ฟื้นความจำเรื่องการอพยพของคนไทยที่เคยเรียนตอนเด็ก ๆ นะ : คนไทยเราเพาะปลูกอยู่แถบภูเขาอัลไต ต่อมาถูกจีนที่เป็นพวกเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนรุกราน ไทยสู้ไม่ได้ก็ถอยร่นลงมาทางใต้เรื่อย ๆ พระมหากษัตริย์ไทยยุคแรกมีพระเจ้าพีล่อโก๊,พระเจ้าโก๊ล่อผง,พระเจ้าผงกาอี้..ฯลฯ ตามเส้นทางที่ถอยร่นได้สร้างเมืองใหม่ ๆ ขึ้นหลายเมือง เช่น เมืองลุง,เมืองปา(ครูว่าน่าจะเป็นเมืองป้า-คู่กับเมืองลุง)เมืองหลวงชื่อหนองแส(เมืองตาลีฟู) เมื่อถอยร่นลงมาเหนือสุวรรณภูมิ(ประเทศไทยปัจจุบัน)ได้แยกย้ายกันไปหลายสาขา ที่เข้าไปในพม่าปัจจุบันเรียกไทยใหญ่ และไทยอาหม พวกเรานี่คือไทยน้อยบ้างก็เข้าไปในลาว บ้างก็เข้ามาในประเทศไทยปัจจุบัน
-ผมเชื่อเรื่องคนไทยอพยพมาครับ แต่ไม่เชื่อทั้งหมด เช่น เดิมอยู่แถบภูเขาอัลไตนั้นมันไกลและหนาวเกินไป ถ้าบรรพบุรุษเราอยู่ที่นั่นจริงต้องผิวขาวไม่ใช่ผิวดำ(หรือดำแดง) จีนเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนที่รุกรานก็น่าจะพวกเจงกีสข่าน,กุ๊บไลข่านหรือบรรพบุรุษของพวกนี้ซึ่งมีตัวตนจริง ชอบขี่ม้ารบราฆ่าฟัน
-เขาว่าพี่น้องเราส่วนหนึ่ง(ชาวไต)ที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศจีน วัฒนธรรมคล้ายคลึงคนไทยมาก เช่นปลูกบ้านใต้ถุนสูง(คนจีนปลูกบ้านบนดิน) ภาษาที่ใช้ก็ยังสื่อสารกับคนไทยรู้เรื่อง ชื่อคนก็เหมือนคนไทย เช่น กูชื่อไอ้เรือง,กูชื่ออีดาว
เขาอัลไต คนอยู่ไม่ได้ครับ อ็อกซิเจนไม่พอ ผมเคยเดินเที่ยวบนยอดเขากุลมาร์ค ที่แคชเมียร์ ต่ำกว่าเขาอัลไตเยอะเหมือนกัน แต่เดินเร็วไม่ได้ ทำอะไรต้องระวัง วูบเอาง่าย ๆ ที่จอร์จ บุช คุยว่าเคยไปตีกอล์ฟ บนเขากุลมาร์ค อันนั้นเป็นเชิงเขาระดับ 1 หน้าร้อนตีกอล์ฟได้ หน้าหนาวเล่นสกีได้ แต่ถ้าขึ้นเคเบิลคาร์ไปถึงระดับ 2 ต้องระวังตัวแล้ว เพราะอากาศบางมาก
นอกจากนั้นที่เขาอัลไตเพาะปลูกก็ไม่ได้ มีแต่น้ำแข็ง มีคนอยู่กลุ่มเดียว คือพนักงานเรดาร์ของรัสเซีย เข้าเวรกันอยู่บนยอดเขาเหมือนอยู่ในสถานีอวกาศ
คนที่พูดภาษาเดียวกับเราในประเทศจีน กลุ่มใหญ่ที่สุดอยู่ที่กวางสี มีประมาณ 13 ล้านคน ผมเคยไปเที่ยวจีน เจอไกด์จีนคนนึง ชื่อก้อย เป็นชาวจ้วง มาจากกวางสี พูดภาษาไทยได้แบบคนกรุงเทพ เพราะมาเรียนที่บ้านสมเด็จ แต่เขาพูดภาษาจ้วงมาตั้งแต่เด็ก มาปรับถ้อยคำสำนวนให้เป็นแบบคนไทย ในเมืองไทยเท่านั้นเอง
แล้วอย่าไปเรียกคนที่พูดภาษาเดียวกับพวกเราในประเทศอื่นว่าเป็นคนไทยนะครับ มีแต่พวกเราเท่านั้น ที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนไทย พูดภาษาไทย (เริ่มใช้คำนี้ใน พ.ศ.2483) ทีกวางสี เขาเรียกตัวเองว่าคนจ้วง ภาษาจ้วง
ส่วนในบังคลาเทศ เขาเคยเรียกตัวเองว่าสยาม แต่สำเนียงท้องถิ่นทำให้เพี้ยนเป็นอาหม เช่นเทียวกับกลุ่มที่เราเรียกว่าไทยใหญ่ เดิมก็เรียกตัวเองว่าสยามเหมือนกัน แต่สำเนียงแบบพม่าที่อยู่รอบ ๆ ออกเสียงนี้ไม่ได้ จึงกลายเป็นฉาน หรือชานไป