๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าและเวลาลูกตกลงสู่พื้นด้วยความเร็วอาจทำอันตรายได้ สำหรับพี่ๆที่เล่นปืนมานานอาจจะเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่รู้อยู่แล้ว
แต่สำหรับผมและมือใหม่บางคนอาจละเลยหรืออาจมองว่าแค่ลูกปืนอัดลงเบอรื1,2 น้ำหนักน้อยอาจไม่เป็นไร
                       ไม่ทราบว่าท่านไดเก่นคณิตศาสตร์ และฟิสิคบ้างครับ จะได้ข้อมูลคราวๆในการระวัง เช่นยิงปืนอัดลมเบอร์1 ที่ความเร็วลูกที่700f/s ขึ้นฟ้าในมุม45องศา(นกเกาะอยู่บนยอดหลังคาบ้าน และเกิดยิงไม่โดน) ลูกระสุนจะวิ่งไปไกลเท่าไร และในการกระทบเป้าจะมีพลังงานขนาดไหนครับ
ปล.ในสภาวะลมเป็น0 (แบบว่าเอาคร่าวๆครับจะได้ระวังถูก เช่นลูกกรดนี่เขาว่าไกลเป็น2-3กม.)

ใครตอบได้ช่วยพี่เค้าที เหมือนเรียนม.ปลายเลย

ขอเสนอนิดนึงครับ ถ้าผิดพลาด ขอโทษด้วยครับ  ::014::

จากที่ผมเรียนมา (ฟิสิกได้ 1  ::010:: ) ลูกปืน ที่เคลื่อนที่ไปแนวดิ่ง สมมุติ เคลื่อนที่ไป 100 m ต่อวินาที มันก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ และความเร็ว ก็จะลดลง 10mต่อวินาที ต่อ 1วินาที จนความ เร็วเหลือ 0 แล้วก็จะตกกลับ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ เพิ่มความ เร็ว 10mต่อวินาที ต่อ 1วินาที เมื่อกระสุนตก มาถึงที่ปากกระบอก   กระสุน จะ มีความเร็วเท่ากับตอนที่เรายิงไป

สรุป ยิงขึ้น ไปเท่าไร ตกมาก็เท่านั้นแหละ  :o

แล้วถ้ายิงกระสุนมุม 45 องศา แนวกระสุนจะวิ่งเป็นเส้นโค้งพาราโบลาสมดุลย์ทั้งสองข้างหรือเปล่า

ถ้าในแง่ทฤษฏี สมดุลแน่นอนครับพี่ เพราะมุม 45 องศาเป็นมุมที่สามารถยิงได้ไกลที่สุด
ส่วนรายละเอียดคืนอาจารย์ไปแล้ว ::014::

ไม่เป็นกราฟพาราโบล่า ครับ  มีแต่จะวิ่งโค้งไปแล้วตกลงพื้นและมุดเข้าไปในดินเท่านั้นครับ

ถ้ายิงในชั้นบรรยากาศของโลก แน่นอนต้องมีแรงเสียดทาน  มุมที่สามารถยิงกระสุนได้ไกลที่สุดคือมุม 30 องศา  และก็คงจะไปไกลได้พอๆ กับกระสุน .22 แอลอาร์ เพราะความเร็วใกล้เคียงกันมาก  แต่เมื่อห่างกระบอกปืนออกไปมากเท่าไหร่ความเร็วก็ยิ่งลดลง และพลังงานก็จะลดลงตามไปด้วย ที่ระยะ 1 กิโลเมตรหากยังโดนกระป๋องนมก็อาจแค่เป็นรอยบุบไม่ถึงกับทะลุเข้าไปข้างใน เนื่องจากพลังงานเหลือน้อย

สรุปว่า ยิงขึ้นไปเท่าไหร่ ตกลงมาก็เท่านั้น

ตามทฤษฎี ก็ว่ามาอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่  ในขณะที่กระสุนขึ้นไปสูงสุดและความเร็วเท่ากับ 0 ทุกอย่างน่าจะหยุดนิ่งทั้งหมดกระสุนหยุดหมุนด้วย  แล้วก็ถอยหลังตกมาซักระยะหนึ่งก่อนที่จะเลี้ยวกลับเอาหัวลงเพราะปะทะกับอากาศเกิดแรงเสียดทาน  กระสุนก็จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงโน้มถ่วงของโลกและจากการปะทะกับอากาศก็จะทำให้ทิศทางเปลี่ยนไม่มีทางที่จะตกลงที่เดิม  ถึงความจะเร็วจะสูงเท่าเดิมแต่ก็คงจะเหมือนก้อนตะกั่วเม็ดเล็กๆ ตกลงมาเท่านั้นเองอันตรายคงจะไม่มากมายนักเพราะกระสุนไม่มีการหมุน

