๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: PHAPHOOM ที่ มกราคม 22, 2012, 09:00:44 PM



หัวข้อ: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ มกราคม 22, 2012, 09:00:44 PM
+++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++

(http://image.ohozaa.com/i/23b/onZqfD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvf2)

เอ็ด แฮร์ริส (Ed Harris) นายพลนาซีในนาทีสุดท้ายแห่งชีวิต ยืนนิ่งกับที่หลังรู้ตัวว่าพลาด แพ้เหลี่ยมคมของวาสสิลิ เซ้ตซอฟ (Vassili Saytsev) โดยลุกออกจากจุดซุ่ม ขณะที่มือเพชฌฆาตซึ่งแสดงโดย จูด ลอว์ (Jude Law) ยืนเล็งปืนอยู่ระหว่างตู้รถไฟ ก่อนลั่นกระสุนสังหารอย่างแม่นยำในฉากไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์ Enemy at the Gate ฮอลลีวูดคือโลกแห่งมายา ภาพยนตร์ที่สร้างออกมาอาจจริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ที่แน่ๆ ฌ็อง-ฌากส์ อานโนด์ (Jean-Jaques Annaud) ผู้สร้างและกำกับ ได้ทำให้สุดยอดสไนเปอร์แห่งกองทัพแดงอดีตสหภาพโซเวียตเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่อีกไม่กี่ทศวรรษต่อมา ด้วยอาวุธที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ได้ทำให้เกิดสไนเปอร์ระดับเทพอีกหลายคนในช่วงสงครามเวียดนามและสงครามในอัฟกานิสถาน.  
 
      
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ต้องขอบคุณภาพยนตร์ Enemy at the Gate ที่ทำให้โลกรู้จัก วาสสิลี เซ้ตซอฟ (Vassili Zaytsev) พลแม่นปืนที่ขับเคี่ยวกับนายทหารนาซีคนหนึ่งนาน 3 สัปดาห์ และ กลายเป็นผู้พิชิตนายพลสุดยอดฝีมือในศึกสตาลินกราด เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2
      
       แต่ภาพยนตร์คือ มายา ถึงแม้ เซ้ตซอฟ จะมีตัวตนอยู่จริงและเป็นสไนเปอร์ระดับเทพจริง แต่ก็มีหลายเรื่องที่ไม่จริง
      
       ไม่นานเพียง 2-3 ทศวรรษหลังศึกสตาลินกราด สไนเปอร์ชั้นเทพได้จุติขึ้นมาอีก 3 คน ในยุคสงครามเวียดนาม ทั้งหมดเป็นทหารอเมริกัน ซึ่งเมื่อรวมผลงานแล้ว สามเทพสามารถ “เก็บ” ฝ่ายข้าศึกได้รวมกันกว่า 400 คน
      
       เว็บไซต์ข่าวการทหารในสหรัฐฯ ขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมจัดให้สไนเปอร์อเมริกันทั้งสาม เข้าอันดับ “10 สไนเปอร์มือหนึ่ง” นับแต่มีคนกลุ่มนี้อยู่ในโลก
      
       แต่ไม่ใช่แค่จำนวนเป้าหมายที่พวกเขา “ล้ม” ได้เท่านั้น ความสามารถพิเศษกับความทรหดอดทน เป็นคุณสมบัติสำคัญเช่นกันในการจัดอันดับเทพสไนเปอร์ทั้งสิบ      
    
          
      
10 เทพตลอดกาล  

      
       ทำเนียบ 10 สุดยอดสไนเปอร์ จัดอันดับจากยอดนักแม่นปืน ตั้งแต่ยุคอาณานิคมในอเมริกาเหนือ ถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ สงครามโลกครั้งที่ 2
      
       1.สิโม ฮาห์ยา (Simo Häyhä)

(http://image.ohozaa.com/i/3b7/fq2iif.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvet)

ในช่วงสงครามกับรัสเซีย พ.ศ.2482-2483 ในเวลาเพียง 100 วัน พลทหารกองทัพเล็กๆ ของฟินแลนด์คนนี้สังหารทหารรัสเซีย 505 คนด้วยปืนไรเฟิ้ลไม่ติดกล้อง กับอีกราว 200 คนด้วยปืนกล รวมผลงาน 705 ศพ
      
       ฮาห์ยา บอกกับคนใกล้ชิดในเวลาต่อมาว่า กล้องติดปืนเป็นอันตรายอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมด้วยหิมะ มันอาจสะท้อนแสงวาววับเมื่อไรก็ได้ ซึ่งจะทำให้ข้าศึกมองเห็นจุดซุ่มยิง เทคนิคการเอาชีวิตรอดอีกอย่างหนึ่งคือ ก่อนจะลั่นไกเขาจะอมหิมะเอาไว้ ป้องกันมิให้ลมหายใจที่พวยพุ่งออกมากลายเป็นไอให้เห็น ภายใต้อุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเป็นที่สังเกตของฝ่ายตรงข้าม
      
       จุดซุ่มของเขาจะมีหิมะปกคลุมช่วงปลายกระบอกปืนเอาไว้เสมอ ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ ไม่ให้ไอร้อนจากการยิงพวยพุ่งขึ้น
      
       เมื่อเขายิงสังหารฝ่ายรัสเซียเป็นจำนวนมากขึ้นทุกทีๆ ฝ่ายนั้นส่งทหารทั้งกองร้อย ออกค้นหาทั่วทั้งป่าและทุ่งหิมะ แต่ก็ไม่เคยพบ “ความตายสีขาว” (White Death) อันเป็นฉายาที่ข้าศึกมอบให้ด้วยความเคารพเลื่อมใส

   2.คาร์ลอส นอร์แมน แฮธค็อกซ์ ที่ 2 (Carlos Norman Hathcock II)
      
(http://image.ohozaa.com/i/b26/JP0qia.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvel)

แฮธค็อกซ์ เกิดวันที่ 20 พ.ค.2485 ถึงแก่กรรม 1 เม.ย.2542 เคยเป็นนักยิงปืนล่ารางวัลและได้รับหลากหลายรางวัลก่อนจะอาสาไปเวียดนาม ซึ่งพลทหารคนนี้สามารถ “ล้ม” ข้าศึกได้ 93 คนเท่าที่ยืนยันได้ และ ยังมีเป้าหมายที่ไม่สามารถยืนยันการเสียชีวิตได้อีกนับร้อย
      
       มีเรื่องเล่ากันต่อๆ มาว่า กองทัพเวียดนามเหนือตั้งค่าหัวแฮธค็อกซ์ถึง 30,000 ดอลลาร์ หลังจากสังหารกำลังพลของฝ่ายนั้นไปมากมาย รวมทั้งระดับรองแม่ทัพคนหนึ่ง
      
       แฮธค็อกซ์ เป็นสไนเปอร์เพียงคนเดียวในสงครามเวียดนาม ที่ “สอย” นักซุ่มของฝ่ายข้าศึกคนหนึ่งโดยยิงทะลุกล้องติดปืน ซึ่งมีเพียงโอกาสเดียวที่จะเกิดขึ้นได้ คือ ทั้งสองฝ่ายเล็งปืนเข้าหากันในเวลาเดียวกัน แฮธค็อกซ์ ลั่นไกก่อนและมันพุ่งทะลุเข้าลูกตาอย่างแม่นยำ
      
       เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นขณะที่หมวดนาวิกโยธินที่แฮธค็อกซ์สังกัด กำลังลาดตระเวน สไนเปอร์ของเวียดนามเหนือเปิดฉากยิงจากระยะไกลแต่พลาด พลทหารโรแลนด์ เบิร์ค (Roland Burke) พลชี้เป้ามองเห็นแสงสะท้อนจากเลนส์กล้องติดปืน แฮธค็อกซ์เล็งไปที่นั่นทันทีทันใด และสร้างตำนานให้สไนเปอร์รุ่นหลังเล่าขาน
      
       ครั้งหนึ่งเขาได้รับคำสั่งให้ “เก็บ” นายพลเวียดนามเหนือคนสำคัญ แฮธค็อกซ์ปฏิบัติการเวลากลางคืน พรางตัวและคลานเป็นระยะทาง 1,500 หลาเข้าพื้นที่เป้าหมาย ช่วงหนึ่งเขาเกือบถูกงูเห่าฉก และอีกครั้งหนึ่งเกือบจะถูกทหารเดินยามเวียดนามเหนือคนหนึ่งเหยียบ
      
       แฮธค็อกซ์ คลานถึงจุดซุ่ม เมื่อเป้าหมายไปถึงเขาก็พร้อมอยู่แล้วและเหนี่ยวไกทันที ท่านนายพลโดนเข้ากลางอกล้มลง ทหารฝ่ายนั้นออกค้นหาสไนเปอร์จ้าละหวั่น พลทหารนักแม่นปืนต้องคลานกลับอีก 1,500 หลา ให้พ้นพื้นที่ข้าศึก

และนี่คือ สุดยอดสไนเปอร์ในช่วงสงครามเวียดนาม ซึ่งทะยานขึ้นอันดับ 2 ในสังเวียนระดับโลก
      
3.เอเดลเบิร์ต เอฟ วัลดรอน (Adelbert F Waldron)

(http://image.ohozaa.com/i/23b/rKGAHy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lveo)

เกิดวันที่ 14 มี.ค.2476 ถึงแก่กรรม 18 ต.ค.2535 “เก็บ” ฝ่ายเวียดนามเหนือได้ 109 คน แต่ได้รับการยกย่องเป็นนักแม่นปืนที่แม่นยำที่สุดและมือดีที่สุดคนหนึ่งของนาวิกฯ สหรัฐฯ
      
       พ.อ.ไมเคิล ลี แลนนิง (Michael Lee Lanning) นายทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนาม ได้บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ว่า บ่ายวันหนึ่งขณะหมวดลาดตระเวนกำลังแล่นเรือไปตามลำน้ำโขง มีข้าศึกยิงจากฝั่งในระยะไกลโดนเข้าลำเรือ และขณะที่คนอื่นๆ ตื่นตระหนกหาที่หลบซ่อน จ่าวัลดรอนมองเห็น เขายกปืนขึ้นเล็งและสอยเวียดกงนักซุ่มลงจากต้นมะพร้าวที่อยู่ห่างออกไปราว 900 หลา
      
       มือวางอันดับ 2 ในสงครามเวียดนามและอันดับ 3 ในระดับโลก ได้รับการยกย่องในความมีสติ กับความแม่นยำยิ่ง ในเหตุการณ์ดังกล่าว เขาประทับไหล่ยิงขณะที่เรือยังคงแล่นไปข้างหน้า ซึ่งยากมากที่จะ "สอย" เป้าหมายที่อยู่ไกลขนาดนั้น
      
4. ฟรานซิส พีกะมากาโบว์
(Francis Pegahmagabow)


(http://image.ohozaa.com/i/356/d0XCpj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7m2bp)


       เกิด 1 มี.ค.2431 ถึงแก่กรรม 5 ส.ค.2495 เป็นพลทหารชาวแคนาดา เป็นสไนเปอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 1 มีประวัติสังหารทหารเยอรมันถึง 378 คน จับได้อีก 300 คนเศษ ยังมีชื่อเสียงในฐานะนักสะกดรอยและสอดแนมในพื้นที่ยึดครองของข้าศึก
       .
       5.ลูดมิลา ปาฟลิเชนโก (Lyudmila Pavlichenko)

(http://image.ohozaa.com/i/3a8/yRUMEY.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvev)

 เกิด 12 ก.ค.2459 ถึงแก่กรรม 10 ต.ค.2517 สมัครเข้าเป็นทหารเดือน มิ.ย.2484 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะกองทัพนาซีบุกสหภาพโซเวียต เธอเป็นหนึ่งในนักแม่นปืนหญิงราว 2,000 คนของกองทัพแดง ปฏิบัติการในเซวาสโตโปล (Sevastopol) คาบสมุทรไครเมีย ในทะเลดำ
      
       “นักฆ่าหน้าหวาน” มีประวัติสังหารนาซี 309 คน ในนั้น 36 คนเป็นสไนเปอร์เช่นเดียวกับเธอ

6.วาสสิลี เซ้ตซอฟ (Vassili Zaytsev)

(http://image.ohozaa.com/i/298/MAp7fF.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvq6)

เกิด 23 มี.ค.2458 ถึงแก่กรรม 15 ธ.ค.2544 ดูจะเป็นสไนเปอร์ที่โลกรู้จักมากที่สุด ผ่านภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ ฌ็อง-ฌากส์ อานโนด์ (Jean-Jaques Annaud) สร้างและกำกับ จูด ลอว์ (Jude Law) ประชันบทกับ ริชาร์ด ไฟนส์ (Richard Fiennes) เอ็ด แฮร์ริส (Ed Harris) กับ เรเชล ไวส์ (Rachel Weisz)
      
       เกิดในครอบครัวชาวนา เซ้ตซอฟเข้าเป็นทหารกองทัพแดงของอดีตสหภาพโซเวียต เขาสังหารนาซีได้ 242 คน ระหว่างเดือน ต.ค.2485 ถึง ม.ค.2486 ที่กองทัพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ยึดครองนครสตาลินกราด (Stalingrad) เรื่องราวอันแท้จริงของเขาไม่มีรายละเอียดมากนัก เพียงแต่ว่าเขาสามารถสังหารเออร์วิน โคนิก (Erwin Kónig) สุดยอด "มือปราบสไนเปอร์" ของนาซีได้ และได้ปืนของคู่ต่อสู้เป็นรางวัลเกียรติยศ เนื่องจากเป็นของคนที่เป็นยอดฝีมือเช่นเดียวกันกับตัวเขา
       .
7.ร็อบ เฟอร์ลอง (Rob Furlong)

(http://image.ohozaa.com/i/bdc/zlAHC4.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvf0)

โรเบิร์ต เฟอร์ลอง  
  
 
       เป็นอดีตพลทหารกองทัพแคนาดา ปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน เป็นสไนเปอร์ที่ยิงสังหารได้จากระยะไกลที่สุดเท่าที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ คือ 1.51 ไมล์ หรือ 2,430 เมตร
      
       ร็อบยิงด้วยปืน TAC 50 ขนาด .50 มม.ของแม็คมิลลันบราเดอร์ส (McMillan Brothers) และ ยิงด้วยกระสุน A-MAX เป้าหมายเป็นผู้นำระดับปฏิบัติการคนสำคัญของกลุ่มอัลกออิดะห์ นัดแรกของเขาพลาดเป้า นัดที่สองโดนเป้สะพายหลัง
      
       ตอนกระสุนนัดที่ 2 โดนนั้น ร็อบได้เหนี่ยวไกยิงนัดที่ 3 ออกไปแล้ว แต่ก็เป็นช่วงที่อีกฝ่ายหนึ่งรู้ตัวว่าถูกลอบยิง ระยะทางขนาดนั้นกระสุนแต่ละนัดใช้เวลาราว 3 วินาที แหวกอากาศสู่เป้าหมาย ซึ่งนานพอที่อีกฝ่ายหนึ่งจะรู้ตัวว่าโดนซุ่มและหลบหาที่กำบัง
      
       แต่นักฆ่าชาวแคนาดามีสติมั่นคง เพียง 3 วินาทีก็มากพอที่จะยิงซ้ำนัดที่ 3 ซึ่งพุ่งเข้าทะลุหน้าอกของเป้าหมายทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมสังหารอีก 3 คน
      
 “นี่คือ พลแม่นปืนที่ดีที่สุดของเราคนหนึ่ง” พ.อ.แลนนิง เขียนเอาไว้ในหนังสือ “Inside the Crosshairs: Snipers in Vietnam”
      
 8. ชาร์ลส์ “ชัค” มอวินนีย์ (Charles ‘Chuck’ Mawhinney)
      
(http://image.ohozaa.com/i/5cf/b5yzPi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7lvep)

เกิดปี พ.ศ.2492 เกิดในครอบครัวชาวนาแห่งทุ่งแพรรี่ ล่าสัตว์มาตั้งแต่ยังเล็ก สมัครเข้ารับใช้ชาติในปี 2510 และ เพียง 16 เดือนในเวียดนาม พลทหารมอวินนีย์ ซัดข้าศึกด่าวดิ้นต่อหน้า 103 คน อีก 216 คน โดน “ส่อง” และอาจถึงแก่ชีวิต ในช่วงปีดังกล่าวเป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะค้นหาศพเพื่อยืนยัน
      
       เมื่อปลดประจำการจากกองกำลังนาวิกโยธิน “ชัค” ไม่ปริปากเรื่องเวียดนามกับใคร มีเพื่อนนาวิกฯ เพียงไม่กี่คนที่รู้ จนอีก 20 ปีต่อมาหนึ่งในคนเหล่านั้นจึงเปิดเผยเรื่องราวอันน่าทึ่งของเขาออกมาให้โลกรู้จัก ซึ่งขณะนั้นมอวินนีย์เป็นครูสอนวิชายิงปืนที่สถาบันแห่งหนึ่ง
      
       “มันเป็นการล่าที่สุดยอด- คนๆ หนึ่งออกล่าอีกคนหนึ่งที่กำลังตามล่าตัวเขาเช่นเดียวกัน อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับการล่าสิงโตล่าช้างอย่างเด็ดขาด- สัตว์พวกนั้นไม่ได้มีโอกาสต่อสู้ ไม่ได้ยิงโต้ตอบคุณด้วยไรเฟิ้ลติดกล้อง ผมรักการล่า (ในเวียดนาม) อย่างจับใจ และรู้สึกพอแล้ว” เพื่อนนาวิกฯ ที่เขียนเรื่องราวของเขา อ้างคำพูดอันเป็นวรรคทองของมอวินนีย์
      
       ระยะซุ่มยิงของมอวินนีย์จะอยู่ระหว่าง 300-800 หลา แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาสอยข้าศึกร่วงจากระยะกว่า 1,000 หลา ซึ่งทำให้มอวินนีย์เป็นเทพสไนเปอร์อันดับ 3 ในสงครามเวียดนาม และนี่คือมือวางอันดับ 8 ของโลก
  
      
       9.“จ่าเกรซ” (Sgt Grace)

(http://image.ohozaa.com/i/280/4sHivl.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7m2c0)
      

       ทหารราบพลปืนสังกัดกองพันทหารราบจอร์เจียที่ 4 ของฝ่ายสหพันธรัฐ ในช่วงสงครามกองทัพกับอังกฤษ เป็นผู้สังหารนายพล จอห์น เซ็ดจ์วิค (Gen John Sedgwick) ของฝ่ายข้าศึกจากระยะ 1,000 หลา
      
       จ่าเกรซ ยิงพลาดนัดแรกทำให้ทหารอังกฤษวิ่งหาที่กำบัง แต่นายพลเซ็ดจ์วิค ยังอยู่ที่เดิม และ ยังดุผู้ใต้บังคับบัญชาว่าตกใจกลัวเกินเหตุ ทั้งๆ ที่สไนเปอร์ยิงจากระยะไกลขนาดนั้น ท่านนายพลดุทหารซ้ำอีกครั้งว่า “ระยะขนาดนั้นยิงช้างยังไม่โดนเลย”
      
       แต่กระสุนนัดที่ 2 ของจ่าเกรซเจาะทะลุเข้าที่บริเวณใต้ตาข้างขวาของนายพลเซ็ดจ์วิค ซึ่งกลายเป็นผู้เสียชีวิตระดับสูงที่สุดของฝ่ายอังกฤษในสงครามแย่งดินแดนอาณานิคมในอเมริกาเหนือ
      
       และเรื่องที่ขำไม่ออก ก็คือ จ่าเกรซซุ่มยิงด้วยไรเฟิ้ลยี่ห้อวิธเวิร์ธ (Whitworth) ที่ผลิตในอังกฤษ
      
10.โทมัส พลันเกตต์ (Thomas Plunkett)

(http://image.ohozaa.com/i/3aa/gXRXcq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7m2c7)
      
       พลทหารชาวไอริชสังกัดกองทัพอังกฤษประจำการในแคนาดา เป็นผู้ยิงสังหารนายพลออกุสเต-มารี-ฟรังซัว โกลแบร์ต (Auguste-Marie-François Colbert) จากระยะไกล 600 เมตร ด้วยไรเฟิ้ลยี่ห้อเบเคอร์ (Baker)
      
       พลันเกตต์ ไม่ได้ฟลุก เขายิงพลแตรของฝ่ายฝรั่งเศสอีกคนหนึ่ง ที่เข้าไปช่วยเหลือท่านนายพลขณะใกล้จะสิ้นลม ถือเป็นผลงานสุดยอดด้วยไรเฟิ้ลในศตวรรษที่ 19
      
       ไม่มีรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับพลทหารยอดฝีมือจากไอร์แลนด์ ทราบแต่ว่าเสียชีวิตในปี พ.ศ.2394

ที่มา http://ids-clan.webs.com/articles.htm

 http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000005903


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 22, 2012, 10:42:24 PM
Amazing ;D ;D ;D เรื่องราวแต่ละคนตื่นเต้นสุดๆแน่ตอนทำงาน


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: เขรางค์-รักในหลวง ที่ มกราคม 22, 2012, 10:52:53 PM
 ::002::

+ ให้ท่านเจ้าของกระทู้ครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ มกราคม 22, 2012, 11:22:54 PM
+1 ชอบแนวผมเลย นิ่ง รอ หนึ่งนัดหนึ่งชีวิต


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ มกราคม 22, 2012, 11:35:26 PM
+21 ขอบคุณครับ ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ มกราคม 22, 2012, 11:36:51 PM
  ::002::  .. ขอบคุณครับ  ;)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: วรกฤษ ที่ มกราคม 22, 2012, 11:58:17 PM
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 23, 2012, 08:20:25 AM
มีหนังสือแปลอยู่เล่มชื่อ one shot one kill ได้พูดถึงนักเม่นปืนคนหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ เขาบรรยายถึงสถานที่แห่งหยึ่ง นั่นคือ "ทุ่งสังหาร" ในหนังสือบรรยาย

ใว้ว่า พลซุ่มยิงได้เจอหน่วยทหารเวียตกง 1 กองร้อย กลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง ต้องใช้เวลาถึง 3 วันเก็บหน่วยทหารนั้นได้หมด โดยไม่เหลือรอดไปได้สัก

คน ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มกราคม 23, 2012, 08:25:14 AM
มีหนังสือแปลอยู่เล่มชื่อ one shot one kill ได้พูดถึงนักเม่นปืนคนหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ เขาบรรยายถึงสถานที่แห่งหยึ่ง นั่นคือ "ทุ่งสังหาร" ในหนังสือบรรยาย

