๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

อยากขอชมครับ  และอยากทราบรายละเอียดว่ารุ่นใดเหมาะสม นิยมหรือไม่นิยม สู้แบบออโตฯได้ไหม

ผมเองเคยใช้แข่งสมัยนั้น 2515 ไม่มีของใครเทียบ สมิธ เอ็ม 14 ได้ต่อมาสมิธ ทำมาฆ่ากันเอง ออก เอ็ม 52 38 วัตต์คัตเตอร์มา ตอนหลัง วอลเธอร์ทำรุ่น GSP ออกมาที่จริงเทียบกับ M52 ยากแต่ GSP ใช้เปลี่ยนครอบ กับชุดลั่นไกได้ 3 แบบ ชนวนกลาง .32 สั้นมาตรฐาน สั้นยิงเร็ว .22  คนนิยมมากจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีหลายยี่ห้อสร้างมา เช่น ซิก เฮมเมอรรี่ โมรินี่ ก็ยังมีนิยมแคบไม่เหมือน วอลเธอร์ แต่ปืนรุ่นหลังนี้ สยบ พวก M14 กับ M52 อยู่เลยครับ กลายเป็นปืนใช้งาน ปืนสะสม  หรือยิงชาวบ้านกันแล้วครับ

ผมกำลังจะหัดยิงสั้นชนวนกลางพอดีเลย ได้ความรู้ไปครับ

ลูกโม่ .38 ที่ใช้แข่งสั้นชนวนกลาง ก็ สมิธฯ โมเดล 14 (K.38) นั่นแหละครับ นิยมกันมากที่สุด  ระบบการยิงชนวนกลาง (ยิงช้า และยิงเป้าพลิก 3 พัก 7) เป็นเกมส์ของปืนลูกโม่โดยเฉพาะ  คือไม่ต้องยิงซ้ำห้านัดรวด  ยิงแล้วพักง้างนกได้สบายๆ  สมัยที่ใช้ .38 กันเป็นส่วนมากนั้น  มีสมิธฯ 52 และโคลท์ เนชันแนลแมทช์ (แบบ 1911) ที่เป็นปืนออโตฯ ให้เลือกได้  แต่ก็ใช้กันไม่มาก   มี ซิก-แฮมเมอร์ลี 240 ขนาด .38 สเปเชียล ออกขายช่วง '70 เป็นปืนออโตฯ .38 สเปเชียล สำหรับยิงเป้าแข่งกระบอกสุดท้าย (ต่อมาปรับขนาดเป็น .32)

สาเหตุใหญ่ที่ทำให้เลิกใช้ปืนลูกโม่ (ทั้ง .38 และ .32)  ก็เพราะปืน ออโตฯ ลูกกรด สามารถเปลี่ยนลำกล้องและลำเลื่อนมาใช้ .32 S&W Long (ซึ่งความจริงเป็นกระสุนลูกโม่)ได้โดยใช้โครงเดิม เริ่มจาก วอลเธอร์ GSP ตามด้วย ซาโก้ Tri-Ace และจากนั้นทั้ง แฮมเมอร์ลี  พาร์ดินี  โมรินี ทำมาเป็นชุด  นักกีฬาแต่งด้ามครั้งเดียวยิงได้หลายประเภท  และในการยิง 3 พัก 7 ไม่ต้องง้างนกแต่ละนัด  ทำสมาธิได้ดีขึ้น

ถ้าจะเอา เอ็ม 14 มาลงแข่ง แต่งด้ามอย่าให้เกินกล่องครับ  สู้ปืนออโตฯ ได้ไม่เสียเปรียบ  น้ำหนักสมดุลดีกว่าด้วย

ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ

สถิติปื้นสั้นชนวนกลางของประเทศไทย 591 คะแนน  ตอนนี้ยังไม่มีใครลบสถิติได้เป็นของ นายนิรัน.......เลป......(.ขอสงวนชื่อไว้หน่อยยังไม่ได้ขออนุญาตเจ้าตัวเผยแพร่ทำไว้เมื่อปี 2526 ที่สนามชมรมรักษาดินแดนเคยเข้าร่วมแข่งฟรีพริสตอล โอลิมปิค ที่แอตแลนต้าเกมส์มาแล้ว)ปื้นที่ใช้แข่งขันคือ ลูกโม่สมิธ โมเดล 14    ส่วนตัวผมเคยใช้ 686 ลงแข่งอยู่ครั้งหนึ่งทำได้ไม่ถึง 540 ตามเป้า ก็เลยใช้วอลเธอร์ GSP ยิงยังไงก็ไม่ถึง 591  สักที ฮิ ฮิ




แก้ไขข้อมูลครับไปถามเจ้าตัวมาแล้วครับ

ขอเรียนถาม อ.ผณิศวร และ ท่านผู้รู้ครับว่า ปืนสั้นชนวนกลางยิงที่ระยะกี่เมตร ? กฎและกติกาเป็นอย่างไรบ้าง ขอบคุณครับ.

