๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 02, 2024, 03:33:32 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สิ่งหนึ่งในน้ำใจโจร  (อ่าน 2356 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6923


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 11:52:05 AM »

สิ่งหนึ่งในน้ำใจโจร
โดย ท.เลียงพิบูลย์

จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๑



เมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ เล็กน้อย มีเหตุการณ์อย่างหนึ่งได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอย่างไม่รู้จักลืมเลย ข้าพเจ้ายังจำได้ดีในวันนั้น เราได้นัดเพื่อนฝูงจะไปเที่ยวจังหวัดลพบุรี รวมด้วยกันทั้งข้าพเจ้าเป็นสามคน ข้าพเจ้าได้จดหมายไปนัดเพื่อนฝูงทางจังหวัดลพบุรีว่า เราจะขึ้นไปเที่ยวโดยกำหนดวันแน่นอน เวลานั้นทางสายนี้เปิดขึ้นใหม่ๆ เป็นทางที่ยาวที่สุดเพียงสายเดียวคือกรุงเทพฯ – ลพบุรี

ครั้นถึงกำหนดเวลาจะเดินทางไปจริงๆ เข้า เพื่อนทั้งสองที่นัดไว้ก็เผอิญติดธุระสำคัญไปด้วยไม่ได้ ไม่มีทางจะแก้ไขอย่างไรได้ นอกจากเลือกเอาว่าจะไปหรือไม่ ถ้าไปก็ต้องไปคนเดียว แต่ถ้าไม่ไปเพื่อนทางลพบุรีก็จะประณามได้ว่าเป็นคนเล่นตลก ตกลงเลือกเอาว่าไปคนเดียวดีกว่า ไม่อยากให้เสียคำพูด เพราะจะไปนัดเพื่อนคนอื่นๆ ก็ไม่มีเวลาพอจึงขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไปคนเดียวแต่เช้ามืด โดยรู้สึกไม่สนุกและเงียบเหงา แต่เพื่อรักษาคำพูด

เวลานั้นระยะทาทางจากรุงเทพฯ ถึงลพบุรี ทางไม่ค่อยจะสะดวกนัก บางแห่งถนนก็ไม่ค่อยจะเรียบร้อย แต่ข้าพเจ้าก็ได้ขับรถไปถึงลพบุรีโดยเรียบร้อย เวลาก่อนเพล ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนผู้มีใจอารีทางลพบุรีเป็นที่พอใจที่สุด มีการพาไปชมสวนสัตว์ ชมสถานที่ต่างๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พอบ่ายประมาณ ๑๕.๐๐ น. เพื่อนก็เตือนให้กลับ เพราะระยะทางระหว่างเขาแถวพระพุทธบาท มีช้างป่าโทนตัวหนึ่งกำลังอาละวาดในย่านนั้น

ก่อนกลับข้าพเจ้าถือโอกาสไปเยี่ยมร้านขายของที่เคยติดต่อการค้า มีร้านหนึ่งเจ้าของผู้จัดการขอชำระหนี้สินที่ค้างมาด้วย ซึ่งข้าพเจ้าเองก็มิได้นึกฝันว่าจะได้เงินรายนี้ เพราะเพิ่งจะได้ส่งสินค้าไปยังไม่ทันถึงกำหนดจ่ายเงิน จึงจำเป็นต้องรับเงินจำนวนมากนี้ซึ่งเป็นธนบัตรปลีกย่อยส่วนมาก ต้องใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ ซึ่งเมื่อห่อเข้ามีขนาดห่อไม่เล็กเลย ข้าพเจ้าก็วางทิ้งไว้บนเบาะหลังรถ เพื่อมิให้ใครสงสัยว่ามันเป็นธนบัตรอันมีค่า

