๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 15, 2024, 08:37:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5 ... 27
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยต่าง ๆ นา ๆ ประสาคนรอปืน  (อ่าน 73860 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 07:52:57 PM »

จะว่าไปแค่ปืนยังไม่มาทำไมถึงได้ทำให้ไม่ค่อยเรื่องคุยเลย
ดูเงียบๆ เหงาๆ ยังไงชอบกล
บันทึกการเข้า

MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 07:54:19 PM »

จะตอบได้ยังไงล่ะครับพี่สำราญ  แค่เห็นคำถามก็หนาวแล้ว
 อะไรกัน  ถามแค่นี้ทำเป็นหนาว  เมียนะไม่ต้องไปกลัว  ถ้าเขาสั่งอะไร  เขาว่าอะไร  เถียงไปเลย  ว่าจะเอาเมื่อไรแค่นั้นแหละ  แล้วก็รีบๆทำให้มันเสร็จ  จะได้หมดเรื่องไม่ต้องมาหงุดหงิดใจเรา  แค่นั้นเขาก็ไม่มาอยู่ให้เกะกะสายตาเราแล้ว
บันทึกการเข้า
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 08:08:22 PM »

นั้นแหละครับที่ผมทำประจำ ขำก๊าก ขำก๊าก ไหว้
บันทึกการเข้า

MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 08:34:45 PM »

นั้นแหละครับที่ผมทำประจำ ขำก๊าก ขำก๊าก ไหว้
ทำอย่างนี้แล้วไง  ไม่ได้กลัว  เพียงแต่รำคารที่มาพูดนั่น  บ่นนี่  เลยทำให้เสร็จๆไป  จะได้ไปเร็วๆ  ไม่มาอยู่กวนใจเราอีก  อย่างไปห้างกันผมอยากได้อะไร  ผมก็หยิบใส่รถเข็น  พอมาถึงช่องจ่ายเงิน  ผมก็เดินผ่านไปเลยปล่อยให้เขายุ่งอยู่ตรงนั้น  พอกลับถึงบ้านเราก็ไปค้นหาของที่เราหยิบมา  พอไม่เห็นก็โวยเลยของที่หยิบใส่รถมันหายไปไหน  เขาก็อ้ำๆอึ้งๆว่า  เห็นมันเต็มรถเข็น  เลยหยิบออก  เราก็รับฟังเหตุผลของเขา  ไม่ได้ว่าอะไร  แต่ถ้าบอกว่าของเราไม่จำเป็นเห็นทีมีเรื่องต้องลงไม้ลงมือกันบ้างแล้ว
บันทึกการเข้า
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #19 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 08:44:17 PM »

ใครครับพี่แม๊กที่โดนลงไม้ลงมือ
บันทึกการเข้า

123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 09:41:08 PM »

 สองหน้าของหัวข้อนี้โดยคุณ  สำราญ +1ให้ทุกท่านครับ
  AA มาเมื่อไร  จะเปลี่ยนจากลีโอเป็น ไอ้แดงชอบเดินครับ พอดีบนไว้ครับถ้า AA เข้ามาก่อนเดือนกุมภาจะแก้บนด้วย  ไอ้แดงชอบเดินครับ  ผมมันติดบนบานศาลกล่าว   5566 ขำก๊าก ขำก๊าก ไหว้
บันทึกการเข้า
Dunk
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1657
ออฟไลน์

กระทู้: 4331



« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 10:00:49 PM »

คุณอู๋สะบายใจใด้มีคนใจเย็นกว่าคุณอู๋อีกครับ(ถึงกับบน) คิก คิก คิก คิก ไหว้
บันทึกการเข้า

     
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #22 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 10:06:13 PM »

เล่นแก้บนด้วยท่านแดงชอบเดินแบบนี้ เห็นที่จะยิงปั่นxซะแล้ว
บันทึกการเข้า

komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #23 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 10:09:02 PM »

คุณอู๋สะบายใจใด้มีคนใจเย็นกว่าคุณอู๋อีกครับ(ถึงกับบน) คิก คิก คิก คิก ไหว้
พี่ท่านชอบทำอะไรเหนือความคาดหมายครับ เห็นปล่าวครับบนแดงชอบเดินทีเดียว
นายห้างฯ เข้ามาเมื่อตอนค่ำทันควันครับ คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า

MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #24 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 10:28:19 PM »

ใครครับพี่แม๊กที่โดนลงไม้ลงมือ
ไม่รู้ครับ  ตอนนั้นจำได้ว่าพอบอกว่าของเราไม่จำเป็นเท่านั้นแหละ  เดินตรงเข้าไปเลย  พอใกล้ได้ที่  ซ้ายตรง  ขวาตาม  แต่พลาดหมด  เพราะเมียนั่งอยู่  เลยแก้ทางใหม่  คราวนี้ขาขวาไปก่อน กะที่ต้นคอเป็นหลับ  ได้ผลทรุดลงไปกองกับพื้นเลย  แต่ไม่ไช่คุณเธอ  กับเป็นเรา เพราะคุณเธอนั่งพิงเสาอยู่  เป็นเพราะสายตาเราไม่ปรกติเลยกะระยะผิด  เท่านั้นยังไม่พอด้วยความโมโห  กะลุกขึ้นมาเล่นต่อเพราะเสียเชิง  เงยหน้าขึ้มาอีกทีมันมืดไปหมด  ไม่รู้ใครปิดไฟ  มาเห็นแสงอีกทีมานอนอยู่บนเตียงเดี่ยวซะแล้ว  เลยไม่รู้ว่าคุณเธอสาหัสแค่ไหน  แต่ตัวเราดันพลาดท่า  เจอไม่เบสบอลสั้นสวนมาตอนไหนไม่รู้    เอาไว้งวดหน้านัดล้างตาไหม่  แต่ตอนนี้ขอนอนดู  หุ่นนางสางพยาบาลไปพลางๆก่อนนะ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #25 เมื่อ: มกราคม 11, 2010, 12:58:20 PM »

ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ หัวหน้าบอกซ้าย ภรรยาบอกขวา ผมก็ต้องขวาตามครับ
ไม่เชื่อภรรยาแล้วจะเชื่อใคร ภรรยาคนนี้นอนอยู่ข้าง ๆ เราทุกวันนี่นา  หัวหน้าทะเลาะกับผม
ไม่เป็นไร แต่ถ้าทะเลาะกับภรรยาเป็นโดนผมเตะเข้าจริง ๆ ไม่เชื่อลองดูสิ ฮิ ฮิ
เป็น ปรัชญาชีวิตอันหนึ่งเหมือนกันนะ

วันหยุดที่ผ่านมาผมจึงทำกิจกรรม ชวนลูกสาวเล่นกับไฟ  เราสองคนทำเป็นหลงป่าในสนามหญ้าหน้าบ้านกัน


ซึ่งผมเองก็ได้เตรียมตัวจุดประกายไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  มันเป็นถ่านไฟซิบโปติดอยู่กับไม้ไอติม



ต่อมาก็เป็นมีดคัทเตอร์เพื่อใช้กรีดสร้างประกายไฟ

ผมบอกลูกสาวให้ไปหาสำลี ลูกสาวหายไปพักใหญ่ ขณะเดียวกันผมก็ไปรวบรวมขุยโคน
ก้านมะพร้าวมาสุม ๆ และตอกมัดข้าวต้มมัดที่แกะทิ้งไว้ ใบอะไรแห้ง ๆ ก็เอามาสุมกันไว้ก่อน
สักพักลูกสาวก็วิ่งหน้าตั้งออกบ้านมาในถือสำลีมาหยิบมือเล็กประมาณเอาไว้เช็ดแขนก่อนฉีดยา
ทำให้ผมอดขำในใจไม่ได้  แล้วผมก็ลงมือขูดใบมีดคัทเตอร์กับถ่านไฟแช๊ก  ก็พอดีภรรยาเดินมา
บอกว่าอาจารย์โทรมาหา ลูกสาวก็ขอทำเองตามที่เห็นพ่อทำเมื่อตะกี้



คุยยังไม่ทันจบ ก็รู้สึกร้อนหันไปดูจึงเห็นว่าลูกสาวก่อไฟติดแล้ว



พอยืนดูไฟมอด เธอก็หันไปเล่นดินเล่นทรายตามประสาเด็กโดยมีผมดูอยู่ห่าง ๆ



ถ่ายมุมเดิมแต่ยกสูงขึ้นอีกนิด เอามาฝากคุณ komatsu ที่ชอบถ่ายรูปตีนเขามากฝากเราประจำ

เห็นมะพร้าวลูกนี้ไหมครับ พอไฟมอด ผมก็ทดลองใช้ hw100 ยิงมะพร้าวด้วยแรงดัน 60 บาร์ ระยะ 5 เมตร
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #26 เมื่อ: มกราคม 11, 2010, 01:30:59 PM »


มะพร้าวลูกนี้เป็นมะพร้าวปลูกเองที่บ้าน  เป็นมะพร้าวพันธุ์เตี้ยชื่อดังจากเมืองจันทร์
ตอนนั้นไปดูงานกล้วยไม้ที่เมืองจันทบุรี แต่กล้วยไม้ไม่ได้ซื้อดันได้มะพร้าวติดรถกลับบ้านมา
ผมตั้งชื่อมะพร้าวพันธุ์แรด เพราะมันแทงช่อรอบต้น ขนาดด้วงมะพร้าวแทะไปหลายช่อ
มะพร้าวพันธุ์แรดนี้มันก็แทงช่อใหม่สู้จนด้วงมะพร้าวหมดแรงแทะบินหนีหายไป



ถ่ายรูปด้านบน  เนื้อมะพร้าวอ่อนภรรยาผมคว้านทานไปหมดแล้ว น้ำมะพร้าวออกเปรี้ยวนิด ๆ
ไม่หวานเหมือนซื้อเขา


เมื่อคืนไปส่องสัตว์มา ยังไม่ได้เก็บ บางคืนผมก็วางกระเป๋าปืนไว้หน้าบ้านยันเช้า คงหายเข้าสักวัน



แรงดันตอนจะยิงมะพร้าว



ยิงทดสอบระยะ 5 เมตร จำนวน 2 นัด อันที่จริง จะยิงนัดเดียว แต่นัดแรกมันมุดลงต่ำ
เดินไปดูพบว่ากระสุนทำให้ก้นสุดของกะลาดุ้งแตกนิดหน่อย จึงเดินย้อนกลับมายิงเผื่อสุงอีก 2 ดอท
ผมก็ลืมไปว่าเมือยิงระยะใกล้ล้ำจุดตัดเส้นเล็งกับแนวกระสุนเข้ามาหาปืน จะทำให้จุดกระสุน
กระทบเป้ากินต่ำ ลืมไปจริง ๆ นัดสองก็เลยเล็งเผื่อสูงกะเข้ากลางลูกมะพร้าว




ร่องรอยเศษกะลากระจายเมือยิงนัดที่สอง 
ตอนยิงนัดแรกยังขาวสะอาดดี แต่ก้นสุดจะเป็นรองดุ้งอย่างที่เห็นเท่านั้น



