, 2013, 09:00:05 PM
โดนพูดมาแบบนี้ทำให้เราไม่กล้า. จัดศาลปกครองเลยคับ อย่ารู้เหมือนกันตอนศาลสั่งจะเป็นยังไง ::011::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 03, 2013, 09:34:40 PM

......เป็นกำลังใจให้ครับ เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงคำว่าดุลพิจต้องหมดไป... >:(

ขอบคุณมากครับ ดุลยพินิจธรรมดายังพอว่าครับ แต่ไม่ชอบธรรมขนาดแกล้งกันจะๆ  โกหกกันเห็นๆ นี่อย่างแรงจริงๆ ...

โดนพูดมาแบบนี้ทำให้เราไม่กล้า. จัดศาลปกครองเลยคับ อย่ารู้เหมือนกันตอนศาลสั่งจะเป็นยังไง ::011::

ผมโดนเลือกปฏิบัติอย่างกระจ่างชัดเหลือเกิน  ความตั้งใจคือไปให้สุดในทุกทางที่ไปได้แล้วครับตอนนี้ ...


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 03, 2013, 09:46:47 PM
นายทะเบียนไม่เคยค้นข้อมูล 9 พาราฯ ว่าที่จริงคือกระสุนสงครามโดยกำเนิดตั้งแต่บนโต๊ะเขียนแบบเลยนะครับ... สรุปว่าหากขอไม่ได้ แล้วขี้เกียจยุ่งฯ จะเปลี่ยนใจใช้ 9 พาราฯ ก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกครับ...

ไม่เห็นจะต้องง้อคนบ้าอำนาจเลยครับ...



หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 03, 2013, 10:09:38 PM
นายทะเบียนไม่เคยค้นข้อมูล 9 พาราฯ ว่าที่จริงคือประสุนสงครามโดยกำเนิดตั้งแต่บนโต๊ะเขียนแบบเลยนะครับ... สรุปว่าหากขอไม่ได้ แล้วขี้เกียจยุ่งฯ จะเปลี่ยนใจใช้ 9 พาราฯ ก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกครับ...

ไม่เห็นจะต้องง้อคนบ้าอำนาจเลยครับ...



ตอนนั้นผมตัดสินใจขอ  .๔๕  เพราะยิงแล้วถนัดที่สุดประกอบกับพอดีมีผู้ใหญ่ที่นับถือกันท่านจะขายให้ไม่แพงครับ  และหลังจากถูกกลั่นแกล้ง  หลังจากได้รับคำสั่งไม่อนุญาตผมมีหนังสือขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยไปยังนายอำเภอ  ปรากฏว่าดองเรื่องไว้ไม่หือไม่อือ  ๒๓  วันทั้งที่ผมมีเวลาอุทธรณ์เพียง ๓๐ วัน  ก็เลยเดินขึ้นอำเภอไปและได้พบคำถามด้านบนครับ ...

นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ผมตัดสินใจอุทธรณ์ ... และก็มีความคิดที่จะไม่อุทธรณ์หลังจากที่คุยกับนายอำเภอในวันรุ่งขึ้น  และก็ตัดสินใจอุทธรณ์ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่คุยกันในห้องมันต่างกันโดยสิ้นเชิง  ซึ่งลงท้ายด้วยคำว่า " ข่มเหง "

จริงๆ จะย้ายทะเบียนบ้านเข้ากรุงเทพด้วยครับ   แล้วรอเวลาให้ครบ  ๖  เดือนซึ่งน้อยกว่าการต่อสู้อยู่แล้ว ... แต่ตัดสินใจสู้ทางนี้ดีกว่าเพราะหวังให้เป็นตัวอย่างกับคนบ้านเดียวกัน  หรืออย่างน้อยให้คนบนอำเภอรู้ว่าคนอำเภอนี้ไม่ยอมให้เขาข่มเหง ... จะได้ไม่ไปทำใครเข้าอีก

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำนะครับ ^_^


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yutthakarn ที่ กันยายน 03, 2013, 10:13:15 PM
ขอเอาใจช่วยให้ได้รับความเป็นธรรมครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 03, 2013, 10:16:38 PM
ขอเอาใจช่วยให้ได้รับความเป็นธรรมครับ

ขอบคุณมากครับ ^_^


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krutor - รักในหลวง ที่ กันยายน 03, 2013, 10:58:34 PM
ทำไมท่านปักใจเชื่อว่าถูกข่มเหงรังแกครับ บ้างครั้งเราต้องทบทวนการกระทำของเราบ้างครับ ผมได้ .45 เป็นกระบอกแรกเมื่ออายุ 24 ปี ตอนแรกก็ไม่ยอมให้ ผมขอเข้าพบให้เหตุผลความจำเป็น ผมว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ทราบวิธีให้เกียรติคนอื่น พอไม่ได้ดังใจก็คิดว่าคนอื่นผิดหมด ผมอาจพูดไม่ถูกจริต แต่ผมว่ามันเป็นความจริง


หัวข้อ: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: หัวโบราณ ที่ กันยายน 03, 2013, 11:00:12 PM
          พอดีมีโอกาสได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตขนาด ๐.๓๕๗  และ ๐.๔๕  ของบ้านอื่นมาครับ  อ่านแล้วกลัวหลายคนจะจำยอมให้เงื่อนไขต่างๆ เพราะคิดว่าไม่มีทางไหนจะได้อีกแล้ว ... เลยอยากเล่าเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองบ้างเพื่ออย่างน้อยให้รู้ว่าคนที่สู้มีอีกเยอะครับ จริงๆ   ถึงความยุติธรรมจะราคาแพงและยาวนานบ้าง  แต่ผมเชื่อว่าต้องได้มาซึ่งความยุติธรรมนั้นครับ

           ผมได้ยื่นขอ ป.๓ ไว้เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๖  ครับเป็นอาวุธปืนกระบอกแรก  โดยประสงค์จะจ่ายค่าธรรมเนียมตามที่กฏหมายกำหนดไว้  ระหว่างนี้ก็เจอลูกนิ่งมาตลอด ทั้งถาม ทั้งท้วง  แล้วสุดท้ายก็ได้รับคำสั่งทางปกครองไม่อนุญาตในที่สุด  โดยในคำสั่งมีการแจ้งเหตุผลอันเป็นเท็จ  อ้างว่าให้ผมไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วไม่ไปบ้าง  ผู้ปกครองท้องที่ไม่อนุญาตบ้าง  และเหตุผลสุดคลาสสิค  ๐.๔๕  มีอานุภาพร้ายแรง

           ข้อเท็จจริงผมตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งทุกประการและผู้ปกครองท้องที่เซ็นรับรองให้

           อย่างอื่นยังพอว่า .. แต่ที่รู้สึกแย่มากคือมีข้าราชการผู้มีความรู้กฏหมายชั้นเนติบัณฑิตท่านนึงซึ่งเป็นผู้จัดทำคำสั่งทางปกครองอันเป็นเท็จนั้น  ได้ถามคำถามนี้กับผมในวันที่ผมไปขอเอกสารที่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยซึ่งเป็นสิทธิของคู่กรณีเมื่อได้รับคำสั่งทางปกครอง  และมีการสนทนาถึงพฤติการณ์ต่างๆ จนถึงทางออกของผมหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็คือศาลปกครอง  เป็นคำถามที่ถามผมสั้นๆ  ง่ายๆ  แต่ฟังได้ยากมากๆ ...

           " แล้ว .. คิดว่าศาลปกครองนี่จะสั่งอำเภอออกใบอนุญาติให้คุณได้มั้ย !!!!!!!! "

           เป็นคำถามจากข้าราชการทีรู้กฏหมาย  และรู้อำนาจศาล และย่อมรู้แล้วว่าคำสั่งที่ออกให้ผมมันมิชอบด้วยกฏหมายทั้งรูปแบบ ขั้นตอน เนื้อหา กฏหมาย  แต่ก็กล้าทำเพราะรู้ว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจสั่งให้ทางอำเภอออกใบอนุญาตอยู่แล้ว   เป็นคำถามของข้าราขการที่เงินเดือนได้มาจากเงินภาษีของราษฎรที่เจ็บปวดจริงๆ ครับ ... ตอนนี้ได้ยื่นอุทธรณ์ไป ๖๐ วันแล้ว  หลักฐานที่ยื่นไปถ้าถึงมือ มท.๑ น่าจะหักล้างเหตุผลที่ระบุไว้ในคำสั่งทางปกครองได้ทั้งหมด  แต่ถ้าไม่ได้หรือ ๙๐ วันไม่ทราบผลก็คงต้องศาลปกครองสมใจท่านปลัดเขาล่ะครับ

           ขอให้ผมเป็นผู้พบเจอเรื่องแบบนี้เป็นรายสุดท้ายในประเทศนะครับ  และถ้าเป็นคนสุดท้ายไม่ได้  ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมให้ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีนะครับ

ขอนับถือในการกระทำเลยครับ ::002::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 04, 2013, 07:30:28 AM
เอาใจช่วยครับ... ช่วงหลังๆ นี่นายสมชายรู้สึกไม่ค่อยดีกับศาลปกครองน่ะครับ ตั้งแต่คดีที่คุณ ahu อัดเทปเสียงโดนเรียกรับเงินฯ โน่นแน่ะครับ...

กระทู้นี้ครับ... http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=74040.0 ...


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 04, 2013, 07:35:52 AM
ทำไมท่านปักใจเชื่อว่าถูกข่มเหงรังแกครับ บ้างครั้งเราต้องทบทวนการกระทำของเราบ้างครับ ผมได้ .45 เป็นกระบอกแรกเมื่ออายุ 24 ปี ตอนแรกก็ไม่ยอมให้ ผมขอเข้าพบให้เหตุผลความจำเป็น ผมว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ทราบวิธีให้เกียรติคนอื่น พอไม่ได้ดังใจก็คิดว่าคนอื่นผิดหมด ผมอาจพูดไม่ถูกจริต แต่ผมว่ามันเป็นความจริง

ปัญหาเริ่มแรกมันอยู่ที่เรื่องของ ..... "ทางด่วน" ครับ  ไม่ใช่การให้เกียรติกันหรอกครับ  พอไม่ขึ้นทางด่วน จนท. ก็เริ่มพูดห้วนบ้าง ขู่บ้าง ต่อมาก็ดึงเรื่อง ตีมึน ฯ เดี๋ยวเรื่องจบจะลงเอกสารประกอบครับ  ผมมีเอกสารครบถ้วนพอสมควร


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 04, 2013, 08:05:13 AM
ทำไมท่านปักใจเชื่อว่าถูกข่มเหงรังแกครับ บ้างครั้งเราต้องทบทวนการกระทำของเราบ้างครับ ผมได้ .45 เป็นกระบอกแรกเมื่ออายุ 24 ปี ตอนแรกก็ไม่ยอมให้ ผมขอเข้าพบให้เหตุผลความจำเป็น ผมว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ทราบวิธีให้เกียรติคนอื่น พอไม่ได้ดังใจก็คิดว่าคนอื่นผิดหมด ผมอาจพูดไม่ถูกจริต แต่ผมว่ามันเป็นความจริง

ปัญหาเริ่มแรกมันอยู่ที่เรื่องของ ..... "ทางด่วน" ครับ  ไม่ใช่การให้เกียรติกันหรอกครับ  พอไม่ขึ้นทางด่วน จนท. ก็เริ่มพูดห้วนบ้าง ขู่บ้าง ต่อมาก็ดึงเรื่อง ตีมึน ฯ เดี๋ยวเรื่องจบจะลงเอกสารประกอบครับ  ผมมีเอกสารครบถ้วนพอสมควร

ถ้ามีเอกสารประกอบเป็นที่ชัดเจนแน่นหนาฯ ก็ต้องเล่นงานแบบจับให้มั่นคั้นให้ตาย เล่นกับคนชั่วมันชั่วตั้งแต่อยู่ในใจแล้ว หากผ่อนแค่นิดเดียวมันเจอรูรั่วแล้วมันจะมุดรูแว้งกัดเรานะครับ... แนะนำให้ลองติดต่อ สพป. เลยครับ, ช่องทางติดต่อก็อ่านในกระทู้คุณ ahu นั่นแหละครับ...

มือสะอาดไม่ต้องกังวลครับ... เอาใจช่วยครับ...


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 04, 2013, 09:03:17 AM
นายสมชายกลับไปนั่งอ่านกระทู้คุณ ahu อัดเสียง"โดนเรียกรับเงิน"ใหม่อีกรอบแล้วครับ... เวลานี้ความเห็นนายสมชายเปลี่ยนไป คืออยากบอกว่าการเป็นความในศาลปกครองนั้นต้องพิจารณาด้วยว่าได้คุ้มเสียหรือไม่...

ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นบางทีมันก็ไม่คุ้ม เพราะเรื่องบนศาลนั่นมีรายละเอียดแยกย่อยมากมาย มีหลายประเด็นซ้อนกันอยู่ เช่นเรื่องทางเทคนิคกฎหมายที่ทำให้นายทะเบียนหลุดฯ แล้วถ้าจะเอาเรื่องกันถึงที่สุดกรณีเรียกรับผลประโยชน์ฯ นั่นก็ไม่แน่ว่าจะไปได้ถึงหรือไม่... ชีวิตมันมีเงื่อนไขครับ...

แล้วถ้านายสมชายเจอเอง ก็จะเลือกเอา 9 พาราฯ ก็พอ หรือหากแค่ 9 พาราฯ ยังไม่ให้ฯ ก็คงย้ายทะเบียนบ้านไปที่อื่น... จากนั้นจะจ้างคนตามเก็บข้อมูล/ถ่ายรูปนายทะเบียนลงใส่แฟ้มฯ ครับ, อย่าให้เจอเรื่องผิดกฎหมายจะๆก็แล้วกัน(หรือเรื่องมีกิ๊ก-รูปและข้อมูลจะไปถึงมือเมียหลวง อย่างรวดเร็ว)... ฮา...


