๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 11, 2024, 01:47:49 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 37 38 39 [40] 41 42 43 ... 156
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความเห็นเรื่องม้าดัมเบลครับ...  (อ่าน 191260 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #585 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 11:03:22 AM »

จริงอย่างน้าสมชายว่าครับ น้ำหนักตัวมันไม่ลด
แต่รู้สึกว่ากางเกงที่เคยฟิต มันหลวมลง


ไม่น่าจะใช่นะ ผมกางเกงตัวเดิมเริ่มใส่ไม่ได้แล้วครับ เดี๋ยววันกลับไม่มีกางเกงใส่กลับแน่ ต้องใส่ชุดหมีกลับละครับ
พี่กระจงระวังนั่งเป้าแตกนะครับ
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31463


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #586 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 11:07:25 AM »

จริงอย่างน้าสมชายว่าครับ น้ำหนักตัวมันไม่ลด
แต่รู้สึกว่ากางเกงที่เคยฟิต มันหลวมลง


ไม่น่าจะใช่นะ ผมกางเกงตัวเดิมเริ่มใส่ไม่ได้แล้วครับ เดี๋ยววันกลับไม่มีกางเกงใส่กลับแน่ ต้องใส่ชุดหมีกลับละครับ
พี่กระจงระวังนั่งเป้าแตกนะครับ



เป้าไม่แตก แต่พุงเยอะครับตอนนี้ วันนี้ตั้งใจวิ่งให้หนักแล้วจะพยายามงดมื้อดึกครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #587 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 11:33:39 AM »

พี่กระจงลองควบคุมอาหารหรือยังครับ
ผมจะเน้นหมูผัก เนื้อผัก ลดแป้งลดมันครับ
พุงผมมันลดลง ต้านข้างหายไปหน่อยจนสังเกตได้ครับ
แต่ด้านหน้าก็ยังมีอยู่ ต้องพยามต่อ
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31463


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #588 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 11:46:53 AM »

พี่กระจงลองควบคุมอาหารหรือยังครับ
ผมจะเน้นหมูผัก เนื้อผัก ลดแป้งลดมันครับ
พุงผมมันลดลง ต้านข้างหายไปหน่อยจนสังเกตได้ครับ
แต่ด้านหน้าก็ยังมีอยู่ ต้องพยามต่อ


อย่างมื้อเที่ยงวันนี้นะครับ

ข้าว ๑ ทัพพี  อกไก่ย่าง ๑ ชิ้น   ไข่ต้ม  ๓ ฟอง  ผัก ๑ จาน แล้วก็ ไก่ต้มข่าหัวปลี ๑ ถ้วยครับ


ด้านหน้าไม่เยอะแต่ออกข้างครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #589 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 08:45:22 PM »

ผมว่าผมมีปัญหาแล้วครับ.. 3 วันแล้วยังล้าไม่หาย...


