๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 15, 2024, 09:04:28 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แค่ตระกูลเดียวก็เท่ากับเนื้อที่ภูเก็ต2เท่า.....อุต๊ะ  (อ่าน 3535 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88276


« ตอบ #15 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 11:20:28 AM »

ตายแล้วถ้าฝัง ก็แค่ไม่กี่ตารางวา ฮึ อ๋อย

เขาอาจอยากทำฮวงซุ้ยสัก 5000 ไร่ Grin Grin Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 11:27:59 AM โดย carrera » บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15861
ออฟไลน์

กระทู้: 13585


No justice No peace


« ตอบ #16 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 11:24:32 AM »

ตายแล้วถ้าฝัง ก็แค่ไม่กี่ตารางวา ฮึ อ๋อย

เราอาจอยากทำฮวงซุ้ยสัก 5000 ไร่ Grin Grin Grin



5555  พี่คาร์ เอาเยอะ จังอ่ะ ฮา 5555
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
SSG 69 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 104
ออฟไลน์

กระทู้: 624


« ตอบ #17 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 11:26:16 AM »

สุดท้ายแล้ว........ใช้ไม่กี่ตารางเมตร
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88276


« ตอบ #18 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 11:27:32 AM »

ตายแล้วถ้าฝัง ก็แค่ไม่กี่ตารางวา ฮึ อ๋อย

เราอาจอยากทำฮวงซุ้ยสัก 5000 ไร่ Grin Grin Grin
5555  พี่คาร์ เอาเยอะ จังอ่ะ ฮา 5555

ผมพิมพ์ผิดครับ ผมหมายถึงเขาอยากทำ ของผมบอกเมียแล้วครับ Grin Grin Grin ถ้าผมตายเผาจบ ไม่ต้องลำบากลูกหลานไปไหว้ ถ้าไหว้ก็ที่บ้านนั่นแหละถ้าไหว้แล้วได้กินจริงซื้ออะไรมาก็ไหว้เสียหน่อย ผมว่าได้กินเยอะกว่าตอนเช็งเม้ง 5555555555

เชื่อว่าตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ครับ
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #19 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 12:38:33 PM »

สมัยก่อนกว่าจะได้ดินแดนแต่ละตารางเมตร บรรพบุรุษต้องรบต่อสู้และป้องกันด้วยชีวิตกี่คน
สมัยนี้ใช้เงินซื้อ ก็เป็นเจ้าของพื้นแผ่นดินประเทศไทย ได้ง่ายนิดเดียว 
น่าจะยกเลิกโฉนดแล้วเปลี่ยนเป็นเช่าแทนให้แค่ตระกูลละ 30ปี หมุนเวียนไป

ที่ดินราคาดีๆยังมีอยู่นะครับ Grin Grin Grin ลองซื้อกันดู

เอาไว้ปลูกสัก ทุเรียน มังคุด กล้วย พยุง 555555  คิดแล้วสนุก

ตอนนี้หันมาชอบเกษตรแล้วเหรอพี่  อยากไปเที่ยวสวนพี่จัง  มีอะไรให้กินมั่ง พวกไม้ผล
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15861
ออฟไลน์

กระทู้: 13585


No justice No peace


« ตอบ #20 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 01:34:33 PM »

สมัยก่อนกว่าจะได้ดินแดนแต่ละตารางเมตร บรรพบุรุษต้องรบต่อสู้และป้องกันด้วยชีวิตกี่คน
สมัยนี้ใช้เงินซื้อ ก็เป็นเจ้าของพื้นแผ่นดินประเทศไทย ได้ง่ายนิดเดียว 
น่าจะยกเลิกโฉนดแล้วเปลี่ยนเป็นเช่าแทนให้แค่ตระกูลละ 30ปี หมุนเวียนไป

ที่ดินราคาดีๆยังมีอยู่นะครับ Grin Grin Grin ลองซื้อกันดู

เอาไว้ปลูกสัก ทุเรียน มังคุด กล้วย พยุง 555555  คิดแล้วสนุก

ตอนนี้หันมาชอบเกษตรแล้วเหรอพี่  อยากไปเที่ยวสวนพี่จัง  มีอะไรให้กินมั่ง พวกไม้ผล



5555  มันก็มีตามที่บอกนั่นแหละ อ่ะ ฮา55/5

ทุเรียน  มังคุด  กล้วย  อ่ะ ฮา

5555 มันไม่มี  "มะเหงก"  ร๊อกส์ อ่ะ ฮา 5555

บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
cz_dee *รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 236
ออฟไลน์

กระทู้: 893



« ตอบ #21 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 02:12:52 PM »

