ก.พลังงานรับมือไฟฟ้าดับภาคใต้

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-ก.พลังงาน รับมือไฟฟ้าดับภาคใต้กรณีแหล่งผลิตก๊าซ JDA-A18 หยุดซ่อมบำรุงช่วงวันที่ 13 มิ.ย.-10 ก.ค.นี้ เผยขอทุกภาคส่วนร่วมมือลดใช้ไฟฟ้า คาดประหยัดได้ 234 เมกะวัตต์

นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเป็นห่วงกรณีแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ (JDA-A18) หยุดซ่อมบำรุงในระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.-10 ก.ค. 2557 รวม 28 วัน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าต้องหยุดผลิต ทำให้ไฟฟ้าหายไปจากระบบถึง 710 เมกะวัตต์ และส่งผลต่อภาพรวมของการผลิตไฟฟ้าภาคใต้เหลือเพียง 2,300 เมกะวัตต์ ขณะที่คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดโดยเฉลี่ยในพื้นที่ภาคใต้ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2557 ประมาณ 2,450 เมกะวัตต์ ซึ่งไฟฟ้าจะขาดหายไป 150 เมกะวัตต์

กระทรวงพลังงานได้หาแนวทางและมาตรการรองรับเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ อาทิ การเตรียมความพร้อมระบบไฟฟ้าทั้งระบบส่ง โรงไฟฟ้า และเชื้อเพลิงสำรอง การตรวจอุปกรณ์ระบบส่งไฟฟ้า การบริหารจัดการด้านความต้องการใช้ เพิ่มการส่งไฟฟ้าผ่านสายส่งจากภาคกลาง การเตรียมแผนปลดโหลด หรือแผนไฟฟ้าดับร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การเจรจาซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย

นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือประชาชน “เลี่ยงและลดใช้” พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดใช้พลังงานด้วยการปิดแอร์ 1 เครื่อง ปรับแอร์เพิ่ม 1 องศา ปิดไฟ 1 ดวง (3-1) รวมทั้งขอความร่วมมือภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในภาคใต้ลดใช้ไฟฟ้า และเปลี่ยนเวลาปฏิบัติงาน ในวันที่มีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงเวลา 18.30-22.30 น. ซึ่งเป็นชั่วโมงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของวันในภาคใต้ หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือตามแผนที่วางไว้คาดว่าจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 234 เมกะวัตต์ และสามารถฝ่าวิกฤติพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ไปได้

นายสมชัย ชัยโรจน์นิพัฒน์ หัวหน้ากองควบคุมระบบ ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้มีปริมาณสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากอุตสาหกรรมประมง ยางพารา และท่องเที่ยว มีแนวโน้มใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ต่อปี ปัจจุบันภาคใต้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,468 เมกะวัตต์ ขณะที่ภาคใต้มีกำลังผลิตไฟฟ้าเพียง 2,359 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าในพื้นที่ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจะนะ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนอม โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา เป็นต้น ส่วนที่เหลือต้องพึ่งพาการส่งกระแสไฟฟ้าจากภาคกลาง ปัจจุบันได้ควบคุมการส่งพลังงานไฟฟ้าผ่านสายส่งไม่เกิน 700 เมกะวัตต์ เพื่อให้เหมาะสมกับกำลังสายส่งที่สามารถรองรับได้ หากเกินขีดความสามารถของสายส่งฯ หรือสายส่งจากภาคกลางที่ส่งกระแสไฟฟ้ามายังภาคใต้เกิดขัดข้องจะส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ได้ ดังเช่นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2556 ที่เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดเป็นเวลายาวนานถึง 4 ชั่วโมง

ทั้งนี้ กฟผ. ได้เตรียมมาตรการรองรับทั้งการปรับแผนตรวจสอบและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าภาคใต้ไม่ให้มีการหยุดบำรุงรักษาช่วงที่แหล่ง JDA-A18 ปิดซ่อม การเตรียมความพร้อมโรงไฟฟ้าภาคใต้ทุกเครื่อง ที่สำคัญได้ตรวจสอบอุปกรณ์ระบบส่งและระบบป้องกันให้พร้อมใช้งาน โดยดำเนินการแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในกรณีเกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ได้มีการซักซ้อมแผนกู้คืนระบบเพื่อกระทบต่อผู้ใช้ไฟให้น้อยที่สุด

นายสาคร พยัคฆเรือง ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA กล่าวว่า ได้ซักซ้อมและจัดเตรียมแผนด้านการบริหารจัดการสภาวะวิกฤติระหว่างศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้า มีการจัดประชุมชี้แจงและประชาสัมพันธ์ภายในองค์กรให้กับการไฟฟ้าในเขตพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ รวมถึงสนับสนุนข้อมูลการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อลดความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลา 18.30-22.30 น. ให้กับประชาชนด้วย หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือจะทำให้พื้นที่ภาคใต้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้.-สำนักข่าวไทย

เห็นเมื่อวาน7/11 เปิดไฟในร้านสลับช่องกันนะครับ คงเป็นการขอความร่วมมือ หลายพื้นที่มีไฟดับ ช่วยกันประหยัดไฟนะครับ ดวงไหนไม่ใช้ก็ปิด ไหว้

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ก.พลังงานรับมือไฟฟ้าดับภาคใต้ (อ่าน 807 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้