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Pong CB1300sf ที่ กันยายน 04, 2013, 09:34:15 AM
พี่ สมชายโหด  ;D

กะจะให้ บ้ายแตกเลยทีเดียว  ::005::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ...........
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 04, 2013, 09:52:52 AM
ผมนับถือท่านจขกท. ::014::

จนท.ไม่ควรแสดงท่าทีหรือมีคำพูดแสดงความไม่พอใจ ..... ควรทราบว่าเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน

กฎหมายกำหนดให้นายอำเภอเป็นนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่...... และประชาชนต้องยื่นขอใบอนุญาตต่อนายทะเบียน
การปฏิเสธการออกใบอนุญาตเป็นการออกคำสั่งทางปกครอง ควรต้องออกเป็นหนังสือ โดยมิต้องให้ผู้ขออนุญาตฯร้องขอ
และคำสั่งทางปกครองต้องแสดงเหตุผลอย่างน้อยคือ  1/ข้อเท็จจริง 2/ข้อกฎหมาย และ3/ข้อพิจารณาในการใช้ดุลพินิจ
มท.เองก็มีหนังสือสั่งการ กำกับ กำชับในเรื่องนี้

ผู้ขอฯมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งปฏิเสธฯหากเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อมท.๑ และหากมท.๑ยกอุทธรณ์ ก็สามารถฟ้องต่อศาลปกครอง
หากศาลวินิจฉัยว่าคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนฯ และสั่งให้นายทะเบียนฯออกคำสั่งใหม่ให้เป็นไปตามกฎหมาย

ปัญหาคือการเรียกรับฝังรากกระจายไปทั่ว .... ผู้ขอฯที่เดินทางตรงด้วยความสุจริตกลับถูกกลั่นแกล้งหน่วงเหนี่ยว
ผมไม่กล้าเรียกร้องคนใช้ทางด่วนให้หยุด..... เพราะท่านเลือกเอาประโยชน์ส่วนตนของท่านอย่างนั้น

แต่อยากขอคนกล้าคนตรง......ว่าถ้าถูกปฏิเสธการออกใบอนุญาต ก็ให้ตามเอาคำสั่งที่เป็นลายลักษณอักษรจากนายทะเบียน
อย่างน้อยก็จะได้ช่วยให้นายทะเบียนฯได้ทบทวน ว่าท่านให้เหตุผลอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ในการใช้ดุลพินิจ
ถ้าท่านดื้อ กล้าออกคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีข้อกฎหมายรองรับ --- เอกสารคำสั่งจะกลายเป็นดาบคืนสนอง  ::008::



หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: s.somsak ที่ กันยายน 04, 2013, 09:53:58 AM
พี่ สมชายโหด  ;D

กะจะให้ บ้ายแตกเลยทีเดียว  ::005::
อ่านตอนแรกก็แค่ขำๆ นึกตามท่านว่าเออโหดจริงๆด้วยสิ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ กันยายน 04, 2013, 12:16:27 PM
เป็นกำลังใจครับท่าน.......

จากผู้ที่เคยเหนื่อยหน่ายกับวิธีปฏิบัติทำนองนี้   มันก็จบลงอย่างที่มันควรจะเป็น.......แต่นานหน่อย


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Eka นายเอกา+รักในหลวง ที่ กันยายน 04, 2013, 12:51:36 PM
นับถือความตั้งใจที่ดีของท่านและขอเป็นกำลังใจด้วยครับ ถ้ามีคนปฏิบัติแบบท่านมากๆสังคมไทยจะดีขึ้นความถุกต้องชัดเจนจะมีมากขึ้น ความลุ่มหลงในอำนาจจะลดลง


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กันยายน 04, 2013, 01:59:24 PM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yutthakarn ที่ กันยายน 04, 2013, 02:14:50 PM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ


ทำให้รู้ว่า แค่ปืนอัดลมยังมีปัญหาเรื่องการออกใบอนุญาตเลยนะครับ แล้ว.45 คงไม่ต้องพูดถึง เห็นใจครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: JUTHA ที่ กันยายน 04, 2013, 02:42:03 PM
           พอดีมีโอกาสได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตขนาด ๐.๓๕๗  และ ๐.๔๕  ของบ้านอื่นมาครับ  อ่านแล้วกลัวหลายคนจะจำยอมให้เงื่อนไขต่างๆ เพราะคิดว่าไม่มีทางไหนจะได้อีกแล้ว ... เลยอยากเล่าเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองบ้างเพื่ออย่างน้อยให้รู้ว่าคนที่สู้มีอีกเยอะครับ จริงๆ   ถึงความยุติธรรมจะราคาแพงและยาวนานบ้าง  แต่ผมเชื่อว่าต้องได้มาซึ่งความยุติธรรมนั้นครับ

           ผมได้ยื่นขอ ป.๓ ไว้เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๖  ครับเป็นอาวุธปืนกระบอกแรก  โดยประสงค์จะจ่ายค่าธรรมเนียมตามที่กฏหมายกำหนดไว้  ระหว่างนี้ก็เจอลูกนิ่งมาตลอด ทั้งถาม ทั้งท้วง  แล้วสุดท้ายก็ได้รับคำสั่งทางปกครองไม่อนุญาตในที่สุด  โดยในคำสั่งมีการแจ้งเหตุผลอันเป็นเท็จ  อ้างว่าให้ผมไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วไม่ไปบ้าง  ผู้ปกครองท้องที่ไม่อนุญาตบ้าง  และเหตุผลสุดคลาสสิค  ๐.๔๕  มีอานุภาพร้ายแรง

           ข้อเท็จจริงผมตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งทุกประการและผู้ปกครองท้องที่เซ็นรับรองให้

           อย่างอื่นยังพอว่า .. แต่ที่รู้สึกแย่มากคือมีข้าราชการผู้มีความรู้กฏหมายชั้นเนติบัณฑิตท่านนึงซึ่งเป็นผู้จัดทำคำสั่งทางปกครองอันเป็นเท็จนั้น  ได้ถามคำถามนี้กับผมในวันที่ผมไปขอเอกสารที่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยซึ่งเป็นสิทธิของคู่กรณีเมื่อได้รับคำสั่งทางปกครอง  และมีการสนทนาถึงพฤติการณ์ต่างๆ จนถึงทางออกของผมหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็คือศาลปกครอง  เป็นคำถามที่ถามผมสั้นๆ  ง่ายๆ  แต่ฟังได้ยากมากๆ ...

           " แล้ว .. คิดว่าศาลปกครองนี่จะสั่งอำเภอออกใบอนุญาติให้คุณได้มั้ย !!!!!!!! "

           เป็นคำถามจากข้าราชการทีรู้กฏหมาย  และรู้อำนาจศาล และย่อมรู้แล้วว่าคำสั่งที่ออกให้ผมมันมิชอบด้วยกฏหมายทั้งรูปแบบ ขั้นตอน เนื้อหา กฏหมาย  แต่ก็กล้าทำเพราะรู้ว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจสั่งให้ทางอำเภอออกใบอนุญาตอยู่แล้ว   เป็นคำถามของข้าราขการที่เงินเดือนได้มาจากเงินภาษีของราษฎรที่เจ็บปวดจริงๆ ครับ ... ตอนนี้ได้ยื่นอุทธรณ์ไป ๖๐ วันแล้ว  หลักฐานที่ยื่นไปถ้าถึงมือ มท.๑ น่าจะหักล้างเหตุผลที่ระบุไว้ในคำสั่งทางปกครองได้ทั้งหมด  แต่ถ้าไม่ได้หรือ ๙๐ วันไม่ทราบผลก็คงต้องศาลปกครองสมใจท่านปลัดเขาล่ะครับ

           ขอให้ผมเป็นผู้พบเจอเรื่องแบบนี้เป็นรายสุดท้ายในประเทศนะครับ  และถ้าเป็นคนสุดท้ายไม่ได้  ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมให้ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีนะครับ


เป็นกำลังใจให้ครับ  เคยโดนกับตัวเองมาแล้ว เสียความรู้สึกมาก

คล้ายกันเลยครับ  เลยคิดต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เสียเวลาเกือบปี

เข้าใจความรู้สึกท่านเลย


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 04, 2013, 03:32:48 PM
นายสมชายคารวะ ด้วยความนับถือทุกท่านที่ลากสิ่งที่ไม่ถูกต้องขึ้นไปชำระบนศาลครับ... ถ้าพิจารณาถ้วนถี่แล้ว หากจะลุยมันก็ต้องลุยครับ...

นายสมชายเคยลากคนขึ้นศาลมาแล้วบ้าง บางเรื่องจบไปแล้ว และบางเรื่องรอให้ลงมาจากฎีกามาแล้ว 6 ปียังไม่ลงมาเลย... เข้าใจความรู้สึก จขกท. ดีครับ...

หากจะลุยก็ต้องลุย แล้วไม่ต้องย้อนกลับมาคิดอีกแล้ว... คนที่โดนเราลากขึ้นศาลนั้นจะรู้สึกแย่กว่าเราแน่นอนครับ...


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ กันยายน 04, 2013, 05:24:57 PM
ขอร่วมเป็นกำลังใจครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 04, 2013, 06:35:16 PM
ขอนับถือในการกระทำเลยครับ ::002::
ขอบคุณมากนะครับ
ถ้ามีเอกสารประกอบเป็นที่ชัดเจนแน่นหนาฯ ก็ต้องเล่นงานแบบจับให้มั่นคั้นให้ตาย เล่นกับคนชั่วมันชั่วตั้งแต่อยู่ในใจแล้ว หากผ่อนแค่นิดเดียวมันเจอรูรั่วแล้วมันจะมุดรูแว้งกัดเรานะครับ... แนะนำให้ลองติดต่อ สพป. เลยครับ, ช่องทางติดต่อก็อ่านในกระทู้คุณ ahu นั่นแหละครับ...

มือสะอาดไม่ต้องกังวลครับ... เอาใจช่วยครับ...
ขอบคุณมากครับ  ที่ได้เก็บเอกสารไว้เพราะได้รับคำแนะนำจากพี่ใจดีในเว็บนี้แนะนำให้ครับ 
นายสมชายกลับไปนั่งอ่านกระทู้คุณ ahu อัดเสียง"โดนเรียกรับเงิน"ใหม่อีกรอบแล้วครับ... เวลานี้ความเห็นนายสมชายเปลี่ยนไป คืออยากบอกว่าการเป็นความในศาลปกครองนั้นต้องพิจารณาด้วยว่าได้คุ้มเสียหรือไม่...

ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นบางทีมันก็ไม่คุ้ม เพราะเรื่องบนศาลนั่นมีรายละเอียดแยกย่อยมากมาย มีหลายประเด็นซ้อนกันอยู่ เช่นเรื่องทางเทคนิคกฎหมายที่ทำให้นายทะเบียนหลุดฯ แล้วถ้าจะเอาเรื่องกันถึงที่สุดกรณีเรียกรับผลประโยชน์ฯ นั่นก็ไม่แน่ว่าจะไปได้ถึงหรือไม่... ชีวิตมันมีเงื่อนไขครับ...

แล้วถ้านายสมชายเจอเอง ก็จะเลือกเอา 9 พาราฯ ก็พอ หรือหากแค่ 9 พาราฯ ยังไม่ให้ฯ ก็คงย้ายทะเบียนบ้านไปที่อื่น... จากนั้นจะจ้างคนตามเก็บข้อมูล/ถ่ายรูปนายทะเบียนลงใส่แฟ้มฯ ครับ, อย่าให้เจอเรื่องผิดกฎหมายจะๆก็แล้วกัน(หรือเรื่องมีกิ๊ก-รูปและข้อมูลจะไปถึงมือเมียหลวง อย่างรวดเร็ว)... ฮา...

ได้ตามลิงค์เข้าไปอ่านแล้วครับ  อ่านแล้วได้ประโยชน์เยอะมาก เรื่องแนวทางต่างๆ ... ขอบคุณมากครับ

พี่ สมชายโหด  ;D

กะจะให้ บ้ายแตกเลยทีเดียว  ::005::
^_^
ผมนับถือท่านจขกท. ::014::

จนท.ไม่ควรแสดงท่าทีหรือมีคำพูดแสดงความไม่พอใจ ..... ควรทราบว่าเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน

กฎหมายกำหนดให้นายอำเภอเป็นนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่...... และประชาชนต้องยื่นขอใบอนุญาตต่อนายทะเบียน
การปฏิเสธการออกใบอนุญาตเป็นการออกคำสั่งทางปกครอง ควรต้องออกเป็นหนังสือ โดยมิต้องให้ผู้ขออนุญาตฯร้องขอ
และคำสั่งทางปกครองต้องแสดงเหตุผลอย่างน้อยคือ  1/ข้อเท็จจริง 2/ข้อกฎหมาย และ3/ข้อพิจารณาในการใช้ดุลพินิจ
มท.เองก็มีหนังสือสั่งการ กำกับ กำชับในเรื่องนี้

ผู้ขอฯมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งปฏิเสธฯหากเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อมท.๑ และหากมท.๑ยกอุทธรณ์ ก็สามารถฟ้องต่อศาลปกครอง
หากศาลวินิจฉัยว่าคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนฯ และสั่งให้นายทะเบียนฯออกคำสั่งใหม่ให้เป็นไปตามกฎหมาย

ปัญหาคือการเรียกรับฝังรากกระจายไปทั่ว .... ผู้ขอฯที่เดินทางตรงด้วยความสุจริตกลับถูกกลั่นแกล้งหน่วงเหนี่ยว
ผมไม่กล้าเรียกร้องคนใช้ทางด่วนให้หยุด..... เพราะท่านเลือกเอาประโยชน์ส่วนตนของท่านอย่างนั้น

แต่อยากขอคนกล้าคนตรง......ว่าถ้าถูกปฏิเสธการออกใบอนุญาต ก็ให้ตามเอาคำสั่งที่เป็นลายลักษณอักษรจากนายทะเบียน
อย่างน้อยก็จะได้ช่วยให้นายทะเบียนฯได้ทบทวน ว่าท่านให้เหตุผลอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ในการใช้ดุลพินิจ
ถ้าท่านดื้อ กล้าออกคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีข้อกฎหมายรองรับ --- เอกสารคำสั่งจะกลายเป็นดาบคืนสนอง  ::008::


คนที่ทราบเรื่องว่าผมต่อสู้หลายคนนึกไม่ถึงครับ  บางคนไม่รู้ด้วยว่าสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ บางคนไม่รู้แม้ว่ากฏหมายกำหนดไว้อย่างไร  รู้กันแค่ว่านายไม่ให้ก็ต้องใช้เส้น   ต้องขึ้นทางด่วน  และด้วยการที่ผมสู้นี้ทำให้ผมได้รู้ว่าข้าราชการผู้น้อยที่ดีๆ ยังมีอยู่ครับ 

ผมได้แนวทางและความรู้จากในนี้เยอะมาก โดยเฉพาะพี่ธำรง ตอนนี้  ๖๐  วันแล้วครับ  ไม่แคล้วคงได้รบกวนพี่อีกแน่ๆ 
พี่ สมชายโหด  ;D

กะจะให้ บ้ายแตกเลยทีเดียว  ::005::
อ่านตอนแรกก็แค่ขำๆ นึกตามท่านว่าเออโหดจริงๆด้วยสิ
^_^
เป็นกำลังใจครับท่าน.......