น่าจะจำกัดการถือครองที่ิดินบ้างนะครับถ้าตรวจสอบแล้วว่าเกินยึดเข้าหลวง  หมื่นไร่นี่ก้็เยอะแล้วครับ
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50461



« ตอบ #22 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 02:16:22 PM »

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การผลักดันประกาศบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ... (พร็อพเพอร์ตี้แทกซ์) ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แทนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และ พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 ซึ่งล้าสมัย กำลังถูกจับตามองว่าจะสำเร็จหรือไม่ หลังจากใช้ความพยายามผลักดันมากว่า 15 ปีก็ยังไม่สำเร็จ

ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฐานจัดเก็บภาษีครอบคลุมมากขึ้น ให้ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเพื่อกระจายรายได้ ขณะเดียวกันมีเป้าหมายสำคัญคือลดการกักตุนที่ดินของนายทุน โดยกรณีถือครองที่ดินแต่ปล่อยรกร้างไม่ได้ทำประโยชน์ จะต้องเสียภาษีในอัตราไม่ต่ำ 0.5% ของฐานภาษี (คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน) และกรณีที่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างจะถูกปรับภาษีขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี แต่มีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2% ของฐานภาษี หากผลักดันสำเร็จจะช่วยสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้มาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลศึกษาโดยกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (องค์กรพัฒนาเอกชน) จากการวิจัยและเก็บข้อมูลการถือครองเอกสารสิทธิ จากสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดิน พบว่าตระกูลดัง เศรษฐี กลุ่มธุรกิจ กลุ่มทุน ถือครองที่ดินทั้งแปลงเล็กแปลงใหญ่จำนวนมาก กระจายอยู่หลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว

วิธีการถือครองมีทั้งทยอยซื้อที่ดินเก็บไว้ในมือ โดยค่อย ๆ สะสมจากแปลงเล็กเป็นแปลงใหญ่ และการกว้านซื้อที่โดยอาศัยกลุ่มนายหน้าและเครือข่ายธุรกิจ ทั้งที่ดินว่างเปล่า ที่ทำการเกษตร ที่นา ฯลฯ ขณะเดียวกันจากเดิมที่มักปล่อยที่ดินที่ซื้อไว้ในพอร์ตเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มเศรษฐกิจ ตระกูลดังแห่ลงทุนด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าดินทำการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน รวมทั้งพืชสวน พืชไร่หลากหลายชนิด ฯลฯ รับยุคบูมยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเร่งใช้ประโยชน์ที่ดินแทน หลังเริ่มมีกระแสผลักดันจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าสำหรับที่ดินที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า

สอดรับกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ตระกูลดัง หลายกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการขยายฐานสู่ธุรกิจการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มตระกูลสิริวัฒนภักดี เจียรวนนท์ พูลวรลักษณ์ จุฬางกูร เตชะณรงค์ ภิรมย์ภักดี ฯลฯ ขณะที่ตระกูลนักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ตลอดจนนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัด ก็หันมารุกด้านการเกษตรรับกระแสบูมจำนวนมากเช่นเดียวกัน

สิริวัฒนภักดี6.3 แสนไร่

ข้อมูลจากการสำรวจศึกษาระบุว่า ในผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศ ตระกูล "สิริวัฒนภักดี" ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น็อนแอลกอฮอล์ พัฒนาที่ดิน การเกษตร ฯลฯ น่าจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศมากที่สุดกว่า 6.3 แสนไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่าง ๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์ อาทิ ที่ดินในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีรวม 1.2 หมื่นไร่, ที่ดินในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1.5 หมื่นไร่ ฯลฯ

ก่อนหน้านี้ นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด บุตรเขยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตระกูลสิริวัฒนภักดีมีที่ดินทั่วประเทศอยู่หลายแสนไร่จริง แต่ประเมินจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ โดยหนึ่งในแปลงใหญ่อยู่ที่ชะอำ 1.2 หมื่นไร่ เตรียมแบ่งส่วนแรกกว่า 1 พันไร่พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ สนามกอล์ฟ โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก

"ซีพี-สหอุตสาหกรรมฯ"ที่เพียบ

ขณะที่ "ตระกูลเจียรวนนท์" ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่มซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม บมจ.ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 หมื่นไร่

"บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดิน 4.44 หมื่นไร่ รองลงไปคือ "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ปัจจุบันมีที่ดินรวมประมาณ 3 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้ราว 7% ปล่อยเช่าสร้างรายได้เชิงพาณิชย์