ใว้ว่า พลซุ่มยิงได้เจอหน่วยทหารเวียตกง 1 กองร้อย กลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง ต้องใช้เวลาถึง 3 วันเก็บหน่วยทหารนั้นได้หมด โดยไม่เหลือรอดไปได้สัก

คน ::002::



รอดไป ๑ คนครับ พลซุ่มยิงนั้นคือ คาร์ลอส แฮธค็อกซ์ ครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 23, 2012, 08:29:28 AM
อ้าวมีรอดหรือครับ อ่านนานแล้ว ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มกราคม 23, 2012, 08:33:39 AM
อ้าวมีรอดหรือครับ อ่านนานแล้ว ::005::


เขาไปกับเพื่อน ๒ คน แล้วมีทหารใหม่เดินตัดทุ่งนามาแถวเรียงหนึ่ง เลยดักยิงหัวยิงท้าย ยิงทั้งวันทั้งคืนครับชนิดใครโผล่จากคันนาสัก ๑ คืบก็จะโดนยิงครับ เดี๋ยวผมไปหาหนังสือมาเล่าให้ฟังครับ แต่ต้องรอนะครับ เพราะผมชอบขุดกระทู้ครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2012, 11:28:18 AM
 ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ มกราคม 24, 2012, 01:39:58 PM
ในสมรภูมิล่าสุดน่าจะมีผู้หมู่ของกองทัพบกอังกฤษท่านหนึ่ง(ยศสิบโทหรือสิบเอกนี้แหละ จำไม่ได้ต้องไปค้นในแทงโกก่อน)ที่แกสอยตาลีบัน2คน ถือเป็นระยะสถิติโลกไกลสุดประมาณ2กิโลเมตรกว่าๆในอัฟกานีสถาน จำไม่ได้ว่าใช่กระสุนขนาดกระสุน .50 BMGหรือเปล่า เห็นว่ากระสุนขนาดนี้มีระยะยิงหวังผลได้ไกลถึง 1,800 เมตร แต่ก็มีระยะยิงไกลสุดทำได้ถึง 5,575 เมตร
http://world.guns.ru/sniper/large-caliber-sniper-rifles/usa/mcmillan-tac-50-e.html  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: OOPUGOO ที่ มกราคม 24, 2012, 02:41:11 PM
ในสมรภูมิล่าสุดน่าจะมีผู้หมู่ของกองทัพบกอังกฤษท่านหนึ่ง(ยศสิบโทหรือสิบเอกนี้แหละ จำไม่ได้ต้องไปค้นในแทงโกก่อน)ที่แกสอยตาลีบัน2คน ถือเป็นระยะสถิติโลกไกลสุดประมาณ2กิโลเมตรกว่าๆในอัฟกานีสถาน จำไม่ได้ว่าใช่กระสุนขนาดกระสุน .50 BMGหรือเปล่า เห็นว่ากระสุนขนาดนี้มีระยะยิงหวังผลได้ไกลถึง 1,800 เมตร แต่ก็มีระยะยิงไกลสุดทำได้ถึง 5,575 เมตร
http://world.guns.ru/sniper/large-caliber-sniper-rifles/usa/mcmillan-tac-50-e.html  ;D

อ้าว...ท่านพญาฯไม่ได้อ่านที่ จขกท. โพสหรอกหรือท่าน.....อันดับ 7 น่ะ กล่าวถึงอยู่  น่าจะอันเดียวกันนา :D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ มกราคม 24, 2012, 03:58:27 PM
ขอบคุณครับ   ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 24, 2012, 07:12:17 PM
น่าสนใจมากครับ+


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: SIERRA1. ที่ มกราคม 24, 2012, 07:18:36 PM
ขอบคุณครับที่หาข้อมูลมาให้อ่าน ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 24, 2012, 09:25:41 PM
กำลังงงว่า ร็อบ เฟอร์ลอง ติดอันดับ แต่ทำไม เคร็ก แฮริสันไม่ติดน่ะครับ

คนนี้เป็นคนทำลายสถิติของเฟอร์ลอง โดยใช้ปืน L115A3 ใช้กระสุน .338 Lapua Magnum LockBase B408


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ มกราคม 24, 2012, 11:02:26 PM
กำลังงงว่า ร็อบ เฟอร์ลอง ติดอันดับ แต่ทำไม เคร็ก แฮริสันไม่ติดน่ะครับ

คนนี้เป็นคนทำลายสถิติของเฟอร์ลอง โดยใช้ปืน L115A3 ใช้กระสุน .338 Lapua Magnum LockBase B408
น่าจะจัดสถิติขึ้นก่อน หรือข้อมูลยังไม่อัพเดตนะ ขอบคุณมากครับ

ภาพ L115A1 (Accuracy International AWM - .338 Laupa Magnum )
 ปืนยาวประจำการ ขนาด .338 ลาปัวแม็กนั่ม กับกล้อง ชมิดม์แอนด์แบนเดอร์ Schmidt & Bender 5-25x56 PM II LP

(http://image.ohozaa.com/i/7de/54ALku.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7rp4g)


สถิติการยิงระยะไกลล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อ สต. เครก แฮริสสัน Craig Harrison กรมวังจากกองทหารม้ารักษาพระองค์ (Household cavalry) โดยใช้ปืนยาว L115A3 ยิงพลปืนกล 2 นาย ที่เข้าโจมตีหน่วยของเขาที่ระยะยิง 2760 หลา ( 1.54 ไมล์, 2.47 กิโลเมตร หรือ 2470 เมตร)
 (กระสุน .338LM (8.59 มม.) ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 วินาที จากปืนไปยังเป้าหมาย) เมื่อ xx เดือน พย. 2552 ที่ผ่านมา
 
 เหตุเกิดขึ้นเมื่อหน่วยของเขาออกลาดตระเวณบริเวณพื้นที่ Musa Qala ในตอนใต้ของอากัฟนิสถาน และถูกซุ่มโจมตีจากกองกำลังติดอาวุธของตอลีบันห์
 หน่วยลาดตระเวณซึ่งประกอบด้วยกองกำลังท้องถิ่น ถูกซุ่มโจมตีด้วยปืนกลหนัก,
 สต. เครก แฮริสสัน อยู่บนรถลาดตระเวณแจ็กกัล 4x4 ที่อยู่ท้ายขบวนก็เริ่มตรวจการณ์ประเมินสถานการณ์ทันที
 ผม (เครก แฮริสสัน) เริ่้มตรวจหาหน่วยที่เข้าโจมตีเราจากกล้องติดปืน L115A3 ที่พาดอยู่กับราวปืน
 พลทหาร คลิฟ โอ'ฟารเรล  (Trooper Cliff O’Farrell) - พลขับรถ ทำหน้าที่ชี้ และ บอกข้อมูลเป้าและสภาพแวดล้อมให้ผม เพราะเป้าหมายอยู่ไกลนอกระยะยิงมาก
 (L115A1 มีระยะยิงมาตรฐาน 1640 หลา ซึ่งตามตำราแล้ว ทำได้แค่ยิงรบกวนเท่านั้นเอง)
 
 "เราตรวจพบฝ่ายซุ่มโจมตี 2 นาย คนนึงใส่หมวกคลุมชุดดำ และ อีกคนใส่ผ้าคลุมสีเขียว วิ่งผ่านหน้าบริเวณสนามพร้อมกับปืนกล PKM จัดจุดยิง แล้วเริ่มยิงกดดันใส่รถของ ผบ.หน่วย
 สภาพแวดล้อมขณะนั้นดีมาก ท้องฟ้าโปร่งใส แทบไม่มีลม, ทัศนวิสัยชัดเจน ผมลงจากรถ วางขาตั้งปืนพาดบนกำแพงดินที่อยู่ใกล้ๆ เล็งไปที่พลยิงที่กำลังยิงปืนกล"
 
 สต. เครก แฮริสสัน ยิงไป 3 นัด - นัดแรกสำหรับ พลยิง (ตาย),  นัดที่สอง สำหรับ พลช่วยยิง (ตาย) และนัดสุดท้าย นัดที่สาม ยิงทำลาย ปืนกล PKM กระบอกนั้น
 
 หลังจากสลายการซุ่มโจมตี เมื่อทำการพิสูจน์ทราบ พบว่า เป้าหมายแรกถูกยิงที่ท้องตายทันที ,
 เป้าหมายที่สอง กำลังพยายามจะถอนตัวออกจากจุดยิง ถูกยิงที่ข้างลำตัว ตายทันที และนัดสุดท้ายสำหรับปืนกล PKM ถูกยิงทำลายหมดสภาพด้วยเช่นกัน
 
 เมื่อทำการวัดด้วยเครื่อง GPS วัดระยะยิงได้ที่  8,120 ฟุต (2760 หลา หรือ 1.54 ไมล์, 2.47 กิโลเมตร หรือ 2470 เมตร)
 ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้จาก พลแม่นปืนชาวคานาดา สิบตรี ร้อบ เฟอร์ลอง LC. Rob Furlong ที่ทำไว้ที่ 7,972 ฟุต (2650 หลา, 1.43 ไมล์ หรือ 2280 เมตร)
 ด้วยปืนแม็กมิลแลน McMillan TAC-50 ขนาด .50 หรือ 12.7 มม. เมื่อเดือนมีนาคม 2002
 
 เมื่อถามว่าทำได้อย่างไร สต. เครกตอบว่า "คงเป็นโชคร้ายของฝ่ายตอลีบันห์ เพราะสภาพแวดล้อมดีมาก เราเห็นพวกเค้าได้ชัดเจน"
 ( 3 นัด = 2 คน + 1 ปืนกลเบา นี่คงโชดช่วยมั้งเนี่ย)
 
 แต่การเป็นพลแม่นปืนก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เมื่อต่อมา รถลาดตระวณของเค้าถูกยิง 36 ครั้ง จากการซุ่มโจมตี
 และ สต.เครก ถูกยิงที่ศรีษะแต่รอดมาได้ เพราะกระสุนทะลุหมวกเคฟล่าร์ ที่บริเวณ หลังใบหูขวาแต่แฉลบจากกระโหลกศรีษะออกไปด้านบน อีกสองนัดทะลุตัดสายโยงบ่าที่หน้าอก
 และ ต่อมาแขนหักทั้งสองข้างจากการโดนระเบิดที่ถูกฝังไว้ข้างทาง
 
 "มันไม่ได้มีผลกระทบกับการเป็นพลแม่นยิงของผม" เค้าบอกสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปทำงาน หลังจากที่เข้าเฝือกอยู่ 6 สัปดาห์
 
 ที่มา:  http://fws.cc/linkout.php?http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/afghanistan/article7113916.ece


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: chatphisit ที่ มกราคม 25, 2012, 08:15:17 AM
 ::002:: ขอบคุณที่หามาเล่าสู่กันฟังครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ มกราคม 25, 2012, 09:14:31 AM
ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: pola2000 ที่ มกราคม 25, 2012, 09:14:59 AM
ขอบคุณครับ +1ให้ ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ธนัท รักในหลวง ที่ มกราคม 25, 2012, 09:35:21 AM
เยี่ยมไปเลยครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 25, 2012, 10:21:34 AM
ยังมี คริส ไคล์ อีกคนครับ หมอนี่อยู่ในยุคปัจจุบัน เป็นอดีตพลซุ่มยิงใน ซีลทีม 3

เครดิตอยู่ที่ 255 ศพ ครับ จนฝ่ายอิรักตั้งฉายาว่า Al-Shaitan Ramad (ปิศาจแห่งรามาลดี) และมีค่าหัว 20000 $

(http://images-kitup.military.com/wp-content/uploads/2011/12/Kit-Up-Chris-Kyle-Iraq.bmp)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มกราคม 31, 2012, 06:18:30 PM
อย่าลืมอีกท่านนึงสิครับ สมเด็จพระนเรศวร(พระองดำ)ของปวงชนชาวไทยไงครับ ยิงข้ามแม่น้ำสโตง(พม่า)  ::002::

แต่เป็นประวัติสาสตร์ที่ถูกมองข้ามไปครับ(ในความเห็นส่วนตัวผมนะครับ)  ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มกราคม 31, 2012, 06:22:30 PM
กำลังงงว่า ร็อบ เฟอร์ลอง ติดอันดับ แต่ทำไม เคร็ก แฮริสันไม่ติดน่ะครับ

คนนี้เป็นคนทำลายสถิติของเฟอร์ลอง โดยใช้ปืน L115A3 ใช้กระสุน .338 Lapua Magnum LockBase B408
น่าจะจัดสถิติขึ้นก่อน หรือข้อมูลยังไม่อัพเดตนะ ขอบคุณมากครับ

ภาพ L115A1 (Accuracy International AWM - .338 Laupa Magnum )
 ปืนยาวประจำการ ขนาด .338 ลาปัวแม็กนั่ม กับกล้อง ชมิดม์แอนด์แบนเดอร์ Schmidt & Bender 5-25x56 PM II LP

(http://image.ohozaa.com/i/7de/54ALku.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7rp4g)


สถิติการยิงระยะไกลล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อ สต. เครก แฮริสสัน Craig Harrison กรมวังจากกองทหารม้ารักษาพระองค์ (Household cavalry) โดยใช้ปืนยาว L115A3 ยิงพลปืนกล 2 นาย ที่เข้าโจมตีหน่วยของเขาที่ระยะยิง 2760 หลา ( 1.54 ไมล์, 2.47 กิโลเมตร หรือ 2470 เมตร)
 (กระสุน .338LM (8.59 มม.) ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 วินาที จากปืนไปยังเป้าหมาย) เมื่อ xx เดือน พย. 2552 ที่ผ่านมา
 
 เหตุเกิดขึ้นเมื่อหน่วยของเขาออกลาดตระเวณบริเวณพื้นที่ Musa Qala ในตอนใต้ของอากัฟนิสถาน และถูกซุ่มโจมตีจากกองกำลังติดอาวุธของตอลีบันห์
 หน่วยลาดตระเวณซึ่งประกอบด้วยกองกำลังท้องถิ่น ถูกซุ่มโจมตีด้วยปืนกลหนัก,
 สต. เครก แฮริสสัน อยู่บนรถลาดตระเวณแจ็กกัล 4x4 ที่อยู่ท้ายขบวนก็เริ่มตรวจการณ์ประเมินสถานการณ์ทันที
 ผม (เครก แฮริสสัน) เริ่้มตรวจหาหน่วยที่เข้าโจมตีเราจากกล้องติดปืน L115A3 ที่พาดอยู่กับราวปืน
 พลทหาร คลิฟ โอ'ฟารเรล  (Trooper Cliff O’Farrell) - พลขับรถ ทำหน้าที่ชี้ และ บอกข้อมูลเป้าและสภาพแวดล้อมให้ผม เพราะเป้าหมายอยู่ไกลนอกระยะยิงมาก
 (L115A1 มีระยะยิงมาตรฐาน 1640 หลา ซึ่งตามตำราแล้ว ทำได้แค่ยิงรบกวนเท่านั้นเอง)
 
 "เราตรวจพบฝ่ายซุ่มโจมตี 2 นาย คนนึงใส่หมวกคลุมชุดดำ และ อีกคนใส่ผ้าคลุมสีเขียว วิ่งผ่านหน้าบริเวณสนามพร้อมกับปืนกล PKM จัดจุดยิง แล้วเริ่มยิงกดดันใส่รถของ ผบ.หน่วย
 สภาพแวดล้อมขณะนั้นดีมาก ท้องฟ้าโปร่งใส แทบไม่มีลม, ทัศนวิสัยชัดเจน ผมลงจากรถ วางขาตั้งปืนพาดบนกำแพงดินที่อยู่ใกล้ๆ เล็งไปที่พลยิงที่กำลังยิงปืนกล"
 
 สต. เครก แฮริสสัน ยิงไป 3 นัด - นัดแรกสำหรับ พลยิง (ตาย),  นัดที่สอง สำหรับ พลช่วยยิง (ตาย) และนัดสุดท้าย นัดที่สาม ยิงทำลาย ปืนกล PKM กระบอกนั้น
 
 หลังจากสลายการซุ่มโจมตี เมื่อทำการพิสูจน์ทราบ พบว่า เป้าหมายแรกถูกยิงที่ท้องตายทันที ,
 เป้าหมายที่สอง กำลังพยายามจะถอนตัวออกจากจุดยิง ถูกยิงที่ข้างลำตัว ตายทันที และนัดสุดท้ายสำหรับปืนกล PKM ถูกยิงทำลายหมดสภาพด้วยเช่นกัน
 
 เมื่อทำการวัดด้วยเครื่อง GPS วัดระยะยิงได้ที่  8,120 ฟุต (2760 หลา หรือ 1.54 ไมล์, 2.47 กิโลเมตร หรือ 2470 เมตร)
 ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้จาก พลแม่นปืนชาวคานาดา สิบตรี ร้อบ เฟอร์ลอง LC. Rob Furlong ที่ทำไว้ที่ 7,972 ฟุต (2650 หลา, 1.43 ไมล์ หรือ 2280 เมตร)
 ด้วยปืนแม็กมิลแลน McMillan TAC-50 ขนาด .50 หรือ 12.7 มม. เมื่อเดือนมีนาคม 2002
 
 เมื่อถามว่าทำได้อย่างไร สต. เครกตอบว่า "คงเป็นโชคร้ายของฝ่ายตอลีบันห์ เพราะสภาพแวดล้อมดีมาก เราเห็นพวกเค้าได้ชัดเจน"
 ( 3 นัด = 2 คน + 1 ปืนกลเบา นี่คงโชดช่วยมั้งเนี่ย)
 
 แต่การเป็นพลแม่นปืนก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เมื่อต่อมา รถลาดตระวณของเค้าถูกยิง 36 ครั้ง จากการซุ่มโจมตี
 และ สต.เครก ถูกยิงที่ศรีษะแต่รอดมาได้ เพราะกระสุนทะลุหมวกเคฟล่าร์ ที่บริเวณ หลังใบหูขวาแต่แฉลบจากกระโหลกศรีษะออกไปด้านบน อีกสองนัดทะลุตัดสายโยงบ่าที่หน้าอก
 และ ต่อมาแขนหักทั้งสองข้างจากการโดนระเบิดที่ถูกฝังไว้ข้างทาง
 
 "มันไม่ได้มีผลกระทบกับการเป็นพลแม่นยิงของผม" เค้าบอกสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปทำงาน หลังจากที่เข้าเฝือกอยู่ 6 สัปดาห์
 
 ที่มา:  http://fws.cc/linkout.php?http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/afghanistan/article7113916.ece







อิ อิ อิ ทีมชุมไพรก็ใช้อยู่ครับ ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มกราคม 31, 2012, 06:25:32 PM
มีหนังสือแปลอยู่เล่มชื่อ one shot one kill ได้พูดถึงนักเม่นปืนคนหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ เขาบรรยายถึงสถานที่แห่งหยึ่ง นั่นคือ "ทุ่งสังหาร" ในหนังสือบรรยาย

ใว้ว่า พลซุ่มยิงได้เจอหน่วยทหารเวียตกง 1 กองร้อย กลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง ต้องใช้เวลาถึง 3 วันเก็บหน่วยทหารนั้นได้หมด โดยไม่เหลือรอดไปได้สัก

คน ::002::







คาลอส แฮทค๊อก ครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มกราคม 31, 2012, 06:27:05 PM
มีหนังสือแปลอยู่เล่มชื่อ one shot one kill ได้พูดถึงนักเม่นปืนคนหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ เขาบรรยายถึงสถานที่แห่งหยึ่ง นั่นคือ "ทุ่งสังหาร" ในหนังสือบรรยาย

ใว้ว่า พลซุ่มยิงได้เจอหน่วยทหารเวียตกง 1 กองร้อย กลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง ต้องใช้เวลาถึง 3 วันเก็บหน่วยทหารนั้นได้หมด โดยไม่เหลือรอดไปได้สัก

คน ::002::






คาลอส  แฮทค๊อก ฟันธง!!!


