๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:42:15 PM



หัวข้อ: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:42:15 PM
ช่วงนี้   ถ้าพูดเรื่องน้ำเป็นเรื่องยอดฮิต

แทบทุกบ้านมีปั๊มน้ำ   มีใครพอจะแนะนำวิธีการซ่อมหรือแก้ปัญหาอาการปั๊มน้ำเสีย 

แบบที่บางครั้งสามารถทำได้ด้วยตนเอง..................ขอคำแนะนำครับ

ถ้าเสียแล้วต้องเปลี่ยน   อิ  อิ   แบบนี้เป็นประเด็นสุดท้าย..............



หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:50:51 PM
ปั๊มน้ำมีสองแบบนะครับพี่แบบไฟฟ้ากับน้ำมัน  พี่อยากได้แบบไหนครับ ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:56:19 PM
อาการเป็นไงครับพี่ 


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:56:30 PM
ขึ้นอยู่กับ ชนิดของปั๊ม กับอาการที่เสียด้วยครับ พี่ป้อม  ;)

ยกตัวอย่างถ้าเป็นไฟฟ้า

สมมุติว่า ถ้าไม่หมุน แต่แกนมอเตอร์ปั๊มยังเอามือหมุนได้ ก็อาจจะมอเตอร์ไหม้ ซ่อมก็ต้องพันมอเตอร์ใหม่ อาการนี้ อาจจะเกิดได้จาก มีเศษอะไรไปติดใบพัดแล้วล๊อค อยู่นานเลยทำให้ไหมได้ หรือเปิดทิ้งไว้นานมากจนเส้นลวดทองแดงไหม้


ถ้าแกนหมุนไม่ได้ อาจจะลูกปืนเพลา ติดขัด หรือ จารบีลูกปืนเพลาแห้ง แล้วล๊อค หรือง่ายๆ อาจจะมีเศษอะไรติดใบพัด ต้องลองแกะดูก่อนครับ

 ::014::


แต่ถ้าบางรุ่นอาจจะมีโอเวอร์โหลดสวิทช์ติดมาด้วย พอใช้งานมากๆ โอเวอร์ดหลดสวิทช์อาจจะตัดก็ได้ครับ  :D  เจ้าโอเวอร์โหลดสวิทช์พวกนี้มักจะมีปุ่มรีเซทครับ แค่กดรีเซทแล้ว อาจจะใช้งานต่อได้ครับ  ;)


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:58:05 PM
แต่ถ้าเป็นไฟฟ้า ที่เป็นสวิทช์แรงดันอัตโนมัติ สวิทช์นี้อาจจะเสียตรงหน้าสัมผัสภายในของสวิทช์ก็ได้ครับ  ;)


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:59:37 PM
ถ้ามอเตอร์หมุนแล้วน้ำไม่ไหล อาจจะไม่มีน้ำอยู่ในใบพัดเพื่อเป็นตัวดูดน้ำเข้า หรือใบพัดเสีย ก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:03:14 PM
ขอบคุณครับ    อยากได้คำแนะนำเยอะ ๆ   เป็นความรู้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:09:06 PM
ถ้าเป็นปั๊มที่ใช้เครื่องยนต์ หรือใช้น้ำมัน จะดูง่ายคือ เครื่องไม่ติด แสดงว่าเสียที่เครื่อง  ;D จะว่อมเองต้องมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์พอสมควร ซึ่งผมไม่มี  ::005::  พอดีเรียนไฟฟ้ามา เลยตอบเรื่องเครื่องยนต์กลไกลำบาก  :D  แต่ถ้าปั๊มไฟฟ้า ได้เคยซ่อมมาพอสมควรครับ  ;)


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:16:45 PM
ปรึกษาปัญหาปั้มน้ำหอยโข่ง น้ำไม่ขึ้น

http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums2/http/www.pantip.com/cafe/home/topic/R5314262/R5314262.html


ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องสูบน้ำ

ในบรรดาเครื่องสูบน้ำที่หลากหลายนั้น เครื่องสูบน้ำโวลูท (หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศไทย หรืออีกชื่อหนึ่งคือเครื่องสูบหอยโข่ง ( volute pump) ถือเป็นเครื่องสูบน้ำที่ได้รับการพัฒนาก้าวหน้ามากที่สุด เพราะว่าสามารถสูบน้ำได้ในอัตราที่สูง และมีการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ


หลักการทำงานของเครื่องสูบน้ำชนิดหอยโข่ง (โวลูท)

เครื่องสูบน้ำชนิดโวลูท ดูดน้ำและส่งน้ำได้อย่างไร ?
ในสมัยที่เราเป็นเด็กเราคงเคยทดลองเล่น โดยให้น้ำหยดบนร่มที่กำลังหมุนใช่ไหม? น้ำหยดเล็กๆ จะถูกเหวี่ยงให้กระจายออกจากร่มที่กำลังหมุนอยู่นั้นในทำนองเดียวกันถ้าเราขว้างตุ้มฆ้อน เราต้องหมุนตัวเราให้เร็วที่สุดก่อน เพื่อที่จะขว้างตุ้มค้อนให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้

ขอให้เรามาทำการทดลองดูสักอย่างโดยอาศัยเครื่องมือง่ายๆ ที่ปรากฏในรูปข้างซ้ายมือนี้ เมื่อใบพัด (impeller) ที่ก้นของอุปกรณ์หมุนน้ำจะหมุนตามไปด้วย การหมุนทำให้ผิวน้ำยุบตัวต่ำที่สุดตรงส่วนกลาง และระดับน้ำสูงสุดตามบริเวณขอบของอุปกรณ์ เหตุผลก็คือว่าน้ำเคลื่อนที่ออกจากศูนย์กลางของการหมุนภายใต้การกระทำของแรงหนีศูนย์กลางที่เกิดจากการหมุนนั้น ความดันภายในของน้ำจะลดที่บริเวณศูนย์กลางแต่จะเพิ่มมากขึ้นที่บริเวณขอบ

โดยหลักการแล้วเครื่องสูบน้ำชนิดโวลูทก็เหมือนกับอุปกรณ์ทดลองที่แสดงมาแล้วข้างบนนี้ คือเมื่อใบพัดในเครื่องสูบหมุน ความดันของน้ำจะเพิ่มมากขึ้น เพราะแรงหนีศูนย์กลางน้ำจะถูกเหวี่ยงออกจากบริเวณศูนย์กลางการหมุนอย่างต่อเนื่อง


ลักษณะของเครื่องสูบน้ำชนิดหอยโข่ง

โดยปกติเราจะใช้ตัวแปร 4 ตัวแปร เป็นเครื่องบอกลักษณะการทำงานของเครื่องสูบน้ำแต่ละขนาด ลักษณะการทำงานของเครื่องสูบน้ำแต่ละขนาดโดยใช้ตัวแปร 4 ตัวเป็นตัววัดเรียกว่า พฤติลักษณะ (characteristic) ของเครื่องสูบ ตัวแปรเหล่านี้ได้แก่อัตราการสูบ ,เฮดหรือความสูงของน้ำที่สามารถส่งขึ้นไปได้ ,กำลังที่เพลา และประสิทธิภาพ