บมจ.ไออาร์พีซี ผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ มีที่ดินรวมประมาณ 1.7 หมื่นไร่ แปลงใหญ่อยู่ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา "ตระกูลมาลีนนท์" กลุ่มทุนธุรกิจสื่อสารถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่ แลนด์ลอร์ดอีกราย คือ "นายแพทย์บุญ วนาสิน" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี มีที่ดินในมือประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1 พันไร่

พูลวรลักษณ์-จุฬางกูร ติดโผ

ด้าน "วิชัย พูลวรลักษณ์" อดีตผู้ก่อตั้งโรงภาพยนตร์เครืออีจีวี ซึ่งที่ผ่านมาเบนเข็มมารุกธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม "วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้" ครอบครองอยู่ 7-8 พันไร่ อาทิ ในจังหวัดกาญจนบุรีประมาณ 3 พันไร่ฯลฯ ตระกูล "จุฬางกูร" อาณาจักรซัมมิท คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่วงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ มีที่ดินทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 5-6 พันไร่ อาทิ สนามกอล์ฟซัมมิทฯ ที่บางนาและเชียงใหม่, ที่ดิน 100 ไร่ในจังหวัดภูเก็ต ฯลฯ และ "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" ผู้ก่อตั้งโบนันซ่า มีที่ดินในเขาใหญ่รวม 5 พันไร่

นอกจากนี้พบว่านักธุรกิจในวงการพัฒนาที่ดินอย่าง "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่มีธุรกิจให้บริการเดินรถไฟฟ้าและธุรกิจพัฒนาที่ดิน ก็มีที่ดินสะสมไม่ต่ำกว่า 1 พันไร่ เช่นเดียวกับ "บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" มีที่ดินทั่วประเทศรวมประมาณ 2 พันไร่

เช่นเดียวกับตระกูล "ภิรมย์ภักดี" เจ้าของธุรกิจเบียร์สิงห์ ที่บุกเบิกธุรกิจด้านการเกษตรมานาน และปัจจุบันขยับมารุกธุรกิจอสังหาฯเต็มตัว ถือครองที่ดินทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 3-4 พันไร่ โดย "ปิยะ ภิรมย์ภักดี"เจ้าของไร่พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีที่ดินในเขาใหญ่ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันไร่ ขณะที่ตระกูล "กฤษดานนท์" อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.กฤษดานครครอบครองที่ดินย่านบางนา-ตราด ประมาณ 4,000 ไร่

เปิดโผที่ดินนักการเมือง

ส่วนในกลุ่มนักการเมือง จากการสำรวจพบผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก อาทิ นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย2,030 ไร่, นายบรรหาร ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทย 2 พันไร่ อยู่ในบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ และนนทบุรี, นายเสนาะ เทียนทอง และนางอุไรวรรณ เทียนทอง 1,900 ไร่, นายอนุชา บูรพชัยศรี 1,284 ไร่

นายอดิศักดิ์ โภคสกุลนานนท์ 1,197 ไร่ นายทศพร เทพบุตร ถือครองที่ดิน 1,095 ไร่, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 1,095 ไร่, นายสุชน ชามพูนท 1,060 ไร่, นายชัย ชิดชอบ และภรรยา 854 ไร่, นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ 755 ไร่ ฯลฯ

ถือที่ดินเกิน 1 พันไร่กระจุกตัว

"ผศ.ดร.ดวงมณี เลาวกุล" นักวิชาการจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาวิจัยข้อมูลการถือครองที่ดินที่มีโฉนด เมื่อปี 2555 พบว่าประเทศไทยมีที่ดินทั้งหมด 319.82 ล้านไร่ในจำนวนนี้เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิโดยกรมที่ดิน 40% หรือ 130.74 ล้านไร่ ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นที่ป่าสงวนฯ 144.54 ล้านไร่ ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และที่ดินราชพัสดุ 9.78 ล้านไร่

ผลวิจัยระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีผู้ครอบครองที่ดินรวม 1.59 ล้านรายเศษ แบ่งเป็นในนามบุคคลธรรมดา 15.68 ล้านราย และนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯลฯ อีก 2.12 แสนราย ส่วนถ้าจำแนกตามปริมาณการถือครองที่ดิน (ณ ปี 2555) มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประเทศไทยมีผู้ถือครองที่ดินตั้งแต่ 1-10 ตารางวา รวม 2.85 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 1.8% ของทั้งหมด ในจำนวนนี้แบ่งเป็นในนามบุคคลธรรมดา 2.84 แสนรายและนิติบุคคล 1.9 พันราย

