ยังงงกับวิธีใช้ปืน Armstrong ทำไมต้องเสียเวลายกขึ้นลงเพื่อบรรจุแล้วยิง เอาไปยิงเป้าวิ่งอย่างนั้น
และยังมีการวางโซ่พร้อมทุ่นระเบิดแต่ช่วงนั้นน้ำขึ้นเรือลอยตัวสูงกว่าข้ามไปได้ ส่วนเรือกลไฟอีกลำยิงปืนไปได้ไม่กี่นัดหมุดฐานปืนหลุด เรามีปัญหาเรื่องยุทธวิธีอย่างมาก จนมาถึงเกาะช้างนี่หนักเลย
หมู่เรือคอยเหตุดับเครื่องจอดไม่มีผลัดออกไปลาดตระเวณ เรือดำน้ำสี่ลำจอดอยู่กรุงเทพเอาไปสักลำฝรั่งเศสคงไม่ได้กลับบ้านแน่
เราต้องมองประวัติศาสตร์แบบเห็นภาพในอดีตแบบตรงไปตรงมา เราไม่มีสิทธิที่จะวิจารณ์การตัดสินใจของบรรพชนด้วยวิสัยทัศน์ของคนในยุคปัจจุบัน
ร.5 ครองราช พ.ศ.2411 ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุ 15 พรรษา ยังไม่มีอำนาจที่จะปกครองประเทศชาติเต็มตัว ต้องรอจนมีพระชนมายุ 20 พรรษา แล้วจึงผนวช จากนั้นจึงทรงลาสิกขาแล้ว ได้มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 ใน พ.ศ.2416 จึงได้เริ่มปฏิรูปการปกครองทันที
ปัญหาแรกคือวิกฤตการณ์วังหน้า ใน พ.ศ.2417 ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะตอนนั้นวังหลวงกำลังขยายกำลังจากมหาดเล็กสองโหล 24 คนขึ้นเป็น 72 คน แต่วังหน้ามีทหารถึงสองพันคน อาวุธทันสมัย ที่ได้รับการฝึกโดย ร.อ.น๊อกส์ ตั้งแต่สมัยพระปิ่นเกล้า (พระบิดา) และใน พ.ศ.2417 ร.อ.น๊อกส์ ยังได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักอังกฤษ ให้เป็นกงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพฯ
แก้ปัญหาวิกฤตการณ์วังหน้า ยังไม่ทันเรียบร้อย จีนก็ปราบกบฎไท้ผิง แตกหนีลงมาทางหลวงพระบาง ปล้นลาวกับภาคเหนือของไทย ร.5 ต้องจัดกองทัพขึ้นไปปราบ ต่อเนื่องยาวนานถึงสิบปี ซึ่งช่วงนั้นฝรั่งเศสได้ตั้งสหภาพอินโดจีน มีฐานกำลังอยู่ที่ตังเกี๋ย อันนัม และโคชินไชนา
ส่วนอังกฤษ พอชนะสงคราม 7 ปี เริ่มขยายอำนาจเข้ามาปกครองอินเดียตั้งแต่ พ.ศ.2300 โดยบริษัทอีสต์อินเดีย เริ่มยึดพม่า พ.ศ.2369 และรัฐบาลอังกฤษเริ่มปกครองอินเดียโดยตรงใน พ.ศ.2401
ส่วนฝ่ายไทย เริ่มตั้งหลักจริง ๆ ในสมัย ร.4 (พ.ศ.2394-2411)
ย้อนภาพดูนะครับ
ร.1 กับ ร.2 ยังปกครองแบบกรุงศรีอยุธยา ส่วนการปกครองในสมัย ร.3 ก็ยังออกไปทางจารีตนิยม มาเปลี่ยนจริง ๆ ในสมัย ร.4 ที่เริ่มมีที่ปรึกษาฝรั่ง มีครูสอนภาษาอังกฤษ และสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่สอง เริ่มฝึกทหารแบบตะวันตก