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 31, 2012, 06:29:45 PM
                            นึกว่าน้าหนุ่มหายไปไหน  ..............  ที่แท้ก็หนีมาเป็น sniper  อยู่นี่เอง   ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มกราคม 31, 2012, 06:33:13 PM
                            นึกว่าน้าหนุ่มหายไปไหน  ..............  ที่แท้ก็หนีมาเป็น sniper  อยู่นี่เอง   ::005::





มาบอกทีมงานว่า อย่าลืมพระองค์ดำของปวงชนชาวไทยครับ ::014:: ::014:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ มกราคม 31, 2012, 07:57:00 PM
 ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง

(http://image.ohozaa.com/i/3e9/4wNBk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39no5)

        พระแสงอัษฎาวุธ เป็นอาวุธของพระเป็นเจ้า (ตรี จักร ธนู) บ้างเป็นพระแสงอันเกี่ยวเนื่องทางประวัติศาสตร์ (พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง) บ้าง และอื่น ๆ อีกบ้าง
        ปีพศ.๒๑๒๖ พระเจ้าอังวะคิดแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรงได้ สั่งให้ประเทศราช (เมืองแปร ตองอู เชียงใหม่ ลาว และกรุงศรีฯ)ยกทัพไปปราบ สมเด็จพระนเรศวรทรงรอโอกาสที่จะแข็งเมืองอยู่เช่นกัน จึงทรงเดินทัพช้าๆเพื่อรอ ฟังผลการรบ ถ้าทางหงสาวดีชนะก็จะทรงกวาดต้อนคนไทยกลับกรุงศรีอยุธยา แต่ถ้าทางหงสาวดีแพ้ก็จะทรงยกทัพไปตีซ้ำ แต่ว่าทางหงสาวดีก็ไม่ไว้ใจสมเด็จพระนเรศวรอยู่แล้วจึงคิดจะกำจัด โดยสั่งให้พระยาเกียรติและพระยารามซึ่งเป็นมอญไปรับเสด็จพระนเรศวรที่เมืองแครง รอตีขนาบหลังจากที่ทัพพระมหาอุปราชเข้าโจมตี
        ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรทำให้พระยาเกียรติและพระยารามนำความ เข้ามาปรึกษามหาเถรคันฉ่องพระอาจารย์ พระมหาเถรคันฉ่องจึงนำเรื่องกราบทูล สมเด็จพระนเรศวรและเล่าความจริงทั้งหมดที่ทางหงสาวดีคิดไม่ซื่อ สมเด็จพระนเรศวรทรงเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง นิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องพร้อมด้วยพระยาทั้งสองเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน แล้วทรงเล่าเรื่องที่พระเจ้านันทบุเรงคิดไม่ซื่อจะหลอกฆ่าพระองค์
        เวลาในการประกาศอิสรภาพได้มาถึงแล้ว สมเด็จพระนเรศวรทรงหลั่งน้ำลงเหนือแผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร(น้ำเต้าทอง) ทรงประกาศแก่เทพยดาต่อหน้าที่ประชุมว่า " ตั้งแต่วันนี้ กรุงศรีอยุธยาขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรต่อกันดังแต่ก่อนสืบไป " พระราชพิธีนี้เกิดขึ้นในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๑๒๗ ณ.เมืองแครง จากนั้นพระองค์ ทรงมีดำรัสถามชาวมอญที่อยู่ในเมืองแครงว่าจะอยู่ข้างไทยหรือพม่า ส่วนมากจะอยู่ข้างไทยแล้วทรงรับสั่งให้จัดทัพเพื่อไปตีเมืองหงสาวดี

(http://image.ohozaa.com/i/0e8/E93nO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nma)

        สมเด็จพระนเรศวรทรงยกกองทัพข้ามแม่น้ำสะโตง จวนจะถึงหงสาวดีก็ทราบข่าวว่าพระเจ้าหงสาวดีรบชนะพระเจ้า อังวะ และกำลังยกทัพกลับกรุงหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรทรงคิดพิจารณาแล้วว่า การจะตีหงสาวดีครั้งนี้คงไม่สำเร็จ จึงให้ทหารเที่ยวไปกระจายข่าวบอกชาวไทยที่ถูกพม่ากวาดต้อนมาให้เดินทาง กลับเมืองไทยได้จำนวนหมื่นเศษ สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ชาวบ้านข้ามแม่น้ำ สะโตงไปจนหมด แล้วพระองค์ทรงอยู่คุมกองหลังข้ามแม่น้ำสะโตงเป็นชุดสุดท้าย(แสดงถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญมาก) ขณะนั้นพระมหาอุปราช(มังสามเกียด)ได้จัดทัพติดตามมาให้สุรกรรมาเป็นกองหน้า แล้วมาทันกันที่แม่น้ำสะโตงซึ่งมีความกว้างประมาณ ๔๐๐ เมตร ทางพม่าก็ยิงปืนข้ามมาแต่ไม่ถูก สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่บนคอช้างริมแม่น้ำทรงประทับพระแสงปืนยาว ๙ คืบหรือ ๒ เมตร ๒๕ เซ็นติเมตร (แล้วทรงอธิฐานถ้าการ กู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก) ทรงยิงไปถูกสุรกรรมาตายอยู่บนคอช้าง ทำให้พม่าเกรงกลัวและถอยทัพกลับไป พระแสงปืนต้นนี้มีนามว่า “ พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง ” หลังจากนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา

(http://image.ohozaa.com/i/766/mVgMy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nme)

        พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฎต่อมาว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" นับเป็น พระแสงอัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้
พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง
            ในวันแรม ๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก ตรงกับ พ.ศ. ๒๑๒๗ ทรงนำทัพจากเมืองแครง ข้ามแม่น้ำสะโตง เพื่อนำพาครัวสยามที่พม่ากวาดต้อนมาครั้งสงครามสมเด็จพระศรีสุริโยทัย สิ้นพระชนม์บนหลังช้างกลับกรุงศรีอยุธยาด้วย.
ยุทธการที่แม่น้ำสะโตง

(http://image.ohozaa.com/i/0ed/YsPnr.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nmq)

            ต่างต่อสู้เป็นสามารถ สมเด็จพระนเรศวรได้โอกาสทรงพระแสงปืนนกสับถูกพระสุระกัมมา แม่ทัพหน้าของหงสาวดีตายอยู่บนคอช้าง เหล่าไพร่พลเมื่อเห็นแม่ทัพของตนตายต่างก็หวั่นวิตก พากันถอยทัพหนีกลับไปทูลพระมหาอุปราช แม่ทัพหลวงที่ยกติดตามมา ฝ่ายพระมหาอุปราชเมื่อทราบว่า สมเด็จพระนเรศวรยกทัพพ้นแผ่นดินพม่าแล้วก็ยกทัพกลับหงสาวดี.
      อนึ่งเรื่องราวที่ กองทัพพระมหาอุปราช ติดตามสมเด็จพระนเรศวรนั้น ความในพงศาวดารพม่ากล่าวต่างไปว่า " พระมหาอุปราชตามทัพสมเด็จพระนเรศวรจนถึงกรุงศรีอยุธยา และได้สู้รบกันที่ทุ่งลุมพลี และว่า สมเด็จพระนเรศวรตีทัพพระมหาอุปราชแตกพ่ายไป ข้าพเจ้าเห็นว่า ความจริงเป็นอย่างที่พงศาวดารไทย ด้วยมีหลักฐานมั่นคง

(http://image.ohozaa.com/i/d9f/BjXwk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nna)

        อนึ่งพระแสงปืนที่สมเด็จพระนเรศวรยิ่งพระสุระกัมมาตาย พระแสงปืนกระบอกนั้น ได้รับขนานนามว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" ข้าพเจ้าบอกเจ้าแห้วกับเจ้าแกร่งว่า จะร่ายยาวหน่อย เพราะจะรีบเดินทางไปสุพรรณบุรี สมเด็จพระนเรศวร ครั้นเดินทัพกลับถึงอยุธยาแล้ว ด้วยความที่พระองค์ทรงความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ได้ทรงสถาปนาพระมหาเถรคันฉ่องเป็นพระราชาคณะ และทรงแต่งตั้งพระยาเกียรติ์พระยาพระรามเป็นขุนนางผู้ใหญ่ พระราชทานพานทองเป็นเครื่องยศ และพระราชทานที่อยู่อาศัย บริเวณวัดขมิ้นและวัดขุนแสน ใกล้กับวังจันทน์ พระราชตำหนัก, กรุงศรีอยุธยา.
ฝ่ายหงสาวดี ต่างเร่งระดมกำลัง เพื่อยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีก ( รวมแล้วหงสาวดียกทัพตีอยุธยาก่อนสมเด็จนเรศวรประกาศไม่ขึ้นต่อหงสาวดี ๓ ครั้ง)
      ส่วนสมเด็จพระนเรศวรทรงตระหนักอยู่เสมอว่า "หงสาวดีจะต้องยกทัพมาเบียดเบียนอยุธยาแน่นอน จึงได้ทรงตระเตรียมเสบียงอาหารพร้อมสรรพาวุธยุทโธปกรณ์ ไพร่พล เพื่อต่อต้านทัพหงสาวดี สุดพระปรีชาสามารถ การณ์ทั้งปวงเป็นไปอย่างที่พระองค์ดำริ. พระเจ้าหงสาวดียกทัพตีกรุงศรีอยุธยาหลังสมเด็จพระนเรศวรประกาศตัดไมตรีกับหงสาวดีอีก ๔ ครั้ง
...เมื่อปี พ.ศ. 2126 พระเจ้าอังวะคิดแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดี
พระเจ้านันทบุเรงได้ สั่งให้ประเทศราช เมืองแปร ตองอู เชียงใหม่ ลาว และกรุงศรีฯ ยกทัพไปปราบ
สมเด็จพระนเรศวรทรงรอโอกาสที่จะแข็งเมืองอยู่เช่นกัน
จึงทรงเดินทัพช้า ๆ เพื่อรอฟังผลการรบ...ถ้าทางหงสาวดีชนะก็จะทรงกวาดต้อนคนไทยกลับกรุงศรีอยุธยา

แต่ถ้าทางหงสาวดีแพ้ก็จะทรงยกทัพไปตีซ้ำ
แต่ว่าทางหงสาวดีก็ไม่ไว้ใจสมเด็จพระนเรศวรอยู่แล้ว   จึงคิดจะกำจัด
โดยสั่งให้พระยาเกียรติและพระยารามซึ่งเป็นมอญ  ไปรับเสด็จพระนเรศวรที่เมืองแครง รอตีขนาบ

หลังจาก ... ที่ทัพพระมหาอุปราชเข้าโจมตี
ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรทำให้พระยาเกียรติและพระยาราม  นำความเข้ามาปรึกษามหาเถรคันฉ่องพระอาจารย์
พระมหาเถรคันฉ่องจึงนำเรื่องกราบทูล สมเด็จพระนเรศวรและเล่าความจริงทั้งหมดที่ทางหงสาวดีคิดไม่ซื่อ

สมเด็จพระนเรศวรทรงเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง
นิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องพร้อมด้วยพระยาทั้งสองเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน
แล้วทรงเล่าเรื่องที่พระเจ้านันทบุเรงคิดไม่ซื่อจะหลอกฆ่าพระองค์
เวลาในการประกาศอิสรภาพได้มาถึงแล้ว
สมเด็จพระนเรศวรทรงหลั่งน้ำลงเหนือแผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคารน้ำเต้าทอง

ทรงประกาศ ... แก่เทพยดาต่อหน้าที่ประชุมว่า
ตั้งแต่วันนี้ กรุงศรีอยุธยาขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรต่อกันดังแต่ก่อนสืบไป

พระราชพิธีนี้เกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคม 2127  ณ เมืองแครง
จากนั้นพระองค์ ทรงมีดำรัสถามชาวมอญที่อยู่ในเมืองแครงว่า  จะอยู่ข้างไทยหรือพม่า
ส่วนมากจะอยู่ข้างไทยแล้วทรงรับสั่งให้จัดทัพเพื่อไปตีเมืองหงสาวดี

สมเด็จพระนเรศวร ... ทรงยกกองทัพข้ามแม่น้ำสะโตง
จวนจะถึงหงสาวดี  ก็ทราบข่าวว่าพระเจ้าหงสาวดีรบชนะพระเจ้าอังวะ
และกำลังยกทัพกลับกรุงหงสาวดี

สมเด็จพระนเรศวรทรงคิดพิจารณาแล้วว่า
การจะตีหงสาวดีครั้งนี้คงไม่สำเร็จ
จึงให้ทหารเที่ยวไปกระจายข่าวบอกชาวไทยที่ถูกพม่ากวาดต้อนมา
ให้เดินทางกลับเมืองไทยได้จำนวนหมื่นเศษ

สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ชาวบ้านข้ามแม่น้ำสะโตงไปจนหมด
แล้วพระองค์ทรงอยู่คุมกองหลังข้ามแม่น้ำสะโตงเป็นชุดสุดท้าย 
แสดงถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญมาก

(http://image.ohozaa.com/i/3f4/r9JCH.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39no2)

ขณะนั้นพระมหาอุปราชมังสามเกียด ได้จัดทัพติดตามมาให้สุรกรรมาเป็นกองหน้า
แล้วมาทันกันที่แม่น้ำสะโตงซึ่งมีความกว้างประมาณ 400 เมตร
ทางพม่าก็ยิงปืนข้ามมาแต่ไม่ถูก

สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่บนคอช้างริมแม่น้ำ
ทรงประทับพระแสงปืนยาว 9 คืบหรือ 2 เมตร 25 เซ็นติเมตร
แล้วทรงอธิฐานว่า  ถ้าการกู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก
ทรงยิงไปถูกสุรกรรมาตายอยู่บนคอช้าง ทำให้พม่าเกรงกลัวและถอยทัพกลับไป...


(http://image.ohozaa.com/i/014/ElDn8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nne)


พระแสงปืนต้นนี้ ... มีนามว่า พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง
หลังจากนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
พร้อมด้วยพระมหาเถรคันฉ่องและพระยาเกียรติ พระยาราม และชาวมอญ
โดยเดินทัพผ่านหัวเมืองมอญแล้วเข้าด่านเจดีย์สามองค์มาจนถึงกรุงศรีอยุธยา
ทรงปูนบำเหน็จให้กับพระยามอญทั้งสอง
และทรงแต่งตั้งพระมหาเถรคันฉ่องเป็นพระสังฆราชอีกด้วย

สมเด็จพระนเรศวร ... ทรงราชสมภพที่เมืองพิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2098
เป็นราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตรี
ทรงมีพระพี่นางสุพรรณกัลยาณี และพระอนุชาสมเด็จพระเอกาทศรถ

(http://image.ohozaa.com/i/369/x36Aj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nnl)

อิสรภาพที่ลุ่มน้ำสะโตง  

“สมเด็จพระนรายเป็นเจ้าเสวยราชสมบัติ ณ เมืองพิศณุโลก รู้ข่าวมาว่าพระเจ้าหงษากับพระเจ้าอางวะผิดกัน ครั้งนั้นเสด็จไปช่วยการศึกพระเจ้าหงษา...แล้วจึงยกทัพหลวงเสด็จไปถึงเมืองแครง แล้วจึงทัพหลวงเสด็จกลับคืนมาพระนคร”--พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ

ปี ๒๑๒๗ หลังหงสาวดีผลัดแผ่นดินไม่นาน อังวะซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศราชของหงสาวดีเช่นเดียวกับอยุธยาก็แข็งเมือง กษัตริย์พระองค์ใหม่คือพระเจ้านันทบุเรงต้องทรงยกทัพไปปราบ พร้อมกันนั้นก็มีพระบัญชาให้ประเทศราชต่าง ๆ รวมถึงอยุธยายกทัพไปช่วยราชการศึก ครั้งนั้น พระนเรศวรทรงยกทัพไปแทนสมเด็จพระมหาธรรมราชา และทรงยั้งทัพไว้ที่เมืองแครง

ถึงตรงนี้ หลายคนคงนึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย นั่นคือการ “ประกาศอิสรภาพ” ตัดความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับหงสาวดี ของพระนเรศวร

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า พงศาวดารไทยที่บันทึกขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้กับเหตุการณ์ที่สุด คือ พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ ๑ ศตวรรษหลังจากเหตุการณ์ มิได้กล่าวถึงเรื่องนี้ แต่หลักฐานชั้นรองคือ คำให้การขุนหลวงหาวัด และ พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ซึ่งชำระขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น กลับกล่าวถึงการประกาศอิสรภาพครั้งนี้ หันไปดูหลักฐานฝั่งพม่าบ้าง มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า (Hmannan Mahayazawindawgyi) ก็มิได้ระบุถึงเหตุการณ์นี้เช่นกัน เพียงแต่ให้ข้อมูลว่าทัพอยุธยาซึ่งไปช่วยราชการศึกนั้น “หาตามเสด็จไปช่วยทางกรุงอังวะไม่...ตรงมาทางกรุงหงษาวดี” หลังจากนั้นก็ “ตีกรุงหงษาวดี” ด้วยซ้ำ

นี่คือ “ช่องว่าง” ของประวัติศาสตร์ เพราะหลักฐานของไทยกับพม่าบันทึกถึงเรื่องนี้ไว้ต่างกัน ไทยว่าพระนเรศวรทรงล่วงรู้ถึงอุบายของพระเจ้านันทบุเรงจึงทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ขณะที่ฝ่ายพม่าบันทึกว่าพระนเรศวรทรงตั้งใจยกไปตีหงสาวดีอยู่แล้ว

ทว่าสิ่งที่หลักฐานทุกชิ้นระบุตรงกันก็คือ หลังจากพระองค์เสด็จกลับจากยกทัพคราวนี้ อยุธยาก็ต้องรับศึกหงสาวดีติดต่อกันนานนับสิบปี

อย่างไรก็ตาม หากเราลองมาพิจารณาความหมายของคำว่า “อิสรภาพ” ยุคนั้นกันอีกที เราอาจจะมองประวัติศาสตร์ช่วงนี้ได้ชัดเจนขึ้น

จาก พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ซึ่งเป็นพงศาวดารที่มีลักษณะเน้นกฤษฎาภินิหารสูง ผมพบความหมายของ “อิสรภาพ” ซึ่งต่างจาก “อิสรภาพ” ในความหมายที่เราเข้าใจกัน นั่นคือ “การเป็นราชาธิราชเหนือราชาอื่น” ปรากฏอยู่ในตอนที่กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งพระเจ้านันทบุเรงทรงวางแผนจัดการพระนเรศวร ความว่า

“(ให้) จับเอาตัวพระนเรศวรประหารชีวิตเสียให้จงได้ เมืองหงสาวดีจึงจะเป็นอิสรภาพไพศาลกว่าพระนครทั้งปวง”

สำหรับผม ประโยคข้างต้นสะท้อนถึงโลกทัศน์เกี่ยวกับอิสรภาพของคนยุคนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าหงสาวดีต่างหากที่กำลังพยายามรักษา “อิสรภาพ” นั้นไว้

บ่ายวันหนึ่งในเดือนตุลาคม ๒๕๔๙, เมืองวอ สหภาพพม่า

ผมยืนอยู่ที่ลานเจดีย์โจงตู (Jondthu Zedi) เจดีย์แฝดกลางทุ่งนาซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองวอออกมาทางตะวันออกราว ๔ กิโลเมตร ยืนพิจารณาพื้นที่ราบซึ่งเต็มไปด้วยนาข้าวที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตารอบ ๆ เจดีย์

หลายปีก่อน ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ และ ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล มาพบที่นี่ขณะสำรวจพื้นที่ปากน้ำสะโตงซึ่งพงศาวดารพม่ายุคพระเจ้าอลองพญาระบุว่าเป็นเส้นทางเดินทัพไปตีกรุงศรีอยุธยา โดยระบุระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางระหว่างเมืองอย่างชัดเจนว่า ๑ วันจากหงสาวดีจะถึงเมืองโครง (Krun) ๒ วันจะถึงแม่น้ำสะโตง ทั้งยังพบว่าที่นี่เคยเป็นเขตอิทธิพลของมอญมาก่อนที่พม่าจะเข้ามาครอบครองกรุงหงสาวดี

อาจารย์สุเนตรอธิบายว่า เมือง “วอ” ในภาษาพม่า เดิมชื่อเมือง “โจงตู” ซึ่งก็คือเมือง “โครง” ในภาษามอญนั่นเอง ซึ่งฟังดูใกล้เคียงกับเมือง “แครง” หรือ “แกรง” ที่พงศาวดารไทยระบุว่าเป็นพื้นที่ที่สมเด็จพระนเรศวรทรง “ประกาศอิสรภาพ” ระหว่างยกทัพมาช่วยราชการศึกพระเจ้านันทบุเรง

นอกจากชื่อเมืองแล้ว เมื่อคำนวณจากระยะทาง ดร. สุเนตรก็พบว่าที่นี่อยู่ห่างจากหงสาวดีด้วยการเดินเท้า ๑ วันตามที่ระบุในพงศาวดาร อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังปรากฏร่องรอยเมืองโบราณ ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำเก่า ซากประติมากรรมโบราณ ฯลฯ ซึ่งแสดงว่าที่นี่น่าจะเคยเป็นหัวเมืองสำคัญมาก่อน

จากภาพถ่ายดาวเทียม จะแลเห็นว่าเจดีย์แฝดโจงตูอยู่ตรง “กึ่งกลาง” เส้นทางระหว่างหงสาวดีกับสะพานข้ามแม่น้ำสะโตงพอดี ปัจจุบันถือเป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน หรือพระเจดีย์ไจ้โถ่ (Kyaikhto Zedi) ในเขตรัฐมอญ ซึ่งถ้าพิจารณาจากหลักภูมิศาสตร์ นี่ก็คือเส้นทางเดินทัพโบราณนั่นเอง เพราะเมืองโครงหรือเมืองวออยู่บนเส้นทางบังคับที่หงสาวดีต้องใช้ในการเดินทัพไปตีอยุธยา ด้วยถ้าใช้เส้นทางอื่น เช่น ออกจากหงสาวดีค่อนไปทางเหนือ ก็จะเจอหุบเขาพะโคโยมากั้น หรือถ้าออกจากหงสาวดีค่อนไปทางใต้ ก็จะเจอที่ราบลุ่มปากแม่น้ำสะโตงซึ่งมีสภาพเป็นโคลนกั้น

“ลองต่อภาพประวัติศาสตร์ สมมุติเราเชื่อพงศาวดารไทยที่ว่าพระนเรศวรยั้งทัพอยู่เมืองแครง แล้วพระเจ้านันทบุเรงส่งพระยาเกียรติ พระยาราม ซึ่งวางแผนมาลวงให้พระองค์ยกทัพเข้าสู่กับดัก สองคนนี้ออกจากหงสาวดี ๑ วันก็ถึงเมืองแครง ทูลเปิดเผยเรื่องราวแล้ว พระนเรศวรก็ทรงประกาศอิสรภาพ จากนั้นถอยทัพอีก ๑ วันก็ถึงแม่น้ำสะโตง” อาจารย์สุเนตรอธิบาย

ดังนั้นที่ใดที่หนึ่งรอบ ๆ ตัวผมขณะนี้ นอกจากจะเป็นที่พักทัพแล้ว ยังอาจเป็นพื้นที่ประกาศอิสรภาพด้วยก็เป็นได้--ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง

พระสงฆ์ซึ่งดูแลเจดีย์โจงตูเล่าให้ผมฟังว่า เจดีย์แฝดแห่งนี้มีอายุอย่างน้อย ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว (แน่นอนว่าช่วงหนึ่งร่วมสมัยกับยุคที่สมเด็จพระนเรศวรทำศึกกับหงสาวดี) ชาวบ้านเชื่อว่าในเจดีย์บรรจุพระพุทธรูปโบราณและอัญมณีมีค่าเอาไว้

จากเจดีย์โจงตู ผมนั่งรถไปตามถนนหมายเลข ๓ (เส้นทางสู่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของพม่า) อีกราว ๒ ชั่วโมงก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำสะโตง (Sittong Thata) ซึ่งรัฐบาลทหารพม่าวางกำลังดูแลอย่างเข้มงวด เนื่องด้วยฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเป็นพื้นที่รัฐมอญซึ่งบางแห่งมีการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อย

ข้ามแม่น้ำแล้วไปตามถนนสายเดิมอีกราว ๒๐ นาที ผมก็พบหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมน้ำและเจดีย์องค์หนึ่งซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ร่มครึ้ม ไกด์ท้องถิ่นบอกผมว่าที่นี่คือ หมู่บ้านสะโตง (Sittong Yaw) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์สะโตง (Sittong Pya) ที่ริมน้ำ สะพานทางรถไฟเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งเหลือแต่ตอม่อตั้งตระหง่านอยู่คู่กับสะพานคอนกรีตที่ก่อสร้างขึ้นใหม่อย่างเร่งรีบเพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวสู่พระธาตุอินทร์แขวน

