๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: BEST GUN ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:30:12 PM



หัวข้อ: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: BEST GUN ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:30:12 PM
ขอเรียนถามท่านผู้รู้ในเรื่อง ใบ ป.4 ที่ระบุว่า "ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน"อย่างเดียว กับที่ระบุบนใบ ป.4 ว่า"อนุญาตให้มีไว้เพื่อการกีฬา"(ตัวอักษรสีแดง) มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ
1) การขออนุญาต ป.3 แตกต่างกันอย่างไร
2) การมีผลในทางกฎหมาย ของใบอนุญาต ป.4 แตกต่างกันอย่างไรครับ

ปล. เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ท่านผู้ไม่รู้อีกหลายๆท่านครับ...ขอบพระคุณ ::014::


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: outpost 1969 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:39:43 PM
 ::014::สวัสดีครับ ::014::

 ::002::ความรู้ใหม่! ฟังด้วยคนครับ ::005::


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: BEST GUN ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:46:29 PM
เพราะปัจจุบันมีการสนับสนุนการกีฬากันมากขึ้นครับ...ตลาดอาวุธปืนมือสองที่ระบุใน ป.4 ว่า"อนุญาตให้ใช้เพื่อการกีฬา" ก็มีมากครับ(เห็นแล้วนำลายหก ::008:: ::005:: ) เดี๋ยวจะใช้กันผิดประเภทเลยอยากตั้งกระทู้ถามหน่อยครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: Nato .357 ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 11:21:09 PM
อยากทราบว่าขั้นตอนในการขออนุญาตมีปืนต้องทำอย่างไรครับ


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: BEST GUN ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 09:22:30 AM
อยากทราบว่าขั้นตอนในการขออนุญาตมีปืนต้องทำอย่างไรครับ
เอกสารประกอบคำขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน
กรณีเป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการอื่นๆ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
1. บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรพนักงานองค์กรของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา (รับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผล
ความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน ซึ่งออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
4. ผู้ออกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดระดับผู้อำนวยการกอง หรือ
เทียบเท่าขึ้นไป
5. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป (ระดับ
ชำนาญการพิเศษ หรือระดับ 8) ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
6. หนังสือตอบรับการเข้าร่วมโครงการ (กรณีที่ขอซื้ออาวุธปืนจากโครงการสวัสดิการต่าง ๆ)
7. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอซื้ออาวุธปืนเพื่อการกีฬา หรือขอซื้ออาวุธปืนชนิดเดี่ยวไรเฟิลทุกขนาด
และอาวุธปืนทุกชนิด ขนาด .40 , .44 , .45 , .357)
8. หลักฐานที่แสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
9. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใด
ให้บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึก
ประจำวันดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
กรณีเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ
1. บัตรประจำตัวข้าราชการ (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา (รับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผล
ความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน ซึ่งออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
4. ผู้ออกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาอากาศเอก
นาวาเอก หรือพันตำรวจเอก ขึ้นไป
5. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาอากาศเอก นาวาเอก หรือพันตำรวจเอก
ขึ้นไป ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
6. หนังสือตอบรับการเข้าร่วมโครงการ (กรณีขอซื้ออาวุธปืนจากโครงการสวัสดิการต่าง ๆ)
7. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอซื้ออาวุธปืนเพื่อการกีฬา)
/8. หลักฐาน.....

-2-
8. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
9. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใด
ให้บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึก
ประจำวันดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
กรณีเป็นประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น
1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หลักฐานประกอบอาชีพ เช่น
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือใบทะเบียนพาณิชย์
- หากประกอบอาชีพรับจ้าง หรือเป็นลูกจ้าง ต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่เงินเดือน
จากผู้มีอำนาจจัดการของกิจการนั้น หรือจากเจ้าของกิจการแล้วแต่กรณี
- หากมิได้มีอาชีพรับจ้างหรือมิได้เป็นลูกจ้าง เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ ค้าขายหรือเร่ขายของ
หรือรับเหมาต่าง ๆ โดยไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ ให้ถ่ายภาพกิจการนั้น ๆ 2-4 ภาพ ประกอบการขออนุญาต
4. หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน โดยผู้รับรองต้องเป็น
ข้าราชการตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไป (ระดับ 6 ขึ้นไป) หากผู้รับรองเป็นทหาร ตำรวจ ผู้นั้นต้องมียศตั้งแต่
พันโท นาวาอากาศโท นาวาโท หรือพันตำรวจโท ขึ้นไป และสำเนาบัตรข้าราชการของผู้รับรองแนบเรื่องด้วย
(หนังสือรับรองนี้ต้องออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน) (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ในเว็ปไซต์นี้)
5. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอซื้ออาวุธปืนเพื่อการกีฬา หรือขอซื้ออาวุธปืนชนิดเดี่ยวไรเฟิลทุกขนาด
กึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 , ลูกโม่ ขนาด .40 ,.44,.357)
6. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
7. สำเนาหลักทรัพย์ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน รายการเงินฝากธนาคาร (Statement) สำเนาสมุด
บัญชีธนาคาร หรือหลักฐานอื่น
8. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใด
ให้บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึก
ประจำวันดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
ผมตอบไปพลางๆก่อนนะครับ :VOV: ::008::
 ที่มา:
http://www.dopaservice.com/dopa/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&group_id=1&data_group_id=1 (http://www.dopaservice.com/dopa/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&group_id=1&data_group_id=1)