    อัตราการสูบ (Flow Rate) หมายถึงปริมาณ หรือจำนวนของน้ำที่เครื่องสูบแต่ละเครื่องสูบได้ต่อหน่วยของเวลา โดยมากจะใช้หน่วยของอัตรสูบ ม3 /นาที หรือ ลิตร/นาที อย่างไรก็ตามขนาดของเครื่องสูบนิยมเรียกตามขนาดของท่อดูด ดังนั้นมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JIS) จึงได้จัดทำตารางเครื่องสูบที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างขนาดท่อดูดที่เหมาะสมที่อัตราการสูบหนึ่งๆ ดังแสดงในตารางด้านซ้ายมือ
    เฮด (Head) คือแรงดัน หรือความสูงที่เครื่องสูบน้ำทำได้ ถือเป็นธรรมเนียมว่าให้ใช้ หน่วยความสูงของน้ำที่เป็นค่าเฮด และใช้หน่วยเป็นเมตร (ม.) พฤติลักษณะของเครื่องสูบแบบโวลูทก็คือ อัตราการไหลจะเป็นปฎิภาคกลับกับเฮด หรืออีกนัยหนึ่งก็คือว่าถ้าอัตราการไหลสูงเฮดจะต่ำ และถ้าอัตราการไหลต่ำเฮดจะสูง เราสามารถสร้างชาร์ตแสดงความสัมพันธ์ของอัตราการไหลกับเฮดได้โดยให้เฮดอยู่ในแนวแกนตั้ง และอัตราการไหลในแนวแกนนอน อัตรการไหลที่เฮดต่างๆ เมื่อกำหนดแต่ละค่า และเชื่อมต่อจุด (พลอต) เหล่านี้ด้วยกันก็จะได้เส้นโค้งที่ลดต่ำลงจากซ้ายไปขวาดังรูปที่แสดงทางซ้ายมือ
    กำลังเพลา (Shaft power) กำลังของเครื่องดันกำลังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับเพลาของเครื่องสูบน้ำให้หมุนตามรอบที่กำหนด กำลังเครื่องฉุดถ่ายทอดผ่านเพลาไปสู่เพลาของเครื่องสูบน้ำ เรียกว่า กำลังเพลา ถ้าเราจะสร้างชาร์ตแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างกำลังเพลากับอัตราการไหล เราก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับชาร์ตแสดงความสัมพันธ์ของเฮดกับอัตราการไหล โดยให้แกนนอนเป็นอัตราการไหลเหมือนเดิม แต่ให้แกนตั้งเป็นกำลังเพลาแทน ในกรณีเช่นนี้กราฟจะโค้งตกจากขวาไปซ้าย กำลังของเครื่องสูบจะต้องมีมากพอที่จะชดเชยกำลังที่สูญเสียไปในเพลา โดยปกติแล้วจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องดันกำลัง ในกรณีอย่างนี้จะคิดเป็นกิโลวัตต์ (kW) แต่ถ้าเป็นเครื่องสูบเป็นเครื่องยนต์กำลังสูบคิดเป็นแรงม้า (PS)
    ประสิทธิภาพ (Efficiency) สัดส่วน (ratio) ของงานที่ได้จากเครื่องสูบ (หมายถึง กำลังที่ใช้ในการยกน้ำทางทฤษฏี) เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังของเพลาที่ได้จากเครื่องฉุด เรียกว่าประสิทธิภาพ ค่านี้มักจะแสดงหน่วยเป็นเปอร์เซนต์ (%) เส้นโค้งแสดงพฤติลักษณะของเครื่องสูบน้ำเมื่อใช้แกนตั้งเป็นประสิทธิภาพ และแกนนอนเป็นอัตราการไหลจึงมีลักษณะดังแสดงในรูปซ้ายมือ


คุณลักษณะของเครื่องสูบน้ำ

การแบ่งลักษณะของปั๊มใบพัดหมุน (Turbo Pump)

ปั๊มน้ำใบพัดหมุนอาจแบ่งแยกง่ายๆ ตามลักษณะใบพัดได้ 3 ชนิดดังนี้

    ปั๊มหอยโข่งแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ (Centrifugal Pump) เฮดน้ำเกิดจากแรงเหวี่ยงหนีศูนย์จากการหมุนของใบพัด ใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถใช้เฮดน้ำสูง
    ปั๊มน้ำการไหลแบบผสม (Mixed Flow Pump) ปั๊มชนิดนี้เฮดน้ำเกิดจากแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ของใบพัดส่วนหนึ่ง และเกิดจากแรงดึงน้ำของใบพัด (Impeller Lift) อีกส่วนหนึ่ง
    ปั๊มน้ำการไหลตามแนวแกน (Axial Flow Pump) เฮดน้ำจากปั๊มประเภทนี้เกิดจากแรงที่ใบพัดกระทำต่อของเหลวตามแนวแกน ปั๊มชนิดนี้ใช้กันแพร่หลาย เมื่อต้องการปริมาณการไหลมาก และเฮดต่ำ
    ปั๊มน้ำทั้ง 3 ชนิดข้างบนยังสามารถแยกย่อยตามลักษณะเรือนปั๊ม (Casing) และใบพัด (Impeller)


เรือนปั๊ม (CASING)

ปั๊มแบบโวลูท (Volute) & ปั๊มแบบดิฟฟิวเซอร์ (Diffuser) การไหลของน้ำที่ความเร็วสูงจะต้องถูกแปลงเป็นแรงดันน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ปั๊มน้ำแบบดิฟฟิวเซอร์จะใช้ช่องนำน้ำ (Guide Vane) ซึ่งติดตั้งติดกับใบพัดแปลงแรงดัน ในขณะที่ปั๊มแบบโวลูทจะแปลงความเร็วการไหลเป็นแรงดันโดยใช้โข่งเกลียว (Spiral Casing) ปั๊มแบบโวลูทจะได้รับความนิยมสูงกว่า เพราะมีประสิทธิภาพดี ใช้ได้กับช่วงปริมาณการไหลกว้าง ,ผลิตง่าย และมีขนาดกะทัดรัด ในขณะที่ปั๊มน้ำแบบดิฟฟิวเซอร์จะใช้กับงานพิเศษ เช่น ปั๊มน้ำบ่อลึก


ชนิดการดูดน้ำ (SUCTION TYPE)

ดูดน้ำทางเดียว (Single Suction) & ดูดน้ำสองทาง (Double Suction) ในกรณีที่ทางดูดน้ำทางเดียวไม่เพียงพอที่จะดูดปริมาณน้ำมากๆ จะมีปั๊มน้ำชนิดที่มี 2 ใบพัดวางหลังชนกัน และมีทางดูดน้ำอยู่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งอาจเรียกว่าปั๊มแบบดูดน้ำสองทาง ปั๊มแบบทางดูด 2 ทางสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และรุนแรงตามแนวแกน จะสมดุลทางทฤษฏี อย่างไรก็ตามเนื่องจากโครงสร้างปั๊มที่ซับซ้อน ทำให้มีการใช้งานเฉพาะค่อนข้างจำกัด


ปั๊มน้ำหลายสเตจ (หลายชุดใบพัด)

ในกรณีที่ปั๊มน้ำใบพัดเดียวไม่สามารถสร้างเฮดน้ำที่ต้องการได้ ในกรณีนี้ปั๊มที่มีหลายๆ ชุดใบพัดเรียงกันแบบอนุกรมจะเฮดน้ำได้มากกว่าปั๊มน้ำที่ให้เฮดน้ำสูงๆ ส่วนใหญ่เป็นปั๊มน้ำหลายสเตจ (หลายใบพัด)


ปั๊มน้ำแบบไม่สามารถล่อน้ำเอง (Non-Self-Priming Pump) และปั๊มน้ำที่สามารถล่อน้ำเอง (Self-Priming Pump)

ในการใช้งานปั๊มน้ำทั่วไป เราจะต้องล่อน้ำ โดยการเติมน้ำลงในปั๊มเพื่อให้มีน้ำเต็มระหว่างปั๊มลงไปถึงปลาย ท่อดูดน้ำ ในขณะที่ปั๊มน้ำแบบสามารถล่อน้ำเองทำงานตามขั้นตอนดังนี้

    ก่อนการใช้งาน จะต้องมีน้ำขังในเรือนปั๊ม และใบพัดจุ่มในน้ำ
    เมื่อเริ่มใช้งาน ใบพัดหมุนสร้างสูญญากาศในปั๊มอากาศในท่อดูดถูกดึงเข้าปั๊มในขณะที่ท่อทางออก ส่วนน้ำจะยังคงหมุนวนในช่วงใบพัด
    เมื่ออากาศถูกดึงออกจากท่อดูดจนหมด น้ำจะขึ้นมาเต็มท่อ และปั๊มน้ำดูดส่งได้ตามปกติ


ปั๊มพ์จุ่ม (Submersible Pumps)

