๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: E_mail ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:10:38 AM



หัวข้อ: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:10:38 AM
ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย”
(คัดบางส่วนจากบทความ “คนไทยกับคำสอนในหลวง”

โดยเปลว สีเงิน คอลัมภ์ คนปลายซอย หน้า ๕ นสพ.ไทยโพสต์ ฉ. 5 พค.49

--------------------------------

      ....ผมจะนำบทสัมภาษณ์ “นายมาร์ติน วีลเลอร์” ชาวอังกฤษ ผู้มีปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยลอนดอน แต่มาปักหลักเป็น “เกษตรกรไทย” มีลูก-มีเมียเป็นคนไทยอยู่ขอนแก่นขณะนี้ ให้อ่านเพื่อได้คิดกัน ซึ่งหนังสือ “เราคิดอะไร” ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ เขาตีพิมพ์ไว้ โดยเริ่มจากตอน


•   นิยามความรวยกับความจน

   มันเป็นเรื่องแปลกนะที่ประเทศไทยคนยากจนมีหนี้สินเยอะ ที่อังกฤษมีแต่คนรวยที่เป็นหนี้สิน คนจนไม่มีหนี้ เพราะเขาไม่ให้คนจนยืมเงิน เนื่องจากกลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืน จึงไม่มีสิทธิ์มีหนี้สิน แต่คนรวยยืมเงินได้ คำว่ารวยกับคำว่าจน มันคืออะไรกันแน่ (แต่บ้านเรากลับพยายามให้คนจนได้กู้ยืมเงิน เพื่อจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการยกยอล่อลวงด้วยหลักว่า “นำเงินในอนาคตมาใช้” เลยเป็นหนี้กันทุกหย่อมหญ้า ยิ่งจนก็ยิ่งกู้ง่าย-ผู้คัดลอก)
   ที่ขอนแก่นเขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า
         
๑.ผมมีบ้าน ผมทำบ้านเล็กๆ เป็นกระท่อมน้อยๆ เอาหญ้ามามุงหลังคา ชาวบ้านเขาเรียกว่า “เถียงนา” ไม่ใช่บ้านหรอก ผมบอกว่าใช่ มันบ้านของผม ไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ มันกันแดด-กันฝนได้ แค่นั้นผมก็รวยแล้ว
         
๒.มีที่ดินแค่ ๖ ไร่เท่านั้นเอง ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอก มีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมาก จริงๆผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานของชีวิตเราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา ไม่ใช่ของเจ้านาย เพราะว่าถ้ามันเป็นของเจ้านาย เราต้องไปหาเงินให้เขา ถ้าเราไม่มีเงินเขาก็ไล่เราออก เราไม่มีที่อยู่นะ เพราะฉะนั้น ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองไว้ก่อน ซึ่งผมก็มีบ้าน คิดว่าลูกของผมจะต้องมีบ้านแน่ๆด้วย
         
     เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง แต่ที่ทำได้ง่ายคือปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้โตเร็วมาก แค่ ๒๕-๓๐ ปี ตัดได้แล้ว ไม่เหมือนอังกฤษ ๒๐๐ ปี ได้เท่านี้เอง เพราะอากาศเย็น เป็นเรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่น โอ๊ย....มันร้อนๆ ผมว่ากลับเป็นเรื่องดี แสงแดดเยอะจะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ๑ ปี ทำได้ทุกวัน แต่คนไทยจะบ่นว่าร้อนๆๆ ไม่เอา...ไม่เอา..อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่า แต่คนอังกฤษเขาถือคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่ามันไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พ่อของผม เขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพื่อให้ผิวเป็นสีแทน ให้ดูแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับอยากมีผิวขาว (ยิ่งขาวอมชมพูด้วยยิ่งดี ไม่มองข้อเท็จจริงที่ว่า เราเป็นชาวผิวคล้ำเพราะธรรมชาติ ที่ร้อนและแสงแดดจัด กลับไปฝืน ไปพอก ไปทา หมดเท่าไรไม่ว่า โฆษณากันดื่นจอทีวีเกือบตลอดเวลา ธรรมชาติไม่โกหกหรอกครับ สักวันหนึ่งจะเห็นผลของการที่พยายามต่อต้าน-ฝ่าฝืน-ขัดขืนธรรมชาติในข้อนี้-ผู้คัดลอก)


