๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 15, 2024, 11:55:17 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัย..คูปรีหรือโคไพร..สัตว์ไม่มีตัวตน เป็นความจริงหรือ  (อ่าน 14573 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 06:57:44 AM »

ผมได้อ่านไทยรัฐ วันที่26 กย. 2549 โดย โลกโศภิน คูปรีซึ่งมีรายงานว่ามีผู้พบเห็นในป่าลึกกัมพูชาเมื่อปี2490นั้น อาจไม่มีตัวตนอยู่จริง.
 เขาอ้างว่านักชีววิทยาสหรัฐฯของมหาลัยนอร์เวสเทิร์น ได้เสนอหลักฐานทางพันธุกรรมว่า คูปรีอาจไม่ใช่สัตว์ตามธรรมชาติชนิดใหม่ที่มีตัวตนอยู่จริง Huh เพราะกลุ่มนักชีววิทยาได้นำดีเอ็นเอที่กล่าวว่าเป็นของคูปรีไปตรวจเทียบเคียงกับวัวป่ากัมพูชา และได้พบว่าคูปรีอาจเป็นสัตว์พันทาง เพราะมีเซลล์กระเดียดไปทางวัวป่ากัมพูชา นายแกรี กอลเบรธ ยังได้กล่าวอีกว่า คูปรีถูกวาดภาพไว้อย่างโลดโผน เหมือนฝันไปหน่อย คงจะมีบางคนรู้สึกเสียใจ ที่มันถูกเขี่ยตกจากฐานะสัตว์ป่าชนิดใหม่ไป วิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องเป็นของจริง ไม่ใช่ของที่อยากให้มันเกิดเป็นจริง
 ผมอ่านแล้วน่าใจหายจริงๆครับแต่ก็ไม่เคยเห็นตัวจริงของสัตว์ชนิดนี้เช่นกัน ใครมีข้อมูลและความรู้เรื่องนี้ช่วยรบกวนให้ข้อมูลด้วยครับ Cryถ้ามีรูปถ่ายก็ดีครับผมเคยเห็นแต่รูปวาด Cry
บันทึกการเข้า
vuttichai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 07:15:51 AM »

ไม่เชื่อ คิดว่ามีตัวตนจริง และยังมีอยู่ ยังไม่ 0 แต่น้อยสุดๆ
บันทึกการเข้า
Kimber
e21bmx
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 22
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1674



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 08:01:01 AM »

สำหรับผมคิดว่ามีจริงนะครับ ดูจากหลายๆสถานทีที่มีหัวกูปรี รูปถ่าย และอื่นๆ บางทีผมว่าเจ้าฝรั่งขี้นกเนี้ยะเค้าก็หางานวิจัย วิจารณ์ไปเรื่อย โดยคิดว่าตัวเองเจริญทางด้านความคิดมากกว่าคนเอเชีย แล้วคนเอเชียก็ดันไปยกย่องว่าพวกฝรั่งเป็นพระเจ้า มันก็เลยไปกันใหญ่ งานวิจัยส่วนมากมักมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ  แต่บางเรื่องก็ไร้สาระสิ้นดี ยังไงผมก็ยังเชื่อว่ามีอยู่จริงครับ อีกหน่อยก็คงบอกว่า เนื้อทราย สมั่น ไม่มีจริงอีก

สงสัยกำลังหาทุนวิจัยมากกว่ามั่งครับ เลยต้องออกเรื่องอะไรที่มันเร้าใจ ตอนก็เจอพี่ยุ่นเค้าแซงเรื่องเทคโนโลยีไปแล้ว อีกหน่อยก็เป็นจีน อินเดีย และประเทศอื่นๆต่อไป ดูอย่างวิชาการโอลิมปิกสิครับ เด็กไทยเก่งกว่าฝรั่งอีก ขาดเพียงการสนับสนุนเท่านั้น หรือแม้แต่เทคโนโลยีอินเดียก็ไม่รองใคร

...ไม่เชื่อครับ
บันทึกการเข้า

เรารักพระเจ้าอยู่หัว ... LONG LIVE THE KING

จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 09:45:43 AM »