ผมเลือกยิงจากด้านล่างไปหาด้านบน เพราะมันหนาดี



รอยกระสุนเบอร์ 2 ทะลุ กะลา 


อยากให้ปืนเบอร์ 1 ทำได้อย่างนี้มั้ง ใครว่ากระสุนเร็วกว่าทะลุดี
ผมไม่เชื่อ เพราะรู้ดีว่าน้ำหนักกระสุนเองก็มีส่วนช่วยทะลุทลวงอย่างมาก ลำพังยิงระยะใกล้
มันพิสูจน์อะไรไม่ได้เพราะแรงกระสุนทั้งเบอร์ 1 กับ  2 มันยังแรงเกินกำลังมะพร้าว ต้อง
ถอยระยะยิงออกไปเรื่อย ๆ จะพบว่ากระสุนเบอร์ 1 หมดกำลังก่อนกระสุนเบอร์ 2 
วิธีวัดง่าย ๆ ใช้หนังสติกยิงกระสุนดูก็ได้ ง้างหนังสติกเท่ากัน กระสุนเบอร์ 1 เร็วกว่าอยู่แล้วแน่นอน
ลองยิงวัตถุอะไรก็ได้ ถ้ามันทะลุทั้งคู่ก็ถอยออกมาเรือย ๆ ในที่สุดจะได้คำตอบว่าอะไรแรงกว่ากัน
ความแม่นยังไม่เกี่ยว



รอยหัวกระสุนทะลุมากระทบ แต่คงหมดแรงซะแล้ว เลยแฉลบกระเด็นหายไป


รูเข้าทั้งสองนัด  นัดล่างถ้าเอกเรย์จะเห็นแนวกระสุนพุ่งตรงเข้าไปหายอดก้นกะลาพอดี


ก็คิดว่า หาเรื่องคุยกันตามประสาคนรอปืนนะครับ เดี๋ยวจะมีเรืองมาเล่ายาว ๆ ให้ฟังอีก

บันทึกการเข้า
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #27 เมื่อ: มกราคม 11, 2010, 06:35:52 PM »

ตอนแรกก็นึกว่ามีแต่ผม ที่ใจเย็นเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจว่าปืนจะมาเมื่อไหร่
ที่แท้ก็ยังมีอีกหลายท่าน ที่ใจเย็นยิ่งกว่าผมเสียอีก
ผมสงสัยเหลือเกินว่าแต่ละท่านเตรียมอะไรรอน้อง AA บ้าง
บันทึกการเข้า

123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #28 เมื่อ: มกราคม 12, 2010, 07:07:20 AM »

ตอนแรกก็นึกว่ามีแต่ผม ที่ใจเย็นเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจว่าปืนจะมาเมื่อไหร่
ที่แท้ก็ยังมีอีกหลายท่าน ที่ใจเย็นยิ่งกว่าผมเสียอีก
ผมสงสัยเหลือเกินว่าแต่ละท่านเตรียมอะไรรอน้อง AA บ้าง


   ตู้สำหรับน้องพักผ่อน  กระป๋องต่างๆสำหรับน้องระบายอารมณ์ 5566
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #29 เมื่อ: มกราคม 12, 2010, 09:39:31 AM »

สองปีที่ผ่านมา 14 ม.ค. 05.30 น.
แม้จะเป็นหน้าหนาว แต่วันนี้อากาศเย็นสบายไม่ถึงกับต้องใส่เสื้อกันหนาว
เป็นปกติของเมืองนี้ตั้งแต่อยู่มายังไม่เคยเจอความหนาวจริง ๆ จัง ๆ เหมือนกับเมืองทางเหนือ 

ผมแต่งตัวด้วยชุดแต่งกายกางเกงวอร์มแอร์โร่สีน้ำเงิน ใส่เสื้อยืดแจกสีขาวราคาถูก
กลางอกเสื้อมีข้อความพออ่านจับใจความได้ว่าเป็นเสื้อกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติประจำปี
ของสถาบันราชภัฏนครราชสีมา เสื้อตัวนี้ผมได้รับแจกตอนไปลงสมัครร่วมวิ่งมินิมาราธอน
เมื่อหลายปีก่อน 

ผมขับรถเลียบไปตามถนนรอบคูเมือง ปุ่มควบคุมความเย็นในรถถูกหมุนไปหมายเลข 1 ปุ่มพัดลม
หมุนไว้ที่เลข 1 เช่นเดียวกัน ทำให้ภายในรถมีลมเย็นเบา ๆ   บางครั้งจะเห็นคนที่รักสุขภาพ
วิ่งออกกำลังกายสวนมาตามอิฐปูเป็นทางวิ่งในสนามหญ้าริมคูเมืองที่เทศบาลเมืองทำไว้
ใต้หมอนพิงที่ทับแจ๊กเก็ตตัวใหญ่ตรงเบาะหลังข้างใต้แจ็กเก็ตมีปืนอัดลมยาว HW97K
สภาพใหม่เอี่ยม ผมได้ปรับศูนย์ยิงระยะ 25 เมตรไว้แล้ว   เหตุที่ผมพามันมาด้วยเพราะ
มีภาระกิจส่องนกพิราบที่อาคารพาณิชย์ของเฮียคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ผมสำรวจมาหลายวันแล้ว

ขับมาไม่นานผมรถจอดที่ริมฟุตบาทใต้เงามืดร่มไม้ ตรงข้ามสวนหย่อมออกกำลังกายข้ามถนน
เยื้องไปด้านหน้ารถเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น  หลายวันก่อนคุยกับเฮียที่เป็นเจ้าของอาคาร
ได้เปรยว่ารำคาญนกพิราบมาหลายปีแล้วไล่ยังไงก็ไม่ไป ผมก็บอกไปว่าถ้ามาไล่ให้จะได้ไหม
เฮียบอกว่าเอาเลยถ้าจะมาก็บอกด้วยจะได้เตรียมสถานที่เตรียมของไว้ให้ แต่ภาระกิจแบบนี้
ผมชอบไปแบบไม่ต้องนัดล่วงหน้าไปแบบไม่ให้รู้ตัว   จึงเงียบ ๆ ไปก่อนพอให้ลืมแล้ว
จึงย่องมาหาในภายหลัง