จากผู้ที่เคยเหนื่อยหน่ายกับวิธีปฏิบัติทำนองนี้   มันก็จบลงอย่างที่มันควรจะเป็น.......แต่นานหน่อย
ขอบคุณมากครับ...เหนื่อยหน่อยแต่ทำให้นายทะเบียนคิดหนักก่อนเปิดช่องทางด่วน  คุ้มนะครับ
นับถือความตั้งใจที่ดีของท่านและขอเป็นกำลังใจด้วยครับ ถ้ามีคนปฏิบัติแบบท่านมากๆสังคมไทยจะดีขึ้นความถุกต้องชัดเจนจะมีมากขึ้น ความลุ่มหลงในอำนาจจะลดลง
ขอบคุณมากครับ  อยากให้คนที่กำลังขอหรือกำลังโดนสู้เหมือนกันครับ 
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ
ขอบคุณมากครับ  อยากให้ตอนนั้นปลัดคนที่พูดกับผมอยู่อำเภอพี่จังครับ จะได้ไม่ใหญ่จนคับอำเภอแบบนี้
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ


ทำให้รู้ว่า แค่ปืนอัดลมยังมีปัญหาเรื่องการออกใบอนุญาตเลยนะครับ แล้ว.45 คงไม่ต้องพูดถึง เห็นใจครับ
ขอบคุณมากครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ  เคยโดนกับตัวเองมาแล้ว เสียความรู้สึกมาก

คล้ายกันเลยครับ  เลยคิดต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เสียเวลาเกือบปี

เข้าใจความรู้สึกท่านเลย
ขอบคุณมากครับ  เสียเวลามากหน่อย แต่คุ้มนะครับ..ผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณทำไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่างแน่นอนครับ
นายสมชายคารวะ ด้วยความนับถือทุกท่านที่ลากสิ่งที่ไม่ถูกต้องขึ้นไปชำระบนศาลครับ... ถ้าพิจารณาถ้วนถี่แล้ว หากจะลุยมันก็ต้องลุยครับ...

นายสมชายเคยลากคนขึ้นศาลมาแล้วบ้าง บางเรื่องจบไปแล้ว และบางเรื่องรอให้ลงมาจากฎีกามาแล้ว 6 ปียังไม่ลงมาเลย... เข้าใจความรู้สึก จขกท. ดีครับ...

หากจะลุยก็ต้องลุย แล้วไม่ต้องย้อนกลับมาคิดอีกแล้ว... คนที่โดนเราลากขึ้นศาลนั้นจะรู้สึกแย่กว่าเราแน่นอนครับ...
ขอบคุณมากเลยครับ 
ขอร่วมเป็นกำลังใจครับ  ::014::
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: พ่อค้าภูธร- รักในหลวง ที่ กันยายน 04, 2013, 08:47:38 PM
+นับถือและเป็นกำลังใจให้ จขกท.ครับ........ ::014:: คล้ายๆกับของผม....สุดท้ายก็ต้องไปศาลกครอง  ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nengnoi ที่ กันยายน 04, 2013, 10:19:18 PM
ก่อนอื่น ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ ยืนหยัดตามสิทธิอันชอบธรรมที่เราสามารถใช้ได้ตาม
ที่กฎหมายรับรอง ถ้าเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าจะให้ดี หาหลักฐานเพิ่ม ว่าในท้องที่
ที่ท่านอยู่มีใครเคยได้รับอนุญาต ขนาดนี้บ้าง (แต่คงจะหายากหน่อย) ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ
ท่าน เพื่อเตรียมไว้เป็นข้อมูล หักล้างเหตุผลอื่น ๆ ได้มากเลย  ส่วนที่เจ้าหน้าที่แจ้งต่อท่านว่า

" แล้ว .. คิดว่าศาลปกครองนี่จะสั่งอำเภอออกใบอนุญาติให้คุณได้มั้ย !!!!!!!! "

ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับเขานะ แต่ก็ตอบได้ว่า แม้ศาลไม่มีอำนาจออกให้ได้ เพราะเป็นอำนาจของฝ่ายปกครอง
ศาลเป็นอำนาจตุลาการ ไม่มีอำนาจในส่วนนี้ แต่ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งรูปแบบและเนื้อหาได้ และสามารถสั่งให้ ฝ่ายปกครองพิจารณาให้ใหม่ได้ แต่ศาลจะไม่ก้าวลงไป
ใช้อำนาจสั่งให้ว่าได้หรือไม่ได้ เพราะเป็นการก้าวก่ายอำนาจซึ่งกันและกัน มันสั่งไม่ได้อยู่แล้วแต่สั่ง
ยกเลิกเพิกถอนได้ ถ้าคำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ในระหว่างนี้ ลองร้องไปยังหน่วยงานอื่น ๆ อีกทาง
เพิ่มด้วยดีไหม ไหน ๆ ก็ยื่นหยัดต่อสู้แล้ว ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินรํฐสภา เพิ่มด้วย ถ้าคำสั่งเขาแสดง
เหตุผลเป็นเท็จ แล้วเรามีหลักฐานหักล้าง บอกว่าไม่มีคนรับรอง แต่ความจริงมีคนรับรอง ก็ลองร้อง
เรียนอีกทาง เราไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ก็ร้องเรียนได้อีกทาง
เอาให้มันสุด ๆ ไปเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆแล้ว ยอมก็ไม่ได้ หันหน้าสู้มันสุดตัว

มาเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ยืนหยัดรักษาสิทธิ ใช้สิทธิของตนเองตามที่กฎหมายให้ไว้ครับ แม้มันจะต้อง
เสียเวลาไปบ้าง แต่ก้เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์แก่คนอื่น ๆ ให้รู้จักรักษาสิทธิของตนเองตามที่กฎหมาย
และรัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ให้ครับ



หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ..................
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 04, 2013, 10:52:09 PM
ผมขอเสริมท่านnengnoi ในประเด็นที่ท่านกล่าว "ถ้าจะให้ดี หาหลักฐานเพิ่ม ว่าในท้องที่
ที่ท่านอยู่มีใครเคยได้รับอนุญาต ขนาดนี้บ้าง (แต่คงจะหายากหน่อย) ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ
ท่าน เพื่อเตรียมไว้เป็นข้อมูล หักล้างเหตุผลอื่น ๆ ได้มากเลย ..."

เรามีสิทธิที่ไปขอดูได้ครับ .......    ตามนี้


(http://img186.imageshack.us/img186/2086/month4mh.png)


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กันยายน 05, 2013, 09:19:18 AM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ


ทำให้รู้ว่า แค่ปืนอัดลมยังมีปัญหาเรื่องการออกใบอนุญาตเลยนะครับ แล้ว.45 คงไม่ต้องพูดถึง เห็นใจครับ
[/quote]




เป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับคดี .45 ของผมก็รอคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดเช่นกันครับ


สำหรับปลัดอำเภอบ้านผมนั้น ตอนนี้เปิดร้านปืนใหญ่โตแล้วครับ 3 คูหา สองร้านแล้วครับ มาดูได้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: โกกิ ที่ กันยายน 05, 2013, 01:33:41 PM
เข้ามาเป็นเป็นกำลังใจให้ท่าน จขกท. ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ กันยายน 05, 2013, 04:30:19 PM
เป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้ครับ ที่ตั้งใจต่อสู้กับความไม่ถูกต้องและเป็นธรรม...  ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นิพนธ์-รักในหลวงของไทย ที่ กันยายน 05, 2013, 07:24:17 PM
 ::014::เวณกรรมนั้นมีอยู่จริง นายฯซึ้งมีหน้าที่ ๆ ต้องปฏิบัติ แต่กลับไม่รู้หน้าที่ ชาติบ้านเมืองไม่เจริญแล้วจะโทษใคร ::014:: ผมขอเป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้ สู้ ๆ ครับ ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 05, 2013, 08:12:26 PM
+นับถือและเป็นกำลังใจให้ จขกท.ครับ........ ::014:: คล้ายๆกับของผม....สุดท้ายก็ต้องไปศาลกครอง  ::014::
ขอบคุณมากเลยครับ ^_^

ก่อนอื่น ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ ยืนหยัดตามสิทธิอันชอบธรรมที่เราสามารถใช้ได้ตาม
ที่กฎหมายรับรอง ถ้าเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าจะให้ดี หาหลักฐานเพิ่ม ว่าในท้องที่
ที่ท่านอยู่มีใครเคยได้รับอนุญาต ขนาดนี้บ้าง (แต่คงจะหายากหน่อย) ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ
ท่าน เพื่อเตรียมไว้เป็นข้อมูล หักล้างเหตุผลอื่น ๆ ได้มากเลย  ส่วนที่เจ้าหน้าที่แจ้งต่อท่านว่า

" แล้ว .. คิดว่าศาลปกครองนี่จะสั่งอำเภอออกใบอนุญาติให้คุณได้มั้ย !!!!!!!! "

ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับเขานะ แต่ก็ตอบได้ว่า แม้ศาลไม่มีอำนาจออกให้ได้ เพราะเป็นอำนาจของฝ่ายปกครอง
ศาลเป็นอำนาจตุลาการ ไม่มีอำนาจในส่วนนี้ แต่ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งรูปแบบและเนื้อหาได้ และสามารถสั่งให้ ฝ่ายปกครองพิจารณาให้ใหม่ได้ แต่ศาลจะไม่ก้าวลงไป
ใช้อำนาจสั่งให้ว่าได้หรือไม่ได้ เพราะเป็นการก้าวก่ายอำนาจซึ่งกันและกัน มันสั่งไม่ได้อยู่แล้วแต่สั่ง
ยกเลิกเพิกถอนได้ ถ้าคำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ในระหว่างนี้ ลองร้องไปยังหน่วยงานอื่น ๆ อีกทาง
เพิ่มด้วยดีไหม ไหน ๆ ก็ยื่นหยัดต่อสู้แล้ว ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินรํฐสภา เพิ่มด้วย ถ้าคำสั่งเขาแสดง
เหตุผลเป็นเท็จ แล้วเรามีหลักฐานหักล้าง บอกว่าไม่มีคนรับรอง แต่ความจริงมีคนรับรอง ก็ลองร้อง
เรียนอีกทาง เราไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ก็ร้องเรียนได้อีกทาง
เอาให้มันสุด ๆ ไปเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆแล้ว ยอมก็ไม่ได้ หันหน้าสู้มันสุดตัว

มาเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ยืนหยัดรักษาสิทธิ ใช้สิทธิของตนเองตามที่กฎหมายให้ไว้ครับ แม้มันจะต้อง
เสียเวลาไปบ้าง แต่ก้เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์แก่คนอื่น ๆ ให้รู้จักรักษาสิทธิของตนเองตามที่กฎหมาย
และรัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ให้ครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ นายอำเภอคนนี้ย้ายมาภายหลังผมยื่นคำขอไว้เพียง ๑๐ วันเองครับ ตอนแรกก็คิดว่าโชคดีจริงๆ ที่คนไม่ดีย้ายไปแล้ว
ที่ไหนได้ .... คนนี้มาผมโดนไปหลายดอกเลยครับ เเละเพราอย่างนั้นคงหาข้อมูลเก่าๆ ลำบากครับเพราะต้องย้อนไปถึงอำเภอเก่าแกโน่น
ผมขอเสริมท่านnengnoi ในประเด็นที่ท่านกล่าว "ถ้าจะให้ดี หาหลักฐานเพิ่ม ว่าในท้องที่
ที่ท่านอยู่มีใครเคยได้รับอนุญาต ขนาดนี้บ้าง (แต่คงจะหายากหน่อย) ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ
ท่าน เพื่อเตรียมไว้เป็นข้อมูล หักล้างเหตุผลอื่น ๆ ได้มากเลย ..."

เรามีสิทธิที่ไปขอดูได้ครับ .......    ตามนี้

ขอบคุณครับพี่ธำรง  หนังสือขอดูเอกสารโดยอ้างคำวินิจฉัยดังกล่าวผมได้จัดทำไปแล้วครับ  และก็ได้รับคำสั่งปฏิเสธการอนุญาต
และผมก็อุทธรณ์  ผลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ผมเข้าดูเอกสารได้ทั้งหมด .... พอจะเข้าขอดูก็เจอกำลังภายในอีก  ความโปร่งใสไม่มีจริงๆ ครับ
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ


ทำให้รู้ว่า แค่ปืนอัดลมยังมีปัญหาเรื่องการออกใบอนุญาตเลยนะครับ แล้ว.45 คงไม่ต้องพูดถึง เห็นใจครับ




เป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับคดี .45 ของผมก็รอคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดเช่นกันครับ


สำหรับปลัดอำเภอบ้านผมนั้น ตอนนี้เปิดร้านปืนใหญ่โตแล้วครับ 3 คูหา สองร้านแล้วครับ มาดูได้ครับ
[/quote]
ขออนุญาตเจริญลอยตามนะครับ 
เข้ามาเป็นเป็นกำลังใจให้ท่าน จขกท. ครับ ::014::
ขอบคุณมากครับ
เป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้ครับ ที่ตั้งใจต่อสู้กับความไม่ถูกต้องและเป็นธรรม...  ::014::
ขอบคุณครับ
::014::เวณกรรมนั้นมีอยู่จริง นายฯซึ้งมีหน้าที่ ๆ ต้องปฏิบัติ แต่กลับไม่รู้หน้าที่ ชาติบ้านเมืองไม่เจริญแล้วจะโทษใคร ::014:: ผมขอเป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้ สู้ ๆ ครับ ::002:: ::002::
เขาคงได้ไใจ  และได้......ครับถึงไม่สนใจคำว่าหน้าที่    ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจนะครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nengnoi ที่ กันยายน 05, 2013, 09:31:52 PM
ผมขอเสริมท่านnengnoi ในประเด็นที่ท่านกล่าว "ถ้าจะให้ดี หาหลักฐานเพิ่ม ว่าในท้องที่
ที่ท่านอยู่มีใครเคยได้รับอนุญาต ขนาดนี้บ้าง (แต่คงจะหายากหน่อย) ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ
ท่าน เพื่อเตรียมไว้เป็นข้อมูล หักล้างเหตุผลอื่น ๆ ได้มากเลย ..."