ที่นี่เองที่ท่านมุ้ยและ ดร. สุเนตร สันนิษฐานว่าพระนเรศวรทรงถอยทัพมาจากเมืองแครงแล้วข้ามแม่น้ำสะโตงส่วนที่แคบที่สุดซึ่งกว้างราว ๖๒๐ เมตร เพื่อกลับสู่อยุธยา ด้วยเป็นเส้นทางเดินทัพเก่า รอบ ๆ มีร่องรอยเมืองโบราณที่บ่งบอกว่าเคยเป็นหัวเมืองสำคัญ และที่สำคัญคือ เป็นจุดที่แคบที่สุดของลำน้ำสะโตงก่อนไหลออกสู่อ่าวเมาะตะมะ

พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา เล่าว่า พระนเรศวรทรงให้บรรดาผู้คนที่กวาดต้อนมาข้ามน้ำไปก่อน “แต่พระองค์กับทหารลำลองหมื่นห้าพันนั้นยังรออยู่ริมฝั่ง ตรัสให้ทหารเอาปืนหามแล่นและนกสับคาบชุดระดมยิงไป ทหารก็ยิงระดมไปเป็นอันมากมิได้ถึง จึงสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าก็ทรงพระแสงปืนนกสับยาวเก้าคืบ ยิงไปต้องสุรกำมาตายตกจากคอช้าง รี้พลมอญทั้งนั้นเห็นอัศจรรย์ ด้วยแม่น้ำนั้นกว้างเหลือกำลังปืน”

เหตุการณ์อันเป็นที่มาของ “พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง” นี้ มีคำถามอยู่มากในหมู่ผู้ศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ ด้วยข้อความดังกล่าวปรากฏในพงศาวดารฉบับนี้ฉบับเดียว หลักฐานชั้นรองอื่น ๆ มิได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

จึงมีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อยและน่าสงสัยว่าเป็นการต่อเติมขึ้นในสมัยหลังหรือไม่

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาพระนเรศวรก็ทรงเดินทัพกลับสู่พิษณุโลกได้สำเร็จ


พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง
" มีเหตุอันควรให้สงสัยในขณะที่ตามรอยสมเด็จพระนเรศวรว่า พระแสงปืนที่มีความยาว  9 คืบนั้น ยิงข้ามแม่น้ำสะโตงที่กว้างกว่า  600 เมตร ได้อย่างไร "

        เมืองสะโตง อยู่ห่างจากกรุงหงสาวดี หรือ เมืองพะโคในปัจจุบัน       กม.  มีแม่น้ำสะโตงอันกว้างใหญ่    เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนนกสับยาวเก้าคืบ (เกือบๆ2เมตร) ยิงสุกรรมาตายบนคอช้าง  ทั้งๆที่อยู่ห่างกันกว่า 600 เมตร  อาจเป็นเพราะปืนมีความยาว  เพียงพอ แต่เหตุใดจึงยิงได้แม่นยำเช่นนั้น  หรือเป็นเพราะบุญญาธิการขององค์สมเด็จพระนเรศวร  ที่สามารถทำได้   อย่างไรก็ตามการสืบรอยของกองถ่ายภาพยนตร์ โดยท่านมุ้ย  ก็ได้สร้างปืนนกสับยาวเก้าคืบ  ขึ้นมาทดสอบโดยกรมสรรพาวุธ ทหารบก พบว่าสามารถยิงได้จริงๆ 600 เมตร แต่ความแม่นยำ ยังมิสามารถทำได้

(http://image.ohozaa.com/i/67e/aaeUR.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39np7)

(http://image.ohozaa.com/i/9e8/7JnB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nov)

(http://image.ohozaa.com/i/94b/JwIQZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39non)

(http://image.ohozaa.com/i/0c1/U3oAN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nod)

(http://image.ohozaa.com/i/6ed/rASBh.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nof)

(http://image.ohozaa.com/i/91f/YplXj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nok)



หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Nero Angel01 ที่ มกราคม 31, 2012, 09:54:29 PM
กำลังงงว่า ร็อบ เฟอร์ลอง ติดอันดับ แต่ทำไม เคร็ก แฮริสันไม่ติดน่ะครับ

คนนี้เป็นคนทำลายสถิติของเฟอร์ลอง โดยใช้ปืน L115A3 ใช้กระสุน .338 Lapua Magnum LockBase B408
น่าจะจัดสถิติขึ้นก่อน หรือข้อมูลยังไม่อัพเดตนะ ขอบคุณมากครับ

ภาพ L115A1 (Accuracy International AWM - .338 Laupa Magnum )
 ปืนยาวประจำการ ขนาด .338 ลาปัวแม็กนั่ม กับกล้อง ชมิดม์แอนด์แบนเดอร์ Schmidt & Bender 5-25x56 PM II LP

(http://image.ohozaa.com/i/7de/54ALku.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7rp4g)


สถิติการยิงระยะไกลล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อ สต. เครก แฮริสสัน Craig Harrison กรมวังจากกองทหารม้ารักษาพระองค์ (Household cavalry) โดยใช้ปืนยาว L115A3 ยิงพลปืนกล 2 นาย ที่เข้าโจมตีหน่วยของเขาที่ระยะยิง 2760 หลา ( 1.54 ไมล์, 2.47 กิโลเมตร หรือ 2470 เมตร)
 (กระสุน .338LM (8.59 มม.) ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 วินาที จากปืนไปยังเป้าหมาย) เมื่อ xx เดือน พย. 2552 ที่ผ่านมา
 
 เหตุเกิดขึ้นเมื่อหน่วยของเขาออกลาดตระเวณบริเวณพื้นที่ Musa Qala ในตอนใต้ของอากัฟนิสถาน และถูกซุ่มโจมตีจากกองกำลังติดอาวุธของตอลีบันห์
 หน่วยลาดตระเวณซึ่งประกอบด้วยกองกำลังท้องถิ่น ถูกซุ่มโจมตีด้วยปืนกลหนัก,
 สต. เครก แฮริสสัน อยู่บนรถลาดตระเวณแจ็กกัล 4x4 ที่อยู่ท้ายขบวนก็เริ่มตรวจการณ์ประเมินสถานการณ์ทันที
 ผม (เครก แฮริสสัน) เริ่้มตรวจหาหน่วยที่เข้าโจมตีเราจากกล้องติดปืน L115A3 ที่พาดอยู่กับราวปืน
 พลทหาร คลิฟ โอ'ฟารเรล  (Trooper Cliff O’Farrell) - พลขับรถ ทำหน้าที่ชี้ และ บอกข้อมูลเป้าและสภาพแวดล้อมให้ผม เพราะเป้าหมายอยู่ไกลนอกระยะยิงมาก
 (L115A1 มีระยะยิงมาตรฐาน 1640 หลา ซึ่งตามตำราแล้ว ทำได้แค่ยิงรบกวนเท่านั้นเอง)
 
 "เราตรวจพบฝ่ายซุ่มโจมตี 2 นาย คนนึงใส่หมวกคลุมชุดดำ และ อีกคนใส่ผ้าคลุมสีเขียว วิ่งผ่านหน้าบริเวณสนามพร้อมกับปืนกล PKM จัดจุดยิง แล้วเริ่มยิงกดดันใส่รถของ ผบ.หน่วย
 สภาพแวดล้อมขณะนั้นดีมาก ท้องฟ้าโปร่งใส แทบไม่มีลม, ทัศนวิสัยชัดเจน ผมลงจากรถ วางขาตั้งปืนพาดบนกำแพงดินที่อยู่ใกล้ๆ เล็งไปที่พลยิงที่กำลังยิงปืนกล"
 
 สต. เครก แฮริสสัน ยิงไป 3 นัด - นัดแรกสำหรับ พลยิง (ตาย),  นัดที่สอง สำหรับ พลช่วยยิง (ตาย) และนัดสุดท้าย นัดที่สาม ยิงทำลาย ปืนกล PKM กระบอกนั้น
 
 หลังจากสลายการซุ่มโจมตี เมื่อทำการพิสูจน์ทราบ พบว่า เป้าหมายแรกถูกยิงที่ท้องตายทันที ,
 เป้าหมายที่สอง กำลังพยายามจะถอนตัวออกจากจุดยิง ถูกยิงที่ข้างลำตัว ตายทันที และนัดสุดท้ายสำหรับปืนกล PKM ถูกยิงทำลายหมดสภาพด้วยเช่นกัน
 
 เมื่อทำการวัดด้วยเครื่อง GPS วัดระยะยิงได้ที่  8,120 ฟุต (2760 หลา หรือ 1.54 ไมล์, 2.47 กิโลเมตร หรือ 2470 เมตร)
 ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้จาก พลแม่นปืนชาวคานาดา สิบตรี ร้อบ เฟอร์ลอง LC. Rob Furlong ที่ทำไว้ที่ 7,972 ฟุต (2650 หลา, 1.43 ไมล์ หรือ 2280 เมตร)
 ด้วยปืนแม็กมิลแลน McMillan TAC-50 ขนาด .50 หรือ 12.7 มม. เมื่อเดือนมีนาคม 2002
 
 เมื่อถามว่าทำได้อย่างไร สต. เครกตอบว่า "คงเป็นโชคร้ายของฝ่ายตอลีบันห์ เพราะสภาพแวดล้อมดีมาก เราเห็นพวกเค้าได้ชัดเจน"
 ( 3 นัด = 2 คน + 1 ปืนกลเบา นี่คงโชดช่วยมั้งเนี่ย)
 
 แต่การเป็นพลแม่นปืนก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เมื่อต่อมา รถลาดตระวณของเค้าถูกยิง 36 ครั้ง จากการซุ่มโจมตี
 และ สต.เครก ถูกยิงที่ศรีษะแต่รอดมาได้ เพราะกระสุนทะลุหมวกเคฟล่าร์ ที่บริเวณ หลังใบหูขวาแต่แฉลบจากกระโหลกศรีษะออกไปด้านบน อีกสองนัดทะลุตัดสายโยงบ่าที่หน้าอก
 และ ต่อมาแขนหักทั้งสองข้างจากการโดนระเบิดที่ถูกฝังไว้ข้างทาง
 
 "มันไม่ได้มีผลกระทบกับการเป็นพลแม่นยิงของผม" เค้าบอกสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปทำงาน หลังจากที่เข้าเฝือกอยู่ 6 สัปดาห์
 
 ที่มา:  http://fws.cc/linkout.php?http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/afghanistan/article7113916.ece


อ่านใน อวป.ปีก่อนบอกว่าทั้งหมด9นัด ยังไงแน่ครับ3นัดหรือ9นัดชักงง


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:35:01 AM
::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง

(http://image.ohozaa.com/i/3e9/4wNBk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39no5)

        พระแสงอัษฎาวุธ เป็นอาวุธของพระเป็นเจ้า (ตรี จักร ธนู) บ้างเป็นพระแสงอันเกี่ยวเนื่องทางประวัติศาสตร์ (พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง) บ้าง และอื่น ๆ อีกบ้าง
        ปีพศ.๒๑๒๖ พระเจ้าอังวะคิดแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรงได้ สั่งให้ประเทศราช (เมืองแปร ตองอู เชียงใหม่ ลาว และกรุงศรีฯ)ยกทัพไปปราบ สมเด็จพระนเรศวรทรงรอโอกาสที่จะแข็งเมืองอยู่เช่นกัน จึงทรงเดินทัพช้าๆเพื่อรอ ฟังผลการรบ ถ้าทางหงสาวดีชนะก็จะทรงกวาดต้อนคนไทยกลับกรุงศรีอยุธยา แต่ถ้าทางหงสาวดีแพ้ก็จะทรงยกทัพไปตีซ้ำ แต่ว่าทางหงสาวดีก็ไม่ไว้ใจสมเด็จพระนเรศวรอยู่แล้วจึงคิดจะกำจัด โดยสั่งให้พระยาเกียรติและพระยารามซึ่งเป็นมอญไปรับเสด็จพระนเรศวรที่เมืองแครง รอตีขนาบหลังจากที่ทัพพระมหาอุปราชเข้าโจมตี
        ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรทำให้พระยาเกียรติและพระยารามนำความ เข้ามาปรึกษามหาเถรคันฉ่องพระอาจารย์ พระมหาเถรคันฉ่องจึงนำเรื่องกราบทูล สมเด็จพระนเรศวรและเล่าความจริงทั้งหมดที่ทางหงสาวดีคิดไม่ซื่อ สมเด็จพระนเรศวรทรงเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง นิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องพร้อมด้วยพระยาทั้งสองเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน แล้วทรงเล่าเรื่องที่พระเจ้านันทบุเรงคิดไม่ซื่อจะหลอกฆ่าพระองค์
        เวลาในการประกาศอิสรภาพได้มาถึงแล้ว สมเด็จพระนเรศวรทรงหลั่งน้ำลงเหนือแผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร(น้ำเต้าทอง) ทรงประกาศแก่เทพยดาต่อหน้าที่ประชุมว่า " ตั้งแต่วันนี้ กรุงศรีอยุธยาขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรต่อกันดังแต่ก่อนสืบไป " พระราชพิธีนี้เกิดขึ้นในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๑๒๗ ณ.เมืองแครง จากนั้นพระองค์ ทรงมีดำรัสถามชาวมอญที่อยู่ในเมืองแครงว่าจะอยู่ข้างไทยหรือพม่า ส่วนมากจะอยู่ข้างไทยแล้วทรงรับสั่งให้จัดทัพเพื่อไปตีเมืองหงสาวดี

(http://image.ohozaa.com/i/0e8/E93nO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nma)

        สมเด็จพระนเรศวรทรงยกกองทัพข้ามแม่น้ำสะโตง จวนจะถึงหงสาวดีก็ทราบข่าวว่าพระเจ้าหงสาวดีรบชนะพระเจ้า อังวะ และกำลังยกทัพกลับกรุงหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรทรงคิดพิจารณาแล้วว่า การจะตีหงสาวดีครั้งนี้คงไม่สำเร็จ จึงให้ทหารเที่ยวไปกระจายข่าวบอกชาวไทยที่ถูกพม่ากวาดต้อนมาให้เดินทาง กลับเมืองไทยได้จำนวนหมื่นเศษ สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ชาวบ้านข้ามแม่น้ำ สะโตงไปจนหมด แล้วพระองค์ทรงอยู่คุมกองหลังข้ามแม่น้ำสะโตงเป็นชุดสุดท้าย(แสดงถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญมาก) ขณะนั้นพระมหาอุปราช(มังสามเกียด)ได้จัดทัพติดตามมาให้สุรกรรมาเป็นกองหน้า แล้วมาทันกันที่แม่น้ำสะโตงซึ่งมีความกว้างประมาณ ๔๐๐ เมตร ทางพม่าก็ยิงปืนข้ามมาแต่ไม่ถูก สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่บนคอช้างริมแม่น้ำทรงประทับพระแสงปืนยาว ๙ คืบหรือ ๒ เมตร ๒๕ เซ็นติเมตร (แล้วทรงอธิฐานถ้าการ กู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก) ทรงยิงไปถูกสุรกรรมาตายอยู่บนคอช้าง ทำให้พม่าเกรงกลัวและถอยทัพกลับไป พระแสงปืนต้นนี้มีนามว่า “ พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง ” หลังจากนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา

(http://image.ohozaa.com/i/766/mVgMy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nme)

        พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฎต่อมาว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" นับเป็น พระแสงอัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้
พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง
            ในวันแรม ๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก ตรงกับ พ.ศ. ๒๑๒๗ ทรงนำทัพจากเมืองแครง ข้ามแม่น้ำสะโตง เพื่อนำพาครัวสยามที่พม่ากวาดต้อนมาครั้งสงครามสมเด็จพระศรีสุริโยทัย สิ้นพระชนม์บนหลังช้างกลับกรุงศรีอยุธยาด้วย.
ยุทธการที่แม่น้ำสะโตง

(http://image.ohozaa.com/i/0ed/YsPnr.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nmq)

            ต่างต่อสู้เป็นสามารถ สมเด็จพระนเรศวรได้โอกาสทรงพระแสงปืนนกสับถูกพระสุระกัมมา แม่ทัพหน้าของหงสาวดีตายอยู่บนคอช้าง เหล่าไพร่พลเมื่อเห็นแม่ทัพของตนตายต่างก็หวั่นวิตก พากันถอยทัพหนีกลับไปทูลพระมหาอุปราช แม่ทัพหลวงที่ยกติดตามมา ฝ่ายพระมหาอุปราชเมื่อทราบว่า สมเด็จพระนเรศวรยกทัพพ้นแผ่นดินพม่าแล้วก็ยกทัพกลับหงสาวดี.
      อนึ่งเรื่องราวที่ กองทัพพระมหาอุปราช ติดตามสมเด็จพระนเรศวรนั้น ความในพงศาวดารพม่ากล่าวต่างไปว่า " พระมหาอุปราชตามทัพสมเด็จพระนเรศวรจนถึงกรุงศรีอยุธยา และได้สู้รบกันที่ทุ่งลุมพลี และว่า สมเด็จพระนเรศวรตีทัพพระมหาอุปราชแตกพ่ายไป ข้าพเจ้าเห็นว่า ความจริงเป็นอย่างที่พงศาวดารไทย ด้วยมีหลักฐานมั่นคง

(http://image.ohozaa.com/i/d9f/BjXwk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nna)

        อนึ่งพระแสงปืนที่สมเด็จพระนเรศวรยิ่งพระสุระกัมมาตาย พระแสงปืนกระบอกนั้น ได้รับขนานนามว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" ข้าพเจ้าบอกเจ้าแห้วกับเจ้าแกร่งว่า จะร่ายยาวหน่อย เพราะจะรีบเดินทางไปสุพรรณบุรี สมเด็จพระนเรศวร ครั้นเดินทัพกลับถึงอยุธยาแล้ว ด้วยความที่พระองค์ทรงความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ได้ทรงสถาปนาพระมหาเถรคันฉ่องเป็นพระราชาคณะ และทรงแต่งตั้งพระยาเกียรติ์พระยาพระรามเป็นขุนนางผู้ใหญ่ พระราชทานพานทองเป็นเครื่องยศ และพระราชทานที่อยู่อาศัย บริเวณวัดขมิ้นและวัดขุนแสน ใกล้กับวังจันทน์ พระราชตำหนัก, กรุงศรีอยุธยา.
ฝ่ายหงสาวดี ต่างเร่งระดมกำลัง เพื่อยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีก ( รวมแล้วหงสาวดียกทัพตีอยุธยาก่อนสมเด็จนเรศวรประกาศไม่ขึ้นต่อหงสาวดี ๓ ครั้ง)
      ส่วนสมเด็จพระนเรศวรทรงตระหนักอยู่เสมอว่า "หงสาวดีจะต้องยกทัพมาเบียดเบียนอยุธยาแน่นอน จึงได้ทรงตระเตรียมเสบียงอาหารพร้อมสรรพาวุธยุทโธปกรณ์ ไพร่พล เพื่อต่อต้านทัพหงสาวดี สุดพระปรีชาสามารถ การณ์ทั้งปวงเป็นไปอย่างที่พระองค์ดำริ. พระเจ้าหงสาวดียกทัพตีกรุงศรีอยุธยาหลังสมเด็จพระนเรศวรประกาศตัดไมตรีกับหงสาวดีอีก ๔ ครั้ง
...เมื่อปี พ.ศ. 2126 พระเจ้าอังวะคิดแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดี
พระเจ้านันทบุเรงได้ สั่งให้ประเทศราช เมืองแปร ตองอู เชียงใหม่ ลาว และกรุงศรีฯ ยกทัพไปปราบ
สมเด็จพระนเรศวรทรงรอโอกาสที่จะแข็งเมืองอยู่เช่นกัน
จึงทรงเดินทัพช้า ๆ เพื่อรอฟังผลการรบ...ถ้าทางหงสาวดีชนะก็จะทรงกวาดต้อนคนไทยกลับกรุงศรีอยุธยา

แต่ถ้าทางหงสาวดีแพ้ก็จะทรงยกทัพไปตีซ้ำ
แต่ว่าทางหงสาวดีก็ไม่ไว้ใจสมเด็จพระนเรศวรอยู่แล้ว   จึงคิดจะกำจัด
โดยสั่งให้พระยาเกียรติและพระยารามซึ่งเป็นมอญ  ไปรับเสด็จพระนเรศวรที่เมืองแครง รอตีขนาบ

หลังจาก ... ที่ทัพพระมหาอุปราชเข้าโจมตี
ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรทำให้พระยาเกียรติและพระยาราม  นำความเข้ามาปรึกษามหาเถรคันฉ่องพระอาจารย์
พระมหาเถรคันฉ่องจึงนำเรื่องกราบทูล สมเด็จพระนเรศวรและเล่าความจริงทั้งหมดที่ทางหงสาวดีคิดไม่ซื่อ

สมเด็จพระนเรศวรทรงเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง
นิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องพร้อมด้วยพระยาทั้งสองเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน
แล้วทรงเล่าเรื่องที่พระเจ้านันทบุเรงคิดไม่ซื่อจะหลอกฆ่าพระองค์
เวลาในการประกาศอิสรภาพได้มาถึงแล้ว
สมเด็จพระนเรศวรทรงหลั่งน้ำลงเหนือแผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคารน้ำเต้าทอง

ทรงประกาศ ... แก่เทพยดาต่อหน้าที่ประชุมว่า
ตั้งแต่วันนี้ กรุงศรีอยุธยาขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรต่อกันดังแต่ก่อนสืบไป

พระราชพิธีนี้เกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคม 2127  ณ เมืองแครง
จากนั้นพระองค์ ทรงมีดำรัสถามชาวมอญที่อยู่ในเมืองแครงว่า  จะอยู่ข้างไทยหรือพม่า
ส่วนมากจะอยู่ข้างไทยแล้วทรงรับสั่งให้จัดทัพเพื่อไปตีเมืองหงสาวดี

สมเด็จพระนเรศวร ... ทรงยกกองทัพข้ามแม่น้ำสะโตง
จวนจะถึงหงสาวดี  ก็ทราบข่าวว่าพระเจ้าหงสาวดีรบชนะพระเจ้าอังวะ
และกำลังยกทัพกลับกรุงหงสาวดี

สมเด็จพระนเรศวรทรงคิดพิจารณาแล้วว่า
การจะตีหงสาวดีครั้งนี้คงไม่สำเร็จ
จึงให้ทหารเที่ยวไปกระจายข่าวบอกชาวไทยที่ถูกพม่ากวาดต้อนมา
ให้เดินทางกลับเมืองไทยได้จำนวนหมื่นเศษ

สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ชาวบ้านข้ามแม่น้ำสะโตงไปจนหมด
แล้วพระองค์ทรงอยู่คุมกองหลังข้ามแม่น้ำสะโตงเป็นชุดสุดท้าย  
แสดงถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญมาก

(http://image.ohozaa.com/i/3f4/r9JCH.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39no2)

ขณะนั้นพระมหาอุปราชมังสามเกียด ได้จัดทัพติดตามมาให้สุรกรรมาเป็นกองหน้า
แล้วมาทันกันที่แม่น้ำสะโตงซึ่งมีความกว้างประมาณ 400 เมตร
ทางพม่าก็ยิงปืนข้ามมาแต่ไม่ถูก

สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่บนคอช้างริมแม่น้ำ
ทรงประทับพระแสงปืนยาว 9 คืบหรือ 2 เมตร 25 เซ็นติเมตร
แล้วทรงอธิฐานว่า  ถ้าการกู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก
ทรงยิงไปถูกสุรกรรมาตายอยู่บนคอช้าง ทำให้พม่าเกรงกลัวและถอยทัพกลับไป...