ปั๊มพ์จุ่มกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังเนื่องจาก

    ไม่ต้องการติดตั้ง
    ไม่ต้องมีการล่อน้ำ (Priming) ก่อนใช้
    ไม่มีปัญหา คาวิเตชั่น (Cavitation)

นอกจากนี้ปั๊มพ์จุ่มในปัจจุบันยังมีมอเตอร์จุ่มน้ำ และแมคคานิคอลซีลที่มีคุณภาพดีขึ้น บวกกับราคาปั๊มพ์จุ่มที่ต่ำลงทำให้ปั๊มพ์จุ่มได้รับความนิยมขึ้นมา


ปั๊มพ์อื่นๆ

นอกจากปั๊มพ์น้ำใช้ใบพัดที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีปั๊มพ์ชนิดอื่น เช่น ปั๊มพ์ชัก, ปั๊มโรตารี่, ปั๊มพ์เฟือง, ปั๊มใบพัดเฟือง (Regenerative) , ปั๊มพ์สูญญากาศ, ปั๊มพ์เจ็ท, ปั๊ม air lift pump, ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับงานพิเศษ ในการใช้งานทั่วไปนั้น ปั๊มพ์น้ำแบบใบพัดโดยเฉพาะปั๊มแรงเหวี่ยงหนีศูนย์แบบหอยโข่ง (Volute) จะมีใช้แพร่หลายมากที่สุด


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:19:50 PM
 ขั้นตอนการทำงาน
ขั้นตอนที่ 1
หากปั๊มน้ำสูบน้ำไม่ขึ้น แสดงว่าเครื่องไม่ทำงา น มีสาเหตุมาจาก ปลั๊กไฟหลวม , สวิทช์ไม่ได้เปิ ด , ฟิวส์ขาด , สายไฟขาด ให้ตรวจสอบแก้ไข โดยลอ งขยับปลั๊กให้แน่น ตรวจฟิวส์หรือสายไฟที่ต่อเข้ าเครื่องปั๊มว่ามีจุดไหนที่ชำรุดหรือไม่ ถ้ามีใ ห้ต่อสายให้เรียบร้อย
ขั้นตอนที่ 2
ถ้าปั๊มน้ำทำงาน แต่น้ำไม่ขึ้น มีสาเหตุจากมีอา กาศเข้าในท่อดูด , ท่ออุดตัน , ตัวอัดอากาศเสีย หรือสูบน้ำจากบ่อลึกกว่า 3 เมตร ให้ตรวจสอบแก้ไ ขโดยเช็ครอยต่อของท่อที่รั่วและซ่อมเชื่อมให้เรี ยบร้อย ทำความสะอาดท่อที่มีของอุดตันและหากน้ำอ ยู่ต่ำกว่า 3 เมตร ให้ติดตั้งปลายท่อให้ต่ำลงไปใ นน้ำและอาจจะเลื่อนปั๊มให้ต่ำลงไปอีก
ขั้นตอนที่ 3
ความเร็วรอบมอเตอร์ลดลง สาเหตุเกิดจากไฟที่จ่าย มีกำลังน้อยลง แรงดันไฟไม่สม่ำเสมอหรือที่คอนเด นเซอร์รั่วหรือละลาย การแก้ไข จะทำได้แค่การเปลี ่ยนคอนเดนเซอร์ ส่วนเรื่องกระแสไฟน้อยจะต้องรอก ารไฟฟ้ามาแก้ไข


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:37:16 PM
ปั้มน้ำที่บ้าน มีเสียง เวลาทำงาน แต่น้ำไม่แรง ทำอย่างไรดี ครับ
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2011/03/R10312346/R10312346.html



หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:42:18 PM
การตรวจซ่อมและบารุงรักษามอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ
http://www.lamptech.ac.th/webprg/vitsawa/file_ar/a01101213.%A1%D2%C3%B5%C3%C7%A8%AB%E8%CD%C1%E1%C5%D0%BA%D3%C3%D8%A7%C3%D1%A1%C9%D2%C1%CD%E0%B5%CD%C3%EC%E4%BF%BF%E9%D2%A1%C3%D0%E1%CA%CA%C5%D1%BA.pdf


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:50:27 PM
คู่มือการใช้เครื่องสูบน้ำ ปั้มแช่
   
     
ก่อนนำไปใช้งาน

    การยกหรือเคลื่อนย้ายปั๊มทุกครั้งให้จับหรือถือด้วยหูหิ้วเท่านั้น อย่าเหนี่ยวรั้งสายไฟฟ้าของปั้ม
    ตรวจสอบข้อมูลในแผ่นป้ายที่ติดมากับตัวสินค้าว่า ขนาด,รุ่น และคุณสมบัติของปั้มตรงกับที่ท่านต้องการ
    ตรวจให้แน่ใจว่าการขนส่งไม่ได้สร้างความเสียหายต่อตัวปั้ม,ตรวจดูสลักเกลียวและน๊อตว่ายังขันแน่นอยู่หรือไม่
    ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าสายเคเบิ้ลไม่เสียหาย มีสายดินและวงจรไฟฟ้าทำงานได้ดี

 
ข้อควรระวัง

    อย่าเสียบปลั๊กไฟก่อนนำปั๊มไปแช่น้ำ เพราะอาจทำความเสียหายกับมอเตอร์ได้
    ให้แน่ใจได้ว่าได้ต่อสายดินกับปั๊มถูกต้องแล้วก่อนเสียบปลั๊กไฟ เพราะอาจทำให้ได้รับอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
    ควรดูแลอย่างเข้มงวดไม่ใช้ปั๊มในบ่อหรือสระว่ายน้ำ ขณะยังมีคนอยู่ในน้ำ

 
การติดตั้งและการใช้งาน

    ในกรณีที่ปั้มจะถูกวางอยู่ในโคลน หรือพื้นทราย แนะนำว่าให้ใช้วีแขวนปั้มให้ลอยอยู่ในน้ำด้วยเชือก หรือหาตำแหน่งวางลงบนพื้นที่เรียบและแข็งแรง เพื่อป้องกันการทรุดตัว ซึ่งจะช่วยยืดอายุการสึกหรอของชิ้นส่วน จากการถูกเม็ดทรายหรือเศษมีดคมเล็กๆ ที่ถูกดูดเข้าสู่ปั้มทำความเสียหายกับตัวปั้มได้
    ท่อส่งน้ำหรือท่อสายยางของปั้ม จะต้องต่อให้พ้นจากระดับน้ำของบ่อ หรืออาจใส่วาล์วกันน้ำย้อน(CHECK VALUE) ถ้าท่อส่งน้ำหรือท่อสายยางอยู่ต่ำกว่าระดับผิวน้ำเมื่อปั้มหยุดทำงานจะเกิดน้ำย้อนเนื่องจากปฏิกิริยา "กาลักน้ำ"
    จัดเตรียมหาตัวป้องกันขยะมูลฝอยที่ปนมากับน้ำและเก็บออกจากตัวกรองน้ำ เมื่อมีปริมาณมาก
    หลังจากใช้ปั้มน้ำที่มีเศษทราย หรือตะกอนสกปรกอื่นๆจำนวนมาก แนะนำให้ใช้ปั้มสูบน้ำที่สะอาดๆบ้างในบางครั้ง เพื่อทำความสะอาดตัวปั้ม และภายในของท่อสายยาง
    ส่วนที่กันน้ำของเพลาปั้ม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก คือซีลกันน้ำ (MECHANICAL SEAL) และซีลกันน้ำมัน (OIL SEAL) อายุการทำงานของปั้มจะแปรเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของการใช้งาน โดยไม่จำกัดของเขต แนะนำให้ตรวจเช็คการซีล หรือการรั่วไหลของน้ำมัน และดูแลตรวจเช็คน้ำมันในปั้มอย่างสม่ำเสมอ

