๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 12:16:54 PM



หัวข้อ: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 12:16:54 PM
ซื้อสินค้าเงินผ่อน(กู้เงินจากอีซี่...)เมื่อขาดส่งงวด บริษัทรับจ้างทวงหนี้ มีหนังสือแจ้งในลักษณะประจาน ข่มขู่ โทรศัพท์ไปหาคนอื่นเพื่อประจาน และมีหนังสือ(โดยพิมพ์จ่าหน้าว่า เอกสารสำคัญห้ามทำลาย หรือทำให้สูญหาย เตรียมรับหมายศาล  หมายถึง....)แจ้งว่าจะฟ้องฐานฉ้อโกงและทำให้เสียทรัพย์ จะยึดทรัพย์ อายัดเงินเดือนฯลฯ ข้อกฎหมายเป็นอย่างไรครับ จะต้องดำเนินการอย่างไรครับ มีเจตนาที่จะส่งงวดต่อจนหมดนะครับ แต่ขาดส่ง 2-3งวดครับ
ขอบพระคุณทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 12:30:06 PM
ตัวนี้ผมเข้าใจว่าเป็นเพียงหนังสือทวงถามธรรมดา แต่อาจใช้ข้อความที่เห็นแล้วน่าตกใจเท่านั้นเอง

ส่วนจะมีผลทางกฎหมาย ในลักษณะการข่มขู่ หรือไม่อย่างไร ต้องรอหมอความอีกทีครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 12:36:41 PM
ด้วยความเคารพครับ.........

ยังงี้แหละครับพวกนี้ ถ้าเราคิดว่าจะผ่อนต่อให้หมด....ก็โทรไปหาบริษัทเลยครับ เพื่อเจรจาประนีประนอมครับ....เรื่องที่ขู่ ผมว่าอย่าไปซีเรียสเลยครับ....พอดีผมห่างจากวงการเงินธนาคารมานานไม่แน่มากนักครับ....แต่สมัยก่อนขนาดพวกเป็นหนี้แบ๊งค์ เป็นล้านๆ เขายังเฉยเลยครับ...กว่าจะดำเนินการทางศาลใช้เวลานานครับ...และที่สำคัญ คือ ทางบริษัทต้องการได้รับการชำระหนี้คืนเป็นหลักครับถ้าเรื่องถึงศาล ก็ต้องใช้เวลาและยุ่งยากมากครับ.....สรุป คือ ผมว่าโทรไปเจรจาครับ ขอให้โชคดีนะครับใจเย็นๆ ครับ ไม่มีใครมาอายัดเงินเดือนเราได้ง่ายๆครับ.....

ขอบคุณครับ....................


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 01:20:39 PM
ลองเซิร์ทไปเจอครับ

ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 กับการตามหนี้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างการ เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิดพิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ

แต่ห้ามมิให้พิสูจน์ ถ้าที่หาว่าหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

%%%%%

ประเด็นสำคัญคือว่า แม้ว่าเราจะเป็นหนี้เค้าจริง แต่พวกตามหนี้ไม่มีสิทธินำเรื่องของเราไปเที่ยวบอกคนอื่น เพราะการทำเช่นนั้นทำให้เราเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

การจะใช้สิทธิเพื่อพิสูจน์ความจริงของพวกตามหนี้เพื่อจะได้ไม่มีความผิดนั้น ตามมาตรา 330 วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้พิสูจน์ เพราะการเป็นหนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา และการพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

%%%%%

ดังนั้น ก่อนคุยโทรศัพท์กับพวกนี้ ขอทราบชื่อ นามสกุล สำนักงานที่สังกัด อันนี้เป็นหลักการเบื้องต้น เราจะคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ได้อย่างไร
เมื่อพวกเราถูกละเมิดต่อกฎหมายอาญาดังกล่าว ไประยะหนึ่ง หลาย ๆ ข้อ ให้ถลำลึก ๆ ค่อยตีโต้กลับว่า ขออนุญาตอ่านกฎหมายอาญาบางมาตราให้ฟังหน่อยนะคะ อ่านมาตราที่กำลังถูกละเมิด

อย่าใช้วิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเลย ขอให้ไปดำเนินการตามกฎหมายจะดีกว่า แค่นี้นะ/



