๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 12, 2024, 03:13:38 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: @@@@### USFT 45 สุดยอดปืน เชื้อสายอเมริกัน ###@@@@  (อ่าน 34639 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 07:04:05 PM »

@@@@### USFT 45 สุดยอดปืน เชื้อสายอเมริกัน ###@@@@

Tim McMurray เจ้าของบริษัท Mac-1 ซึ่งเริ่มก่อร่างสร้าง่ตัวโดยบิดาของเขา Les McMurray ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1932 โดยเป็นบริษัทแห่งแรกที่เป็นศูนย์รับประกันซ่อมปืน Crosman หลังจาก Les ปลดเกษียรในปี 1959 Tim ก็รับช่วงต่อและใช้ชื่อบริษัทว่า Mac1 Airgun Distributors ซึ่งเป็นที่รู้จักดีเกี่ยวกับการโมปืนที่ใช้ CO2 โดยเฉพาะปืน Crosman รุ่นเก่า ๆ ที่นำมาตบแต่งเสียใหม่ ให้มีความแรงสูง แม่นยำ และดูหรูหรายิ่ง ที่นิยมนำมาแปลงกันมากที่สุดคือ Crosman MK I และ MKII
Larry Durham หรือเป็นที่รู้จักกันในวงการปืนลมว่า LD เป็นเพื่อนสนิทกับ Tim ได้เกิดไอเดียบรรเจิดตอนไปนั่งหม่ำแฮมเบอร์เกอร์อยู่ที่ In-N-Out Burger ก็เลยเอากระดาษเช็ดปากมาขีด ๆ เขียน ๆ ไม่นานนักต่อจากนั้น LD ก็เริ่มทำปืนลมยาวขึ้นมาเองโดยใช้ชื่อว่า LD SS (Simple Simon)





ในปี 2001 Steve Schulz (พระรองในเรื่องนี้ผู้มีฝีมือฉมังอย่าบอกใคร) ได้นำเจ้าปืนกระบอกนี้ไปเข้าแข่งขันที่ DIFTA field target club และแล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึงเมื่อ Steve สามารถยิงกระสุน Beeman Kodiaks ด้วยความเร็วเกือบ 900 fps เป็นจำนวนถึง 55 นัด โดยการเติมลมเข้าไปเพียงที่ความดัน 1800 psi  ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ขนาดยิงเสร็จแล้วยังมีลมเหลือในถังมากกว่า 1800 psi  โดยส่วนใหญ่จะเติมกันถึงที่ 3000 psi
Steve ถึงแม้จะเป็นตัวเต็งและผลยิงออกมาเยี่ยมยอดคนก็ไม่ประหลาดใจเท่ากับการที่เขาใช้ปืนลมที่เติมลมน้อยขนาดนั้น Steve สามารถเอาชนะเจ้าของปืนทุกคนได้สบาย ๆ โดยใช้ปืนของเจ้าของคนนั้นยิง





การที่ทุกคนให้ความสนใจกับปืนกระบอกนี้ทำให้เกิดการออกแบบปืนลมยาว โดยมีเป้าประสงค์เดียวคือ เอาชนะการแข่งขัน Field Target

มาจนถึงวันนี้ Tim McMurray ได้ขายปืนดังกล่าวที่เขาตั้งชื่อว่า USFT ไปทั้งหมด 113 กระบอก แต่ละกระบอกจะมี serial number กำกับ และจะมีอุปกรณ์ประกอบแตกต่างกันไปแล้วแต่คนซื้อจะสั่ง ล่าสุดปืน USFT รั้งถึง 4 ใน 5 ตำแหน่งแรกของการแข่งขัน U.S. national field target matches ดังนั้นจึงมีความต้องการสูง