 
การบำรุงรักษาและการตรวจสอบ

    ตรวจเช็คความบกพร่องของสายไฟปั้ม โดยตรวจเช็คความต้านทานของตัวนำไฟฟ้าระหว่างขั้วทั้งสองของปลั๊กเสียบสายไฟ (ค่าความด้านทานไฟฟ้าที่อ่านได้ต้องเป็น 0 Ω จึงจะถือว่าผ่าน)
    ตรวจเช็คการเป็นฉนวน โดยตรวจเช็คระหว่างขั้วทั้งสองของปลั๊กเสียบสายไฟกับสายดิน (ค่าความต้านทานไฟฟ้าที่อ่านได้ต้องน้อยกว่า 5  M Ω จึงจะถือว่าผ่าน)
    ตรวจดูน้ำมันหล่อลื่น ถ้าพบว่าน้ำมันหล่อลื่นมีสีขุ่นหรือมีสีผิดปกติ หรือมีน้ำเจอปนก็ให้เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น และตัวซีลทันที ถ้าพบว่าน้ำมันหล่อลื่นไม่ขุ่น และไม่มีน้ำเจือปน แสดงว่าซีลยังอยู่ในสภาพปกติใช้งานได้ต่อไป

 
การแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น (TROUBLE SHOOTING)
(http://img208.imageshack.us/img208/6366/unledrg.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/208/unledrg.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)
 



หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:50:53 PM
คู่มือการใช้เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง
   
     

การติดตั้ง ( INSTALLATION)
คำแนะนำ เพื่อความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นต่อปั๊มและทรัพย์สิน

ข้อควรระวังก่อนการติดตั้ง

    การยกหรือเคลื่อนย้ายปั๊ม ควรกระทำด้วยความระมัดระวัง อย่าเหนี่ยวรั้งสายไฟของปั๊ม
    ศึกษาข้อจำกัดการใช้งานโดยละเอียด
    ควรหลีกเลี่ยงการใช้สูบของเหลวที่ไม่ใช่น้ำ เช่น น้ำมัน หรือเคมีอื่นๆ หรือใช้งานในสภาวะที่อาจเกิดอันตรายได้
    ไฟฟ้าจ่ายเข้าตัวปั๊มจะต้องเป็นระบบเดียวกัน ควรติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟ และต่อสายดินทุกครั้ง
    เลือกใช้ท่อเหล็ก หรือท่อพลาสติกที่ทนแรงดันได้ เพื่อป้องกันการเสียหายอันเกิดจากแรงสุญญากาศขณะดูด
    ควรหลีกเลี่ยงการใช้ท่ออ่อน หรือสายยางสำหรับท่อดูด หรือท่อจ่ายเพื่อป้องกันท่อตีบและบิดงอ
    ไม่ควรใช้งานเกินประสิทธิภาพของปั๊ม
    ควรระวังไม่ให้ปั๊มโดนน้ำหรือฝนสาด
    การต่อท่อต้องซีลให้สนิทไม่รั่วลมในท่อดูด เพราะจะมีผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของปั๊ม
    ท่อดูดจะต้องไม่สูงกว่าระดับของตัวปั๊ม
    ท่อดูดจะต้องใส่ฟุตวาล์ว (หัวกะโหลก) และอาจจะใส่ตัวกรองน้ำร่วมด้วย
    ปลายท่อดูดจะต้องจมอยู่ในน้ำ และควรห้างจากก้นย่อและผนังข้างบ่อไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางท่อดูด
    จำไว้ว่า ปั๊มจะต้องมีน้ำเต็มตลอดเวลาในขณะใช้งาน
    ท่อด้านจ่ายเหนือปั๊มน้ำให้ติดว่าล์วกันน้ำย้อนและประตูน้ำ
    เมื่อใช้งานอย่าลืมเปิดประตูน้ำทางท่อจ่าย
    การติดตั้งท่อหรือชิ้นส่วนอื่นใดให้แน่ใจว่าน้ำหนักของมันจะไม่ส่งผลเสียโดยตรงต่อปั๊ม
    หลีกเลี่ยงการต่อท่อหลายทาง หรือต่อท่อโค้งซิกแซกไปมา
    ก่อนซ่อมบำรุงปั๊มจะต้องตัดกระแสไฟฟ้ออกก่อน


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:51:39 PM
คู่มือการใช้งานเครื่องปั๊มน้ำอัตโนมัติ
   
     

คู่มือการใช้งานปั๊มน้ำอัตโนมัติ SHIBATA, SWP 275 D, AUTOMATIC, WELL PUMP

 
ข้อแนะนำการติดตั้งปั๊มดูดน้ำลึก (DEEO WELL)

 
ข้อควรระวังในการติดตั้ง

เช็คความลึกของน้ำให้แน่ใจว่าท่อดูดน้ำมีความลึกเพียงพอที่จะดูดน้ำได้ถึง เมื่อระดับน้ำลดต่ำลง

    ติดตั้งปั๊มให้ใกล้กับบ่อน้ำให้มากที่สุด ถ้าเดินท่อแนวนอนห่างจากบ่อน้ำยาวเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของปั๊มจะต่ำลงและปั๊มอาจไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ
    สถานที่ติดตั้งควรจะต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ส่วนมากจะติดตั้งบนคอนกรีตที่ไม่ลาดเอียงและไม่ทรุด
    ท่อแนวนอนที่ติดกับท่อดูดน้ำ ควรอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ท่อแนวนอนที่ติดกับตัวปั๊ม ควรจะลาดเอียงลง และสูงกว่าท่อแนวนอนที่ติดกับท่อดูดน้ำ (ถ้าการติดตั้งท่อส่งน้ำไม่ถูกต้องจะทำให้ดูดน้ำไม่ขึ้น)
    ว่างท่อดูดน้ำให้ลึกที่สุดเท่าที่ลึกได้ โดยดูได้จากเวลาระดับน้ำลงต่ำ แต่ควรให้ปลายท่ออยู่เหนือบ่อน้ำอย่างน้อย 30 เซนติเมตร (สังเกตจากรูปที่ 1)
    ท่อน้ำจะต้องปราศจากสิ่งสกปรกตลอดเวลา มิฉะนั้นจะทำให้ปั๊มอุดตัน และจะทำให้ปั๊มเสียหายได้

 
วิธีการใช้งาน

    คลายเกลียวฝาปิดน้ำพลาสติกออก เพื่อกรองน้ำ
    คลายเกลียวตัวป้อนอากาศ ( Air Charger )
    กรอกน้ำใส่เกลียว (ข้อที่ 1) จนมีน้ำล้นออกมาที่รูขันเกลียวตัวป้อนอากาศ ( Air Charger )
    ขันเกลียวตัวป้อนอากาศเข้าไปจนแน่นพอสมควรเติมน้ำลงไปอีกเล็กน้อย จนน้ำล้นออกจากเกลียวบน ปิดเกลียวพลาสติกตัวบนให้แน่น
    เสียบปลั๊กไฟฟ้า มอเตอร์ปั๊มน้ำจะเริ่มทำงานและพร้อมใช้งานได้เลย

 
ข้อควรระวัง

ปั๊มน้ำรุ่นนี้ได้รับการปรับความดัน (pressure) โดยตั้งความดันไว้ที่ 550-600 มิลปรอท เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องไปขันสกรูเพื่อปรับคามดันแต่อย่างใด

วิธีการใช้ปั๊มน้ำหลังจากที่หยุดใช้งานมานาน

ปั๊มที่หยุดใช้งานมานานเมื่อต้องการใช้งานใหม่ เปิดไฟแล้วปั๊มไม่ทำงานให้ดึงปลั๊กไฟออก และใช้ไขควงบิดปลายแกนมอเตอร์ (ทางด้านหลัง) บิดให้แกนมอเตอร์หมุนสัก 2 – 3  รอบ เพื่อให้สิ่งสกปรกต่างๆ ที่ทำให้มอเตอร์ฝืดออกแล้วเสียบไฟ มอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานตามปกติ



(http://img854.imageshack.us/img854/8174/unledvpw.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/854/unledvpw.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)

(http://img339.imageshack.us/img339/7347/unled1fd.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/339/unled1fd.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 12:28:16 AM
  เยี่ยมครับท่านช้างอ้น ::002:: ::002:: ::002::  ถ้าเป็นแป๋งมึนจึ๊บ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 12:51:29 AM
แอ่ไม่หรอกครับลุงแป๋ง ::014:: ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 12:54:28 AM
แอ่ไม่หรอกครับลุงแป๋ง ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