จอดรถแล้วเครื่องยนต์สตาร์ทยังติดเครืองเดินเบาไว้อย่างนั้น เผื่อฉุกเฉินจะได้ออกตัวทันที
.38 สเปเชียส ซุกไว้ใต้เบาะพิงห่างไปพอเอื้อมมือคว้าได้สะดวก ผมมักบรรจุกระสุนในโม่ให้เหลือ
ช่องว่างไว้ 1 นัด จัดช่องว่างให้ตรงกับรูลำกล้องเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝัน
เพราะเรื่องปืนผาหน้าไม้แม้จะมีกลไกป้องกันแต่ไม่ควรไว้ใจเป็นอันขาด หลายคนที่เชื่อมั่นในกลไก
ของปืนต้องมีอาการน้ำตาตกเมื่อคนทีรักในครอบครัวประสบอุบัติเหตุปืนลั่นมาหลายรายแล้ว 
เท่าที่เห็นมามีปืนที่ผมไว้ใจที่สุดมียี่ห้อเดียวคือกล๊อก  เมื่อก่อนมีใครบอกว่าปืนกล๊อกแม้ขี้นลำ
มีกระสุนในรังเพลิงไว้ เอาปืนขว้างกำแพงพื้นปืนก็ไม่มีทางลั่นก็คงเห็นจะจริง ตราบใดที่นิ้วคน
ถือปืนยังไม่เข้าไปในโกร่งไก  ด้วยเข็มแทงชนวนของกล๊อกมันจะถอยหลังก็ต่อเมื่อมีการ
เหนี่ยวไก ดังนั้นถ้าใครคิดจะลดนกปืนกล๊อกคงจะต้องเสียเวลาตลอดชีวิตเป็นแน่แท้
อีกยี่ห้อหนึ่งผมก็ชอบในรูปร่างของมันที่ดูคล้ายคลึงกับกล๊อกมีตัวอักษร XD ผมจำยี่ห้อปืนไม่ค่อยได้
แต่ถ้าได้เห็นก็จะบอกว่าใช่ หรือไม่ใช่    ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นยี่ห้อสปริงฟิลด์ รุ่น XD หรือเปล่า
ปืนรุ่นนี้เมื่อขึ้นลำเข็มแทงชนวนจะง้างไว้หากเหนี่ยวไกจะเป็นการปลดล๊อกเข็มแทงชนวนพร้อมยิง
แม้ยิงได้นิ่มนวลกว่าแต่ดูแล้วมันก็ไม่น่าไว้วางใจเหมือนกล๊อก     ปืนทั้งสองรุ่นแม้จะ
มีรูปร่างที่โดนใจผมมากแต่พอดีมันเป็นปืนทิ้งปลอกตกเรี่ยราดรกพื้นซึ่งผมไม่ชอบ
จึงต้องหันมาใช้ปืนไม่ทิ้งปลอกดีกว่า ลูกเดิกลูกดกไม่สนใจเพราะร้อยทั้งร้อยโป้งป้างสักนัดสองนัด
พากันวิ่งกันป่าราบไม่เคยใช้หมดโม่สักที  ข้อดีของปืนลูกโม่ก็มีนะคือชักแล้วยิงได้เลย  ปืนลูกโม่
กระบอกนี้เองที่ผมเอาไปให้น้องที่ทำงานดู  เป็นเหตุทำให้น้องทีทำงานขนเงินออกมาเข้าคิวซื้อปืน
โครงการกันยกใหญ่ ทุกวันนี้กลายเป็นว่าผมมีปืนน้อยกว่าน้อง ๆ ซะอีก

เหตุที่เช้านี้ผมพกปืนสั้นมาด้วยไม่ใช่เพราะกะเอาไปสู้รบตบมือกับใครหรอก แต่เผื่อเอาไว้ยิง
หมาตัวใหญ่ ๆ ประเภทน้ำหนักตัว 40 ถึง 60 กิโลกรัม ที่เจ้าของควบคุมไม่ได้  แท้ที่จริงเกิดมาผม
ก็ยังไม่เคยยิงหมาสักตัว วันก่อนเห็นซอยข้างบ้านเอาหมาพิบูลเทอเรียตัวเล็ก ๆ ออกมาวิ่ง
ผมเห็นก็กลุ้มใจหมาพวกนี้มาก ถ้ามันโตเต็มที่มีอาการติดสัตว์จะน่ากลัวมากกว่ากลุ่มจิ๊กโก๋หน้า
ปากซอยซะอีก เพราะตอนมันดุมันไม่ฟังใคร หมาพวกนี้มันก็แปลกนะชอบกัดแต่เด็กตัวเล็กๆ