o   วิธีคิดไม่ธรรมดาของมาร์ติน วีลเลอร์

   ผมมีลูก ๓ คน ชาย ๒ หญิง ๑ สิ่งสำคัญที่สุด ๒ เรื่องในชีวิตของเราคือ ๑. ต้องมีบ้านเป็นของตนเองให้ได้ จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ ๒. ต้องมีงานทำทุกวัน ไม่ได้จำกัดว่าเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทุกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่า วิธีเดียวที่รับประกันได้ว่าลูกมีงานทำ คือการมีที่ทำกินให้เขา และเราต้องช่วยให้เขาทำเป็น ผมคิดว่าคนชนบทจริงๆ ใครมีที่ดินทำกินแล้วจะไม่ตกงาน เว้นแค่คนขี้เกียจ ซึ่งบางคนมีที่ดินเยอะ แต่ไม่ยอมทำ ถ้าเราสั่งสอนให้ลูกรู้จักทำมาหากิน เขาก็ไม่ตกงาน
   ผมถือว่างานที่อิสระและมีประโยชน์มากที่สุดคืองานเกษตร ซึ่งช่วยให้เรากินอิ่มทุกวัน คนอังกฤษกินไม่อิ่มเยอะมากนะ ผมไม่อยากให้ลูกของผมอดอาหาร อยากให้ลูกกินอิ่มในลักษณะที่ส่งเสริมสุขภาพด้วย กินอาหารที่ไม่มีสารพิษ กินอาหารแบบเรียบง่ายก็ได้ แต่อิ่มทุกวัน เมื่อมีบ้าน มีงาน มีอาหาร ลูกของผมก็จะรวยที่สุด....ฯลฯ (คนไทยกี่คนครับ ที่คิดๆได้อย่างนี้..ผู้คัดลอก)
   

              จุดอ่อน-จัดแข็งของคนไทย

   ผมคิดว่าคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยม เห็นฝรั่งที่ไหนก็คิดว่ารวยหมด คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยม จะทำให้ทุกคนมีเงิน ไม่เข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาระบบทุนนิยมนานแล้ว เช่น อังกฤษ สหรัฐ มีปัญหาเยอะมาก แต่คนไทยก็คิดว่าเมืองนอกดีกว่า อันนี้จุดอ่อนครับ คือคนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย ผมเป็นฝรั่ง คุณเลยนั่งฟังผม ถ้าผมเป็นชาวบ้าน คุณจะไม่สนใจผม อันนี้เป็นจุดอ่อน(ตรงและถูกใจผมจังเลย...ผู้คัดลอก)
         แต่จุดแข็งคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แผ่นดินประเทศไทยอุดมสมบูรณ์มากๆ มีดินเยอะมาก น้ำเยอะมาก แสงแดดเยอะมาก ทำเกษตรอยู่รอดแน่ ใครๆก็อยากได้ประเทศไทย ผมก็ได้ถึง ๖ ไร่
   คนไทยโชคดีมากๆ ที่ได้ในหลวงเป็นผู้นำ พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมาก เพื่อช่วยให้คนได้คิด ช่วยให้คนอยู่ได้ จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้ ปัญหาคือคนไทยส่วนมากนับถือในหลวง แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนของในหลวง พระองค์ท่านบอกว่า ๒๗ ปี ถึงเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนไทยไม่รู้จักพอเพียง
   เอาอย่างเดียว ถึงยกมือไหว้ในหลวง แต่เวลาดำรงชีวิต ไม่ได้ทำตาในหลวง ก็ในหลวงบอกไว้แล้วว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเสือ ขอให้มีอยู่มีกินไว้ก่อน
   ถ้าทุกคนเริ่มคิดจริงๆถึงสิ่งที่ในหลวงพูด เราน่าจะช่วยให้ประเทศไทยอยู่ได้ เพราะความคิดของในหลวงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ต้องอาศัยพลังแผ่นดิน ทำได้เฉพาะประเทศไทยนะ เศรษฐกิจพอเพียง ที่อื่นทำไม่ได้หรอก เพราะเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะเหมือนประเทศไทย
   พวกคุณโชคดีที่ได้แผ่นดินดีๆ ได้ผู้นำ(ในหลวง)ที่ดีด้วย และเรื่องที่ ๓ เรื่องศาสนาผมคิดว่า ศาสนาพุทธมีความสำคัญมากๆ สำหรับคนไทย ไม่ใช่แค่นับถือไหว้พระ แค่นั้นไม่พอ แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วยนะ มักน้อย สันโดษ พอเพียง ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นเรื่องง่ายๆ พึ่งตนเองก็ได้ ปรัชญาของศาสนาพุทธ ทำได้นะ แต่คนไทยจำนวนน้อยที่เข้าใจ (เราท่านเห็นอย่างที่ฝรั่งท่านนี้เห็นกันบ้างไหมครับ-ผู้คัดลอก) จริงๆ แล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก ให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ โดยไม่ทำลาย ไม่เอาเปรียบ แต่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ (ขออนุญาตเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่เฉพาะแต่ชนบท แต่เหมาะกับมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถที่จะไม่ทำลาย ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อนมนุษย์ ซึ่งก็เป็น “ธรรมะ-ธรรมชาติในตัวเองด้วยเหมือนกันครับ-ผู้คัดลอก)
   

