ตำรวจพกปืนอย่างไรที่ไม่ให้ผู้ร้ายแย่งปืนได้

[NaiMai>รักในหลวง]

วิธีแก้ไขของผมคือ "ไม่หันหลังให้ฝ่ายตรงข้ามครับ"

  รู้นะคิดอะไรอยู่

....น่านซิ....แค่คิดก็เสียวแล้ว.....    

อะ..อะ..อะไรกันตัวเอง... ระแวงอะไรกันฮ้า... 

  คิดอารายก๊านนนนนนนนนน โธ่ ๆๆๆๆ เห็นลูกผู้ชายใจเกินร้อยมาดแมนป๊าดอย่างนายใหม่เป็นแบบนั้นไปได้ นายใหม่ไม่ชอบเก็บสบู่หรอกฮ๊า.... 555
  เข้าทวา...เอ้ย! เข้ากระทู้กันดีกว่าครับ ที่ว่า "ไม่หันหลังให้ฝ่ายตรงข้าม" น่ะ คือ หากเรามีเหตุประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม การที่เราไม่หันหลังให้ฝ่ายตรงข้ามก็คือเราจะระมัดระวังตัวเองอยู่แล้ว ไม่ใช่ระวังจากกลัวโดนแย่งปืน แต่เป็นการระวังจากการจู่โจมจากฝ่ายตรงข้ามครับ ในเมื่อเราระวังการจู่โจมแล้วก็เป็นการระวังในกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาแย่งปืนได้ไปในตัว แต่! ยกเว้นกรณีโดนแย่งปืนจากความเผลอเรอครับ ในความเห็นของผม ถ้าเราเผลอหรือประมาท หรือไม่ทันคิดก็แล้วแต่ ว่าใครจะมาแย่งปืนจากเอวของเรา ต่อให้เอาปืนไว้ในลักษณะอย่างไรซ้ายหรือขวาดึงจากข้างหน้าหรือข้างหลัง ผมว่าก็โดนแย่งได้อยู่ดี กรณีนี้พวกซองปืนก็จะช่วยได้บ้าง แต่ไม่ได้ช่วยให้แย่งปืนไม่ได้ แต่ช่วยถ่วงเวลาให้ดึงหรือชักปืนได้ยากขึ้นเท่านั้นครับ

[dpd8159]

เรียนถาม คุณ dpd8159 ว่า...หลังจากฝึกซ้อมจนชำนาญแล้ว ได้ลองจับเวลาหรือเปล่าครับว่า ตั้งแต่ปลดล็อคจนถึงปืนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ใช้เวลาประมาณกี่วินาที... 

ผมเคยจับเวลาดูเหมือนกันครับ (แบบไม่เป็นทางการ ขณะฝึกซ้อมด้วยตัวเอง) เริ่มจาก Interview Stance จนยิงนัดแรก  (เป้าหุ่น FBI – QIT ระยะประมาณเจ็ดหลา) ครั้งแรก ๆ จะประมาณ 2.0 – 2.5  วินาที แต่พอยิงไปสัก 5-6 ครั้ง จะดีขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ประมาณ 1.6 – 2.0 วินาที แต่ยังไม่เคยทำได้เร็วกว่า 1.6 วินาทีเลยครับ (ถ้าเร็วกว่านี้จะเริ่มยิงไม่เข้าเป้าครับ – ผมยอมยิงให้ช้าอีกนิดแต่เข้าเป้าดีกว่า) คงจะต้องฝีกซ้อมกันอีกมากครับ

[naisomchai]

วิธีแก้ไขของผมคือ "ไม่หันหลังให้ฝ่ายตรงข้ามครับ"

  รู้นะคิดอะไรอยู่

....น่านซิ....แค่คิดก็เสียวแล้ว.....    

อะ..อะ..อะไรกันตัวเอง... ระแวงอะไรกันฮ้า... 

  คิดอารายก๊านนนนนนนนนน โธ่ ๆๆๆๆ เห็นลูกผู้ชายใจเกินร้อยมาดแมนป๊าดอย่างนายใหม่เป็นแบบนั้นไปได้ นายใหม่ไม่ชอบเก็บสบู่หรอกฮ๊า.... 555
  เข้าทวา...เอ้ย! เข้ากระทู้กันดีกว่าครับ ที่ว่า "ไม่หันหลังให้ฝ่ายตรงข้าม" น่ะ คือ หากเรามีเหตุประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม การที่เราไม่หันหลังให้ฝ่ายตรงข้ามก็คือเราจะระมัดระวังตัวเองอยู่แล้ว ไม่ใช่ระวังจากกลัวโดนแย่งปืน แต่เป็นการระวังจากการจู่โจมจากฝ่ายตรงข้ามครับ ในเมื่อเราระวังการจู่โจมแล้วก็เป็นการระวังในกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาแย่งปืนได้ไปในตัว แต่! ยกเว้นกรณีโดนแย่งปืนจากความเผลอเรอครับ ในความเห็นของผม ถ้าเราเผลอหรือประมาท หรือไม่ทันคิดก็แล้วแต่ ว่าใครจะมาแย่งปืนจากเอวของเรา ต่อให้เอาปืนไว้ในลักษณะอย่างไรซ้ายหรือขวาดึงจากข้างหน้าหรือข้างหลัง ผมว่าก็โดนแย่งได้อยู่ดี กรณีนี้พวกซองปืนก็จะช่วยได้บ้าง แต่ไม่ได้ช่วยให้แย่งปืนไม่ได้ แต่ช่วยถ่วงเวลาให้ดึงหรือชักปืนได้ยากขึ้นเท่านั้นครับ

สมัยนายสมชายยังรับราชการอยู่... ไม่ได้มีหน้าที่ไปบู๊กับใคร แต่เคยทำงานพลาดแบบอวดฉลาดไม่ฟังผู้ใหญ่... ปล่อยให้ตัวเองไหลเข้าไปสถานการณ์เครียดหนเดียวน่ะครับ...

นายสมชายใช้วิธีระวังตัวไม่ให้ใครเข้าใกล้ในระยะอันตราย และมุมอันตราย เช่นมีอะไรบังมุมมือ บังมุมข้อศอก... หากใครเข้ามาในระยะขนาดนั้น นายสมชายใช้วิธีเดินหนีไปไกลๆ ทิ้งระยะห่างเอาไว้เลยครับ... ขณะนั้นคิดเอาไว้หากหนีไม่พ้น คงใช้วิธีกำด้ามปืนเอาไว้เลย เพียงแต่ไม่ชักขึ้นมา รับรองไม่มีใครมาแย่งได้... ฮา... แล้วหลังจากนั้นมา นายสมชายไม่เคยปล่อยให้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นเลยครับ... น่ากลัวมาก หากพลาดแค่แว๊บเดียว... โดนคนที่เขาฝึกมา ซัดผลั่วเดียว... นายสมชายกลิ้งโค่โร่เลย ปืนกระเด็นแน่... จ๊ากซ์

เฉพาะตัวนายสมชายไม่ฝึกเรื่องแบบนี้มาก่อน... ดังนั้นจึงไม่คิดว่าซองปืน หรืออุปกรณ์ต่างๆจะช่วยนายสมชายไม่ให้โดนแย่งปืนเลยจ้า...