๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 15, 2024, 02:26:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนถามท่านข้าราชการ อีกครั้ง  (อ่าน 12089 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 09:29:32 AM »

ผมอยากทราบความหมายของแถบสีที่ ติดบน อกเสื้อ เห็นมีกันทุกท่าน  แต่สีและการวางตำแหน่งไม่ค่อยเหมือนกัน
                           ขอบคุณนะครับ
บันทึกการเข้า
pinkeaw
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 93


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 11:33:45 AM »

รอผู้รู้มาตอบ
บันทึกการเข้า

ศาลา นารี วิถี คงคา
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12900



« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 11:36:47 AM »

ผมเป็นข้าราชการเหมือนกันครับแต่งเฉพาะตอนถ่ายรูปติดบัตร เขาเอาอะไรให้ก็เอาหมด ไม่ค่อยสนใจครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 11:40:05 AM »

ชั้นเอกจะมี 3 ชั้นนะครับ  ส่วนชั้นโท ตรีจะมี 2 ชั้นครับ ส่วนความต่างของสีในแต่ล่ะชั้นก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ
บันทึกการเข้า

หนานปั๋น
Hero Member
*****

คะแนน 33
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2374


« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 01:20:37 PM »

เป็นแถบเครื่องราชที่ได้รับครับ ปกติ ที่เห็นก็จะมี ตระกูลช้าง กับมงกุฏ สลับกัน 5 ปีได้รับครั้งหนึ่งครับ หรือบางคนอาจได้รับเหรียญอย่างอื่นเช่น ทหารผ่านศึก ที่ผ่านสงคราม ฯลฯ  ไม่ค่อยเห็นตัวอื่นเหมือนกันครับ ของผมเวลาทำงานถ้าแต่งเครื่องแบบเพื่อนจะบอก ว่าเป็นภารโรงครับ  ถ้าแต่งเต็มยศจริง ๆ เพื่อน ๆ จะเรียกปลัด ข ครับ ฮิ ฮิ
บันทึกการเข้า
CyberMan
สมาชิกลำดับที่ 75
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 485



« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 01:23:29 PM »

ผมเป็นข้าราชการเหมือนกันครับแต่งเฉพาะตอนถ่ายรูปติดบัตร เขาเอาอะไรให้ก็เอาหมด ไม่ค่อยสนใจครับ Grin Grin

เช่นกันครับ พอดีผมอยู่ส่วนกลางและก็ไม่เคยแต่งเครื่องแบบสีกากีเลย ยอมรับว่าไม่ค่อยทราบความหมายของแถบสี
เวลาไปถ่ายรูปก็แค่บอกว่าซีอะไรและได้เครื่องราชฯ อะไร แล้วปล่อยเป็นหน้าที่ของทางร้านจัดติดมาให้ถูกต้อง... Grin
บันทึกการเข้า
p23-504 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 545


« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 02:03:09 PM »

แพรแถบที่ิติดประดับบนหน้าอกเสื้อด้านซ้าย   เครื่องแบบปกติของข้าราชการ (เครื่องแบบที่ใช้ปฎิบัติราชการตามปกติ)  เป็นส่วนย่อของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทาน  เครื่องราชอิสริยาภรณ์จะมีส่วนประกอบคือ ตัวเครื่องราชฯ เป็นโลหะ  และ แพรแถบสีต่างๆ ตามลำดับชั้นและชนิดของเครื่องราชฯ และเหรียญตรา   ประกอบติดกับเข็มกลัดสำหรับประดับติดหน้าอกเสื้อเครื่องแบบเต็มยศ  หรือ  เครื่องแบบปกติขาว    สำหรับเครื่องแบบปกติที่ใช้ปฎิบัติราชการ
ก็นำเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องราชฯ   คือแพรแถบมาประดับเท่านั้น   สำหรับ สีไหน ลายไหน   เป็นเครื่องราชฯ หรือเหรียญอะไร    นั้น    เรื่องยาวครับท่าน   Grin
บันทึกการเข้า
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 02:46:22 PM »

รปภ.หลายบริษัท นำไปติด ดูโก้เก๋ ทั้งที่ไม่บังควร ร้านขายจะทราบว่า สีไหนหมายถึงอะไรไ ด้มาในโอกาศอะไร หลังกระทรวงฯ ลองเข้าไปสอบถามดู และมีโปสเตอร์ที่มีรูปแพรแถบบอกชื่อแยกเป็นชุดๆจำหน่ายสำหรับผู้อยากรู้ด้วยครับ ขอบคุณ
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
charlie4
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 39


be unite to get might


« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 03:02:43 PM »

