๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 11, 2024, 05:53:18 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 20 21 22 [23] 24 25 26 ... 37
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Gorget เกราะสมัยไอเวนโฮ ที่กลับมาในศตวรรษที่ 22  (อ่าน 82348 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #330 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2016, 12:44:51 PM »

ขอบคุณครับผู้การ ยังแปลกใจว่าหลักเมืองสำคัญขนาดนั้นไม่มีจารึกหรือพิกัดอะไรพอบอกได้บ้างหรือไม่ หลังจากเสียกรุงครั้งที่สอง

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ไม่มีนิสัยจดบันทึกครับ   มีก็เป็นพงศวดารไปเลย  ซึ่งมาจาก วงศ์ + อวตาร  คือเป็นเรื่องราวขององค์พระมหากษัตริย์  เฉพาะที่อยู่ในราชสมบัติเสียด้วย  อย่างเช่นสมเด็จพระรามราชาธิราช รัชกาลที่ 5 ของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถูกเจ้านครอินทร์ ยกกำลังจากเมืองสุพรรณบุรีมายึดอำนาจ  แล้วให้ไปครองเมืองปทาคูจาม  ต่อจากนั้นก็หายจากพงศาวดารไปเลย  จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ทราบกันว่าเมืองปทาคูจาม อยู่ที่ไหน
ที่เราทราบกันว่า  สมัยนั้นคนอยุธยาทำมาหากินอย่างไร กินข้าวเหนียวหรือกินข้าวเจ้า  ค้าขายอะไรกันบ้าง  รักษาโรคกันอย่างไร   จะมาจากบันทึกของชาวต่างชาติทั้งสิ้น
บันทึกการเข้า
Mcot
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #331 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2016, 01:46:57 PM »

ของหายากสุดคลาสิค
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #332 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2016, 03:36:03 PM »

ขนาดภาพกรุงศรีอยุธยาสมัยก่อนยังมีฝรั่งวาดไว้เลยส่วนของเราไม่มี
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #333 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2016, 04:56:00 PM »

ขนาดภาพกรุงศรีอยุธยาสมัยก่อนยังมีฝรั่งวาดไว้เลยส่วนของเราไม่มี

ใช่ครับ
ฝรั่งวาดภาพไว้ชัดเจนมาก  ตัวอย่างภาพที่ฮอลันดาวาดไว้ ตอน ค.ศ.1665  เห็นภาพป้อมเพ็ชร ที่สร้างในสมัยพระมหาธรรมราชา เพื่อรับศึกพระมหาอุปราชา  ป้อมเพชรในภาพเป็นรูปทรงกลม  แสดงว่าชาวโปรตุเกสออกแบบป้อมให้
ต่อมาในสมัยพระนารายณ์  ภาพป้อมเพชร กลายเป็นป้อมทรงหกเหลี่ยม แบบของกองทัพฝรั่งเศส
บันทึกการเข้า
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« ตอบ #334 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2016, 08:18:57 PM »

ไอ้เทือกเขาอัลไตนี่ อยู่ในหัวผมมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ว่าครูที่สอนผม ท่านจะรู้ความจริงหรือยัง
แต่ที่น่านับถือคือการที่ฝ่ายชนะสงครามนำเอาราชวงค์ไปดูแลโดยไม่ฆ่าทิ้งแบบล้างตระกูล ตรงนี้เป็นความคิดที่ประเสริฐเกินที่คนยุคนั้นจะทำ
เพราะการฆ่าเป็นวิธีจัดการที่งา่ยกว่ามาก
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #335 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2016, 09:51:45 PM »

ไอ้เทือกเขาอัลไตนี่ อยู่ในหัวผมมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ว่าครูที่สอนผม ท่านจะรู้ความจริงหรือยัง
แต่ที่น่านับถือคือการที่ฝ่ายชนะสงครามนำเอาราชวงค์ไปดูแลโดยไม่ฆ่าทิ้งแบบล้างตระกูล ตรงนี้เป็นความคิดที่ประเสริฐเกินที่คนยุคนั้นจะทำ
เพราะการฆ่าเป็นวิธีจัดการที่งา่ยกว่ามาก