           อยากบอกอะไรคนไทย

   คุณโชคดีมากๆที่เกิดในประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเอาน้ำมันจากใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น ประเทศไทยอยู่ได้ กินอิ่ม มีเหลือแจกด้วย อย่าไปคิดเรื่องเงินอะไรมาก อย่าลดคุณค่าความเป็นไทยของตัวเองลง คนไทยส่วนมากนิสัยดีจริงๆ คนไทยมีน้ำใจ หายากนะ
         คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้
   ชีวิตที่ไม่ทะเยอทะยานเกินไป คือชีวิตที่มีคุณภาพ ชาวบ้านทุกคนทำได้ ผมเองถึงยังทำไม่สำเร็จ แต่มั่นใจว่าจะทำได้แน่ในอนาคต ถ้าผมทำได้ คนอื่นก็คงทำได้ง่ายกว่าผมเยอะ ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่อยากได้อะไรมากเกินไปในชีวิต ชีวิตมันก็ง่าย พยายามทำชีวิตให้มันง่ายขึ้น อย่าให้มันสับสน อย่าให้มันลำบาก พยายามรักษาสิ่งแบบนี้ให้ดี และอย่าเชื่อฝรั่งมากเกินไป.............
   ครับ....เมื่อไหร่ล่ะ ที่คนไทยจะเปลี่ยนพฤติกรรม “เคารพในหลวง” ด้วยปาก มาเป็น “เคารพในหลวง” ด้วยการปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ท่าน


            เพื่อนร่วมโลกทุกท่านครับ
     
      ผมใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที ในการพิมพ์ข้อความข้างต้น และได้ให้ลูกกับภรรยาอ่านบทความนี้ด้วยแล้ว หลังจากนี้ จะนำข้อความบางส่วนที่ทำตัวหนาไว้ จัดทำเป็นแผ่นใส เพื่อบรรยายตามชั้นเรียนต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่วันที่ ๙ มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ด้วยหวังจะช่วยกันปลุกคนไทยบางคนที่ยังหลับใหล ยังไม่เป็น “พุทธ” คือ ไม่ตื่น ไม่รู้ ไม่เบิกบาน แต่ตรงกันข้าม กลับบานและเต็มไปด้วยหนี้สิน ความทุกข์ ตัณหา ๑๐๘ อย่างทุกวันนี้ (คำว่าตัณหา ๑๐๘ นี้ ไม่ใช่สำนวนเขียนเล่นโก้ๆนะครับ เมื่อวานเพิ่งอ่านเจอว่า ตัณหาในทางพุทธศาสนา มี ๑๐๘ อย่างจริงๆ และเราท่านก็ต้องเจอะเจอกับมันทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง แล้วจะไม่เป็นทุกข์ได้อย่างไรกันครับ
      อ่านแล้วได้ประโยชน์หรือมีความเห็นเพิ่มเติมอย่างไร เขียนไปคุยกันบ้างก็ดีนะครับ



หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:16:07 AM
ความคิดที่คนไทย ส่วนมาก มองข้ามครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:40:36 AM
 :D ขอบคุณครับ คุณ.จ้าว

- ถูกต้องทั้งหมดเลยครับ โดยเฉพาะประโยคนี้ "มันเป็นเรื่องแปลกนะที่ประเทศไทยคนยากจนมีหนี้สินเยอะ ที่อังกฤษมีแต่คนรวยที่เป็นหนี้สิน คนจนไม่มีหนี้ เพราะเขาไม่ให้คนจนยืมเงิน เนื่องจากกลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืน จึงไม่มีสิทธิ์มีหนี้สิน แต่คนรวยยืมเงินได้ คำว่ารวยกับคำว่าจน มันคืออะไรกันแน่ (แต่บ้านเรากลับพยายามให้คนจนได้กู้ยืมเงิน เพื่อจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการยกยอล่อลวงด้วยหลักว่า “นำเงินในอนาคตมาใช้” เลยเป็นหนี้กันทุกหย่อมหญ้า ยิ่งจนก็ยิ่งกู้ง่าย-ผู้คัดลอก)"

