๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 11, 2024, 12:37:42 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 7 8 9 [10] 11 12 13 ... 37
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Gorget เกราะสมัยไอเวนโฮ ที่กลับมาในศตวรรษที่ 22  (อ่าน 82341 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #135 เมื่อ: มีนาคม 28, 2016, 09:13:53 AM »

ผมเข้าใจว่ายักษ์ในรามเกียรติ์คงเป็นพวกทมิฬ (แต่คนทมิฬจริง ๆ ตัวเล็ก) พระราม พระลักษณ์คือชาวอารยัน
ทีนี้ที่ปักษ์ใต้มีหนังตะลุงซึ่งต้นเค้าก็อยู่ที่อินเดีย แต่ยักษ์ในหนังตะลุงผิวขาวครับ ร่างกายใหญ่โต นิสัยหยาบ ชอบกินสัตว์ กินคน ไม่ค่อยเหมือนคนทมิฬ(ผมเลยมั่วไปว่ายักษ์ในหนังตะลุงคือแขกขาว เพราะมุสลิมเคยรุกรานอินเดีย มหาวิทยาลัยนาลันทาถูกเผาราบเป็นหน้ากลอง)   


นาลานทา ถูกทำลายเพราะต้องการเปลี่ยนศาสนาในอินเดียให้เป็นแบบที่ผู้ชนะต้องการ
แต่นาลานทาตอนที่ถูกเผา เป็นพุทธมหายานนะครับ  ไม่ใช่เถรวาทแบบในบ้านเรา
ปัจจุบัน  ทางการอินเดียได้จัดตั้งมหาวิทยาลัย นวนาลานทาให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษาศาสนาพุทธและภาษาบาลี  โดยชาวมุสลิมอินเดีย บริจาคที่ดินให้
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #136 เมื่อ: มีนาคม 29, 2016, 09:12:54 PM »

    นาลานทาถูกเผาอยู่เป็นอาทิตย์ จริงรึเปล่าครับ น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตมาก
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #137 เมื่อ: มีนาคม 30, 2016, 08:38:43 PM »

   นาลานทาถูกเผาอยู่เป็นอาทิตย์ จริงรึเปล่าครับ น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตมาก

เฉพาะหนังสือ  ใช้เวลาเผา 3 เดือน ครับ
แต่นาลานทา ก็เป็นความตกต่ำของพุทธศาสนาหนทางหนึ่งเหมือนกัน
พระภิกษุมุ่งแสวงหาความรู้ เข้ามาเรียนกันมากมาย  ละทิ้งมวลชน   ทำให้ศาสนาฮินดู ฟื้นคืนเข้ามาได้ โดยอาศัยแนวทางของศังกราจารย์  เปลี่ยนศาสนาพราห์มเป็นศาสนาฮินดู  มีวัดเหมือนพุทธ  ที่เคยฆ่าสัตว์บูชายันต์ ก็เลิก พราห์มเข้าหามวลชนมากขึ้น  พิธีสวดต่าง ๆ ก็ไม่เก็บเงิน  แล้วแต่ศัทธา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2016, 08:45:53 PM โดย สุพินท์ - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #138 เมื่อ: มีนาคม 30, 2016, 11:24:55 PM »

มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย

ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2016, 11:27:24 PM โดย รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ » บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #139 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 11:28:46 AM »

มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย

ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ

เพิ่มเติมให้ครับ
ตรันตระ เดิมเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพราห์ม   เน้นการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง   และทำกันอย่างโจ่งแจ้ง  อย่างเช่นวิหารกามสูตรที่คาจูราโฮ  รัฐมัธยประเทศ (เป็นศาสนสถานที่เป็นมรดกโลก)  ก็เป็นส่วนหนึ่งของตันตระ (ฮินดู)

ช่วงนั้นแนวทางของพุทธมหายาน เข้าใกล้กับศาสนาพราห์มมากขึ้น ๆ ทุกที  จนรับเอาตันตระเข้ามาเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธ  มีการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดปัญญา  ทั้งเหล้า ทั้งกามที่พระพุทธเจ้าห้ามไว้  พระในนิกายตันตระ ทดลองหมดทุอย่าง  เพื่อให้รู้ว่าทำไมถึงห้าม  แต่ของพุทธ จะปฏิบัติในห้องลับ

