๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 03, 2024, 11:54:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความรู้เกี่ยวกับกบพิษในไทยหน่อยครับ  (อ่าน 6439 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นรกบนดิน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 565

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของดาบยิ้มด้วยนะครับ


« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2006, 05:54:10 PM »

คือผมนั่งดูสารคดีแว๊บหนึ่ง เขาบรรยายสรรพคุณกบพิษ Phyllobates terribilis 1ตัว พิษสามารถฆ่าคนได้ถึงร้อยคน เจ้า เคโระ คิงส์ ตัวนี้อาศัยแถวๆ อเมริกาใต้

แล้วกบพิษในไทยล่ะครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้าๆ เคยประสบพบเจอ หรือเคยถูกทำร้ายบ้างรึเปล่า

แล้วงูพิษมันจะกินกบพิษรึเปล่าครับ  Undecided
บันทึกการเข้า

ชีวิตเรา เราเลือกหนทางเอง โปรดใช้วิจารณญาน ไม่ต้องมาวิจารณ์ เพราะเราไม่ฟัง
นรกบนดิน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 565

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของดาบยิ้มด้วยนะครับ


« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2006, 06:06:25 PM »

สี ลักษณะ เหมือน ปาดบ้านเราเนาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2006, 06:25:15 PM โดย นรกบนดิน » บันทึกการเข้า

ชีวิตเรา เราเลือกหนทางเอง โปรดใช้วิจารณญาน ไม่ต้องมาวิจารณ์ เพราะเราไม่ฟัง
halls13
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2006, 07:18:37 PM »

 Grin Grinกบพิษ Grin Grinดูง่ายๆ....... Grin Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2006, 07:20:20 PM โดย Halls » บันทึกการเข้า
ศรีวิชัย.
รักปืนไม่เปลี่ยนแปลง
Sr. Member
****

คะแนน 51
ออฟไลน์

กระทู้: 865



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2006, 10:36:36 PM »

กบหัวกะโหลกไขว้ 55
คิดว่าจะมีแต่เฉพาะเมืองนอกนะครับ
ในเมืองไทยไม่น่ามีกบที่มีพิษ
นอกจากคางคกที่ตุ่มผิวหนัง
มีพิษใครกินตายได้ครับ
บันทึกการเข้า

ลูกปืนหล่นไม่ไกลเป้า.....///
nick
Hero Member
*****

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 1587


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 12:50:28 AM »

เมืองไทยมีครับ

เคยอ่านข่าวแว๊บๆ ชื่อสามัญว่า นังกบ

ควรระวังมากๆ หากสัมผัสผิวหนังโดยเฉพาะ...................ปากครับ
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88266


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 04:48:38 AM »

เคยเห็นอยู่ตัวครับ มันร้ายกาจมาก  Grin Grin Grin

บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88266


« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 04:49:27 AM »

เมืองไทยมีครับ

เคยอ่านข่าวแว๊บๆ ชื่อสามัญว่า นังกบ

ควรระวังมากๆ หากสัมผัสผิวหนังโดยเฉพาะ...................ปากครับ

เวลาโมโหชอบข่วนรึเปล่าครับท่าน  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 07:34:27 AM »

เมืองไทยมีครับ

เคยอ่านข่าวแว๊บๆ ชื่อสามัญว่า นังกบ

ควรระวังมากๆ หากสัมผัสผิวหนังโดยเฉพาะ...................ปากครับ
Grin Grin
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 07:46:51 AM »

กบมีพิษ
 
      กบมีพิษ มีถึง 40 ชนิดทั่วโลก ส่วนใหญ่พบในแถบประเทศร้อน ที่มีฝนตกชุก ที่พบในเมืองไทยเป็นประเภทที่มีพิษ อยู่ที่เล็บ (Dentrobate frog) ลักษณะลำตัว มีสีสันสดใส สังเกตได้ง่าย ในขณะที่มันจะลงมือทำร้ายศัตรู ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ เรียกว่า หมาน้ำ เพราะเสียงร้องของมันคล้ายลูกสุนัขเห่า ส่วนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า สางห่า ผู้ที่ถูกพิษของมัน มีอาการเจ็บปวดมาก และถ้ารักษาไม่ถูกต้อง จะตายในเวลาอันรวดเร็ว


       เคยมีผู้พบเห็นกบชนิดนี้ ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จังหวัดชุมพร และบริเวณเทือกเขาภูพาน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นถูกพิษของหมาน้ำเสียชีวิตไปหลายคน แม้ในปัจจุบันก็ยังไม่ปรากฏว่ ามียารักษา หรือเซรุ่มที่ใช้รักษาพิษของกบเหล่านีได้โดยตรง ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ในประเทศไทย มีผู้ทดลองใช้ใบเสลดพังพอนสดรักษาตามแบบแผนโบราณ โดยอ้างว่าแก้พิษหมาน้ำได้