รัฐบาลกำลังทำ ให้คนจนกู้เงิน เอาเงินอนาคตมาใช้ สอนให้คนไทยรู้จักขอ ไม่รู้จักหา จึงเท่ากับว่าทำให้คนไทยยิ่งจนลง ไม่ใช่ตามตำโฆษณาที่ว่า ความจนจะหมดจากคนไทย


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: korpat ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:46:09 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:50:34 AM
กระทู้นี้เป็นที่ต่อปากต่อคำในเวปพันทิพย์พอสมควรครับ  อ้อ  ที่ห้องสีลมนะครับ  มุมมองของเศรษฐกิจเพียงพอหลายๆๆคนอาจจะคิดว่าแค่พอมีอยู่มีกินไม่ขวนขวายแต่จริงๆๆมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ  เราจะทำอะไรไม่เกินตัวมากไปต่างหากผมว่าน่าจะเป็นความพอเพียง


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: NPD ที่ สิงหาคม 14, 2006, 10:07:58 AM
  ขอบคุณครับ ..


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: ตูมตาม - รักในหลวง - ที่ สิงหาคม 14, 2006, 10:43:06 AM
ขอบคุณครับ.....


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ สิงหาคม 14, 2006, 11:07:45 AM
พอเพียง ก็เอาให้มันพอนั่นแหละครับ  แต่พอของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คิดว่าคนไทยทุกคนเข้าใจและกำลังทำอยู่ แต่ถ้ามีข้อความแบบนี้ออกมาก็จะช่วยย้ำให้ให้เกิดความคิดความเข้าใจความภูมิใจ มั่นใจมากขึ้น  ดีครับ สร้างสรรค์ดีครับ  ขอบคุณ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: รัตตรา ที่ สิงหาคม 14, 2006, 11:09:04 AM
ผมรู้คุณค่าทุกตัวอักษร ที่พิมพ์บอกไว้ เป็นการปลุกจิตรสำนึกที่แท้จริง

                                       ขอบคุณมากๆครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 14, 2006, 11:46:27 AM
นายฟรั่งคนนี้ แกได้ซึมซับความคิดแบบแนวตะวันออกฯครับ และก็เป็นความจริง

คนตะวันออกแบบเรามีชีวิตที่มีความเป็นอยู่สุขสบายกว่าตะวันตกเยอะ

แต่การรุกรานด้วยวัฒนธรรมตะวันตก ทำให้วิถีตะวันออกของพวกเราเลอะเลือนไป

พวกตะวันตกได้หันมาเอาแบบอย่างตะวันออกมากขึ้นหลายๆเรื่อง(ลองสังเกตุดู)

มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง มีที่ทำกิน ไม่เป็นหนี้สิน อยู่ไม่เกิน 30000 วัน ตาย
ทำงานเอาเป็นเอาตาย แก่งแย่ง คดโกง เอาเปรียบคนอื่น เพื่อที่จะได้มากๆ ไม่เกิน 30000วัน ตาย

มีเงินมากมาย อยู่แบบหวาดระแวง

มีบ้าง ไม่อด มีเพื่อนฝูงดีๆ จริงใจ

พิมพ์มากไปมั่ว ขอจบแค่นี้ก่อน


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ สิงหาคม 14, 2006, 11:51:51 AM
ชอบความคิดแกมากๆครับ
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ สิงหาคม 14, 2006, 01:08:00 PM
ประเทศไทยเราถลำตัวไปมากแล้วครับเพราะวันนี้ คนไทยเป็นหนี้กันทั่วหน้า จากนโยบายส่งเสริมการเป็นหนี้ของรัฐบาลครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ สิงหาคม 14, 2006, 02:00:38 PM
 แต่คนไทยจะบ่นว่าร้อนๆๆ ไม่เอา...ไม่เอา..อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่า แต่คนอังกฤษเขาถือคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่ามันไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก

****

ความคิดของฝรั่งเรื่องนิยมผิวสีแทนเพิ่งมาเริ่มในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครับ

สมัยก่อนนั้นฝรั่งก็นิยมผิวขาวซีดครับ เพราะพวกขุนนาง/ชนชั้นปกครองไม่ต้องทำนาทำไร่ หมกตัวอยู่ในปราสาท ผิวจะซีดจนเห็นเส้นเลือกดำชัดเจน ถึงมีคำเรียกผู้มีเชื้อเจ้าว่า Blue blood (เลือดสีน้ำเงิน)