By : ความว่าง (203.118.117.103) 24/06/2006 06:57 AM
   
     
     By: Pattrix      (61.7.147.29) 21/07/2006 10:16 AM





หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 01:31:31 PM
ลองเซิร์ทหาความรู้ตามท่านที่ถามมา ได้ขอมูลนี้มาครับ ว่ามี ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อ ตามลิงค์ครับ

http://www.consumerthai.org/debt/debt.shtml

น่าจะมีข้อมูลที่ท่านต้องการ

http://www.consumerthai.org//good/show_page.php?t=7&s_id=56&d_id=54&page=3 (http://ตัวอย่างจดหมายขอระงับการชำระเงินตามสัญญาเงินกู้)

http://www.consumerthai.org//good/show_page.php?t=7&s_id=56&d_id=54&page=2 (http://ตัวอย่างจดหมาย แจ้งชำระหนี้ และยกเลิกสัญญา)



หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ..GlockGlack.. ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 01:43:15 PM
วันก่อนเพิ่งจะคุยกับเพื่อนถึงเรื่องแบบนี้  เขาบอกอย่างนี้ครับ (ไม่ใช่ยุให้เบี้ยวหนี้หรือหัวหมอเล่นแง่นะครับ)

ให้ไปเจรจาต่อรองเงื่อนไขการผ่อนชำระกับบริษัทเขา  ทั้งนี้เพราะฝ่ายเร่งรัดติดตามทวงหนี้นั้น ถ้าทวงได้เขาก็ได้รับผลตอบแทน  ดังนั้น ควรติดต่อกับบริษัท  หากเรื่องถึงศาลแล้ว ไหนจะเสียเวลามาก เพราะมีคดีแบบนี้เพียบเต็มศาล (คดีมโนสาเร่)  ระยะเวลายืดเยื้อมาก  (บริษัทเสียประโยชน์อยู่ดี)  และหากถึงที่สุด ศาลตัดสินแล้ว ลูกหนี้ยังสามารถผ่อนชำระกับทางศาลได้อีกด้วย (แต่รายละเอียดตรงนี้ผมไม่ได้ถาม)

เพียงแต่การมีหนังสือแจ้งมาแบบนี้ มันเสียความรู้สึก  อับอาย  เหมือนถูกประจานกัน


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 01:49:40 PM
ตัวนี้ผมเข้าใจว่าเป็นเพียงหนังสือทวงถามธรรมดา แต่อาจใช้ข้อความที่เห็นแล้วน่าตกใจเท่านั้นเอง

ส่วนจะมีผลทางกฎหมาย ในลักษณะการข่มขู่ หรือไม่อย่างไร ต้องรอหมอความอีกทีครับ
ขอบพระคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 02:07:02 PM
ขอบพระคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 02:09:12 PM
ขอบพระคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ออด ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 03:46:14 PM
ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างงัยดี
ลองทำตามที่พี่ ๆ ในเว็บเขาแนะนำไปแล้วนะครับ คือไปเจรจาต่อรองกับบริษัทดูก่อน
ขอให้โชคดีครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 04:00:45 PM
บริการเงินผ่อนกับ บริการเงินสดล่วงหน้าพวกนี้เท่าที่ทราบมาคิดดอกเบี้ยเกินกฏหมายกำหนด เอาเข้าจริงเขาไม่กล้าฟ้องหรอกครับ เพราะถ้าโดนศาลตัดสินมาว่าให้ลดดอกเบี้ย มันจะ เป็น case ตัวอย่างให้ ลดดอกเบี้ยของลูกค้ารายอื่นๆ ครับ ไม่ต้องกลัวเรื่องคดี เจรจาต่อรองลดดอกเบี้ยเลยครับ


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 04:32:33 PM
แจ้งความใว้เป็นหลักฐานเลยครับ แจ้งชื่ออีซี่นั่นแหละ แล้วส่งแฟกส์ไปบริษัทแล้วค่อยเจรจาทีหลัง


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 04:38:21 PM
แจ้งความใว้เป็นหลักฐานเลยครับ แจ้งชื่ออีซี่นั่นแหละ แล้วส่งแฟกส์ไปบริษัทแล้วค่อยเจรจาทีหลัง
สนับสนุนให้ทำอย่างพี่จอย บอกครับ ทำอย่างนี้บ้าง บริษัทจะได้เลิกโอหังซะที


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: May 21 ** รักในหลวง ** ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 04:51:17 PM
แล้วกลับกันละครับ
บริษัทฯ รับชำระค่าบริการเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า พอถึงวันครบกำหนดเข้าบัญชี ไม่ได้
ลูกค้าบ่ายเบี่ยงตลอด จะนัด จะนัด เป็นอย่างนี้ตลอด ร่วม 2 เดือน
เจอพวกลูกค้าที่จงใจเบี้ยวแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ  ???