เกลียวลำกล้องที่ทำเพื่อให้กระสุนหมุนตัวนั้น มิใช่ทำให้กระสุนหมุนตัวเพื่อเจาะเป้าหมาย จุดประสงค์ของการหมุนคือเพื่อให้กระสุนทรงยาวทรงตัวอยู่ได้โดยที่เอาด้านหัวเข้าเป้า เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะหมุนหรือไม่หมุน มวลวัตถุเท่าเดิมความเร็วเท่าเดิมอันตรายก็เท่าเดิม

เกลียวลำกล้องที่ทำเพื่อให้กระสุนหมุนตัวนั้น มิใช่ทำให้กระสุนหมุนตัวเพื่อเจาะเป้าหมาย จุดประสงค์ของการหมุนคือเพื่อให้กระสุนทรงยาวทรงตัวอยู่ได้โดยที่เอาด้านหัวเข้าเป้า เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะหมุนหรือไม่หมุน มวลวัตถุเท่าเดิมความเร็วเท่าเดิมอันตรายก็เท่าเดิม  

ขอบคุณท่าน ArjunA  ที่มาให้ความรู้ครับ 

คงไม่มีทางไปได้ไกลขนาด .22 แอลอาร์หรอกครับ แม้ว่าความเร็วต้นจะเท่ากัน
ในเรื่องนี้พลังงานจลน์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในกระสุนปืนอัดลมมีน้อยกว่า .22 แอลอาร์มาก
พลังงานจลน์จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักกระสุน

ยิงกระสุนขึ้นฟ้ามุม 30 หรือ 45 องศา ตามทฤษฏีมันต้องเป็นพาลาโบล่าสมดุลย์ทั้ง 2 ข้าง
ขีดๆ เขียน ๆ ตามสูตรยังไงก็ต้องเป็น แต่ในชีวิตจริง มันไม่เป็นเหมือนในตำรา เพราะมีแรงเสียดทานอากาศ
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  ผมเคยเห็นกราฟวิถีกระสุนปืนอัดลมมันพุ่งขึ้นแนวเฉียงพอหมดแรงก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว
เข้าใกล้แนวดิ่ง มากว่ากระสุนชนิดอื่น ๆ มีกระสุนปืนใหญ่ที่เป็นวิถีโค้งมากที่สุด แต่พอพูดโดยรวม
ก็เป็นพาราโบลา แต่พบว่ากระสุนเบามีพาราโบลาไม่สมดุลย์ ผมไม่รู้แต่เคยอ่านเจอ


ที่กระสุนวิ่งเป้นเส้นโค้งก็เป็นเพราะมีแรงโน้มถ่วงเป็นตัวทำกับหัวกระสุน
สมมุติเราปล่อยหัวกระสุนระดับสูงเท่าปลายกระบอกปืน ความสูงเท่าไหร่ช่างมันก่อน
กระสุนจะตกลงพื้นในความเร็วแรงดึงดูดโลก
สมมุติว่าใช้เวลาตกลงพื้น 0.5 วินาทีก็แล้วกันนะ จะได้คิดง่าย ๆ
แล้วถ้าเรายิงปืนไปในแนวระนาบ ความเร็วกระสุน 750 ฟุตต่อวินาที เกิดอะไรขึ้น
ถ้าเราหาว่าในระยะเวลา 0.5 วินาทีกระสุนวิ่งไปได้กี่เมตร ก็ระยะนั้นหละครับที่กระสุนกระทบพื้น

แล้วถ้าต้องการยิงไกลกว่านั้นจะทำยังไง ก็ต้องเงยปากกระบอกเอียงขึ้น เพือให้กระสุน
อยู่กลางอากาศนานกว่าเดิมจึงจะได้ระยะทางมากกว่าเดิม แต่มุมไหนจะทำให้กระสุนอยู่กลางอากาศนาน
ที่สุดไกลที่สุดผมไม่ทราบครับ

ผมตกวิชาพวกนี้ครับ เคยเถียงครูว่ามันไม่น่าจะเป็นพาราโบลาสมดุลย์ 

อีกเรื่องความดัน ค่าไหนถูก ครับ
1 บาร์ =  14.7 ปอนต่อตารางนิ้ว
หรือ
1 บาร์  = 14.501 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

