๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 12, 2024, 04:21:44 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 14 15 16 [17] 18 19 20 ... 37
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Gorget เกราะสมัยไอเวนโฮ ที่กลับมาในศตวรรษที่ 22  (อ่าน 82357 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #240 เมื่อ: เมษายน 23, 2016, 09:39:30 PM »

   แสดงว่าชาวสยามน่าจะอยู่ในดินแดนนี้มาก่อน ไม่น่ามาจากเทือกเขาอัลไต

เรื่องเขาอัลไต  เขาเลิกเชื่อกันมาสามสิบปีแล้วนะครับ
เรื่องนี้  ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้อ้างอิงเลย   ว่ากันว่าสมัยจอมพล ป.มีการประกวดหนังสือ  แล้วก็มีหนังสือได้รางวัลชมเชยเล่มหนึ่ง ผู้เขียนเป็นข้าราชการ งานหลักเป็นล่าม  และมีงานอดิเรกเป็นนักประพันธ์ กับเขียนบทละคร   เนื้อความในหนังสือว่าคนไทยมาจากเขาอัลไต
 คือคนแต่ง เขาเขียนเป็นเรื่องกึ่งนิยาย เพื่อส่งเข้าประกวด   แต่ดันไปถูกใจคนในรัฐบาลเข้า ก็เลยเอามาใส่ในตำราประวัติศาสตร์   ใครเคยไปทางเหนือของจีน หรือแถวมองโกเลียใน  จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นภูเขาน้ำแข็ง  ไม่มีคนอยู่  ขนาดบริเวณเชิงเขา คนพื้นราบอย่างเรา ๆ ยังอยู่ไม่ได้  เพราะอ็อกซิเจนต่ำ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #241 เมื่อ: เมษายน 23, 2016, 09:49:46 PM »

ได้ความรู้มากมายเลยครับ

เรียนถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องเท่าไรว่า แล้วภาษาปักษ์ใต้ของผม เป็นมาอย่างไรครับ ขอบคุณครับ

ก็เป็นภาษาถิ่นที่มีวิวัฒนาการในตัวของตัวเองเท่านั้นเอง
แต่นักภาษาศาสตร์ เขาบอกว่าภาษาไทยสำเนียงนครศรีธรรมราช  เป็นสำเนียงเดียวกับภาษาไทยลาวที่พูดกันในหมู่ชาวจ้วง (มี 13 ล้านคน) ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน   ซึ่งถือกันว่าเป็นภาษาไทย-ลาว ที่เก่าแก่ที่สุด   นอกจากนั้น นักโบราณคดีฝรั่ง เขาตามรอยนิทานซินเดอเรลล่า มาจนถึงต้นตอว่ามาจากนิทานพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทองของชาวจ้วง

ขอบคุณมากครับผม

ที่อยากทราบอีก คือภาษาของพวกอาณาจักรโบราณของด้ามขวาน เช่น ศรีวิชัย ตาพรลิง ว่าใช้ภาษาอะไรครับ

เกิดไม่ทันเหมือนกันครับ
ศรีวิชัย น่าจะใช้ภาษามาลายู   ส่วน Tambalinga มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทางตอนใต้ของอินเดีย และศรีลังกา  อาจจะใช้ภาษาเดียวกับอินเดียใต้ ก็เป็นได้

ผมว่ากระทู้นี้  ชักไปไกลจากหัวเรื่องมากขึ้นทุกที
บันทึกการเข้า
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #242 เมื่อ: เมษายน 23, 2016, 10:03:01 PM »

งั้นกลับมาเกราะครับ รัฐในแถบนี้สมัยก่อนใช้ชุดเกราะแบบใหนบ้างครับ
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #243 เมื่อ: เมษายน 23, 2016, 10:09:44 PM »

       ผมเดาว่าน่าจะเป็นเกราะทำมาจากหนังสัตว์ หรือจากพืชแบบหวายเพราะมีความเหนียวยืดหยุ่นได้ งานโลหะไม่น่าจะทำได้เต็มตัวแบบอัศวินยุคกลาง
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #244 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 08:09:17 AM »