การเกิดกรดแลคติกในกล้ามเนื้อเป็นผลจากการออกกำลังกายแบบ anaerobic โดยในสภาวะที่มีกรดแลคติกในเลือดสูง(เกิน 4 มิลลิโมล/ลิตร)การหดตัวของกล้ามเนื้อจะถูกยับยั้งเนื่องจาก โปรทีนในเซลล์กล้ามเนื้อจะไม่สามารถทำงานได้ในสภาวะที่เป็นกรดสูง และกรดแลคติกก็จะไปปิดกั้นผนังเซลล์ ทำให้เกิดการสะสมของๆเสียและ ไมโตครอนเดรีย(Mitochrondria)ก็ไม่สามารถสังเคราะห์ ATP ซึ่งเป็นพลังงานของร่างกายได้ ทำให้เกิดการล้าของกล้ามเนื้ออย่างทันที ความรู้สึกง่ายๆ คือ ปวดเมื่อยส่วนกล้ามเนื้อที่ล้าเนื่องจากขีดจำกัดในการทำงานของมันเช่นการออกกำลังกายแบบ aerobic นานๆกล้ามเนื้อก็มีข้อจำกัดในการทำงานเช่นกันความทนทานในการทำงานของกล้ามเนื้อก็สามารถสร้างได้โดยการออกกำลังเพื่อสร้างความทนทานแบบต่างๆ(Endurance Training)อธิบายก็อาจเห็นภาพยาก เอาเป็นว่าทดลองดูดีกว่าครับหา ดัมเบลขนาดเหมาะมือใว้ในมือนะครับ แล้วก็ลองยกดูช้าๆค่อยๆยก จะรู้สึกว่ายกได้เรื่อยๆ หลายครั้งกว่าจะรู้สึกล้าคราวนี้ลองใหม่(อาจเป็นแขนอีกข้าง)ลองยกเร็วๆ เลยครับ รับรองว่าทำได้ไม่มาก เท่าช้าๆแล้วกล้ามเนื้อก็จะล้าอย่างรวดเร็ว อาการก็จะเป็นแบบปวดเมื่อยลองทำดูครับแล้วจะได้รู้สึกว่าความแตกต่างของอาการดังกล่าวมันเป็นยังไง(กล้ามเนื้อแขน Biceps มีส่วนประกอบเป็นกล้มเนื้อขาวเป็นหลัก)ทีนี้ก็สามารถนำหลักการที่ว่ามาไปวิเคราะห์หาสาเหตุว่าคุณเมื่อยแบบไหนได้ครับการยกน้ำหนักแบบหนักๆช้าๆ บางทีทำได้ไม่กี่ครั้งก็เมื่อยล้าแล้ว เพราะ ความทนทานของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับ งานที่ทำด้วยครับ แต่ถ้าคุณยกเวทแบบแรงๆเร็วก็จะเป็นการทำงานแบบ anaerobic ที่เกิดกรดแลคติกนั่นเองครับ(การยกช้าๆจะทำได้หลายครั้งกว่า)และขอบอกก่อนว่าค่า Anaerobic threshold นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคนครับ จะไม่ใช่ค่า 85% ของMaximum Heart rate เสมอไป จุดที่บ่งชี้ว่าค่านี้อยู่ตรงไหน หากวัดทางตรง(คือการตรวจเลือดขณะออกกำลังกาย)จะพบว่า ค่า AT คือจุดที่มีกรดแลคติกในเลือดสูงกว่า 4 มิลลิโมล/ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่ร่างกายไม่สามารถขจัดออกไปได้ทัน(คนปรกติจะมีปริมาณกรดแลคติกในเลือดขณะพักประมาณ1-2 มิลลิโมล/ลิตร,ส่วนในนักกีฬาที่แข่งขันแบบ Anaerobic อาจมีกรดแลคติกในเลือดสูงถึง25-30 มิลลิโมล/ลิตร เป็นระยะเวลาหลายนาที เลยทีเดียว)เนื่องจากว่าเมื่อปริมาณกรดแลคติกเกิน 4 มิลลิโมล/ลิตรเป็นปริมาณที่ร่างกายไม่สามารถขจัดออกไปได้ทัน ร่างกายจึงมีการปรับตัวโดยมีอัตราการเต้นของชีพจรสูงขึ้น โดยจุดที่อัตราชีพจรเพิ่มขึ้นอย่างทันทีนี้สามารถหาได้โดยการทำ conconi test มักมีค่า80-85% ของชีพจรสูงสุดแต่อย่างไรก็ตามค่าดังกล่าว(80-85%)ก็เป็นค่าทางสถิติ สำหรับนักกีฬาที่แข็งแรงจะมีค่านี้สูง ถ้าเปรียบเทียบกับ คนธรรมดาที่ไม่เคยออกกำลังกาย ถ้าอยู่ๆเอามาวิ่งสปริ้นทร์ ร่างกายก็จะทำงานแบบ anaerobic ทันที แสดงว่า มีค่า AT ต่ำ ถ้าเล่าต่อไปยาวกว่านี้มันจะไม่จบซะทีเอาเป็นว่า ถ้ามีข้อสงสัยใดอีกก็ถามมาได้เลยแล้วกันครับยินดีให้คำแนะนำ

กรดแลคติคคืออะไรครับ...
บันทึกการเข้า

นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31463


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #590 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 09:09:16 PM »

พี่กระจงลองควบคุมอาหารหรือยังครับ
ผมจะเน้นหมูผัก เนื้อผัก ลดแป้งลดมันครับ
พุงผมมันลดลง ต้านข้างหายไปหน่อยจนสังเกตได้ครับ
แต่ด้านหน้าก็ยังมีอยู่ ต้องพยามต่อ


อย่างมื้อเที่ยงวันนี้นะครับ

ข้าว ๑ ทัพพี  อกไก่ย่าง ๑ ชิ้น   ไข่ต้ม  ๓ ฟอง  ผัก ๑ จาน แล้วก็ ไก่ต้มข่าหัวปลี ๑ ถ้วยครับ