ต่อมาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ชนชั้นที่ด้อยโอกาสที่สุดในสังคมทำงานเหมือง โดยเฉพาะเหมืองถ่านหินซึ่งเป็นเหมืองขุด อยู่ในรูตลอดเวลา ตัวซีดยิ่งกว่าเจ้าเลือดน้ำเงิน ประกอบกับการที่มีความรู้แล้วว่าชีวิตกลางแจ้งดีสำหรับสุขภาพมากกว่า ฝรั่งที่มีกินเลยนิยมตากแดด เมื่อมีแดดให้ตาก


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: paisit ที่ สิงหาคม 14, 2006, 02:27:15 PM
ดีมากเลยครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: e-muak ที่ สิงหาคม 14, 2006, 05:33:40 PM
ยอดเยี่ยมครับ ทั้ง ฝรั่งผู้คิด  และ พี่ E_ mail ที่ช่วยนำเสนอ
ถ้าทุกคนรู้จักคำว่า พอเพียง ก็เพียงพอแล้ว
  ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ สิงหาคม 14, 2006, 09:58:00 PM
ฝรั่งที่ผมรู้จักคงซึมซาบความเป็นไทยได้ดี    เพราะเล่นมีเมียหลวงเมียน้อย   แต่เขาก็เลี้ยงดูรับผิดชอบทั้ง2คน


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 16, 2006, 08:57:43 AM
.......สูงสุดสู่สามัญ..........


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ สิงหาคม 16, 2006, 09:10:15 AM
ขอบคุณมากครับ
ผมข้ามกระทู้นี้ไปหลายครั้งไม่ได้เปิดอ่าน คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ คงเป็นเรื่องกวนๆอะไรพวกนั้น
แต่วันนี้เปิดเข้ามาอ่าน ดีมากจริงๆ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: worth ที่ สิงหาคม 16, 2006, 09:34:30 AM
   สังคมไทยมีค่านิยมที่ จะให้ลูกเรียนสูงๆจบมารับราชการหรือ ทำงานกินเงินเดือน แค่นี้พ่อ แม่ มีความภูมิใจแล้ว ไม่เหมือนสังคมอื่นที่จะแนะนำให้ลูกๆ ช่วยเหลือตนเองแล้วเลือกงานที่ถนัด และชอบ เอาตัวรอดได้เอง


 จะเป็นแบบ พ่อแม่รังแกฉัน


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ สิงหาคม 16, 2006, 11:16:45 AM
แทงใจ น่าคิด มีสาระ ผมจะเอาไว้ทบทวนมุมมองตัวเองและคนรอบข้างครับ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ สิงหาคม 16, 2006, 11:55:12 AM
ขอบคุณมากครับ
ผมข้ามกระทู้นี้ไปหลายครั้งไม่ได้เปิดอ่าน คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ คงเป็นเรื่องกวนๆอะไรพวกนั้น
แต่วันนี้เปิดเข้ามาอ่าน ดีมากจริงๆ

หุ หุ หุ ผิดคาดละซี๊.....ผมทำตัวมีสาระก็เป็น  ;D  ;D  ;D


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 16, 2006, 12:01:19 PM
วันนี้หวยออก.........ถ้าถูกรางวัล ได้เงินซัก หกล้าน  ผมจะไปซื้อที่ดิน ซัก ๑๐ ไร่ ราคาคงไม่เกิน ห้าแสน ที่ดินแถวนี้ถูก ๆ เยอะ ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ..ตามแนวพระราชดำริ......ปลูกผัก  เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู  เลี้ยงปลา  ใช้ชีวิตแบบพอเพียง   มีเงินฝากไว้ให้ลูก ๆ อ้อ...เกือบลืม  จะไปหลังวัง แล้ว ซื้อ ๑๙๑๑ ซักกระบอก ลูกซอง และ ลูกกรดยาว อีกอย่างละกระบอก ก็พอ............เฮ้อ......ฝันกลางวันนี่มีความสุขซะจริง ๆ .........


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: Dhong ที่ สิงหาคม 16, 2006, 12:25:51 PM
 :)เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ...............อ่านแล้วทำให้มองอะไรๆ......................ได้ลึกมากขึ้น


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 16, 2006, 01:15:47 PM
:)เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ...............อ่านแล้วทำให้มองอะไรๆ......................ได้ลึกมากขึ้น

ขอลอกครับครูโด่ง



หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: ARTWORK ที่ สิงหาคม 16, 2006, 01:37:29 PM
.....ขอบคุณครับ.....