ของเราน่าจะใช้เดรื่องป้องกันมือถือเช่นโล่เขนดั้ง
บันทึกการเข้า
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #245 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 08:25:07 AM »

ตัวผมเองเคยอ่านเจอเกราะนวมครับ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไมู่้ว่ามีการใช้เกราะกี่แบบด้วยครับ ที่สงสัยเพราะตอนรู้ว่าเกราะซามูไรของญี่ปุ่นนั้นมันระดับศักดินาไม่ได้ใส่กันทุกคน และคาตะนะเป็นแค่อาวุธป้องกันตัวและเป็นเครื่องหมายศักดินาด้วย ผมนี่เงิบพอสมควรครับ
บันทึกการเข้า
bobby
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 16
ออฟไลน์

กระทู้: 544


« ตอบ #246 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 09:07:27 AM »

ได้ความรู้มากมายเลยครับ

เรียนถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องเท่าไรว่า แล้วภาษาปักษ์ใต้ของผม เป็นมาอย่างไรครับ ขอบคุณครับ

ก็เป็นภาษาถิ่นที่มีวิวัฒนาการในตัวของตัวเองเท่านั้นเอง
แต่นักภาษาศาสตร์ เขาบอกว่าภาษาไทยสำเนียงนครศรีธรรมราช  เป็นสำเนียงเดียวกับภาษาไทยลาวที่พูดกันในหมู่ชาวจ้วง (มี 13 ล้านคน) ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน   ซึ่งถือกันว่าเป็นภาษาไทย-ลาว ที่เก่าแก่ที่สุด   นอกจากนั้น นักโบราณคดีฝรั่ง เขาตามรอยนิทานซินเดอเรลล่า มาจนถึงต้นตอว่ามาจากนิทานพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทองของชาวจ้วง

ขอบคุณมากครับผม

ที่อยากทราบอีก คือภาษาของพวกอาณาจักรโบราณของด้ามขวาน เช่น ศรีวิชัย ตาพรลิง ว่าใช้ภาษาอะไรครับ

เกิดไม่ทันเหมือนกันครับ
ศรีวิชัย น่าจะใช้ภาษามาลายู   ส่วน Tambalinga มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทางตอนใต้ของอินเดีย และศรีลังกา  อาจจะใช้ภาษาเดียวกับอินเดียใต้ ก็เป็นได้

ผมว่ากระทู้นี้  ชักไปไกลจากหัวเรื่องมากขึ้นทุกที

ขอบคุณครับผม
บันทึกการเข้า
turboboost
Full Member
***

คะแนน 31
ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #247 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 10:31:30 AM »

ตัวผมเองเคยอ่านเจอเกราะนวมครับ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไมู่้ว่ามีการใช้เกราะกี่แบบด้วยครับ ที่สงสัยเพราะตอนรู้ว่าเกราะซามูไรของญี่ปุ่นนั้นมันระดับศักดินาไม่ได้ใส่กันทุกคน และคาตะนะเป็นแค่อาวุธป้องกันตัวและเป็นเครื่องหมายศักดินาด้วย ผมนี่เงิบพอสมควรครับ
ขยายความหน่อยครับพี่ แล้วญี่ปุ่นเขาใช้อะไรสู้กันละครับ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #248 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 12:21:19 PM »

ตัวผมเองเคยอ่านเจอเกราะนวมครับ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไมู่้ว่ามีการใช้เกราะกี่แบบด้วยครับ ที่สงสัยเพราะตอนรู้ว่าเกราะซามูไรของญี่ปุ่นนั้นมันระดับศักดินาไม่ได้ใส่กันทุกคน และคาตะนะเป็นแค่อาวุธป้องกันตัวและเป็นเครื่องหมายศักดินาด้วย ผมนี่เงิบพอสมควรครับ
ขยายความหน่อยครับพี่ แล้วญี่ปุ่นเขาใช้อะไรสู้กันละครับ

