เอาล่ะๆ เรื่องนี้มันมีประเด็นและที่มา และผมเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับชาวบ้านหลายคนเลยเอามาเผยแพร่......เรื่องมันมีอยู่ว่า
ตอนผมจบใหม่ๆ และเข้าทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในแผนกซ่อมบำรุงนั้น ในแผนกเราจะมีวิศวกรซ่อมบำรุงอยู่สองคน ผมไฟฟ้า
คู่กับอีกคนคือเครื่องกล ทีนี้เรามีเครื่องจักรอันหนึ่งที่เป็นลูกกลิ้งหมุนและอัดไอน้ำให้ความร้อนกะลูกกลิ้งนี้ด้วย และก็มีปั๊มน้ำหอยโข่งอัดน้ำเย็น
เข้าไปหล่อแกนกลางที่กลวงด้วยเพื่อรักษาอุณภูมิไม่ให้ร้อนเกินไปด้วย
ปัญหามันคือปั๊มตัวนี้มอเตอร์มันใหม้บ่อยต้องเปลี่ยนตัวใหม่อยู่เรื่อย....แต่ตัวใหม่ที่เอามาเปลี่ยนมันก็สเปคเดิม งานนี้ก็เพื่อนผมวิศวะเครื่องกล
เขาเลือกปั๊มมาเองติดตั้งเอง ทางผมแค่รับผิดชอบจ่ายไฟให้..ปัญหานี้ผมได้คุยกะมันว่าสาเหตุที่แท้จริงมันอยู่ตรงไหน
ผมคิดว่าโฟลว์เรทมันไม่เพียงพอทำให้ปั๊มเกินกำลังจนใหม้...แต่เพื่อนผมมันคิดว่าไม่น่าใช่
มันคิดว่าที่ปั๊มมันใหม้น่าจะเกิดจากที่โอเปอร์เรเตอร์ปิดวาล์วทางน้ำออกแล้วลืมเปิดจนปั๊มมันอั้นจนโอเวอร์โหลด มันจึงใหม้ ผมเถียงกะมันว่า
ไม่น่าจะใช่เพราะถ้าปิดไม่ให้น้ำออกก็เท่ากะว่า ไม่เกิดงานขึ้นทางฟิสิกส์ (งาน = แรง x ระยะทาง) เมื่อไม่เกิดงานขึ้น มอเตอร์ก็น่าจะกินกระแสน้อยลง
และมันก็จะไม่ใหม้....เรื่องนี้มันตรงกันข้ามกะความคิดแบบชาวบ้านเลยว่า น้ำไปไหนไม่ได้มันก็อั้นน่ะซิ....นั่นมันใช่กะปั๊มลูกสูบ แต่ไม่ใช่กะปั๊มหอยโข่ง
เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมาผมก็เสนอว่า เราต้องพิสูจน์ วิธีการพิสูจน์มันก็ไม่ยากเลยผมจะเอา คลิปแอมป์ จับกระแสมอเตอร์ให้ดูกันชัดๆว่า
ถ้าหากเราสตาร์ทปั๊มแล้วหรี่วาล์วทางออกจากเปิดมากไปเปิดน้อยหรือปิดวาล์วแล้วดูกระแสของมอเตอร์เราก็จะทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมไปเตรียมอุปกรณ์มาคือ คลิปแอมป์ คล้องเข้าที่เฟสหนึ่งของไฟฟ้าสามเฟสที่เข้ามอเตอร์และทำการ สตาร์ทปั๊ม ผลออกมาได้ดังนี้ครับ
สตาร์ทปั๊มแล้วเปิดวาล์วน้ำทางออกเต็มที่กระแสของมอเตอร์ขึ้นสูงสุดครับ แสดงว่ามอเตอร์กำลังรับโหลดเต็มที่ กินกระแสไฟสูงสุดเลย
ต่อมาค่อยๆหรี่วาล์วปิดน้ำลงเรื่อยๆ ปรากฎว่ากระแสไฟฟ้าลดลงมาเรื่อยๆ ตามการหรี่วาล์วเลยครับ
และถ้าหากปิดวาล์วให้สนิทเลย กระแสของมอเตอร์น้อยสุดครับเท่ากับกระแส no load เลยครับ
ตอนนั้นผมคิดว่ามีทฤษฎีเดียวที่อธิบายปรากฎการเรื่องนี้ได้คือ งาน = แรง x ระยะทาง เมื่อมีแต่แรงคือปั๊มที่ถูกขับโดยมอเตอร์ แต่ไม่สามารถผลักดันน้ำออกไปได้
นั่นก็คือ ไม่มีระยะทาง เมื่อ ตัวคูณเป็นศูนย์ตามสมการ งาน = แรง x ระยะทาง (0)
งาน = 0 นั่นคือ น้ำไม่ไหล มอเตอร์ก็อยู่ในสภาวะ no load คือ ไม่มี งาน เกิดขึ้น
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น แต่เรื่องนี้ทางทฤษฎีของวิศวกรรมเครื่องกลน่าจะมีทฤษฎีในเรื่องของปั๊มที่ตรงๆกว่านี้
เพราะในการเลือกปั๊มมันมีองค์ประกอบที่ต้องนำมาคิดเยอะครับเช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ เฮดเดอร์ ความยาวของท่อน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ชำนาญครับ
เมื่อเราได้ผลการทดลองดังนั้นแล้วการแก้ปัญหาก็ไม่ยากครับ สั่งปั๊มใหม่ที่สามารถทำ flow rate ได้มากขึ้น มอเตอร์ขนาดแรงม้าสูงขึ้น ปั๊มก็ไม่ใหม้อีกเลย
ส่วนที่ว่าทำไมหลักการนี้ใช้ไม่ได้กะปั๊มลูกสูบก็ง่ายๆครับ
ปั๊มลูกสูบทำงานโดยการอัดปริมาตรน้ำเข้าไปในห้องลูกสูบปิดที่มีปริมาตรจำกัดและสสารคือน้ำต้องการที่อยู่ หากไปปิดทางออกมันเสีย
น้ำไม่มีที่ไปประกอบกับลูกสูบก็อัดเข้ามา น้ำไม่เหมือนของเหลวเช่นก๊าซมันอัดไม่ได้ถ้ามันไปไหนไม่ได้และถูกอัดเข้ามาอีก
ตอนนี้แหละน้ำก็จะแข็งกว่าเหล็ก ลูกสูบ ก้านสูบ พังวายวอดหมดแหละ เหมือนกะรถลุยน้ำแล้วดูุดเอาน้ำเข้ากระบอกสูบนั่นแหละโดนลูกสูบอัดเข้ามา
ก้านสูบ ลูกสูบ ใส่ในอะไรต่างก็โดนน้ำอัดเสียหายวายป่วงหมดแทบจะเปลี่ยนใส้ในกันยกชุดนั่นแหละ
Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" ฮา อ่ะ พี่ดุลย์ขร๊า เอิ๊ก เอิ๊ก ฮา
นี่แหละ ปัญหาหลักของ "วิดวะ" อ่ะ ฮา
เรียน ชั้นสี่ อาคารสอง จบ "สูง" อ่ะ ฮา
เขียนประเด็น นิ๊ดดดเดียว สองโพสต์ อ่ะ ฮา
ตกโล้งมัน กะต๊าก หรือเปล่าอ่ะ ฮา
ยายเป็นนายก ยายก็ไม่เลือก เอามาเป็น สะต๊าฟ อ่ะ ฮา