ขณะที่ผู้ที่ถือครองที่ดินเกินกว่า 1 พันไร่ขึ้นไป มีจำนวนรวม 837 ราย คิดเป็น 0.01% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 359 ราย และนิติบุคคล 478 ราย สะท้อนถึงการถือครองที่ดินกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนเพียงบางกลุ่ม ส่วนกลุ่มใหญ่คือผู้ที่ถือครองที่ดินตั้งแต่กว่า 1-5 ไร่ มีจำนวน 3.48 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 21.9% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นถือในนามบุคคลธรรมดา 3.43 ล้านราย และในรูปแบบนิติบุคคล 5.09 หมื่นราย


เสนอเพิ่มฐานเก็บภาษีที่ดิน

นางสาวพงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ผู้อำนวยการ กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน องค์กรพัฒนาเอกชน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงสร้างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จัดเก็บสำหรับที่ดินรกร้างไม่ใช้ประโยชน์อัตรา 0.5% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและปรับเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าทุก 3 ปีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2% ถือว่าต่ำไป ไม่น่าจะแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มเศรษฐีได้ เนื่องจากอัตราภาษที่จัดเก็บยังต่ำกว่าราคาเฉลี่ยที่ดินปรับขึ้นต่อไป โดยมีข้อมูลจากผลสำรวจว่าที่ดินทั่วประเทศ ราคาปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 4-6% ดังนั้น การจะทำให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินได้จะต้องปรับอัตราภาษีเพิ่มขึ้นให้ใกล้เคียงกับราคาที่ดินปรับขึ้นเฉลี่ยต่อปีที่ระดับ 4-6% โดยอาจกำหนดเงื่อนไขเฉพาะผู้ที่ถือครองที่ดินเกินกว่ากี่ไร่ขึ้นไป โดยในต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จัดเก็บอัตราประมาณ 5% หรืออาจใช้วิธีกำหนดขอบเขตการถือครองที่ดิน

"อัตราภาษีตามร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯปัจจุบันไม่ตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาที่ดินกระจุกตัวอยู่ อาจใช้วิธีเก็บอัตราภาษีแบบก้าวหน้า เช่น กำหนดขอบเขตที่ดินที่ถือครองหากเกินกว่ากี่ไร่จะต้องเสียภาษีแพงขึ้น" นางสาวพงษ์ทิพย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ศึกษาการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินโดยการสุ่มตัวอย่างที่ดินที่เก็บภาษีในกรุงเทพมหานคร 9 เขต และเปรียบเทียบราคาปานกลางของที่ดินปี 2521-2524 กับราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินปี 2547-2550 พบว่าราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินปี 2547-2550 เพิ่มขึ้นจากราคาปานกลางของที่ดินปี 2521-2524 ตั้งแต่ 4-4,137 เท่า เช่น เขตพระนคร ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 5-19 เท่า, เขตราชเทวี ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 8-30 เท่า, เขตมีนบุรี ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 12-432 เท่า ฯลฯ สะท้อนว่าอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ 0.5-2% ยังต่ำกว่าราคาที่ดินเฉลี่ยที่ปรับขึ้นต่อปี

คลังดัน 1 ปีบังคับใช้ภาษีที่ดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานะปัจจุบัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวถูกบรรจุเป็นหนึ่งในร่างกฎหมายในโรดแมปรื้อโครงสร้างภาษี ที่กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา และจะผลักดันบังคับใช้ภายใน 1 ปีจากนี้ไป จากก่อนหน้านี้ กฎหมายฉบันนี้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตั้งแต่ปี 2554 สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่มีการยุบสภา ส่งผลให้ร่างกฎหมายตกไป

ปั้นรายได้เข้าท้องถิ่น 9 หมื่นล้าน

ในส่วนของอัตราภาษีที่จะจัดเก็บ เบื้องต้นกระทรวงการคลังกำหนดอัตราภาษีไว้ 3 อัตรา

1.อัตราภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วไปไม่เกินร้อยละ 0.5 ของฐานภาษี

2.ที่อยู่อาศัยไม่เกินร้อยละ 0.1 ของฐานภาษี 3.ที่เกษตรกรรมไม่เกินร้อยละ 0.05 ของฐานภาษี

ส่วนภาษีที่จะจัดเก็บจากที่ดินที่ถูกทิ้งรกร้างว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดิน 3 ปีแรก จะจัดเก็บภาษีไม่ต่ำกว่าอัตราภาษีทั่วไปที่คณะกรรมการกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้กำหนดไว้ แต่ไม่เกินร้อยละ0.5 ของฐานภาษี ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา หากยังมิได้ทำประโยชน์อีกให้เสียเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า ทุก 3 ปี แต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของฐานภาษี

โดยกระทรวงการคลังคาดหมายว่า หากสามารถประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้สำเร็จ และจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วงแรก 50% ของอัตราภาษี ตามการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภท จะช่วยให้ท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น 45,124 ล้านบาท จากนั้นหากจัดเก็บ75% ของอัตราภาษีท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่ม 67,686 ล้านบาท และเมื่อจัดเก็บเต็มอัตรา หรือ 100% ท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่มสูงถึงปีละ 90,249 ล้านบาท

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 02:30:49 PM โดย เบิ้ม » บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88276


« ตอบ #23 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 02:37:04 PM »

ที่ดินรกร้างไม่ใช้ประโยชน์  Grin Grin Grin  อยากรู้ว่าเอาอะไรมาเป็นตัวกำหนด

ถ้าที่ดินใหญ่ๆเขาลงต้นไม้ไว้ 100 ต้น เขาบอกเขาใช้ที่ดินปลูกต้นไม้อยู่แล้ว แล้วจะว่าอย่างไร 55555
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
BEAMSOUND
Sr. Member
****

คะแนน -462
ออฟไลน์

กระทู้: 988



« ตอบ #24 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 02:41:58 PM »

ต่างชาติซื้อที่ดินบ้านเราได้หรือยังครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 02:53:28 PM โดย BEAMSOUND - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6602


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #25 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 03:07:36 PM »

ต่างชาติซื้อที่ดินบ้านเราได้หรือยังครับ

ไม่น่าจะได้ครับ แต่ให้เมียคนไทยซื้อได้ครับ 
เว้นแต่ซื้อคอนโด เพื่อนไต้หวันซื้อกันไปเยอะ แถมปล่อยเช่าด้วย
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
BEAMSOUND
Sr. Member
****

คะแนน -462
ออฟไลน์

กระทู้: 988



« ตอบ #26 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 03:12:43 PM »

ต่างชาติซื้อที่ดินบ้านเราได้หรือยังครับ

ไม่น่าจะได้ครับ แต่ให้เมียคนไทยซื้อได้ครับ 
เว้นแต่ซื้อคอนโด เพื่อนไต้หวันซื้อกันไปเยอะ แถมปล่อยเช่าด้วย
เมียฝรั่งนี่เองทำให้ราคาที่ดินแพง  ผมหาซื้อที่ดิน
            เขา ตั้งราคาไว้สูงมาก ไม่กี่วันขายได้ ถามใครซื้อ เขาบอกฝรั่ง หัวเราะร่าน้ำตาริน
             
           
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88276


« ตอบ #27 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 03:16:58 PM »

ต่างชาติซื้อที่ดินบ้านเราได้หรือยังครับ

ไม่น่าจะได้ครับ แต่ให้เมียคนไทยซื้อได้ครับ  
เว้นแต่ซื้อคอนโด เพื่อนไต้หวันซื้อกันไปเยอะ แถมปล่อยเช่าด้วย
เมียฝรั่งนี่เองทำให้ราคาที่ดินแพง  ผมหาซื้อที่ดิน
            เขา ตั้งราคาไว้สูงมาก ไม่กี่วันขายได้ ถามใครซื้อ เขาบอกฝรั่ง หัวเราะร่าน้ำตาริน    
บางที่ถูกมันถูกจริงนิครับ ถ้าจำเป็นต้องใช้ 100 ไร่ 1000 ไร่ บางที่ไกลๆ ลึกๆ ไม่กี่ตัง Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
p@p-boonma
Full Member
***

คะแนน 35
ออฟไลน์

กระทู้: 217



« ตอบ #28 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 07:24:23 PM »

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การผลักดันประกาศบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ... (พร็อพเพอร์ตี้แทกซ์) ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แทนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และ พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 ซึ่งล้าสมัย กำลังถูกจับตามองว่าจะสำเร็จหรือไม่ หลังจากใช้ความพยายามผลักดันมากว่า 15 ปีก็ยังไม่สำเร็จ

ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฐานจัดเก็บภาษีครอบคลุมมากขึ้น ให้ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเพื่อกระจายรายได้ ขณะเดียวกันมีเป้าหมายสำคัญคือลดการกักตุนที่ดินของนายทุน โดยกรณีถือครองที่ดินแต่ปล่อยรกร้างไม่ได้ทำประโยชน์ จะต้องเสียภาษีในอัตราไม่ต่ำ 0.5% ของฐานภาษี (คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน) และกรณีที่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างจะถูกปรับภาษีขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี แต่มีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2% ของฐานภาษี หากผลักดันสำเร็จจะช่วยสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้มาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลศึกษาโดยกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (องค์กรพัฒนาเอกชน) จากการวิจัยและเก็บข้อมูลการถือครองเอกสารสิทธิ จากสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดิน พบว่าตระกูลดัง เศรษฐี กลุ่มธุรกิจ กลุ่มทุน ถือครองที่ดินทั้งแปลงเล็กแปลงใหญ่จำนวนมาก กระจายอยู่หลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว

วิธีการถือครองมีทั้งทยอยซื้อที่ดินเก็บไว้ในมือ โดยค่อย ๆ สะสมจากแปลงเล็กเป็นแปลงใหญ่ และการกว้านซื้อที่โดยอาศัยกลุ่มนายหน้าและเครือข่ายธุรกิจ ทั้งที่ดินว่างเปล่า ที่ทำการเกษตร ที่นา ฯลฯ ขณะเดียวกันจากเดิมที่มักปล่อยที่ดินที่ซื้อไว้ในพอร์ตเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มเศรษฐกิจ ตระกูลดังแห่ลงทุนด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าดินทำการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน รวมทั้งพืชสวน พืชไร่หลากหลายชนิด ฯลฯ รับยุคบูมยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเร่งใช้ประโยชน์ที่ดินแทน หลังเริ่มมีกระแสผลักดันจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าสำหรับที่ดินที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า

สอดรับกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ตระกูลดัง หลายกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการขยายฐานสู่ธุรกิจการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มตระกูลสิริวัฒนภักดี เจียรวนนท์ พูลวรลักษณ์ จุฬางกูร เตชะณรงค์ ภิรมย์ภักดี ฯลฯ ขณะที่ตระกูลนักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ตลอดจนนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัด ก็หันมารุกด้านการเกษตรรับกระแสบูมจำนวนมากเช่นเดียวกัน

สิริวัฒนภักดี6.3 แสนไร่

ข้อมูลจากการสำรวจศึกษาระบุว่า ในผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศ ตระกูล "สิริวัฒนภักดี" ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น็อนแอลกอฮอล์ พัฒนาที่ดิน การเกษตร ฯลฯ น่าจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศมากที่สุดกว่า 6.3 แสนไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่าง ๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์ อาทิ ที่ดินในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีรวม 1.2 หมื่นไร่, ที่ดินในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1.5 หมื่นไร่ ฯลฯ

ก่อนหน้านี้ นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด บุตรเขยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตระกูลสิริวัฒนภักดีมีที่ดินทั่วประเทศอยู่หลายแสนไร่จริง แต่ประเมินจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ โดยหนึ่งในแปลงใหญ่อยู่ที่ชะอำ 1.2 หมื่นไร่ เตรียมแบ่งส่วนแรกกว่า 1 พันไร่พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ สนามกอล์ฟ โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก

"ซีพี-สหอุตสาหกรรมฯ"ที่เพียบ

ขณะที่ "ตระกูลเจียรวนนท์" ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่มซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม บมจ.ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 หมื่นไร่

"บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดิน 4.44 หมื่นไร่ รองลงไปคือ "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ปัจจุบันมีที่ดินรวมประมาณ 3 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้ราว 7% ปล่อยเช่าสร้างรายได้เชิงพาณิชย์

บมจ.ไออาร์พีซี ผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ มีที่ดินรวมประมาณ 1.7 หมื่นไร่ แปลงใหญ่อยู่ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา "ตระกูลมาลีนนท์" กลุ่มทุนธุรกิจสื่อสารถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่ แลนด์ลอร์ดอีกราย คือ "นายแพทย์บุญ วนาสิน" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี มีที่ดินในมือประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1 พันไร่

พูลวรลักษณ์-จุฬางกูร ติดโผ

ด้าน "วิชัย พูลวรลักษณ์" อดีตผู้ก่อตั้งโรงภาพยนตร์เครืออีจีวี ซึ่งที่ผ่านมาเบนเข็มมารุกธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม "วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้" ครอบครองอยู่ 7-8 พันไร่ อาทิ ในจังหวัดกาญจนบุรีประมาณ 3 พันไร่ฯลฯ ตระกูล "จุฬางกูร" อาณาจักรซัมมิท คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่วงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ มีที่ดินทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 5-6 พันไร่ อาทิ สนามกอล์ฟซัมมิทฯ ที่บางนาและเชียงใหม่, ที่ดิน 100 ไร่ในจังหวัดภูเก็ต ฯลฯ และ "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" ผู้ก่อตั้งโบนันซ่า มีที่ดินในเขาใหญ่รวม 5 พันไร่