เรื่องเขาอัลไต  เดิมทีเดียวเป็นหนังสือที่ส่งเข้าประกวด  คือไม่ใช่เอกสารประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น  และผู้เขียนเอง ก็เป็นข้าราชการ ตำแหน่งล่าม แต่ทำงานพิเศษเกี่ยวกับการเขียนนิยาย สารคดี ประพันธ์เพลง กับเขียนบทภาพยนตร์   เขาจัดประกวดหนังสือ ท่านก็แต่งเรื่องเข้าประกวด   แล้วกลับกลายเป็นการเอาเนื้อหาในหนังสือที่ท่านแต่งไปเขียนเป็นตำราประวัติศาสตร์  เชื่อกันเป็นตุเป็นตะอยู่หลายสิบปี

เรื่องไม่ฆ่าราชวงศ์เดิมของไทย   มีแค่ 2 ครั้งเท่านั้น  และไม่น่าจะเป็นเรื่องจริยธรรม  แต่เป็นเพราะราชวงศ์เดิมอยู่ในฐานะพราห์ม เสียมากกว่า
ครั้งแรกคือตอนที่พระเจ้าอู่ทองสวรรคต  พระราเมศวรโอรสท่านก็ขึ้นครองราชแทน  แต่พอขุนหลวงพะงั่ว ยกทัพมาจากสุพรรณบุรี  พระราเมศวรก็ยอมยกบัลลังก์ให้แต่โดยดี ตัวเองกลับไปครองละโว้ ถิ่นเดิม
แต่พระราเมศวร ท่านยอมเฉพาะขุนหลวงพะงั่ว อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นลุงหรือเป็นอาเขย  และรู้ฝีมือกัน ตอนที่ไปตีเขมร ที่พระราเมศวรเสียทีเขมร แล้วขุนหลวงพะงั่วไปช่วยไว้  แต่พอพระเจ้าทองลัน ลูกขุนหลวงพะงั่วขึ้นครองราชแทน  อยู่ได้ 7 วัน  พระราเมศวรก็กวาดล้างเรียบ   
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #336 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2016, 11:22:48 PM »

ไอ้เทือกเขาอัลไตนี่ อยู่ในหัวผมมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ว่าครูที่สอนผม ท่านจะรู้ความจริงหรือยัง
แต่ที่น่านับถือคือการที่ฝ่ายชนะสงครามนำเอาราชวงค์ไปดูแลโดยไม่ฆ่าทิ้งแบบล้างตระกูล ตรงนี้เป็นความคิดที่ประเสริฐเกินที่คนยุคนั้นจะทำ
เพราะการฆ่าเป็นวิธีจัดการที่งา่ยกว่ามาก

เรื่องเขาอัลไต  เดิมทีเดียวเป็นหนังสือที่ส่งเข้าประกวด  คือไม่ใช่เอกสารประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น  และผู้เขียนเอง ก็เป็นข้าราชการ ตำแหน่งล่าม แต่ทำงานพิเศษเกี่ยวกับการเขียนนิยาย สารคดี ประพันธ์เพลง กับเขียนบทภาพยนตร์   เขาจัดประกวดหนังสือ ท่านก็แต่งเรื่องเข้าประกวด   แล้วกลับกลายเป็นการเอาเนื้อหาในหนังสือที่ท่านแต่งไปเขียนเป็นตำราประวัติศาสตร์  เชื่อกันเป็นตุเป็นตะอยู่หลายสิบปี

เรื่องไม่ฆ่าราชวงศ์เดิมของไทย   มีแค่ 2 ครั้งเท่านั้น  และไม่น่าจะเป็นเรื่องจริยธรรม  แต่เป็นเพราะราชวงศ์เดิมอยู่ในฐานะพราห์ม เสียมากกว่า
ครั้งแรกคือตอนที่พระเจ้าอู่ทองสวรรคต  พระราเมศวรโอรสท่านก็ขึ้นครองราชแทน  แต่พอขุนหลวงพะงั่ว ยกทัพมาจากสุพรรณบุรี  พระราเมศวรก็ยอมยกบัลลังก์ให้แต่โดยดี ตัวเองกลับไปครองละโว้ ถิ่นเดิม
แต่พระราเมศวร ท่านยอมเฉพาะขุนหลวงพะงั่ว อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นลุงหรือเป็นอาเขย  และรู้ฝีมือกัน ตอนที่ไปตีเขมร ที่พระราเมศวรเสียทีเขมร แล้วขุนหลวงพะงั่วไปช่วยไว้  แต่พอพระเจ้าทองลัน ลูกขุนหลวงพะงั่วขึ้นครองราชแทน  อยู่ได้ 7 วัน  พระราเมศวรก็กวาดล้างเรียบ   