ขึ้นไปเท่าใหร่ก็ตกลงมาเท่านั้นอาจจะช้าลงแต่ไม่มากไม่เชื่อลองใช้ก้อนหินขว้างออกไปดูทั้งในแนว 45 และ 90 องศาผลจะออกมาอย่างใร 

(http://www.pixnice.com/upload/files/fdko24tmttyejji3ymzz.jpg)

ค่าจริง 1 bar = 1.02 at = 0.987 atm = 14.504 psi

แต่บางครั้งก็มีการใช้ค่าประมาณครับ
โดย 1 bar ~ 1atm ~ 14.696 psi  

 ::014:: ::014::

http://en.wikipedia.org/wiki/Pressure (http://en.wikipedia.org/wiki/Pressure)

ขอบคุณอีกครั้งครับ

ผมเคยยิงปืนอัดลมขึ้นไปขึ้นฟ้าครับ เป็นเบอร์ 2 ยิงขึ้นไปตรงๆตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากแค่อยากยิงเเล้วดูวิถีกระสุนเฉยๆ ยิงขึ้นไปทำมุมประมาณ 90องศา ก็เห็นกระสุนวิ่งขึ้นไปเเล้วก็หายไป แล้วอีกประมาณ 10 กว่าวินาที กระสุนก็หล่นลงมาโดนหลังคาบ้านตัวเองเป็นกระเบื้อง ดังแป๊ก ก็ไม่ได้คิดอะไร อยู่มาวันหนึ่งฝนตกหนักปรากฎว่ามีน้ำซึมลงมาที่ฝ้า วันต่อมาผมก็ปีนขึ้นไปบนใต้หลังคาบ้าน
ก็เห็นรูเล็กๆมีเเสงแดดส่องลงมาเเล้วก็มองไปรอบๆก็เลยเห็นกระสุนอัดลมเบอร์ 2 หล่นอยู่แถวๆนั้น จึงนึกได้ว่าคงเป็นตอนที่เรายิงขึ้นไปบนฝ้าตอนนั้นแหงๆเลย กระสุนก็ทะลุหลังคาแต่ไม่ทะลุฝ้า แค่โดนฝ้าเป็นรอยบุบเล็กน้อยมาก ก็เลยมานึกภาพว่าถ้าหล่นโดนหัวคนก็คงแตกเฉยๆครับ

เทียบกับกระสุนลูกซองเป้าบิน  ยิงข้ามบ่อน้ำไป ระยะสัก 200 เมตร ไม่ทะลุเสื้อผ้าครับ
แต่ต้องเป็นกระสุนเบอร์เม็ดเล็กๆ เท่านั้น
ปืนลมเบอร์ 2 แต่ละเม็ดใหญ่กว่าลูกปรายมาก  แต่ก็ยิงออกมาด้วยพลังงานต่ำกว่า  ระยะอันตรายไม่ควรเกินสองสามร้อยเมตรครับ  ง่ายสุดคือลองกันดู  ถ้ายิงหนังสือพิมพ์ 4 ชั้นไม่ทะลุก็น่าจะถือได้ว่าปลอดภัย

แต่โดยมารยาท ก็ไม่ควรยิงไปในทิศทางที่อาจเกิดอันตรายครับ

ยิงขึ้นในแนวตรง  ลองหาวีดิทัศน์รายการ Mythbuster มาดูครับ  ลูก 9 มม. ตกถึงพื้น ลึกจากผิวดิน 1 นิ้ว  ถ้าเป็นลูก .30 ก็ไม่ถึง 2 นิ้ว  คำนวณความเร็วโดยใช้อุโมงค์ลมพ่นลมให้กระสุนลอยตัวในสภาพสมดุลย์ ประมาณ 150 ฟุต/วินาทีครับ นั่นคือ terminal velocity ของหัวกระสุน

ที่พบว่าตกลงมาถูกคนตายไปจริงๆ น่าจะเป็นการยิงแนวเฉียง  ไม่ใช่ขึ้นไปตรงๆ แล้วตกลงมาครับ เขาสรุปอย่างนั้น

หลายสิบปีมาแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเรากองกำลังเขาแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแดงรบชนะ
ค่ำคืนหนึ่งจึงจัดงานเลี้ยงประกาศชัยชนะ ทหารก็ไชโยโห่หิ้วยิงปืนขึ้นฟ้าไปตรง ๆ  สักพักก็มีหัวกระสุน
ตกลงมาจากฟ้าทำให้มีคนตายและบาดเจ็บหลายคน บาดแผลผู้ตายพบว่าเป็นรูกระสุนเข้าไปแต่
ไม่ฉกรรจ เหวะหวะเหมือนโดนยิงระยะใกล้ หรือระยะสังหาร  พอสรุปคร่าว ๆ ได้ว่าความเร็วกระสุน
ตอนตกลงดิ่งมาถึงพื้นดินมีความเร็วต่ำกว่าตอนออกจากรูลำกล้อง