ปัจจุบัน พุทธตันตระได้พัฒนาเป็นวัชรยานของธิเบต  ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกามคุณแล้ว แต่อาจจะยังมีอะไรแปลก ๆ อยู่บ้าง  เช่นบางนิกายย่อย มีการผูกอวัยวะเพศลากก้อนหิน
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #140 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 12:49:27 PM »

มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย

ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
พอดีอ่านข่าวมาว่าวัดที่นครศรีธรรมราชอายุจริงๆน่าจะ 1000 - 1100 ปีตรงกันไหมครับ
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #141 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 04:24:19 PM »

มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย
ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
เพิ่มเติมให้ครับ
ตรันตระ เดิมเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพราห์ม   เน้นการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง   และทำกันอย่างโจ่งแจ้ง  อย่างเช่นวิหารกามสูตรที่คาจูราโฮ  รัฐมัธยประเทศ (เป็นศาสนสถานที่เป็นมรดกโลก)  ก็เป็นส่วนหนึ่งของตันตระ (ฮินดู)
ช่วงนั้นแนวทางของพุทธมหายาน เข้าใกล้กับศาสนาพราห์มมากขึ้น ๆ ทุกที  จนรับเอาตันตระเข้ามาเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธ  มีการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดปัญญา  ทั้งเหล้า ทั้งกามที่พระพุทธเจ้าห้ามไว้  พระในนิกายตันตระ ทดลองหมดทุอย่าง  เพื่อให้รู้ว่าทำไมถึงห้าม  แต่ของพุทธ จะปฏิบัติในห้องลับ
ปัจจุบัน พุทธตันตระได้พัฒนาเป็นวัชรยานของธิเบต  ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกามคุณแล้ว แต่อาจจะยังมีอะไรแปลก ๆ อยู่บ้าง  เช่นบางนิกายย่อย มีการผูกอวัยวะเพศลากก้อนหิน
เสพกามเพื่อความหลุดพ้นนี่..น่าสนุกดีนะครับ..55555.. Grin
บันทึกการเข้า
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #142 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 05:23:56 PM »

เสพกามเพื่อความหลุดพ้นนี่..น่าสนุกดีนะครับ..55555.. Grin
ระวังเจอหญิงรุมแบบ 7 ต่อ 1 พอฝ่ายชายป้อแป้ไม่ไหวแล้ว คุณเธอทั้งหลายคงหงุดหงิดเลยช่วยกันเอากระดาษทรายขัดจรวดเสียถลอกปอกเปิกเหมือนถลกหนังออก

แบบนั้นตายดีกว่าครับ  อ๋อย
บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #143 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 05:32:51 PM »

พอดีอ่านข่าวมาว่าวัดที่นครศรีธรรมราชอายุจริงๆน่าจะ 1000 - 1100 ปีตรงกันไหมครับ

ช่วงที่พุทธศาสนาเริ่มเสื่อมสลายไปจากอินเดียเกิดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 ไล่ลงมาครับ ส่วนยุคทวารวดีและศรีวิชัยเริ่มในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 11 จนถึง 18 ก่อนหน้านั้นก็จะเป็นยุคฟูนัน-เจนละ ส่วนทางปักษ์ใต้ก็จะเป็นพวกตามพรลิงค์พวกนั้นครับ
บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #144 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 07:06:42 PM »

พอดีอ่านข่าวมาว่าวัดที่นครศรีธรรมราชอายุจริงๆน่าจะ 1000 - 1100 ปีตรงกันไหมครับ

ช่วงที่พุทธศาสนาเริ่มเสื่อมสลายไปจากอินเดียเกิดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 ไล่ลงมาครับ ส่วนยุคทวารวดีและศรีวิชัยเริ่มในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 11 จนถึง 18 ก่อนหน้านั้นก็จะเป็นยุคฟูนัน-เจนละ ส่วนทางปักษ์ใต้ก็จะเป็นพวกตามพรลิงค์พวกนั้นครับ

ยุคทวาราวดี นี่เขายังสงสัยกันอยู่นะครับ ว่าอาจจะไม่มีอาณาจักรทวาราวดีอย่างที่เคยเชื่อกัน  มีแต่วัฒนธรรมแบบทวาราวดี
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #145 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 07:53:31 PM »