ช่วงกำลังสร้าง New History เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย กรุงเทพและใต้โดนบอมบ์ซะเละและก็มีที่นักเรียนสถาบันชั้นสูงของกองทัพหนึ่งเปรียบเทียบบางเรื่องกับผู้นำคนถัดมาด้วย จะดีจะชั่วคนถัดมาก็ทำเรื่องดีไว้บ้าง
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #337 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2016, 01:01:01 AM »

    ป้อมทรงกลมกับทรงหกเหลี่ยม ใช้ในการป้องกันต่างกันอย่างไรครับ หรือว่าจะเบี่ยงวิถีกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่า ในฝรั่งเศษยังมีป้อมสถาพดีๆให้นักท่องเทียวเข้าไปชมอยู่หลายแห่งครับ
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #338 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 11:48:14 AM »

-ฟื้นความจำเรื่องการอพยพของคนไทยที่เคยเรียนตอนเด็ก ๆ นะ : คนไทยเราเพาะปลูกอยู่แถบภูเขาอัลไต ต่อมาถูกจีนที่เป็นพวกเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนรุกราน ไทยสู้ไม่ได้ก็ถอยร่นลงมาทางใต้เรื่อย ๆ พระมหากษัตริย์ไทยยุคแรกมีพระเจ้าพีล่อโก๊,พระเจ้าโก๊ล่อผง,พระเจ้าผงกาอี้..ฯลฯ ตามเส้นทางที่ถอยร่นได้สร้างเมืองใหม่ ๆ ขึ้นหลายเมือง เช่น เมืองลุง,เมืองปา(ครูว่าน่าจะเป็นเมืองป้า-คู่กับเมืองลุง)เมืองหลวงชื่อหนองแส(เมืองตาลีฟู) เมื่อถอยร่นลงมาเหนือสุวรรณภูมิ(ประเทศไทยปัจจุบัน)ได้แยกย้ายกันไปหลายสาขา ที่เข้าไปในพม่าปัจจุบันเรียกไทยใหญ่ และไทยอาหม พวกเรานี่คือไทยน้อยบ้างก็เข้าไปในลาว บ้างก็เข้ามาในประเทศไทยปัจจุบัน  
-ผมเชื่อเรื่องคนไทยอพยพมาครับ แต่ไม่เชื่อทั้งหมด เช่น เดิมอยู่แถบภูเขาอัลไตนั้นมันไกลและหนาวเกินไป ถ้าบรรพบุรุษเราอยู่ที่นั่นจริงต้องผิวขาวไม่ใช่ผิวดำ(หรือดำแดง) จีนเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนที่รุกรานก็น่าจะพวกเจงกีสข่าน,กุ๊บไลข่านหรือบรรพบุรุษของพวกนี้ซึ่งมีตัวตนจริง ชอบขี่ม้ารบราฆ่าฟัน
-เขาว่าพี่น้องเราส่วนหนึ่ง(ชาวไต)ที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศจีน วัฒนธรรมคล้ายคลึงคนไทยมาก เช่นปลูกบ้านใต้ถุนสูง(คนจีนปลูกบ้านบนดิน) ภาษาที่ใช้ก็ยังสื่อสารกับคนไทยรู้เรื่อง ชื่อคนก็เหมือนคนไทย เช่น กูชื่อไอ้เรือง,กูชื่ออีดาว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2016, 11:52:37 AM โดย R2D2 » บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #339 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 11:50:08 AM »

ไอ้เทือกเขาอัลไตนี่ อยู่ในหัวผมมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ว่าครูที่สอนผม ท่านจะรู้ความจริงหรือยัง
แต่ที่น่านับถือคือการที่ฝ่ายชนะสงครามนำเอาราชวงค์ไปดูแลโดยไม่ฆ่าทิ้งแบบล้างตระกูล ตรงนี้เป็นความคิดที่ประเสริฐเกินที่คนยุคนั้นจะทำ
เพราะการฆ่าเป็นวิธีจัดการที่งา่ยกว่ามาก

บางครั้งเป็นกุศโลบายการยึดไว้เป็นตัวประกันครับ เพื่ออนาคตข้างหน้ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
อย่างหนังพระนเรศวร จะมองเห็นได้ชัด
 
บางทีหากไม่อยากรบรากันมากก็ส่งธิดาเมืองนี้ไปแต่งโอรสเมืองโน้น เชื่อมสายสัมพันธ์กันไว้
ซึ่งก็ประวิงเวลาของสงครามให้ห่างออกไปได้อีกเปลาะ