เวลาผ่าน ๑๕.๐๐ น. ไปเล็กน้อย ข้าพเจ้าก็ได้ลาเพื่อนผู้อารี และผู้ที่เคยติดต่อการค้าเพื่อกลับกรุงเทพฯ ไม่อยากให้ค่ำในระหว่างระยะทางเขตตำบลพระพุทธบาท ด้วยเกรงจะพบกับช้างโทนเข้า ข้าพเจ้าก็มีปืนพกโอโตเมติก ๙ ม.ม. กระบอกหนึ่งไปด้วย รู้สึกว่าอุ่นใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะหากพบกับพ่อช้างโทนตัวนั้นเข้า ปืนก็ไม่มีความหมายอะไรเลย นอกจากจะยิงขู่ขึ้นฟ้าให้มันหนีไป ถนนระยะนี้ไปไม่สะดวกนัก

ฉะนั้นกว่าจะถึงสระบุรีก็ประมาณ ๑๗.๐๐ น. แล้วข้าพเจ้าหยุดพักเติมน้ำมันและที่ตลาดสระบุรี รู้สึกโล่งใจที่ได้ผ่านดงช้างโทนตัวนั้นมาได้ ต่อจากนั้นก็หาอาหารรับประทานที่ร้านแห่งหนึ่งในตลาด เผอิญข้าพเจ้าได้พบชายผู้หนึ่งแต่งตัวเป็นชาวชนบทเดินเข้ามาหาในร้านอาหาร ถามข้าพเจ้าว่า

“คุณครับ คุณจะไปทางไหน”

ข้าพเจ้าตอบว่า “จะกลับกรุงเทพฯ”

แกบอกอีกว่า “ผมอยากจะขอโดยสารไปด้วยคน เพราะมันเย็นมากแล้วไม่มีรถไปอีก ผมมีความจำเป็นจะต้องกลับบ้านจริงๆ ครับ คุณนึกว่ากรุณาผมเอาบุญเถิด”

“ตกลงจ้ะพ่อลุง ยินดีที่จะเป็นเพื่อนคุยกัน ผมก็มาคนเดียวเท่านั้น ขอเชิญรับประทานอาหารด้วยกัน เสร็จแล้วจะได้ออกเดินทางเลย”

ครั้งแรกแกไม่ยอมที่จะรับประทานอาหารร่วมกับข้าพเจ้า แต่ภายหลังเสียอ้อนวอนข้าพเจ้าไม่ได้ แกก็เลยรับประทานด้วย นอกจากอาหารแล้วข้าพเจ้าได้สั่งสุรามาให้แกเป็นพิเศษ ส่วนข้าพเจ้านั้นไม่ดื่มสุรา และสังเกตดูแกออกจะระมัดระวังตัวสักหน่อย สุราที่สั่งมาแกก็ไม่ค่อยจะรับประทานนัก ทั้งนี้แกอาจเกรงใจข้าพเจ้าก็เป็นได้ สำหรับจิตใจข้าพเจ้านั้นไม่เคยนึกรังเกียจอย่างไร

เมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าก็ชำระค่าอาหารเสร็จก็ชวนแกขึ้นรถ แกรีบขนสิ่งของของแก มีชะลอม ๑ ใบกรุด้วยใบตองสดมิดชิด เข้าใจว่าเป็นผลไม้ มีห่อกระดาษอีก ๑ ห่อ และถุงผ้าใบอีก ๑ ถุง คงเป็นเครื่องใช้ ดูแกเกรงใจข้าพเจ้ามาก ข้าพเจ้าให้แกนั่งข้างหน้าด้วยกัน เราได้คุยกันถึงดินฟ้าอากาศ เห็นว่าแกมีความรู้รอบตัวไม่แพ้คนในกรุง การคุยกันนั้นทำให้รู้สึกสนิทสนมมากขึ้น ตอนหนึ่งแกเอ่ยขึ้นว่า

“ผมรู้สึกชอบนิสัยคุณ คุณไม่เหมือนคนชาวกรุงบางคน บางคนถือตัวเอามาก นี่ผมไม่ได้ยกยอคุณ เพราะคุณเลี้ยงอาหารผมหรือให้ผมนั่งรถโดยสารมาด้วย นี่ผมพูดถึงความรู้สึกในจิตใจของชาวบ้านนอกทั่วๆ ไปนะครับ ผมพูดตามความจริงใจไม่ยกยอใคร คุณไม่เหยียดหยามใคร ประเดี๋ยวผมก็จะถึงที่ที่ผมลงแล้ว จะพบกันอีกหรือไม่ก็ไม่ทราบ หรือเราจะไม่ได้พบกันตลอดชีวิตก็เพราะเราเดินกันคนละทาง”