นอกจากนี้พบว่านักธุรกิจในวงการพัฒนาที่ดินอย่าง "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่มีธุรกิจให้บริการเดินรถไฟฟ้าและธุรกิจพัฒนาที่ดิน ก็มีที่ดินสะสมไม่ต่ำกว่า 1 พันไร่ เช่นเดียวกับ "บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" มีที่ดินทั่วประเทศรวมประมาณ 2 พันไร่

เช่นเดียวกับตระกูล "ภิรมย์ภักดี" เจ้าของธุรกิจเบียร์สิงห์ ที่บุกเบิกธุรกิจด้านการเกษตรมานาน และปัจจุบันขยับมารุกธุรกิจอสังหาฯเต็มตัว ถือครองที่ดินทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 3-4 พันไร่ โดย "ปิยะ ภิรมย์ภักดี"เจ้าของไร่พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีที่ดินในเขาใหญ่ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันไร่ ขณะที่ตระกูล "กฤษดานนท์" อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.กฤษดานครครอบครองที่ดินย่านบางนา-ตราด ประมาณ 4,000 ไร่

เปิดโผที่ดินนักการเมือง

ส่วนในกลุ่มนักการเมือง จากการสำรวจพบผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก อาทิ นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย2,030 ไร่, นายบรรหาร ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทย 2 พันไร่ อยู่ในบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ และนนทบุรี, นายเสนาะ เทียนทอง และนางอุไรวรรณ เทียนทอง 1,900 ไร่, นายอนุชา บูรพชัยศรี 1,284 ไร่

นายอดิศักดิ์ โภคสกุลนานนท์ 1,197 ไร่ นายทศพร ถือครองที่ดิน 1,095 ไร่, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 1,095 ไร่, นายสุชน ชามพูนท 1,060 ไร่, นายชัย ชิดชอบ และภรรยา 854 ไร่, นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ 755 ไร่ ฯลฯ

ถือที่ดินเกิน 1 พันไร่กระจุกตัว

"ผศ.ดร.ดวงมณี เลาวกุล" นักวิชาการจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาวิจัยข้อมูลการถือครองที่ดินที่มีโฉนด เมื่อปี 2555 พบว่าประเทศไทยมีที่ดินทั้งหมด 319.82 ล้านไร่ในจำนวนนี้เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิโดยกรมที่ดิน 40% หรือ 130.74 ล้านไร่ ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นที่ป่าสงวนฯ 144.54 ล้านไร่ ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และที่ดินราชพัสดุ 9.78 ล้านไร่

ผลวิจัยระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีผู้ครอบครองที่ดินรวม 1.59 ล้านรายเศษ แบ่งเป็นในนามบุคคลธรรมดา 15.68 ล้านราย และนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯลฯ อีก 2.12 แสนราย ส่วนถ้าจำแนกตามปริมาณการถือครองที่ดิน (ณ ปี 2555) มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประเทศไทยมีผู้ถือครองที่ดินตั้งแต่ 1-10 ตารางวา รวม 2.85 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 1.8% ของทั้งหมด ในจำนวนนี้แบ่งเป็นในนามบุคคลธรรมดา 2.84 แสนรายและนิติบุคคล 1.9 พันราย

ขณะที่ผู้ที่ถือครองที่ดินเกินกว่า 1 พันไร่ขึ้นไป มีจำนวนรวม 837 ราย คิดเป็น 0.01% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 359 ราย และนิติบุคคล 478 ราย สะท้อนถึงการถือครองที่ดินกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนเพียงบางกลุ่ม ส่วนกลุ่มใหญ่คือผู้ที่ถือครองที่ดินตั้งแต่กว่า 1-5 ไร่ มีจำนวน 3.48 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 21.9% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นถือในนามบุคคลธรรมดา 3.43 ล้านราย และในรูปแบบนิติบุคคล 5.09 หมื่นราย


เสนอเพิ่มฐานเก็บภาษีที่ดิน

นางสาวพงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ผู้อำนวยการ กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน องค์กรพัฒนาเอกชน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงสร้างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จัดเก็บสำหรับที่ดินรกร้างไม่ใช้ประโยชน์อัตรา 0.5% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและปรับเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าทุก 3 ปีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2% ถือว่าต่ำไป ไม่น่าจะแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มเศรษฐีได้ เนื่องจากอัตราภาษที่จัดเก็บยังต่ำกว่าราคาเฉลี่ยที่ดินปรับขึ้นต่อไป โดยมีข้อมูลจากผลสำรวจว่าที่ดินทั่วประเทศ ราคาปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 4-6% ดังนั้น การจะทำให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินได้จะต้องปรับอัตราภาษีเพิ่มขึ้นให้ใกล้เคียงกับราคาที่ดินปรับขึ้นเฉลี่ยต่อปีที่ระดับ 4-6% โดยอาจกำหนดเงื่อนไขเฉพาะผู้ที่ถือครองที่ดินเกินกว่ากี่ไร่ขึ้นไป โดยในต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จัดเก็บอัตราประมาณ 5% หรืออาจใช้วิธีกำหนดขอบเขตการถือครองที่ดิน