รถจอดสนิทดึงเบรคมือเสร็จผมเหลือบมองสูงไปตามสันระเบียงชั้นสองและชั้นสามของอาคารพาณิชย์
ท้องฟ้ายังมืดอยู่แต่ก็พอมองเห็นเงาดำ  ฟ้องว่าเป็นนกพิราบเกาะนอนเรียงรายหลายสิบตัว
บางมุมระเบียงก็มองเห็นเงาดำเดี่ยว ๆ แสดงว่าบางตัวก็แยกนอนตัวเดียว
ผมเปิดกระจกหน้ารถด้านคนขับลงสุด แล้วปรับพนังผิงเบาะคนขับเอนลง เลื่อนเบาะไปด้านหลัง
จากนั้นจึงลงจากรถเดินอ้อมหลังรถมาที่ประตูหลังเปิดประตูค้างไว้ ด้วยความสูงของรถโฟลวีล
ผมจึงไม่ต้องก้มตัวมากนัก ยืนนอกรถเอาพุงพาดกับเบาะนั่งหลัง เปิดหมอนพิงสองใบออกไป
และพลิกเสื้อแจ็กเก็ตกันหนาวตัวใหญ่ออก มองเห็นปืนอัดลมวางตามแนวยาวเบาะหลัง
หันปลายลำกล้องออกไปนอกตัว  ผมหยิบตลับพลาสติกแบ่งกระสุนปืนผมเปิดฝาวางไว้บน
เบาะนั่ง แล้วหงายฝ่ามือขวาช้อนจับกระโจมปืนหันโกร่งไกไปด้านซ้าย  อัดพานท้ายกดกับ
ท้องไว้ไม่ให้ปืนดิ้น มือซ้ายกดปลดล๊อกก้าน uder level และดึงง้างจนล๊อกและค้างไว้อย่างนั้น
จากนั้นจึงละมือขวาจากกระโจมปืนมาหยิบกระสุนและบรรจุกระสุนแบบหัวแบนน้ำหนัก 11.9  gr
เสร็จแล้วจึงย้อนไปจับกระโจมปืน มือซ้ายจึงดันคันง้านกลับคืนล๊อกที่เดิม

การบรรจุกระสุนแต่ละนัดผมบรรจุในท่ายืนโดยปืนยังอยู่ในรถ  ใช้เวลาไม่มากนัก
บรรจุกระสุนเสร็จ ผมเงยหน้ามองดูผ่านกระจกหน้าและหลัง เพื่อดูว่ามีรถหรือคนผ่านมาหรือไม่
ขณะนี้เวลา 05:40 น. ทุกอย่างบนท้องถนนเงียบเชียบ ผมกำลังจะเริ่มกิจกรรมลับสุดยอด
เมือไม่เห็นรถวิ่งผ่านมา ผมจึงยกปืนพาดปืนกับพนักพิงหน้าคนขับที่เอนไว้ตอนนี้พนักพิงทำหน้าที่
เป็นที่พาดกระโจมปืนอย่างดี ข้อศอกขวาค้ำกับเบาะนั่งหลัง มือซ้ายกระคองกระโจมปืน
ให้พาดกับพนักผิงคนขับที่เอนหลังอยู่กดเน้นไว้ไม่ให้ปืนไหวสั่น ถ้าเป็นเครืองยนต์ดีเซล
รุ่นเก่าผมคงทำอย่างนี้ไม่ได้แน่  ปืนคงสั่นเป็นจ้าวเข้า ยิงยังไงก็ยิงไม่โดน แต่รถคันนี้ใช้
เครืองยนต์ ดีโฟดี คอมมอลเรลรุ่นใหม่ เครืองเดินเบาเรียบนิ่งไม่แพ้เครื่องยนต์เบนซิน 

ผมชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยให้แน่ใจ อ้าวรถมอเตอรไซต์ใครหว่า
วิ่งเปิดไฟหน้ามาจากด้านหลัง ผมรอให้มอเตอร์ไซต์ผ่านไปก่อนแล้วประทับเล็งไปยังเงาดำ



ที่อยู่โดดเดี่ยวอยู่บนมุมระเบียงไกลสุด  ภาพจากกล้องเล็งยี่ห้อทาสโก้ หน้าเลนส์ 50 มม. กำลังขยาย 3-9 เท่า
ผมปรับกำลังขยายไว้ที่ 9 เท่า โฟกัสระยะ 25 เมตร พร้อมปรับศูนย์ไว้แล้วที่ระยะเดียวกัน   พยายามจัด
กากะบาทให้ตรงตำแหน่งเงาดำ มันเล็งยากพอสมควรเพราะความสว่างยังไม่มากพอ    กากะบาทจึงกลื่นไปกับ
เงาดำทำให้มองไม่ให้ว่าตอนนี้ศูนย์เล็งอยู่ตรงไหน  ผมจึงใช้ละมือซ้ายมาหมุนปุ่มไฟเส้นเล็งแบบสว่างน้อยสุด
เส้นเล็งกากะบาทเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมาทำให้เล็งได้ง่ายกว่าเดิมมาก  ผมชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าถนนโล่งปลอดคนดี จึงรีบประทับเล็งกากะบาทสีแดงเข้ากลางเงาดำ หัวแม่มือขวากดปลด
เซพไกโดยอัตโนมัติด้วยความเคยชิน บรรจงลากไกจนสุดสเต็ปที่หนึ่งพอรู้สึกว่าไกแข็งก็ค้างน้ำหนัก
เหนี่ยวไกไว้อย่างนั้น ต่อมาก็กระชับกระโจมปืนกากะบาทให้นิ่งที่สุดวาดเข้าหาเงาดำที่คาดว่ากำลังนอนหลับ
อย่างมีความสุข   มือขวากำคอปืนแน่นล๊อกข้อมือให้เป็นส่วนเดียวกับคอปืนให้นิ่งที่สุดแล้วเพิ่มน้ำหนักนิ้วชี้ลากไก
เข้าสู่สเต็ปที่สองทำให้ปืนอัดลมลั่นออกไปแบบไม่รู้ตัว

ภาพในเลนส์กล้องเล็ง เห็นเงาดำที่ตกเป็นเป้าที่หนึ่งมีอาการตีปีกและร่วงหล่นหายไปในหลังเงามืด
ของระเบียงอาคารพาณิชย์  ผมละสายตามองดูเงาดำทีเหลือที่ยังนิ่งอยู่ไม่มีอาการรู้ว่ากำลัง
มีสิ่งผิดปกติอย่างกรายเข้ามา มีบางเงาดำที่กระพือปีกและสงบลงคงตกใจที่ได้ยินเสียงเพือนตก
ลงสู่พื้นระเบียง