ข้าพเจ้ารู้สึกชอบในคำพูดของแกมาก จึงบอกแกว่า “ไม่จริงหรอกพ่อลุง โลกมันกลม เราอาจพบกันอีกก็ได้ ถ้าพ่อลุงพบผมในถนนสายนี้หรือสายไหนก็ตาม หากผมไม่เห็นไม่ทันได้ทัก ก็ขอให้ตะโกนเรียกผมเลย และหวังว่าคราวหน้าคงมีโอกาสได้นั่งคุยกันอย่างนี้อีก”

แกถอนหายใจยาว แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้าๆ ว่า “คนเรามันอนิจจังไม่เที่ยงนะคุณ”

ข้าพเจ้าเสริมว่า “จริงพ่อลุง คนเรามันอนิจจังไม่เที่ยง แต่ว่าถ้ามีลมหายใจตราบใด เราก็ย่อมมีความหวังตราบนั้น”

เมื่อออกจากสระบุรีนั้น ๑๗.๐๐ กว่าแล้ว ฉะนั้นในระหว่างทางจึงค่อยๆ ค่ำลงทุกที เมื่อเข้าเขตจังหวัดอยุธยา เราก็ต้องใช้ไฟหน้าอย่างแรง มองเห็นสิ่งทอดขวางถนนอยู่ ข้าพเจ้าต้องชะลอรถจนไปใกล้ จึงมองเห็นว่าสิ่งที่ขวางถนนนั้นเป็นต้นกล้วยขนาดใหญ่พอดู ขนาดที่รถไม่อาจวิ่งข้ามไปได้

ทันใดนั้นก็มีชายฉกรรจ์ซึ่งแอบอยู่ข้างทาง วิ่งขึ้นมาบนถนนในมือมีอาวุธปืนบ้าง บางคนก็มีมีดบางคนก็มีตะพดล้อมหน้าล้อมหลัง ประมาณดูคงไม่ต่ำกว่า ๕-๖ คน และข้างหลังรถก็ยังมี ข้าพเจ้าไม่นึกฝันว่ามันจะเกิดเรื่องเช่นนี้โดยกะทันหัน ยังตัดสินใจอะไรไม่ถูก เสียงเพื่อนร่วมทางกระซิบว่า

“ไม่ต้องกลัวคุณ เฉยๆ ไว้ผมจะจัดการกับมันเอง”

ทันใดนั้นแกก็ร้องตวาดลงไปว่า “เฮ้ย อ้ายพวกนี้หยุด”

ฉับพลันนั้นพวกเหล่าร้ายหยุดชะงัก พ่อลุงก็เปิดประตูรถออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน จากแสงไฟหน้ารถและไฟฉายในมือของเหล่าร้าย ทำให้เห็นหน้าพอจะจำกันได้ เหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้น คือพวกเหล่าร้ายนั้น เห็นหน้าชายคนที่ลงจากรถข้าพเจ้า ต่างก็ตะลึงและต่างก็ร้องออกมาได้คำเดียวว่า..... “พี่”

เสียงพ่อลุงผู้นั้นพูดว่า “เออ กูเอง พวกเอ็งจะทำอะไรคุณแกไม่ได้ จะแตะต้องอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ยกที่กีดขวางทางออก คุณท่านมีคุณกับกูมาก ข้าได้กินข้าวของท่าน ได้อาศัยรถของท่าน เอ้า เฮ้ย ! ช่วยยกของให้ข้าด้วย”

แกพูดขาดคำสมุน ๒ คน ก็เปิดประตูรถขึ้นมายกของอันเป็นสมบัติของสหายร่วมทางของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้เหลียวไปดูว่า เจ้าพวกนั้นมันทำอะไรบ้าง ข้าพเจ้าไม่สนใจ นึกแต่ว่าเมื่อไรจะพ้นจากที่นี่ไปได้ ยิ่งไปเร็วที่สุดยิ่งดี เสียงของสมุนรายงานลูกพี่ว่า