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 16, 2006, 03:27:53 PM
ขอบคุณครับพี่อีแมว.........ฝรั่งคนนี้ที่มองคนไทย เตือนสติคนไทย ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
****

ความคิดของฝรั่งเรื่องนิยมผิวสีแทนเพิ่งมาเริ่มในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครับ

สมัยก่อนนั้นฝรั่งก็นิยมผิวขาวซีดครับ เพราะพวกขุนนาง/ชนชั้นปกครองไม่ต้องทำนาทำไร่ หมกตัวอยู่ในปราสาท ผิวจะซีดจนเห็นเส้นเลือกดำชัดเจน ถึงมีคำเรียกผู้มีเชื้อเจ้าว่า Blue blood (เลือดสีน้ำเงิน)

ต่อมาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ชนชั้นที่ด้อยโอกาสที่สุดในสังคมทำงานเหมือง โดยเฉพาะเหมืองถ่านหินซึ่งเป็นเหมืองขุด อยู่ในรูตลอดเวลา ตัวซีดยิ่งกว่าเจ้าเลือดน้ำเงิน ประกอบกับการที่มีความรู้แล้วว่าชีวิตกลางแจ้งดีสำหรับสุขภาพมากกว่า ฝรั่งที่มีกินเลยนิยมตากแดด เมื่อมีแดดให้ตาก
ขอบคุณพี่ L/E ครับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในประวัติศาสตร์ไม่ผิดหวังถ้าพี่มาให้ความรู้.......แต่ผมเห็นแย้งนิดครับคือบางทีก็เป็นเรื่องของคนที่อยากไม่มีที่สิ้นสุดครับ ดำอยากขาว พวกขาวอยากดำ เพื่อผมคนละ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-จีน ขาวจนถ้ามันเป็นผู้หญิงพวกผมคงจีบมันแล้วละ.......ไอ้หมอนี้ชอบตากแดดครับถามว่าทำมัยเขาสาว ๆ เขานิยมนิยมตี๋ ๆ ขาว ๆ  มันตอบง่าย ๆ ว่า กรูอยากดำเหมื่อนพวกมรึง  :~)


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ สิงหาคม 16, 2006, 04:02:21 PM
ขอบคุณครับพี่อีแมว.........ฝรั่งคนนี้ที่มองคนไทย เตือนสติคนไทย ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
****

ความคิดของฝรั่งเรื่องนิยมผิวสีแทนเพิ่งมาเริ่มในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครับ

สมัยก่อนนั้นฝรั่งก็นิยมผิวขาวซีดครับ เพราะพวกขุนนาง/ชนชั้นปกครองไม่ต้องทำนาทำไร่ หมกตัวอยู่ในปราสาท ผิวจะซีดจนเห็นเส้นเลือกดำชัดเจน ถึงมีคำเรียกผู้มีเชื้อเจ้าว่า Blue blood (เลือดสีน้ำเงิน)

ต่อมาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ชนชั้นที่ด้อยโอกาสที่สุดในสังคมทำงานเหมือง โดยเฉพาะเหมืองถ่านหินซึ่งเป็นเหมืองขุด อยู่ในรูตลอดเวลา ตัวซีดยิ่งกว่าเจ้าเลือดน้ำเงิน ประกอบกับการที่มีความรู้แล้วว่าชีวิตกลางแจ้งดีสำหรับสุขภาพมากกว่า ฝรั่งที่มีกินเลยนิยมตากแดด เมื่อมีแดดให้ตาก
ขอบคุณพี่ L/E ครับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในประวัติศาสตร์ไม่ผิดหวังถ้าพี่มาให้ความรู้.......แต่ผมเห็นแย้งนิดครับคือบางทีก็เป็นเรื่องของคนที่อยากไม่มีที่สิ้นสุดครับ ดำอยากขาว พวกขาวอยากดำ เพื่อผมคนละ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-จีน ขาวจนถ้ามันเป็นผู้หญิงพวกผมคงจีบมันแล้วละ.......ไอ้หมอนี้ชอบตากแดดครับถามว่าทำมัยเขาสาว ๆ เขานิยมนิยมตี๋ ๆ ขาว ๆ มันตอบง่าย ๆ ว่า กรูอยากดำเหมื่อนพวกมรึง :~)

ฮ่า ฮ่า จริงครับ ......แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงไทยอยากดำสักคน


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: ออด ที่ สิงหาคม 16, 2006, 05:27:14 PM
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อความดี ๆ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ สิงหาคม 16, 2006, 06:42:13 PM
ขอบคุณครับ...เรื่องของคนในอยากออก  คนนอกอยากเข้า  เคยเจอมากับตัวเองเต็มๆ  หลังจากจบม.3  อยากออกสู่โลกภายนอกเป็นหนักหนา   คุณแม่อ้อนให้เรียนต่อให้จบม.6  ก็ไม่ฟัง :~)  พอได้บัตรประชาชนก็ไปทำพาสปอร์ตแล้วไปซาอุ...กลับจากซาอุแล้วมาญี่ปุ่น :~) :~)  ตอนนี้อยากบอกว่า...อยากกลับบ้านคร้าบบ :~)
อยากไปทำไร่ไถนา  เอาแค่  พอเพียง ก็พอ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: gopo ที่ สิงหาคม 16, 2006, 06:51:00 PM
ความคิดที่ควรปลูกฝังให้เด็กนักเรียนใด้เรียนรู้ในความพอเพียง  ไม่ใช่โยนเงินให้กู้


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: CT_Pro4 ที่ สิงหาคม 16, 2006, 09:59:38 PM
...ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆ ครับ...  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: montri รักในหลวง ที่ สิงหาคม 17, 2006, 09:02:54 AM
ประเทศไทยเราถลำตัวไปมากแล้วครับเพราะวันนี้ คนไทยเป็นหนี้กันทั่วหน้า จากนโยบายส่งเสริมการเป็นหนี้ของรัฐบาลครับ
เหอๆๆๆๆๆๆ  ถ้าไม่เลือกข้า   ข้าจะไม่ให้กู้เงินล้านนะ   ถ้าเลือกข้า ข้าจะให้กู้เพิ่ม  ส่วนที่เอ็งจะกู้ไปทำอะไรมันเรื่องของเอ็ง เหอๆๆๆๆๆๆ หรือถ้าเอ็งไม่มีปัญญาใช้คืนก็ไม่เป็นไร  เพราะไม่ใช่เงินของข้า เหอๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 17, 2006, 09:38:38 AM
เมื่อวันก่อนมีการประชุมสภาท้องถิ่นที่ของผม....ผมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า "ประมาณการงบประมาณโครงการก่อสร้าง ต่าง ๆ ขาดตกบกพร่อง ทำให้ผู้รับเหมา รับงานไปทำไม่ได้ ทำให้โครงการบางโครงการต้องตกไป " (เพราะผู้บริหารและนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้รับเหมาครับ เมื่อก่อน เขาได้กันเยอะ พอผมมาอยู่ก็ได้กันน้อยเลยโวยใส่ผม)  มีการเสนอให้ "ย้าย" ผมออกนอกพื้นที่ครับ...โทษฐาน ทำให้โครงการล่าช้า     (ผู้รับเหมาได้กำไรน้อย)    .....ผมนี่สุดเซ็งเลย....ผมก็ตอบไปว่า "ผมเป็นข้าราชการ ผมทำอะไรลงไป ก็มีระเบียบกฎหมายควบคุมอยู่ อย่างเช่นการประมาณการ ผมก็ประมาณการไปตามความเป็นจริง และยึดถือผลประโยชน์ของทางราชการให้มากที่สุดก็ ผู้รับเหมารายใด ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ผมไม่สนใจว่าใครจะ ขาดทุนหรือได้กำไรเท่าไหร่ ประชาชนจ้างผมมา รักษาผลประโยชน์ให้เขา ผมก็ต้องทำ"..... :-\


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: poe kerpetkaew ที่ สิงหาคม 17, 2006, 11:18:53 AM
มาร์ติน วีลเลอร์ เรียนจบปริญญาตรีเกียรตินิยม จาก ม.ลอนดอน (โอนย้ายมาจาก ม.เคมบริจ แกทนสังคมเคมบริจที่เป็นศักดินาไม่ได้)รู้สึกจะเป็นคณะปรัชญา เรียนจบแกยื่นใบปริญญาให้พ่อที่เป็นผู้บริหารภาคเอกชนระดับสูง บอกว่าได้ทำหน้าที่ของลูกแล้ว  ทีนี้แกไปหางานทำเป็นกรรมกรแบกอิฐ ทำอยู่ 10 ปี ก่อนจะมาเมืองไทย ที่เมืองไทยเขาจ้างให้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษเงินเดือน 3 หมื่น ใส่สูทผูกเนคไท แกทำอยู่ได้พักเดียวก็ลาออก บอกว่าไม่ชอบการแต่งตัวแบบนั้น เมื่อพบรักกับสาวไทยก็พากันไปทำไร่ทำนาตามที่ตนเองชอบ   