ผมไม่ทราบว่า ความเร็วกระสุนเมื่อเรายิงขึ้นฟ้าตรง กับยิงลงดินตรง ๆ  ความเร็วกระสุนปากลำกล้องเท่ากันหรือเปล่า

หากเท่ากัน ลองทดสอบดูก็ได้ ยิงปืนระยะเผาขนลงบนดิน กับยิงขึ้นฟ้าตรง ๆ แล้วให้กระสุนตกลงดินด้วยแรงดึงดูดโลกดูว่ามุดดินเท่ากันหรือเปล่า  ถ้ามุดดินเท่ากันก็พออนุมานได้ว่าความเร็วขึ้นกับลงเท่ากัน

ขอบคุณพี่ๆที่ให้ความรู้ครับ ::014::
ปกติแล้วถ้าเป้าหมายอยู่ที่เสาไฟฟ้า ที่ระยะยิงXซึ่งโอกาสโดนเป้าประมาร50% ข้างหลังเป็นบ้านขึ้นไม่หนาแน่นนัก พี่ๆยิงกันหรือป่าวครับ ผมอ่านเจอบางท่านไม่ยิงปืนหากไม่มีจุดดักลูกกระสุนหลังเป้าหมาย
    เมื่อก่อนผมยิงไปเรื่อยครับ เพราะคิดว่าแรงที่ตกลง+น้ำหนักลูกปืนอัดลมไม่น่าจะเป็นอันตราย แต่พอไปอ่านเจอว่าประเทศแถวตะวันออกกลางแข่งบอลชนะยิงปืนขึ้นฟ้ากันทั่วเมือง น่าจะเป็นปืนAKผมเดาเอา แล้วเกิดว่ามีกระสุนตกมาโดนคนตายและเจ็บเป็นจำนวนมาก ผมจึงเริ่มกลัว เเละสงสัยกับความจริงเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหลักทางวิทยาศาสคร์พิสูจน์ได้ แต่ด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผมคงจะคิดไม่ออกครับ ???

ลองจับหัวกระสุนที่คุณสงสัยว่าอาจจะไม่เป็นอันตรายใส่หนังสติ๊กแล้วยิงดูสิครับ ความเร็วร่วงหล่นไม่น้อยกว่าความเร็วที่ยิงหนังสติ๊กหรอกครับ

ถ้าตามหลักการนี้แล้ว ขอเปลื่ยนจากลูกปืนลมมาเป็น ลูกปืน BB ที่กำลังนิยมกัน จะได้ผลตามหลักการนี้หรือไม่ครับ?

น่าทดลองดูเหมือนกันเพราะมันอันตรายน้อยกว่า..

กระสุนตกลงมาโดนแทบจะไม่รู้สึกเลยนะครับ กระสุน BB หนัก 0.20 กรัม ยิงใส่กันโดยตรงยังจะมีความแรงมากกว่าหล่นลงมาหลายเท่าเลยครับ เพราะมวลน้ำหนักกระสุนน้อยเเละเบามาก

ยิงปืนจากท้องฟ้าสูง ๆ    สูงแบบนักโดดร่ม  แล้วก็ยิงปืนแนวดิ่งลงพื้นโลก
ความเร็วกระสุนตอนกระทบดินจะ  เร็วกว่า  ความเร็วกระสุนปากลำกล้องหรือเปล่า

555พี่สิทธาเข้าใจถามนำร่องเพื่อเป็นแนวทางนะครับ
แต่ว่ามันเห็นภาพความแตกต่างกันจริงๆ ::002::

ส่วนตัวผมคิดว่าความความเร็วเท่ากันนะครับ แต่ปืนที่ยิงดิ่งลงมาอย่างกับนักโดดร่มนี้ความเร็วของกระสุนจะลดลงน้อยกว่าการที่เรายิงในแนวขนาน เนื่องจากมีแรงดึงดูดช่วย

