ผมว่ายิงปืนระบบIPSC ได้เเบ่งความสามารถของนักกีฬาให้เเข่งกับมือระดับเดียวกันนะครับ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน มือระดับคลาส U หรือ C ไม่ได้ไปแข่งกับมือ MASTER ที่มีความสามารถมากกว่า ยกเว้นเเมทช์ที่ไม่ได้จัดโดยสมาคม เเละปัจจุบันนี้นักกีฬาใหม่ๆเข้ามามากขึ้นโดยเฉพาะรุ่นโปรดักชั่น
ในการลงเเข่งครั้งเเรกต้องเข้าใจด้วยว่านักกีฬาคนนั้นๆยังไม่ทราบความสามารถของตนเองว่าอยู่ในระดับใด แต่อาจจะมีบ้างที่นักกีฬาเก่ามาลงเเข่งในรุ่นที่ตัวเองยังไม่มีมีประวัติ ตามกฎครั้งเเรกต้องมาหาเปอร์เช็นว่าควรจะอยู่ในคลาสใด อาจจะไปเบียดนักกีฬาใหม่ที่มาเเข่งในวันนั้นเเต่ก็สุดวิสัยเพราะกฏว่าไว้อย่างนั้น ซึ่งมือเก่าลงคลาส U แล้วได้คะเเนนไปอยู่ในกลุ่มระดับ MASTER ครั้งต่อไปก็ต้องไปแข่งกับมือระดับนั้นๆ ซึ่งต่างกับมือใหม่ๆที่ลงคลาส U ผลออกมาคะเเนนที่ได้อยู่ในระดับคลาส C ครั้งต่อไปก็เเข่งกับคนที่มีฝีมือเท่ากัน ที่นี้ก็เท่ากับว่าต้องไปแย่งรางวัลกับมือระดับเดียวกัน ยิ่งปัจจุบันนี้นักกีฬาใหม่นิยมยิงในรุ่นโปรดักชั่น ทางสมาคมก็ได้เพิ่มรางวัลให้เป็นรุ่นละ 3 รางวัลในรุ่นโปรดักชั่น
ทีนี้นักกีฬาใหม่จะท้อเพราะต้องไปแย่งรางวัลกับมือระดับเหนือตนไม่ได้เเล้วเเต่เเพ้เพราะตัวเองขาดการฝึกซ้อมมากกว่าซึ่งมันก็มีความหมายว่าถ้ามีรางวัล 5 รางวัลเเต่เเพ้คะเเนนดันเป็นคนที่ 6 ก็ไม่ได้รางวัลเเล้วนักกีฬาจะเลิกยิงเเข่งขันเพราะไม่ได้รางวัลเลยเหรอ ทำไมนักกีฬาไม่พัฒนาตนเองให้เลื่อนอันดับมาอยู่ที่ 5 4 3 2 1 หรือปรับคลาสเหนือกว่านั้นหละ
กีฬาควรจะเเข่งในด้านความสามารถถ้าเราเเข่งกับคนที่มีความสามารถเท่ากันเเล้วเราชนะก็เท่ากับว่าเรามีฝีมือมากกว่า ซึ่งในการยิงเเข่งIPSCในปัจจุบันเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่หวังผลว่าเเข่งแล้วต้องได้อะไรติดมือกลับบ้านทุกครั้งก็พอใจเเล้ว กีฬาไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องลงทุนเเล้วได้อะไรกลับคืน ยิงเพื่อสันทนาการจะดีกว่าครับ
ฉะนั้นรางวัลจะมากหรือน้อยมีผลน้อยมากกับการเเข่งเพื่อเอาชนะตัวเอง ถ้าเรารู้เเน่ว่าความสามารถเราไม่สามารถที่จะพัฒนาไปสู้เค้าได้เพราะติดเงื่อนไขของเวลา หรือ งบประมาณ เป็นผมก็เลี่ยงไปเเข่งอย่างอื่นที่ผมพอจะใช่งบประมาณเเละเวลาได้เต็มความสามารถของตน ที่นี้เราก็จะได้ใช้ความสามารถของตนเองไต้เต็มที่โทษอย่างอื่นไม่ได้เเล้ว ถ้าชนะก็ชนะเพราะฝีมือเพียวๆครับ
ไม่รู้จะเกี่ยวกับจำนวนถ้วยรางวัลรึเปล่าหว่า