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ สิงหาคม 17, 2006, 11:29:46 AM
เมื่อวันก่อนมีการประชุมสภาท้องถิ่นที่ของผม....ผมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า "ประมาณการงบประมาณโครงการก่อสร้าง ต่าง ๆ ขาดตกบกพร่อง ทำให้ผู้รับเหมา รับงานไปทำไม่ได้ ทำให้โครงการบางโครงการต้องตกไป " (เพราะผู้บริหารและนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้รับเหมาครับ เมื่อก่อน เขาได้กันเยอะ พอผมมาอยู่ก็ได้กันน้อยเลยโวยใส่ผม)  มีการเสนอให้ "ย้าย" ผมออกนอกพื้นที่ครับ...โทษฐาน ทำให้โครงการล่าช้า     (ผู้รับเหมาได้กำไรน้อย)    .....ผมนี่สุดเซ็งเลย....ผมก็ตอบไปว่า "ผมเป็นข้าราชการ ผมทำอะไรลงไป ก็มีระเบียบกฎหมายควบคุมอยู่ อย่างเช่นการประมาณการ ผมก็ประมาณการไปตามความเป็นจริง และยึดถือผลประโยชน์ของทางราชการให้มากที่สุดก็ ผู้รับเหมารายใด ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ผมไม่สนใจว่าใครจะ ขาดทุนหรือได้กำไรเท่าไหร่ ประชาชนจ้างผมมา รักษาผลประโยชน์ให้เขา ผมก็ต้องทำ"..... :-\

อดทนทำต่อไปเถิดครับ นึกเสียว่าทำเอาไว้ให้มีเรื่องดีๆของพ่อไว้เล่าให้ลูกฟัง...อย่างน้อยนาทีที่ใกล้ตายเราก็มีเรื่องที่นึกถึงแล้วทำให้พกรอยยิ้มลงนรกได้ละ  ;)


หัวข้อ: Re: ฝรั่งคนหนึ่งมอง “คนไทย” ,จากfwdเมล์
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 17, 2006, 11:41:13 AM
เมื่อวันก่อนมีการประชุมสภาท้องถิ่นที่ของผม....ผมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า "ประมาณการงบประมาณโครงการก่อสร้าง ต่าง ๆ ขาดตกบกพร่อง ทำให้ผู้รับเหมา รับงานไปทำไม่ได้ ทำให้โครงการบางโครงการต้องตกไป " (เพราะผู้บริหารและนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้รับเหมาครับ เมื่อก่อน เขาได้กันเยอะ พอผมมาอยู่ก็ได้กันน้อยเลยโวยใส่ผม) มีการเสนอให้ "ย้าย" ผมออกนอกพื้นที่ครับ...โทษฐาน ทำให้โครงการล่าช้า (ผู้รับเหมาได้กำไรน้อย) .....ผมนี่สุดเซ็งเลย....ผมก็ตอบไปว่า "ผมเป็นข้าราชการ ผมทำอะไรลงไป ก็มีระเบียบกฎหมายควบคุมอยู่ อย่างเช่นการประมาณการ ผมก็ประมาณการไปตามความเป็นจริง และยึดถือผลประโยชน์ของทางราชการให้มากที่สุดก็ ผู้รับเหมารายใด ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ผมไม่สนใจว่าใครจะ ขาดทุนหรือได้กำไรเท่าไหร่ ประชาชนจ้างผมมา รักษาผลประโยชน์ให้เขา ผมก็ต้องทำ"..... :-\

อดทนทำต่อไปเถิดครับ นึกเสียว่าทำเอาไว้ให้มีเรื่องดีๆของพ่อไว้เล่าให้ลูกฟัง...อย่างน้อยนาทีที่ใกล้ตายเราก็มีเรื่องที่นึกถึงแล้วทำให้พกรอยยิ้มลงนรกได้ละ ;)


ครับผม....ขอบคุณครับ.........ก่อนที่พ่อผมจะเสียชีวิต ท่านได้สั่งไว้ครับ..เรื่องการทำงานของผมว่า "ลูกทำงานอยู่กับเรื่องผลประโยชน์  จงจำไว้ว่า อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เอาประโยชน์ส่วนรวมไว้ก่อน อย่าเป็นคน โกง คนคิดคดทรยศ ต่อแผ่นดิน "  ผมก็จำคำสอนพ่อไว้ตลอด...ครับ :)