(http://image.ohozaa.com/i/014/ElDn8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nne)


พระแสงปืนต้นนี้ ... มีนามว่า พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง
หลังจากนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
พร้อมด้วยพระมหาเถรคันฉ่องและพระยาเกียรติ พระยาราม และชาวมอญ
โดยเดินทัพผ่านหัวเมืองมอญแล้วเข้าด่านเจดีย์สามองค์มาจนถึงกรุงศรีอยุธยา
ทรงปูนบำเหน็จให้กับพระยามอญทั้งสอง
และทรงแต่งตั้งพระมหาเถรคันฉ่องเป็นพระสังฆราชอีกด้วย

สมเด็จพระนเรศวร ... ทรงราชสมภพที่เมืองพิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2098
เป็นราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตรี
ทรงมีพระพี่นางสุพรรณกัลยาณี และพระอนุชาสมเด็จพระเอกาทศรถ

(http://image.ohozaa.com/i/369/x36Aj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nnl)

อิสรภาพที่ลุ่มน้ำสะโตง  

“สมเด็จพระนรายเป็นเจ้าเสวยราชสมบัติ ณ เมืองพิศณุโลก รู้ข่าวมาว่าพระเจ้าหงษากับพระเจ้าอางวะผิดกัน ครั้งนั้นเสด็จไปช่วยการศึกพระเจ้าหงษา...แล้วจึงยกทัพหลวงเสด็จไปถึงเมืองแครง แล้วจึงทัพหลวงเสด็จกลับคืนมาพระนคร”--พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ

ปี ๒๑๒๗ หลังหงสาวดีผลัดแผ่นดินไม่นาน อังวะซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศราชของหงสาวดีเช่นเดียวกับอยุธยาก็แข็งเมือง กษัตริย์พระองค์ใหม่คือพระเจ้านันทบุเรงต้องทรงยกทัพไปปราบ พร้อมกันนั้นก็มีพระบัญชาให้ประเทศราชต่าง ๆ รวมถึงอยุธยายกทัพไปช่วยราชการศึก ครั้งนั้น พระนเรศวรทรงยกทัพไปแทนสมเด็จพระมหาธรรมราชา และทรงยั้งทัพไว้ที่เมืองแครง

ถึงตรงนี้ หลายคนคงนึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย นั่นคือการ “ประกาศอิสรภาพ” ตัดความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับหงสาวดี ของพระนเรศวร

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า พงศาวดารไทยที่บันทึกขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้กับเหตุการณ์ที่สุด คือ พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ ๑ ศตวรรษหลังจากเหตุการณ์ มิได้กล่าวถึงเรื่องนี้ แต่หลักฐานชั้นรองคือ คำให้การขุนหลวงหาวัด และ พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ซึ่งชำระขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น กลับกล่าวถึงการประกาศอิสรภาพครั้งนี้ หันไปดูหลักฐานฝั่งพม่าบ้าง มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า (Hmannan Mahayazawindawgyi) ก็มิได้ระบุถึงเหตุการณ์นี้เช่นกัน เพียงแต่ให้ข้อมูลว่าทัพอยุธยาซึ่งไปช่วยราชการศึกนั้น “หาตามเสด็จไปช่วยทางกรุงอังวะไม่...ตรงมาทางกรุงหงษาวดี” หลังจากนั้นก็ “ตีกรุงหงษาวดี” ด้วยซ้ำ

นี่คือ “ช่องว่าง” ของประวัติศาสตร์ เพราะหลักฐานของไทยกับพม่าบันทึกถึงเรื่องนี้ไว้ต่างกัน ไทยว่าพระนเรศวรทรงล่วงรู้ถึงอุบายของพระเจ้านันทบุเรงจึงทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ขณะที่ฝ่ายพม่าบันทึกว่าพระนเรศวรทรงตั้งใจยกไปตีหงสาวดีอยู่แล้ว

ทว่าสิ่งที่หลักฐานทุกชิ้นระบุตรงกันก็คือ หลังจากพระองค์เสด็จกลับจากยกทัพคราวนี้ อยุธยาก็ต้องรับศึกหงสาวดีติดต่อกันนานนับสิบปี

อย่างไรก็ตาม หากเราลองมาพิจารณาความหมายของคำว่า “อิสรภาพ” ยุคนั้นกันอีกที เราอาจจะมองประวัติศาสตร์ช่วงนี้ได้ชัดเจนขึ้น

จาก พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ซึ่งเป็นพงศาวดารที่มีลักษณะเน้นกฤษฎาภินิหารสูง ผมพบความหมายของ “อิสรภาพ” ซึ่งต่างจาก “อิสรภาพ” ในความหมายที่เราเข้าใจกัน นั่นคือ “การเป็นราชาธิราชเหนือราชาอื่น” ปรากฏอยู่ในตอนที่กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งพระเจ้านันทบุเรงทรงวางแผนจัดการพระนเรศวร ความว่า

“(ให้) จับเอาตัวพระนเรศวรประหารชีวิตเสียให้จงได้ เมืองหงสาวดีจึงจะเป็นอิสรภาพไพศาลกว่าพระนครทั้งปวง”

สำหรับผม ประโยคข้างต้นสะท้อนถึงโลกทัศน์เกี่ยวกับอิสรภาพของคนยุคนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าหงสาวดีต่างหากที่กำลังพยายามรักษา “อิสรภาพ” นั้นไว้

บ่ายวันหนึ่งในเดือนตุลาคม ๒๕๔๙, เมืองวอ สหภาพพม่า

ผมยืนอยู่ที่ลานเจดีย์โจงตู (Jondthu Zedi) เจดีย์แฝดกลางทุ่งนาซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองวอออกมาทางตะวันออกราว ๔ กิโลเมตร ยืนพิจารณาพื้นที่ราบซึ่งเต็มไปด้วยนาข้าวที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตารอบ ๆ เจดีย์

หลายปีก่อน ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ และ ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล มาพบที่นี่ขณะสำรวจพื้นที่ปากน้ำสะโตงซึ่งพงศาวดารพม่ายุคพระเจ้าอลองพญาระบุว่าเป็นเส้นทางเดินทัพไปตีกรุงศรีอยุธยา โดยระบุระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางระหว่างเมืองอย่างชัดเจนว่า ๑ วันจากหงสาวดีจะถึงเมืองโครง (Krun) ๒ วันจะถึงแม่น้ำสะโตง ทั้งยังพบว่าที่นี่เคยเป็นเขตอิทธิพลของมอญมาก่อนที่พม่าจะเข้ามาครอบครองกรุงหงสาวดี

อาจารย์สุเนตรอธิบายว่า เมือง “วอ” ในภาษาพม่า เดิมชื่อเมือง “โจงตู” ซึ่งก็คือเมือง “โครง” ในภาษามอญนั่นเอง ซึ่งฟังดูใกล้เคียงกับเมือง “แครง” หรือ “แกรง” ที่พงศาวดารไทยระบุว่าเป็นพื้นที่ที่สมเด็จพระนเรศวรทรง “ประกาศอิสรภาพ” ระหว่างยกทัพมาช่วยราชการศึกพระเจ้านันทบุเรง

นอกจากชื่อเมืองแล้ว เมื่อคำนวณจากระยะทาง ดร. สุเนตรก็พบว่าที่นี่อยู่ห่างจากหงสาวดีด้วยการเดินเท้า ๑ วันตามที่ระบุในพงศาวดาร อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังปรากฏร่องรอยเมืองโบราณ ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำเก่า ซากประติมากรรมโบราณ ฯลฯ ซึ่งแสดงว่าที่นี่น่าจะเคยเป็นหัวเมืองสำคัญมาก่อน

จากภาพถ่ายดาวเทียม จะแลเห็นว่าเจดีย์แฝดโจงตูอยู่ตรง “กึ่งกลาง” เส้นทางระหว่างหงสาวดีกับสะพานข้ามแม่น้ำสะโตงพอดี ปัจจุบันถือเป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน หรือพระเจดีย์ไจ้โถ่ (Kyaikhto Zedi) ในเขตรัฐมอญ ซึ่งถ้าพิจารณาจากหลักภูมิศาสตร์ นี่ก็คือเส้นทางเดินทัพโบราณนั่นเอง เพราะเมืองโครงหรือเมืองวออยู่บนเส้นทางบังคับที่หงสาวดีต้องใช้ในการเดินทัพไปตีอยุธยา ด้วยถ้าใช้เส้นทางอื่น เช่น ออกจากหงสาวดีค่อนไปทางเหนือ ก็จะเจอหุบเขาพะโคโยมากั้น หรือถ้าออกจากหงสาวดีค่อนไปทางใต้ ก็จะเจอที่ราบลุ่มปากแม่น้ำสะโตงซึ่งมีสภาพเป็นโคลนกั้น

“ลองต่อภาพประวัติศาสตร์ สมมุติเราเชื่อพงศาวดารไทยที่ว่าพระนเรศวรยั้งทัพอยู่เมืองแครง แล้วพระเจ้านันทบุเรงส่งพระยาเกียรติ พระยาราม ซึ่งวางแผนมาลวงให้พระองค์ยกทัพเข้าสู่กับดัก สองคนนี้ออกจากหงสาวดี ๑ วันก็ถึงเมืองแครง ทูลเปิดเผยเรื่องราวแล้ว พระนเรศวรก็ทรงประกาศอิสรภาพ จากนั้นถอยทัพอีก ๑ วันก็ถึงแม่น้ำสะโตง” อาจารย์สุเนตรอธิบาย

ดังนั้นที่ใดที่หนึ่งรอบ ๆ ตัวผมขณะนี้ นอกจากจะเป็นที่พักทัพแล้ว ยังอาจเป็นพื้นที่ประกาศอิสรภาพด้วยก็เป็นได้--ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง

พระสงฆ์ซึ่งดูแลเจดีย์โจงตูเล่าให้ผมฟังว่า เจดีย์แฝดแห่งนี้มีอายุอย่างน้อย ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว (แน่นอนว่าช่วงหนึ่งร่วมสมัยกับยุคที่สมเด็จพระนเรศวรทำศึกกับหงสาวดี) ชาวบ้านเชื่อว่าในเจดีย์บรรจุพระพุทธรูปโบราณและอัญมณีมีค่าเอาไว้

จากเจดีย์โจงตู ผมนั่งรถไปตามถนนหมายเลข ๓ (เส้นทางสู่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของพม่า) อีกราว ๒ ชั่วโมงก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำสะโตง (Sittong Thata) ซึ่งรัฐบาลทหารพม่าวางกำลังดูแลอย่างเข้มงวด เนื่องด้วยฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเป็นพื้นที่รัฐมอญซึ่งบางแห่งมีการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อย

ข้ามแม่น้ำแล้วไปตามถนนสายเดิมอีกราว ๒๐ นาที ผมก็พบหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมน้ำและเจดีย์องค์หนึ่งซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ร่มครึ้ม ไกด์ท้องถิ่นบอกผมว่าที่นี่คือ หมู่บ้านสะโตง (Sittong Yaw) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์สะโตง (Sittong Pya) ที่ริมน้ำ สะพานทางรถไฟเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งเหลือแต่ตอม่อตั้งตระหง่านอยู่คู่กับสะพานคอนกรีตที่ก่อสร้างขึ้นใหม่อย่างเร่งรีบเพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวสู่พระธาตุอินทร์แขวน

ที่นี่เองที่ท่านมุ้ยและ ดร. สุเนตร สันนิษฐานว่าพระนเรศวรทรงถอยทัพมาจากเมืองแครงแล้วข้ามแม่น้ำสะโตงส่วนที่แคบที่สุดซึ่งกว้างราว ๖๒๐ เมตร เพื่อกลับสู่อยุธยา ด้วยเป็นเส้นทางเดินทัพเก่า รอบ ๆ มีร่องรอยเมืองโบราณที่บ่งบอกว่าเคยเป็นหัวเมืองสำคัญ และที่สำคัญคือ เป็นจุดที่แคบที่สุดของลำน้ำสะโตงก่อนไหลออกสู่อ่าวเมาะตะมะ

พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา เล่าว่า พระนเรศวรทรงให้บรรดาผู้คนที่กวาดต้อนมาข้ามน้ำไปก่อน “แต่พระองค์กับทหารลำลองหมื่นห้าพันนั้นยังรออยู่ริมฝั่ง ตรัสให้ทหารเอาปืนหามแล่นและนกสับคาบชุดระดมยิงไป ทหารก็ยิงระดมไปเป็นอันมากมิได้ถึง จึงสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าก็ทรงพระแสงปืนนกสับยาวเก้าคืบ ยิงไปต้องสุรกำมาตายตกจากคอช้าง รี้พลมอญทั้งนั้นเห็นอัศจรรย์ ด้วยแม่น้ำนั้นกว้างเหลือกำลังปืน”

เหตุการณ์อันเป็นที่มาของ “พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง” นี้ มีคำถามอยู่มากในหมู่ผู้ศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ ด้วยข้อความดังกล่าวปรากฏในพงศาวดารฉบับนี้ฉบับเดียว หลักฐานชั้นรองอื่น ๆ มิได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

จึงมีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อยและน่าสงสัยว่าเป็นการต่อเติมขึ้นในสมัยหลังหรือไม่

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาพระนเรศวรก็ทรงเดินทัพกลับสู่พิษณุโลกได้สำเร็จ


พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง
" มีเหตุอันควรให้สงสัยในขณะที่ตามรอยสมเด็จพระนเรศวรว่า พระแสงปืนที่มีความยาว  9 คืบนั้น ยิงข้ามแม่น้ำสะโตงที่กว้างกว่า  600 เมตร ได้อย่างไร "

        เมืองสะโตง อยู่ห่างจากกรุงหงสาวดี หรือ เมืองพะโคในปัจจุบัน       กม.  มีแม่น้ำสะโตงอันกว้างใหญ่    เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนนกสับยาวเก้าคืบ (เกือบๆ2เมตร) ยิงสุกรรมาตายบนคอช้าง  ทั้งๆที่อยู่ห่างกันกว่า 600 เมตร  อาจเป็นเพราะปืนมีความยาว  เพียงพอ แต่เหตุใดจึงยิงได้แม่นยำเช่นนั้น  หรือเป็นเพราะบุญญาธิการขององค์สมเด็จพระนเรศวร  ที่สามารถทำได้   อย่างไรก็ตามการสืบรอยของกองถ่ายภาพยนตร์ โดยท่านมุ้ย  ก็ได้สร้างปืนนกสับยาวเก้าคืบ  ขึ้นมาทดสอบโดยกรมสรรพาวุธ ทหารบก พบว่าสามารถยิงได้จริงๆ 600 เมตร แต่ความแม่นยำ ยังมิสามารถทำได้

(http://image.ohozaa.com/i/67e/aaeUR.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39np7)

(http://image.ohozaa.com/i/9e8/7JnB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nov)

(http://image.ohozaa.com/i/94b/JwIQZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39non)

(http://image.ohozaa.com/i/0c1/U3oAN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nod)

(http://image.ohozaa.com/i/6ed/rASBh.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nof)

(http://image.ohozaa.com/i/91f/YplXj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/39nok)











เห็นไหมหละครับ ว่ายังลืม sniper ของชาวไทยไปอีกท่านนึง "สมเด็จพระนเรศน์" ::002:: ::002:: ::014::


สมัยนั้นไม่มีศูนย์กล้องด้วยท่านยังยิงได้ดี ถึงเพียงนั้น! อิ อิ อิ  ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:40:26 AM
พรานหนุ่ม  ชุมไพร ขอสนับสนุนหน้ากระทู้นี้ 100 เปอร์เซ็นต์ ครับท่านสมาชิก อวป.  ::002:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:46:57 AM
เอาปืนที่บ้าน(ซุ้มฯนางเลิ้ง) มาฝากให้ แฟนๆ sniper ครับท่านเจ้าของกระทู้  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:48:59 AM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:50:00 AM
FERLACH DOUBLE RIFLES  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:50:07 AM
 ::014:: ::014:: งดงามมาก ๆ ครับท่าน นับถือ ๆครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:51:14 AM
::014:: ::014:: งดงามมาก ๆ ครับท่าน นับถือ ๆครับ







ขอบคุณครับ ผมมาร่วม อวย ด้วยคนนะ อิ อิ  ::008:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:56:12 AM
อิ อิ อิ เอามาแชร์ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:57:20 AM
 ;D ;D ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:59:21 AM
พิพิธภันณ์ ส่วนตัวของผมครับท่านเจ้าของกระทู้ อิ อิ อิ ขออวดมั่ง อิ อิ อิ พรานหนุ่ม ชุมไพร(จอมเสนอหน้า)  ::005:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:02:25 AM
บ๊ายบาย!  ::014:: ขอตัวกลับไป camp ชุมไพรก่อนนะครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:02:50 AM
              ขอบคุณท่านผาภูมิมากครับ     ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ✿*Maxx®..❀●•♫ Victor&Sugus ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:04:01 AM
สุดยอดคลังแสงครับ........


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:04:16 AM
             ขอบคุณท่านผาภูมิมากครับ     ::002::









อ้าว! แอบมาเหมือนผมเลยเหรอ?ครับ อิ อิ อิ  ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:05:27 AM
สุดยอดคลังแสงครับ........








ขอบคุณครับ อิ อิ อิ ผมหนี camp ชุมไพรมานานแล้ว ไปก่อนนะครับ ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:06:16 AM
 ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:16:17 AM
กรูปรี หรือ โคไพร กับปืนที่ซุ้มฯนางเลิ้ง หมายเลขทะเบียนที่ 00008 ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:55:15 AM
กระบอกนี้ 1,500,000.-บาท ใช่มั้ยครับคุณหนุ่ม :o


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:43:27 AM
กระบอกนี้ 1,500,000.-บาท ใช่มั้ยครับคุณหนุ่ม :o






ไม่ถึงขั้นนั้นครับ แต่เป็นกระบอกที่ 8 ของเมืองไทยที่หลวงตีทะเบียนให้ครับ อิ อิ อิ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 11:16:57 AM
กระบอกนี้ 1,500,000.-บาท ใช่มั้ยครับคุณหนุ่ม :o
ลืมลงรูป ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 12:43:58 PM
กระบอกนี้ 1,500,000.-บาท ใช่มั้ยครับคุณหนุ่ม :o
ลืมลงรูป ::005::







ใช่ครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 12:55:59 PM
M40A1 ปืน sniper ของ นย.สหรัฐฯ ใช้โครงปืนแบบ short action ของ remington 700 ถึงเกรด 40-xb

ศูนย์กล้อง unertil 10 เท่า stock mcmiiian a1 ลำกล้อง snichder select match grade a

ปืนไรเฟิลซุ่มยิง สเป๊กข้าพเจ้าครับ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 12:58:07 PM
kmw custom rifle 260 rem.