เรามีสิทธิที่ไปขอดูได้ครับ .......    ตามนี้




ขอบพระคุณท่าน ธำรง มากเลยครับ จริงด้วยกระผมก็ลืม พรบ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการไป
โดยสนิทใจเลย นี่แหละครับประสบการณ์น้อยจริง ๆ  ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย  ตัว พรบ. ก็อยู่หัวนอนนะ
เวลาไปหน่วยงานราชการ ก็ยืนอ่านที่เขาติดไว้ เป็นประจำ  นั่นเลยครับ อีกช่องทางหนึ่ง หางานให้
เจ้าหน้าที่เพิ่มอีกเลยครับ มาถึงป่านนี้แล้ว ได้ไม่ได้ ไม่รู้ เอามันอีกทาง




หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: seatuch--รักในหลวง ที่ กันยายน 05, 2013, 10:27:18 PM
ให้ช่วยอะไรก็บอกได้ครับ
สนับสนุนเต็มที่ครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BOY1911 ที่ กันยายน 05, 2013, 11:08:44 PM
สู้ๆ ครับพี่เป็นกำลังใจให้ ผมก้อเจอมาเหมือนกันขอไปเกือบปี นี่พูดถึงเก้ามอมอ นะครับสุดท้ายต้องยอมจำนนคับขึ้นทางด่วนไม่นาเชื่ออาทิตย์เดียวได้ เค้าบอกว่าเป็นดุลยพินิจของนายอำเภอจะให้หรือไม่ก้อได้วันนึงเซ็นกี่ใบก้อได้ แค่สิบเอ็ดไม่ให้คับ


ทำไมท่านปักใจเชื่อว่าถูกข่มเหงรังแกครับ บ้างครั้งเราต้องทบทวนการกระทำของเราบ้างครับ ผมได้ .45 เป็นกระบอกแรกเมื่ออายุ 24 ปี ตอนแรกก็ไม่ยอมให้ ผมขอเข้าพบให้เหตุผลความจำเป็น ผมว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ทราบวิธีให้เกียรติคนอื่น พอไม่ได้ดังใจก็คิดว่าคนอื่นผิดหมด ผมอาจพูดไม่ถูกจริต แต่ผมว่ามันเป็นความจริง ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Thakama ที่ กันยายน 06, 2013, 08:47:47 PM
สู้ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ กันยายน 07, 2013, 12:58:31 AM
ทำไมท่านปักใจเชื่อว่าถูกข่มเหงรังแกครับ บ้างครั้งเราต้องทบทวนการกระทำของเราบ้างครับ ผมได้ .45 เป็นกระบอกแรกเมื่ออายุ 24 ปี ตอนแรกก็ไม่ยอมให้ ผมขอเข้าพบให้เหตุผลความจำเป็น ผมว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ทราบวิธีให้เกียรติคนอื่น พอไม่ได้ดังใจก็คิดว่าคนอื่นผิดหมด ผมอาจพูดไม่ถูกจริต แต่ผมว่ามันเป็นความจริง

การทำงาน ควรจะยึดระเบียบ ยึด Policy, Procedure ที่ถูกต้อง เป็นหลักครับ ไม่ใช่ความรู้สึก หรือเกียรติอะไร ถ้าคิดว่าจะใช้ความรู้สึก เกียรติ อะไรนั่นในการทำงาน มันก็จะเหมือนพวกหลายๆคนในประเทศเราส่วนใหญ่ครับ แล้วก็ถอยหลังลงคลอง


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BIG BERETTA ที่ กันยายน 08, 2013, 11:31:46 AM
พี่ สมชายโหด  ;D

กะจะให้ บ้ายแตกเลยทีเดียว  ::005::
อ่านตอนแรกก็แค่ขำๆ นึกตามท่านว่าเออโหดจริงๆด้วยสิ

  ไม่โหดดอกครับ ถ้าตนเป็นข้าราชการแล้วประพฤติตนเช่นนั้นจริงๆ(มีกิ๊ก)และตนก็ได้สมรสและจดทะเบียนแล้ว มันก็จะเป็นการประพฤติผิดในด้านของวินัย ผิดลูกเมียผู้อื่น เพราะตนก็ได้แจ้งกับทางต้นสังกัดฝ่ายทะเบียนประวิติไว้แล้วว่าได้สมรสแล้ว หรือมีบุตรแล้ว และได้เบิกจ่ายเงินสวัสดิการต่างๆเกี่ยวกับคู่สมรสไปใช้จ่ายแล้ว หน่วยงานผมเน้นในเรื่องนี้มาก ถึงกับกล่าวเรื่องนี้ในวันสอบสัมภาษณ์ และประฐมนิเทศเจ้าหน้าที่ใหม่กันเลยทีเดียวครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: "¥"Roosters"¥" ที่ กันยายน 09, 2013, 03:44:25 PM
ขอเป็นกำลังใจอีกหนึ่งเสียงครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 13, 2013, 07:08:07 PM
                        กรณีของการเข้าดูข้อมูลข่าวสารได้ใช้สิทธิ์ไปแล้วครับแต่โดนปฏิเสธ   ซึ่งผมยื่นอุทธรณ์และคำวินิจฉัยออกมาให้ผมสามารถเข้าดูเอกสารได้ทุกรายการ ซึ่งก็โดนตุกติกอีกเหมือนเดิมเรื่องเลยยืดเยื้อยังไม่จบครับ 

                        ในส่วนของรายละเอียดขออนุญาตหลังจบเรื่องนะครับ

                        ขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดทความคืบหน้าเลยครับ  แต่จะอัพเดทเมื่อจบเเป็นเรื่องๆ พร้อมแนบเอกสารเป็นแนวทาง  เนื่องจากผมทราบมาว่าคู่กรณีในประเด็นได้เข้ามาดูกระทู้นี้และตามเก็บข้อมูลจากกระทู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปเป็นแนวทางต่อสู้ด้วย  ข้อมูล  คำแนะ  ตลอดจนแนวทางต่อไปจึงขออนุญาตลงตามหลังจะดีกว่าครับ



หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yala_kabang ที่ กันยายน 14, 2013, 11:17:29 AM
เอาให้สุดๆไปเลยครับเกลียดจริงๆเจ้าหน้าที่รัฐที่โง่แล้วอวดเก่ง.....เดี๊ยวมันก็บอก.45เป็นอาวุธสงครามอีกหรอก.


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 06:57:06 PM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ

สั่งตรง ๆ ไม่ได้ครับ  เป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตยที่เป็นแดนแห่งอำนาจของฝ่ายบริหาร
แต่ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาว่าคำสั่งทางปกครองของฝ่ายบริหารที่ออกไปแล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว กับสั่งหรือมีคำบังคับให้ดำเนินการพิจารณาทางปกครองเสียใหม่ให้ถูกต้องตามวิธีการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด

ลองนึกภาพดูว่าข้าราชการคนไหน ถูกศาลปกครองวินิจฉัยว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ศาลต้องชี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเสียก่อน ถึงจะเพิกถอนคำสั่งได้)  ก็ขี้หดตดหายแล้วครับ  ยังไม่เคยเจอประเภทดื้อด้าน ไม่ออกใบอนุญาตซ้ำสองสักราย


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ กันยายน 15, 2013, 09:57:48 PM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ

สั่งตรง ๆ ไม่ได้ครับ  เป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตยที่เป็นแดนแห่งอำนาจของฝ่ายบริหาร
แต่ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาว่าคำสั่งทางปกครองของฝ่ายบริหารที่ออกไปแล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว กับสั่งหรือมีคำบังคับให้ดำเนินการพิจารณาทางปกครองเสียใหม่ให้ถูกต้องตามวิธีการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด

ลองนึกภาพดูว่าข้าราชการคนไหน ถูกศาลปกครองวินิจฉัยว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ศาลต้องชี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเสียก่อน ถึงจะเพิกถอนคำสั่งได้)  ก็ขี้หดตดหายแล้วครับ  ยังไม่เคยเจอประเภทดื้อด้าน ไม่ออกใบอนุญาตซ้ำสองสักราย

เป็นไปตามท่านผู้การกล่าวครับ ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ
 คำสั่งอนุญาต/ไม่อนุญาต เป็น "คำสั่งทางปกครอง"
การร้องขอต่อศาล คือ กรณีเป็น "คำสั่งทางปกครองที่มิชอบ"
ศาลจึงอาจเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มิชอบดังกล่าว
พูดง่ายๆ ว่าศาลสั่งให้เลิกคำสั่งนั้นเสีย/ไม่มีคำสั่งนั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเมื่อไม่มีคำสั่งนั้นแล้ว จะต้องเป็นสิ่งตรงกันข้าม
คู่กรณีีก็ยังต้องยื่นคำขอ/คำร้อง เพื่อให้นายทะเบียนดำเนินกระบวนการใหม่อยู่ดี
ซึ่งท้ายที่สุดนายทะเบียนจะอนุญาต หรือไม่อนุญาต (อีกครั้ง) ก็คงเป็น "ดุลยพินิจ" ในการพิจารณา (ครั้งใหม่) นั่นเองครับ

 ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2013, 07:52:31 PM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ

สั่งตรง ๆ ไม่ได้ครับ  เป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตยที่เป็นแดนแห่งอำนาจของฝ่ายบริหาร
แต่ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาว่าคำสั่งทางปกครองของฝ่ายบริหารที่ออกไปแล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว กับสั่งหรือมีคำบังคับให้ดำเนินการพิจารณาทางปกครองเสียใหม่ให้ถูกต้องตามวิธีการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด

ลองนึกภาพดูว่าข้าราชการคนไหน ถูกศาลปกครองวินิจฉัยว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ศาลต้องชี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเสียก่อน ถึงจะเพิกถอนคำสั่งได้)  ก็ขี้หดตดหายแล้วครับ  ยังไม่เคยเจอประเภทดื้อด้าน ไม่ออกใบอนุญาตซ้ำสองสักราย

เป็นไปตามท่านผู้การกล่าวครับ ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ
 คำสั่งอนุญาต/ไม่อนุญาต เป็น "คำสั่งทางปกครอง"
การร้องขอต่อศาล คือ กรณีเป็น "คำสั่งทางปกครองที่มิชอบ"
ศาลจึงอาจเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มิชอบดังกล่าว
พูดง่ายๆ ว่าศาลสั่งให้เลิกคำสั่งนั้นเสีย/ไม่มีคำสั่งนั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเมื่อไม่มีคำสั่งนั้นแล้ว จะต้องเป็นสิ่งตรงกันข้าม
คู่กรณีีก็ยังต้องยื่นคำขอ/คำร้อง เพื่อให้นายทะเบียนดำเนินกระบวนการใหม่อยู่ดี
ซึ่งท้ายที่สุดนายทะเบียนจะอนุญาต หรือไม่อนุญาต (อีกครั้ง) ก็คงเป็น "ดุลยพินิจ" ในการพิจารณา (ครั้งใหม่) นั่นเองครับ

 ::014:: ::014:: ::014::

ไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ
ศาลมีอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง  พ.ศ.  ๒๕๔๒ มาตรา ๗๒ คือ
   (๑) สั่งให้เพิกถอนกฎหรือคำสั่งหรือสั่งห้ามการกระทำทั้งหมดหรือบางส่วนในกรณีที่มีการฟ้องว่าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑)
   (๒) สั่งให้หัวหน้าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามหน้าที่ภายในเวลาที่ศาลปกครองกำหนด ในกรณีที่มีการฟ้องว่าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร
   (๓) สั่งให้ใช้เงินหรือให้ส่งมอบทรัพย์สินหรือให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการโดยจะกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขอื่น ๆ ไว้ด้วยก็ได้ ในกรณีที่มีการฟ้องเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือการฟ้องเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง
   (๔) สั่งให้ถือปฏิบัติต่อสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการฟ้องให้ศาลมีคำพิพากษาแสดงความเป็นอยู่ของสิทธิหรือหน้าที่นั้น
   (๕) สั่งให้บุคคลกระทำหรือละเว้นกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
 
ดังนั้นคำขอท้ายฟ้อง  ก็ต้องเป็นไปตามนี้
คือขอให้เพิกถอนคำสั่งไม่อนุญาตของเดิมที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  แล้วให้พิจารณาใหม่ให้เป็นไปตามวิธีการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด
จึงไม่ต้องยื่นคำร้องใหม่
และในทางปฏิบัติ  ก็เป็นไปตามนี้ทุกคดี
บางคดี อย่างเช่นคดีคุณเสก ซึ่งสู้กันถึงศาลปกครองสูงสุดในประเด็นเพิกถอนคำสั่ง ฯ   นายทะเบียนก็ออกใบอนุญาตให้ตั้งแต่ศาลชั้นต้น


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ กันยายน 16, 2013, 09:46:23 PM
ครับศาลปกครองสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้เราได้ครับ ผมชนะมาแล้ว ๑ คดีครับ ปืนอัดลมยาวครับ

สั่งตรง ๆ ไม่ได้ครับ  เป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตยที่เป็นแดนแห่งอำนาจของฝ่ายบริหาร
แต่ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาว่าคำสั่งทางปกครองของฝ่ายบริหารที่ออกไปแล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว กับสั่งหรือมีคำบังคับให้ดำเนินการพิจารณาทางปกครองเสียใหม่ให้ถูกต้องตามวิธีการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด

ลองนึกภาพดูว่าข้าราชการคนไหน ถูกศาลปกครองวินิจฉัยว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ศาลต้องชี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเสียก่อน ถึงจะเพิกถอนคำสั่งได้)  ก็ขี้หดตดหายแล้วครับ  ยังไม่เคยเจอประเภทดื้อด้าน ไม่ออกใบอนุญาตซ้ำสองสักราย

เป็นไปตามท่านผู้การกล่าวครับ ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ
 คำสั่งอนุญาต/ไม่อนุญาต เป็น "คำสั่งทางปกครอง"
การร้องขอต่อศาล คือ กรณีเป็น "คำสั่งทางปกครองที่มิชอบ"
ศาลจึงอาจเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มิชอบดังกล่าว
พูดง่ายๆ ว่าศาลสั่งให้เลิกคำสั่งนั้นเสีย/ไม่มีคำสั่งนั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเมื่อไม่มีคำสั่งนั้นแล้ว จะต้องเป็นสิ่งตรงกันข้าม
คู่กรณีีก็ยังต้องยื่นคำขอ/คำร้อง เพื่อให้นายทะเบียนดำเนินกระบวนการใหม่อยู่ดี
ซึ่งท้ายที่สุดนายทะเบียนจะอนุญาต หรือไม่อนุญาต (อีกครั้ง) ก็คงเป็น "ดุลยพินิจ" ในการพิจารณา (ครั้งใหม่) นั่นเองครับ

 ::014:: ::014:: ::014::

ไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ
ศาลมีอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง  พ.ศ.  ๒๕๔๒ มาตรา ๗๒ คือ
   (๑) สั่งให้เพิกถอนกฎหรือคำสั่งหรือสั่งห้ามการกระทำทั้งหมดหรือบางส่วนในกรณีที่มีการฟ้องว่าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑)
   (๒) สั่งให้หัวหน้าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามหน้าที่ภายในเวลาที่ศาลปกครองกำหนด ในกรณีที่มีการฟ้องว่าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร
   (๓) สั่งให้ใช้เงินหรือให้ส่งมอบทรัพย์สินหรือให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการโดยจะกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขอื่น ๆ ไว้ด้วยก็ได้ ในกรณีที่มีการฟ้องเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือการฟ้องเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง
   (๔) สั่งให้ถือปฏิบัติต่อสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการฟ้องให้ศาลมีคำพิพากษาแสดงความเป็นอยู่ของสิทธิหรือหน้าที่นั้น
   (๕) สั่งให้บุคคลกระทำหรือละเว้นกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
 
ดังนั้นคำขอท้ายฟ้อง  ก็ต้องเป็นไปตามนี้
คือขอให้เพิกถอนคำสั่งไม่อนุญาตของเดิมที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  แล้วให้พิจารณาใหม่ให้เป็นไปตามวิธีการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด
จึงไม่ต้องยื่นคำร้องใหม่
และในทางปฏิบัติ  ก็เป็นไปตามนี้ทุกคดี
บางคดี อย่างเช่นคดีคุณเสก ซึ่งสู้กันถึงศาลปกครองสูงสุดในประเด็นเพิกถอนคำสั่ง ฯ   นายทะเบียนก็ออกใบอนุญาตให้ตั้งแต่ศาลชั้นต้น
เรียนท่านผู้การฯ
ผมยังเห็นตามความในส่วนข้างต้นด้านบนของท่านผู้การฯ ครับ
ว่าศาลทำได้เพียงตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย" ของคำสั่งทางปกครอง
ซึ่งหาก กระบวนการ หรือ การใช้ ดุลยพินิจ ในการทำคำสั่งทางปกครองมิชอบแล้ว ศาลอาจใช้อำนาจตามกฎหมายข้างต้น "เพิกถอน" คำสั่งทางปกครอง นั้นเสีย
อย่างไรก็ตาม ศาลเป็นเพียงองค์กรที่ตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย"  ซึ่งจะไม่สามารถตรวจสอบ "ดุลยพินิจ" ของเจ้าหน้าที่ได้
เพราะไม่เช่นนั้น หากให้ศาลสามารถตรวจสอบทั้ง "ดุลยพินิจ" และยังให้ใช้ "ดุลยพินิจ" แทนเจ้าหน้าที่ได้อีก ก็จะเป็นการใช้อำนาจตุลาการมาข้ามเส้นของอำนาจบริหาร
ดังที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้ในตอนต้น ซึ่งประเด็นที่กระผมต้องการจะเน้นย้ำ คือ ท้ายที่สุดแม้จะมีการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองนั้นแล้ว ซึ่งเป็นการตรวจสอบกระบวนการ ความชอบด้วยกฎหมาย แต่การใช้ "ดุลยพินิจ" ว่าจะอนุมัติ/อนุญาต ยังคงเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ (นายทะเบียน) ที่ศาลไม่อาจก้าวล่วงไปตรวจสอบการใช้ "ดุลยพินิจ" ได้ครับ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามหลักการในทางกฎหมายมหาชน ส่วนขั้นตอนในทางปฏิบัตินั้้นผมยังด้อยในประสบการณ์ส่วนนี้ครับ

 ::014:: ::014:: ::014::



หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กันยายน 17, 2013, 09:34:57 AM
ขอบคุณ ผู้การและ อาฮุย สำหรับความรู้เรื่องกฎหมายครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2013, 11:12:52 PM
เรียนท่านผู้การฯ
ผมยังเห็นตามความในส่วนข้างต้นด้านบนของท่านผู้การฯ ครับ
ว่าศาลทำได้เพียงตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย" ของคำสั่งทางปกครอง
ซึ่งหาก กระบวนการ หรือ การใช้ ดุลยพินิจ ในการทำคำสั่งทางปกครองมิชอบแล้ว ศาลอาจใช้อำนาจตามกฎหมายข้างต้น "เพิกถอน" คำสั่งทางปกครอง นั้นเสีย
อย่างไรก็ตาม ศาลเป็นเพียงองค์กรที่ตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย"  ซึ่งจะไม่สามารถตรวจสอบ "ดุลยพินิจ" ของเจ้าหน้าที่ได้
เพราะไม่เช่นนั้น หากให้ศาลสามารถตรวจสอบทั้ง "ดุลยพินิจ" และยังให้ใช้ "ดุลยพินิจ" แทนเจ้าหน้าที่ได้อีก ก็จะเป็นการใช้อำนาจตุลาการมาข้ามเส้นของอำนาจบริหาร
ดังที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้ในตอนต้น ซึ่งประเด็นที่กระผมต้องการจะเน้นย้ำ คือ ท้ายที่สุดแม้จะมีการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองนั้นแล้ว ซึ่งเป็นการตรวจสอบกระบวนการ ความชอบด้วยกฎหมาย แต่การใช้ "ดุลยพินิจ" ว่าจะอนุมัติ/อนุญาต ยังคงเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ (นายทะเบียน) ที่ศาลไม่อาจก้าวล่วงไปตรวจสอบการใช้ "ดุลยพินิจ" ได้ครับ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามหลักการในทางกฎหมายมหาชน ส่วนขั้นตอนในทางปฏิบัตินั้้นผมยังด้อยในประสบการณ์ส่วนนี้ครับ

เป็นเพราะว่าเข้าใจคำว่า "ดุลพินิจ" ตลาดเคลื่อน
ดุลพินิจ ไม่ได้แปลว่า "ตามใจกู"
ดุลพินิจ นั้นใช้เพื่อการตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานเท่านั้น  เมื่อคุณสมบัติครบถ้วน ต้องออกใบอนุญาตทุกกรณี
ทั้งนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาทางปกครอง  พ.ศ.2539 มาตรา 37

หมายความว่า ถ้าจะไม่ออกใบอนุญาต  ก็ต้องให้เหตุผลตามมาตรา 37 (2) ให้ได้ว่า ขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างไร

   มาตรา ๓๗  คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือและการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย  และเหตุผลนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
   (๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
   (๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
   (๓) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ฯ
เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ กันยายน 18, 2013, 10:59:26 AM
เรียนท่านผู้การฯ
ผมยังเห็นตามความในส่วนข้างต้นด้านบนของท่านผู้การฯ ครับ
ว่าศาลทำได้เพียงตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย" ของคำสั่งทางปกครอง
ซึ่งหาก กระบวนการ หรือ การใช้ ดุลยพินิจ ในการทำคำสั่งทางปกครองมิชอบแล้ว ศาลอาจใช้อำนาจตามกฎหมายข้างต้น "เพิกถอน" คำสั่งทางปกครอง นั้นเสีย
อย่างไรก็ตาม ศาลเป็นเพียงองค์กรที่ตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย"  ซึ่งจะไม่สามารถตรวจสอบ "ดุลยพินิจ" ของเจ้าหน้าที่ได้
เพราะไม่เช่นนั้น หากให้ศาลสามารถตรวจสอบทั้ง "ดุลยพินิจ" และยังให้ใช้ "ดุลยพินิจ" แทนเจ้าหน้าที่ได้อีก ก็จะเป็นการใช้อำนาจตุลาการมาข้ามเส้นของอำนาจบริหาร
ดังที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้ในตอนต้น ซึ่งประเด็นที่กระผมต้องการจะเน้นย้ำ คือ ท้ายที่สุดแม้จะมีการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองนั้นแล้ว ซึ่งเป็นการตรวจสอบกระบวนการ ความชอบด้วยกฎหมาย แต่การใช้ "ดุลยพินิจ" ว่าจะอนุมัติ/อนุญาต ยังคงเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ (นายทะเบียน) ที่ศาลไม่อาจก้าวล่วงไปตรวจสอบการใช้ "ดุลยพินิจ" ได้ครับ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามหลักการในทางกฎหมายมหาชน ส่วนขั้นตอนในทางปฏิบัตินั้้นผมยังด้อยในประสบการณ์ส่วนนี้ครับ

เป็นเพราะว่าเข้าใจคำว่า "ดุลพินิจ" ตลาดเคลื่อน
ดุลพินิจ ไม่ได้แปลว่า "ตามใจกู"
ดุลพินิจ นั้นใช้เพื่อการตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานเท่านั้น  เมื่อคุณสมบัติครบถ้วน ต้องออกใบอนุญาตทุกกรณี
ทั้งนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาทางปกครอง  พ.ศ.2539 มาตรา 37

หมายความว่า ถ้าจะไม่ออกใบอนุญาต  ก็ต้องให้เหตุผลตามมาตรา 37 (2) ให้ได้ว่า ขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างไร

   มาตรา ๓๗  คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือและการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย  และเหตุผลนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
   (๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
   (๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
   (๓) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ


ขอเรียนว่า โดยทั่วไป "ดุลยพินิจ" มิได้ หมายความถึง "ตามใจกู" หากแต่ต้องเป็นไปตามหลักการ และมีเหตุผลรองรับการใช้ดุลยพินิจ
อย่างไรก็ตาม "ดุลยพินิจ" ก็มิได้แคบจนถึงขนาดว่า "ตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานเท่านั้น"
เพราะเหตุที่กฎหมายยังจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ใช้ "ดุลยพินิจ" ก็เพื่อมิให้กฎหมายทื่อเกินไป ทำให้ไม่ยืดหยุ่นต่อการบังคับใช้ตามแต่กรณี
การให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจก็เป็นไปเพื่อการปรับใช้กฎหมายกับข้อเท็จจริงได้อย่างยืดหยุ่น (ซึ่งก็อาจมีบางกรณีที่ทำให้เกิดการใช้ดุลยพินิจอย่างไม่ถูกต้อง)
กฎหมายแต่ละฉบับมีการกำหนดอำนาจการใช้ "ดุลยพินิจ" ของเจ้าหน้าที่แตกต่างกันไป กล่าวคือ หากกฎหมายกำหนดชัดเจน เคร่งครัด ก็แสดงว่าให้อำนาจการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่น้อย
หากกรณีที่กฎหมายมิได้กำหนดชัดเจน ก็แสดงว่าเปิดช่องให้มีการใช้ดุลยพินิจอย่างกว้างขวาง (แต่ไม่ว่าจะเป็นลักษณะใด ก็เป็นเพราะการดีไซด์เพื่อให้กฎหมายเหมาะสมกับเรื่องนั้นๆ ในเวลาที่กฎหมายใช้บังคับ"
กลับมาที่ กรณีการขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐
ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดลักษณะต้องห้าม มิให้นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้แก่บุคคลตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งได้แก่

"มาตรา ๑๓  ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตตามความในหมวดนี้แก่
(๑) บุคคลซึ่งต้องโทษจำคุกสำหรับความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ดังต่อไปนี้
(ก) มาตรา ๙๗ ถึงมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๗๗ ถึงมาตรา ๑๘๓ มาตรา ๒๔๙ มาตรา ๒๕๐ หรือมาตรา ๒๙๓ ถึงมาตรา ๓๐๓
(ข) มาตรา ๒๕๔ ถึงมาตรา ๒๕๗ และพ้นโทษยังไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันพ้นโทษถึงวันยื่นคำขอใบอนุญาต เว้นแต่ในกรณีความผิดที่กระทำโดยความจำเป็นหรือเพื่อป้องกันหรือโดยถูกยั่วโทสะ
(๒) บุคคลซึ่งต้องโทษจำคุกสำหรับความผิดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด และดอกไม้เพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๙ หรือมาตรา ๓๓ หรือพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๗ มาตรา ๒๔ มาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๓๘
(๓) บุคคลซึ่งต้องโทษจำคุกตั้งแต่สองครั้งขึ้นไปในระหว่างห้าปีนับย้อนขึ้นไปจากวันยื่นคำขอ สำหรับความผิดอย่างอื่นนอกจากที่บัญญัติไว้ใน (๑) และ (๒) เว้นแต่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๔) บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(๕) บุคคลซึ่งไม่สามารถจะใช้อาวุธปืนได้โดยกายพิการหรือทุพพลภาพ เว้นแต่จะมีไว้เพื่อเก็บตามมาตรา ๑๑
(๖) บุคคลซึ่งเป็นคนไร้ความสามารถหรือเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหรือปรากฏว่าเป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๗) บุคคลซึ่งไม่มีอาชีพและรายได้
(๘) บุคคลซึ่งไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
(๙) บุคคลซึ่งมีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบเรียบร้อยของประชาชน
สำหรับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ห้ามมิให้ออกให้แก่บุคคลซึ่งมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และมีถิ่นที่อยู่ประจำในท้องที่ที่บุคคลนั้นขออนุญาต น้อยกว่าหกเดือน"

นั่นหมายความว่า หากเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนจะไม่สามารถใช้ "ดุลยพินิจ" ออกใบอนุญาตให้ได้ เพราะกฎหมายกำหนดห้ามไว้โดยชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องพิจารณาก็คือ หากเป็นกรณีของบุคคลที่ไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่นายทะเบียนเห็นว่าไม่สมควรจะออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่บุคคลผู้นั้น จะสามารถใช้ดุลยพินิจกับกรณีดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ อย่างไร?

ซึ่งกรณีนี้กระผมยังเห็นว่า นายทะเบียนยังสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาได้ ว่าการออกใบอนุญาต/ไม่ออกใบอนุญาต สมควรหรือไม่ โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ประกอบกับข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี
แต่ทั้งนี้การใช้ดุลยพินิจในการอนุญาต/ไม่อนุญาตดังกล่าว ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ก็ต้องเป็นไปตามลักษณะของคำสั่งทางปกครองที่เป็นหนังสือ
ซึ่งคำสั่งทางปกครองดังกล่าวก็ต้องเป็นไปตาม มาตรา ๓๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่กำหนดให้ต้องอธิบายข้อพิจารณาและการให้เหตุผลในการสนับสนุนการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียนดังกล่าวนั่นเอง

ซึ่งจะไปสอดคล้องกับประเด็นพิจารณาตั้งแต่ต้นว่าการขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งทางปกครองนั้น ก็เป็นกระบวนการตรวจสอบ "ความชอบด้วยกฎหมาย" ของคำสั่งทางปกครองโดยศาล
มิใช่การตรวจสอบการใช้ "ดุลยพินิจ" ตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม กระผมก็มิได้หมายความว่าการใช้ดุลยพินิจ จะกระทำมิได้เลย แต่ต้องเป็นอีกกระบวนการหนึ่ง
ทั้งนี้ ที่กระผมอธิบายมาก็เพื่อมิให้ไปสับสน กับ การที่ศาลเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มิชอบแล้ว จะต้องหมายความว่า ศาลจะสามารถมาใช้ดุลยพินิจแทนเจ้าหน้าที่ หรือจะต้องเป็นไปในทางของผู้ร้องเสมอ เพราะในการกลับมาสู่กระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียนอีกครั้งนั้น เจ้าหน้าที่/นายทะเบียน ก็ยังสามารถใช้ "ดุลยพินิจ" ที่มีภายใต้กฎหมายได้อยู่นั่นเอง  

ทั้งหมดนี้กระผมมิได้ขัดขวาง หรือไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ประชาชนครอบครองปืน / และมิใช่นายทะเบียนตามกฎหมายอาวุธปืนฯ
แต่กระผมเพียงพยายามอธิบายหลักการตามกฎหมายใช้เพื่อนสมาชิกได้เข้าใจบริบทของกฎหมายโดยรอบด้าน
และมิได้เห็นว่าการถกเถียงในเรื่องนี้ไม่ดี หากแต่เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองและความรู้ซึ่งอาจเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะดำเนินการเพื่อขอใช้อำนาจทางศาลต่อไป

 ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 20, 2013, 07:22:14 PM
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องพิจารณาก็คือ หากเป็นกรณีของบุคคลที่ไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่นายทะเบียนเห็นว่าไม่สมควรจะออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่บุคคลผู้นั้น จะสามารถใช้ดุลยพินิจกับกรณีดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ อย่างไร?

