ถ้าเปรียบเทียบขนาดปืนกระสุน .380 และ .25 และปืนขนาด .380 และ .25
ให้มองภาพรถยนต์โฟลคเดอะบิทเทิ้ลเป็นขนาด .25 รถยนต์โตโยต้าซูป้าเป็นขนาด .380 ก็น่าจะพอเข้าใจได้เป็นแนวทางครับ
คนที่เล่นปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน บางท่านส่วนใหญ่ไม่ได้มองราคาของลูกเป็นที่ตั้งครับ เอาแค่การใช้งานสะดวกตามที่ตนชอบเท่านั้น (ผมก็อยู่ในกลุ่มนี้)
หากเราเอาวิชาการตลาดในหัวข้อ Product Categories (Category Theory) มาวิเคราะห์อีกนิดนึง น่าจะมีเหตุผลอย่างมากครับ
เรื่องลูกหายาก ผมอยู่ กทม. หาลูกได้ไม่ยากเลยครับ แต่ถ้าพี่ๆอยู่ ตจว. ผมว่าถ้ามาเที่ยวที่ กทม. ทั้งทีก็ซื้อตุนไว้เลย ซัก 2-3 กล่อง เรื่องหาลูกยากคงไม่มีอีกแล้วครับ
สมัยผมทำงานใหม่ๆ เมื่อสักสามสิบปีก่อน สมัยนั้นถ้าใครใช้ปืน .32 ละก็โก้สุด เพราะปืน .38 เขาให้แต่ตำรวจ ปืน .45 อยู่นอกสายตา เพราะลูกแถวบ้านนอกหายากต้องพี่ๆทหารหาญใช้ ครับ ข้าราชการพ่อค้าชาวบ้านนิยม .32 กันมาก เรียกว่าซื้อง่ายขายคล่องว่างั้นเถอะ ส่วน .25 ร้อยทั้งร้อยพวกมีอันจะกินซื้อเป็นปืนพกซ่อน แต่ก็แปลกสมัยนั้นโจรอาจจะไม่ดุหรือใจถึงเหมือนทุกวันนี้ ปืนพกซ่อน .25 จึงไม่ค่อยมีใครใช้(เท่าที่ผมเห็น) ส่วนบ้านนอกบ้านนาก็นิยม ลูกซองสั้น โคลท์ตราควาย สมัยนั้นมือปืนเมืองเพชร เมืองลำปาง เมืองแพร่ ใช้กันมาก สมัยผมเป็นเด็กก่อนอาจารย์คึกฤทธิ์ ไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้เอาปืนเถื่อนมาจดทะเบียน ราคากระบอกละ 100 บาท เอง ปู่ผมมีใบซ่อมปืนแก๊ป ตอกเลขจน" วิน " เพราะบางรายพี่เอาไปเวียนเทียน ขอ ป4
ต่อมาเริ่มมีปืน 9 มม.เข้ามา คนก็ไม่ค่อยสนใจ จนมีหนังสือปืนสมัยนั้น เขียนเชียร์ กัน คุณโทน อาจจะมีเก็บไว้ก็ได้ เขียนกันยาวเป็นหลายปี จนปืน 9 มม.เริ่มเป็นที่นิยม ด้วยมีจุดขายคือ แรงกว่า .38 (เขาว่า) จุลูกได้มากกว่า เล่นเอาปืน .32 กึ่งอัตโนมัติ หายไปจากวงการ
พอล่วงมาอีกสักพัก ลูก .32 เริ่มหายากแถวบ้านนอก พวกก็พากันขายปืนลูกโม่ .32 ทิ้ง เมื่อผมเข้าเวบนี้ใหม่ๆ สักสามปีที่ผ่านมา ก็เห็นเอามาออกขายกันประปราย แล้วก็เงียบไป ผมไม่ได้ว่าปืน .32 ไม่ดีนะครับ ยิ่งพวก .25 ไม่รู้ว่าสาปสูญหรือไปซุกอยู่ซอกหลืบใด แต่ปืนในมือชาวบ้านยังมีมาก ร้านปืนก็ยังคงมีมาขายประปราย เรียกว่าที่อยู่ในร้าน ก็อยู่ด้วยกันมาหลายปี อาจจะใช้ทฤษฎีเดียวกับท่าน คือพอลูกเริ่มหายากคนก็ไม่ค่อยยิง ก็ยิ่งทำให้ลูกขายไม่ออก ร้านก็ไม่สั่งเข้ามา ยิ่งซ้ำเติมเข้าไปอีก ส่วนปืน .25 ในบ้านเรา เริ่มกลับมาอีกครั้งด้วยกระแสปืนสวัสดิการ แต่ก็ขออ้างทฤษฎแบบของท่านคือ มันเป็น ดีมานด์เทียม หรือเปล่า
(ขออภัยถ้าผิดเคยเรียน Mini MBA ของจุฬาฯ แต่นานแล้ว
)