ด้านหน้าไม่เยอะแต่ออกข้างครับ



มื้อเย็น ไก่ต้มพะโล้ ๑ ถ้วย   ลาบหมู ๑ ถ้วย ผักอีก ๑ จาน  ไม่กินข้าวครับ


วันนี้วิ่งไป ๔ กิโลเมตรบนลู่วิ่ง บอกว่าใช้แคลอรี่ไป ๔๒๐ แคลอรี่ครับ   ซิทอัพ ๗๐ ครั้ง นอนเตะขาสลับ ๒๐๐ ครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #591 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 09:20:42 PM »

ผมว่าผมมีปัญหาแล้วครับ.. 3 วันแล้วยังล้าไม่หาย...

สงสัยคุณตั้ว Over - training ครับ...

นายสมชายสรุปมาให้อ่านก่อน แล้วเดี๋ยวคุณตั้วค้นต่อตามลิ้งก์นะครับ สรุปว่าให้พักผ่อนครับ... หากไม่เจ็บกล้ามเนื้อแบบทรมาน คือเป็นแค่ล้าบ้างก็พักผ่อนก่อนแล้วดูอาการ หากยังไม่ดีขึ้นค่อยไปหาหมอครับ...

สรุปเรื่อง Overt - Training ... เรื่องมันมีอยู่ว่าเวลาเราฝึกกล้ามเนื้อ นั่นคือเป็นการทำลายเส้นใยกล้ามเนื้อ แล้วร่างกายจะสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ให้มากกว่าเดิม ซึ่งกระบวนการนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 36 ชั่วโมง, แต่ปัญหามีอยู่ว่าหากเราฝึกกล้ามเนื้อมัดนั้นมากไป ทำให้ร่างกายสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ไม่ทัน เพราะหมดเวลา 36 ชั่วโมงเสียก่อน ร่างกายเลยประท้วงครับ เพราะต้องการให้พักผ่อน...

รายละเอียดอยู่นี่ครับ เป็นเว็บพันทิพย์เขาสนทนากัน แล้วมีคนเอาไปถามเว็บมาสเตอร์ เว็บ http://www.muscle.in.th ครับ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2012/03/X11881862/X11881862.html ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #592 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 09:22:47 PM »

นายสมชายเอามาให้อ่านที่นี่เลยดีกว่าครับ... ตามตัวน้ำเงินครับ...

ความคิดเห็นที่ 12   
ความคิดเห็นที่ 6   

เราเอาคำถาม ไปถามพี่เว็บมาสเตอร์ เว็บ http://www.muscle.in.th มาให้
พี่เค้าเลยเขียนเป็นบทความลงเว็บ ตามลิงค์นี้
http://www.muscle.in.th/blog/golfz/การฝึก/เล่นเวทจำเป็นต้องเล่นทุกวันไหมครับ

พี่เค้าตอบดังนี้ค่ะ

การเล่นเวทเราจะไม่เล่นทุกวันครับ

เพราะการเล่นเวทเราทำให้กล้ามเนื้อเสียหายนิดหน่อย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตรงนั้นให้แข็งแรงกว่าเดิม และมีเส้นใยกล้ามเนื้อหนากว่าเดิม เพื่อป้องกันการเสียหายอีก เราเลยมีกล้ามเนื้อที่หนาขึ้น

แต่กระบวนการนี้จะใช้เวลา 36 ชั่วโมง หรือ 1 วันครึ่ง สิ่งที่สำคัญคือ เราจะทำอย่างไรให้การซ่อมแซมนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์

เพราะหากซ่อมแซมได้สมบูรณ์เราจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นและขนาดที่ใหญ่ขึ้น

แต่ที่แย่ที่สุดที่เราพอรับได้คือ ร่างกายสามารถซ่อมแซมกลับมาได้เท่าเดิมเท่านั้น ทำให้เรายังแข็งแรงเท่าเดิม ขนาดของกล้ามเนื้อก็เท่าเดิม เหนื่อยเปล่าแต่ร่างกายไม่พัฒนา

แต่ที่แย่ที่สุดคือการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ไม่เต็มที่ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ไม่ทั้งหมด แต่ครบ 36 ชั่วโมงซะก่อน ร่างกายจึงหยุดซ่อมแซมส่วนนั้น ทำให้การสึกหรอยังคงอยู่แต่จะไม่ได้รับการซ่อมแซมอีก หากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะลดลง และขนาดจะลดลง หรือเกิดภาวะกล้ามเนื้อแกร็น