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: maxs17 ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 09:31:22 AM
มาหาความรู้ครับ


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: BEST GUN ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 09:35:11 AM
เอกสารประกอบคำขออนุญาตรับโอนอาวุธปืน (ซื้อต่อจากบุคคลอื่น)
กรณีเป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการอื่นๆ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
1. บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรพนักงานองค์กรของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา (รับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผล
ความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน ซึ่งออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
4. ผู้ออกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดระดับผู้อำนวยการกอง หรือ
เทียบเท่าขึ้นไป
5. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป (ระดับ
ชำนาญการพิเศษ หรือระดับ 8) ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
6. สำเนาใบ ป.4 ของอาวุธปืนกระบอกที่จะขอรับโอน
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย)
8. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอซื้ออาวุธปืนเพื่อการกีฬา หรือขอซื้ออาวุธปืนชนิดเดี่ยวไรเฟิลทุกขนาด
และอาวุธปืนทุกชนิด ขนาด .40 , .44 , .45 , .357)
9. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
10. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใดให้
บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึกประจำวัน
ดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
หมายเหตุ ภายหลังที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ได้รับ ป.3 แล้ว) ผู้โอน (ผู้ขาย) กับผู้ขอรับโอน
ต้องบันทึกการยินยอมการโอน ต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต (ป.4) (สลักหลังใบ ป.4) ว่า โอนปืน
กระบอกนี้ ให้ใครมีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
กรณีเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ
1. บัตรประจำตัวข้าราชการ (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา (รับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผล
ความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน ซึ่งออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
4. ผู้ออกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาอากาศเอก
นาวาเอก หรือพันตำรวจเอก ขึ้นไป
/5. กรณี.....

-2-
5. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาอากาศเอก นาวาเอก หรือพันตำรวจเอก
ขึ้นไป ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
6. สำเนาใบ ป.4 ของอาวุธปืนกระบอกที่จะขอรับโอน
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย)
8. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรองจาก
สนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอรับโอนเพื่อการกีฬา)
9. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
10. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใดให้
บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึกประจำวัน
ดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
หมายเหตุ ภายหลังที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ได้รับ ป.3 แล้ว) ผู้โอน (ผู้ขาย) กับผู้ขอรับโอน
ต้องบันทึกการยินยอมการโอน ต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต (ป.4) (สลักหลังใบ ป.4) ว่า โอนปืน
กระบอกนี้ ให้ใครมีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
กรณีเป็นประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น
1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หลักฐานประกอบอาชีพ เช่น
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือใบทะเบียนพาณิชย์
- หากประกอบอาชีพรับจ้าง หรือเป็นลูกจ้าง ต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่เงินเดือน
จากผู้มีอำนาจจัดการของกิจการนั้น หรือจากเจ้าของกิจการแล้วแต่กรณี
- หากมิได้มีอาชีพรับจ้างหรือมิได้เป็นลูกจ้าง เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ ค้าขายหรือเร่ขายของ
หรือรับเหมาต่าง ๆ โดยไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ ให้ถ่ายภาพกิจการนั้น ๆ 2-4 ภาพ ประกอบการขออนุญาต
4. หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน โดยผู้รับรองต้องเป็น
ข้าราชการตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไป (ระดับ 6 ขึ้นไป) หากผู้รับรองเป็นทหาร ตำรวจ ผู้นั้นต้องมียศตั้งแต่
พันโท นาวาอากาศโท นาวาโท หรือพันตำรวจโท ขึ้นไป และสำเนาบัตรข้าราชการของผู้รับรองแนบเรื่องด้วย
(หนังสือรับรองนี้ต้องออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน) (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ในเว็ปไซต์นี้)
/5. สำเนาบัตร.....