"อัตราภาษีตามร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯปัจจุบันไม่ตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาที่ดินกระจุกตัวอยู่ อาจใช้วิธีเก็บอัตราภาษีแบบก้าวหน้า เช่น กำหนดขอบเขตที่ดินที่ถือครองหากเกินกว่ากี่ไร่จะต้องเสียภาษีแพงขึ้น" นางสาวพงษ์ทิพย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ศึกษาการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินโดยการสุ่มตัวอย่างที่ดินที่เก็บภาษีในกรุงเทพมหานคร 9 เขต และเปรียบเทียบราคาปานกลางของที่ดินปี 2521-2524 กับราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินปี 2547-2550 พบว่าราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินปี 2547-2550 เพิ่มขึ้นจากราคาปานกลางของที่ดินปี 2521-2524 ตั้งแต่ 4-4,137 เท่า เช่น เขตพระนคร ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 5-19 เท่า, เขตราชเทวี ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 8-30 เท่า, เขตมีนบุรี ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 12-432 เท่า ฯลฯ สะท้อนว่าอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ 0.5-2% ยังต่ำกว่าราคาที่ดินเฉลี่ยที่ปรับขึ้นต่อปี

คลังดัน 1 ปีบังคับใช้ภาษีที่ดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานะปัจจุบัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวถูกบรรจุเป็นหนึ่งในร่างกฎหมายในโรดแมปรื้อโครงสร้างภาษี ที่กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา และจะผลักดันบังคับใช้ภายใน 1 ปีจากนี้ไป จากก่อนหน้านี้ กฎหมายฉบันนี้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตั้งแต่ปี 2554 สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่มีการยุบสภา ส่งผลให้ร่างกฎหมายตกไป

ปั้นรายได้เข้าท้องถิ่น 9 หมื่นล้าน

ในส่วนของอัตราภาษีที่จะจัดเก็บ เบื้องต้นกระทรวงการคลังกำหนดอัตราภาษีไว้ 3 อัตรา

1.อัตราภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วไปไม่เกินร้อยละ 0.5 ของฐานภาษี

2.ที่อยู่อาศัยไม่เกินร้อยละ 0.1 ของฐานภาษี 3.ที่เกษตรกรรมไม่เกินร้อยละ 0.05 ของฐานภาษี

ส่วนภาษีที่จะจัดเก็บจากที่ดินที่ถูกทิ้งรกร้างว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดิน 3 ปีแรก จะจัดเก็บภาษีไม่ต่ำกว่าอัตราภาษีทั่วไปที่คณะกรรมการกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้กำหนดไว้ แต่ไม่เกินร้อยละ0.5 ของฐานภาษี ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา หากยังมิได้ทำประโยชน์อีกให้เสียเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า ทุก 3 ปี แต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของฐานภาษี

โดยกระทรวงการคลังคาดหมายว่า หากสามารถประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้สำเร็จ และจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วงแรก 50% ของอัตราภาษี ตามการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภท จะช่วยให้ท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น 45,124 ล้านบาท จากนั้นหากจัดเก็บ75% ของอัตราภาษีท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่ม 67,686 ล้านบาท และเมื่อจัดเก็บเต็มอัตรา หรือ 100% ท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่มสูงถึงปีละ 90,249 ล้านบาท

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576
เกษตรกรผู้ยากไร้ มีเมียเป็น ส.ส.ชื่อ อัญชลี ไม่มีที่ดินทำกินต้องไปขอรับที่ดิน สปก.4-01 ในสมัยที่กำนันเทพเป็น รมว.เกษตร แบร่  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 07:29:23 PM โดย p@p-boonma » บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10196
ออฟไลน์

กระทู้: 47075


M85.ss


« ตอบ #29 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 08:35:38 PM »

น่าจะจำกัดการถือครองที่ิดินบ้างนะครับถ้าตรวจสอบแล้วว่าเกินยึดเข้าหลวง  หมื่นไร่นี่ก้็เยอะแล้วครับ
เข้าข่ายคอมมูนิตส์แล้วครับ ต้องดูด้วยว่าที่เขาได้มาเขาได้มาจากการซื้อ บางทีตัวเราเองนั่นแหละเป็นผู้สนับสนุน คิก คิก
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.129 วินาที กับ 21 คำสั่ง