   อุตส่าห์สรรหาข้อมูลมาสนองตามที่เสนอ  ก็ต้องมีชมกันบ้างแหล่ะครับ  สังคมไทยน่าอยู่เพราะคนไทยเรามีน้ำใจเอื้อเฟื้อกันครับ ::002::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 06:40:20 AM
รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ เกี่ยวกับปั้มน้ำ (ช่วยสูบน้ำท่วม ออกจากบ้าน)
http://pantip.com/cafe/home/topic/R11268741/R11268741.html


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 08:51:34 AM
มีปัญหาเชาว์มาถามเกี่ยวกะปั๊มน้ำมาให้คิดกันเล่นๆครับ ;D

ปั๊มแบบหอยโข่งตัวหนึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนปั๊ม

สมมุติว่าตรงทางออกของปั๊มมีวาล์วน้ำอยู่ด้วยสำหรับปิดเปิดการจ่ายน้ำออกไป

คำถามมีว่า หากเราเดินเครื่องปั๊มน้ำตัวนี้ออกไปตามปกติ แล้วอยู่ๆเราไปปิดวาล์วน้ำตรงทางออกของปั๊ม

อยากทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับปั๊มน้ำ

ก. ปั๊มน้ำทำงานหนักมากขึ้นมอเตอร์กินกระแสไฟมากขึ้นและอาจ overload จนเสียหายได้ทั้งมอเตอร์และตัวปั๊ม

ข. ปั๊มน้ำทำงานน้อยลงมอเตอร์กินกระแสไฟน้อยลงและไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นเพียงแต่น้ำไม่ไหลออกไปเท่านั้น

ค. มอเตอร์และปั๊มจะทำงานหนักขึ้นหรือน้อยลงขึ้นอยู่กับปริมาณการหรี่วาล์วที่ตรงทางออกของน้ำด้วยถ้าหรี่วาล์วให้เปิดมากมอเตอร์ทำงานหนักถ้าเปิดน้อยมอเตอร์ทำงานเบา





หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 08:58:59 AM
ก.(http://img43.imageshack.us/img43/8259/1314592184.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/43/1314592184.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us) ฮับคุณครู


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:14:50 AM

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  ลุงดุลย์ขร๊า  ฮา
ถามอะไรอย่างนี้อ่ะ  ไอ้ปี้จ๊างซ์ ของยาย มันตอบไม่ได้อ่ะ ฮา

ฐานันดรของเขา   ยายตั้งให้เองอ่ะ  ฮา

"เจ้ากรมข่าว  ถุงกล้วยแขก"  ฮา
มีแต่เครื่องมือ  "คัตเตอร์  กับ  กาวยาฮู"  สองอย่างอ่ะ  ฮา

เอออออ..........  แต่มาเจอ  กะต๊าก  ข้างล่างฮา
เริ่มฉลาด แล้วอ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:21:35 AM

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  ลุงดุลย์ขร๊า  ฮา
ถามอะไรอย่างนี้อ่ะ  ไอ้ปี้จ๊างซ์ ของยาย มันตอบไม่ได้อ่ะ ฮา

ฐานันดรของเขา   ยายตั้งให้เองอ่ะ  ฮา

"เจ้ากรมข่าว  ถุงกล้วยแขก"  ฮา
มีแต่เครื่องมือ  "คัตเตอร์  กับ  กาวยาฮู"  สองอย่างอ่ะ  ฮา

เอออออ..........  แต่มาเจอ  กะต๊าก  ข้างล่างฮา
เริ่มฉลาด แล้วอ่ะ ฮา
แล้วฉลาดแบบยายคาบหนังสือพิมพ์ได้ยังงับ ::011:: ::011:: ::011::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:35:16 AM
คิดหนุกๆ กันครับทุกท่าน ;D


ยายล่ะก็เบาๆหน่อย...เดี๋ยวไม่หนุกกันพอดี ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:44:20 AM
มีปัญหาเชาว์มาถามเกี่ยวกะปั๊มน้ำมาให้คิดกันเล่นๆครับ ;D

ปั๊มแบบหอยโข่งตัวหนึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนปั๊ม

สมมุติว่าตรงทางออกของปั๊มมีวาล์วน้ำอยู่ด้วยสำหรับปิดเปิดการจ่ายน้ำออกไป

คำถามมีว่า หากเราเดินเครื่องปั๊มน้ำตัวนี้ออกไปตามปกติ แล้วอยู่ๆเราไปปิดวาล์วน้ำตรงทางออกของปั๊ม

อยากทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับปั๊มน้ำ

ก. ปั๊มน้ำทำงานหนักมากขึ้นมอเตอร์กินกระแสไฟมากขึ้นและอาจ overload จนเสียหายได้ทั้งมอเตอร์และตัวปั๊ม

ข. ปั๊มน้ำทำงานน้อยลงมอเตอร์กินกระแสไฟน้อยลงและไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นเพียงแต่น้ำไม่ไหลออกไปเท่านั้น

ค. มอเตอร์และปั๊มจะทำงานหนักขึ้นหรือน้อยลงขึ้นอยู่กับปริมาณการหรี่วาล์วที่ตรงทางออกของน้ำด้วยถ้าหรี่วาล์วให้เปิดมากมอเตอร์ทำงานหนักถ้าเปิดน้อยมอเตอร์ทำงานเบา







ตอบ ข้อ ค. ครับ เพราะว่าปั๊มแบบหอยโข่ง ไม่สร้างแรงดันเพิ่มขึ้น หากไม่มีการแทนที่น้ำออกไปครับ หากเราปิดวาวล์ทางออกหมด แรงดันในตัวปี๊มก้จะเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดแล้วก็คงที่อยู่อย่างนั้นครับ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:48:38 AM
ลืมบอกไป ผมตอบมั่วๆไปนะครับ  มีแค่สามตัวเลือก เดายากครับ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 10:08:29 AM
มีปัญหาเชาว์มาถามเกี่ยวกะปั๊มน้ำมาให้คิดกันเล่นๆครับ ;D

ปั๊มแบบหอยโข่งตัวหนึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนปั๊ม

สมมุติว่าตรงทางออกของปั๊มมีวาล์วน้ำอยู่ด้วยสำหรับปิดเปิดการจ่ายน้ำออกไป

คำถามมีว่า หากเราเดินเครื่องปั๊มน้ำตัวนี้ออกไปตามปกติ แล้วอยู่ๆเราไปปิดวาล์วน้ำตรงทางออกของปั๊ม

อยากทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับปั๊มน้ำ

ก. ปั๊มน้ำทำงานหนักมากขึ้นมอเตอร์กินกระแสไฟมากขึ้นและอาจ overload จนเสียหายได้ทั้งมอเตอร์และตัวปั๊ม

ข. ปั๊มน้ำทำงานน้อยลงมอเตอร์กินกระแสไฟน้อยลงและไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นเพียงแต่น้ำไม่ไหลออกไปเท่านั้น

ค. มอเตอร์และปั๊มจะทำงานหนักขึ้นหรือน้อยลงขึ้นอยู่กับปริมาณการหรี่วาล์วที่ตรงทางออกของน้ำด้วยถ้าหรี่วาล์วให้เปิดมากมอเตอร์ทำงานหนักถ้าเปิดน้อยมอเตอร์ทำงานเบา



แล้วแต่ดวงคนซื้อปั๊มครับ ดวงดีก็ทน ดวงไม่ดี ก็ 3 วันดี 4 วันไข้  ::005::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 11:50:00 AM
  อยากจะตอบข้อ จ.ถูกทุกข้อ  น้าดุลย์ก็ไม่ทำมา  สมัยเรียนประถมแป๋งตอบประจำ ::005::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 11:53:18 AM
  อยากจะตอบข้อ จ.ถูกทุกข้อ  น้าดุลย์ก็ไม่ทำมา  สมัยเรียนประถมแป๋งตอบประจำ ::005::