เคยใช้ สมิธ เอ็ม 15 ลำกล้อง 4 นิ้วลงแข่งเมื่อปี 2527 เนื่องจาก เอ็ม 14 - 6 นิ้ว เกิดชำรุดกระทันหันก่อนแข่งวันนึง
ผลได้เหรียญทองแดง จำคะแนนไม่ได้แล้ว  ....  ก็เป็นที่ฮือฮากึ่งทุเรศไปทั้งสนามวันนั้นแต่อัดลมสั้นได้เหรียญทอง

ระยะยิง  25 เมตรครับ  ปืนขนาด .30 ถึง .38  ลำกล้องยาวไม่เกิน 150 มม. (6 นิ้ว) ระยะศูนย์ไม่เกิน 220 มม. แต่งด้ามได้ไม่เกินข้อมือ ตัวปืนต้องลงกล่องมาตรฐานได้  น้ำหนักไก 1360 กรัม  น้ำหนักตัวปืน 1400 กรัม  รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็ปของ ISSF ครับ
การยิง  ภาคยิงช้าใช้เป้าดำใหญ่ (วงดำ 7 คะแนน วง 10 กว้าง 50 มม. ที่ใช้แข่งสั้นชาวบ้าน/ยาวชาวบ้าน) เป้าละ 5 นัด เวลา 6 นาที (นักกีฬาบอกนานน่าเบื่อ กินก๋วยเตี๋ยวได้ชุดละชาม) ยิงไป 6 เป้า 30 นัด เต็ม 300 มือดีๆ ยิงได้ 290 ขึ้นไป
จากนั้นเป็นภาคยิงดวล (เป้าพลิก)  เป้าวงดำกลมใหญ่มาก  ดำล้วนไม่มีขาว วงคะแนนต่ำสุด 4 คะแนน โตเท่าๆ เป้ายิงช้าวง 1 คะแนนครับ   ยิงชุดละ 5 นัดไปอีก 6 ชุด รวม 30 นัด เต็ม 300 ซึ่งมือดีๆ จะยิงได้คะแนนสูงกว่าภาคยิงช้า   การยิง "ดวล" นี้ ตั้งท่าชี้ปืนลง 45 องศา  เป้าพลิกมาแล้วถึงยกปืนขึ้นเล็งยิงได้  โดยเป้าพลิกมา 3 วินาที  แล้วพลิกหันข้างให้ 7 วิ.  ขณะเป้าหันข้างห้ามยกปืนครับ   เรียกกันว่า "สามพักเจ็ด" เป้าพลิกมาแต่ละครั้งยิงได้ 1 นัด ห้ามเกิน ถ้าไม่ยิงหรือยิงไม่เข้าเป้าก็ศูนย์ไป จะไปยิงแถมเมื่อพลิกมาคราวหน้าไม่ได้

สถิติ 597 ของไทยนั้น เท่าสถิติโลกเดิมสมัยที่ 3 พัก 7 ใช้เป้ารูปหุ่นคนครับ   ของไทยใช้ลูกโม่สมิธฯ ส่วนสถิติโลก ใช้ 1911 ขนาด .38 สเปฯ แต่งโดยช่างแสงอเมริกันครับ  เป็นสถิติที่ไม่มีคนทำลาย  เพราะเปลี่ยนเป้าใหม่ก็เริ่มนับกันใหม่

  ขออนุญาตขุดกระทู้    พอดีผมยิงปืนสั้นอัดลมกับสั้นยิงช้าอยู่ครับ และสนใจแข่งปืนสั้นชนวนกลางด้วย
  เลยจะรบกวนถามผู้รู้ดังนี้ครับ

  1. ทำไมถึงเลือกใช้กระสุน .32 มากกว่า .38  
  2. ที่ดูไว้ walther GSP .32  จะสู้กับพวก Pardini HP ได้หรือไม่ครับ
  3. ราคาปืนมือสองควรจะเป็นประมาณเท่าไหร่ครับ    คิดว่าคงซื้อมือสองดีกว่า เก็บเงินที่เหลือไปซื้อกระสุนครับ

  ขอบคุณมาก ๆ ครับ  ::014::

  หรือว่าผมจะใช้ K.38 ดีครับ ;D

ผมก็ใช้วอลเธอร์ GSPอยู่ครับ
แต่ค่ากระสุน.32นี่แพงเอาเรื่องเหมือนกันครับ

ขุดมาดูว่าในปัจจุบันบางอย่างเปลี่ยน แต่ยิงคะแนนสูง ๆ ยังไม่ลบสถิติเดิมเลย

.38 .32 หัวตัด อย่างไหนแพงกว่าครับ แล้วทำไมปืนไกคมๆเช่นโกลด์คัพหรือm52ถึงแพ้ปืนไกยาวๆแบบgspได้ครับ

ปกติเวลาเผลอกระตุกไกกระสุนจะลงต่ำแต่เจ้า GSP จุดหมุนอยู่ล่างมีง่ามมือคอย counter balance