ผมยิ่งคิดก็ยิ่งงงครับ เหตุผมมันก็มีสนับสนุนว่าเป็นไปได้ทั้ง2แบบ ผมก็ไม่กล้าสรุปแบบฟันธงครับได้แต่ระวังในการยิงให้มากขึ้นเพราะลูกปืนไว้ไปแล้วมันทำไรไม่ได้แล้วครับ ขอโทษกันก็คงไม่จบง่ายๆครับ
                           มีเรื่อง1ที่น่าคิดคือ เวลาเราดูหนังย้อนยุคในฉากสงคราม หน่วยแรกคือพลธนู เวลาเขายิงยิงในองศาประมาณ45องศา เพื่อให้ได้ระยะดีที่สุด และความแรงในเวลากระทบเป้าก็ทำให้ตายได้ แต่ในเรื่องความเร็วผมว่ายังไงก็น่าจะลดลงจากเวลาที่พึ่งปล่อยลูกออกจากสายครับ ทีนี้ก็มาเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักของลูกปืนอัดลมกับลูกธนูอีก  ก็ไม่แน่ใจอีกว่าน้ำหนักเบาสุดกี่กรัมในความเร็วที่ช้าสุดกี่f/sที่จะทำให้เกิดอันตรายได้  ??? ??? ??? ::014::

จริงครับอันนี้ผมก็มีประสบการตรงครับ เมื่อหลายเดือนก่อนผมเป็นหน่วยจู่โจมประจำสนามเลยหละครับ หลังๆเบื่อครับไม่ค่อยท้าทายแล้ว แต่พี่ๆทานไดยังไม่เคยลงสนามbbผมขอแนะนำเลยครับ คนชอบปืน ชอบล่า(ล่าคนมันที่สุดครับ) เหมือนสงครามจริง แต่แค่เราไม่ตาย อาจมีเลือดบ้างมีแผลบ้างแต่ก็ไม่ถึงสาหัดครับ
                     ครั้งแรกที่ผมเล่นเพื่อนชวนไป ลงสนามครั้งแรกชดอุปกรณไม่ครบมีแต่หน้ากากไม่มีหมวก ผมโดนยิงเข้าหัวแตกครับพี่น้องปูดเลยครับแตกและปูดครับ และลูกbbออกจากลำกล้อง จำนวน14นัดต่อวินาที ด้วยความเร็ว350-420f/s ผมโดนเข้าไปหลายเม็ดในชุดนั้น ก้เลยติดใจครับ บอกกับเก็บกดด้วยเพราะเพื่อนเล่นกันมาหลายเดือนแล้วเรามันเด็กใหม่ก็เลยโดนรับน้อง bbเป็นกิจกรรมที่อาจมองดูว่าไม่น่าจะยาก แต่ถ้าพี่ไปเล่นกับพวกที่เล่นบ่อยๆจะเห็นถึงความแตกต่างในการเข้าจู่โจม เข้าที่กำบังการอ้อมยิง ซุ่มยิง ดักยิง เป็นอะไรที่น่าสนใจครับ แต่พอเราเริ่มแก่วิชาเราก็จะเริ่มเบื่อเนื่องจากเราจะรู้แล้วว่าที่เรายิงออกไปโดนหรือไม่โดนคู่ต่อสู้ พวกโดนแล้วไม่ออกเราจะเรียกว่าพวก เหนียว ครับ พอเจอพวกนี้มากๆก็จะเบื่อ ซึ่งพวกเหนียวจะทำให้เสียเกมกีฬาครับ

ลูกธนูมี นน. มากกว่ากระสุนปืนลมมากนะครับ และแรงเหนี่ยวที่ใช้เหนี่ยวธนูศึกทีโบราณใช้ในการรบนั้นสูงมากครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Longbow (http://en.wikipedia.org/wiki/Longbow)

".....Worldwide the average power for bows of all designs is about 220 newtons (50 pounds) at 70 cm (28 inches) of draw which is suitable for most hunting applications. Bows for warfare tend to be much more powerful, with the most powerful bows being the English longbow and the African elephant bow, both of which topped the 900 N (200-pound)  at 80 cm (32 inches) mark. Many men in medieval England were capable of shooting bows from 670–900 N (150–200 pounds) — skeletons of archers have been studied, revealing spur like projections on the bones where their over-developed muscles pulled....."