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 12:58:47 PM
 ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:00:06 PM
remington 40-xb cal. 7mm rem mag.(single shot) คู่มือพรานหนุ่ม ชุมไพร เวลาออกป่าครับ  ::002:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:01:36 PM
hatcher gun company .308 win. ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:02:17 PM
 ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:07:52 PM
้hatcher gun company .308 win. ครับท่านสมาชิก  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:09:58 PM
remington 700 ltr .308 win. ครับท่านสมาชิก  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:11:42 PM
m1 galand 30-06 ทดสอบโดยพรานหนุ่ม ชุมไพร ครับท่านสมาชิก  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:12:38 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:13:39 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:15:42 PM
การตั้งศูนย์กล้องปืน 40-xb ที่ 150 เมตรครับ ณ.สนามยิงปืนส่วนตัว กาญจนบุรี  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:17:05 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:18:04 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:18:46 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:20:04 PM
 ;D ;D sniper ทีมชุมไพรครับ ท่านสมาชิก  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 01:21:46 PM
ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากๆนะครับ ที่ให้ข้าพเจ้ามาร่วมแชร์ ความคิดความเห็น  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 05:38:36 PM
 ::014:: ::014:: โห....ปืนในตำนาน สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะครับท่านหนุ่มชุมไพร สุดยอดมากครับ   ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 07:03:46 PM
::014:: ::014:: โห....ปืนในตำนาน สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะครับท่านหนุ่มชุมไพร สุดยอดมากครับ   ::002:: ::002::







เดี๋ยวผมจะค่อยๆเติมไปครับ แต่ต้องขออนุญาตพี่ PHAPHOOM ก่อนนะ อิ อิ อิ ตามมารยาท ขอบคุณครับ ::005:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 07:25:39 PM
 ::014:: ::014:: ด้วยความยินดีเลยครับท่านพรานหนุ่ม ชมไพรครับ  ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 07:51:48 PM
c3a1 cannada army sniper rifles  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 07:52:58 PM
sig ssg 3000  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 07:56:50 PM
 ;D mauser 98 ของทัพนาซี สมัย ww2 ครับท่านสมาชิก  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:03:29 PM
winchester m70 cal 30-06 สมัยสงครามเวียตนามครับ ท่านสมาชิก  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:07:38 PM
m24 a1(sws) sniper weapon systems ไรเฟิลซุ่มยิงมาตราฐาน ทบ.สหรัฐครับ ใช้เทคโนโลยี remington 40-xb ทั้งกระบอกครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:10:31 PM
reminton 40-xb ต้นแบบปืน sniper ของ ทบ.และ นย.สหรัฐครับท่านสมาชิก  ::002::

ประดิษฐ์มาในยุค 60 โดยท่านช่างใหญ่ใน custom shop ของ remington ท่าน MIKE WALKER ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 08:15:51 PM
 ;D ค่ำนี้ขอตัวก่อนนะครับ ราตรีสวัสดิ์  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:45:18 PM
CornerShot (ปืนไรเฟิลสำหรับยิงมุมตึก)

(http://image.ohozaa.com/i/5ba/HNi8R.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sj8k)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:46:36 PM
chaytacm200intervention

(http://image.ohozaa.com/i/68e/ImL86.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sjb3)


Dragunov SVD

(http://image.ohozaa.com/i/2af/lKV8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sjik)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:59:46 PM
ปืนกลมือ MP 40 ปืนของกองทัพนาซีฮิตเลอร์

(http://image.ohozaa.com/i/2ec/r44y2.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sle8)


คงจะไม่ผิดนักถ้าหากจะกล่าวว่าปืนกลมือ Maschinenpistole MP 40 (schmeisser) เป็นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง มันถูกผลิตออกมาโดยบริษัท เออร์ม่า (Erma) มากกว่า 1,000,000 กระบอก จนถึงปี 1945 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยความที่ผลิตง่าย ตามความต้องการของกองทัพเยอรมันที่ต้องการปืนที่มีระบบการผลิตที่ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องใช้คนงานที่มีความสามารถพิเศษ ก็สามารถประกอบปืนรุ่นนี้ได้ ตัวปืน MP 40 เป็นเหล็กและพลาสติคแข็ง ไม่มีส่วนใดเป็นไม้ บำรุงรักษาง่าย ต้นแบบของมันคือ MP 38 ซึ่งผลิตขึ้นมาในปี 1938 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะเปิดฉากขึ้นเพียงเล็กน้อย และพัฒนามาเรื่อยๆ จนกลายเป็น MP 40 และได้รับสมญาว่า ชมิสเซอร์ (Schmeisser)

ปืนกลรุ่นนี้ใช้กระสุนขนาด 9 มม. ส่งกระสุนด้วยซองกระสุนบรรจุกระสุน 32 นั**ัตราความเร็วในการยิง 500 นัดต่อนาที เป็นปืนที่ทหารเยอรมันใช้ในระยะประชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารของหน่วย เอส เอส มักนิยมใช้ปืน MP 40 เป็นอาวุธประจำกาย รวมทั้งทหารประจำรถถัง หรือหน่วยยานเกราะ ตลอดจนหน่วยพลร่ม ก็ใช้อาวุธชนิดนี้เป็นอาวุธประจำกาย เพราะไม่ยาวเกะกะ มีความคล่องตัวสูง บรรจุกระสุนได้มาก บำรุงรักษาง่าย และมีความทนทาน ไม่แต่เฉพาะทหารเยอรมันเท่านั้นที่ชมชอบปืนรุ่นนี้ ทหารพันธมิตร และทหารรัสเซียก็มักจะนำไปใช้ เมื่อยึดมันมาได้จากทหารเยอรมัน
สมรรถนะ

ผู้ผลิตบริษัทเออร์ม่า (Erma)ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน833 มม.
ลำกล้องยาว 251 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า4 กก.
กระสุนขนาด 9 มม.
บรรจุ32 นัด
ระยะยิงไกล200-250 ม.


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:00:48 PM
ปืนกล MG 34

(http://image.ohozaa.com/i/509/krrUK.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slh2)


ปืนกล Machinengewehr MG 34 นี้ บางคนจัดให้เป็นปืนกลเบา (Light machine gun) แต่บางตำราก็จัดให้เป็นปืนกลหนัก (Heavy machine gun) ปืนกลรุ่นี้ผลิตโดย Louis Stange จากบริษัท Rhinemetall และบริษัท Mauser ของเยอรมันในคราวเดียวกัน ซึ่งการถือกำเนิดปืนกล MG 34 ในปี 1934 นี้ ถือเป็นการก่อกำเนิดของอาวุธปืนกลสมัยใหม่ ในกองทัพเยอรมันเลยทีเดียว

การทำงานของปืนกล MG 34 นี้ ใช้การทำงานผสมผสานระหว่าง การใช้แรงสะท้อนถอยหลังของดินปืน และแก๊ส ในการยิงแต่ละครั้ง นับเป็นการผสมผสาน ที่ไม่ค่อยจะมีใช้กัน ในระบบการยิงของปืนกลในยุคสมัยนั้น และถือเป็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของการประดิษฐ์ระบบการยิงด้วยวิธีนี้ของ Louis ผู้ผลิตปืนกล MG 34

ปืนกล MG 34 ใช้ระบบส่งกระสุนขนาด 7.92 มม. ได้ทั้งการใช้สายกระสุน และกล่องบรรจุกระสุนที่เรียกว่า ดรัม (Drum) ซึ่งดรัมนี้มสองแบบ คือ แบบดรัมเดียว และสองดรัมติดกัน มีอัตราการยิง 800-900 นัดต่อนาที ระยะยิงไกลถึง 2,000 ม. หรือ 2 กม.

ปืนกล MG 34 มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในกองทัพเยอรมัน แม้ว่าปืนกลรุ่นใหม่อย่าง MG 42 จะเกิดขึ้นมาในปี 1942 และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า MG 34 แต่ MG 34 ก็เป็นปืนกลที่ทหารเยอรมันยังคงใช้อยู่ทุกแนวรบ จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง
สมรรถนะ
ผู้ผลิตประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน1,220 มม.
ลำกล้องยาว628 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า12.1 กก.
กระสุนขนาด7.92 มม.
บรรจุสายกระสุน สายละ 50 นัด
ระยะยิงไกล2000 ม.


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:02:00 PM
ปืนกล MG 42

(http://image.ohozaa.com/i/3e6/rovfC.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slip)

ปืนกล Machinengewehr MG 42 หรือปืนกลสแปนเดา (Spandau) นี้ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของกองทัพเยอรมัน ที่ต้องการปืนกลที่มีประสิทธิภาพสูง มีสายการผลิตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ที่รับแนวคิดนี้ไปทำให้เป็นความจริงคือ Dr. Grunow ผู้ซึ่งเป็นนักอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน ในการผลิตแบบสายการผลิตจำนวนมาก ที่ไม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาทำการผลิต ผลที่ได้ก็คือ ปืนกลที่ได้ชื่อว่า เป็นปืนกลที่ดีที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองชนิดหนึ่ง

ปืนกล MG 42 นำเอาปืนกลแบบ MG 34 มาประกอบใหม่ ใช้หลักการเดิม คือการผสมผสานระหว่างแรงสะท้อนของกระสุน และระบบแก๊ส ปืนกล MG 42 ใช้ระบบส่งกระสุนขนาด 7.92 มม. เหมือนปืนกล MG 34 คือใช้ได้ทั้งการใช้สายกระสุนขนาด 50 นัด และกล่องบรรจุกระสุนที่เรียกว่า ดรัม (Drum) ซึ่งดรัมนี้มสองแบบ คือ แบบดรัมเดียว และสองดรัมติดกัน มีอัตราการยิง 1200 นัดต่อนาที ระยะยิงไกลถึง 2,000 ม. หรือ 2 กม.

ปืนกล MG 42 มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในกองทัพเยอรมัน แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการสั่นของตัวปืน ขณะทำการยิง ส่งผลถึงความแม่นยำของการยิงก็ตาม มันถูกใช้อย่างแพร่หลายจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นต้นแบบของปืนกลยุคใหม่อย่างเช่น ปืนกล M 60 ของกองทัพสหรัฐอเมริกา

สมรรถนะ

ผู้ผลิตประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน1,220 มม.
ลำกล้องยาว 533 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 11.6 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุสายกระสุน สายละ 50 นัด
ระยะยิงไกล2000 ม.


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:03:09 PM
ปืนไรเฟิลจู่โจม STG 44

(http://image.ohozaa.com/i/383/SiBZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slkk)

เอส ที จี 44 มีกำเนิดมาจากปืนกล เอ็ม พี 43 (MP 43 - Machine Pistol 43) ซึ่งพัฒนาขึ้นในปี 1943 เป็นปืนกลที่มีอำนาจการยิงสูง โดยเฉพาะในระยะประชิด มีแรงสะท้อน หรือแรงสะบัดของปืนต่ำ ทำให้มีความแม่นยำ แม้ระยะยิงจะไม่ไกลนัก

ในช่วงแรก ฮิตเลอร์ต้องการอาวุธประจำกายทหารราบที่มีระยะยิงไกลกว่า 2,000 หลา จึงไม่สนใจที่จะให้ผลิตปืนเอ็ม พี 43 ขึ้น แต่อัลเบิร์ต สเปียร์ รัฐมนตรีกระทรวงอาวุธของนาซีเยอรมันในขณะนั้น เห็นว่าเยอรมันมีความต้องการปืนรุ่นนี้เป็นอย่างมาก จึงทำการผลิตปืนรุ่นนี้ขึ้น โดยที่ฮิตเลอร์ไม่รู้ และส่งออกไปให้ทหารเยอรมันในแนวรบด้านรัสเซียได้ทดลองใช้ ปรากฏว่า ทหารราบเยอรมันต่างพอใจในสมรรถนะของปืนรุ่นนี้ ถึงขนาดที่ผู้บัณชาการกองพลของเยอรมันบางกองพล ได้พูดกับฮิตเลอร์ถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมของปืนกลมือ เอ็ม พี 43 ความจริงเลยปรากฏต่อฮิตเลอร์ว่า ปืนรุ่นนี้ได้ถูกผลิตออกมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์ก้ได้รับการโน้มน้าวจากฝ่ายเสนาธิการของเขาว่า ปืนกล เอ็ม พี 43 มีประสิทธิภาพมาก และเป็นที่ต้องการของทหารในแนวหน้า ทำให้ฮิตเลอร์ เปลี่ยนใจ และสั่งให้ผลิตปืนเอ็ม จี 43 ออกมาใช้อย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้โรงงาน 3 โรงงานรับผิดชอบในการผลิต ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนภายในเล็กน้อย และเปลี่ยนชื่อเป็นปืน สตรุม เกอแวร์ 44 (Sturmgewehr 44 หรือ ปืนไรเฟิลจู่โจม - Assault Rifle) สายการผลิตของปืนรุ่นนี้มีอยู่จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945

รัสเซียได้เข้ายึดโรงงานผลิตปืน เอส ที จี 44 ได้ และนำไปเป็นต้นแบบปืนไรเฟิลของตน ในโลกยุคสงครามเย็น นั่นคือ ปืนไรเฟิล AK 47 อันลือชื่อ โดยมีการปรับเปลี่ยนขนาดลำกล้องจาก 7.92 มม. มาเป็นขนาด 7.62 มม. ซึ่งเป็นขนาดกระสุนมาตรฐานของรัสเซีย จนกลายเป็นปืนที่มีใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จนถึงยุคการก่อการร้ายในปัจจุบัน


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:03:54 PM
ปืนเล็กยาว Karabiner Mauser Kar98K

(http://image.ohozaa.com/i/3eb/ibvoZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sln2)

คาราไบน์เนอร์ เค 98 เป็นปืนที่ส่งลูกเข้ารังเพลิงด้วยระบบลูกเลื่อน เป็นอาวุธประจำกายของทหารเยอรมันมาตั้งแต่ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ปืนเล็กยาวรุ่นนี้ บริษัทเมาเซอร์ (Mauser) พัฒนามาจากปืน Gewehr 98 ซึ่งก่อนเกิดสงครามปืนรุ่นนี้จะผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตัวปืนที่เป็นไม้ จะผลิตโดยช่างฝีมอทางด้านงานไม้ แต่พอเกิดสงคราม ความต้องการของปืนมีมาก จึงผลิตด้วยไม้เคลือบมันราคาถูกๆแทน คาราไบเนอร์ เค 98 มีน้ำหนักตัวเปล่า โดยยังไม่บรรจุกระสุน 3.66 กก. บรรจุกระสุนขนาด 7.92 มม. ด้วยซองกระสุน 5 นัด ซึ่งขนาดกระสุน 7.92 มม.นี้เป็นขนาดกระสุนมาตรฐานของกองทัพนาซีเยอรมันในขณะนั้น ต่างจากขนาดกระสุนของรัสเซียที่ใช้ขนาด 7.62 มม. เล็กน้อย กระสุนของเคร 98 มีความเร็ว 745 เมตรต่อวินาที ระยะยิงได้ไกล 550 เมตรหรือ 600 หลา
สมรรถนะ

ผู้ผลิตบริษัทเมาเซอร์ ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน1,250 มม.
ลำกล้องยาว 740 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า3.66 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ5 นัด
ระยะยิงไกล500 ม.


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:37:06 PM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:07:38 AM
ปืนไรเฟิลจู่โจม STG 44

(http://image.ohozaa.com/i/383/SiBZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slkk)

เอส ที จี 44 มีกำเนิดมาจากปืนกล เอ็ม พี 43 (MP 43 - Machine Pistol 43) ซึ่งพัฒนาขึ้นในปี 1943 เป็นปืนกลที่มีอำนาจการยิงสูง โดยเฉพาะในระยะประชิด มีแรงสะท้อน หรือแรงสะบัดของปืนต่ำ ทำให้มีความแม่นยำ แม้ระยะยิงจะไม่ไกลนัก

ในช่วงแรก ฮิตเลอร์ต้องการอาวุธประจำกายทหารราบที่มีระยะยิงไกลกว่า 2,000 หลา จึงไม่สนใจที่จะให้ผลิตปืนเอ็ม พี 43 ขึ้น แต่อัลเบิร์ต สเปียร์ รัฐมนตรีกระทรวงอาวุธของนาซีเยอรมันในขณะนั้น เห็นว่าเยอรมันมีความต้องการปืนรุ่นนี้เป็นอย่างมาก จึงทำการผลิตปืนรุ่นนี้ขึ้น โดยที่ฮิตเลอร์ไม่รู้ และส่งออกไปให้ทหารเยอรมันในแนวรบด้านรัสเซียได้ทดลองใช้ ปรากฏว่า ทหารราบเยอรมันต่างพอใจในสมรรถนะของปืนรุ่นนี้ ถึงขนาดที่ผู้บัณชาการกองพลของเยอรมันบางกองพล ได้พูดกับฮิตเลอร์ถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมของปืนกลมือ เอ็ม พี 43 ความจริงเลยปรากฏต่อฮิตเลอร์ว่า ปืนรุ่นนี้ได้ถูกผลิตออกมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์ก้ได้รับการโน้มน้าวจากฝ่ายเสนาธิการของเขาว่า ปืนกล เอ็ม พี 43 มีประสิทธิภาพมาก และเป็นที่ต้องการของทหารในแนวหน้า ทำให้ฮิตเลอร์ เปลี่ยนใจ และสั่งให้ผลิตปืนเอ็ม จี 43 ออกมาใช้อย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้โรงงาน 3 โรงงานรับผิดชอบในการผลิต ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนภายในเล็กน้อย และเปลี่ยนชื่อเป็นปืน สตรุม เกอแวร์ 44 (Sturmgewehr 44 หรือ ปืนไรเฟิลจู่โจม - Assault Rifle) สายการผลิตของปืนรุ่นนี้มีอยู่จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945

รัสเซียได้เข้ายึดโรงงานผลิตปืน เอส ที จี 44 ได้ และนำไปเป็นต้นแบบปืนไรเฟิลของตน ในโลกยุคสงครามเย็น นั่นคือ ปืนไรเฟิล AK 47 อันลือชื่อ โดยมีการปรับเปลี่ยนขนาดลำกล้องจาก 7.92 มม. มาเป็นขนาด 7.62 มม. ซึ่งเป็นขนาดกระสุนมาตรฐานของรัสเซีย จนกลายเป็นปืนที่มีใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จนถึงยุคการก่อการร้ายในปัจจุบัน









เจ้านี่สิครับ เปลี่ยนแปลงอาวุธแบบแอสซัลส์ ของโลกเลย!


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:10:57 AM
enfield sniper  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:13:26 AM
lee enfield no.1 mk3 ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:16:14 AM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:17:55 AM
ผมก็มี ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:20:53 AM
sniper  ตัวเล็กที่สุดแห่งค่าย ชุมไพร(ตัวข้าพเจ้าเอง) อิ อิ อิ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:22:37 AM
ผมก็มี ::005::







โหดๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:36:25 AM
หรือจะแบบนี้ ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:47:44 AM




โหดๆๆๆๆๆๆๆ อิ อิ อิ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 08:53:34 AM
ขออนุญาตครับ

ในรูปพรานหนุ่ม ชุมไพร เอารูปทั้งตอนเด็ก ตอนหนุ่มมาลง ดูยังไงก้หนุ่มกว่าพี่จอยเยอะมากเลยครับ 

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 09:27:45 AM
หัวกระทู้ใช้ได้เลยครับ .....................เนื้อหาดี


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 10:46:18 AM
ขออนุญาตครับ

ในรูปพรานหนุ่ม ชุมไพร เอารูปทั้งตอนเด็ก ตอนหนุ่มมาลง ดูยังไงก้หนุ่มกว่าพี่จอยเยอะมากเลยครับ  

ขอบคุณครับ








อิ อิ อิ ขอบคุณครับ  น้าจอยโดนอีกแล้ว อิ อิ อิ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 01:26:44 PM
ขออนุญาตครับ

ในรูปพรานหนุ่ม ชุมไพร เอารูปทั้งตอนเด็ก ตอนหนุ่มมาลง ดูยังไงก้หนุ่มกว่าพี่จอยเยอะมากเลยครับ 

ขอบคุณครับ








อิ อิ อิ ขอบคุณครับ  น้าจอยโดนอีกแล้ว อิ อิ อิ
โดนรูปนี้ ลุงจอยหายหลังเลย หึๆๆ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 02:05:48 PM
มาชมปืนกันต่อดีกว่า ดาบ x carliber แห่ง ทบ.อังกฤษ accuracy international  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 02:25:53 PM
ขออนุญาตครับ

ในรูปพรานหนุ่ม ชุมไพร เอารูปทั้งตอนเด็ก ตอนหนุ่มมาลง ดูยังไงก้หนุ่มกว่าพี่จอยเยอะมากเลยครับ 

ขอบคุณครับ

   คุณ กระจงพูดแบบนี้ มาหาว่า น้าจอยเพื่อนผมขี้เหร่ใช่ไหม ไม่ต้องมาย้ำหรอกครับ
ยังไงน้าจอยแกก็ขี้เหร่อยู่แล้ว นี่ผมอยู่ข้างน้าจอยนะครับ อิ อิ อิ... ::005:: ::014::



หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 03:06:52 PM
ขอบคุณครับอาตี๋ ที่ยกผมเป็นเพื่อน ผมคงรับไม่ได้เพราะ อาตี๋ แก่ กว่าผมเยอะ ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 03:49:23 PM
ส่วนเจ้านี่ ไรเฟิลจากแดนอาทิตย์อุทัยครับ arisaka sniper rifles in ww2  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 03:52:08 PM
จากกองทัพแดงครับ โมซินนากัง ไรเฟิลหุ่นอุบาตก์แต่ยิงดีครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 03:55:22 PM
 ;D FR F2 ของฝรั่งเศษครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 03:57:37 PM
remington 40-xb repeater by custom shop ครับท่านสมาชิก  ::002:: :VOV:


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:00:10 PM
ปืนสไนท์เปอร์มาตราฐาน ตร.สหรัฐครับ remington m700 P ครับท่านสมาชิก  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:03:35 PM
dakota longbow ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:05:05 PM
ส่วนเจ้าหมอนี่อยู่ หน่วยพลแม่นปืนกองทัพไหนไม่ทราบนะครับ แต่น่าหอมแก้มเป็นที่สุด  :VOV: :<><> :VOV: :<><>


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:12:39 PM
M40 A3 ครับ ของ นย.สหรัฐ ทุกวันนี้ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:15:04 PM
ผมจะไม่กล่าวถึงไรเฟิล sniper ระบบ auto นะครับท่านสมาชิก(เพราะผู้เขียนไม่ชอบ อิ อิ อิ ) ขอเห็นแก่ตัวซักนิดครับ  ::005:: ::008:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:20:19 PM
remington 40xs ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:23:25 PM
winchester m70 sharpshooter ครับ  ;)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:25:09 PM
jarrett custom  ;D ;)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:28:35 PM
 ;D sako trg 22  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:51:39 PM
 ;D springfield m1903  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:54:09 PM
ขอส่งปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังแบบ 93 (ปรส. 93) หรือ ปรส. แบบ M18 ขนาด 57 มม. (2.26 นิ้ว) เข้าประกวดด้วยครับ ;D  

แม้จะไม่ใช่ปืนเล็กยาวซุ่มยิงแต่ก็เป็นอาวุธยิงระยะไกลที่สอยรถถังของนาซีเยอรมันกับรถถัง T-34 อันลือลั่นของโซเวียตจนขวัญผวามาแล้วในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลี  ::014::

(http://world.guns.ru/userfiles/images/grenade/m18/1301228084.jpg)

(http://world.guns.ru/userfiles/images/grenade/m18/1301228187.jpg)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ คนสันขวาน ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 04:55:44 PM
สวยทุกอันเลยครับที่เห็นนี่ของพรานหนุ่มทั้งหมดเลยหรือครับ  :D~  แล้วอันไหนเป็นปืนมหาเทพครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:05:28 PM
สวยทุกอันเลยครับที่เห็นนี่ของพรานหนุ่มทั้งหมดเลยหรือครับ  :D~  แล้วอันไหนเป็นปืนมหาเทพครับ








ของผมอยู่ในหน้า 3 ครับ ขอบคุณครับ  ::014:: ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:06:02 PM
ส่งเข้าประกวดด้วย ;D
(http://img204.imageshack.us/img204/1459/dsc0015small.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/204/dsc0015small.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:15:21 PM
 ::014:: ::014:: ปืนของ พี่ ๆ เพื่อน ๆ สมช.แต่ละคน สุดยอดทั้งนั้นเลยครับ  ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ คนสันขวาน ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:26:27 PM
สวยทุกอันเลยครับที่เห็นนี่ของพรานหนุ่มทั้งหมดเลยหรือครับ  :D~  แล้วอันไหนเป็นปืนมหาเทพครับ