ซึ่งกรณีนี้กระผมยังเห็นว่า นายทะเบียนยังสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาได้ ว่าการออกใบอนุญาต/ไม่ออกใบอนุญาต สมควรหรือไม่ โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ประกอบกับข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี

ตรงนี้ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะเป็นเรื่องที่ ให้ความเห็นของข้าราชการแต่ละบุคคลสำคัญกว่ากฎหมาย  ไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน
วิปกครอง มาตรา 37 (2) ก็เขียนไว้ชัดเจน ว่าต้องระบุข้อกฎหมายเป็นเหตุผลประกอบคำสั่ง
ถ้าปราศจากลักษณะต้องห้าม และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย  แล้วจะยกข้อกฎหมายอะไร มาเป็นเหตุผลในการไม่ออกใบอนุญาต

หรือจะเขียนแบบนี้  "ผู้ขอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด  แต่ทำตัวไม่เป็นที่พึงพอใจของนายทะเบียน จึงปฏิเสธการออกใบอนุญาต"  เช่นนั้นหรือ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ กันยายน 21, 2013, 11:49:18 AM
 ::014:: ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ท่านผู้การ และ คุณอาฮุย สำหรับความรู้ทางกฏหมายครับ












หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ กันยายน 22, 2013, 12:03:23 AM
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องพิจารณาก็คือ หากเป็นกรณีของบุคคลที่ไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่นายทะเบียนเห็นว่าไม่สมควรจะออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่บุคคลผู้นั้น จะสามารถใช้ดุลยพินิจกับกรณีดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ อย่างไร?

ซึ่งกรณีนี้กระผมยังเห็นว่า นายทะเบียนยังสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาได้ ว่าการออกใบอนุญาต/ไม่ออกใบอนุญาต สมควรหรือไม่ โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ประกอบกับข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี

ตรงนี้ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะเป็นเรื่องที่ ให้ความเห็นของข้าราชการแต่ละบุคคลสำคัญกว่ากฎหมาย  ไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน
วิปกครอง มาตรา 37 (2) ก็เขียนไว้ชัดเจน ว่าต้องระบุข้อกฎหมายเป็นเหตุผลประกอบคำสั่ง
ถ้าปราศจากลักษณะต้องห้าม และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย  แล้วจะยกข้อกฎหมายอะไร มาเป็นเหตุผลในการไม่ออกใบอนุญาต

หรือจะเขียนแบบนี้  "ผู้ขอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด  แต่ทำตัวไม่เป็นที่พึงพอใจของนายทะเบียน จึงปฏิเสธการออกใบอนุญาต"  เช่นนั้นหรือ

ในประเด็นที่ท่านผู้การฯ และกระผม ยังเห็นต่างกันอยู่ก็คือ ประเด็นการใช้ดุลยพินิจตามกฎหมายของนายทะเบียนในการออกใบอนุญาตให้มี/ใช้อาวุธปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น ขอเรียนว่า

โดยหลักการแล้ว การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย อาจแบ่งได้เป็น "ดุลพินิจผูกพัน" และ "ดุลพินิจวินิจฉัย" โดย
ดุลพินิจผูกพัน อธิบายโดยง่ายก็คือ หากกรณีเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการทำคำสั่งทางปกครองให้กับผู้ร้อง/ผู้ขอ ซึ่งกรณีนี้จะเป็นไปตามที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้ คือ มีเอกสาร หลักฐานครบ คุณสมบัติถูกต้อง เจ้าหน้าที่ต้องทำคำสั่งทางปกครองให้

ดุลพินิจวินิจฉัย อธิบายโดยง่ายก็คือ กฎหมายเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่/นายทะเบียน สามารถใช้ดุลยพินิจภายใต้กฎหมายได้

กลับมาสู่กรณีการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ที่ในกฎหมายดังกล่าว
กำหนดให้การมี/ใช้ อาวุธปืนจะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวก็มิได้กำหนดคุณสมบัติและลักษณะของผู้จะสามารถมี/ใช้อาวุธเอาไว้เลย คงมีแต่เพียงลักษณะต้องห้ามที่นายทะเบียนจะไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้เลยแก่บุุคคลที่มีลักษณะตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าว

กรณีในประเด็นนี้เองที่ท่านผู้การฯ และหลายท่านเห็นว่า หากไม่เป็นบุคคลตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนต้องผูกพันออกใบอนุญาตให้แก่บุคคลที่ยื่นคำขอ สำหรับทุกกรณีนั้น

อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้กระผมเห็นตรงข้ามว่า โดยลักษณะของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ กฎหมายมิได้ต้องการให้นายทะเบียนต้องผูกพันอนุญาตให้แก่บุคคลที่ยื่นคำขอ ซึ่งไม่ใช่บุคคลต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ฯ สำหรับทุกกรณี
แต่กฎหมายดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้นายทะเบียนสามารถใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยในการออกใบอนุญาตได้ การกำหนดลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าว เป็นเพียงการจำกัดการใช้อำนาจดุลยพินิจส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน ว่าถ้าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนจะไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้เลย เพราะกฎหมายกำหนดห้ามไว้โดยชัดเจน แต่ถ้าเป็นกรณีของบุคคลที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนอาจออกใบอนุญาตได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกให้ทุกกรณี เพราะแม้จะจำกัดการใช้อำนาจดุลยพินิจออกใบอนุญาตแก่บุุคคลต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ฯ ดังกล่าวแล้ว กรณีนอกเหนือจากนั้น ก็ยังคงเป็น "อำนาจดุลยพินิจวินิจฉัย" ของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน อยู่นั่นเอง

ซึ่งกระผมขออธิบายเพิ่มเติมว่า การใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยนั้น แม้จะเป็นการดีในแง่ของการยืดหยุ่นในแต่ละกรณี แต่ก็อาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่/นายทะเบียน ใช้อำนาจดังกล่าวแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หน่วยงานจึงออก กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ คำสั่ง แนวทาง หนังสือเวียน ฯลฯ เพื่อเป็นกรอบ และเป็นหลักเกณฑ์ในการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน มิให้แสวงหาประโยชน์โดยชอบ และเกิดความลักลั่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้หากมองให้ดีจะเห็นว่าเป็นเรื่องภายในของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน หาใช่สิ่งที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่อย่างใด

กระผมเข้าใจดีว่าท่านผู้การฯ และหลายท่าน มีเจตนาดีในการต่อสู้เพื่อให้ประชาชนสามารถมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองได้ เพราะปืนเป็นสิ่งที่มีคุณประโยช์อนันต์
อย่างไรก็ตาม กระผมเชื่อว่าแนวทางที่กระผมอธิบายน่าจะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่มิได้ต้องการให้ใครก็ตาม (ที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย) ก็สามารถจะมีอาวุธปืนได้ และเห็นว่านายทะเบียนก็คงมิใช่เพียงแค่คนตรวจเอกสารและประทับตรายางเท่านั้น (แต่ก็คงไม่ได้มีอำนาจล้นฟ้า จนปฏิเสธเพราะเหตุผลไม่ถูกใจนายทะเบียนดังที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้) แต่กฎหมายต้องการ "ควบคุม" การมี/ใช้ อาวุธปืนของประชาชนไว้ในระดับหนึ่ง

ความเห็นของกระผมอาจไม่ถูกใจหลายท่าน แต่ขอให้เข้าใจว่ากระผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่เคยเดินไปขอ ป.๓ เหมือนกับทุกท่าน เคยโดนปฏิเสธเหมือนหลายท่าน (นายทะเบียนบอก .๓๕๗ ขอได้เพื่อการกีฬาเท่านั้น?) เคยโกรธ เคยอารมณ์เสีย เคยต่อสู้มาไม่น้อยกว่าหลายท่านจนได้ ป.๓ (.๓๕๗ เพื่อป้องกันทรัพย์สินฯ) แต่วันนี้กระผมจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นซึ่งแน่นอนว่าขัดใจกับเพื่อนสมาชิกในเว็บนี้หลายท่าน แต่กระผมต้องอธิบายเพื่อให้เห็นถึงมุมมอง และความเห็นที่แตกต่างออกไป ซึ่งอนาคตอาจมีข้อสรุปที่ชัดเจนในประเด็นนี้

 ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 22, 2013, 09:28:52 AM
ด้วยความเคารพ ......
แนวทางการใช้ดุลพินิจตามที่ท่านอาฮุยว่ามา ผมก็เคยได้สนทนาวิสาสะกับ"ผู้ใหญ่"ของมท.
ผมเห็นว่าเป็นแนวความคิดเก่าๆที่สืบทอดกันมา .... ตีความขยายเขตอำนาจการใช้ดุลพินิจออกไปตามใจตัว
ซึ่งน่าจะสิ้นสุดยุคนั้นลงด้วยกรอบของ พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ไปแล้ว

ผมเห็นว่าการใช้ดุลพินิจเลือกปฏิบัติ เช่นการปฏิเสธการอนุญาตขนาด .๓๕๗ ขนาด .๔๕ โดยอ้างสถานะของบุคคล จะกระทำมิได้
เพราะรัฐธรรมนูญ ได้บัญญัติเรื่องความเสมอภาคไว้ ในมาตรา ๓๐

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาตรา ๓๐ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน

               ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน

               การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้
   
               มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้ เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------


หรือว่าดุลพินิจของนายทะเบียน สามารถอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ  :~)


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 22, 2013, 03:15:27 PM
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องพิจารณาก็คือ หากเป็นกรณีของบุคคลที่ไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่นายทะเบียนเห็นว่าไม่สมควรจะออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่บุคคลผู้นั้น จะสามารถใช้ดุลยพินิจกับกรณีดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ อย่างไร?

ซึ่งกรณีนี้กระผมยังเห็นว่า นายทะเบียนยังสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาได้ ว่าการออกใบอนุญาต/ไม่ออกใบอนุญาต สมควรหรือไม่ โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ประกอบกับข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี

ตรงนี้ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะเป็นเรื่องที่ ให้ความเห็นของข้าราชการแต่ละบุคคลสำคัญกว่ากฎหมาย  ไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน
วิปกครอง มาตรา 37 (2) ก็เขียนไว้ชัดเจน ว่าต้องระบุข้อกฎหมายเป็นเหตุผลประกอบคำสั่ง
ถ้าปราศจากลักษณะต้องห้าม และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย  แล้วจะยกข้อกฎหมายอะไร มาเป็นเหตุผลในการไม่ออกใบอนุญาต

หรือจะเขียนแบบนี้  "ผู้ขอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด  แต่ทำตัวไม่เป็นที่พึงพอใจของนายทะเบียน จึงปฏิเสธการออกใบอนุญาต"  เช่นนั้นหรือ

ในประเด็นที่ท่านผู้การฯ และกระผม ยังเห็นต่างกันอยู่ก็คือ ประเด็นการใช้ดุลยพินิจตามกฎหมายของนายทะเบียนในการออกใบอนุญาตให้มี/ใช้อาวุธปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น ขอเรียนว่า

โดยหลักการแล้ว การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย อาจแบ่งได้เป็น "ดุลพินิจผูกพัน" และ "ดุลพินิจวินิจฉัย" โดย
ดุลพินิจผูกพัน อธิบายโดยง่ายก็คือ หากกรณีเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการทำคำสั่งทางปกครองให้กับผู้ร้อง/ผู้ขอ ซึ่งกรณีนี้จะเป็นไปตามที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้ คือ มีเอกสาร หลักฐานครบ คุณสมบัติถูกต้อง เจ้าหน้าที่ต้องทำคำสั่งทางปกครองให้

ดุลพินิจวินิจฉัย อธิบายโดยง่ายก็คือ กฎหมายเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่/นายทะเบียน สามารถใช้ดุลยพินิจภายใต้กฎหมายได้

กลับมาสู่กรณีการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ที่ในกฎหมายดังกล่าว
กำหนดให้การมี/ใช้ อาวุธปืนจะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวก็มิได้กำหนดคุณสมบัติและลักษณะของผู้จะสามารถมี/ใช้อาวุธเอาไว้เลย คงมีแต่เพียงลักษณะต้องห้ามที่นายทะเบียนจะไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้เลยแก่บุุคคลที่มีลักษณะตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าว

กรณีในประเด็นนี้เองที่ท่านผู้การฯ และหลายท่านเห็นว่า หากไม่เป็นบุคคลตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนต้องผูกพันออกใบอนุญาตให้แก่บุคคลที่ยื่นคำขอ สำหรับทุกกรณีนั้น

อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้กระผมเห็นตรงข้ามว่า โดยลักษณะของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ กฎหมายมิได้ต้องการให้นายทะเบียนต้องผูกพันอนุญาตให้แก่บุคคลที่ยื่นคำขอ ซึ่งไม่ใช่บุคคลต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ฯ สำหรับทุกกรณี
แต่กฎหมายดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้นายทะเบียนสามารถใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยในการออกใบอนุญาตได้ การกำหนดลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าว เป็นเพียงการจำกัดการใช้อำนาจดุลยพินิจส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน ว่าถ้าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนจะไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้เลย เพราะกฎหมายกำหนดห้ามไว้โดยชัดเจน แต่ถ้าเป็นกรณีของบุคคลที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนอาจออกใบอนุญาตได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกให้ทุกกรณี เพราะแม้จะจำกัดการใช้อำนาจดุลยพินิจออกใบอนุญาตแก่บุุคคลต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ฯ ดังกล่าวแล้ว กรณีนอกเหนือจากนั้น ก็ยังคงเป็น "อำนาจดุลยพินิจวินิจฉัย" ของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน อยู่นั่นเอง