คงเหลืออยู่ในป่าลึกจำนวนไม่มากนัก  อาจมีการสูญพันธ์หากยังโดนล่าอยู่

สนใจเรื่องพงไพรลองอ่านที่นี่ดูครับ http://www.gunsandgames.com/smf/index.php/topic,14831.0.html
บันทึกการเข้า

                
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 10:08:40 AM »

คูปรี มีอยู่จริงครับ ในอดีต
ปัจจุบันหายากมากๆ...
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 10:23:33 AM »

เท่าที่ผมอ่านจากหนังสือพิมพ์ ผมเข้าใจตามข้อความนั้นว่ามันมีจริงครับ แต่เค้าคงแค่จะสื่อว่ามันเป็นสัตว์พันทาง กลายมาจากวัวป่าเท่านั้นมังครับ
บันทึกการเข้า
CyberMan
สมาชิกลำดับที่ 75
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 485



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 10:27:13 AM »

ทราบว่าจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าสงวนมานานหลายสิบปีแล้ว น่าจะมีตัวตนจริงนะครับ
บันทึกการเข้า
Vick - รักในหลวง
tetrodotoxin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

กระทู้: 1085



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 10:48:57 AM »

อาจจะอยู่ในป่าลึกมากๆ ครับ Grin Grin
แล้วเคยได้ยินเรื่องผีกองกอยไหมครับ มีจริงป่าว Grin Grin
บันทึกการเข้า

..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3569


ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 10:58:56 AM »

ถ้าไม่มีตัวตนจริงแล้วจะมีชื่อเรียกได้อย่างไรครับ?
บันทึกการเข้า

ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ Cheesy
อ้วน 008 รักในหลวง
ปืนดี คือปืนที่อยู่ในมือคนดี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2249



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 11:11:36 AM »

ทางภาคใต้เรียก คูรัม หรือ โครัม ครับ ในความรู้สึกผม น่าจะเป็นพวกแพะภูเขาชนิดหนึ่ง มากกว่าสัตว์ตระกูลวัวป่าครับ ดูจากเขา ลำตัว กีบเท้า
บันทึกการเข้า

สนับสนุนการใช้ชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พออยู่ พอใช้ พอที่จะแบ่งปัน
โจ
Hero Member
*****

คะแนน 51
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1367


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 11:17:08 AM »

อย่าไปเอาอะไรมากกับคนอเมริกันครับ บางครั้งชอบคิดว่ารู้ทุกเรื่องเก่งทุกเรื่อง

"กลุ่มนักชีววิทยาได้นำดีเอ็นเอที่กล่าวว่าเป็นของคูปรีไปตรวจเทียบเคียงกับวัวป่ากัมพูชา และได้พบว่าคูปรีอาจเป็นสัตว์พันทาง เพราะมีเซลล์กระเดียดไปทางวัวป่ากัมพูชา" ผมว่าเขาน่าจะอธิบายด้วยว่าวัวป่ากัมพูชาผสมกับอะไรจึงได้คูปรี

อย่างนั้นลิงที่มีดีเอ็นเอใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ไม่มนุษย์ก็ลิงต้องเป็นสัตว์พันธุ์ทางแน่นอนเลย (ว่าแต่มนุษย์ไปผสมกับอะไรถึงเป็นลิง หรือลิงไปผสมกับอะไรถึงเป็นมนุษย์ได้ อย่างรู้จัง)
บันทึกการเข้า
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 387
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9427


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 11:50:30 AM »

บางครั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ก็ขัดแย้งกับความเป็นจริงครับ
อย่าไปเชื่ออะไรมากเลยครับ ผมยังเชื่อว่า กรูปรี มีอยู่จริงๆครับ
บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13941


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 01:07:33 PM »

ต้องเอากระโหลกที่มีเขามาดูครับ   จะว่าไปแล้วก้ไม่เคยเห็นเหมือนกัน     กรูเมากลับบ้านไม่ถูกเห็นบ่อยๆครับ
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12900



« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 01:25:06 PM »

ต้องเอากระโหลกที่มีเขามาดูครับ จะว่าไปแล้วก้ไม่เคยเห็นเหมือนกัน กรูเมากลับบ้านไม่ถูกเห็นบ่อยๆครับ

 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
หนู@เมืองสิงห์™ - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1457



« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2006, 02:10:23 PM »

กูปรี หรือ โคไพร ..