USFT ของผมหมายเลข 45 คือรุ่นแรก 50 กระบอกที่จองกันไปและต้องรอกว่า 6 เดือน  พอได้มาผมก็เอาไปตั้งกล้องทดสอบ และได้เอาเข้าแข่งขัน FT ครั้งใหญ่ประจำปี โดยมีผู้เข้าร่วมชิงชัยจากหลายรัฐทางฝั่งตะวันออกของอเมริกา  หลายคนพอเห็นปืนกระบอกนี้ เขาก็หยอกผมว่าจะเอามายิงเป้าหรือรถถัง...555  ผมเห็นว่าประทับแก้มไม้ที่มานั้น ดูเรียบและง่ายเกินไป อีกทั้งมีส่วนนูนมากทำให้ไม่สนิทชิดเชื้อกับแก้มเท่าที่ควร  ผมก็เลยถอดออกมาเล็ง ๆ ดูความเป็นไปได้ แล้วลองร่างแบบในกระดาษก่อนที่จะจัดการเปลี่ยนโฉมเสียใหม่  และด้วยเนื่องจากเนื้อไม้มีน้อยผมจึงคิดออกแบบรูป “อานม้า” ซึ่งจะใกล้เคียงกับวัฒนธรรมตะวันตกแบบอเมริกา และก็ทำการแกะเกลาจนออกมาเป็นที่พอใจ ผมถ่ายภาพส่งไปให้ Tim เขาบอกว่าเขาชอบมาก แต่อยากขอให้ส่งตัวจริงไปลองใช้ดู ผมก็ส่งไปให้ ผลก็คือ เขาขออนุญาตนำไปเป็นต้นแบบสำหรับรุ่นต่อมา ซึ่งปัจจุบันประทับแก้มก็จะออกมาเหมือนที่ผมทำไปให้เป๊ะตอนแรกที่คุยกับ Tim เขาถามถึงลิขสิทธิ์อะไรทำนองนี้ ซึ่งผมก็บอกไปว่าไม่ต้องการอะไร แต่แล้วเขาก็ส่งอุปกรณ์แต่งเติมมาให้หลายอย่าง







ต่อมาผมก็มาคิดดูว่าตอนนี้ใคร ๆ ก็มีประทับแก้มเหมือนผม ซึ่งผมต้องทำอะไรบางอย่างเสียแล้ว..Huh มาเล็ง ๆ ดูรูปร่างเห็นชิ้นส่วนที่เป็นไม้ทั้งหมด  4 ชิ้น ถ้าจะให้แปลกและสะดุดตาผมต้องเลือกไม้ที่ไม่เหมือนใคร หลังจากค้นคว้าหาดูอยู่นานพอควร ผมพบว่ามีไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่า burl wood



ใช้ทำเครื่องประดับและเฟอร์นิเจอร์แบบหรู ๆ อีกทั้งใช้ประดับภายในรถยนต์ Roll Royce อีกด้วย หาแหล่งอยู่เป็นนาน ในที่สุดต้องสั่งจากออสเตรเลีย มาเป็นแท่ง ๆ ก้อน ๆ 3 ก้อนเขื่อง ผมใช้เวลาออกแบบและทำอยู่ราว 10 วัน ส่วนที่เสียเวลามากหน่อยคือตรงด้ามจับ เพราะ USFT ออกแบบด้ามเป็นโครงเดียวกับ Colt 1911 ขนาด .45 ปืนยอดนิยมของคนอเมริกัน ด้ามจึงเปลี่ยนใช้กันได้ ผมจึงสั่งด้ามยางสังเคราะห์ของ Pachmayr มา แต่คิดนอกกรอปไปอีกโดยการออกแบบด้ามชนิดที่เรียกว่า Hybrid คือไม้ผสมยางดังที่เห็นตามรูป ซึ่งต้องมีการเซาะร่องตามทรงของด้ามยางลงไปในด้ามไม้ เพื่อที่จะให้ด้ามยาง “ฝังตัว” ลงไปแบบแนบสนิท หลังจากที่คิดว่าทุกอย่างแล้วเสร็จ มามอง ๆ ดูอีกก็รู้สึกว่ายังไม่ “ลงตัว” น่าจะมีอะไรที่ฉีกแนวอีกสักอย่าง ผลก็คือที่ไกนั่นเอง ผมตัดสินใจว่าต้องใช้ไม้จันดงที่มีอยู่  แต่ต้องเลือกตรงลายที่ถ้าแกะออกมาแล้ว จะมีลักษณะคล้ายกับด้าม Hybrid ดังกล่าว คือสีด้านหน้าออกดำด้านหลังสีน้ำตาล เป็นการล้อเลียนด้ามจับที่ต้องทำงานควบคู่กันไปเสมอ แถมยังให้มีรูปทรงแบบเดียวกัน ออกมาก็ตามรูปเลยครับ  ไม้ burl wood ขัดยาก ฝุ่นเยอะ (ไม่เหมือนไม้จันดง แกะออกมาเหมือนหิน โดยเฉพาะตรงสีดำเหมือนถ่าน น้ำหนักสูง) ขัดเสร็จต้องลงเคลือบเงาอีกราว 10 ชั้น ผมเลือกใช้ polyurethane ซึ่งมีความแข็งและทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี





ตอนต้นผมได้บอกไปแล้วว่า USFT ออกแบบมาเพื่อเป็นเจ้าแห่งการแข่งขัน Field Target (FT) แต่ในใจลึก ๆ ของ  Les และ Tim นั้น เขาต้องการพิสูจน์ให้ชาวโลกในวงการ FTได้เห็นประจักว่า ไม่จำเป็นต้องใช้แรงดันลมสูงสำหรับปืนแบบนี้ก็สามารถใช้งานได้แบบมีสมรรถนะสูงสุด อีกอย่างเขาไม่ใช้ regulator ด้วย ดังนั้นท่อลมถึงต้องมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ อนึ่งสาเหตุที่เขาไม่ใช้ regulator ก็เพราะว่ามันมีปัญหามาก


ระบบวาล์วนั้นถือเป็นหัวใจในการออกแบบ USFT วาล์วที่ว่าเป็นแบบ impact ที่แตกต่างจากปืนลมอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง กล่าวคือ ใช้ฆ้อนตีวาล์วแบบน้ำหนักเบา (low-mass hammer) และก้านวาล์วแบบสุดแสนจะบาง (ultra-thin valve stem) ตีสปริงที่ค่อนข้างอ่อน เพราะต้องการให้ลมออกนานกว่าธรรมดา ผ่านไปทาง ท่อส่งผ่านลม (air transfer port) ขนาดยาวที่อยู่ในแกนของก้านโยกใส่ลูก (bolt)  ที่ต้องให้เวลาลมออกนานกว่าปกติเพราะการที่จะขับเคลื่อนลูกกระสุน  Beeman Kodiaks, Crosman Premier Heavy หรือ JSB Exacts  ด้วยความเร็วกว่า 930 fps จากแรงดันลมพียง 1800 psi นั้น ต้องควบคู่ไปกับการใช้ลำกล้องขนาดยาว (Weihrauch ขนาด 25 นิ้ว) เพื่อให้เกิด momentum ในการขับเคลื่อน  ตัวอย่างเปรียบเทียบก็คือ ให้นึกถึงตอนรถตายและต้องเข็นคนเดียว ตอนแรกก็ต้องออกแรงมากหน่อย แต่พอรถเริ่มเคลื่อนตัวก็จะมี momentum และในที่สุดก็จะสามารถเข็นรถไปได้ด้วยความเร็วพอ ๆ กับความเร็วที่คนเข็นสามารถจะวิ่งไปได้ทีเดียว  อนึ่ง Les ได้ออกแบบวาล์วไว้โดยที่เราสามารถซ่อมแซม ปรับปรุงได้เอง (แต่ต้องซื้อเครื่องมือของเขานิดนึง เพื่อความสะดวกในการถอด/ใส่)



