๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

ถ้าต้องการลดแรงรีคอยล์ในปืน 1911
โดยการเปลี่ยนสปริงรีคอยล์จาก 16 เป็น 12 ปอนด์และใส่บัฟเฟอร์ด้วย
จะช่วยได้มากน้อยขนาดไหนครับ

ช่วยไม่ได้เลยครับถ้าใช้กระสุนแรงเท่าเดิม  ปืนจะพังเอา

ลองเปลี่ยนการกริ้ปปืนดูครับ ไม่ได้ช่วยเรื่องลดแรงรีคอยล์ แต่สามารถควบคุมมันได้ระดับหนึ่ง ปืน1911 5นิ้ว กับกระสุน 230เกรน ในความคิดส่วนตัวของผม คิดว่าเป็นอะไรที่เข้ากันมากๆ เป็นรีคอยล์ที่สนุกที่สุดแล้ว

ยิงบ่อยๆแล้วจะชินไปเอง ความจริงแล้วมันก้ไม่ได้รุนแรงอะไรหนักหนา กริปปืนแน่นๆ

ผมหัดสาวๆยิงปืนหลายคนพอถึงยิงออโตก้ฝึกด้วย 1911 .45 นี่แหละ อ้อสปริง 12 lbs. มันจะถอยเร็วและกระแทกแรงขึ้นนะ

ผมว่า เสน่ห์ของ .45 อยู่ที่แรงกระทุ้งที่อุ้งมือ ที่บอกให้รู้ว่าปืนที่อยู่ในมือมันหนักหน่วงดี เหมือนเจอคู่ปรับที่มีลำหักลำโค่น ไม่เบาเหมือนลูกกรดที่ดูไม่น่าเกรงขาม ซ้อมยิงบ่อย ๆเดี๋ยวก็ชิน แรงรีคอยล์ของ .45 ยังดีกว่าลูกซองเยอะครับ

ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเพิ่มความแข็งของสปริงรีคอยล์ แล้วลดสปริงนกสับครับ

คือผมต้องการเอาไปใช้ยิงเร็วโดยใช้กระสุนซ้อม .45 หัวตะกั่ว 200  เกรนอย่างเดียว คงไม่ใช้กระสุนจริง
อยากจะลดแรงรีคอยล์เพื่อจับศูนย์หน้าได้เร็วขึ้น เห็นว่าถ้าใช้สปริงรีคอยล์เดิมหลังจากสไลด์ถอยแล้วกลับมาจะแรง
ทำให้ศูนย์หน้าหนีไปไกล แต่สไลด์ช่วงถอยกระแทกโครงปืนก็แรงขึ้นถ้าเปลี่ยนสปริงอ่อนลงจึงใส่บัฟเฟอร์เพื่อช่วยลดแรงกระแทก กะว่าจะเปลี่ยนทุกๆ 300 นัดครับ
ส่วนกริฟปืนจะบีบซ้าย 70% ขวา 30%
ท่านใดมีวิธีอื่นๆฝากแลกเปลี่ยนความรู้จะขอบคุณมากเลยครับ

เคยแข่งยิง สั้นยิงเร็ว 5 นัด 8 วิ ระยะ 15 เมตร มา (ตอนนี้เลิกยิงแล้ว)

1911 ถ้าแถวเดี่ยว ยิงไม่ได้ดีครับ ยังไงๆก็ไม่ได้ดี เพราะตัวเบาไป รีคอยเยอะไป สำหรับการจับเป้ายิงเร็วแบบนี้

ที่ผมเคยใช้และยิงได้ดีมากๆคือ STI ครับ ที่สรีระของเขาถูกฝาถูกตัวที่สุด

ใช้ของเดิมดีที่สุดครับ การปรับแต่งปืนกรณีนี้ง่ายที่สุดคือเปลี่ยนกริ๊บให้เราถนัดที่สุด แล้วก็เริ่ม ฝึก ฝึก ฝึก และ ฝึก

อยากทราบว่า ถ้าไปใช้พวกparaordnanceจะช่วยกระจายรีคอยได้ดีกว่าstiไหมครับ เห็นว่าด้ามมันอ้วนเหมือนกัน

ไม่แน่ใจครับ เพราะยังไม่เคยเอา พาราไปยิง 5 นัด 8 วิ

ถ้าจับความรู้สึก ผมก็ว่า STI ดีกว่าเพราะด้ามโพลิเมอร์มันมีความหยุ่นตัวมากกว่าโครงเหล็กทั้งโครงของพารา

ในกระบวน 1911 แม็กฯ สองแถวด้วยกัน  STI ด้ามจับถนัดที่สุดครับ  เหลี่ยมด้านหลังมันรับกับมือเราพอดี

ปืนเดิมๆ ไม่ต้องแต่งอะไรเลยดีที่สุดครับ 8)

รีคอยล์สปริง 12-13 ปอนด์ (กับสปริงนก 17 ปอนด์) ใช้ได้ครับ อย่าต่ำกว่านี้เพราะจะไม่มีแรงดันกระสุนเข้ารังเพลิงตอนที่เริ่มสกปรก
และควรหากระสุน 180-185 เกรนมายิงแทน 200 เกรน
พวก IPSC เคยทดลองใช้จารบีพิเศษ โป๊ะไว้ที่สันขัดกลอนกับขาลำกล้อง ช่วยไม่ให้ปืนหัวทิ่มตอนสไลด์เข้าที่ เอาไปทดลองทำดูก็ได้ครับ

พวก IPSC มีอะไรที่เป็นพิเศษนี่ลองทั้งนั้น แต่ละท่านนี่กล้ามเนื้อมือแข็งแรงยังกะคีมล๊อค  เอเดี๋ยวนี้ยังเอา Teflon เคลือบหัวกันอยู่หรือเปล่า  ::005::

ปรับตัวเองดีที่สุดครับ  ::014::

จะลองดูครับ
ขอบคุณมากครับ

แรงรีคอยล์ขึ้นอยู่กับความยาวของขนาดลำกล้องด้วยไหมครับ...