ลักษณะทั่วไป
ลักษณะรูปร่างของกูปรี มีหนอกหลังเป็นสันกล้ามเนื้อบาง ๆ ไม่มีโหนกหนาอย่าง โหนกหลังของกระทิง มีเหนียงคอเป็นแผ่นหนังห้อยยานอยู่ใต้คอ คล้ายวัวบ้านพันธุ์เซบูของอินเดียแต่จะห้อยยาวมากกว่า โดยเฉพาะกูปรีตัวผู้ที่มีอายุมาก ๆ เหนียงคอจะห้อยยาวเกือบติดพื้นดิน ใช้แกว่งโบกไปมาช่วยระบายความร้อนได้เช่นเดียวกับหูช้าง ดั้งจมูกบานใหญ่มีรอยเป็นบั้ง ๆ ตามขวางชัดเจน รูจมูกกว้างเป็นรูปเสี้ยววงเดือน ใบหูแคบสั้น ไม่มีสันกระบังหน้าที่หน้าผากอย่างกระทิงและวัวแดง ใบหน้าของกูปรีจึงดูเรียบแบบวัวบ้าน หางยาว ปลายหางมีพู่ขนดกหนา มีขนตามตัวส่วนมากเป็นสีเทาในกูปรีตัวเมีย และเป็นสีดำในตัวผู้ รูปร่างและการตีวงเขาของกูปรีไม่เหมือนกับเขาของวัวกระทิง วัวแดงหรือวัวบ้านทุกชนิด แต่ไปละม้ายคล้ายกับเขาของจามรี วัวป่าพื้นเมืองแถบเอเซียกลางและธิเบต ลักษณะเป็นเขาบิดอย่างเห็นได้ชัดเจนทั้งของตัวผู้และตัวเมีย แต่ขนาดและรูปทรงต่างกัน เขาของกูปรีตัวผู้มีลำเขาใหญ่ยาวมาก โคนเขาใหญ่และโค้งนูนออก ไม่เว้าเป็นร่องเขาอย่างโคนเขาของกระทิง วัวแดงและกูปรีตัวเมีย มีรอยหยักตามขวางที่เรียกว่า "พาลี" แต่ไม่เห็นเป็นบั้ง ๆ ลึกชัดเจนอย่างพาลีของกระทิงและวัวแดง ลำเขาแต่ละข้างตัวโค้งกว้างลาดมาข้างหน้า ปลายเขาวกบิดชี้ขึ้นแต่ไม่บิดเป็นเกลียวอย่างปลายเขาของตัวเมีย เขาของกูปรีตัวผู้อายุประมาณ 4 ปี จะมีขนาดยาวประมาณ 1 เมตร ระยะนี้ปลายเขาเริ่มแตกตรงปลาย เปลือกเขาชั้นนอกจะแตกออกเป็นพู่ หรือ เป็นเส้นคล้ายไม้กวาดโดยรอบ แกนเขาภายในจะค่อยงอกออกมา พู่เขาจะค่อยยาวขึ้นด้วย ซึ่งอาจยาว ได้ถึง 20 เซนติเมตร ในกูปรีตัวผู้แก่มาก ๆ พู่ปลายเขาเช่นนี้ไม่พบในกระทิงและวัวแดง แต่เปลือกปลายเขามักจะแตกออกเป็นแผ่น ๆ คล้ายกับปลีกล้วยในพวกกระทิงและวัวแดงแก่ ๆ เขาของกูปรีตัวเมียสั้นและเรียวบางกว่าเขาของตัวผู้เกือบเท่าตัว วงเขาตีออกเป็นวงแคบ ๆ ลาดลงมาทางด้านหน้า แล้วบิดเวียนชี้ขึ้น คล้ายเป็นวงเกลียว ช่วงปลายเขาที่บิดชี้ขึ้นนี้ บางครั้งชิดกันดูคล้ายคนยกมือไหว้ คนเขมรจึงมักเรียกว่า เขาพนมพระ หรือเขาไหว้พระ แต่บางคนมองว่าเหมือนพิณฝรั่ง ปลายเขากูปรีตัวเมียจะไม่มีแตกเป็นพู่อย่างปลายเขาตัวผู้ ขนาดของกูปรี โดยเฉลี่ยแล้วตัวผู้จะใหญ่และหนักกว่าตัวเมียมาก ขนาดตัวพอ ๆ กับกระทิง แต่สูงใหญ่กว่าวัวแดง ความยาวของช่วงลำตัวถึงหัว 2.10-2.22 เมตร ความสูงที่ หัวไหล่ 1.71-1.90 เมตร หางยาว 1-1.11 เมตร ถือได้ว่าเป็นวัวป่าที่มีหางยาวที่สุดของไทย น้ำหนักตัว 700-900 กิโลกรัม