ระยะไกล ก็เริ่มจากธนูก่อน  ตามด้วยหอกซัด   แล้วก็อาวุธด้ามยาว  หมดแล้วถึงเป็นดาบ

สมัยนี้ก็แนวคิดเดิม   รถถังเป็นอาวุธเชิงรุก  พอน้ำมันหมด รถถังก็กลายเป็นป้อมปืน  พอกระสุนปืนประจำรถหมด  รถถังก็กลายเป็นที่กำบัง  พอระเบิดขว้างกับกระสุนของอาวุธประจำกายหมด  พลประจำรถก็กลายเป็นวีรชน
บันทึกการเข้า
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #249 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 06:04:28 PM »

ตัวผมเองเคยอ่านเจอเกราะนวมครับ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไมู่้ว่ามีการใช้เกราะกี่แบบด้วยครับ ที่สงสัยเพราะตอนรู้ว่าเกราะซามูไรของญี่ปุ่นนั้นมันระดับศักดินาไม่ได้ใส่กันทุกคน และคาตะนะเป็นแค่อาวุธป้องกันตัวและเป็นเครื่องหมายศักดินาด้วย ผมนี่เงิบพอสมควรครับ

ขยายความหน่อยครับพี่ แล้วญี่ปุ่นเขาใช้อะไรสู้กันละครับ

ระยะไกล ก็เริ่มจากธนูก่อน  ตามด้วยหอกซัด   แล้วก็อาวุธด้ามยาว  หมดแล้วถึงเป็นดาบ

สมัยนี้ก็แนวคิดเดิม   รถถังเป็นอาวุธเชิงรุก  พอน้ำมันหมด รถถังก็กลายเป็นป้อมปืน  พอกระสุนปืนประจำรถหมด  รถถังก็กลายเป็นที่กำบัง  พอระเบิดขว้างกับกระสุนของอาวุธประจำกายหมด  พลประจำรถก็กลายเป็นวีรชน
ตามอาจารย์ผู้การครับ อาวุธหลักคือธนู หอกยาริกับง้าวนากินาตะครับ เพราะการสู้รบเริ่มจากระยะไกลก่อนก็ซัดกันด้วยธนู.(ไม่นับปืนไฟในยุคหลัง) พอเข้าระยะก็เล่นหอกยารินี่ละครับ บางกองนี่หอกยาวถึง5เมตรเอาไว้ทั้งแทงและตัดเกี่ยวขาม้าครับ ส่วนดาบก็ไม่ใช่คาตะนะอีกจะเป็นโนตาชิสำหรับพลราบที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี ยาวมากเฉพาะใบดาบ80กว่าเซ็นครับรวมด้ามเมตรกว่า ถ้าบนหลังม้าก็เป็นดาบตาชิที่มีความยาวและโค้งใช้ฟันบนหลังม้าได้ดี

  ต่อมาตาชินิยมมากในยุคเฮอันและเป็นอาวุธของชนชั้นสูงผลิตด้วยความประณีต ถ้า1-1แทบจะกินเรียบครับ เพราะพวกหอกจะเป็นอาวุธของทหารที่ฝึกมาดีระดับหนึ่งแค่นั้นสกิลต่างกันเยอะ หลังยุคนี้ไม่ค่อยได้สู้กันในสนามรบแต่เป็นการสู้กันในเมือง ตามตรอกตามซอย อาจจะโดนลอบโจมตี อาวุธจึงสั้นลงและออกแบบให้ชักได้เร็วเพื่อความสะดวกในการตอบโต้และเคลื่อนไหว คาตะนะเกิดด้วยเงื่อนไขนี้ครับ คือตัดความยาวของตาชิออกแล้วหงายคมขึ้น จำยุคไม่ได้ครับแต่ดังๆคือยุคเอโดะ แล้วก็มีวากิซากิที่สั้นลงมาอีกคือราวๆ50-60เซ็น พกคู่กับคาตะนะแต่พกได้เฉพาะซามูไรขั้นสูง และอนุญาตให้พกติดตัวเข้าไปในบ้านคนอื่นได้ครับ ส่วนคาตะนะต้องฝากกับคนติดตามไว้
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #250 เมื่อ: เมษายน 24, 2016, 06:28:24 PM »