36 ชั่วโมงนี้ หมายถึงช่วงเวลาหลังออกกำลังการแบบใช้แรงต้าน แล้วร่างกายเกิดผลิต IGF-1 หรือ Insulin-like growth factor-1 ซึ่งจะมากพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์โปรตีน ตรงตำแหน่งที่เกิด IGF-1 receptor หรือตัวรับ IGF-1 ซึ่งจะเกิดตรงกล้ามเนื้อที่เสียหายหลั่งสาร receptor ตัวนี้ออกมา แต่หลังจาก 36 ชั่วโมง ระดับของ IGF-1 และ IGF-1 receptor จะต่ำลง จนร่างกายจะไม่สังเคราะห์โปรตีนนะจุดนั้นอีก

คราวนี้มาถึงปัจจัยที่ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่

1. การทานอาหารอย่างเพียงพอ ที่สำคัญเราต้องได้รับโปรตีนอย่างน้อยที่สุด 1 กรัม/น้ำหนักตัว 1 ปอนด์ เพราะนี่คือวัตถุดิบหลักในการสังเคราะห์โปรตีน

2. การพักผ่อนอย่างเพียงพอ เนื่องจากเมื่อกล้ามเนื้อเสียหาย กล้ามเนื้อส่วนนั้นจะหลั่ง IGF-1 receptor อยู่แล้ว ขาดก็แต่ IGF-1 ที่จะเข้ามาจับคู่ แล้วเริ่มกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน แต่ร่างกายก็ไม่ได้ผลิต IGF-1 ขึ้นโดยตรง แต่จะถูกผลิตที่ตับ โดยมี Growth Hormone (GH) เป็นตัวกระตุ้นให้ผลิต

คราวนี้การที่ตับจะผลิต IGF-1 มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของ GH

แล้ว GH จะมากหรือน้อยขึ้นกับอะไรบ้าง?
1. ขึ้นกับจำนวนชั่วโมงที่เรานอนหลับ ยิ่งนอนหลับหลายชั่วโมง GH จะถูกหลั่งออกมามาก

2. ขึ้นกับการออกกำลังกายที่เข้มข้นมากพอ แต่ไม่มากจนเกินไป คือฝึกเวทเทรนนิ่งหรือฝึกเพาะกายให้เข้มข้น แต่อย่าให้เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เพราะหากนานกว่านี้ผลที่ได้รับจะเป็นในทางตรงข้ามคือ GH จะถูกหลั่งน้อยลง เนื่องจาก Cortisol(ซึ่งเป็น Stress hormone ชนิดหนึ่ง คือฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นเมื่อเกิดความเครียดทางร่างกาย) ถูกผลิตออกมามากขึ้น มีผลให้ให้ร่างกายหลั่ง GH น้อยลง

3. ปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ(อายุยิ่งมาก GH จะน้อยลง), แสงสว่างในห้องนอน(ยิ่งมืดสนิท GH ยิ่งหลั่งออกมามาก), คุณภาพในการนอน, ระดับของ NO ในเลือด, สภาวะความเป็นกรดเบสในร่างกาย เป็นต้น

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าการฝึกเพาะกายหรือเวทเทรนนิ่งนั้น เป็นเพียงตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของร่างกายเท่านั้น แต่ร่างกายของเราจะพัฒนาไปในทางที่ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการทานอาหาร และการพักผ่อนเป็นสำคัญ

หากเราเอาแต่กระตุ้นร่างกายให้เสียหาย แต่เราไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ และพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายได้ได้เริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ ผลที่ได้รับจะเป็นการทำร้ายร่างกายของเราด้วยตัวเราเอง

คราวนี้เมื่อเราเห็นกันแล้วว่าเราต้องพักผ่อนเพื่อเติบโต ก็มาดูกันว่ารูปแบบทั่วไปของการฝึกเพาะกายหรือเวทเทรนนิ่งนั้น เค้าแบ่งวันฝึกและวันพักกันอย่างไร

- วันเว้นวัน คือ ฝึก 1 วัน แล้วพัก 1 วันสลับกันไปเรื่อยๆ เช่นเราจะฝึกแค่ จันทร์ พุธ ศุกร์ แล้ววันที่เหลือเราก็พักผ่อน หรือฝึก อังคาร พฤหัส เสาร์ แล้ววันที่เหลือเราก็พักผ่อนเช่นกัน