เป้าหมายต่อไปเป็นเงาดำบนตู้คอมเพสเซอร์แอร์ ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่สอง แล้วประทับเล็ง
ทดสอบให้พอจับแนวปืน แล้วชโงกหัวดูรถราบนท้องถนนเพื่อความปลอดภัย เมื่อเห็นถนน
หน้าหลังโล่ง จึงรีบประทับปืนพาดกับพนักพิงอีกครั้งเล็งด้วยความรวดเร็ว ปลดเซพด้วยหัวแม่
มือขวา จัดกากะบาทสีแดงอยู่กลางเงาดำบนคอมเพรสเซอร์แล้วเหนี่ยวไกจนปืนอัดลมลั่น
คราวนี้เจ้าของเงาดำมีอาการตีปีกทุรนทุรายบินออกมานอกระเบียงและตกลงมาตายหน้าอาคาร
พาณิชย์ ทำให้เจ้าของเงาดำอื่น ๆ พากันบินออกมาแต่ก็พากันบนวนกลับไปเกาะระเบียงอีกเพราะ
คงบินไปไหนไม่ได้ด้วยแสงกลางวันยังไม่มีพอที่จะเห็นหนทางคราวนี้ผมเห็นตัวนกพิราบหลาย
ตัวชัด ๆ เป็น ๆ เพราะมันพากันมาเกาะนอกระเบียงอาคารแสงไฟข้างถนนส่องถึงพอดี

ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่สาม มีรถรับจ้างวิ่งสวนมาพอดีกับมีคนจ๊อกกิ้งวิ่งผ่านด้านหลังไปสองคน
เขาคงสงสัยว่าผมมาทำอะไรอยู่ข้างถนน  ก็รอจนรถวิ่งผ่านไปแต่คนจ๊อกกิ้งดันเปลี่ยนเป็นเดินผ่าน
ผมจึงต้องรอให้เขาเดินผ่านไปไกลพอสมควรจึงรีบประทับปืนเพราะกลัวสปริงปืนอัดลมล้า นี้เป็น
จุดอ่อนของปืนสปริงอัดลม  คราวนี้ผมเล็งไปทีตัวเบิ้มใหญ่สุดที่เกาะริมระเบียง สต๊อกปืนพาดกับ
พนักผิง ย้ายจุดเล็งจากสุดตัวอาคารคูหาที่สี่มาที่คูหาที่สอง กล้องโฟกัสหน้าระยะ 25 เมตรแบบ
ท่อรับแสงขนาด 1 นิ้วให้ความชัดลึกได้ดีพอสมควรทำให้ไม่ต้องปรับโฟกัสบ่อยเหมือนกับกล้องเล็ง
แบบโฟกัสด้านข้าง  ไฟแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าทำให้มองเห็นขนสีเทาของนกพิราบโชคร้ายตัวที่สาม
กากะบาทสีแดงจับเข้าที่อกนูนใหญ่ของมัน พร้อมกับปลดเซพไก ผมจัดกากะบาทให้ทาบกินต่ำกว่า
ทรวงอกลงมานิดหน่อย เพราะธรรมชาติของปืนอัดลมเมื่อยิงแนวสูงกระสุนจะกินสูงกว่าจุดเล็ง
ทำไมถึงเป็นแบบนี้เรืองนี้ค่อยคุยในภายหลังก็แล้วกัน ใครที่เคยลองยิงแนวสูงมาบ้างมักจะ
พบว่ากระสุนกินสูงกว่ายิงแนวราบเมื่อกากะบาททาบตรงตำแหน่งดีแล้ว กลั้นใจล๊อกข้อมือแล้วเหนี่ยว
ลากไกอย่างบรรจงที่สุด

ภาพในกากะบาทผมมองเห็นขนบริเวณทรวงอกฟุ้งสวนกระสุนปืนออกมา แล้วนกพิราบตัวใหญ่ทีสุด
ก็มีอาการทิ้งดิ่งตัวเองลงสู่ริมฟุตบาทหน้าอาคารเหมือนกับนักกีฬาว่ายน้ำปล่อยตัวจากที่กระโดด
สปริงบอร์ดโดยไม่กระโดด พร้อมกับนกพิราบที่เกาะขนาบข้างตีบิกบินออกมาและก็วนกลับไปเกาะ
ริมระเบียงอีกคูหาหนึ่ง บางตัวก็ย้อนกลับมาเกาะที่เดิม  ในขณะเดียวกันเสียงนกพิราบตัวใหญ่
ตกกระทบพื้นดังสนั่นท่ามกลางในความมืด   ผมรีบวางปืนและออกมาเดินนอกรถเพื่อดูความเปลี่ยน
แปลงผิดปกติรอบข้าง และเพื่อสังเกตการณ์ว่าทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อยดี

เมื่อเห็นทุกอย่างยังอยู่ในความปกติ ผมจึงมองดูนกพิราบตัวต่อไป ตำแหน่งเดิมที่นกพิราบตัวใหญ่เพิ่ง
ตกลงมายังมีนกพิราบเกาะอยู่อีกสองตัว ตกลงว่าต้องเป็นตัวใดตัวหนึ่งต่อไปแน่นอน ผมรีบโอนตัวเข้า
ไปในรถบรรจุกระสุนนัดที่สี่เสร็จแล้วจึงชโงกดูความปลอดภัยบนท้องถนน เมือเห็นว่าถนนว่างอยู่
ก็รีบพาดกระโจมปืนกับพนักพิงแล้วประทับปืนเล็ง ก่อนเล็งก็ชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้งเพื่อความ
แน่ใจ แล้วประทับปืน ปลดเซพและเล็งกากะบาทสีแดงไปที่ตัวซ้ายสุดซึ่งเป็นนกพิราบตัวใหญ่กว่าตัว
ด้านข้างของมันผมเล็งกากะบาทกินต่ำเล็กน้อย แล้วกลั้นหายใจนิ่งที่สุดล๊อกข้อมือนิ้วชี้ลากไกจนปืนลั่น
ขณะที่ปืนลั่นผมมักจะมองภาพในเลนส์ไปด้วย ทำให้เห็นขนทรวงอกของนกพิราบตัวที่สี่กระจุยฟุ้งสวน
แรงปืนออกมา   ทุกตัวที่โดนกระสุนสวนเข้าบริเวณทรวงอกตรง ๆ จะมีอาการช๊อกนิ่งไม่ดิ้นทุรนทุราย
เหมือนตัวที่โดนยิงด้านข้าง  ตัวนี้ก็เช่นเดียวกันขนปุยฟุ้งออกมาแล้วตัวมันเองก็หงายหลังหลายเข้าไป
ในเงามืดหลังระเบียง คราวนี้มันทำให้ผมได้รู้ว่าด้านในของระเบียงยังมีนกพิราบนอนอยู่อีกมาก
ฝูงนกพิราบตกใจพากันบินออกจากระเบียง มาเกาะที่ราวระเบียงเต็มไปหมด

ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่ห้า โบราณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก ตอนนี้นกพิราบมายืนเกาะกันแน่นระเบียง
บรรจุกระสุนเสร็จแล้วก็ชโงกมองดูความปลอดภัยหน้าหลังบนท้องถนน แล้วประทับเล็ง เวลานก
พิราบมีมากมายมันก็ทำให้เราลังเลที่จะยิงตัวนั้นตัวนี้เหมือนกัน ฉับพลันความคิดก็แวบเข้ามา
ผมจะลองยิงนัดเดียวได้นกสองตัว  นัดนี้จึงเล็งไปยังอาคารคูหาที่สามทำให้มุมยิงเฉียงกับแนว
ระเบียงได้มากกว่า หากมองจากแนวเล็งนกพิราบจะยืนบังแนวกระสุนให้กัน กากะบาทสีแดงเรื่อ
วาดนิ่งอยู่ลึกทรวงอกนกตัวหนึ่ง หลังแนวกระสุนหากผ่านทรวงอกจะเป็นลำตัวนกพิราบอีกตัว
นัดนี้ผมต้องยิงปราณีตที่สุด มือซ้ายกุมกระโจมปืนอัดแน่นจมกับพนักผิงที่เอนอยู่ ผมย้ำมองแนว
ลำกล้องว่าไม่ตรงกับพลาสติกกันลมหน้าต่างของรถ อันจะทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าในภายหลัง
ว่าผมยิงรถตัวเอง  สูดหายใจลึกแล้วผ่อนลมหายใจจนระดับหนึ่งที่ไม่มีแรงอั้นในอกจึงหยุดหายใจ
ลากไกจนสุดสเต็บหนึ่ง จากนั้นจึงจัดกากะบาทกินลึกขอบทรวงอกของนกพิราบตัวแรก แล้วลากไก
ของสเต๊ปสอง ปืนอัดลมลั่นส่งกระสุนออกไป ผมเห็นความวุ่นวายในกล้องเล็ง จึงวางปืนและมองด้วย
สายตาไปยังฟุตบาทมองเห็นนกพิราบสองตัวตกลงมา ตัวหนึ่งนอนแน่นิ่งไปแล้ว อีกตัวยังเดินได้
มันเดินไปซุกนิ่งที่มุมเสาปูนหน้าร้านในเงามืด  เอายังไงดี

ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่หก คราวนี้ต้องยิงนอกรถเพราะนกตัวที่เดินหน้าอาคารพาณิชย์มันอยู่มุมต่ำ
ยิ่งจากในรถไม่ได้  เมื่อเห็นถนนโล่ง สนามหญ้าไม่มีคนวิ่ง ผมจึงนำปืนออกมานอกรถ เดินเป็นปกติ
โดยเอาปืนแนบยาวชี้ปลายลำกล้องลงดิน มือขวากำคอปืนให้พานท้ายอยู่บริเวณทรวงอก ผมพาตัวเอง
เดินห่างรถออกมาให้อยู่ในเงามืดใต้ต้นไม้ ดูไปรอบ ๆตัวทุกอย่างเงียบไม่มีคน จึงนั่งข้างต้นไม้โดยให้
ต้นไม้อยู่ด้านขวาลำไปด้านหน้าเล็กน้อย ผมเหยียดขาซ้ายให้เท้าซ้ายชี้ไปด้านหน้าช่วยค้ำไม่ตัวถลำไป
ด้านหน้าโดยใช้ส้นเท้ากดพื้น ก้นนั่งบนส้นเท้าขวา เข่าขวากดลงบนพื้นสนามหญ้า มือซ้ายยันลำต้นไม้
ใหญ่ไว้แน่น เอากระโจมปืนพาดกับท่อนแขนซ้าย ประทับเล็งวาดกากะบาทไปหาเงาดำที่ซุกตัวนิ่งข้างเสา
หน้าอาคาร หัวแม่มือขวาปลดเซพปืน จัดละเอียดกากะบาทสีแดงจับไปที่เงาดำที่ซุกตัวนิ่งกับมุม
เสาประตูเหล็กอีกครั้ง ผมละสายตามองซ้ายขวาไปตามแนวถนนหน้าหลังใกล้ไกลอีกครั้ง ตรวจเพื่อ
เพื่อความปลอดภัยและกลับประทับเล็ง กากะบาทยังจับที่เงาดำเหมือนเดิม ผมลากไกรวดเดียวจนปืนลั่น
เงาดำทรุดตัวอย่างสงบตรงตำแหน่งเดิม ผมเลิกให้ความสนใจแล้วรีบนำปืนเอาไปเก็บที่รถ
หมุนปุ่มไฟเส้นเล็งมาที่เลขศูนย์ วางปืนลงบนเบาะหลังเอาเสื้อแจ๊กเก็ตคลุมไว้เหมือนเดิม เอาหมอน
พิงวางปรกไว้อีกที  ปิดประตูหลังและเดินอ้อมมานั่งในต่ำแหน่งคนขับ
ปิดกระจกปรับพนังผิงแล้วเคลื่อนรถออกไป