อาจารย์ครับ 1911 .38 ผมเคยเห็นมีคนนำเข้ามาจากอเมริกาเป็นทหารอากาศนานมาแล้วประมาณปั 2515 - 16 ประมาณนั้นไปมุงดูกันใหญ๋ น่าจะเป็นบุตรชายของ นอ. สมัคร ชัยนเรศ(ยศขณะนั้น) ครู สมัคร อดึตทีมชาติหลายสมัย

อ้อ เพิ่มอีกนิดเคยเอา M52 ไปแข่งชาวบ้านผล แพ้ครับ อิอิ

>ลูก .32 น่าจะแพงกว่าเพราะมีแต่ลูกนอก และใช้กันเฉพาะกลุ่มนักกีฬาระบบสากลครับ   สนามต่างจังหวัดหายากกว่า .38 หัวตัด

>ปืนไกคมสร้างนิสัยไม่ดีคือรอจังหวะให้เห็นศูนย์ตรงแล้วเหนี่ยวไก  ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดสำหรับการยิงเร่งยิงเร็วครับ  ปืนยิงเร็วมักทำไกให้ลากนิดๆ ได้ผลดีกว่า  แต่ไม่ถึงกับลากยาวแบบปืนกล็อกนะครับ

อาจารย์ครับ ไกเดิม ๆ ของ GSPที่ว่าลากนิด ๆ พอจะใกล้เคียง รูเกอร์ MKII ที่แต่งแล้วหรือเปล่าครับ ?  

อยากทำด้ามปืนแข่งชนวนกลาง ใส่กับ Ruger GP100 ทำได้ที่ไหนครับ

พี่ป๊อก/พี่ยา - ร้านพยนต์ กทม เลยครับคุณต้น 
             02-2229340

ขอบคุณครับพี่ chew  ::014:: :D

ไกรูเกอร์ Mk.II แต่งอย่างดีที่สุดก็ยังไม่คมเท่าไกของ GSP ครับ  ที่ว่าลากนิดๆ คือเทียบกับลูกโม่, โกลด์คัพ, M52 ครับ
แต่ปืนแข่งสั้นมาตรฐานของรัสเซีย ไกหนืดกว่า GSP ครับ

เห็นกระทู้นี้คุยกันเรื่องปืนแข่ง ขอฝากภาพ Toz หน่อยครับ..(หลายรุ่นบ้านเราไม่มีขายนิ)  

กระบอกหลังนี้เห็นค่อนข้างบ่อย

ลูก.32 แพงกว่าเยอะครับ
ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งของกระสุน 2 ขนาดนี้ก็คือ.38 มีมาตรฐานดีกว่า คือลำกล้องแมชท์กับกระสุนหัวตะกั่ว 0.357 - 0.358 นิ้วเหมือนกันทั้งหมด
ส่วน.32 จะมีตั้งแต่ 0.311"-0.315"  ปืนแต่ละยี่ห้อจะแมทช์กับหัวกระสุนไม่เหมือนกัน 

K14 เอามาลงสนุกครับ

เราเรียกแบบกันเองจนสับสนนะครับ
K.38 Masterpiece เมื่อเปลี่ยนวิธีเรียกชื่อ กลายเป็น Model 14
ินิยมใช้แข่ง "ปืนสั้นชนวนกลาง" ในยุคที่กำหนดกติกาใหม่ๆ เอื้อการทำงานของปืนลูกโม่ คือยิงช้าได้ และยิง "สามพักเจ็ด" ง้างนกยิงทีละนัดได้ เป็นการยิงที่ต้องใช้กล้ามเนื้อแขนมากที่สุด

แต่ในกติกาไม่ได้ห้ามปืนระบบกึ่งอัตโนมัติครับ
พอวอลเธอร์เริ่มทำ GSP ขนาด .32 ได้ไม่นาน ปืนลูกโม่ก็หายไปจากสนามแข่ง
เพราะพวกกึ่งออโตฯ ยิงง่ายกว่า คือกว่าที่ลูกเลื่อนหรือลำเลื่อนจะถอยสุด แรงกระทำมาถึงมือคนยิงนั้น หัวกระสุนพ้นลำกล้องไปแล้ว ความผิดพลาด เล็กๆ น้อยๆ ของการจับด้ามไม่มีผล
แต่สำหรับปืนลูกโม่ หัวกระสุนขยับจากปลายปลอกปุ๊บ แรงถอยหลังส่งผ่านโครงถึงมือคนยิงทันที  ถ้ากำด้ามไม่เหมือนเดิม เป๊ะๆ กระสุนก็จะเบี่ยงเบนไปต่างทิศทางกันได้ 
คือยิงยากกว่าออโตครับ

สมัยก่อนที่หัวหมากเห็นบ่อย ยิงกันตรงสนามด้านที่มีเสาธง

ผมใช้ 686 ลำ 4นิ้ว ยิงชนวนกลางครับ แค่พอมีรางวัลติดมือ น่าจะเป็นเพราะคนยิง

เห็น อ. เป๊กไปออกรายการของ Bullet Master

ครับ ไปทดสอบกระสุนให้สมาคมรณยุทธ ครับ