ของผมอยู่ในหน้า 3 ครับ ขอบคุณครับ  ::014:: ;D
เกินร้อยรึยังครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:32:33 PM
 ::002:: ::002:: ::002::

(http://image.ohozaa.com/i/556/ivlQBg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7mnel)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:35:03 PM
  :VOV: :VOV:  Miss Thompson  ::011:: ::011::

(http://image.ohozaa.com/i/2de/HJz0k.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/73d6m) (http://image.ohozaa.com/i/3df/3xob1.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/73d6p) (http://image.ohozaa.com/i/220/OJDnd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/73d6s) (http://image.ohozaa.com/i/776/7pKN3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/73d6v)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:18:53 PM
กระบอกที่ 1500000 บาทนั่นเป็นไรเฟิลขนาดไหนครับ สวยมากๆ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:30:28 PM
สวยทุกอันเลยครับที่เห็นนี่ของพรานหนุ่มทั้งหมดเลยหรือครับ  :D~  แล้วอันไหนเป็นปืนมหาเทพครับ








ของผมอยู่ในหน้า 3 ครับ ขอบคุณครับ  ::014:: ;D
เกินร้อยรึยังครับ







72 ครับ ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:33:01 PM
กระบอกที่ 1500000 บาทนั่นเป็นไรเฟิลขนาดไหนครับ สวยมากๆ







ferlach double rifle side-lock premium grade .375 h&h mag. ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:34:23 PM
ส่งเข้าประกวดด้วย ;D
(http://img204.imageshack.us/img204/1459/dsc0015small.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/204/dsc0015small.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)







สู้ด้วย อิ อิ อิ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:35:01 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:37:41 PM
 ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:40:01 PM
ท่านเจ้าของสำนัก ซุ้มฯนางเลิ้ง บิดาข้าพเจ้าเองครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:40:55 PM
 ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:43:20 PM
sniper สไตท์ ชาวชุมไพร  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:44:39 PM
sniper สไตท์ชาวชุมไพร  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:45:57 PM
sniper สไตท์ชาวชุมไพร  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:46:50 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:48:11 PM
FN rifles cal. 7mm rem mag. ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:49:09 PM
7mm rem mag. กระสุนสุดโปรดของข้าพเจ้า  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:49:42 PM
 ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:50:52 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:52:13 PM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:53:15 PM
 :OO ::008::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 06:56:30 PM
วันนี้ขอตัวกลับ camp ชุมไพรก่อนนะครับ วันหน้าทีมชุมไพร จะมานำเสนอภาพและเกล็ดเล็กๆน้อยๆ มาสนับสนุนท่านเจ้าของกระทู้ต่อนะครับ  ::002::

                                                                            แด่   นักเลงไรเฟิลเมืองไทยจงเจริญ

                                                                                    พรานหนุ่ม   ชุมไพร สวัสดี  ::014:: ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 07:11:38 PM
 ::014:: ::014:: ขอบคุณมากครับท่านพรานหนุ่ม ที่มาสร้างสีสันท์ ให้ครับ  ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 07:57:00 AM
sako varmint 6mm ppc ของทีมชุมไพรครับ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 07:58:57 AM
ตัวข้าพเจ้าเอง(สมัยละอ่อน) กับ remington modelseven .308 win.ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:00:40 AM
ท่านพรานจอย  ชุมไพร กับ remington 700 ltr ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:04:11 AM
;D ;D ;D  711 สะดวก  24 ชม.  ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:11:10 AM
;D ;D ;D  711 สะดวก  24 ชม.  ::002:: ::002:: ::002::






อิ อิ อิ มาเป็นสไนท์เปอร์เหมือนกัน หรา??


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:17:21 AM
แอบมาเป็นสไนท์เปอร์หรา??


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:19:34 AM
 ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:22:43 AM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:33:19 AM
กระบอกนี้ไฮเทคสุดๆ เห็นพี่ป้อมบอกว่า ฝรั่งขอซื้อ สองล้าน แกไม่ขายเฉยเลย กลับบ้านคุณนายฝนเล่นสะน่วม ::007::
(http://img820.imageshack.us/img820/4445/img8882wsmall.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/820/img8882wsmall.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:40:31 AM
ขออนุญาตครับ

ในรูปพรานหนุ่ม ชุมไพร เอารูปทั้งตอนเด็ก ตอนหนุ่มมาลง ดูยังไงก้หนุ่มกว่าพี่จอยเยอะมากเลยครับ 

ขอบคุณครับ

   คุณ กระจงพูดแบบนี้ มาหาว่า น้าจอยเพื่อนผมขี้เหร่ใช่ไหม ไม่ต้องมาย้ำหรอกครับ
ยังไงน้าจอยแกก็ขี้เหร่อยู่แล้ว นี่ผมอยู่ข้างน้าจอยนะครับ อิ อิ อิ... ::005:: ::014::





หามิได้ครับพี่ ผมไม่ได้กล่าวหาพี่จอยครับ เพียงแต่ผมพูดความจริงไปตามที่เห็นครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:44:00 AM
ขออนุญาตครับ
ในรูปพรานหนุ่ม ชุมไพร เอารูปทั้งตอนเด็ก ตอนหนุ่มมาลง ดูยังไงก้หนุ่มกว่าพี่จอยเยอะมากเลยครับ 
ขอบคุณครับ
คุณ กระจงพูดแบบนี้ มาหาว่า น้าจอยเพื่อนผมขี้เหร่ใช่ไหม ไม่ต้องมาย้ำหรอกครับ
ยังไงน้าจอยแกก็ขี้เหร่อยู่แล้ว นี่ผมอยู่ข้างน้าจอยนะครับ อิ อิ อิ... ::005:: ::014::
หามิได้ครับพี่ ผมไม่ได้กล่าวหาพี่จอยครับ เพียงแต่ผมพูดความจริงไปตามที่เห็นครับ
เพี้ยงขอให้พายุเข้า ::012::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 12:27:56 PM
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 12:29:26 PM
steyr ssg 308 win. ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 12:30:26 PM
40-xb   :)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 12:31:40 PM
300 win mag  sako rifles :)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.MK ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 02:34:26 PM
+1  ที่ 33 ให้ คุณ PHAPHOOM ครับ สำหรับความรู้  :VOV:
+1  ที่ 712 ให้ คุณ พรานหนุ่ม ชุมไพร สำหรับรูปปืนสวยๆ  :D~
และอยากเสนอสุดยอด สไนเปอร์ อีก 2 คนครับ  คือ ครูประวิทย์ และ ลูกศิษย์คำแปง จากนักรบผูปิดทองหลังพระ ครับ แหะ แหะ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Nero Angel01 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 04:40:22 PM
กระบอกนี้ไฮเทคสุดๆ เห็นพี่ป้อมบอกว่า ฝรั่งขอซื้อ สองล้าน แกไม่ขายเฉยเลย กลับบ้านคุณนายฝนเล่นสะน่วม ::007::
(http://img820.imageshack.us/img820/4445/img8882wsmall.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/820/img8882wsmall.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)

อำกันเล่นใช่มั้ยครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:26:44 PM
 :VOV: :VOV: คุณหญิงดาริน (แอ๊ฟ ทักษอร)ในเพชรพระอุมา    ::002::

(http://image.ohozaa.com/i/20d/qRqZZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/568d0)
:VOV: :VOV: คุณหญิงดารินใช้ปืนอะไรบ้างในเพชรพระอุมาครับ   :VOV: :VOV:
ดาริน

แรกเริ่มตั้งแต่ออกจากหนองน้ำแห้ง ดารินแบก .270 (ไพรมหากาฬ เล่ม 1 หน้า 143) ใช้ยิงนกเหยี่ยว
ไล่ราวเลียงผา ใช้ .375 ของรพินทร์ยิง (ไพรมหากาฬ เล่ม 1 หน้า 171)
นั่งห้างกลางวัน วันที่ 2 ที่เขาโล้น ใช้ .270 วินเชสเตอร์ มาร์ลิน
ออกตามไอ้กุด ถือลูกซองแฝด (ไพรมหากาฬ เล่ม 1 หน้า 288)
เฝ้าซาก รอไอ้กุดรอบเช้า ไชยยันต์ (FN ของเชษฐา) กับดาริน (ปืนสั้น .357)
ที่โป่งกระทิง พอรู้ว่าไอ้แหว่งมาเยี่ยม ดารินถือ .458 แม็กนั่มอาฟริกัน
พาไชยยันต์แกะรอยกระทิง (ไพรมหากาฬ 2 หน้า 500) ดาริน .375 Holland@Holland ศูนย์เปิด
ย้อนรอยไปพุบอน ดูร่องรอยของไอ้แหว่ง (ไพรมหากาฬ 2 หน้า 573) ดารินใช้ .375
เตรียมออกล่าไอ้แหว่ง ดารินแบก .470 (ไพรมหากาฬ 2 หน้า 841)
ตอนเตรียมปะทะกับกองทัพลิง (ไพรมหากาฬ 3 หน้า 929)
ดาริน เบราว์นิ่ง กึ่งออโต้ 5 นัด

แยกกับกองเกวียนที่หุบชะมด (ไพรมหากาฬ 3 หน้า 1071)
ดารินพิชิตมหิงสาเขาเกกด้วย .470 ริกบี้ (ไพรมหากาฬ 4 หน้า 1306)

ตอนน้ำป่าซัด ดารินมีปืน .357 เป็นปืนแบบซิงเกิ้ลแอ็คชั่น ของรูเก้อร์ ลำกล้องยาว 6 นิ้วครึ่ง (ไพรมหากาฬ 4 หน้า 1368 )
ปะทะไอ้แหว่งรอบดึกที่ป่าหวายดารินเปลี่ยนมาใช้ .300 และกระบอกนี้เองที่พิชิตไอ้แหว่งได้ (ดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1831)
ไปตามเส่ยที่พุเตย รอบหลัง ดารินถือลูกซองแบบปั๊มแอคชั่น (ดงมรณะ เล่ม 2 หน้า)
สู้กับงูยักษ์ที่เขาอีโก้ ดารินใข้ .470 (ดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2302)

ตอนไปพบคะหยิ่นครั้งแรก (ดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2350) ดารินใข้ .300 เวเธอร์บี ยิงมะขวิดโชว์

ออกจากหล่มช้างแล้ว
ดารินใช้ .300 เวเธอร์บี แม็กนั่ม ติดศูนย์กล้องขยาย 4 นิ้ว มาโดยตลอด (ดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2674)
ในถ้ำ ดารินใช้ปืนทั้งหมด 5 กระบอกคือ ลูกซองสองกระบอก FN กึ่งอัตโนมัติ กับ Remington pump action และปืนสั้น 3 กระบอก .357 .44 .22

ที่มา  http://www.petprauma.com/gun/gunpet02.html

+1  ที่ 33 ให้ คุณ PHAPHOOM ครับ สำหรับความรู้  :VOV:
+1  ที่ 712 ให้ คุณ พรานหนุ่ม ชุมไพร สำหรับรูปปืนสวยๆ  :D~
และอยากเสนอสุดยอด สไนเปอร์ อีก 2 คนครับ  คือ ครูประวิทย์ และ ลูกศิษย์คำแปง จากนักรบผูปิดทองหลังพระ ครับ แหะ แหะ  ;D
::014:: ::014::ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:29:12 PM
DSR-1 Sniper Rifle

(http://image.ohozaa.com/i/522/QyZxw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sjp0)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:29:53 PM
45 ACP M3 Grease Gun

(http://image.ohozaa.com/i/23e/UdqfB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sjuq)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 08:31:30 PM
ปืนไรเฟิลทองคำของซัดดัม ฮุสเซน

(http://image.ohozaa.com/i/2b7/A8lwV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slvg)
(http://image.ohozaa.com/i/5b2/oFPh5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slvo)
(http://image.ohozaa.com/i/250/Kdf8p.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5slvl)
(http://image.ohozaa.com/i/2c0/ilTYq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sm0t)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 10:32:20 PM
พาวิลเชนโก สไนเปอร์หญิงแห่งกองทัพแดง
เธอเป็นสุดยอดสไนเปอร์หญิงแห่งกองทัพแดง ที่ส่งไป 2000 คน แต่รอดเพียง 500 คนเท่านั้น

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko (12 กรกฎาคม 1916 -- 10 ตุลาคม 1974) เป็น sniper โซเวียต ในช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง
สังหารศัตรูทั้งหมด 309ศพ และถือเป็นที่สุด sniper หญิงที่ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์
Pavlichenko เกิดใน วาบิลาเซอร์ค ที่ 12 กรกฎาคม 1916, Pavlichenko ย้ายไป เคียฟ กับครอบครัว พออายุ14 ปี มีเธอเข้าร่วมชมรมยิงและพัฒนาเป็น นักแม่นปืน ในขณะที่ทำงานเป็น เครื่องบด ที่ โรงงาน Arsenal Kiev ในปี 1937 เป็นของนักศึกษา มหาวิทยาลัย Kiev จนสำเร็จ
การศึกษา - เธอวิทยานิพนธ์ที่ Bohdan Khmelnytsky
ในเดือน มิถุนายน 1941 Pavlichenkoอายุ24 ปี เป็นปีที่สี่ของเธอในการศึกษาประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Kiev เมื่อ นาซีเยอรมนี เริ่มมี การรุกรานของสหภาพโซเวียต Pavlichenko ได้รอบแรกของอาสาสมัครที่สำนักงานจัดหางานที่เธอขอเข้าร่วมการรบ และภายหลังเธอได้มอบหมายให้อยู๋ กองพลทหารราบที่ 25 Pavlichenko มีตัวเลือกให้เป็นพยาบาล แต่ไม่ยอม"ฉัน เข้าร่วมกองทัพเมื่อผู้หญิงยังไม่ได้รับการยอมรับ"
เธอเป็น หนึ่งในสไนเปอร์หญิง 2,000คน ในกองทัพแดง ซึ่งมีผู้รอดประมาณ 500 ในที่สุดของสงคราม
Pavlichenko ต่อสู้ประมาณสองเดือนครึ่งและใกล้ Odessa ที่เธอบันทึกว่าได้สังหารไป 187 คน เมื่อ เยอรมันได้รับการควบคุมของ Odessa,
หน่วยของเธอจะถูกส่งไปยัง Sevastopol บน คาบสมุทรไครเมีย ที่เธอต่อสู้ กว่า 8 เดือน ในเดือนพฤษภาคม 1942 Pavlichenko ถูกอ้างโดย คณะกรรมการกองทัพภาคใต้ การฆ่าทหารเยอรมัน 257 คน แต่เธอยืนยันฆ่าทั้งหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 309 คน รวมถึง snipers 36 คน
ในเดือน มิถุนายน 1942 Pavlichenko บาดเจ็บจากการสู้รบ หลังจากที่เธอฟื้นตัวจากบาดแผล เธอก็ทำการรบน้อลง
Pavlichenko ถูกส่งไปยัง ประเทศแคนาดา และ สหรัฐอเมริกา เพื่อไปเผยแพร่เกียรติคุณและเป็นพลเมืองโซเวียตคนแรกที่ได้รับการต้อนรับจาก ประธานาธิบดีสหรัฐ แฟรงกลิน รูสเวลน์ ภายหลัง Pavlichenko ได้รับเชิญ รูสเวลน์ ทัวร์ทั่วอเมริกา
หลังจากที่กลับจากอเมริกา เธอไม่ได้เข้าสู่สนามรบ แต่เลือกที่จะเป็นผู้ฝึกสอนสไนเปอร์ จนสิ้นสุดสงคราม
หลังสงคราม เธอกลับไปศึกษาต่อที่มหารวิทยาลัยเคียฟจนจบการศึกษา และได้ทำงานด้านประวัติศาสตร์ ต่อมาเธอได้เป็นคณะกรรมการทหารผ่านศึก
Pavlichenko ตายที่ 10 ตุลาคม 1974 ที่อายุ 58 และถูกฝังใน สุสาน Novodevichye ใน Moscow
ในปี 1976 สหภาพโซเวียตได้นำภาพของเธอลงบนแสตมป์ และได้มีเรือสินค้ายูเครนนำชื่อเธอไปตั้งเป็นชื่อเรือ

เครดิต --> http://www.bloggang.com/viewblog.php...roup=3&gblog=1


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 11:18:40 PM
+1 ขอบคุณมากครับพี่ทิดเป้า  ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:34:22 PM
ท่านพรานบุญ  ชุมไพร กับไรเฟิล 40-xb ตัวโปรดคู่มือข้าพเจ้า  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:35:55 PM
ท่านพรานบุญ ชุมไพร กับ cz .30-06 ครับท่านสมาชิก  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:37:38 PM
พนมเทียน (คุณลุงฉัตรชัยฯ) กับ fn คู่ใจต้นกำเหนิด"นวนิยาย เพชรพระอุมา" ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:38:58 PM
สไนท์เปอร์ แบบบ้านๆ ชาวชุมไพร  ::005::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:41:20 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:41:55 PM
 :o


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:43:10 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:44:38 PM
 ::002:: ::002::  พรานโน  ชุมไพร กับ 243 win ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:46:02 PM
winchester m70 super grade  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:46:53 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:48:43 PM
บิดาข้าพเจ้า(ผ้าขาวม้าพาดบ่า) และ ท่าน อ.ก๊ก ดำรงค์แสงชูวงค์ นักนิยมไพร รุ่นลายคราม และ อุปกรณ์  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:52:22 PM
ท่านพรานแอ๊บ ชุมไพร กับ การทดสอบไรเฟิล weatherby 416 magnum ในหนังสือ อวป. เล่มที่ 264 ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 06:54:17 PM
คืนนี้ผมฝากไว้เท่านี้ก่อนนะครับ พี่ phaphoom วันหน้าเดี๋ยวมาแจมใหม่นะครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 07:33:15 PM
 :)คุณสมบัติของสไนเปอร์

พลซุ่มยิง (Sniper) เมื่อได้ยินคำนี้หลายคนจะนึกถึงผู้ที่มีความสามารถสูงในเรื่องของการยิงปืนในระยะ ไกล แต่หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าพลซุ่มยิงนอกจากจะ ต้องมีขีดความสามารถในเรื่องของการยิงปืนแล้วเรื่องของความ สามารถอยู่รอดได้ (survivability) ในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นระยะเวลานาน เช่น ในป่า หรือ ในพื้นที่สิ่งก่อสร้าง หน้าที่ของพลซุ่มยิงคือ การวางวิถีกระสุนอย่างแม่นยำไปยังฝ่ายข้าศึก ซึ่งทหารในหน่วยต่างๆ ไม่สามารถทำการยิงได้ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะ ระยะทาง ขนาดของกำลังข้าศึก ที่ตั้งฝ่ายข้าศึก หรือว่าการมองเห็น

              ผู้ที่จะเป็นพลซุ่มยิงได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีลักษณะที่พิเศษอย่างดังตัวอย่างในระเบียบราชการสนาม 23-10  การฝึกพลซุ่มยิง (FM-23-10 Sniper Training) ของกองทัพบกสหรัฐฯ ได้มีแนวทางในการคัดเลือกกำลังพลเข้าทำการฝึกเป็นพลซุ่มยิงจะมีข้อพิจารณาอยู่ด้วยกัน 6 ประการ คือ
              1. แม่นปืน: ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกเป็นพลซุ่มยิงจะต้องมีความสามารถในการยิงปืนดีเลิศ ถ้าผ่านการแข่งขันทางด้านการยิงปืน หรือ การล่าสัตว์มาก่อนจะเป็นข้อได้เปรียบในการคัดเลือกเข้ารับการฝึก
              2. สุขภาพร่างกายแข็งแรง: ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกเป็นพลซุ่มยิง จะต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและ ถ้าเคยผ่านการเป็นนักกีฬาในประเภทต่างๆ ก็จะได้เปรียบในการคัดเลือกเข้ารับการฝึก
              3. ความสามารถมารถในการมองเห็น: ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกจะต้องเป็นผู้ที่ไม่ใส่แว่นสายตา เพราะจะเป็นการเสี่ยงต่อความล้มเหลวของภารกิจเมื่อแว่นสายตา ชำรุด หรือสูญหายในพื้นที่ปฏิบัติการ นอกจากนี้จะต้องไม่ตาบอกสี เพราะจะมีปัญหาในการแยกเป้าหมายจากสิ่งแวดล้อม
              4. เป็นผู้ที่ไม่สูบบุหรี่: ผู้ที่เข้ารับการฝึกจะต้องไปเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะเป็นการเปิดเผยที่ตั้งของตนเอง นอกจากนี้การปฏิบัติงานจริงจะต้องอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้เป็นระยะเวลานาน การที่ไม่สูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานของผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยิงลดลง
              5. มีความมั่นคงทางอารมณ์สูง: ผู้ที่เข้ารับการฝึก จะต้องเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีในภาวะต่าง ๆ เพราะการปฏิบัติงานจริงอาจจะต้องตกอยู่ในภาวะที่มีความกดดันสูง การลั่นไก ณ เวลา และสถานที่ที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อการปฏิบัติงานของพลซุ่มยิง
              6. มีระดับสติปัญญาที่ดี: ผู้ที่เข้ารับการฝึกนั้นจะต้องเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ ขีปนวิธี กระสุนลักษณะต่าง ๆ การปรับแต่งอุปกรณ์ช่วยเล็ง การใช้วิทยุสื่อสาร การตรวจการณ์ และการปรับการยิง เครื่องยิงลูกระเบิดและปืนใหญ่ การเดินแผนที่และเข็มทิศ การรวบรวมและรายงานข่าวสาร และการพิสูจน์ฝ่ายและอาวุธยุทโธปกรณ์

เครดิต...http://www.ratchaburibbgun.com/index.php?topic=6.0




หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 07:57:57 PM
 ::014::
องค์ประกอบชุดซุ่มยิงลาดตระเวน

ในหนึ่งชุดซุ่มยิงลาดตระเวนจะประกอบไปด้วยกำลังพล 2 นายคือ 1) พลซุ่มยิง (Sniper) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการซุ่มยิง และ 2) พลชี้เป้า (Spotter) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่วัดระยะจากที่วางตัวไปยังเป้าหมายแล้วแจ้งให้พลซุ่มยิงทราบ



 