แต่ว่าภูมิภาคนี้ แต่ไหนแต่ไรมา ยึดผู้ปกครองเป็นหลัก ระบบปกครองนั้นบางทีระบบเดียวกัน
แต่ต่างผู้ปกครองกัน ได้ผลต่างกัน
สิ้นบุเรงนอง ผู้ครองนครถัดมาก็หาเข้มแข็งเท่า พาลพาล่มสลาย
แม้แต่บุรุษแห่งสหัสวรรษ เจงกิสข่าน ผู้เดินทัพไปถึงยุโรป พอสิ้นเจงกิสข่าน ก็เหมือนสิ้นมองโกล..

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #340 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 02:50:34 PM »

ฟื้นความจำเรื่องการอพยพของคนไทยที่เคยเรียนตอนเด็ก ๆ นะ : คนไทยเราเพาะปลูกอยู่แถบภูเขาอัลไต ต่อมาถูกจีนที่เป็นพวกเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนรุกราน ไทยสู้ไม่ได้ก็ถอยร่นลงมาทางใต้เรื่อย ๆ พระมหากษัตริย์ไทยยุคแรกมีพระเจ้าพีล่อโก๊,พระเจ้าโก๊ล่อผง,พระเจ้าผงกาอี้..ฯลฯ ตามเส้นทางที่ถอยร่นได้สร้างเมืองใหม่ ๆ ขึ้นหลายเมือง เช่น เมืองลุง,เมืองปา(ครูว่าน่าจะเป็นเมืองป้า-คู่กับเมืองลุง)เมืองหลวงชื่อหนองแส(เมืองตาลีฟู) เมื่อถอยร่นลงมาเหนือสุวรรณภูมิ(ประเทศไทยปัจจุบัน)ได้แยกย้ายกันไปหลายสาขา ที่เข้าไปในพม่าปัจจุบันเรียกไทยใหญ่ และไทยอาหม พวกเรานี่คือไทยน้อยบ้างก็เข้าไปในลาว บ้างก็เข้ามาในประเทศไทยปัจจุบัน  
-ผมเชื่อเรื่องคนไทยอพยพมาครับ แต่ไม่เชื่อทั้งหมด เช่น เดิมอยู่แถบภูเขาอัลไตนั้นมันไกลและหนาวเกินไป ถ้าบรรพบุรุษเราอยู่ที่นั่นจริงต้องผิวขาวไม่ใช่ผิวดำ(หรือดำแดง) จีนเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนที่รุกรานก็น่าจะพวกเจงกีสข่าน,กุ๊บไลข่านหรือบรรพบุรุษของพวกนี้ซึ่งมีตัวตนจริง ชอบขี่ม้ารบราฆ่าฟัน
-เขาว่าพี่น้องเราส่วนหนึ่ง(ชาวไต)ที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศจีน วัฒนธรรมคล้ายคลึงคนไทยมาก เช่นปลูกบ้านใต้ถุนสูง(คนจีนปลูกบ้านบนดิน) ภาษาที่ใช้ก็ยังสื่อสารกับคนไทยรู้เรื่อง ชื่อคนก็เหมือนคนไทย เช่น กูชื่อไอ้เรือง,กูชื่ออีดาว

เขาอัลไต  คนอยู่ไม่ได้ครับ  อ็อกซิเจนไม่พอ ผมเคยเดินเที่ยวบนยอดเขากุลมาร์ค ที่แคชเมียร์  ต่ำกว่าเขาอัลไตเยอะเหมือนกัน  แต่เดินเร็วไม่ได้ ทำอะไรต้องระวัง วูบเอาง่าย ๆ  ที่จอร์จ บุช คุยว่าเคยไปตีกอล์ฟ บนเขากุลมาร์ค  อันนั้นเป็นเชิงเขาระดับ 1 หน้าร้อนตีกอล์ฟได้ หน้าหนาวเล่นสกีได้  แต่ถ้าขึ้นเคเบิลคาร์ไปถึงระดับ 2 ต้องระวังตัวแล้ว เพราะอากาศบางมาก
นอกจากนั้นที่เขาอัลไตเพาะปลูกก็ไม่ได้ มีแต่น้ำแข็ง   มีคนอยู่กลุ่มเดียว คือพนักงานเรดาร์ของรัสเซีย เข้าเวรกันอยู่บนยอดเขาเหมือนอยู่ในสถานีอวกาศ