- 2พัก1 คือ ฝึกติดกัน 2 วัน แล้วพัก 1 วัน แล้วกลับมาฝึกอีก 2 วัน โดยที่ 2 วันที่ฝึกนั้นเราจะไม่ฝึกกล้ามเนื้อมัดเดียวกันโดยเด็ดขาด เพื่อเปิดโอกาสให้ร่างกายได้มีเวลาซ่อมแซมได้เต็มที่ ตัวอย่างเช่น
วันจัททร์ ฝึกกล้ามอก+ไทรเซบ
วันอังคาร ฝึกกล้ามขา
วันพุธ พัก(แต่ต้องทานให้พอ และพักผ่อนให้มาก)
วันพฤหัส กล้ามหลัง+ไบเซบ
วันศุกร์ กล้ามไหล่+กล้ามท้อง
วันเสาร์ พัก
วันอาทิตย์ พัก

- 3พัก1 คือ ฝึก 3 วัน แล้วพัก 1 วัน แล้วกลับมาฝึกอีก 3 วัน แล้วพัก 1 วัน วนกันไปแบบนี้เรื่อยๆ โดยที่เราจะไม่ฝึกกล้ามเนื้อมัดเดียวกันในวันติดกันโดยเด็ดขาด เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัก

- 4พัก1 คือ ฝึก 4 วัน แล้วพัก 1 วัน แล้วกลับมาฝึกอีก 4 วัน แล้วพัก 1 วัน วนกันไปแบบนี้เรื่อยๆ โดยที่เราจะไม่ฝึกกล้ามเนื้อมัดเดียวกันในวันติดกันโดยเด็ดขาด เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัก

- 5พัก2 คือ ฝึก 5 วัน แล้วพัก 2 วัน แล้วกลับมาฝึกอีก 5 วัน แล้วพัก 2 วัน วนกันไปแบบนี้เรื่อยๆ โดยที่เราจะไม่ฝึกกล้ามเนื้อมัดเดียวกันในวันติดกันโดยเด็ดขาด เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัก

โดยทั่วไปก็มีประมาณนี้ครับ แต่อาจปรับตามความสะดวกของแต่ละคน แต่จำไว้ครับว่าต้องให้กล้ามเนื้อได้พักอย่างน้อย 36 ชั่วโมง

จำไว้ครับว่า "เราโตในวันที่พัก ไม่ใช่วันที่ฝึก"

จากคุณ : GolFzTuN   
เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 11:08:07 
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #593 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 09:26:38 PM »

ยิ่งคุณตั้วฝึกกล้ามชุดเดิมทุกวันเสียด้วย ยิ่งมีโอกาสเกิด Over - Training สูงขึ้นครับ... ประกอบกับไม่ได้พักผ่อนเพียงพอช่วงวันหยุดยาวฯ และไปงัดข้อกับน้องชายเสียด้วย, เลยส่งเสริมกันไปใหญ่ครับ...

ลองพักผ่อนสัก 3 วัน หากยังรู้สึกไม่หายดีก็ลากพักผ่อนไปอีกสักสัปดาห์หนึ่ง... หากไม่ไหวค่อยไปหาหมอครับ...
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31463


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #594 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2013, 09:32:22 PM »

ยิ่งคุณตั้วฝึกกล้ามชุดเดิมทุกวันเสียด้วย ยิ่งมีโอกาสเกิด Over - Training สูงขึ้นครับ... ประกอบกับไม่ได้พักผ่อนเพียงพอช่วงวันหยุดยาวฯ และไปงัดข้อกับน้องชายเสียด้วย, เลยส่งเสริมกันไปใหญ่ครับ...

ลองพักผ่อนสัก 3 วัน หากยังรู้สึกไม่หายดีก็ลากพักผ่อนไปอีกสักสัปดาห์หนึ่ง... หากไม่ไหวค่อยไปหาหมอครับ...