ถึงตอนนี้ ผมก็ย้อนนึกไปถึงตอนรถคันที่สองของผมคือ Toyota Corolla สมัยนั้น Toyota ทุกรุ่นจะตั้งชื่อขึ้นต้นด้วยตัว “C” เสมอ อาทิ Corona, Cressida, Crown, Celica  บางทีเจ้า Corolla สตาร์ทไม่ติด ผมเปิดประตูอ้าทิ้งไว้ บิดกุญแจไปจนสุด เข้าเกียร์ว่าง แล้วก็เข็น พอได้ความเร็วพอควร ก็กระโดดขึ้น เหยียบคลัช เข้าเกียร์ 2 แล้วก็ปล่อยคลัช ครั้งเดียวติดทุกที  ส่วนแม่ผมชอบคันใหญ่ ๆ เลยใช้ Crown Diesel ซึ่งลุงผมไม่ชอบเอาเลย บอกว่าเครื่องมันสั่นมาก นั่งแล้ว “คันก้น”....555

เรื่องแถม...มีอยู่วันหนึ่ง ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยแถวหน้าบ้าน ผมกับอาวิ่งออกมาดู เห็นเพื่อนบ้านติดอยู่ใต้รถ เข้าใจว่า แม่แรงล้ม ผมและอารีบเข้าไปยกจนรถลอย ชายคนนั้นออกมาได้ โชคดีที่พื้นเป็นดิน ตัวถูกกดจมดิน ถ้าเป็นพื้นแข็งก็คงบาดเจ็บ  มาตอนหลังผมและอามาคุยกัน ทำนองที่ว่าด้วยอารามตกใจ เราเพียงสองคนก็ยกรถให้ลอยได้จนคนนั้นออกมา  ก็เลยคิดต่อว่าถ้าเราไม่ตกใจ จะยกไหวหรือไม่?  ว่าแล้วก็ไปลองดูกัน รถคันเดิมผลก็คือ?HuhHuh?

การใส่กระสุน (loading) ก็เพียงโยกก้านโยกใส่ลูก (bolt) ไปทางขวา เปิดรูที่ลำกล้อง (breech) จะเห็นได้ว่า การออกแบบเช่นนี้ จะมีช่องว่าง สำหรับเอามือเข้าไปใส่ลูกกระสุนได้มากกว่าปืนลมแบบอื่น ๆ แทบทุกชนิด ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องจีบนิ้วจับกระสุนบรรจงจัด จนหลาย ๆ ครั้งลูกกระสุนหล่นตกพื้นหรือไม่ก็ตกเข้าไปค้างข้างในแบบของปืนอื่น ๆ  ตอนโยกคันขึ้นลำกลับมาปิดรู จะรู้สึกเหมือนปิดตู้เซฟยังไงก็ไม่รู้ เพราะมันบึกบึน แข็งแรงจนบอกไม่ถูก


การขึ้นลำ (cocking) ใช้หัวนิ้งโป้งง้างฆ้อนที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา จนได้ยินเสียงคลิก จะเห็นได้ว่า การออกแบบก็เหมือนการขึ้นลำของปืนดินขับทุกประการ เรียกว่าคนใช้จะเคยชิน ไม่เหมือนปืนบางยี่ห้อ มอง ๆ ดูนึกไม่ออกว่าจะขึ้นลำต้องทำอย่างไรบ้าง.. ไกเป็นระบบ 2  stage มี pull ต่ำกว่า 2 ออนซ์ สามารถ dry fire ได้โดยการง้าง sear ที่อยู่ด้านหลังฆ้อน (ในรูปจะเห็นมีเงี่ยง 2 เงี่ยงอยู่ด้านหลังฆ้อน) โดยไม่ต้องง้างฆ้อน