 
คางคกมีพิษ
 
      คางคก เป็นสัตว์ประเภทเดียวกับกบ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่นิยมรับประทานเนื้อคางคก ดังนั้นจึงพบคนที่เกิดอาการพิษจากคางคกน้อย
      คางคกเป็นสัตว์ในตระกูล มูโฟนิดี (Bufonidae) โดยยังแบ่งคางคกเป็น 2 ชนิด คือ คางคกตามบ้านทั่วไป (Bufo Vulgaris) และ คางคกพันธุ์ใหญ่ (Bufo Agua) ที่ผิวหนัง บริเวณใกล้หูของคางคก มีต่อมที่เรียกว่า พาโรทอยด์ (Parotoid gland) ซึ่งต่อมนี้สามารถขังน้ำเมือก ที่มีสารพิษหลายชนิดออกมา และยังพบสารพิษ ในเลือดของคางคกทั้งสองชนิด สารพิษที่พบได้แก่ สารดิจิทาลอยด์ (Digitaloids), อัลคาลอยด์อีกหลายชนิด ซึ่งมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอที่ทำให้เกิดพิษ และสารประกอบชนิดอื่นซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองเฉพาะที่ อาการพิษ เกิดมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดที่รับประทานเข้าไป อาการมักเกิดขึ้นช้า คือภายหลังรับประทานหลายชั่วโมง เด็กจะมีความทนต่อขนาดการเกิดพิษได้มากกว่าผู้ใหญ่ อาการพิษ คือ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ถ้าได้รับเข้าไปมากทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตไม่ดี อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ มีอาการทางระบบรับความรู้สึก เช่น สับสน เพ้อ ง่วงซึม ความจำเลอะเลือน หมดสติและตายในที่สุด

 
บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 07:47:30 AM »

อาการพิษ
 
       เกิดมากน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดที่รับประทานเข้าไป อาการมักเกิดขึ้นช้า คือภายหลังรับประทานหลายชั่วโมง เด็กจะมีความทนต่อขนาดการเกิดพิษได้มากกว่าผู้ใหญ่ อาการพิษ คือ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ถ้าได้รับเข้าไปมากทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตไม่ดี อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ มีอาการทางระบบรับความรู้สึก เช่น สับสน เพ้อ ง่วงซึม ความจำเลอะเลือน หมดสติและตายในที่สุด


 
วิธีการรักษา
 
      1.ล้างท้อง เพื่อไล่อาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารออกให้หมด
      2. รับประทานโปตัสเซียมคลอไรด์ โดยผสมในน้ำผลไม้ให้ดื่มทุกๆ4ชั่วโมง ถ้าผู้ป่วยดื่มไม่ได้ก็ให้ทางหลอดเลือดดำ โดยให้ตามขนาดที่ควรสมควรกับระดับโปตัสเซียมคลอไรด์ในเลือดที่ลดลง
      3.รักษาตามอาการ เช่น ถ้าชีพจรเต้นช้า ก็ให้อพะโทรปีน (Atropine) ถ้าผู้ป่วยอาเจียนหรือถ่ายอุจจาระบ่อยก็ให้มอฟีน ซัลเฟต (Morphine sulfate) และให้ยาอื่นๆตามอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น


 
การป้องกัน
 
      เพื่อความปลอดภัย ห้ามรับประทานคางคก เพราะแม้จะทำให้สุกแล้ว พิษของมันก็ยังไม่ถูกทำลาย

 
บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 07:50:31 AM »

กบตัวนี้สีสวยจริง ๆ มั๊ย แต่เห็นสีสวย ๆ นี้แหละแต่ไปแตะเข้าเชียว เพราะมันมีพิษร้ายถึงขั้นตายได้ เพราะที่หนังของมันจะเคลือบพิษ ที่ทำให้สัตว์ที่หลงไปกินมันกลายเป็นอัมพาตได้ แถมไม่อร่อยอีกด้วย ซึ่งกบเหล่านี้ชาวท้องถิ่นแถวอเมริกาใต้ มักจะจับมันรีดเอาพิษที่หนังของมันไปทำลูกดอกอาบยาพิษ เพื่อใช้ในการล่าสัตว์หรือป้องกันตัว ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าน้อง ๆ เห็นกบที่มีสีสวย ๆ เหมือนไหร่จงหนีให้ไกล อย่าไปจับเก็บเป็นคอลเล็คชั่นล่ะ นอกจากจะเป็นบาปแล้วยังเจ็บตัวอีกด้วย
บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 07:52:17 AM »

สัตว์น่ารักแต่มีพิษ........ ลองศึกษากันดูครับ

http://www.tv3.co.th/family/lovely_animal.html
บันทึกการเข้า

                
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 09:47:47 AM »

พี่ปูพอจะมีรูปหมาน้ำให้ดูหรือไม่ครับ..
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 10:37:38 AM »

ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องเป็นพันธุ์ไทย ลองไปเดินเล่นที่ JJ โซนสัตว์เลี้ยงดูสิครับ  ถามหา arrow frog  น่าจะเจอ  ครับ
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2006, 12:53:17 PM »

หมาน้ำ หรือ เขียดว้าก
หมาน้ำหรือเขียดว้าก (Rana glandulosa) เป็นสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และเสน่ห์แห่งหนองน้ำทะเลบัน ควบคู่กับต้นบากง เขียดว้ากชอบอาศัยอยู่ตามป่าบากง รอบๆ หนองน้ำทะเลบัน ลำตัวสีเทาเข้ม มีแต้มจุดสีเทาเข้มถึงดำ หัวค่อนข้างแบนเรียบ ตัวผู้มีถุงขยายเสียงมองเห็นได้จากภายนอก 1 คู่ จะส่งเสียงร้องคล้ายเสียงลูกสุนัขในยามค่ำคืนที่สงบ นี่เองคือที่มาคำว่า “หมาน้ำ” และในฤดูผสมพันธุ์จะร้อง “ว้ากๆๆ”

ได้มาจากข้อมุลของ อุทยานแห่งชาติ ทะเลบันครับ ที่นั่น มีการปรากฎ กบพิษ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 21 คำสั่ง