แต่ปืนที่ใช้ลูก .380 ผมเห็นมันไปเรื่อยๆ เหมือนรถขายโอ่ง ไม่หวือหวา ถ้าไม่มีปืนยี่ห้อดังๆ ออกปืนที่ใช้กระสุนขนาดนี้ออกมา ซึ่งบริษัทปืน ผมก็เห็นเขาทำออกมาเรื่อยๆ เมื่อก่อนเจ้านายผมมี มานูแรง .380 ผมละไฝ่ฝันอยากได้ เห็นเจ้านายเอาออกมาจากกระเป๋าหนีบจั๊กกะแร้เมื่อไหร่ เป็นต้องขอลูบขอคลำ จนทุกวันนี้แก เกือบแปดสิบแล้ว ปืนก็ยังอยู่ กระสุนก็ยังพอมีขาย เข้าร้านไหนก็มีเกือบทุกร้าน ไม่มีร้านไหนบอกว่าลองไปถามร้านนั้นร้านนี้ดูซิว่ามีไหม อะไรประมาณนั้น
การที่เจ้าของกระทู้ถาม ผมเข้าใจว่าท่านคงกำลังตัดสินใจซื้อปืน แต่มาติดตรงที่ว่าปืนมันแพงต้องใช้มันไปอีกนาน ถ้าราคามันถูกๆ ลูกไม่มีขายก็เอาปืนไปชั่งกิโลขายเป็นเศษเหล็ก ก็ว่าไปอย่าง แต่บ้านเราเหล็กที่เรียกว่าปืน กิโลละแสน ดังนั้นถ้าซื้อปืนมาแล้วอีกสีบยี่สิบปี เขาเลิกทำลูกปืน มันก็เสียดายเงินแย่ จึงถามมาเพื่อขอความเห็นจากผู้รู้ เหมือนถามว่าอนาคตรถที่ใช้น้ำมันจะเป็นอย่างไร ท่านก็จะบอกว่าไม่เป็นไร ปั้มน้ำมันอยู่หน้าบ้านผม ผมไปเติมทีไรเขามีขายให้ผมเสมอ แต่ไม่ได้พูดถึงราคา ซึ่งต่อไปอาจจะลิตรละร้อยก็ได้ ถ้าถามว่าถ้าน้ำมันหมดโลกหละท่านก็บอกว่าไม่ต้องห่วงผมซื้อถังน้ำมันมาตุนน้ำมันไว้เป็นล้านๆลิตร ใช้สิบปีก็ไม่หมด ก็ว่ากันไป แต่ชาวบ้านทั่วๆไปอย่างพวกผมคงทำไม่ได้ ครับ
ผมว่าท่านอ้างตามทฤษฎีของท่านผิด ที่ว่าคนซื้อปืน ไม่ได้ห่วงเรื่องราคาลูกปืน ผมว่าราคาและความสะดวกในการหาลูกปืน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนตัดสินใจเลือกปืน ครับ เทียบกับสินค้าอื่นก็ได้ ขอรื้อตำราหน่อย อย่างรถยนต์กระบะดีเซลในบ้านเราทำไมถึงเป็นที่นิยม ทั้งที่ราคาไม่ได้ถูกกว่ารถเก๋งเท่าไหร่ บางรุ่นแพงกว่าด้วยซ้ำ ไม่ใช่มันกินน้ำมันน้อยกว่า เสียงเงียบกว่า หรือนั่งได้นิ่มนวลกว่า แต่เป็นเพราะบ้านเราบิดเบือนกลไกการตลาดทำให้น้ำมันดีเซลราคาถูก คนถึงมาใช้รถดีเซล เอาอีกอย่างก็ได้เรื่องรถมันอาจจะมองไม่ชัด เอาเรื่องโทรศัพท์มือถือดีกว่า รุ่นเดียวกันราคาเท่ากันลูกเล่นเหมือนกัน แต่ทำไมคนเราถึงเปลี่ยนเครือข่ายบ่อย ยิ่งเด็กๆเดี๋ยวเปลี่ยนซิม ก็เพราะเขาเปลี่ยนไปใช้โปรโมชั่นที่ถูกกว่า ครับ
ผมว่าถ้าเฉพาะลูก 9 มม.ในบ้านเรา ไม่มีลูกซ้อม มีแต่ลูกจริงราคานัดละ 40-50 บาท ในขณะที่ลูกขนาดอื่นราคาสิบกว่าบาทเท่าปัจจุบัน ผมว่าไม่เกินห้าปี ปืน 9 มม.ไม่มีใครเอาเข้ามาขาย แต่ลูกปืนอาจจะมีขายไปสักพัก ที่เหลืออยู่ที่ร้านคือขายไม่ออก คนไม่กล้ายิงเพราะมันแพง ตามทฤษฎีของท่าน ลูกปืนคือปัจจัยหรือค่าใช้จ่ายผันแปร ครับ
ทีนี้มองอย่างช่าง ผมว่า ปืนขนาด .38 9มม. .38 ซุปเปอร์ ขนาดหัวมันเท่าๆกัน ปลอกก็ใกล้ๆกัน การดัดแปลงหรือปรับเครื่องโหลดกระสุนน่าจะทำได้ง่ายและสะดวกกว่า ครับ