ซึ่งกระผมขออธิบายเพิ่มเติมว่า การใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยนั้น แม้จะเป็นการดีในแง่ของการยืดหยุ่นในแต่ละกรณี แต่ก็อาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่/นายทะเบียน ใช้อำนาจดังกล่าวแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หน่วยงานจึงออก กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ คำสั่ง แนวทาง หนังสือเวียน ฯลฯ เพื่อเป็นกรอบ และเป็นหลักเกณฑ์ในการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน มิให้แสวงหาประโยชน์โดยชอบ และเกิดความลักลั่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้หากมองให้ดีจะเห็นว่าเป็นเรื่องภายในของเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน หาใช่สิ่งที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่อย่างใด

กระผมเข้าใจดีว่าท่านผู้การฯ และหลายท่าน มีเจตนาดีในการต่อสู้เพื่อให้ประชาชนสามารถมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองได้ เพราะปืนเป็นสิ่งที่มีคุณประโยช์อนันต์
อย่างไรก็ตาม กระผมเชื่อว่าแนวทางที่กระผมอธิบายน่าจะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่มิได้ต้องการให้ใครก็ตาม (ที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย) ก็สามารถจะมีอาวุธปืนได้ และเห็นว่านายทะเบียนก็คงมิใช่เพียงแค่คนตรวจเอกสารและประทับตรายางเท่านั้น (แต่ก็คงไม่ได้มีอำนาจล้นฟ้า จนปฏิเสธเพราะเหตุผลไม่ถูกใจนายทะเบียนดังที่ท่านผู้การฯ กล่าวไว้) แต่กฎหมายต้องการ "ควบคุม" การมี/ใช้ อาวุธปืนของประชาชนไว้ในระดับหนึ่ง

ความเห็นของกระผมอาจไม่ถูกใจหลายท่าน แต่ขอให้เข้าใจว่ากระผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่เคยเดินไปขอ ป.๓ เหมือนกับทุกท่าน เคยโดนปฏิเสธเหมือนหลายท่าน (นายทะเบียนบอก .๓๕๗ ขอได้เพื่อการกีฬาเท่านั้น?) เคยโกรธ เคยอารมณ์เสีย เคยต่อสู้มาไม่น้อยกว่าหลายท่านจนได้ ป.๓ (.๓๕๗ เพื่อป้องกันทรัพย์สินฯ) แต่วันนี้กระผมจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นซึ่งแน่นอนว่าขัดใจกับเพื่อนสมาชิกในเว็บนี้หลายท่าน แต่กระผมต้องอธิบายเพื่อให้เห็นถึงมุมมอง และความเห็นที่แตกต่างออกไป ซึ่งอนาคตอาจมีข้อสรุปที่ชัดเจนในประเด็นนี้

 ::014:: ::014:: ::014::


เขียนมายาวมาก แต่ก็ยังไม่ได้ตอบว่าจะใช้ข้อกฎหมายใดเป็นเหตุผลในการปฏิเสธ ไม่ออกใบอนุญาต


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yutthakarn ที่ กันยายน 22, 2013, 04:58:01 PM
ขออนุญาตแชร์ความเห็นหน่อยครับ
"มาตรา ๑๓  ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตตามความในหมวดนี้แก่.......
๙) บุคคลซึ่งมีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบเรียบร้อยของประชาชน


ข้อนี้ น่าคิดนะครับ ซึ่งถ้าผู้ที่มาขอ ป.3 เป็นคนที่นายทะเบียนรู้จักดีว่าเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล อาจจะร่ำรวยหรือเป็นลูกคนมีอำนาจ ทำตัวให้คนอื่นเกรงกลัวแต่ไม่ถึงขนาดประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบเรียบร้อยของประชาชน และไม่เข้าข่ายข้อห้ามใน(๑)-(๘) นายทะเบีบนเห็นว่าไม่สมควรที่จะอนุญาตให้บุคคลนั้นมีอาวุธปืน ก็น่าจะมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตได้นะครับ เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม คือเล็งเห็นได้ว่า ถ้าบุคคลนั้นได้มีอาวุธปืนอาจใช้ไปในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน หรือต้องอนุญาตให้ไปแล้วรอให้นำปืนไปใช้ข่มขู่ชาวบ้านหรือใช้กระทำความผิดเสียก่อนค่อยให้ตำรวจจับตัวมาดำเนินคดี


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 22, 2013, 09:09:11 PM
ขออนุญาตแชร์ความเห็นหน่อยครับ
"มาตรา ๑๓  ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตตามความในหมวดนี้แก่.......
๙) บุคคลซึ่งมีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบเรียบร้อยของประชาชน


ข้อนี้ น่าคิดนะครับ ซึ่งถ้าผู้ที่มาขอ ป.3 เป็นคนที่นายทะเบียนรู้จักดีว่าเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล อาจจะร่ำรวยหรือเป็นลูกคนมีอำนาจ ทำตัวให้คนอื่นเกรงกลัวแต่ไม่ถึงขนาดประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบเรียบร้อยของประชาชน และไม่เข้าข่ายข้อห้ามใน(๑)-(๘) นายทะเบีบนเห็นว่าไม่สมควรที่จะอนุญาตให้บุคคลนั้นมีอาวุธปืน ก็น่าจะมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตได้นะครับ เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม คือเล็งเห็นได้ว่า ถ้าบุคคลนั้นได้มีอาวุธปืนอาจใช้ไปในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน หรือต้องอนุญาตให้ไปแล้วรอให้นำปืนไปใช้ข่มขู่ชาวบ้านหรือใช้กระทำความผิดเสียก่อนค่อยให้ตำรวจจับตัวมาดำเนินคดี


ใช่ครับ
ข้อนี้สามารถใช้เป็นเหตุผลในข้อกฎหมายได้    อย่างเช่นพบประวัติในคดียาเสพติดถึงขั้นจำหน่าย หรือกินเหล้าขับรถมากกว่าหนึ่งครั้ง  ซึ่งไม่ใช่ลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 13 โดยตรง  ผมก็เคยแนะนำนายอำเภอ พรรคพวกกันไปว่าให้ยกข้อนี้ขึ้นเป็นเหตุผลปฏิเสธการออกใบอนุญาต

อีกข้อหนึ่งก็คือที่วรรคสอง  "และมีถิ่นที่อยู่ประจำในท้องที่ที่บุคคลนั้นขออนุญาต"  ตรงนี้ก็เป็นปัญหา  เช่นทำงานต่างอำเภอ ก็สามารถยกขึ้นมาเป็นเหตุผลในข้อกฎหมาย ไม่ออกใบอนุญาตได้เช่นกัน


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ กันยายน 23, 2013, 11:35:53 AM
ในกรณีที่นายทะเบียนใช้ดุลพินิจปฏิเสธการอนุญาตแก่บุคคลผู้ยื่นคำร้อง โดยใช้เหตุผลตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น น่าจะเห็นตรงกันแล้ว  :) :) :)

แต่ในกรณีของบุคคลที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มายื่นคำร้องต่อนายทะเบียน นายทะเบียนจะต้องผูกพันอนุมัติทุกกรณีหรือไม่นั้น

กระผมคงเห็นว่านายทะเบียนยังสามารถใช้ดุลพินิจวินิจฉัยในการอนุญาตเป็นรายกรณีได้

เพราะหากกฎหมายพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เขียนโดยกำหนดไปเลยว่าบุคคลที่มีคุณสมบัติใดบ้างที่มีสิทธิมี/ใช้อาวุธปืน ได้แก่
(๑) ....................................
(๒) ....................................
(๓) .....................................
(๔) .....................................
แน่นอนว่าหากกฎหมายกำหนดในลักษณะดังกล่าว (positive list) กระผมจะเห็นด้วยกับท่านผู้การฯ อย่างไม่มีข้อโต้แย้งว่าบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะต้องได้รับใบอนุญาตในทุกกรณี  ::014::

แต่กฎหมายพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ กำหนดเป็นลักษณะต้องห้ามที่นายทะเบียนจะไม่สามารถออกใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (negative list)

นั่นทำให้เกิดกรณีว่า บุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้เลย แต่ถ้ามิได้เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวนายทะเบียนยังคงสามารถใช้ดุลพินิจได้อยู่

โดยขอให้ทุกท่านเปิดใจ รับฟังผมอธิบายอีกสักครั้ง ดังนี้
๑. เมื่อพิจารณามาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
    “มาตรา ๗  ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่”
     ซึ่งหมายความว่า การมี/ใช้อาวุธปืนต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่
     เฉพาะมาตรานี้ อธิบายได้ว่า นายทะเบียนมีอำนาจใช้ดุลพินิจอนุญาตการใช้อาวุธปืนส่วนบุคคล

๒. เมื่อพิจารณามาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
    “มาตรา ๙  ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ให้ออกให้แก่บุคคลสำหรับใช้ในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในการกีฬาหรือยิงสัตว์...”
    ซึ่งหมายความว่า ดุลพินิจในการออกใบอนุญาตของนายทะเบียนที่กว้างขวางนั้น กฎหมายกำหนดให้แคบลง ว่าสามารถออกได้เพียงสามกรณี คือ (๑) ป้องกันฯ (๒) กีฬา (๓) ล่าสัตว์
เปรียบเทียบได้ว่า ตอนนี้ดุลพินิจของนายทะเบียน เหลือเพียงภายใต้ขอบ (๑) – (๓) ดังกล่าว ผมสมมติว่าภายใต้ขอบดังกล่าว คือ กระดาษ A4 นะครับ ทีนี้อธิบายได้ว่าภายใต้กระดาษ A4 ดังกล่าวนายทะเบียนสามารถใช้ดุลพินิจภายใต้ A4 ดังกล่าวได้

๓. เมื่อพิจารณามาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
   (เป็นการกำหนดห้ามนายทะเบียนออกใบอนุญาตให้แก่บุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรานี้)
    ซึ่งหมายความว่า ถ้าเป็นบุคคลที่มีลักษณะตามมาตรา ๑๓ฯ นี้แล้ว นายทะเบียนจะไม่สามารถออกใบอนุญาตได้เลย
    อธิบายได้ว่า ในกระดาษ A4 ข้างต้น เกิดวงกลมวงหนึ่งขึ้นมา ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ดังกล่าวฯ
    นั่นหมายความว่า
     ๓.๑ ถ้าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม (พื้นที่ในวงกลม) นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้เลย เพราะกฏหมายห้ามไว้ชัดเจน
     ๓.๒ ถ้าเป็นบุคคลที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม ยื่นคำร้อง (พื้นที่ในกระดาษ A4 ที่อยู่นอกวงกลม) นายทะเบียนก็ยังคงมีอำนาจดุลพินิจที่จะพิจารณาอนุญาต/ไม่อนุญาตได้ตามกฎหมายอยู่นั่นเอง

ส่วนประเด็นในมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ นั้น เป็นการกำหนดในเรื่องลักษณะของคำสั่งทางปกครองที่เป็นหนังสือ ซึ่งมีเจตนารมณ์เป็นกรอบบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องแสดงเหตุผลประกอบคำสั่งทางปกครองภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เป็นกฎหมายกลางสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องปฏิบัติตาม อันนี้กระผมเห็นตรงกันกับทุกท่านว่าในการออกคำสั่งทางปกครองต้องมีเหตุผลประกอบ

เช่น ในกรณีถ้านายทะเบียนจะปฏิเสธการขอใบอนุญาต หากเป็นบุคคลไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ฯ มาขอเพื่อ (๑) ป้องกันฯ หรือ (๒) กีฬา หรือ (๓) ล่าสัตว์ หากนายทะเบียนเห็นว่าไม่สมควรอนุญาตจะเป็นเพราะเหตุผลใด เช่น อาจพัวพันเรื่องยาเสพติด มีพฤติการณ์ข่มขู่เพื่อนบ้าน ลักเล็กขโมยน้อยเป็นนิจ มีแนวโน้มใช้ปืนฆ่าตัวตาย หรือแนวโน้มก่ออาชญากรรม ฯลฯ นายทะเบียนยังสามารถปฏิเสธการอนุญาตได้ แต่ต้องให้เหตุผลประกอบการปฏิเสธดังกล่าว ซึ่งย้ำว่าเป็นรายกรณี

โดยคำสั่งทางปกครองดังกล่าวต้องมี ลักษณะสำคัญ คือ
๑. ข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญของกรณีดังกล่าว (มาตรา ๓๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการฯ)
๒. ข้อกฎหมายที่ให้อำนาจในการใช้ดุลพินิจในการออกออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (มาตรา ๓๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการฯ)
๓. ข้อพิจารณาและเหตุผลสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจปฏิเสธสำหรับกรณีดังกล่าว (มาตรา ๓๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการฯ)

ทั้งหมดนี้เป็นหลักการ ที่อยู่บนหลักของเหตุผล และการแสดงความเห็น ขออภัยที่เขียนมายาว (อีกแล้วครับ)
ยินดีที่ได้รับฟังและแลกเปลี่ยนกับท่านผู้การฯ และทุกท่านครับ

 ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sohnthaya ที่ กันยายน 23, 2013, 01:51:07 PM
แต่ผมกลับคิดว่า ท่านหวังดีต่อพี่ครับ กลัวพี่จะเสียเวลาเปล่า เลยตอบคำถามด้วยคำถาม เพราะในที่สุดแล้วศาลปกครองก็ไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้อำเภอออกใบอนุญาตให้พี่อยู่ดี  อย่างดีก็ทำได้เพียงแค่ขอให้ใช้ดุลพินิจใหม่ แต่ก็เข้าใจที่พี่โกรธเพราะพี่เองก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็อยากได้คำแนะนำไปสู่หนทางแห่งชัยชนะ พอเจอแบบนี้เข้า ไม่พอใจก็เป็นเรื่องธรรมดา ::012:: ::012:: ::012::   ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 30, 2013, 06:57:24 PM
           วันนี้ผมไปศาลปกครองมา  และคิดว่าแนวทางการพิจารณาออกใบอนุญาตต้องยึดเป็นกฏหมายเป็นสำคัญครับ

           จนท. อ่านคำสั่งทางปกครองที่ผมได้รับแล้วหัวเราะใหญ่เลย  และนั่นทำให้ผมเข้าใจว่าการพิจารณาทางปกครองมากขึ้น ....