ขอเพิ่มข้อมูลเท่าที่ทราบนะครับ  พวก รปภ.ตามบริษัทต่างๆ ที่ติดแถบ จะไม่มีสัญลักษณ์ที่ระบุชั้นของเครื่องราช เช่น ช้างหรือมงกุฎที่ติดบนแถบสีนะครับ เป็นแค่แถบสีซึ่งหมายถึงเหรียญหรือเครื่องหมายที่เป็นอนุสรณ์ หรือที่ระลึกในโอกาสสำคัญต่างๆที่ออกโดยทางราชการ  และ รปภ.ส่วนใหญ่จะเคยผ่านการเกณฑ์ทหารหรือเคยเป็น ขรก.มาก่อนครับ  ดังนั้นน่าจะสามารถติดได้ หากไม่มีการแสดงชั้นเครื่องราช ครับผม
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10979


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 03:08:06 PM »

แทบสีที่หน้าอกข้างซ้ายนั้นเป็นแทบแสดง 2 สิ่ง จะประกอบไปด้วย
1.เครื่องราชที่ได้รับพระราชทาน เช่น รูปช้างก็คือตระกูลช้างเผือก รูปมงกุฎก็คือตระกูลมงกุฎไทย  และจะแบ่งเป็นสัญลักษ์ตามชั้นที่ได้
2.เหรียญที่ระลึกในโอกาศต่าง ๆ เช่น เหรียญ 25 พุทธฯ เป็นต้น
ที่นี้หากรับราชการใหม่ ๆ ก็ยังไม่มีโอกาศได้รับพระราชทานเครื่องราช แต่สามารถติดแทบเหรียญได้ ซึ่งท่านเจ้าของกระทู้ก็คงหมายถึงแทบสีอันนี้ ช่องแต่ละช่องเป็นการแทนเหรียญที่ระลึกต่าง ๆ ซึ่งหากจะติดเครื่องราชแบบเต็มยศหรือติดเหรียญที่ระลึกฯไปก็คงไม่เหมาะจึงใช้การติดแทบแทน
สำหรับเหรียญที่ระลึกนั้นก็มีกฎอยู่ว่า อย่าติดเหรียญที่ออกก่อนปีเกิดของตนเอง เช่นผมเกิดปี 2519 ก็ไมสามารถติดเหรียญ 25 พุทธฯ(ซึ่งออกในปี 2500) ที่นี้หากไปติดแบบมั่วขึ้นมาคนรู้เขาก็จะแกล้งทักว่าโอโห้หน้าตาดูอ่อนกว่าวัยจังอะไรทำนองเนี่ยครับ......บางคนก็จะติดแทบเหรียญแบบย่อก็จะมีแค่เหมื่อนโบว์อันเดียวก็ไม่ผิดอะไรครับ......ส่วนการแต่งชุดขาวนั้นหากแต่งเต็มยศ(เครื่องราชและเหรียญที่ระลึกตัวจริง)จะต้องใช้กางเกงสีดำไม่ใช้กางเกงสีขาวครับ.......ขออนุญาติแทรกเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคำเรียกของพวกข้าราชการ เช่นแทบเหรียญที่ระลึกโล้น ๆ ไม่มีเครื่องราชนี่จะเรียกกันเล่น ๆ ว่าแทบไฟเลี้ยว หัวเราะร่าน้ำตาริน............เหรียญจักพรรดิมาลา(ทำงานครบ 25 ปี)....จะเรียกันว่าเหรียญดื้อ  สมัยก่อนข้าราชการบางคนใส่เข็มขัดหัวครุฑ(เป็นครุฑแล้วแจะรูยึดกับหัวเข็มขัด)แล้วครุฑหมุดเอาหัวปักลงก็จะโดนแซวว่าเมาหัวทิ่ม ส่วนบางทีติดตราสิงห์แล้วพลาดคือหันหน้าออกจากกันไปทางบ่าก็จะโดนแซวว่าวันนี้ออกป่าหรือไง.....แต่ที่ฮาสุดคือพวกพลาดเอาสิงห์ข้างเดียวกันมาติดพร้อมกัน(ส่วนมากมักจะเกิดกับคนที่รับราชการนาน ๆ และอายุเริ่มมากมีตราแสดงหน่วยงานหลายอัน)ก็จะกลายเป็นพวกโดนสิงห์ไล่กัดเป็นต้นครับ Grin
เป็นแถบเครื่องราชที่ได้รับครับ ปกติ ที่เห็นก็จะมี ตระกูลช้าง กับมงกุฏ สลับกัน 5 ปีได้รับครั้งหนึ่งครับ หรือบางคนอาจได้รับเหรียญอย่างอื่นเช่น ทหารผ่านศึก ที่ผ่านสงคราม ฯลฯ ไม่ค่อยเห็นตัวอื่นเหมือนกันครับ ของผมเวลาทำงานถ้าแต่งเครื่องแบบเพื่อนจะบอก ว่าเป็นภารโรงครับ ถ้าแต่งเต็มยศจริง ๆ เพื่อน ๆ จะเรียกปลัด ข ครับ ฮิ ฮิ
สมัยก่อนนั้นคนที่ทำงานบนอำเภอจะถูกเหมาเรียกว่าปลัดหมดครับ เรื่องตลกก็คือทั้งภารโรง คนขับรถก็เป็นปลัดไปกับเขาด้วย และอย่าดูถูกภารโรงรุ่นเก่านะครับ บางคนนี่ด้วยความอยู่นานช่างจดช่างจำเลยเก่งมาถึงขนาดเรื่องราชการบางเรื่องปลัดบรรจุใหม่ ๆ ต้องมาขอคำแนะนำ Grin
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
big single
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 321
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5789



« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 03:15:57 PM »

ตัวอย่าง   ท.ช. ประดับร่วมกับ ท.ม.  และเหรียญราชอิสริยาภรณ์

ตำรวจ  ทหาร  พลเรือน


บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club ขยับจะยิงแต่รักจริงนะจ๊ะจุ๊บๆ
big single
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 321
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5789



« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 03:24:49 PM »

ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอ๊า..เอาไปดูให้ตาแฉะกันเลย


เครื่องราชอิสริยาภรณ์   คือ   เป็นเครื่องหมายที่ใช้ประดับสำหรับเกียรติยศ  และเป็นบำเหน็จรางวัลความดี
ความชอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยแรกสถาปนาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ 
ให้สร้างตราประจำตำแหน่งพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์และเสนาบดีทั้งหลาย นับเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยในปัจจุบัน   ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงและเพิ่มเติมดวงตราดาราสายสะพาย กำหนดชื่อชั้น และออกเป็นพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นครั้งแรก

1. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์   (ร.ม.ภ.)
          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้สร้างขึ้นเมื่อ  พ.ศ. 2505   ด้วยเหตุผลที่ทรงพระราชดำริว่า  ปัจจุบันประเทศไทยได้เพิ่มพูนความสัมพันธ์กับนานาประเทศมากขึ้น สมควรที่จะได้มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไว้
พระราชทานแก่ประมุขของประเทศเหล่านั้นเป็นพิเศษ   
 
2. เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.)
          มีชั้นเดียว     สถาปนาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2425   เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ได้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานีมาครบ 100  ปี   สำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งสืบเนื่องโดยตรงในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และผู้ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์ดังกล่าวได้เสกสมรสด้วย

3. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.)
          มีความเป็นมาสืบแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างดารานพรัตนขึ้นสำหรับใช้ประดับที่เสื้อ  ซึ่งทรงเรียกว่า  "เครื่องประดับสำหรับยศ"  นอกจากนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างแหวนนพรัตนสำหรับพระราชทานแก่พระราชวงศ์ฝ่ายหน้าและฝ่ายในตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นพุทธมามกะ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างดวงตรามหานพรัตน สำหรับห้อยสายสะพายขึ้นเป็นครั้งแรกของเครื่องราช อิสริยาภรณ์ไทย เมื่อพุทธศักราช 2412

4. เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
          สถาปนาในรัชสมัยพระบาทพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพุทธศักราช 2416  ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ครั้งที่ 2
เพื่อพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์   และข้าราชการผู้ใหญ่   โดย พระราชทานเฉพาะฝ่ายหน้า สำหรับฝ่ายในโปรดเกล้าฯ ให้สร้างกล่อง หมากและหีบหมากพระราชทานแทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต่อมาในปี  พ.ศ. 2436  เนื่องในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับ
ฝ่ายในขึ้น
         
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ประกอบด้วย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับฝ่ายหน้า มี 3 ชั้น
ชั้นที่ 1 มี 2 ชนิด คือ
1.1 ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ
1.2 ปฐมจุลจอมเกล้าชั้นที่ 2 มี 2 ชนิด คือ
2.1 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
2.2 ทุติยจุลจอมเกล้า
ชั้นที่ 3 มี 3 ชนิด คือ
3.1 ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
3.2 ตติยจุลจอมเกล้า
3.3 ตติยานุจุลจอมเกล้า
เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับฝ่ายใน มี 4 ชั้น
ชั้นที่ 1 มีชนิดเดียว คือ ปฐมจุลจอมเกล้า
ชั้นที่ 2 มี 2 ชนิด คือ
2.1 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
2.2 ทุติยจุลจอมเกล้า
ชั้นที่ 3 มีชนิดเดียว คือ ตติยจุลจอมเกล้า
ชั้นที่ 4 มีชนิดเดียว คือ จตุตถจุลจอมเกล้า


5. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
          สถาปนาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อพุทธศักราช 2461สำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ที่ได้ทำความชอบพิเศษหรือเป็นประโยชน์   เป็นผลดีแก่ราชการทหารทั้งในเวลาสงครามหรือในยามสงบศึก ปัจจุบันหลักเกณฑ์การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้    เป็นไปตามพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยา
ภรณ์อันมีมีศักดิ์รามาธิบดี พ.ศ.2503
           เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชุดนี้มี 6 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 เสนางคะบดี (ส.ร.)
ชั้นที่ 2 มหาโยธิน (ม.ร.)
ชั้นที่ 3 โยธิน (ย.ร.)
ชั้นที่ 4 อัศวิน (อ.ร.)
ชั้นที่ 5 เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร (ร.ม.ก.)
ชั้นที่ 6 เหรียญรามมาลา (ร.ม.)
 
6. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก
          พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง "ตราช้างเผือก"  เมื่อปี พ.ศ.2404  ทรงสร้างขึ้น
มีลักษณะเป็นแผ่นทองคำสลักเป็นรูปช้าง  สำหรับพระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์   และข้าราชการที่ออกไปเป็นทูตต่างประเทศ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2414 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แก้ไขดวงตราเก่า และจัดเพิ่มเติมให้มีสายสะพายกำหนดชื่อและชั้น สำหรับพระราชทานแก่ผู้กระทำความดีความชอบเป็นประโยชน์แก่ราชการหรือสาธารณชนตามที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร  ปัจจุบัน เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ แบ่งเป็น 8 ชั้น ดังนี้
ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)
ชั้นที่ 6 เหรียญทองช้างเผือก (ร.ท.ช.)
ชั้นที่ 7 เหรียญเงินช้างเผือก (ร.ง.ช.)
 


7. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
          สถาปนาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวเมื่อ พ.ศ. 2412 สำหรับพระราชทานแก่ผู้
กระทำความดีความชอบเป็นประโยชน์แก่ราชการหรือสาธารณชน ตามที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร  ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรูปลักษณะขึ้นใหม่เป็น รูปลักษณะของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระราชทานสืบเนื่องกันมาจนทุกวันนี้ ในปี  พ.ศ.  2461  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ 
ให้สร้างชั้นสูงสุดเพิ่มขึ้น
          ปัจจุบันเครื่องราชอิสริยาภรณ์แบ่งเป็น 8 ชั้น ดังนี้
ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)
ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
ชั้นที่ 6 เหรียญทองมงกุฎไทย (ร.ท.ม.)
ชั้นที่ 7 เหรียญเงินมงกุฎไทย (ร.ง.ม.)
 


 
8. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณากรณ์
          สถาปนาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อพุทธศักราช 2534 สำหรับพระราชทาน
แก่ผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ ประเทศ ศาสนา และประชาชน  ตามที่พระราชดำริเห็นสมควร
           เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้มี 7 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)
ชั้นที่ 2 ทุติยดิเรกคุณาภรณ์ (ท.ภ.)
ชั้นที่ 3 ตติยดิเรกคุณาภรณ์ (ต.ภ.)
ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)
ชั้นที่ 5 เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ (บ.ภ.)
ชั้นที่ 6 เหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ (ร.ท.ภ.)
ชั้นที่ 7 เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ (ร.ง.ภ.)


นอกจากนี้ยังมีเหรียญราชอิสริยาภรณ์ที่นับเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ซึ่งหมายถึง  เหรียญต่าง ๆ  ที่
พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้สร้างขึ้นสำหรับเป็นบำเหน็จความขอบในการสงคราม  บำเหน็จ
ความชอบในราชการแผ่นดิน บำเหน็จความชอบในพระองค์พระมหากษัตริย์และสำหรับพระราชทานเป็นที่ระลึก
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club ขยับจะยิงแต่รักจริงนะจ๊ะจุ๊บๆ
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 04:01:01 PM »

ขอบคุณทุกท่านมากครับผม
ท่านซีอุสและท่านบิ้ก ซิงเกิ้ล  ยอดๆๆๆๆๆๆ  ระเอียดยิบ 

 
บันทึกการเข้า
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 04:31:47 PM »

   ตามหน่วยงานจะมีหนังสือคู่มือ   Grin  ผมไม่ได้ใส่เครืองแบบ มา 2 ปีกว่า  เมื่อคืนลองใส่ดู ติดกระดุมไม่ได้ Tongue Grin  ซิปก็รูดไม่ได้ สงสัยจะผอมลง Grin โดนชก
บันทึกการเข้า
หนานปั๋น
Hero Member
*****

คะแนน 33
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2374


« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 04:43:26 PM »

ขอบคุณครับ อยากรู้ว่าปีนี้เราได้เครื่องราชอะไรพิมพ์เข้าไปสอบถามได้ครับ คราวที่แล้วผมทดสอบเรตติ้งชื่อผมและของครอบครัว ในกูเกิล มีชื่อพี่ได้เครื่องราชด้วยครับ ฮิ ฮิ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.181 วินาที กับ 21 คำสั่ง