จะลักไก่เหรอ ใสเจีย เสียใจ

ผมปล่อยไก่ไปหมดเล้าแล้ว ::005::


ส่วนคำตอบผมเฉลยไว้ที่บ้านนู้นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเอามาวางตรงนี้ก่อน ::008:: ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 11:59:58 AM
  อยากจะตอบข้อ จ.ถูกทุกข้อ  น้าดุลย์ก็ไม่ทำมา  สมัยเรียนประถมแป๋งตอบประจำ ::005::

จะลักไก่เหรอ ใสเจีย เสียใจ

ผมปล่อยไก่ไปหมดเล้าแล้ว ::005::


ส่วนคำตอบผมเฉลยไว้ที่บ้านนู้นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเอามาวางตรงนี้ก่อน ::008:: ::008:: ::008::

   ไม่ได้ลักไก่แต่สมัยนั้นครูเขาชอบออกข้อสอบแบบนี้ครับ  ก.ข.ค.ง. จ.ถูกทุกข้อ ;D


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 06:32:37 PM
เอาล่ะๆ เรื่องนี้มันมีประเด็นและที่มา และผมเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับชาวบ้านหลายคนเลยเอามาเผยแพร่......เรื่องมันมีอยู่ว่า

ตอนผมจบใหม่ๆ และเข้าทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในแผนกซ่อมบำรุงนั้น ในแผนกเราจะมีวิศวกรซ่อมบำรุงอยู่สองคน ผมไฟฟ้า
คู่กับอีกคนคือเครื่องกล ทีนี้เรามีเครื่องจักรอันหนึ่งที่เป็นลูกกลิ้งหมุนและอัดไอน้ำให้ความร้อนกะลูกกลิ้งนี้ด้วย และก็มีปั๊มน้ำหอยโข่งอัดน้ำเย็น
เข้าไปหล่อแกนกลางที่กลวงด้วยเพื่อรักษาอุณภูมิไม่ให้ร้อนเกินไปด้วย
 ปัญหามันคือปั๊มตัวนี้มอเตอร์มันใหม้บ่อยต้องเปลี่ยนตัวใหม่อยู่เรื่อย....แต่ตัวใหม่ที่เอามาเปลี่ยนมันก็สเปคเดิม งานนี้ก็เพื่อนผมวิศวะเครื่องกล
เขาเลือกปั๊มมาเองติดตั้งเอง ทางผมแค่รับผิดชอบจ่ายไฟให้..ปัญหานี้ผมได้คุยกะมันว่าสาเหตุที่แท้จริงมันอยู่ตรงไหน
 ผมคิดว่าโฟลว์เรทมันไม่เพียงพอทำให้ปั๊มเกินกำลังจนใหม้...แต่เพื่อนผมมันคิดว่าไม่น่าใช่
มันคิดว่าที่ปั๊มมันใหม้น่าจะเกิดจากที่โอเปอร์เรเตอร์ปิดวาล์วทางน้ำออกแล้วลืมเปิดจนปั๊มมันอั้นจนโอเวอร์โหลด มันจึงใหม้ ผมเถียงกะมันว่า
ไม่น่าจะใช่เพราะถ้าปิดไม่ให้น้ำออกก็เท่ากะว่า ไม่เกิดงานขึ้นทางฟิสิกส์ (งาน = แรง x ระยะทาง) เมื่อไม่เกิดงานขึ้น มอเตอร์ก็น่าจะกินกระแสน้อยลง
และมันก็จะไม่ใหม้....เรื่องนี้มันตรงกันข้ามกะความคิดแบบชาวบ้านเลยว่า น้ำไปไหนไม่ได้มันก็อั้นน่ะซิ....นั่นมันใช่กะปั๊มลูกสูบ แต่ไม่ใช่กะปั๊มหอยโข่ง

 เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมาผมก็เสนอว่า เราต้องพิสูจน์ วิธีการพิสูจน์มันก็ไม่ยากเลยผมจะเอา คลิปแอมป์ จับกระแสมอเตอร์ให้ดูกันชัดๆว่า
ถ้าหากเราสตาร์ทปั๊มแล้วหรี่วาล์วทางออกจากเปิดมากไปเปิดน้อยหรือปิดวาล์วแล้วดูกระแสของมอเตอร์เราก็จะทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

 ผมไปเตรียมอุปกรณ์มาคือ คลิปแอมป์ คล้องเข้าที่เฟสหนึ่งของไฟฟ้าสามเฟสที่เข้ามอเตอร์และทำการ สตาร์ทปั๊ม ผลออกมาได้ดังนี้ครับ

สตาร์ทปั๊มแล้วเปิดวาล์วน้ำทางออกเต็มที่กระแสของมอเตอร์ขึ้นสูงสุดครับ แสดงว่ามอเตอร์กำลังรับโหลดเต็มที่ กินกระแสไฟสูงสุดเลย
ต่อมาค่อยๆหรี่วาล์วปิดน้ำลงเรื่อยๆ ปรากฎว่ากระแสไฟฟ้าลดลงมาเรื่อยๆ ตามการหรี่วาล์วเลยครับ

และถ้าหากปิดวาล์วให้สนิทเลย กระแสของมอเตอร์น้อยสุดครับเท่ากับกระแส no load เลยครับ

ตอนนั้นผมคิดว่ามีทฤษฎีเดียวที่อธิบายปรากฎการเรื่องนี้ได้คือ งาน = แรง x ระยะทาง เมื่อมีแต่แรงคือปั๊มที่ถูกขับโดยมอเตอร์ แต่ไม่สามารถผลักดันน้ำออกไปได้
นั่นก็คือ ไม่มีระยะทาง เมื่อ ตัวคูณเป็นศูนย์ตามสมการ งาน = แรง x ระยะทาง (0)
งาน = 0 นั่นคือ น้ำไม่ไหล มอเตอร์ก็อยู่ในสภาวะ no load คือ ไม่มี งาน เกิดขึ้น
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น แต่เรื่องนี้ทางทฤษฎีของวิศวกรรมเครื่องกลน่าจะมีทฤษฎีในเรื่องของปั๊มที่ตรงๆกว่านี้
เพราะในการเลือกปั๊มมันมีองค์ประกอบที่ต้องนำมาคิดเยอะครับเช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ เฮดเดอร์ ความยาวของท่อน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ชำนาญครับ

 เมื่อเราได้ผลการทดลองดังนั้นแล้วการแก้ปัญหาก็ไม่ยากครับ สั่งปั๊มใหม่ที่สามารถทำ flow rate ได้มากขึ้น มอเตอร์ขนาดแรงม้าสูงขึ้น ปั๊มก็ไม่ใหม้อีกเลย


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 06:32:54 PM
ส่วนที่ว่าทำไมหลักการนี้ใช้ไม่ได้กะปั๊มลูกสูบก็ง่ายๆครับ
ปั๊มลูกสูบทำงานโดยการอัดปริมาตรน้ำเข้าไปในห้องลูกสูบปิดที่มีปริมาตรจำกัดและสสารคือน้ำต้องการที่อยู่ หากไปปิดทางออกมันเสีย
น้ำไม่มีที่ไปประกอบกับลูกสูบก็อัดเข้ามา น้ำไม่เหมือนของเหลวเช่นก๊าซมันอัดไม่ได้ถ้ามันไปไหนไม่ได้และถูกอัดเข้ามาอีก
 ตอนนี้แหละน้ำก็จะแข็งกว่าเหล็ก ลูกสูบ ก้านสูบ พังวายวอดหมดแหละ เหมือนกะรถลุยน้ำแล้วดูุดเอาน้ำเข้ากระบอกสูบนั่นแหละโดนลูกสูบอัดเข้ามา
ก้านสูบ ลูกสูบ ใส่ในอะไรต่างก็โดนน้ำอัดเสียหายวายป่วงหมดแทบจะเปลี่ยนใส้ในกันยกชุดนั่นแหละ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 07:15:02 PM
เอาล่ะๆ เรื่องนี้มันมีประเด็นและที่มา และผมเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับชาวบ้านหลายคนเลยเอามาเผยแพร่......เรื่องมันมีอยู่ว่า