ให้คุณตั้วหายไวๆครับ จะได้กลับมาเล่นอีกครับ วันนี้ดีใจมากเพราะลองวัดขนาดแขนแล้ว เทียบกับคนที่ผมคิดว่าเขาแขนใหญ่ แต่ผมใหญ่กว่านิดนึงทั้งๆที่ผมดูว่าผอม แต่เขาเป็นคนดูบึกบึนครับ อดีตทหรนหน่วย นย. ครับ แต่ยังแพ้อดีตลูกเรือประมงครับ ต้องฟิดอีกเยอะครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #595 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 06:59:39 AM »

+ ขอบคุณครับพี่สมชาย.. ไหว้
บันทึกการเข้า

แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #596 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 07:48:01 AM »

ใจเย็นๆครับ อย่าหักโหม ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
พักหายแล้วมาสนุกกันต่อครับพี่
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6602


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #597 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 07:59:20 AM »

"กรดแลคติคคืออะไรครับ... "  นมเปรี้ยว..ooop  คือ กรดที่กล้ามเนื้อหลั่งออกมา ตามที่คุณสมชายอธิบายดังกล่าวครับ

เรื่องการล้าของกล้ามเนื้อ เป็นเรื่องธรรมดา และต้องเจอ ตามที่เคยกล่าวไว้แล้วครับ
เทรน์เนอร์ผมแนะให้ cool down หลังยกเวทใหม่ๆ โดยการ burn เล็กๆ ด้วยปั่นจักรยาน หรือ เดินเร็ว แล้วยืดกล้ามเนื้อ
บ่อยๆ สัก 15-20 นาที จะได้สลาย กรดแลคติดได้บ้าง  แทนการหยุดเล่นทันที  ลองดูได้ครับ เผื่อลดอาการล้าของกล้ามเนื้อ
ได้บ้าง

ส่วนเรื่องจัดโปรแกรมแยกส่วนบริหารในแต่ละวัน ก็ช่วยให้ไม่ล้าทั้งตัว ดังที่เคยกล่าวไว้แล้วเช่นกันครับ
ลองปรับดูครับ



บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #598 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 08:43:07 AM »

+ ขอบคุณครับพี่สมชาย.. ไหว้

ยินดีครับ...

คือที่นายสมชายยังบอกว่าไม่อันตราย ให้พักผ่อนรอดูอาการเสียก่อน หากมันทรมานค่อยไปหาหมดนั่นมีหลักคิดอย่างนี้ครับ... คือการออกกำลังกายมันจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับ 2 อย่างคือกล้ามเนื้อฯ กับข้อต่อฯ, เรื่องข้อต่อนั่นคุณตั้วพบด้วยตัวเองไปแล้วคือมันจะเสียวๆเตือน แล้วเราก็เลี่ยงไม่ชนกำแพงด้วยการไม่เพิ่มน้ำหนักฯ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะเรื่องนี้กล้ามเนื้อล้าฯ...

สำหรับเรื่องกล้ามเนื้อบาดเจ็บจะมีอยู่ 2 อย่างสุดโต่งคือกล้ามเนื้อ Over - trainning แล้วประท้วงด้วยการล้า บางทีระบมด้วย เพื่อเตือนเราให้พักผ่อน, ส่วนสุดโต่งแบบที่ 2 คือกล้ามเนื้อฉีก ซึ่งอย่างหลังนี่ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะหากกล้ามเนื้อฉีกมันจะเจ็บจึ๊กกกกกกก!!! แล้วบวมขึ้นทันทีชนิดแบบหากเป็นนักบอลวิ่งในสนามจะต้องเปลี่ยนตัวทันทีครับ...

สำหรับคุณตั้วไม่น่าใช่... เพราะมันไม่เจ็บรุนแรงแบบนั้น ประกอบกับมีข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณตั้วฝึกทุกวันซ้ำกล้ามเนื้อชุดเดิม, ซึ่งที่ผ่านมามันไม่ Over - trainning เป็นเพราะยังไม่ชนลิมิต, แต่คราวล่าสุดนี่ชนลิมิต แล้วไปงัดข้อซ้ำครับ เลยโดนกล้ามเนื่อประท้วง...

