ข้อมูลเก่าไปหรือเปล่าผมไม่ทราบครับ ผมก็อยากรู้ครับ
http://th.wikipedia.org/wiki/BB_gunบีบีกัน (BB Gun) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Airsoft gun เป็นปืนอัดลมเบา ซึ่งมีประสิทธิเหนือกว่าปืนอัดลมทั่วไป ปืนชนิดนี้ทำงานได้โดย 3 ระบบคือ ระบบแก๊ส อัดลมด้วยมือAir cocking และระบบไฟฟ้า ซึ่งลักษณะของตัวปืนนั้นมีความคล้ายคลึงกับของจริงเป็นอย่างมาก เริ่มใช้งานครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น และจัดเป็นกีฬาในลักษณะเกมผจญภัย (survival game) เช่นเดียวกับ เพนต์บอล
BB Gun ถูกผลิตมาจากหลากหลายประเทศ ส่วนมากมักมาจากประเทศญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ซึ่งถือว่าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นเป็นที่น่าไว้วางใจสุด เนื่องจากมีมาตรฐานสูงและแม่นยำมาก สำหรับ BB gun ในประเทศไทยได้รับความนิยมค่อนข้างมากเนื่องจากมีความสนุกสนาน และ หลากหลาย อีกทั้งยังจำลองเป็นแบบสงครามด้วยจึงเป็นที่นิยมแก่วันรุ่นหรือ เยาวชน ต่างๆก็สนใจเล่นมากขึ้นแต่ยังติดที่ต้นทุนที่สูงของปืน(โดยเฉพาะของญี่ปุ่น) และลูกกระสุน
บีบีกันมีอันตรายต่อ ผิวหนังของมนุษย์หรือสัตว์นั้นจะทำให้เกิดการบุบตัวของผิวหนัง มีเลือดออก เป็นแผลที่เป็นหลุมลึก บวม ถ้าโดนยิงใส่ตาโดยไร้เครื่องป้องกัน อาจทำให้ตาบอดได้ โดยเฉพาะปืนที่มีความเร็วประมาณ 340 ฟุตขึ้นไปควรระวังเป็นพิเศษดังนั้นจึงต้องใส่หน้ากากทุกครั้งเมื่อลงเล่นกีฬาชนิดนี้
ในประเทศไทย บีบีกันถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท "สิ่งเทียมอาวุธปืน" ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ปืนชนิดนี้เป็นปืนอัดลมชนิดเบา ถือได้ว่าเป็นอาวุธปืนตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 เช่นเดียวกับปืนเพนต์บอล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมแจ้งให้ทะเบียนท้องที่ทั่วประเทศทราบ
ตามที่กล่าวมาเลยครับ เคยมีการประชุมระหว่างกลุ่มคนเล่นปืน BB กับ กลุ่มของภาครัฐก็จะมีเจ้าหน้าที่หลายๆส่วนที่เกี่ยวข้อง ประมาณปี 49 ผมจำไม่ได้แล้ว
ผลสรุปที่ได้คือ ปืน BB และ ปืน paintball จัดเป็นอาวุธปืนไม่ใช่สิ่งเทียมอาวุธปืน เพราะ กฎหมายบ้านเราไม่มีการแยกแยะว่าเครื่องกระสุนปืนว่าป็นโลหะจะเป็นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนพลาสติกจะเป็นสิ่งทีเทียมอาวุธปืนหรือของเล่น แต่กฎหมายกล่าวแบบรวมๆกันไว้ ไม่มีการแยกแยะ
ประการที่สอง กฎหมายบ้านเราไม่มีการแยกความเร็วของเครื่องกระสุนที่พุ่งออกจากลำกล้องว่า เท่าไรจะเรียกว่าของเล่น เท่าไรจะเรียกว่าอาวุธปืนที่ต้องมีใบอนุญาตให้มีและใช้ ดังนั้น บทสรุปจึงออกมาเป็นอย่างที่บอกครับ
แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้มีการกระจายข่าวออกไปเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่