ธนูยาวเป็นธนูที่แรงที่สุดของฝรั่ง ผลิตยาก ต้องคัดเลือกไม้อย่างดีและมีกระบวนการวุ่นวาย ในหนังสือ Armies and Warfare in the Middle Ages: The English Experience บอกว่า ราคาแพง 2 เท่าของดาบมือเดียวครับ ธนูยาวของยุโรปยุคกลาง ยิงโดยผู้ที่ฝึกฝนมาโดยเฉพาะ มีระยะหลังผลได้ถึง 200 หลา อังกฤษมีมาตรฐานว่าต้องยิงให้ถูกเป้าได้ 12 ดอก ใน 1 นาที

ความเร็วร่วงหล่นมันมีปัจจัยมากมายครับ ทั้งน้ำหนัก และรูปร่าง น้ำหนักน้อยความเร็วร่วงหล่นก็น้อยไปตามสัดส่วน อย่างเช่นลูก BB ที่เป็นไฟเบอร์
ลองเปลี่ยนเป็นลูกปืนเหล็ก หรือเม็ดตะกั่วกลมแทน ความเร็วร่วงหล่นก็จะเพิ่มมากขึ้นตามน้ำหนักของวัตถุ
มาถึงเรื่องรูปทรงของวัตถุมีผลในส่วนของค่า Cd.(Coefficient of Drag หรือสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ) โดยทรงกลมมีค่า Cd 0.47
ย่อมมีแรงต้านมากกว่าวัตถุที่มีค่า Cd. ต่ำกว่า ยกตัวอย่างเช่นหากนำตะกั่ว2ชิ้นที่น้ำหนักเท่ากัน เม็ดหนึ่งเป็นทรงกลม อีกเม็ดหนึ่งทำเป็นทรงยาว
แล้วยิงออกไปด้วยความเร็วเท่าๆกัน เม็ดที่เป็นทรงยาวค่า Cd. น้อยกว่าก็จะไปได้ไกลกว่าเพราะได้รับผลจากแรงต้านอากาศน้อยกว่า
แต่ไม่ใช่ยาวอย่างเดียวแล้วจะไปไกลมันก็ต้องมีปัจจัยที่เพิ่มเข้ามาคือการหมุนวัตถุทรงยาวจะทรงตัวอยู่ได้ต้องมีการหมุน เช่นลูกกระสุนปืน 

ตัวอย่างค่า Cd. ของวัตถุรูปทรงต่างๆ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/37/14ilf1l.svg/200px-14ilf1l.svg.png)

http://en.wikipedia.org/wiki/Drag_coefficient (http://en.wikipedia.org/wiki/Drag_coefficient)

เวลาทดลองก็ต้องเอาเม็ดกลม ๆ เท่ากันเลยครับ

หากเข้าใจว่ากระสุนพ้นลำกล้องขึ้นฟ้า มีความเร็วเท่ากับ
ตอนกระสุนตกลงมาถึงระดับปากลำกล้อง  ตำราว่าไว้อย่างนั้นหรือเปล่าจำไม่ได้

แต่การทดสอบเอาความเจ็บปวดเป็นตัววัดก็แล้วกัน
วิธีทดสอบทำได้โดย
ครั้งแรก ใช้ปืนบีบียิงขึ้นฟ้า เอามือบังปากกระบอกไว้ 
ครั้งที่สอง ยิงขึ้นฟ้าเหมือนเดิม พอกระสุนตกแบมือรับกระสุน

แบบไหนเจ็บกว่ากันครับ

ถ้าทดลองแบบนี้ เอามือบังลำกล้องเจ็บกว่าแน่นอนครับ ลูกปืน BB ขาลงความเร็วต่ำกว่าตอนยิงออกไปแน่นอน
การทดลองที่บอกว่าวัตถุทุกชนิดในโลกจะตกลงสู่พื้นด้วยความเร็วเท่าๆกันนั้น เป็นการทดสอบในท่อสูญญากาศครับ

แบบแรกสิ่ครับเจ็บกว่าแน่นอนดีไม่ดีอาจได้เลือดด้วยครับ
กระสุนปืน BB 0.20 กรัม ยิงขึ้นไปบนฟ้าตกลงมาโดนใบไม้ยังไม่ทะลุเลยครับ