ขอให้หายในเร็ววันครับ... เมื่อใดหายแล้ว เราจะรู้สึกได้เองครับ เช่นมันหายล้าและใช้แรงได้มากเหมือนเดิมก่อนโดนประท้วงครับ... เย้...
บันทึกการเข้า
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #599 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 09:56:37 AM »


ให้คุณตั้วหายไวๆครับ จะได้กลับมาเล่นอีกครับ วันนี้ดีใจมากเพราะลองวัดขนาดแขนแล้ว เทียบกับคนที่ผมคิดว่าเขาแขนใหญ่ แต่ผมใหญ่กว่านิดนึงทั้งๆที่ผมดูว่าผอม แต่เขาเป็นคนดูบึกบึนครับ อดีตทหรนหน่วย นย. ครับ แต่ยังแพ้อดีตลูกเรือประมงครับ ต้องฟิดอีกเยอะครับ

ใจเย็นๆครับ อย่าหักโหม ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
พักหายแล้วมาสนุกกันต่อครับพี่

"กรดแลคติคคืออะไรครับ... "  นมเปรี้ยว..ooop  คือ กรดที่กล้ามเนื้อหลั่งออกมา ตามที่คุณสมชายอธิบายดังกล่าวครับ

เรื่องการล้าของกล้ามเนื้อ เป็นเรื่องธรรมดา และต้องเจอ ตามที่เคยกล่าวไว้แล้วครับ
เทรน์เนอร์ผมแนะให้ cool down หลังยกเวทใหม่ๆ โดยการ burn เล็กๆ ด้วยปั่นจักรยาน หรือ เดินเร็ว แล้วยืดกล้ามเนื้อ
บ่อยๆ สัก 15-20 นาที จะได้สลาย กรดแลคติดได้บ้าง  แทนการหยุดเล่นทันที  ลองดูได้ครับ เผื่อลดอาการล้าของกล้ามเนื้อ
ได้บ้าง

ส่วนเรื่องจัดโปรแกรมแยกส่วนบริหารในแต่ละวัน ก็ช่วยให้ไม่ล้าทั้งตัว ดังที่เคยกล่าวไว้แล้วเช่นกันครับ
ลองปรับดูครับ



คือที่นายสมชายยังบอกว่าไม่อันตราย ให้พักผ่อนรอดูอาการเสียก่อน หากมันทรมานค่อยไปหาหมดนั่นมีหลักคิดอย่างนี้ครับ... คือการออกกำลังกายมันจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับ 2 อย่างคือกล้ามเนื้อฯ กับข้อต่อฯ, เรื่องข้อต่อนั่นคุณตั้วพบด้วยตัวเองไปแล้วคือมันจะเสียวๆเตือน แล้วเราก็เลี่ยงไม่ชนกำแพงด้วยการไม่เพิ่มน้ำหนักฯ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะเรื่องนี้กล้ามเนื้อล้าฯ...

สำหรับเรื่องกล้ามเนื้อบาดเจ็บจะมีอยู่ 2 อย่างสุดโต่งคือกล้ามเนื้อ Over - trainning แล้วประท้วงด้วยการล้า บางทีระบมด้วย เพื่อเตือนเราให้พักผ่อน, ส่วนสุดโต่งแบบที่ 2 คือกล้ามเนื้อฉีก ซึ่งอย่างหลังนี่ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะหากกล้ามเนื้อฉีกมันจะเจ็บจึ๊กกกกกกก!!! แล้วบวมขึ้นทันทีชนิดแบบหากเป็นนักบอลวิ่งในสนามจะต้องเปลี่ยนตัวทันทีครับ...

สำหรับคุณตั้วไม่น่าใช่... เพราะมันไม่เจ็บรุนแรงแบบนั้น ประกอบกับมีข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณตั้วฝึกทุกวันซ้ำกล้ามเนื้อชุดเดิม, ซึ่งที่ผ่านมามันไม่ Over - trainning เป็นเพราะยังไม่ชนลิมิต, แต่คราวล่าสุดนี่ชนลิมิต แล้วไปงัดข้อซ้ำครับ เลยโดนกล้ามเนื่อประท้วง...

ขอให้หายในเร็ววันครับ... เมื่อใดหายแล้ว เราจะรู้สึกได้เองครับ เช่นมันหายล้าและใช้แรงได้มากเหมือนเดิมก่อนโดนประท้วงครับ... เย้...

ขอบคุณมากครับ.. ไหว้

อุตส่าห์ซื้อแผ่นน้ำหนัก 0.5 Kg. มาเพื่อจะได้เพิ่มน้ำหนักได้ทีละ 1 Kg. ยังไม่ได้ลองเลย..

อาการหายเมื่อไหร่จะลองออกกำลังแบบเดิม แต่ออกแบบวันเว้นวันแล้วครับ... หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 37 38 39 [40] 41 42 43 ... 156
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 21 คำสั่ง