           คำแรกที่ จนท. บอกให้ผมฟังคือ " หลักแห่งความเท่าเทียม " หมายถึงทุกคนในประเทศไทยจะอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน  หลักเกณฑ์เดียวกัน  ดุลยพินิจนายทะเบียนไม่ได้มีหลักประกันความเสมอภาคมากกว่ากฏหมาย  เพราะฉะนั้นจะเอามาเป็นหลักเกณฑ์ตัดสินตามอำเภอใจไม่ได้

           วันนี้ผมได้เห็นหนังสือคู่มือของฝ่ายปกครองที่มีหน้าปกสีม่วง  ด้านบนเป็นรูปตรามหาดไทย ออกเมื่อเดือนกันยายน  ปี 2555  โดน  สนสก  หนาซักประมาณ ๓-๔๐๐  แผ่น  จนท.เปิดไปเปิดมาแล้วหาไม่เจอว่านายทะเบียนจะไม่ออกใบอนุญาตให้ผมได้ตรงไหน  ผมสอบถามถึงเรื่องดุลยพินิจ  ....  จนท. เล่าเรื่องดุลยพินิจให้ผมฟังเท่าที่พอจำได้คือ

           ดุลยพินิจ  ในกรณีการขอมีและใช้อาวุธปืนคืออำนาจบางข้อใน  มาตรา  ๑๓  เท่านั้น 

           การใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ  ต้องดูว่ากฏหมายเป็นแบบไหน  ไม่ใช่ใช้ได้ส่งเดช  ถ้าข้อกฏหมายเป็นแบบถ้อยคำตายตัวก็ไม่มีอำนาจ  ถ้าเป็นแบบเอื้ออำนาจเช่น  ถ้า.....จะพิจารณา ..... ก็ได้ , หาก .... อาจ ...... ก็ได้ ฯ  ซึ่งต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและใช้ดุลยพินิจตามความเหมาะสม  และความจำเป็น 

           สรุปเท่าที่ผมเข้าใจวันนี้  ถ้าผู้ขอมีคุณสมบัติข้อ  ๑๓  ข้อหนึ่งข้อใจที่ไม่ร้ายแรงไม่ครบถ้วนบ้างอย่างไม่ชัดเจน  นายทะเบียนอาจมีดุลพินิจออกใบอนุญาตให้ได้หากมีความเหมาะสมหรือความจำเป็น

           แต่หาผู้ขออนุญาตขออาวุธปืนภายใต้เหตุผลของมาตรา  ๙   คุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา  ๑๓  และอาวุธปืนที่ขอมีขนาดตามาตรา ๙  นายทะเบียนไม่สามารถใช้ดุลยพินิจได้เลย  เพราะข้อกฏหมายจะเป็นข้อกฏหมายที่ตายตัวไม่ได้ให้อำนาจนายทะเบียนให้หรือไม่ให้ใครตามใจชอบ  และทุกคนในประเทศไทยต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์นี้

           ผมถามถึงหนังสืออื่นที่เป็นส่วนประกอบเช่น  ๐๕๐๖ , ๖๗๔ ฯ จนท. บอกไม่ต้องไปสนใจ  เป็นเรื่องเจ้านายสั่งลูกน้อง  ถ้าขัดกับกฏหมายก็เอามาใช้กับเราไม่ได้

           จนท.เล่าว่าถ้าสมัยก่อน  รัฐธรรมนูญยังไม่สมบูณ์เท่าฉบับนี้นายทะเเบียนอาจมีทางเดินมากกว่านี้  แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดให้ทุกคนอยู่ใต้กฏหมายเดียวกันและได้รับสิทธิ์อย่างเสมอภาค  ดุลยพินิจจึงไม่ได้มีค่าอีกต่อไปหากแต่ให้ยึดถือกฏหมายเป็นหลักเท่านั้น 

           ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ  เพราะผมอาจจำได้ไม่หมดเนื่องจากคุยกันเยอะเเละยาวนานมาก  เข้าห้องไป ๐๙.๐๐  ออกมา  ๑๑.๓๐  เรียกว่าอิ่มเลยล่ะครับ   ถ้าใครตัดสินใจจะสู้ผมรับรองว่าจะได้รับความประทับใจอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเลยครับ  ทั้งจากเพื่อนสมาชิก  พี่ๆ  น้อง  ไปจนถึงศาลเลยทีเดียว 

           ขอบคุณพี่สุพินท์  พี่ธำรง  และพี่ๆ น้องๆ ทุกคนอีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2013, 11:23:45 PM
+1 ท่าน ConsTRucT ครับ... ::002::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 01, 2013, 12:30:14 AM
ใช่ครับ ต้องขอบคุณรัฐธรรมนูญ ปี 50 ฉบับล่าสุดของเรา
มาตรา 3 วรรคสอง เขียนว่า "การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"

คำว่าหลักนิติธรรม หมายความว่าต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: บุนหลาย-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 01, 2013, 09:02:09 AM
ผมชอบวิธีการตอบและถามของพี่อาฮุยและพี่สุพินท์ ใช้หลักการ เหตุผล ไม่เอาอารมณ์ความรู้สึกเข้าถู ได้ทั้งความรู้และวิธีคิด


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ตุลาคม 01, 2013, 10:14:59 AM
ใช่ครับ ต้องขอบคุณรัฐธรรมนูญ ปี 50 ฉบับล่าสุดของเรา
มาตรา 3 วรรคสอง เขียนว่า "การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"

คำว่าหลักนิติธรรม หมายความว่าต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้


งั้นผมก็ต้องรอลุ้นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแล้วละครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 01, 2013, 06:02:33 PM
ใช่ครับ ต้องขอบคุณรัฐธรรมนูญ ปี 50 ฉบับล่าสุดของเรา
มาตรา 3 วรรคสอง เขียนว่า "การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"

คำว่าหลักนิติธรรม หมายความว่าต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้


งั้นผมก็ต้องรอลุ้นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแล้วละครับ

คำว่า "หลักนิติธรรม" มาจากคำสอนของอริสโตเติลที่ว่า "การปกครองที่ดี ไม่ใช่เป็นการปกครองโดยปุถุชน  แต่จะต้องเป็นการปกครองด้วยกฎหมาย"


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ เมษายน 19, 2014, 04:10:31 PM
ขออนุญาตอัพเดทข้อมูลเล็กน้อยครับ   พอดีมีโอกาสได้คุยกับสมาชิกหลายคนและผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกที่ได้เจอเคสประมาณเดียวกันนี้มาบ้าง   เลยอยากขออัพเดทในส่วนที่เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วเป็นแนวทางให้ท่านอื่นๆ นิดนึงครับ

    - กรณีของผมขณะนี้เรื่องอยู่ในศาลปกครอง  ล่าสุดได้รับคำให้การเพิ่มเติมของทางอำเภอซึ่งศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ผมจัดทำคำคัดค้านนั้นแต่อย่างใดจึงเข้าใจว่าศาลน่าจะได้รับข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว  ด้วยที่ผ่านมาทางอำเภอให้การตลกๆ  โป้ปดมดเท็จขัดกับหลักฐานจำนวนมาก

    - ตามเอกสารคำวินิจฉัยของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารนี้เป็นอีกครั้งที่มีคำวินิจฉัยให้ผู้ร้องเข้าดูเอกสารได้ทั้งหมด  ไม่เว้นเเม้เเต่รายการทรัพย์สิน ... ด้วยทางอำเภอไปให้การตลบแตลงกับคณะกรรมการ  อ้างตีความกฎหมายมั่วไปหมด  ที่สำคัญตั้งเกณฑ์ขึ้นมาบังคับใช้ว่าทางอำเภอที่ผมอาศัยอยู่นี้ไม่ได้มีหลักการในการออกใบอนุญาตเฉกเช่นอำเภออื่นๆ เขา  คือทางอำเภอจะออกใบอนุญาตให้กับบุคคลด้วยเหตุผลเพียง  ๓  อย่างคือเพื่อป้องกันทรัพย์สิน  เพื่อการกีฬา  และเพื่อล่าสัตว์  การขออนุญาตมีเเละใช้เพื่อการการป้องกันชีวิตไม่มีในสารบบการออกใบอนุญาต   แถมอ้างไปเรื่อยถึงผลการพิจารณาซึ่งอ้างว่าผมมีทรัพย์สินไม่มากไม่จำเป็นต้องมีอาวุธปืนซึ่งขัดแย้งกับการขออนุญาตเข้าดูเอกสารที่ผมขอเข้าดูเอกสารก่อนทางอำเภอจะมีผลการพิจารณาถึง  ๔๐  วันการขออนุญาตเข้าดูเอกสารจึงไม่เกี่ยวข้องกับผลการพิจารณา  ทั้งตามผมการพิจารณาอ้างว่าไม่เเน่ใจเรื่องมูลค่าไม่ใช่ระบุว่าทรัพย์สินผมมูลค่าน้อย  .... ให้การไปให้การมาเล่นเอาคณะกรรมการทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน

(http://i1101.photobucket.com/albums/g432/jutamath2526/00001-horz_zpsf34e04be.jpg) (http://s1101.photobucket.com/user/jutamath2526/media/00001-horz_zpsf34e04be.jpg.html)

(http://i1101.photobucket.com/albums/g432/jutamath2526/00002-horz_zps1120e5fb.jpg) (http://s1101.photobucket.com/user/jutamath2526/media/00002-horz_zps1120e5fb.jpg.html)

(http://i1101.photobucket.com/albums/g432/jutamath2526/00003-horz_zps46e8e1e9.jpg) (http://s1101.photobucket.com/user/jutamath2526/media/00003-horz_zps46e8e1e9.jpg.html)

(http://i1101.photobucket.com/albums/g432/jutamath2526/00004-horz_zpsae4affe1.jpg) (http://s1101.photobucket.com/user/jutamath2526/media/00004-horz_zpsae4affe1.jpg.html)

ประการสำคัญแม้คณะกรรมการจะมีคำวินิจฉัยออกมา  และตามคำวินิจฉัยวรรคแรก  บรรทัดที่  ๓  จะระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นการอุทธรณ์เรื่องการขอคัดลอกและเข้าดูเอกสาร   ทางอำเภอก็ยังตีมึนทำลูกนิ่งไม่ยอมเเจ้งให้ผมเข้าดูข้อมูลตามมีติรัฐมนตรีเสียอีก  แถมพอผมดักทางส่งหนังสือแจ้งไปเจ้าเนติบัณฑิตตัวดีของนายอำเภอยังโทรศัพท์มาแสดงพฤติกรรมถ่อยๆ ใส่ผมแถมไม่ยอมให้ผมคัดลอกข้อมูลซ้ำ   ช่างมีเรื่องให้ฮาตลอดจริงๆ ครับอำเภอผมนี่ ..  ::012::


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sonsin ที่ เมษายน 20, 2014, 12:48:29 AM
ได้ความรู้เรื่องหลักกฏหมายมหาชน  ,พรบ อวป., รธน., การพิจารณาความศาลผกครองและระเบียบขั้นตอนการยื่นขอ ป.3 เป๊ะๆ
วันนี้ ได้ความรู้กฎหมายเต็มพุงก่อนนอน
ขอขอบคุณ อาฮุย ผู้การสุพิน ธำรง และอื่นๆ อีก เป็นอย่างมากครับ
แต่อาฮุย อธิบายหลักกฏหมายมหาชน เป๊ะมากเลยนะครับ  ผมเพิ่งลงเรียน ได้ C เฉยเลย ขอฝากตัวเป็นศิษย์


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ เมษายน 20, 2014, 10:34:25 PM
ใช่ครับ ต้องขอบคุณรัฐธรรมนูญ ปี 50 ฉบับล่าสุดของเรา
มาตรา 3 วรรคสอง เขียนว่า "การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"

คำว่าหลักนิติธรรม หมายความว่าต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้


งั้นผมก็ต้องรอลุ้นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแล้วละครับ



คำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดออกมาแล้วครับ ต้องสู้กันต่อไปครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: DR.Siah ที่ เมษายน 20, 2014, 11:30:55 PM
สู้ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ เมษายน 21, 2014, 06:38:56 PM
ใช่ครับ ต้องขอบคุณรัฐธรรมนูญ ปี 50 ฉบับล่าสุดของเรา
มาตรา 3 วรรคสอง เขียนว่า "การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"

คำว่าหลักนิติธรรม หมายความว่าต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้


งั้นผมก็ต้องรอลุ้นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแล้วละครับ



คำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดออกมาแล้วครับ ต้องสู้กันต่อไปครับ

ผลเป็นอย่างไรพอจะเล่าให้ฟังได้ไหมครับ  แต่ถ้ามีผลกับรูปคดีหรือด้านอื่นๆ ไม่ต้องก็ได้ครับ 
แต่ไม่ว่าอย่างไรขอเอาใจช่วยนะครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ เมษายน 21, 2014, 09:40:59 PM
ใช่ครับ ต้องขอบคุณรัฐธรรมนูญ ปี 50 ฉบับล่าสุดของเรา
มาตรา 3 วรรคสอง เขียนว่า "การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม"

คำว่าหลักนิติธรรม หมายความว่าต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้


งั้นผมก็ต้องรอลุ้นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแล้วละครับ



คำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดออกมาแล้วครับ ต้องสู้กันต่อไปครับ

ผลเป็นอย่างไรพอจะเล่าให้ฟังได้ไหมครับ  แต่ถ้ามีผลกับรูปคดีหรือด้านอื่นๆ ไม่ต้องก็ได้ครับ 
แต่ไม่ว่าอย่างไรขอเอาใจช่วยนะครับ



คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดถือเป็นที่สุดแล้วครับ ไม่มีอุทธรณ์ต่อแล้วครับ จบแล้วครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sidarod ที่ เมษายน 21, 2014, 10:50:51 PM
เข้ามาหาความรู้

และเป็นกำลังใจให้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ เมษายน 23, 2014, 07:56:58 AM
ขออนุญาตก๊อปสำนวนของท่าน"ConsTRucT"เพื่อไว้เป็นแนวทาง ::014::  


หัวข้อ: Re: ขอ ป.๓ ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตยังไม่เท่าไหร่ แต่ได้ยินคำๆ นี้แล้ว ..... เฮ้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ เมษายน 24, 2014, 08:44:51 AM
ขออนุญาตก๊อปสำนวนของท่าน"ConsTRucT"เพื่อไว้เป็นแนวทาง ::014::  

ยินดีมากๆ เลยครับ  แนวทางของผมได้รับคำแนะนำเสนอแนะจากพี่ๆ ในเว็บนี้เยอะมาก  โดยเฉพาะท่านผู้การสุพินท์และพี่ธำรง ซึ่งต้องขอขอบคุณอีกครั้งมา  ณ  ที่นี้ด้วยครับ  ::014::