ขอให้ข้อมูลจากรายการทดสอบอันตรายการยิงปืนขึ้นฟ้าในทีวีช่องวิทยาศาสตร์ช่องหนึ่งนะครับ ผมได้ดูอยู่แต่ลืมชื่อรายการเสียแล้ว
1. เป็นการทดสอบในทะเลทรายผิวเรียบแห่งหนึ่งในสหรัฐ ทดลองยิงปืนหลายขนาดขึ้นฟ้าแล้ววัดความลึกรูกระสุนที่ฝังลงในทราย(เจอแต่หัวกระสุน 9mm) เมื่อได้ค่าความลึกแล้วเขาคำนวณกับค่าต้านทานของผิวทรายประมาณว่าความเร็ว 300 กว่าฟุต/วินาที และที่ความเร็วนี้ตำกว่าความเร็วต้นกระสุนและสรุปว่าไม่อาจสังหารคนได้(เว้นโดนจุดอ่อนในศรีษะ)
2. เพื่อหาตัวเลขความเร็วที่แน่นอน จากสมมุติฐานว่าการตกของวัตถุที่มีรูปร่างต่างๆในบรรยากาศ(ไม่ใช่อวกาศซึ่งไม่มีอากาศต้านทาน วัตถุจะเร็วขึ้นตามความเร่งจนเท่าความเร็วแสงได้))จะเกิดสมดุลย์ที่ความความเร็วระดับหนึ่งซึ่งวัตถุนั้นจะไม่เร็วกว่านั้น ต่างกันตามรูปร่าง พวกเขาได้สร้างท่อลมเป็นอคลิลิกใสตั้งดิ่งขึ้นและพิสูจน์สมมุติฐานโดยเป่าลมเข้าท่อนั้นจากด้านล่างขึ้นบนแล้วโยนหัวกระสุน 30-06 ลงไป แล้วปรับเร่งความเร็วลมจนหัวกระสุนหมุน(กลิ้งมากกว่า)ลอยอยู่กลางท่อใสนั้นโดยไม่ตกหรือปลิวพ้นท่อออกไป (ผมเห็นในทีวีกับตานะครับไม่ได้โม้) วัดความเร็วลมที่เป่ากระสุน 30-06 ลอยอยู่กับที่ได้ที่ความเร็วประมาณ 350 ฟุต/(ท่านใดได้ดูแล้วจำตัวเลขได้แก้ไขด้วยครับ ตัวเลขผมคงไม่แม่น) สรุปได้อีกว่ากระสุน 30-06 ตกใส่ก็ไม่(น่า)ตาย ยกเว้นกรณีโดนจุดออ่นเหมือนข้อ 1           กระสุนขนาดอื่นเร็วช้ากว่าเท่าไรไม่ทราบช่วงนี้ภรรยาผมเรียกตัวด่วน
และหลังจากขอภรรยากลับมาดูอีกครั้งทันตอนสรุปดังนี้ครับ

A.กระสุนที่ยิงที่มุมตำกว่า 90 องศา ถ้ากระสุนยังรักษา Trajectory (โค้งอันตราย เอาหัวไปและหมุนรอบตัวด้วย)ไว้ได้(แต่ละกระสุนมีมุมไม่เท่ากันตามแต่รูปร่างและความเร็วต้น ซึ่งการหา Trajectoryไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการทดลองครั้งนี้)เป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน
B.การตกของกระสุนแบบไม่เป็นไปตาม Trajectory แต่ละชนิดจะมีความเร็วไม่เกินความเร็วระดับหนึ่งตามแต่ละประเภท กระสุนขนาดเล็กจนถึงกระสุนไรเฟิลเล็กน่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต กระสุนใหญ่น้ำหนักมากตายแหงอยู่แล้ว(ถ้าสงสัยให้ไปยืนใต้ตึกให้เพื่อนทิ้งอิฐใส่หัว คงตายโดยอิฐยังไม่มีความเร็วถึงสมดุลย์ของมันเลยนะครับ  จบครับ ;D

เป็นไปตามที่ท่านพูดนั้นหละครับ อ้อมันมีการทดสอบให้ดูด้วยหรือ   ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
เพราะเพื่อนเอาสูตรคำนวณมหาประลัยมาโพส ผมเห็นเข้าก็กลัวว่าผมเองอาจเข้าใจผิด
ด้วยความรู้ไม่ถึงขั้น  เพราะได้แต่อาศัยคิดตามหลักธรรมชาติผสมกับความรู้ที่มีนิดเดียว
ประยุกต์เข้าหากันเป็นความเข้าใจ ว่ากระสุนตกลงน่าจะช้ากว่าตอนขึ้น   ได้ยินจนติดหูเลยหละ
แต่ก็เถียงในใจมาตลอดนะ

ไม่ต้องนอกโลกหรอก ในโลกเราก็เหมือนกันครับ วัตถุตกลงมาหาโลกก็จะมีความเร็ว
ไม่เกินจุดสมดุลย์ของมัน ตามแต่รูปร่างและน้ำหนักวัตถุแต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงจริง ๆ 

ก็เคยถามนักแบตว่าสามารถตีลูกแบตให้เร็วกว่านี้ได้ไหม สมมุติว่าเพิ่มแรงตีไปเรื่อย ๆ ได้
สมมุติว่าแรงตีแบตเป็นแรงดึงดูดโลกก็แล้วกัน