ตอนผมจบใหม่ๆ และเข้าทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในแผนกซ่อมบำรุงนั้น ในแผนกเราจะมีวิศวกรซ่อมบำรุงอยู่สองคน ผมไฟฟ้า
คู่กับอีกคนคือเครื่องกล ทีนี้เรามีเครื่องจักรอันหนึ่งที่เป็นลูกกลิ้งหมุนและอัดไอน้ำให้ความร้อนกะลูกกลิ้งนี้ด้วย และก็มีปั๊มน้ำหอยโข่งอัดน้ำเย็น
เข้าไปหล่อแกนกลางที่กลวงด้วยเพื่อรักษาอุณภูมิไม่ให้ร้อนเกินไปด้วย
 ปัญหามันคือปั๊มตัวนี้มอเตอร์มันใหม้บ่อยต้องเปลี่ยนตัวใหม่อยู่เรื่อย....แต่ตัวใหม่ที่เอามาเปลี่ยนมันก็สเปคเดิม งานนี้ก็เพื่อนผมวิศวะเครื่องกล
เขาเลือกปั๊มมาเองติดตั้งเอง ทางผมแค่รับผิดชอบจ่ายไฟให้..ปัญหานี้ผมได้คุยกะมันว่าสาเหตุที่แท้จริงมันอยู่ตรงไหน
 ผมคิดว่าโฟลว์เรทมันไม่เพียงพอทำให้ปั๊มเกินกำลังจนใหม้...แต่เพื่อนผมมันคิดว่าไม่น่าใช่
มันคิดว่าที่ปั๊มมันใหม้น่าจะเกิดจากที่โอเปอร์เรเตอร์ปิดวาล์วทางน้ำออกแล้วลืมเปิดจนปั๊มมันอั้นจนโอเวอร์โหลด มันจึงใหม้ ผมเถียงกะมันว่า
ไม่น่าจะใช่เพราะถ้าปิดไม่ให้น้ำออกก็เท่ากะว่า ไม่เกิดงานขึ้นทางฟิสิกส์ (งาน = แรง x ระยะทาง) เมื่อไม่เกิดงานขึ้น มอเตอร์ก็น่าจะกินกระแสน้อยลง
และมันก็จะไม่ใหม้....เรื่องนี้มันตรงกันข้ามกะความคิดแบบชาวบ้านเลยว่า น้ำไปไหนไม่ได้มันก็อั้นน่ะซิ....นั่นมันใช่กะปั๊มลูกสูบ แต่ไม่ใช่กะปั๊มหอยโข่ง

 เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมาผมก็เสนอว่า เราต้องพิสูจน์ วิธีการพิสูจน์มันก็ไม่ยากเลยผมจะเอา คลิปแอมป์ จับกระแสมอเตอร์ให้ดูกันชัดๆว่า
ถ้าหากเราสตาร์ทปั๊มแล้วหรี่วาล์วทางออกจากเปิดมากไปเปิดน้อยหรือปิดวาล์วแล้วดูกระแสของมอเตอร์เราก็จะทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

 ผมไปเตรียมอุปกรณ์มาคือ คลิปแอมป์ คล้องเข้าที่เฟสหนึ่งของไฟฟ้าสามเฟสที่เข้ามอเตอร์และทำการ สตาร์ทปั๊ม ผลออกมาได้ดังนี้ครับ

สตาร์ทปั๊มแล้วเปิดวาล์วน้ำทางออกเต็มที่กระแสของมอเตอร์ขึ้นสูงสุดครับ แสดงว่ามอเตอร์กำลังรับโหลดเต็มที่ กินกระแสไฟสูงสุดเลย
ต่อมาค่อยๆหรี่วาล์วปิดน้ำลงเรื่อยๆ ปรากฎว่ากระแสไฟฟ้าลดลงมาเรื่อยๆ ตามการหรี่วาล์วเลยครับ

และถ้าหากปิดวาล์วให้สนิทเลย กระแสของมอเตอร์น้อยสุดครับเท่ากับกระแส no load เลยครับ

ตอนนั้นผมคิดว่ามีทฤษฎีเดียวที่อธิบายปรากฎการเรื่องนี้ได้คือ งาน = แรง x ระยะทาง เมื่อมีแต่แรงคือปั๊มที่ถูกขับโดยมอเตอร์ แต่ไม่สามารถผลักดันน้ำออกไปได้
นั่นก็คือ ไม่มีระยะทาง เมื่อ ตัวคูณเป็นศูนย์ตามสมการ งาน = แรง x ระยะทาง (0)
งาน = 0 นั่นคือ น้ำไม่ไหล มอเตอร์ก็อยู่ในสภาวะ no load คือ ไม่มี งาน เกิดขึ้น
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น แต่เรื่องนี้ทางทฤษฎีของวิศวกรรมเครื่องกลน่าจะมีทฤษฎีในเรื่องของปั๊มที่ตรงๆกว่านี้
เพราะในการเลือกปั๊มมันมีองค์ประกอบที่ต้องนำมาคิดเยอะครับเช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ เฮดเดอร์ ความยาวของท่อน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ชำนาญครับ

 เมื่อเราได้ผลการทดลองดังนั้นแล้วการแก้ปัญหาก็ไม่ยากครับ สั่งปั๊มใหม่ที่สามารถทำ flow rate ได้มากขึ้น มอเตอร์ขนาดแรงม้าสูงขึ้น ปั๊มก็ไม่ใหม้อีกเลย


ส่วนที่ว่าทำไมหลักการนี้ใช้ไม่ได้กะปั๊มลูกสูบก็ง่ายๆครับ
ปั๊มลูกสูบทำงานโดยการอัดปริมาตรน้ำเข้าไปในห้องลูกสูบปิดที่มีปริมาตรจำกัดและสสารคือน้ำต้องการที่อยู่ หากไปปิดทางออกมันเสีย
น้ำไม่มีที่ไปประกอบกับลูกสูบก็อัดเข้ามา น้ำไม่เหมือนของเหลวเช่นก๊าซมันอัดไม่ได้ถ้ามันไปไหนไม่ได้และถูกอัดเข้ามาอีก
 ตอนนี้แหละน้ำก็จะแข็งกว่าเหล็ก ลูกสูบ ก้านสูบ พังวายวอดหมดแหละ เหมือนกะรถลุยน้ำแล้วดูุดเอาน้ำเข้ากระบอกสูบนั่นแหละโดนลูกสูบอัดเข้ามา
ก้านสูบ ลูกสูบ ใส่ในอะไรต่างก็โดนน้ำอัดเสียหายวายป่วงหมดแทบจะเปลี่ยนใส้ในกันยกชุดนั่นแหละ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"   ฮา  อ่ะ  พี่ดุลย์ขร๊า  เอิ๊ก เอิ๊ก ฮา

นี่แหละ  ปัญหาหลักของ  "วิดวะ"  อ่ะ  ฮา
เรียน  ชั้นสี่  อาคารสอง  จบ "สูง"  อ่ะ    ฮา
เขียนประเด็น  นิ๊ดดดเดียว   สองโพสต์ อ่ะ ฮา

ตกโล้งมัน  กะต๊าก  หรือเปล่าอ่ะ  ฮา

ยายเป็นนายก  ยายก็ไม่เลือก   เอามาเป็น  สะต๊าฟ  อ่ะ  ฮา


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 07:25:11 PM
ซตพ. ครับยายถึงบางอ้อกันคราวนั้นแหละ ;D ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:11:56 PM
  อยากจะตอบข้อ จ.ถูกทุกข้อ  น้าดุลย์ก็ไม่ทำมา  สมัยเรียนประถมแป๋งตอบประจำ ::005::

จะลักไก่เหรอ ใสเจีย เสียใจ

ผมปล่อยไก่ไปหมดเล้าแล้ว ::005::


ส่วนคำตอบผมเฉลยไว้ที่บ้านนู้นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเอามาวางตรงนี้ก่อน ::008:: ::008:: ::008::

   ไม่ได้ลักไก่แต่สมัยนั้นครูเขาชอบออกข้อสอบแบบนี้ครับ  ก.ข.ค.ง. จ.ถูกทุกข้อ ;D
ซื้อปั๊มน้ำตัวใหม่เลยง่ายกว่าครับ


ไม่อ่านกระทู้เลย   ไปไกลๆ  ไปให้พ้น ๆ  กระทู้นี้เลย   ถ้าซื้อใหม่

จะมาตั้งกระทู้หาอะไร   สมอง......ปัญญา.......