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 05:16:55 PM

แว่วมาว่าอายุความสามเดือน (รอผู้รู้จริงมายืนยันครับ) ยังไงแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ก่อนก็ดีครับ

http://www.rlpd.moj.go.th/Eclinic/Eboard2.asp?QuesID=1305

เรียน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
 
มีปัญหาปรึกษาเรื่อง เช้คเด้ง กล่าวคือลูกค้าจ่ายเช็คเด้งมาซึ่งข้าพเจ้าทวงถามให้ชำระหนี้มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ชำระหนี้ คิดว่าคงต้องฟ้องร้องคดีอาญา เพื่อบังคับคดี กระผมขอสอบถามเป็นข้อฯดังต่อไปนี้ครับ
 
1. เอกสารในการเตรียมแจ้งความต้องมีอะไรบ้าง ข้าพเจ้าเป็นกรรมการ บริษัท จำกัดซึ่งเป็นเจ้าหนี้จะดำเนินการแจ้งความด้วยตนเอง ส่วนลูกค้าเป็นนิติบุคคลประเภท หจก. และต้องไปแจ้งความยังสถานที่ใด
2. ข้อดี-ข้อเสียในการฟ้องร้องคดีอาญาด้วยตนเอง กับ แจ้งความคดีเช็คเด้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันไหนจะดีกว่ากัน ในเรื่อง ความรวดเร็ว ค่าใช้จ่าย และ อื่นฯ
3. ระยะเวลาในการออกหมายจับใช้เวลานานเท่าใดกรณีแจ้งความกับตำรวจ และจำเป็นหรือไม่ต้องให้เปอร์เซ็นต์การดำเนิการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเป็นแรงจูงใจให้เร่งออกหมายจับ
4. แจ้งตำรวจ กรณี เช็คเด้งเป็นใบฯไปได้หรือไม่อย่างไร กรณีข้าพเจ้ารับเช็คจากลูกหนี้ ลงวันที่ล่วงหน้า(เพราะให้เครดิต 90วัน) มาประมาณ 20 ใบ แล้วคดีเช็คเด้งนี้ ความผิดจะทบสะสม กรณีแจ้งความดำเนินคดีเช็คเด้งเป็นใบฯได้หรือไม่ เพราะตอนนี้เช็คทยอยเด้ง
5. ทราบมาว่า ต่อไปคดีเช็คเด้งจะไม่เป็นคดีอาญาในต้นปีหน้า อยากทราบว่า ตอนนี้จะเร่งแจ้งความดำเนิคดี แล้วมีผลต่อปีหน้าที่คดีเช็คเด้งไม่เป็นคดีอาญาหรือไม่อย่างไร
 
สุดท้ายขอขอบคุณที่ให้คำแนะนำ
 
ขอแสดงความนับถือ 
วันที่: 27/8/2548 12:43:06  จากคุณ: ไพรัช   อ่าน 239 คน



 เรียนคุณไพรัช
              ตามที่ท่านไขอคำปรึกษาเข้ามานั้น  ในกรณีดังกล่าวนั้นตามพ.ร.บ.เช็ค  2534  การดำเนินคดีในความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้  การร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจในคดีเช็คจะร้องทุกข์ที่ธนาคารที่ปกิเสธการจ่ายเงินนั้นตั้งอยู่ ( ควรสอบถามกับพนักงานธนาคารว่าธนาคารอยู่ในท้องที่ของสน.ใด ) 
             เอกสารที่เกี่ยวข้องในเรื่องการร้องทุกข์  ได้แก่  เอกสารเกี่ยวกับตัวผู้เสียหายผู้กระทำความผิด  เอกสารที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ( เช็ค ) พยานหลักฐานอื่น ( ถามี )
             การร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน  พนักงานสอบสวนจะรอบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นเสนออัยการ  ถ้าอัยการสั่งฟ้อง  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดเพราะอัยการถือว่าเป้นทนายความแผ่นดิน

จากเจ้าหน้าที่


 


หัวข้อ: Re: ขอความรู้เป็นวิทยาทานครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กรกฎาคม 21, 2006, 11:08:28 PM
เข้าใจว่าหนี้ไม่มากไม่ลองขอยืม    คนใกล้ชิดมาใช้ก่อนหนี้พวกนี้โหด   เห็นว่าค่าธรรมเนียมแพงกว่าดอกเบี้ย   ถ้ากินเงินเดือนอย่างเดียวควรหารายได้เสริม   ค่อยๆคิดอย่าซีเรียสลองบ่นเหมือนคนรวยดู****รวย   เครียด   กินหูฉลาม****