นิสัย
พฤติกรรมความเป็นอยู่ของกูปรีส่วนใหญ่คล้ายกับพวกสัตว์เคี้ยวเอื้องทั่วไป คือชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ขนาดฝูงกูปรีในอดีตมีจำนวน 30-40 ตัว มีตัวเมียอาวุโสและอายุมากที่สุดเป็นผู้นำฝูง ส่วนตัวผู้ขนาดใหญ่ ๆ มักชอบแยกตัวไปอยู่รวมกันหลายตัวได้ ซึ่งผิดแผกจากกระทิงและวัวแดง ที่ชอบอยู่โดดเดี่ยวเป็นวัวโทนหรือกระทิงโทน ปกติชอบใช้ชีวิตส่วนใหญ่อาศัยหากินและพักผ่อนอยู่ตามป่าโปร่ง หรือ ป่าโคกที่มีทุ่งหญ้าดินโปร่งและหนองน้ำอุดมสมบูรณ์ ไม่ค่อยชอบอยู่ตามป่าดิบทึบหรือตามป่าเขาสูง ๆ มักพบอาศัยและหากินปะปนไปกับฝูงสัตว์เคี้ยวเอื้องชนิดอื่นได้ แต่ที่พบบ่อยที่สุดอยู่รวมฝูงวัวแดง กับฝูงกระทิง ควายป่า หรือพวกกวางก็พบด้วยเช่นกัน ชอบกินหญ้าต่าง ๆ เป็นอาหารหลักมากกว่าใบไม้ และไม่นอนปลักโคลนอย่างควายป่า นิสัยของกูปรีที่ไม่เหมือนกับวัวแดงและกระทิง คือชอบเอาเขาขวิดกับกิ่งไม้ตามเส้นทางเดินผ่านหรือขวิดเนินขอบแอ่งดินโป่ง หรือ แอ่งน้ำ หรือขวิดคุ้ยพื้นดินตามห้วยเพื่อหาน้ำหรือดินโป่งกินเป็นประจำทำให้เปลือกปลายเขากูปรีตัวผู้แตกออกเป็นพู่ไม้กวาด และยังทำให้พรานป่าสามารถติดตามแกะรอยกูปรีแยกจากวัวแดง และ กระทิงได้ จายรอยขวิดของเขาตามเส้นทางหากินและที่อยู่ได้ง่าย

ถิ่นอาศัย
เขตการกระจายพันธุ์ของกูปรี พบอยู่ในแถบภาคใต้ของลาว ภาคเหนือและภาคตะวันตกของกัมพูชา ภาตตะวันตกของเวียตนาม และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในประเทศไทยเคยมีกูปรีอาศัยอยู่ตามป่าแถบเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณ จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานีและนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนติดต่อกับกัมพูชา ต่อมาได้ลดน้อยลง จนมีรายงานการพบกูปรีอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้าย ในประเทศไทยที่ป่า ดงอีจาน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 6 ตัว ในปี พ.ศ. 2491 หลังจากนั้นมีรายงานการพบเห็นกูปรีจากคำบอกเล่าของพรานพื้นบ้าน แต่ก็น้อยมากและไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอน คาดว่าจะเป็นกูปรีที่อพยพย้ายถิ่นไปมาตามชายแดนไทย-กัมพูชา