การเติมลม ก็ง่ายดาย โดยการต่อเข้ากับ หัวเติมแบบ Foster ที่อยู่ติดกับเกจ์ ด้านซ้ายของปืน อีกแหละเขาตั้งใจออกแบบให้หัวเติมลมมาอยู่ด้ายซ้ายและให้ห่างจากปลายกระบอกมากที่สุด เพื่อความปลอดภัย ต่างจากปืน PCP หลาย ๆ รุ่นที่มีหัวเติมลมอยู่ด้านหน้าใกล้กับปากลำกล้องที่ลมอาจเผลอหลุดออกมาโดนตัวเราได้  และจะยิ่งเป็นปัญหาหนัก ถ้ามีกระสุนค้างลำกล้องอยู่ด้วย  ปัญหานี้เกิดมากกว่าที่เราคิด  ทั้งนี้เพราะว่าหลาย ๆ คนยิงกันจนลืมนับลูก ด้วยความเมามันยิงจนลมหมด และลืมไปว่าลูกสุดท้ายที่ยิงไม่ออกเพราะลมหมดมันยังค้างอยู่ในลำกล้อง  พอมาเติมลม ถ้าที่เติมอยู่ด้านหน้าติดกับปากลำกล้อง เราก็ต้องมาอยู่ด้านหน้าลำกล้องด้วย  น่ากลัวมากงานนี้...


อีกจุดหนึ่งของการออกแบบที่อาจมองดูไม่รู้จากรูปก็คือ แนวแกนของด้ามจับซึ่งไม่ได้อยู่ในแนวดิ่งที่ตั้งฉากกับพื้นโลกเป๊ะดังเช่นปืนทั่วไป



 แต่จะเอียงขึ้นมาทางขวา (สำหรับคนถนัดขวา) ประมาณ 30 องศาเขาเรียกการออกแบบเช่นนี้ว่า canted configuration ซึ่งทำให้การยิง FT ส่วนใหญ่ที่คนยิงมักนั่งไม่ต้องบิดตัวปรับให้มืออยู่ในแนวดิ่ง แต่อยู่ในท่าแบบธรรมชาติหรือ natural hold position อนึ่งสำหรับของใช้หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบให้เข้ากับตัว เขาจะเรียกว่าออกแบบ ergonomic คือให้เหมาะกับสรีระของเรา จะได้ใช้สะดวก ไม่ขัดเขิน ไม่เมื่อยล้าง่าย ๆ  ที่เห็นก็มีฆ้อนที่ด้ามงอ ๆ ผมลองใช้ดูก็เข้าท่า แต่ล่าสุดมีไม้เท็นนิสด้ามงอ ผมลองดูแล้ว...ผ.ส.ห. เลยครับ

ตอนติดตั้งกล้อง ผมเลือกใช้กล้อง Hawk Sidewinder 8.5-34x52 ขารัดของ B-Square แบบ low profile สีเงินเข้ากับตัวปืน แนวกากะบาด (Cross hair) ของกล้องนั้น จะไม่อยู่ในแนวเดียวกับด้ามจับ แต่ต้องจับเอียง ๆ แล้วกากะบาดจะอยู่ในแนวตั้งพอดี ผมเพิ่ม focus wheel ขนาด 4.5” และ rubber eye shade เข้าไปด้วย
นอกจากนี้ ผมเห็นว่าถังลมนั้นมีขนาดใหญ่ แต่ลำกล้องขนาดธรรมดาดูผิดสัดส่วนไป เลยให้ AZ (หรือ Allan Zasadny ที่เรียกได้ว่าเป็นนักโมมือหนึ่งของโลกที่ผมเคยเล่าไปแล้ว) ทำทั้ง flip compensator (ปลายลำกล้องเดิมมี air diverter ที่ดูเหมือนปากกระบอกปืนรถถัง Patton) เพื่อช่วยให้ปลายกระบอกไม่กระเดิดเวลายิง และ barrel sleeve ที่มีขนาดและสีเดียวกับตัวปืน คลุมลำกล้องแบบ free floating barrel, ส่วนอุปกรณ์เสริมจาก Mac-1 ผมเพิ่มทั้ง dog bone rest swings และ underarm hook ด้านหลังพานท้าย เพื่อช่วยยึดเกาะ
อนึ่ง barrel sleeve นั้นนอกจากสรวมไปเพื่อความสวยงามแล้ว ยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับลำกล้อง โดยเฉพาะปืนลมสปริงแบบหักลำกล้อง แต่สำหรับ barrel shroud จุดประสงค์หลักคือใช้เก็บเสียง แต่เขาไม่เรียกว่า silencer เพราะจะผิดกฏหมาย