ตัวผมเองเคยอ่านเจอเกราะนวมครับ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไมู่้ว่ามีการใช้เกราะกี่แบบด้วยครับ ที่สงสัยเพราะตอนรู้ว่าเกราะซามูไรของญี่ปุ่นนั้นมันระดับศักดินาไม่ได้ใส่กันทุกคน และคาตะนะเป็นแค่อาวุธป้องกันตัวและเป็นเครื่องหมายศักดินาด้วย ผมนี่เงิบพอสมควรครับ
ขยายความหน่อยครับพี่ แล้วญี่ปุ่นเขาใช้อะไรสู้กันละครับ

ระยะไกล ก็เริ่มจากธนูก่อน  ตามด้วยหอกซัด   แล้วก็อาวุธด้ามยาว  หมดแล้วถึงเป็นดาบ

สมัยนี้ก็แนวคิดเดิม   รถถังเป็นอาวุธเชิงรุก  พอน้ำมันหมด รถถังก็กลายเป็นป้อมปืน  พอกระสุนปืนประจำรถหมด  รถถังก็กลายเป็นที่กำบัง  พอระเบิดขว้างกับกระสุนของอาวุธประจำกายหมด  พลประจำรถก็กลายเป็นวีรชน

ก่อนเป็นวีรชนก็ต้องติดดาบเสียก่อนวัดดวงไปเลย
บันทึกการเข้า
chew - รักในหลวง
VOTE NO = ไม่เลือกควายตัวไหน และ สัตว์คอกใด ทั้งสิ้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1893
ออฟไลน์

กระทู้: 10588


เอาแผ่นดินของพ่อหลวงคืนมา เอาคนโกงชาติเข้าคุกไป


« ตอบ #251 เมื่อ: เมษายน 25, 2016, 09:31:31 AM »

ตัวผมเองเคยอ่านเจอเกราะนวมครับ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไมู่้ว่ามีการใช้เกราะกี่แบบด้วยครับ ที่สงสัยเพราะตอนรู้ว่าเกราะซามูไรของญี่ปุ่นนั้นมันระดับศักดินาไม่ได้ใส่กันทุกคน และคาตะนะเป็นแค่อาวุธป้องกันตัวและเป็นเครื่องหมายศักดินาด้วย ผมนี่เงิบพอสมควรครับ
ขยายความหน่อยครับพี่ แล้วญี่ปุ่นเขาใช้อะไรสู้กันละครับ

ระยะไกล ก็เริ่มจากธนูก่อน  ตามด้วยหอกซัด   แล้วก็อาวุธด้ามยาว  หมดแล้วถึงเป็นดาบ

สมัยนี้ก็แนวคิดเดิม   รถถังเป็นอาวุธเชิงรุก  พอน้ำมันหมด รถถังก็กลายเป็นป้อมปืน  พอกระสุนปืนประจำรถหมด  รถถังก็กลายเป็นที่กำบัง  พอระเบิดขว้างกับกระสุนของอาวุธประจำกายหมด  พลประจำรถก็กลายเป็นวีรชน
  ไม่สุกเพราะโดนเผา ก็คงเป็นชิ้นๆในรถถังเลย ...แง  แง
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #252 เมื่อ: เมษายน 25, 2016, 11:40:55 AM »