การสืบพันธุ์
ฤดูผสมพันธุ์ของกูปรีอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ระยะตั้งท้องประมาณ 9 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ช่วงใกล้คลอดกูปรีแม่ลูกอ่อนจะแยกตัวออกจากฝูง ไปหาที่คลอดลูกและเลี้ยงลูกตามลำพังนานประมาณ 1 เดือน จึงจะพาลูกกลับเข้าฝูงเดิม ต่างจากแม่กระทิงและวัวแดง ที่จะพาลูกกลับเข้าฝูงทันทีที่ลูกแข็งแรงพอจะเดินตามแม่ได้แล้ว ลูกกูปรีแรกเกิดจะมีสีขนตามตัวเป็นสีน้ำตาลคล้าย ๆ ลูกวัวแดง จนอายุประมาณ 4-5 เดือน สีขนจะเริ่มเปลี่ยนไป ขนตัวเมียจะเปลี่ยนเป็นสีเทาขี้เถ้า ตัวผู้สีขนจะเริ่มเป็นสีดำที่บริเวณคอ ไหล่ และสะโพกก่อน ส่วนบริเวณท้องจะเป็นสีเทาขาว ๆ เมื่ออายุมากขึ้นจึงจะเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งตัว ยกเว้นแต่บริเวณหน้าแข้งลงไปถึงปลายกีบขาทั้ง 4 ข้าง จะเป็นสีขาวอย่างถุงเท้าตลอดชีวิต

สถานภาพ
เปรียบเทียบกับสัตว์จำพวกวัวป่าด้วยกัน สถานการณ์ความอยู่รอดของกูปรีอยู่ในขั้นวิกฤตที่สุด มีสาเหตุสำคัญคือการถูกล่า และพื้นที่อันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยอยู่ในภาวะสงคราม อีกทั้งกูปรีเป็นวัวป่าชนิดเดียวที่ยังไม่สามารถนำมาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ได้เลย คนพื้นเมืองในท้องถิ่นชอบล่ากูปรี เพราะเนื้ออร่อย ตัวใหญ่ หนังและเขาราคาดี และยังเชื่อว่ากระดูกที่หนอกหลังของกูปรี และกระทิง นำมาบดละเอียดผสมกับเหล้ากินแล้วร่างกายจะแข็งแรง และยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่นอีกด้วย ส่วนสภาวะสงครามซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของกูปรีมากที่สุดนั้น เพราะนับจากเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองการปกครองภายในของกลุ่มประเทศอินโดจีนทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งล้วนเป็นแหล่งที่อยู่สำคัญของกูปรี ทำให้เกิดสงครามสู้รบต่อเนื่องมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ถิ่นที่อยู่และชีวิตของกูปรีจึงถูกทำลายและฆ่า โดยไม่สามารถประเมินได้ ในปรเทศไทยนับจากรายงานว่ากูปรีฝูงสุดท้ายจำนวน 6 ตัว ที่ป่าดงอีจาน จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกฆ่าตายหมดไปในปี พ.ศ. 2491 นับจากนั้นมา มีแต่รายงานจากพรานพื้นบ้านว่า พบเห็นกูปรีอพยพหนีน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนเข้ามาในเขตไทยแถบเขาพนมดงรัก อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2525 จำนวน 5 - 6 ตัว แต่ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันชัดได้คาดว่ากูปรีฝูงนี้หนีกลับไปฝั่งกัมพูชาในช่วงฤดูแล้ง และไม่ได้กลับมาให้เห็นอีกเลย ปัจจุบันคาดว่า นอกจากในกัมพูชาแล้ว น่าจะยังมีกูปรีอาศัยอยู่ในแถบป่าเมืองจำปาศักดิ์ ของประเทศลาว และในเขตจังหวัด Thua Thien และประเทศเวียดนาม กูปรีจัดเป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 15 ชนิด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535

ข้อจำกัดทางการค้าของสัตว์
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 เป็นชนิดพันธุ์สัตว์ป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาด เนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้าเสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วย

Data from : www.koratzoo.or.th
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.123 วินาที กับ 21 คำสั่ง