กันไว้ดีกว่าแก้เพราะถ้าแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน ถือว่าจขกท.เป็นผู้ที่มีความรอบคอบไม่ประมาทเป็นอย่างยิ่ง
ร่างกายคงต้องฟิตพอสมควรจึงจะใช้อาวุธได้คล่องแคล่วประกอบกับต้องมั่นทบทวนการใช้/ดูแลอาวุธอยู่เสมอ ของพันนี้ถ้าไม่ฝึกแล้วยามเจอสถานการณ์จริงอาจจะเอ๋องงทำอะไรไม่ถูกไม่ทันการณ์ก็ได้ ....ทั้งหมดนี้ผมเทียบมาจากกีฬาipscนะครับ
แต่อย่างไรก็ตามคนที่แอบจ้องจะทำร้ายเรา ย่อมจะมีโอกาสมากกว่าเราเป็นเรื่องธรรมดาสากล ไม่งั้นคนระดับประธานาธิบดีก็คงไม่ถูกลอบสังหาร คนที่ถูกจ้องจึงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะถูกกระทำสูงมาก.....ดังนั้นคนที่มีหน้าที่เพื่อบ้านเมืองที่ไปอยู่ในท้องถิ่นหรือแม้คนในท้องถิ่นนั้นที่ถูกจ้องทำร้ายแต่ไม่ยอมอพยพหลบหนีไปไหน จึงเป็นผู้เสียที่ควรนับถือและยกย่องในน้ำใจอย่างยิ่ง
ถ้าจำเป็นก็ต้องอยู่ก็ต้องสู้ แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากให้นึกถึงคำพระที่ว่า..ปะฏิรูปะเทสะวาโส...
มีทริคเพิ่มเติมเล็กน้อย..ผมจำมาจากหนังสือต่างๆ
1.อย่าเดินทางไปกลับเส้นทางเดิมเป็นประจำ
2.เปลี่ยนยานพาหนะในการเดินทางบ่อยๆ
3.อย่าออก/เข้า บ้าน ที่ทำงาน เป็นเวลาแน่นอน
4.ไม่ไปเที่ยวงานมหรสพ โดยเฉพาะยามค่ำคืน
5.ประตูหน้าต่างควรติดสัณญาณ
6.อย่านั่งตรงหน้าต่างและประตูที่เปิดไว้
7.ก่อนออกจากบ้านสังเกตดูให้ดี เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงเปิดประตู
8.ก่อนจะสตาร์ทรถตรวจดูให้เรียบร้อยโดยรอบและล่าง
9.เมื่อขับรถออกไปต้องระแวดระวังทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง..และ
พร้อมตลอดเวลา!
10.อย่าทำตัวให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดว่าเป็นพวกของอีกฝ่าย....ตรงนี้ต้องระวังมากๆโดยเฉพาะตามบ้านนอก แค่เขาแกล้งแวะมาเยือนบ่อยๆก้แย่แล้วววว
บุญรักษานะครับ ผมเห็นใจจริงๆ
เห็นด้วยครับ
ใช้สติ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