โดยหลักการแล้วการการใช้ซุ่มยิงลาดตระเวนเข้าไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ปฏิบัติการจะมีการดำเนินการอยู่ 3 ขั้นตอนคือ
              ขั้นที่ 1 แทรกซึม: การแทรกซึมเป็นการปฏิบัติที่มีความสำคัญต่อภารกิจเป็นอย่างมากเพราะว่า ถ้าชุดซุ่มยิงถูกตรวจพบ ก็ย่อมจะส่งผลให้ภารกิจที่ได้รับมอบมีโอกาสล้มเหลว การวางแผนในการแทรกซึมจะต้องวางอย่างรัดกุม และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งการวางแผนจะต้องใช้ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ การข่าว การลวง ความเร็ว และความคล่องตัว การอำพราง การตรวจจับของข้าศึก และการระวังป้องกัน สำหรับการแทรกซึม  ชุดซุ่มยิงสามารถแทรกซึมเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ ได้จากการแทรกซึมทางอากาศ แทรกซึมสะเทินน้ำทะเทินบก และแทรกซึมทางบก


     

    การพรางตัว                                                    การแทรกซึม

ขั้นที่ 2 ปฏิบัติต่อเป้าหมาย: สามารถแบ่งการปฏิบัติย่อย ๆ ออกเป็น การเคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมาย การเลือกจุดวางตัว การวางตัวและการตรวจการณ์ การรายงาน และ การถอนตัวออกจากจุดวางตัว



การเคลื่อนที่เข้าปฏิบัติต่อที่หมาย

ขั้นที่ 3 ถอนตัว: การถอนตัวเป็นการปฏิบัติที่ต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดีเพราะว่า ถ้าขาดการวางแผนที่รัดกุมชุดซุ่มยิงอาจจะไม่สามารถออกจาก พื้นที่ที่เข้าไปปฏิบัติการได้ การถอนตัว สามารถกระทำได้โดยทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ หรือทางยานยนต์ นอกจากนี้ ชุดซุ่มยิงจะต้องเตรียมการในเรื่องของการ หลบหลีกและหลีกหนี (Evasion and Escape) ไว้ด้วย เมื่อถูกไล่ติดตามจากกำลังฝ่ายข้าศึก



ในการปฏิบัติการทางทหารนั้นการใช้การชุดซุ่มยิงลาดตระเวนจะมีมาตั้งแต่ในอดีตดังเช่น วีรกรรมของ Zaitsev นั้นเป็นที่กล่าวขานในกองทัพแดง (กองทัพรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 2) และประชานชนในสตาลินกราด รวมถึงกองทัพเยอรมันเป็นอย่างมาก มีการกล่าวว่า Zaitsev นั้นมี body count ถึง 244 ศพ แต่มีการยืนยันจริง เพียง 144ศพ ส่วนคู่ต่อกรของ Zaitsev นั้นคือ พันตรี Thorwald (ในบางรายงานจะใช้ชื่อ Keonig) ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์จากโรงเรียนพลซุ่มยิง ใกล้กรุงเบอร์ลิน ที่ถูกส่งตัวมายังสตาลินกราดเพื่อทำการยุติบทบาทของ Zaitsev (แต่ไม่มีการยืนยันว่า Thorwald มีตัวตนจริง) เรื่องราวเหล่านี้เป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ทหารที่มีการกล่าวถึงพลซุ่มยิง และได้มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง Enemy at the Gates
             นอกจาก Zaitsev แล้วพลซุ่มยิงที่มีชื่อเสียงในอดีตอีกคนหนึ่งได้แก่ พันจ่าตรี Carlos N. Hathcock II แห่งนาวิกโยธิน สหรัฐฯ ในสงครามเวียตนาม ที่มี body count 93 ศพ (ไม่ยืนยัน 360 ศพ) ทำให้ฝ่ายเวียดนามเหนือตั้งค่าหัวถึง 30,000 เหรียญสหรัฐ หลังจากสงครามเวียดนาม Carlos ได้รับบาดเจ็บ และเกษียณราชการเมื่อปี ค.ศ. 1979 ไปเป็นครูสอนพลซุ่มยิงให้กับชุดซุ่มยิงของหน่วย SWAT ที่มลรัฐเวอร์จิเนีย ขีดความสามารถของ Carlos เป็นที่กล่าวขานกันเพราะยิงเป้าหมายจากระยะที่ประมาณ 700 หลา โดยจะแทรกซึมจาก ระยะ 1000 หลา โดยใช้เวลาประมาณ 4 วันในการแทรกซึมไปยังจุดวางตัวโดยค่อยๆ คลานเข้าไปที่ระยะ 700 หลา ซึ่งเป็นระยะที่ทำการยิงเป้าหมาย
           จากที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นจะพบว่าในอดีตการใช้ชุดซุ่มยิงลาดตระเวนจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการจำกัดการเคลื่อนไหวหรือการปฏิบัติการของข้าศึก ชุดซุ่มยิงลาดตระเวน 1 ชุดสามารถที่จะหยุดการเคลื่อนที่ของทหารหนึ่งกองพลได้ถ้ามีการใช้งานที่เหมาะสม ดังนั้นในการปราบปรามกองโจรที่ก่อความไม่สงบนั้น ชุดซุ่มยิงลาดตระเวนจะเป็นเครื่องมือทางยุทธวิธีที่จะทำให้กองโจรขาดเสรีในการปฏิบัติ
           อย่างไรก็ดีการใช้ชุดซุ่มยิงลาดตระเวนเป็นเรื่องที่ต้องมีการวางแผนอย่างรัดกุมทั้งนี้เพราะข้อจำกัดในการเลือกยิงเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความละเอียดอ่อนสามารถนำมาใช้เป็นเงื่อนไขได้ การปฏิบัติของชุดซุ่มยิงลาดตระเวน ควรจะนำมาใช้กับกองโจรที่อยู่ในป่าซึ่งเป็นพื้นที่ที่ความชัดเจนว่า ถ้าชาวบ้านปกติคงไม่ถืออาวุธและเข้าไปเดินในป่า ดังนั้นชุดซุ่มยิงลาดตระเวนจึงเหมาะกับการซุ่มยิงหน่วยรบขนาดเล็ก RKK (Runda Kumpulan Kecil) หรือที่เรียกว่า หน่วยคอมมานโด ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีลักษณะเป็นหน่วยทหารขนาดเล็กทำงานแบบหน่วยจรยุทธ์ มีกำลังพลเป็นระดับเยาวชนและคนหนุ่มที่ได้รับการฝึกจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการยิงปืน เพื่อก่อความไม่สงบ
           ถึงแม้การใช้ชุดซุ่มยิงลาดตระเวนเข้าทำการซุ่มยิง RKK จะช่วยลดขีดความสามารถของกลุ่มก่อความไม่สงบได้ก็ตาม  แต่การดำเนินการเชิงรุกต่อกลุ่มก่อความไม่สงบคงต้องอาศัยหน่วยทหารขนาดเล็กของฝ่ายเราปฏิบัติการร่วมกับชุดซุ่มยิงลาดตระเวน โดยหน่วยทหารขนาดเล็กจะเป็นหน่วยที่ปฏิบัติการหลักทำการลาดตระเวนอย่างเต็มพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ทำการซุ่มโจมตี RKK และเข้าตีโฉบฉวยต่อฐานที่มั่น RKK ส่วนชุดซุ่มยิงลาดตระเวนจะทำหน้าที่สนับสนุน และรวมถึงการปฏิบัติแบบอิสระ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 08:08:01 PM
หน่วยซีล ทบ.2 มาเอง ::007::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 08:12:17 PM
หน่วยซีล ทบ.2 มาเอง ::007::

 ::005::ซีลแก้ว ซีลขวด อิอิอิ...


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 08:15:23 PM
 ;)พี่จอยขรา....นู๋จะยิงแล้วนะคร๊า



หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 08:25:16 PM
ท่านี้ ทหารเกณฑ์เค้าเรียก"ท่านั่งราบ"...ตอนฝึก ก็งั้นๆแหละ...พอพระเอกหนังยิงในท่าเดียวกัน โค-ตะระเท่เลย


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 09:03:43 PM
หน่วยซีล ทบ.2 มาเอง ::007::







ซีลฯ ทบ.??  ??  ??  ??  :OO :OO :OO :OO :OO :OO :OO ???


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 09:11:21 PM
หน่วยซีล ทบ.2 มาเอง ::007::







ซีลฯ ทบ.??  ??  ??  ??  :OO :OO :OO :OO :OO :OO :OO ???

 ::005::ไม่ต้องงงครับท่านพราน...หน่วยนี้ ตั้งมาลับๆ...นานแล้ว...ความลับ ยังเป็นความลับต่อไป...วันหลัง ผมจะนำภาพของการฝึกซีลหน่วยนี้มาเปิดเผย...เท่าที่จะทำได้โดยไม่ขัดต่อระเบียบของกองทัพครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ คนสันขวาน ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 09:44:26 PM
อาวุธที่ใช้ของชุดซุ่มยิงติดที่ลดเสียงด้วยหรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 09:54:02 PM
พนมเทียน (คุณลุงฉัตรชัยฯ) กับ fn คู่ใจต้นกำเหนิด"นวนิยาย เพชรพระอุมา" ::002::
ชอบภาพนี้จังเลยครับ ขอบคุณสำหรับภาพในอดีต สวย ๆ ครับท่านพรานหนุ่ม ชุมไพร

ขอบคุณสำหรับความรู้ เรื่องสไนเปอร์ครับพี่ทิดเป้า 



หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 10:20:27 AM
 ;D มาแว้ว!


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 10:20:56 AM
remington msr sniper rifles


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 10:26:07 AM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 10:30:11 AM
remington vssf 2 ครับท่านสมาชิก  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 10:36:12 AM
 ;D วางเบดดิ้งแบบลอยตัวอิสระ ไม่ยืดติดกับพานท้าย เพื่อความแม่นยำอันสูงสุด (free-floating barrel)  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 12:46:26 PM
วันนี้ก๊วน! นักแม่นปืนระยะไกล เงียบเลยนะครับท่านพี่ phaphoom  ::005:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2012, 03:22:46 PM
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: PHAPHOOM ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2012, 05:36:09 PM
 ::014:: ::014:: สวัสดียามเย็นครับท่านพรานหนุ่มและเพื่อน สมช ทุกท่าน เพิ่งกลับมาจากประชุมที่ กทม 2 วันครับ   ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2012, 05:47:23 PM
::014:: ::014:: สวัสดียามเย็นครับท่านพรานหนุ่มและเพื่อน สมช ทุกท่าน เพิ่งกลับมาจากประชุมที่ กทม 2 วันครับ   ::014:: ::014::






สวัสดีครับ เอา sako l461 มาฝากครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2012, 11:31:41 PM
ผมชอบปืนไรเฟิลแบบทหารมากกว่าครับ ชอบแบบก้านลูกเลื่อนตรง พานท้ายกับโครงปืนเป็นไม้ไม่ทาแลกเกอร์ และติดดาบปลายปืนด้วย มันดูคลาสสิกดีครับ

ปืน Mosin-Nagant พร้อมดาบปลายปืนและอุปกรณ์
(http://img809.imageshack.us/img809/9949/mosinnagant.jpg)

(http://img31.imageshack.us/img31/8196/mnwithbayonet.jpg)

(http://img38.imageshack.us/img38/6885/mnaccessaries.jpg)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2012, 03:02:43 PM
...อย่างไรก็ตามรายการนี้ไม่มีสไนเปอร์เยอรมันเลย และไม่มีจ่ายอร์กด้วย

แนะนำหนังสือ

Sniper on the Eastern Front - The Memoirs of Sepp Allerberger Knights Cross (ยอดสังหารข้าศึกในบทบาทสไนเปอร์ ๒๕๗ คน)

มีเกร็ดประวัติศาสตร์การรบกับโซเวียตหลายเรื่อง

- สไนเปอร์เยอรมันจำนับจำนวนยิงได้ต่อเมื่อมีพยานบุคคลที่เห็นศพด้วยยืนยันเท่านั้น และนับเฉพาะที่ล่าเองได้เท่านั้น ไม่นับจำนวนข้าศึกที่ยิงได้ในการปะทะกันในขบวนรบ

- ในการยิงข้าศึกที่เข้าตี Sepp เลือกจะยิงข้าศึกคนที่อยู่ข้างหลังก่อน โดยยิงที่ท้องเพราะไม่ตายทันที จะแผดเสียงเจ็บให้ทหารระลอกหน้าระส้ำระสาย

ฯลฯ


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2012, 04:11:26 PM
ผมชอบปืนไรเฟิลแบบทหารมากกว่าครับ ชอบแบบก้านลูกเลื่อนตรง พานท้ายกับโครงปืนเป็นไม้ไม่ทาแลกเกอร์ และติดดาบปลายปืนด้วย มันดูคลาสสิกดีครับ

ปืน Mosin-Nagant พร้อมดาบปลายปืนและอุปกรณ์
(http://img809.imageshack.us/img809/9949/mosinnagant.jpg)

(http://img31.imageshack.us/img31/8196/mnwithbayonet.jpg)

(http://img38.imageshack.us/img38/6885/mnaccessaries.jpg)

(http://img688.imageshack.us/img688/7803/img0899e.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/688/img0899e.jpg/)

ก้านลูกเลื่อนตรงๆแบบกระบอกขวาสุดใช่ไหมครับ  ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2012, 04:17:45 PM
................................... :VOV: :VOV:......................................... ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2012, 10:26:33 PM
(http://img688.imageshack.us/img688/7803/img0899e.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/688/img0899e.jpg/)

ก้านลูกเลื่อนตรงๆแบบกระบอกขวาสุดใช่ไหมครับ  ;D

ผมชอบปืนไรเฟิลทหารแบบก้านลูกเลื่อนตรงแบบทั้ง 3 กระบอกของอามะขิ่นนี่เลยครับ จะเป็นแบบก้านตรงหักลงล่างแบบสองกระบอกซ้ายอย่างปืน Mauser Kar98K กับปืน Springfield M1903 หรือจะแบบก้านตรงตลอดแบบปืน Arisaka กระบอกขวาก็ได้ครับ ผมเองไม่ค่อยชอบปืนไรเฟิลแบบก้านเยื้องมาข้างหลัง มันไม่ถนัดยังไงไม่รู้ครับ ::014::

ป.ล. ไม่ทราบว่าปืน Arisaka กระบอกนี้รุ่นไทป์อะไรหรือครับอา แล้วใช้กระสุนขนาด 6.5 มม.หรือ 7.7 มม. ครับ ???  


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2012, 11:18:21 PM
ไทป์ 38 ครับ ขนาด 6.5 มม.ครับ  ................


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 12:55:24 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 01:49:04 PM
;D ;D ;D  711 สะดวก  24 ชม.  ::002:: ::002:: ::002::






อิ อิ อิ มาเป็นสไนท์เปอร์เหมือนกัน หรา??

;D ;D ;D 717  ค่อยรอโอกาสให้พี่หนุ่มเหลือล้นเป็นครูฝึก  ::014:: :VOV:


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 02:07:38 PM
หน่วยซีล ทบ.2 มาเอง ::007::
ซีลฯ ทบ.??  ??  ??  ??  :OO :OO :OO :OO :OO :OO :OO ???
::005::ไม่ต้องงงครับท่านพราน...หน่วยนี้ ตั้งมาลับๆ...นานแล้ว...ความลับ ยังเป็นความลับต่อไป...วันหลัง ผมจะนำภาพของการฝึกซีลหน่วยนี้มาเปิดเผย...เท่าที่จะทำได้โดยไม่ขัดต่อระเบียบของกองทัพครับ
::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:18:46 AM
ไทป์ 38 ครับ ขนาด 6.5 มม.ครับ  ................
อามะขิ่นครับ

ปืนไทป์ 38 กระบอกนี้ของอาไม่มีฝาครอบลูกเลื่อนมาด้วยหรือครับ ??? ??? ???

ผมดูในเวบ http://world.guns.ru ปืนรุ่นนี้มันมีฝาครอบลูกเลื่อนด้วยนะครับ

ฝาครอบลูกเลื่อน (Bolt Cover) ของปืน Type 38 Arisaka
(http://world.guns.ru/userfiles/images/rifle/5/1288255660.jpg)


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 07:37:30 AM
กระบอกนี้ไม่มีครับ ...............แต่อีกกระบอกมี เผอิญผมได้มาใหม่อีกกระบอกหนึ่ง มีครอบลูกเลื่อนมาเรียบร้อย

กระบอกในรูปปัจจุบันไม่ได้อยู่กับผมแล้ว ไปอยู่กับเจ้าของใหม่(เคยลงทดสอบใน อวป.)

 ;D



หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 10:34:09 PM
กระบอกนี้ไม่มีครับ ...............แต่อีกกระบอกมี เผอิญผมได้มาใหม่อีกกระบอกหนึ่ง มีครอบลูกเลื่อนมาเรียบร้อย

กระบอกในรูปปัจจุบันไม่ได้อยู่กับผมแล้ว ไปอยู่กับเจ้าของใหม่(เคยลงทดสอบใน อวป.)

 ;D
ปืนไทป์ 38 กระบอกเก่าใช่ที่ยิงแล้วกระสุนเอาข้างฟาดเป้าหมดทุกนัดใช่ไหมครับ ผมเองเคยอ่านเรื่องทดสอบปืนไทป์ 38 ใน อวป. แต่จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้วครับ :D

แล้วปืนไทป์ 38 กระบอกใหม่นี้สันเกลียวคม ยิงแล้วกระสุนไม่เอาข้างฟาดและกลุ่มกระสุนแน่นดีไหมครับอา ส่วนฝาครอบลูกเลื่อนนี่ติดมาเป็นชิ้นเดียวกับตัวลูกเลื่อนหรือว่าถอดแยกชิ้นได้ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 11:04:58 PM
กระบอกที่ได้มาไม่มีปัญหาครับ ..................

ฝาครอบเป็นชิ้นส่วนแยกครับ ถอด-ใส่ได้


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: INFANTRY - LONG LIVE THE KING ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2012, 01:46:06 PM
ผมเคยได้ยิน....พวกไม่รู้(จริง) คุย(โม้)..."ปืนติดกล้อง มันเลยยิงแม่น ใครก็ยิงได้"

ฟังแล้ว...น่าจับไปรบจริงๆ...


ปล. สไนเปอร์ของไทย ในหน่วยรบพิเศษ ก็ไม่เบา น่านับถือเหมือนกันครับ(ยอดอาจจะไม่ถึงของต่างชาติเขา)

      พวกนี้ปิดทองหลังพระโดยแท้จริง ภารกิจที่ทำไป...เพื่อประเทศชาติ (ถูกกฎหมาย) ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2012, 03:03:58 PM
กระบอกที่ได้มาไม่มีปัญหาครับ ..................

ฝาครอบเป็นชิ้นส่วนแยกครับ ถอด-ใส่ได้
ขอถามอีกสักนิดนะครับอา

1) ปืนไทป์ 38 รุ่นนี้ติดกล้องได้ไหมครับ แล้วเวลาติดกล้องจะติดที่ด้านข้่างหรือด้านบนลูกเลื่อนครับ

2) ระบบลูกเลื่อนของปืนไทป์ 38 เป็นแบบเมาเซอร์หรือแบบอื่นๆครับ

ผมขอขอบพระคุณมากครับ ที่คุณอาสละเวลามาตอบให้ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2012, 05:39:42 PM
กระบอกที่ได้มาไม่มีปัญหาครับ ..................

ฝาครอบเป็นชิ้นส่วนแยกครับ ถอด-ใส่ได้
ขอถามอีกสักนิดนะครับอา

1) ปืนไทป์ 38 รุ่นนี้ติดกล้องได้ไหมครับ แล้วเวลาติดกล้องจะติดที่ด้านข้่างหรือด้านบนลูกเลื่อนครับ

2) ระบบลูกเลื่อนของปืนไทป์ 38 เป็นแบบเมาเซอร์หรือแบบอื่นๆครับ

ผมขอขอบพระคุณมากครับ ที่คุณอาสละเวลามาตอบให้ครับ  ::014::

ติดกล้องด้านข้างครับ ..............แต่ที่ศึกษามาส่วนใหญ่ติดใน ไทป์99 ขนาด 7.7 มม. ครับ

ลูกเลื่อนเป็นแบบเมาเซอร์ครับ แต่ออกแบบห้ามไกใหม่ จากแบบคันโยกสวิงซ้าย-ขวาดั้งเดิม(ของ Kar98) เป็นแป้นลูกเบี้ยวแบบกด-บิด.....................


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2012, 07:06:35 AM
ใช้รุ่นเดียวขนาดเดียวกับผมเลยนะพี่แอ๊ด 40-xb  ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2012, 07:07:33 AM
 ;D ;D ;D  มิสเตอร์ 40-xb  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มีนาคม 21, 2012, 10:59:38 AM
 ;D ;D


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ มีนาคม 21, 2012, 03:43:05 PM
Clipนี้ไม่ทราบเพื่อน สมช นำมาลงหรือยัง ถ้าลงก่อนหน้านั้นแล้วขออภัย แต่เนื้อหาแหล่มมากๆความยาวชั่วโมงครึ่ง ผมดูแล้วอารมณ์เหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ สังเกตุช่วงนาที55ที่คาร์ลอส แฮนด์คลอ็ก ยิงทะลุกล้องเล็งของผลซุ่มยิงเวียดกง โดยอาศัยแสงสะท้อนของกล้องอีกฝ่ายเป็นเป้า ซึ่งเป็นตำนานมาถึงปัจจุบันนี้ ;D ::002::
http://www.youtube.com/watch?v=qsIUbRPLq1Y


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: พรานหนุ่ม ชุมไพร ที่ มีนาคม 25, 2012, 10:25:34 AM
ตัวแทน"ชมรมชุมไพร"ที่ไปแข่งขันสนามเมืองชลฯครับ  ;D

ท่าน พรานป๊อก ชุมไพร( pok3344)  ::002:: ::014::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: cz_dee *รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2012, 01:37:21 PM
ตัวแทน"ชมรมชุมไพร"ที่ไปแข่งขันสนามเมืองชลฯครับ  ;D

ท่าน พรานป๊อก ชุมไพร( pok3344)  ::002:: ::014::
::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: dhanapol ที่ มีนาคม 26, 2012, 01:51:53 PM
 ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: +++ 10 เทพ สไนเปอร์ +++
เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ เมษายน 01, 2012, 12:49:39 PM
ลิงค์น่าสนใจครับ ได้ความรู้เยอะ

http://www.youtube.com/watch?v=-XJmWXsZKNk&feature=relmfu

แต่เสียงในฟิมล์น่ะครับ  ;D ;D ;D ::014::