คนที่พูดภาษาเดียวกับเราในประเทศจีน  กลุ่มใหญ่ที่สุดอยู่ที่กวางสี มีประมาณ 13 ล้านคน   ผมเคยไปเที่ยวจีน เจอไกด์จีนคนนึง ชื่อก้อย  เป็นชาวจ้วง มาจากกวางสี  พูดภาษาไทยได้แบบคนกรุงเทพ  เพราะมาเรียนที่บ้านสมเด็จ  แต่เขาพูดภาษาจ้วงมาตั้งแต่เด็ก  มาปรับถ้อยคำสำนวนให้เป็นแบบคนไทย ในเมืองไทยเท่านั้นเอง

แล้วอย่าไปเรียกคนที่พูดภาษาเดียวกับพวกเราในประเทศอื่นว่าเป็นคนไทยนะครับ   มีแต่พวกเราเท่านั้น ที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนไทย พูดภาษาไทย (เริ่มใช้คำนี้ใน พ.ศ.2483)   ทีกวางสี เขาเรียกตัวเองว่าคนจ้วง  ภาษาจ้วง

ส่วนในบังคลาเทศ  เขาเคยเรียกตัวเองว่าสยาม แต่สำเนียงท้องถิ่นทำให้เพี้ยนเป็นอาหม  เช่นเทียวกับกลุ่มที่เราเรียกว่าไทยใหญ่  เดิมก็เรียกตัวเองว่าสยามเหมือนกัน  แต่สำเนียงแบบพม่าที่อยู่รอบ ๆ ออกเสียงนี้ไม่ได้ จึงกลายเป็นฉาน หรือชานไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2016, 02:53:13 PM โดย สุพินท์ - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #341 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 02:58:26 PM »

    ป้อมทรงกลมกับทรงหกเหลี่ยม ใช้ในการป้องกันต่างกันอย่างไรครับ หรือว่าจะเบี่ยงวิถีกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่า ในฝรั่งเศษยังมีป้อมสถาพดีๆให้นักท่องเทียวเข้าไปชมอยู่หลายแห่งครับ

น่าจะเป็นรูปทรงที่แข็งแรงพอกัน  ส่วนตัวผมให้คะแนนความแข็งแรงกับรูปทรงกลมมากกว่า
แต่รูปทรงหกเหลี่ยม มองดูมั่นคงแข็งแรง  เวลามีข้าศึกเข้ามาเกาะติด ก็มองเห็นง่ายกว่า
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #342 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 04:17:04 PM »

อันนี้มั้ง Altai Mountain range ส่วนภาพสองเมือง Baguio City ทีเคยเรียนหนังสือสูง 5000 feet จุดสูงสุด 7000 feet มีสถานีเรดาห์ตรวจอากาศ ไปใหม่ๆแย่เหมือนกัน แต่ยังมีเมืองที่สูงกว่าและมีชุมชนโบราณ มี มัมมี่ด้วยเก็บไว้ในถ้าความสูงเกือบ 8000 feet
บันทึกการเข้า
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« ตอบ #343 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 08:02:00 PM »

อาจารย์ครับ มนุษย์ทางฝั่งยุโรป กับทางฝั่งเอเชีย ทวีปใดมีคนเกิดขึ้นก่อนครับ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #344 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2016, 11:23:03 PM »

อาจารย์ครับ มนุษย์ทางฝั่งยุโรป กับทางฝั่งเอเชีย ทวีปใดมีคนเกิดขึ้นก่อนครับ

ไม่ใช่ทั้ง 2 ทวีป  เพราะบรรพบรุษของมนุษย์เริ่มแยกจากลิงเมื่อ 5 ล้านปีที่แล้ว  ตอนนั้นยุโรปยังรวมกับเอเชีย  เรียกว่ายูเรเชีย

กำเนิดของมนุษย์เกิดขึ้นที่อาฟริกา แต่ยังเป็นมนุษย์ในเชิงกายภาพ   จากนั้นจึงอพยพไปทั่วโลก  อีกหลายล้านปีต่อมาจึงเริ่มดำรงชีวิตแตกต่างจากสัตว์   และที่เขาตัดสินว่าเป็นมนุษย์ในเชิงพฤติกรรม คือเมื่อห้าหมื่นปีมานี้เอง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 20 21 22 [23] 24 25 26 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.115 วินาที กับ 21 คำสั่ง