05: 55 ท้องฟ้าเริ่มสางแล้ว พอมองเห็นไกล ๆ ได้ แต่ท้องถนนยังว่าง  กระสุนที่เตรียมมาใน
ตลับแบ่งจำนวน 20 นัด เหลืออยู่อีกนับสิบนัด ผมมองเห็นนกพิราบหล่นมาตาย บนฟุตบาทหน้า
อาคารพาณิชย์เกลื่อนไปหมด จึงคิดว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อน

ขณะขับรถผ่านโกดังเก็บของ พลันสายตามองข้ามถนนไป ก็เห็นนกพิราบตัวใหญ่สีเทาเกาะ
สันซีเมนต์หลังคาโกดังตัดขอบฟ้าเด่นเป็นสง่า จึงคิดว่าขอเป็นตัวสุดท้ายของวันนี้ก็แล้วกัน
จึงถอยรถเข้าจอดริมฟุตบาท โดยให้ขอบซีเมนต์โกดังเยื้องไปด้านหน้า เสร็จแล้วก็เอนพนักพิง
เลื่อนเก้าอี้มาด้านหลัง เปิดกระจกคนขับจนสุด แล้วก็อ้อมมาเปิดประตูหลัง บรรจุกระสุนปืน
อัดลมเบอร์สองหัวตัดอีกครั้ง บรรจุเสร็จก็ชโงกหัวมองดูหน้าหลังเพื่อความปลอดภัยที่ผมคำนึง
เป็นอันดับต้น เมือเห็นถนนยังว่างก็ยกปืนพาดกับพนักพิงคนขับที่เอนอยู่ ประทับเล็งกากะบาท
สีดำตอนนี้ไม่มีไฟแล้วเพราะท้องฟ้ามีแสงสว่างพอ กากะบาทจับที่ตัวนกพิราบมันกำลังเดิน
ไปตามสันคอนกรีตผมยังยิงไม่ได้เพราะเป้ากำลังเคลื่อนที่ จึงวาดกากะบาทตามมันไปเรื่อย ๆ
อ้าว นั้นมันกำลังเดินลับลงไปหลังสันคอนกรีต เหลือแต่หัวที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
หลังสันคอนกรีตเป็นกำแพงอิฐก่อสูงพอสมควร มุมยิงตรงจุดนี้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์
ผมชโงกมองหน้าหลังรถอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย ท้องถนนยังว่าง นี้ถ้ามากันสองคนคงจะดีกว่า
นี้เพราะไม่ต้องผวงหน้าหลังโดยให้อีกคนดูต้นทางให้  เมื่อเห็นท้องถนนโล่งไกลกะเวลาพอประทับเล็ง
ได้เกินสิบวินาที  ผมจึงรีบประทับเล็งอีกครั้ง กากะบาทนิ่งตรงตำแหน่งทีหัวนกผลุบโผล่
หัวแม่มือขวาปลดเซพ นิ้วชี้ขวาลากไกจนสุดสเต็ปแรก จัดกากะบาทให้นิ่งที่สุดตรงตำแหน่งเดิม
ในใจนับวินาทีหากนับถึงสิบก่อนจะเลิกประทับและชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้ง ผมนับได้แค่ห้าวิ
นกพิราบตัวนั้นก็ผงกหัวขึ้นมาแต่ไม่อยู่กลางกากะบาท ผมวาดกากะบาทเข้าทาบกลางหัวมันนิ่ง
แล้วลากไกเข้าสู่สเต็ปที่สอง  ปืนอัดลม HW97K พ่นกระสุนน้ำหนัก 11.9 gr ความเร็ว
ประมาณ 800 ฟุตต่อวินาที ออกไปในทันทีสิ้นเสียงปืนอัดลมดัง ภาพในกล้องเล็งผมก็เห็นขนปุยของ
หัวนกพิราบตัวนั้นฟุ้งกระจายลอยกลางอากาศ ไม่มีอาการดิ้นทุรนทุราย มีแต่ความเงียบหลังสัน
คอนกรีต ผมวางปืนตามยาวบนเบาะหลังใช้เสื้อแจ๊กเก็ตสองตัวคลุมปืน แล้วนำหมอนพิงวางทับ 
ปิดประตูหลังแล้วเดินอ้อมไปนั่งตำแหน่งคนขับจัดเก้าอี้ตามปกติแล้วออกรถไป ขณะรถกำลังจะเลย
โกดังผมจอดแล้วมองย้อนไปด้านหลังสันคอนกรีตเห็นนกพิราบตัวนั้นนอนนิ่งอยู่หลังสันคอนกรีต

ผมใช้กล้องส่องทางไกลแพนแท็กกำลังขยายสิบสองเท่าหน้าเลนส์ยี่สิบสี่ สำรวจดูก็เห็นนกพิราบ
สีเทาใหญ่นอนพาดคอห้อยไปตามแนวกระเบื้องหลังคาขนหัวของมันดูเปียกและหยุ่งเหยิง
กระสุนนัดสุดท้ายคงเจาะเข้าบริเวณหัวอย่างแม่นยำ ที่เปียกขนคงเป็นมันสมองและเลือด 
เจ้านกพิราบมันคงไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไปว่าตัวเองถูกยิง



กล้องส่องทางไกลคู่ทุกข์คู่ยาก  ซื้อมาตั้งแต่ปี 2532   ราคาเกือบเท่าเงินเดือนวุฒิปริญญาตรี มาวันนี้ก็ 20 ปีแล้วนะ

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5 ... 27
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 24 คำสั่ง