นักตีแบตสั่นหน้าบอกว่าทำไม่ได้  ตีลูกด้วยความแรงระดับหนึ่งลูกก็วิ่งเร็วสุดของมันอยู่แล้ว
แม้ว่าภายหลังจะเพิ่มความแรงตีขึ้นไปอีก  ลูกแบตก็ไม่เร็วขึ้นตามแรงที่เพิ่มขึ้น
ตีแบบนี้เสียแรงตีไปเปล่า ๆ ทำให้แพ้ในเซทหลัง  ผมก็ว่ากระสุนก็น่าจะเหมือนกันนะ

แล้วลองตีแบตเป็นเส้นโค้งดูสิ ตีเบา ๆ ทำได้ แต่ตีแรง ๆ จะเห็นลูกแบตวิ่งเป็นเส้นตรงขึ้นไป
แล้วโค้งตกลงมาอย่างรวดเร็ว กระสุนปืนอัดลมก็น่าจะเป็นแบบลูกแบตเหมือนกันครับ
ชีวิตจริงกับตำรา ทำไมไมสอดคล้องกัน

สรุปว่าถ้ายิงปืนอัดลมเบอร์1,2ขึ้นฟ้ามุม90องศา ลูกตกลงมาถ้าไม่โดนตาก็ไม่น่าจะเป็นอันตราย
แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าถ้ายิงมุมองศาขนาดไหนจะไม่เป็นอันตราย ง่ายๆคือ ห้ามยิงในมุมอย่างน้อยสุดกี่องศาครับ
ผมว่าน่าจะตั้งแต่มุม0-45องศาเป็นอย่างน้อย ถ้ายิงในมุมในช่วงนี้ ผมว่ากระสุนน่าจะรักษาเส้นโค้งอันตราย และยังหมุนอยู่ครับ

โดนตานี้อันตรายอาจจะบอดได้นะครับ

ถ้าสมมติให้ กระสุน9 มม. ความเร็วร่วงหล่นประมาณ 300 ft/s แปลงเป็นเมตร 91.44 m/s
น้ำหนักกระสุน9มม. ทั่วไปหนัก7.5-9.5 กรัม ใช้ค่ากลางประมาณ 8กรัม(กระสุน124เกรน)
พลังงานของลูกกระมุน 9มม.ที่ตกลงมานี้ประมาณ 97 ft.lbf  ใกล้เคียงกับลูก .22 lr ความเร็วมาตรฐาน

ส่วน.30-06 ความเร็วร่วงหล่น 350 ft/s แปลงเป็นเมตร 106.68 m/s
น้ำหนักกระสุน .30-06 ทั่วไปหนัก 10-14 กรัม ใช้ค่ากลางประมาณ 12กรัม (กระสุน180เกรน)
พลังงานของลูกกระสุน .30-06 ที่ตกลงมานี้ประมาณ 401 ft.lbf  น้อยกว่าพลังงานปากลำกล้องของกระมุน 9มม. นิดหน่อย

อันตรายหรือไม่ต้องพิจารณาเอาเองครับ  

ถ้าเป็นพวกหัวกระสุน .38 .45 เนี้ยหล่นใส่หัวก็อย่างที่ว่าแหละครับน้อยคนที่จะรอด

ผมได้ดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ มีเด็กถูกลูกปืน.38เจาะศรีษะ ทางตำรวจมาตรวจสอบพบว่า กระสุนตกลงมาทะลุผ่านไม้ทะลุไม้ก่อนแล้วจึงตกลงมาเจาะเข้าหัวเด็ก ตำรวจแจ้งว่าผู้ยิงอยู่ในรัศมี2กม. ซึ่งเป็นการยากที่จะหาตัวคนร้าย
                            ขอให้ผู้นิยมปืน มีความระวังในการใช้ปืนด้วยนะครับ ::014:: (เน้นเรื่องการยิงปืนขึ้นฟ้าเล่นในงานต่างๆนี่เปลี่ยนเป็นยิงลงดินดีกว่านะครับ)

ปืนดินขับไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ปืนอัดลมผมยังเกรงจะมีอันตราย ถ้าเป็นเบอร์ 2 เบอร์ 1 ค่อนข้างสบายใจเรื่องอันตรายจากลูกตก

สงสารเด็ก

สรุป ปืนอักลม เบอร์1-2 ยิงขึ้นฟ้าได้มะมีปัญหาใช่มั้ยครับ จะได้ สอยนก สะดวกๆหน่อย ไม่ต้องกลัวตกใส่หัวใคร

เวลายิงนกมักจะยิงเป็นมุมไม่ถึง 90 องศา สามารถเป็นอันตรายได้ ควรระวังแนวยิงอยู่นะครับ