ใช่ครับ 1911 ตัวเต็ม 5 นิ้ว สปริงอยู่ที่ 16 ปอนด์

ถ้าเป็นตัว 3.5 นิ้ว สปริงอยู่ที่ 22 ปอนด์ครับ

ผมเอา flat bottom firing pin stop plate มาใส่กับ officer นึกว่าจะยิงนิ่มขึ้นมันดิ้นกว่าเดิมอีกเลยต้องถอดออก

งั้นผมงงเอง รูเกอร์SR1911 สปริงเดิม16ปอนด์

ผมซื้อสปริงชุดละ3ตัวมา 16 18 20 ผมดันใส่16ปอนด์เหมือนเดิม

แน่นอนครับ
1 ลำกล้องยาวขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น ปลดกลอนช้าลง  ฆ่าแรงรีคอยล์ได้มากขึ้น
2 สไลด์ยาวขึ้นด้วย น้ำหนักเพิ่มขึ้น ถอยช้าลง

เเละค่าความเเข็งของสปริงลีคอยล์มีส่วนด้วยหรือปล่าวครับ

ขอบคุณท่านผู้การครับ เรื่องสปริงของพี่บุญ

หน้าที่สำคัญของรีคอยล์สปริงคือการดันกระสุนเข้ารังเพลิง
ส่วนการต้านแรงรีคอยล์  รีคอยล์สปริงก็ทำหน้าที่นี้ด้วย  แต่สปริงนกจะมีบทบาทตรงนี้มากกว่ารีคอยล์สปริง

หน้าที่สำคัญของรีคอยล์สปริงคือการดันกระสุนเข้ารังเพลิง
ส่วนการต้านแรงรีคอยล์  รีคอยล์สปริงก็ทำหน้าที่นี้ด้วย  แต่สปริงนกจะมีบทบาทตรงนี้มากกว่ารีคอยล์สปริง
[/quote]
ถามเพิ่มเติมครับ
การปาดหรือเจาะสไลด์เพื่อให้น้ำหนักสไลด์เบาลง
จะช่วยให้แรงรีคอยย์ลดลงมั้ยครับ

ถามเพิ่มเติมครับ
การปาดหรือเจาะสไลด์เพื่อให้น้ำหนักสไลด์เบาลง
จะช่วยให้แรงรีคอยย์ลดลงมั้ยครับ
[/quote]

เป็นคำถามแบบย้อนศรนะครับ
เขาลดน้ำหนักสไลด์กันเพราะรีคอยล์ลดลงกว่าเดิม  เช่นใช้กระสุนอ่อนลง หรือติดคอมพ์  พอลดรีคอยล์สปริงแล้วฟังชั่นผิดปกติ  ถอยช้า ไม่ค่อยมีแรงปิดท้ายรังเพลิงจึงได้ลดน้ำหนักสไลด์

เป็นคำถามแบบย้อนศรนะครับ
เขาลดน้ำหนักสไลด์กันเพราะรีคอยล์ลดลงกว่าเดิม  เช่นใช้กระสุนอ่อนลง หรือติดคอมพ์  พอลดรีคอยล์สปริงแล้วฟังชั่นผิดปกติ  ถอยช้า ไม่ค่อยมีแรงปิดท้ายรังเพลิงจึงได้ลดน้ำหนักสไลด์
[/quote]



ผมพยายามคิดตามนะครับ แสดงว่า ถ้าลดน้ำหนักสไลด์ลง จะทำให้แรงต้านรีคอยล์ลดลง สไลด์ก็จะถอยเร็วขึ้นและแรงสะบัดจะมากขึ้นใช่ไหมครับ

ผมพยายามคิดตามนะครับ แสดงว่า ถ้าลดน้ำหนักสไลด์ลง จะทำให้แรงต้านรีคอยล์ลดลง สไลด์ก็จะถอยเร็วขึ้นและแรงสะบัดจะมากขึ้นใช่ไหมครับ
[/quote]

รีคอยล์เท่าเดิมครับ  เป็นไปตามกฎข้อ 3 ของนิวตัน แอ็คชั่นเท่ากับรีแอ็คชั่น หัวกระสุนมีแรงไปข้างหน้าเท่าไหร่ ตัวปืนก็มีแรงถอยมาข้างหลังเท่านั้น
แต่เราจะ "รู้สึก" ว่ามีแรงกระแทกมากขึ้น  เพราะมวลที่ช่วยดูดซับแรงรีคอยล์ลดลง รีคอยล์มาถึงเร็วขึ้น
ถ้าเราลดมวลทางด้านตัวปืนให้เหลือเท่ากับหัวกระสุนปืน (เป็นเพียงสมมุติฐาน ข้อเท็จจริงเป็นไปไม่ได้) เราก็จะมีอาการเดียวกับคนถูกหัวกระสุนนั่นเอง