-3-
5. สำเนาใบ ป.4 ของอาวุธปืนกระบอกที่จะขอรับโอน
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย)
7. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอรับโอนเพื่อการกีฬา หรือขอรับโอนอาวุธปืนชนิดเดี่ยวไรเฟิลทุกขนาด
กึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 , ลูกโม่ ขนาด .40 ,.44,.357)
8. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
9. สำเนาหลักทรัพย์ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน รายการเงินฝากธนาคาร (Statement) สำเนาสมุดบัญชี
ธนาคาร หรือหลักฐานอื่น
10. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใดให้
บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึกประจำวัน
ดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
หมายเหตุ ภายหลังที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ได้รับ ป.3 แล้ว) ผู้โอน (ผู้ขาย) กับผู้ขอรับโอน
ต้องบันทึกการยินยอมการโอน ต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต (ป.4) (สลักหลังใบ ป.4) ว่า โอนปืน
กระบอกนี้ ให้ใครมีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
ที่มา:http://www.dopaservice.com/eservice/downdoc/1_1_03_gun.pdf (http://www.dopaservice.com/eservice/downdoc/1_1_03_gun.pdf)


หัวข้อ: Re: ข้อสงสัยในใบ ป.4 ???(ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน)
เริ่มหัวข้อโดย: BEST GUN ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 09:38:41 AM
เพิ่มเติมอีกนิดเป็นความรู้ครับ :VOV: ::008::
เอกสารประกอบคำขอสลักหลังตัดโอนใบอนุญาต (แบบ ป.4)
........................................................... ............................
1. กรณีที่เจ้าของอาวุธปืนยังมีชีวิตอยู่ ใช้เอกสารหลักฐานดงัต่อไปนี้
1.1 เอกสารหลักฐานของผู้รับโอน
(1) สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรประจำตัวข้าราชการ พนักงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
หรือบัตรประจำตัวประชาชน แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ฉบับ
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
(3) ใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) ทั้ง 2 ตอน
1.2 เอกสารหลักฐานของผู้โอน
(1) สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรประจำตัวข้าราชการ พนักงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
หรือบัตรประจำตัวประชาชน แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ฉบับ
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
(3) ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4)
(4) นำอาวุธปืนมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
(5) กรณีผู้โอนเป็นนิติบุคคล ให้ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตร
ประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลทุกคน
หมายเหตุ ผู้โอนและผู้รับโอนต้องมาแสดงเจตนาการโอน (ลงชื่อสลักหลังใบอนุญาต (แบบ ป.4))
ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีผู้โอนเป็นนิติบุคคลให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลทุกคนลงชื่อ
สลักหลังใบอนุญาต (แบบ ป.4) พร้อมประทับตรานิติบุคคล
2. กรณีที่เจ้าของอาวุธปืนเสียชีวิต ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
2.1 เอกสารหลักฐานของผู้รับโอน
(1) สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรประจำตัวข้าราชการ พนักงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
หรือบัตรประจำตัวประชาชน แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ฉบับ
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
(3) ใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) ทั้ง 2 ตอน
2.2 เอกสารหลักฐานของผู้โอน
(1) สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรประจำตัวข้าราชการ พนักงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
หรือบัตรประจำตัวประชาชน แล้วแต่กรณี ของผู้จัดการมรดก จำนวน 1 ฉบับ
(2) สำเนาทะเบียนบ้านของผู้จัดการมรดก จำนวน 1 ฉบับ
(3) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก จำนวน 1 ฉบับ
(4) สำเนาใบมรณบัตร (กรณีที่ไม่มีใบมรณบัตรให้ใช้หนังสือรับรองการตาย) จำนวน 1 ฉบับ
(5) ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4)
(6) นำอาวุธปืนมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
หมายเหตุ ผู้โอนและผู้รับโอนต้องมาแสดงเจตนาการโอน (ลงชื่อสลักหลังใบอนุญาต (แบบ ป.4))
ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีไม่มีผู้จัดการมรดก ให้ใช้ประกาศการรับมรดก 30 วัน จากอำเภอที่ออก
ใบอนุญาต (แบบ ป.3) ประกอบเพิ่มเติม
ที่มา:http://www.dopaservice.com/eservice/downdoc/1_1_9_recp4.pdf (http://www.dopaservice.com/eservice/downdoc/1_1_9_recp4.pdf)