     บูโรพุทโธ เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในยุคศรีวิชัยรึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #146 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 10:20:22 PM »

     บูโรพุทโธ เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในยุคศรีวิชัยรึเปล่าครับ

นักประวัติศาสตร์ยังเถียงกันไม่เสร็จครับ บางท่านเชื่อว่านครศรีธรรมราช บางท่านก็เชื่อว่าเป็นนครปฐม    แต่บันทึกของหลวงจีนอี้จิง (ศิษย์เก่านาลานทา รุ่นหลังพระถังซำจั๋ง) ระบุว่า ในช่วง พ.ศ.1200 พุทธมหายานเจริญรุ่งเรืองในศรีวิชัย
บันทึกการเข้า
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #147 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 11:01:55 PM »

ยุคทวาราวดี นี่เขายังสงสัยกันอยู่นะครับ ว่าอาจจะไม่มีอาณาจักรทวาราวดีอย่างที่เคยเชื่อกัน  มีแต่วัฒนธรรมแบบทวาราวดี
ผมมีความเห็นว่าทวารวดีไม่ใช่อาณาจักรแน่นอนครับ เพราะท่านอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ให้ความเห็นในวารสารเมืองโบราณ เล่มที่แล้วว่า แต่ละเมืองน่าจะเป็นอิสระต่อกัน แต่อาจจะปกครองในรูปแบบคล้ายๆ กับระบอบสหพันธรัฐในแบบปัจจุบันมากกว่าครับ

ส่วนวัฒนธรรมทวารวดี ผมมองว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางอินเดียตอนกลางกับทางตอนใต้มากกว่าอินเดียตอนเหนือ สังเกตจากพุทธลักษณะของพระพุทธรูปแบบทวารวดีโดยเฉพาะในยุคต้นจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบอมราวดีกับแบบคุปตะ รวมถึงการใช้อักษรปัลลวะจารึกคัมภีร์หรือพระคาถาบนโบราณวัตถุและโบราณสถาน และลวดลายปูนปั้นตลอดจนลายแกะสลักก็ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบคุปตะเช่นกันครับ
บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #148 เมื่อ: เมษายน 01, 2016, 01:10:37 PM »

ยุคทวาราวดี นี่เขายังสงสัยกันอยู่นะครับ ว่าอาจจะไม่มีอาณาจักรทวาราวดีอย่างที่เคยเชื่อกัน  มีแต่วัฒนธรรมแบบทวาราวดี
ผมมีความเห็นว่าทวารวดีไม่ใช่อาณาจักรแน่นอนครับ เพราะท่านอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ให้ความเห็นในวารสารเมืองโบราณ เล่มที่แล้วว่า แต่ละเมืองน่าจะเป็นอิสระต่อกัน แต่อาจจะปกครองในรูปแบบคล้ายๆ กับระบอบสหพันธรัฐในแบบปัจจุบันมากกว่าครับ

ส่วนวัฒนธรรมทวารวดี ผมมองว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางอินเดียตอนกลางกับทางตอนใต้มากกว่าอินเดียตอนเหนือ สังเกตจากพุทธลักษณะของพระพุทธรูปแบบทวารวดีโดยเฉพาะในยุคต้นจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบอมราวดีกับแบบคุปตะ รวมถึงการใช้อักษรปัลลวะจารึกคัมภีร์หรือพระคาถาบนโบราณวัตถุและโบราณสถาน และลวดลายปูนปั้นตลอดจนลายแกะสลักก็ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบคุปตะเช่นกันครับ

หลายคนอ้างว่าลายกนกเป็นลายไทย  บางท่านไปไกลถึงขนาดไปบอกว่าลาว เขมร เลียนแบบไปจากไทย
เรื่องจริงก็คือ ต่างก็ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียด้วยกันทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #149 เมื่อ: เมษายน 01, 2016, 02:27:29 PM »

ชาวทมิฬ..เป็นคนพวกไหนครับ ระหว่างมองโกลอยด์ หรือ นิกรอยด์..อารยันนั้นไม่ใช่แน่ ๆ อยู่แล้ว 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 9 [10] 11 12 13 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.088 วินาที กับ 21 คำสั่ง