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 06, 2011, 09:15:34 PM
ทีแรกเข้าใจว่าหลักการทำงานจะเหมือนเทอร์โบว์นะครับพี่  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 07, 2011, 09:44:44 AM
Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"   ยายแนะนำ  "รองป้อม"  น๊ะคร๊า  ฮา

กรณี  ปั้มน้ำ (ทุกชนิด)  มันจม "น้ำ"  เนื่องจากน้ำท่วม อ่ะ
อย่าตกใจคร๊า    ให้รีบถอดสาย  ออกจาก "สวิทซ์หรือคัตเอ้าท์" กันไฟมันซ๊อต  อ่ะ

ถอดสายเสร็จ   ถ้ายังมีแรง  ก็ยกขึ้นมาให้พ้นน้ำ  อ่ะ
ถ้าอยากจะซ่อมเอง  ก็เตรียมหาเครื่องมือ  มาถอดฝา  ประกับ  ทั้งหมดออก
ถอดให้ล่อนจ้อน   เหมือนกับเรา  "ล้างปืนอ่ะ"

เมื่อถอดออกมา   ให้แยกชุด  ทุ่นหรือ คอลย์  ที่เขาพันแกน ออก
เอาน้ำสะอาดฉีด  ทุ่นหรือคอลย์  รวมถึงเปลือก ทองแดง  ที่ทำหน้าที่ผลัก ทุ่นด้วยอ่ะ

ตั้งตะแคงให้น้ำไหลออกให้แห้ง   อ่ะ

เมื่อแห้ง  แล้วนำไปอบความร้อน ให้ความชื้น  ระเหยแห้งให้หมด
ส่วนจะเอาเครื่องอบมาจากไหน ฮา

ก็ใช้ "สป๊อตไลท์"  500w  ที่ติดตามทางเดินนั่นอ่ะ 
ถ้าไม่อยากถอดเข้าออก  ก็ไปซื้อเอาใหม่  ราคา สองสามร้อยบาท
เอามาต่อสาย  วางใกล้ๆ   ให้แสงส่องเข้าไปถึง ด้านในของมอเตอร์อ่ะ
สองสามชั่วโมง  พอมอเตอร์มันร้อน   ก็เสร็จแล้วคร๊า  แห้งสนิท  ฮา

ก่อนประกอบกลับคืน  ลองสังเกตุ  ถ้ายังมีคราบ สนิม
ให้ใช้แปรงทองเหลือง  ด้ามยาว  ขัดคราบเหล่านั้นให้สะอาดอ่ะ

วิธีของยาย ไม่เสียสตางค์อ่ะ  แต่เสียเวลา  "ดื่ม"  อ่ะ  ฮา


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: OO BUCK ที่ พฤศจิกายน 07, 2011, 10:23:52 AM
Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"   ยายแนะนำ  "รองป้อม"  น๊ะคร๊า  ฮา

กรณี  ปั้มน้ำ (ทุกชนิด)  มันจม "น้ำ"  เนื่องจากน้ำท่วม อ่ะ
อย่าตกใจคร๊า    ให้รีบถอดสาย  ออกจาก "สวิทซ์หรือคัตเอ้าท์" กันไฟมันซ๊อต  อ่ะ

ถอดสายเสร็จ   ถ้ายังมีแรง  ก็ยกขึ้นมาให้พ้นน้ำ  อ่ะ
ถ้าอยากจะซ่อมเอง  ก็เตรียมหาเครื่องมือ  มาถอดฝา  ประกับ  ทั้งหมดออก
ถอดให้ล่อนจ้อน   เหมือนกับเรา  "ล้างปืนอ่ะ"


     ยายครับยาย.....ตามตัวแดงน่ะ ยายหมายถึง "มอเตอร์จมน้ำ" มากกว่าใช่หรือเปล่า

     ปั๊มน้ำที่ใช้มอเตอร์ บางชนิดเค้าก็ออกแบบมาให้ใช้ในน้ำนะยาย ไม่ต้องไปถอดไปล้างอะไรมัน

  +แต้มที่ 600 nitro express  ให้ยายครับ  รูเบ่อเร่อเลยยาย   ::005:: ::005:: ::005::
     

     
     


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 07, 2011, 10:34:24 AM
  อยากจะตอบข้อ จ.ถูกทุกข้อ  น้าดุลย์ก็ไม่ทำมา  สมัยเรียนประถมแป๋งตอบประจำ ::005::

จะลักไก่เหรอ ใสเจีย เสียใจ

ผมปล่อยไก่ไปหมดเล้าแล้ว ::005::


ส่วนคำตอบผมเฉลยไว้ที่บ้านนู้นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเอามาวางตรงนี้ก่อน ::008:: ::008:: ::008::

   ไม่ได้ลักไก่แต่สมัยนั้นครูเขาชอบออกข้อสอบแบบนี้ครับ  ก.ข.ค.ง. จ.ถูกทุกข้อ ;D
ซื้อปั๊มน้ำตัวใหม่เลยง่ายกว่าครับ


ไม่อ่านกระทู้เลย   ไปไกลๆ  ไปให้พ้น ๆ  กระทู้นี้เลย   ถ้าซื้อใหม่

จะมาตั้งกระทู้หาอะไร   สมอง......ปัญญา.......
 
   ไอ้กี้บ้านท่านฟังรู้เรื่องกว่าเยอะครับ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำการซ่อมปั๊มน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 07, 2011, 11:04:45 AM
Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"   ยายแนะนำ  "รองป้อม"  น๊ะคร๊า  ฮา

กรณี  ปั้มน้ำ (ทุกชนิด)  มันจม "น้ำ"  เนื่องจากน้ำท่วม อ่ะ
อย่าตกใจคร๊า    ให้รีบถอดสาย  ออกจาก "สวิทซ์หรือคัตเอ้าท์" กันไฟมันซ๊อต  อ่ะ

ถอดสายเสร็จ   ถ้ายังมีแรง  ก็ยกขึ้นมาให้พ้นน้ำ  อ่ะ
ถ้าอยากจะซ่อมเอง  ก็เตรียมหาเครื่องมือ  มาถอดฝา  ประกับ  ทั้งหมดออก
ถอดให้ล่อนจ้อน   เหมือนกับเรา  "ล้างปืนอ่ะ"


     ยายครับยาย.....ตามตัวแดงน่ะ ยายหมายถึง "มอเตอร์จมน้ำ" มากกว่าใช่หรือเปล่า

     ปั๊มน้ำที่ใช้มอเตอร์ บางชนิดเค้าก็ออกแบบมาให้ใช้ในน้ำนะยาย ไม่ต้องไปถอดไปล้างอะไรมัน

  +แต้มที่ 600 nitro express  ให้ยายครับ  รูเบ่อเร่อเลยยาย   ::005:: ::005:: ::005::
     

     
     

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  จับผิดยาย  ฮา

ใช่อ่ะ  submercible  หรือ ปั้มจุ่ม  อ่ะ  ฮา  เวลาใช้ต้องหย่อน ลงไปให้จมน้ำ อ่ะ  ถูกแหล่ว  ฮา
ใช้ไปนานๆ  ซีลที่กันน้ำมันเสื่อม อ่ะ  ยายกลัวโดนไฟมัน ดูด อ่ะ  เปิดมาดูบ้างก็ดีอ่ะ  ฮา

แต่ของ ท่านรองป้อม อ่ะ  ยายคิดว่าแกใช้ปั้ม  "หอยโข่ง"  หรือ  พวกปั้มอัตโนมัติ อ่ะ