   แสดงว่าชาวสยามน่าจะอยู่ในดินแดนนี้มาก่อน ไม่น่ามาจากเทือกเขาอัลไต

เรื่องเขาอัลไต  เขาเลิกเชื่อกันมาสามสิบปีแล้วนะครับ
เรื่องนี้  ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้อ้างอิงเลย   ว่ากันว่าสมัยจอมพล ป.มีการประกวดหนังสือ  แล้วก็มีหนังสือได้รางวัลชมเชยเล่มหนึ่ง ผู้เขียนเป็นข้าราชการ งานหลักเป็นล่าม  และมีงานอดิเรกเป็นนักประพันธ์ กับเขียนบทละคร   เนื้อความในหนังสือว่าคนไทยมาจากเขาอัลไต
 คือคนแต่ง เขาเขียนเป็นเรื่องกึ่งนิยาย เพื่อส่งเข้าประกวด   แต่ดันไปถูกใจคนในรัฐบาลเข้า ก็เลยเอามาใส่ในตำราประวัติศาสตร์   ใครเคยไปทางเหนือของจีน หรือแถวมองโกเลียใน  จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นภูเขาน้ำแข็ง  ไม่มีคนอยู่  ขนาดบริเวณเชิงเขา คนพื้นราบอย่างเรา ๆ ยังอยู่ไม่ได้  เพราะอ็อกซิเจนต่ำ


แหม....  คล้ายๆบางระจันของไม้ เมืองเดิม แค่นวนิยายอิงประวัติศาสตร์
กลายเป็นจริงเป็นจังจนไปถึงขั้นมีอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #253 เมื่อ: เมษายน 25, 2016, 11:53:44 AM »


ตามอาจารย์ผู้การครับ อาวุธหลักคือธนู หอกยาริกับง้าวนากินาตะครับ เพราะการสู้รบเริ่มจากระยะไกลก่อนก็ซัดกันด้วยธนู.(ไม่นับปืนไฟในยุคหลัง) พอเข้าระยะก็เล่นหอกยารินี่ละครับ บางกองนี่หอกยาวถึง5เมตรเอาไว้ทั้งแทงและตัดเกี่ยวขาม้าครับ ส่วนดาบก็ไม่ใช่คาตะนะอีกจะเป็นโนตาชิสำหรับพลราบที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี ยาวมากเฉพาะใบดาบ80กว่าเซ็นครับรวมด้ามเมตรกว่า ถ้าบนหลังม้าก็เป็นดาบตาชิที่มีความยาวและโค้งใช้ฟันบนหลังม้าได้ดี

  ต่อมาตาชินิยมมากในยุคเฮอันและเป็นอาวุธของชนชั้นสูงผลิตด้วยความประณีต ถ้า1-1แทบจะกินเรียบครับ เพราะพวกหอกจะเป็นอาวุธของทหารที่ฝึกมาดีระดับหนึ่งแค่นั้นสกิลต่างกันเยอะ หลังยุคนี้ไม่ค่อยได้สู้กันในสนามรบแต่เป็นการสู้กันในเมือง ตามตรอกตามซอย อาจจะโดนลอบโจมตี อาวุธจึงสั้นลงและออกแบบให้ชักได้เร็วเพื่อความสะดวกในการตอบโต้และเคลื่อนไหว คาตะนะเกิดด้วยเงื่อนไขนี้ครับ คือตัดความยาวของตาชิออกแล้วหงายคมขึ้น จำยุคไม่ได้ครับแต่ดังๆคือยุคเอโดะ แล้วก็มีวากิซากิที่สั้นลงมาอีกคือราวๆ50-60เซ็น พกคู่กับคาตะนะแต่พกได้เฉพาะซามูไรขั้นสูง และอนุญาตให้พกติดตัวเข้าไปในบ้านคนอื่นได้ครับ ส่วนคาตะนะต้องฝากกับคนติดตามไว้

ไม่สะดวกเท่าไหร่ ส่งรูปแค่นี้ก่อน ถ้าใครทราบก็ลุยเลยครับ







แถมดาบไทยให้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 25, 2016, 12:02:01 PM โดย submachine -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

รัชต์
Full Member
***

คะแนน 77
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 176



« ตอบ #254 เมื่อ: เมษายน 25, 2016, 12:00:15 PM »

เป็นกระทู้ออกทะเล ที่น่าติดตามครับ ผมก็ตามมาไกลแล้วเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 16 [17] 18 19 20 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 21 คำสั่ง