USFT ถือว่าเป็นปืน FT สายพันธุ์อเมริกา 100 % ออกแบบด้วยความคิดคำนึงแบบแยบยล  ที่สำคัญที่สุดคือการตัดการใช้ regulator ซึ่งถือว่าเป็น weak link ของปืน PCP เพราะ regulator มักจะมีปัญหา และซ่อมยาก ผมเคยปรับ regulator ของปืนอังกฤษชื่อดังกระบอกหนึ่ง ถอด ๆ ใส่ ๆ อยู่หลายสิบครั้ง แต่ที่หนักที่สุดคือ ระหว่างการถอด/ใส่ ต้องเติมลม ทดลองยิงด้วยการวัดความเร็ว, ปล่อยลมออก โดยการยิงทิ้ง (ขึ้นลำ ยิงทิ้ง) เพราะไม่มีตัวปล่อยลม?? ยังดีที่ผมมีเครื่องปั๊มลม

สิ่งเดียวที่ผมออกจะไม่พึงใจกับเจ้า USFT ก็คือ ผมเคยชินกับระบบไกที่ lock time สั้น คือระยะเวลาที่นับจากการลั่นไก จนถึงจุดที่วาล์วปล่อยลม  แต่ USFT จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่าธรรมดาตามที่กล่าวไว้แล้วตอนต้น  ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับผมเองที่ต้องทำความเคยชินกับการยิง เพราะผมสามารถรู้สึกสัมผัสกับความเนิ่นนาน ของการเหวี่ยงตัวของฆ้อนตีวาล์ว กับการดีดตัวของสปริงแบบอ่อนที่ใช้เวลานานกว่าปกติ จนเกิดเสียงก้องกังวาลในโสตประสาททุกครั้งที่ผมลั่นไก แม้นว่าความแตกต่างของเวลาดังกล่าวจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของวินาทีก็ตาม
ผมไม่ได้พูดถึงความแม่นยำ เพราะเป็นที่ประจักษ์จากผลการแข่งขันระยะหลัง ๆ นี้  แต่ที่จะขอแถมคือ  2010 California State Field Target Match คุณ Vipha Miller



ดูมาตรเสียก่อน..



ได้ตำแหน่งที่ 3 แบบ open class เฉือนผู้ชายคนอื่น ๆ หลายสิบคน ส่วนคนที่ได้ที่1 คือ Doug Miller สามีคุณวิพา ที่ผมได้ให้กระสุน Crosman Premier heavy DIE #2 ไปเข้าแข่ง 1 กล่อง และขาย sound suppressor  สำหรับ FWB P70 ไปให้ด้วย

ปล. กระสุน Crosman Premier heavy DIE #2 เป็นกระสุนรุ่นแรก โดยใช้แม่พิมพ์หมายเลข 2 จะมีประทับตราสีแดงไว้ด้านใต้ของกล่อง เชื่อกันว่าเป็นกระสุนรุ่นเจ๋ง ปกติซื้อขายกันกล่องละ 8-10 ดอลล่าร์ แต่ถ้าเป็น DIE #2 จะก็ 65 ดอลล่าร์สบาย ๆ แต่ตอนนี้ ใครมีไว้ก็ไม่ยอมปล่อย.....ผมเองก็คิดว่าหมดไปแล้ว แต่วันก่อนไปรื้อของกลับไปเจออีก 1 กล่อง...555