“ขนหมดแล้วพี่”

ทันใดนั้น “พ่อลุง” ซึ่งพวกเหล่าร้ายเรียกว่าพี่ ก็เดินตรงมาทางข้าพเจ้า พูดอย่างสุภาพ

“ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณตกใจ และขอบใจคุณมากที่เลี้ยงอาหารและให้โดยสารรถ ขอให้คุณไปโดยความปลอดภัยเถิด ผมขอลาที่ตรงนี้แล้ว”

ข้าพเจ้าโล่งใจถนัด พลางกล่าวขอบใจอำลาแก เข้าเกียร์หนึ่งเร่งเครื่องยนต์ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนอีก

“คุณครับ หยุดก่อน”

พอข้าพเจ้าห้ามล้อหยุด ในใจนึกว่ามันเรื่องอะไรกันอีก เมื่อไรจะไปพ้นจากแดนนรกนี้เสียที ทันใดนั้นพ่อลุงก็เดินถือห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ พลางส่งให้ข้าพเจ้า แล้วพูดว่า “อ้ายเด็กมันไม่รู้มันขนของคุณลงไปด้วย ผมต้องขอโทษ เอาละขอให้คุณไปโดยปลอดภัยเถอะครับ”

ข้าพเจ้ากล่าวขอบใจแก แล้วเอาห่อธนบัตรคืนมา มองดูห่อนั้นเวลานี้อยู่ในสภาพไม่สู้จะเรียบร้อย เพราะกระดาษมีรอยขาดออกบางตอน ทำให้มองรู้ว่าเป็นธนบัตร มีสีเขียวๆ แดงๆ แลบออกมา ข้าพเจ้าไม่ได้พิจารณาอะไรอีก

เมื่อรับจากมือแกก็โยนลงบนเบาะข้างหลังทำให้กระดาษขาด เชือกที่ผูกไว้ก็ไม่สามารถคุมให้เป็นระเบียบได้ ธนบัตรเหล่านั้นก็แตกกระจายอยู่บนเบาะข้างหลังรถ ข้าพเจ้าไม่ได้เอาใจใส่ว่ามันจะอยู่ในสภาพอย่างไร เร่งเข้าเกียร์เหยียบน้ำมันวิ่งเข้ากรุงเทพฯ ทิ้งพวกสมุนและชายนั้นไว้เบื้องหลังในความมืด ภายหลังเมื่อถึงบ้านแล้วปรากฏว่า เงินจำนวนนั้นไม่ขาดหายไปเลยจนบาทเดียว

ตราบกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ข้าพเจ้าหัวใจสั่น สั่นไปด้วยเหตุสองประการ คือหวาดเสียวต่อภัยอันตราย แต่ที่มันฝังลึกลงไปในความรู้สึกของข้าพเจ้านั้นก็คือ คุณธรรมอันสูงส่งของชายผู้รับสมญาว่า “พี่” ของหมู่โจร เพียงข้าวหนึ่งมื้อกับโดยสารรถ แกก็ตอบแทนข้าพเจ้าด้วยกตัญญูกตเวที อันเป็นคุณธรรมสูงล้ำค่ากว่าสิ่งทั้งหลาย และสิ่งนี้ท่านคิดหรือว่าจะเป็นของหาง่ายในน้ำใจคน อย่าว่าแต่ฝูงโจรเลย แม้ที่เรียกว่าผู้เจริญแล้วด้วยการศึกษาอย่างปัจจุบันนี้



.................. เอวัง ..................
 