Tim แนะนำว่าควรใช้กระสุน Beeman Kodiaks หรือ JSB Exact diabolo heavies (10.2-grain)
USFT จากค่ายปืนจากอเมริกาถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับการแข่งขัน Field Target อย่างเกินคาด  ด้วยเจตุจำนงอันแน่วแน่ และการออกแบบอย่างปราณีต เจาะจงเฉพาะงาน ผมขอยกนิ้วให้ครับ

ธนาสิทธิ์ ศิริลักษณ์
๑๘ กันยายน ๒๕๕๔

ปล. ตอนถ่ายรูป เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย..ตามรูปเลยครับ ใช้เวลาซ่อมราว 3 นาทีก็ออกมาตามรูป...





3 นาทีต่อมา....





บันทึกการเข้า
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 07:05:45 PM »

reserved
บันทึกการเข้า
motหัดยิง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 59
ออฟไลน์

กระทู้: 391



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 07:24:22 PM »

ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

T.  081 4390538 T. 089 0599898
jukdk
ชมรมคนรักปืนลม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 917
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3154


STEYR LG 110 HP HUNTING .22


« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 07:36:00 PM »

 
                   ขออนุญาติ +1 ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

สิทธิโชค
     T 0909724872 (รับอัดอากาศ)
sakda m41 รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 751
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2893



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 08:02:41 PM »

แต่ละกระบอก แต่ละโพส บอกตรง ๆ อ่านแล้วอยากได้สักเสี้ยวหนึ่งของอาจารย์ครับ

ถึงมีเงินแต่ก็ซื้อไม่ได้  ถ้าใจไม่รักครับ ไหว้ ไหว้ ไหว้

ขอแสดงความยินดีย้อนหลังกับคุณวิภาและสามีด้วยครับ ไหว้

นี่แหละคนไทยในดวงใจ ไหว้ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2011, 08:31:57 PM โดย sakda m41 รักในหลวง » บันทึกการเข้า
tui086
Hero Member
*****

คะแนน 1083
ออฟไลน์

กระทู้: 6255



« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 08:11:11 PM »

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ...อ่านแล้วอึ้ง..ทึ่ง..ครับ.....
บันทึกการเข้า
Dunk
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1657
ออฟไลน์

กระทู้: 4331



« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 08:42:14 PM »

ขอบคุณครับอาจารย์ สุดยอดครับ ...  เยี่ยม ไหว้

แต่ดูจากคลิปนี้แล้ว ลำกล้องมีแค่สองเกลียว อยากทราบข้อดีข้องเสียของมันครับอาจารย์ ...   ไหว้

http://www.youtube.com/watch?v=nzQbu0sxghg&feature=related
บันทึกการเข้า

     
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 09:17:18 PM »


           ไหว้ขอบคุณครับอาจารย์ ได้ความรู้ไปใช้อีกแล้วครับ
                             
           ขอถามครับ  ไอ้แท่งยาวๆมีหัวเป็นไม้เอาไว้ทำอะไรครับ
                          ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
Exxx
โดนทุกที่ ยกเว้นตรงที่เล็ง
Hero Member
*****

คะแนน 694
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1113



« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 10:16:57 PM »


           ไหว้ขอบคุณครับอาจารย์ ได้ความรู้ไปใช้อีกแล้วครับ
                             
           ขอถามครับ  ไอ้แท่งยาวๆมีหัวเป็นไม้เอาไว้ทำอะไรครับ
                          ขอบคุณครับ ไหว้



ผมเดาว่าเอาไว้ให้ท่อนแขนขวาด้านบนกดปืนไว้ ปืนจะแนบเข้าล่องไหล่พอดี
ใกล้เคียงบ้างไหมเนี่ย  ไหว้
บันทึกการเข้า

spyman
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 172


« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 19, 2011, 08:45:30 AM »

เหมือนได้กลับไปอ่าน เวปไทยเบลด อีกครั้ง
ขอบคุณ อาจารย์ ที่เอามาให้ชมครับ
บันทึกการเข้า
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 19, 2011, 09:18:12 AM »

ปืนสวยมากเลยครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 19, 2011, 10:33:53 AM »

อาจารย์ครับก้อนสีเหลืองที่รองนกสับ ใส่ไว้เพื่ออะไรครับ
บันทึกการเข้า
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 19, 2011, 06:22:38 PM »

ขอบคุณครับอาจารย์ สุดยอดครับ ...  เยี่ยม ไหว้

แต่ดูจากคลิปนี้แล้ว ลำกล้องมีแค่สองเกลียว อยากทราบข้อดีข้องเสียของมันครับอาจารย์ ...   ไหว้

http://www.youtube.com/watch?v=nzQbu0sxghg&feature=related

ลำกล้อง 2 เกลียวเป็นความคิดของ LD ซึ่งเขาให้เหตุผลว่า ลำกล้องที่ดีให้ความแม่นยำสูงเกลียวทุกเกลียวควรจะมีรูปลักษณ์และมิติที่เหมือนกัน 100 % ดังนั้น ยิ่งมีเกลียวมาก โอกาสที่เกลียวจะไม่เหมือนกันก็จะมีมากขึ้น ผลความแม่นยำก็จะต่ำลง เขาจึงทดลองทำลำกล้องที่มีเพียง 2 เกลียว ซึ่งเป็นจำนวนต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ และน่าจะมีประสิทธิภาพดีกว่า กล้องที่มีจำนวนเกลียวมากกว่านี้ 
ข้อเสีย อาจอยู่ที่ราคาและความลำบากในการผลิต อีกทั้งยังไม่ได้ผ่านการทดสอบในระยะยาว รวมทั้งยังไม่ได้ทดลองกับลูกกระสุนทุกประเภทรูปร่างและขนาด
อนึ่งจากคลิปให้สังเกตุด้วยว่า ลำกล้องเป็นขนาด .22 ซึ่งเหมาะกับการล่าสัตว์และยิงเป้าทั่วไป หาใช่เอาไว้สำหรับการแข่งขัน FT ไม่ เช่นนี้แล้ว ลำกล้อง 2 เกลียวอาจไม่เหมาะกับลูกขนาด .177 ก็ได้
บันทึกการเข้า
tui086
Hero Member
*****

คะแนน 1083
ออฟไลน์

กระทู้: 6255



« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 19, 2011, 06:25:31 PM »

ชัดเจนเลยครับ...ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ...สำหรับข้อมูล..
บันทึกการเข้า
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 19, 2011, 06:31:49 PM »


           ไหว้ขอบคุณครับอาจารย์ ได้ความรู้ไปใช้อีกแล้วครับ
                                         ขอถามครับ  ไอ้แท่งยาวๆมีหัวเป็นไม้เอาไว้ทำอะไรครับ
                          ขอบคุณครับ ไหว้


เจ้าตัวที่ว่านี้ มีชื่อว่า dog bone rest swings สามารถปรับได้ใน 3 แกน แกนแรกปรับร่วมกับประทับบ่า คือเข้า/ออก ในแนวนอน หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นแนว หน้า/หลังก็ได้ ส่วนแกนที่สองคือ แนวซ้าย/ขวา หรือแนวบน/ล่าง ขึ้นอยู่กับต่ำแหน่งการปรับของแนวที่ 3 ซึ่งคือ แนวการหมุนรอบแกน 360 องศา
การใช้งานนั้น ขึ้นอยู่กับท่วงท่าการยิงของแต่ละคน คือให้ปรับไปตรงไหนก็ได้ที่จะช่วยให้ปืนมีจุดยึดเกาะหรือพาดพิง ให้เกิดความมั่นคงในการเล็งให้มากที่สุด  สำหรับผมซึ่งชอบยืนยิง ผมปรับให้ด้ามไม้มารองรับส่วนปลายของข้อศอก หรือใช้เป็นที่พักศอกนั่นเอง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 24 คำสั่ง