-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --







   
แม้เป็นโจรใจบาปคนสาบแช่ง
แต่ไม่แล้งน้ำใจไร้เหตุผล
ยามคับขันเดินทางไกลได้พบคน
จิตกุศลให้โดยสารยวดยานมา
ผลความดีอันนี้ชี้ให้เห็น
โจรยังเว้นไม่ทำร้ายและปล้นฆ่า
ได้พบคนจิตใจงามเกิดศรัทธา
อารักขาเดินทางรอดปลอดอันตราย

ท.เลียงพิบูลย์

 
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1630
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18179



« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 12:00:53 PM »

คนในยุคสมัยก่อน

ยึดถือ คุณธรรม ประจำใจ


ยุคสมัยเปลี่ยนไป

กอยโกย เข้าตัว
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
แปจีหล่อ คนสันขวาน
Hero Member
*****

คะแนน 6335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8369



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 12:05:40 PM »

ถ้าเป็นโจรสมัยนี้คบไม่รอดครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
Jedth
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 858
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4607



« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:15:13 PM »

ขอบคุณครับน้าอรรถ ขอ +1 ทุกท่านครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

Pragmatism
Double Tap^
เขาเรียกผมว่า....Hot Shot !
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


การลั่นไก เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เสมอ


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:29:59 PM »

อืม.............โจร  บางครั้งเลือกไม่ได้ที่จะเป็น
คุณธรรม  ช่วยให้ท่านผู้นั้นรอดมาได้
บางสถานการณ์  9 ลูกดกของเราก็เปรียบเหมือนท่อนเหล็กดีๆ นี่เอง
ขอบคุณนานาสาระ ที่แบ่งปัน น้องๆ ครับ
 เสียววุ้ย...............................
บันทึกการเข้า

มิว่าเป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจเพียงใด อย่างมากก็ซัดใส่ร่างท่านให้เป็นรู เป็นโพรงไม่กี่แผล แต่น้ำตาของสตรี กลับสามารถราดรดหัวใจท่านจนแหลกลาญ
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1208
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17197


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:36:42 PM »

+๑ ครับ...

ไหว้

บันทึกการเข้า
YIMTHANOM
Hero Member
*****

คะแนน 466
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2891



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 03:48:35 PM »

 

  +1 ครับพี่อรรถ   

ถ้าเป็นสมัยนี้........สงสัยไม่ได้ขับรถต่อแน่ๆครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ปัญหาบางอย่าง แก้ได้ด้วยการนิ่งเฉย
อิติปิโสธงชัย รักในหลวง
The best it yet to be......
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2734



« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 04:10:52 PM »

+ ไหว้ขอบคุณครับน้าอรรถ ไหว้ กิ๊วก๊าว
บันทึกการเข้า

ผมก็คือส่วนหนึ่งของความไม่เป็นกลาง เพราะผมอยู่ข้างในหลวง
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4087
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20181


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 04:42:38 PM »

ขอบคุณมาก  อรรถ . + ให้อีก ๑ ครับ.  Cheesy
บันทึกการเข้า

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 06:53:26 PM »

ยุคนี้จะหาเจอที่ไหนได้นะน้าอรรถ
บันทึกการเข้า

                
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1637


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 31, 2013, 10:46:00 AM »

ขอบคุณครับ

ผมถึงชอบ ผู้คนในอดีตมาก ชอบคุยกับผู้ที่มีอาวุโสกว่า รู้สึกประเทืองปัญญา เหมือนกับที่ได้จาก พี่ ๆ ในที่นี้

ด้วยความเคารพครับ
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
pranburi
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 226
ออฟไลน์

กระทู้: 869


« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 31, 2013, 10:59:03 AM »

นับถือน้ำใจพ่อโจรจริงๆ ถ้าเป็นสมัยนี้มันอาศัยนั่งมาด้วยแล้ว ถึงจุดนัดพบมันคงปล้นหมดตัวแม้นแต่ชีวิตก็จะหมดไปด้วย
บันทึกการเข้า
GUNRUNNER
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13345



« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 10:20:48 AM »

+1 ครับท่าน pasta
ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อด้วยนะครับ
เรื่องราวดี ๆ ของท่าน ท. เลียงพิบูลย์
สมัยก่อนนี้ได้อ่านบ่อยมากเลยครับ
เดี๋ยวนี้  ไม่มีให้อ่านแล้ว
ขอบคุณครับผม
  ไหว้
บันทึกการเข้า

ปืน...ดีทุกกระบอก...ขอให้คนยิงยิงให้ดีก็แล้วกัน...
          ...พวกอินเดียนแดงเค้าบอกไว้นานแล้วครับ...
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.131 วินาที กับ 22 คำสั่ง