๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 15, 2024, 01:25:04 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 43
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: /// อยากให้ คสช. เข้ามาดูแล ปตท.หน่อยครับน้ำมันแพงเกินครับ //  (อ่าน 56162 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
zamphol
ปืน-อยู่-ที่-ปาก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 831
ออฟไลน์

กระทู้: 2628


ชีวิต-ดั่ง-ละคร


« ตอบ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2014, 09:06:35 PM »

อยากให้จัดการตาม ครรลอง ของพี่โร๊ดครับ ด้วยความเคารพ ผมสนับสนุนแนวคิดของพี่โร๊ดครับ  เยี่ยม ไหว้
บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13941


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2014, 09:39:21 PM »

มันเอาไป  เราเอามา  ฮาๆๆๆ
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #32 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2014, 10:06:51 PM »

เห็นคุยกันมาหลายกระทู้ไม่มีใครบอกเลยหรือกำไร ปตท. ไม่ได้มาจากเชื้อเพลิงเนซินดีเซลเท่านั้นซึ่งสองอย่างนี่มีทั้งขาดทุนกำไรสลับกันไป ที่ได้มาเห็นๆ ก็ก๊าซสารพัดอย่างและมากสุดก็พลาสติกทั้งหลายนี่แหละ เผอิญดูดก๊าซขึ้นมาก็มีอย่างอื่นขึ้นมาด้วยทั้งๆที่น่าจะเก็บไว้ก่อนก็เป็นไปไม่ได้ อ้อโชคร้ายที่หลุมก๊าซของเรามี NGV 70% ที่เหลือเป็นอื่นๆ ไม่เหมือนแถวอเมริกาเหนือซึ่งได้ LPG มากกว่าขนาดนั้นยังขายแพงกว่าเมืองไทยเลยคิดมาแล้ว Propane หรือ LPG นี่ 24 บาทส่วนเรารอ by product จาการกลั่นซึ่งต้นแพงกว่าแต่ขายขาดทุน
อ้อความรู้จากพวกโรงกล้่นนะ ของเรากลั่นน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางที่เรียกว่า Ligh arabian crude oil มาตั้งแต่ต้นสัดส่วนเบนซินมีเยอะเมื่อเทียบกัยดีเซลส่วนน้ำมันดิบที่ได้บ่อก๊าซนั้นเพียงเล็กน้อยมีมวลหนักกว่าปกติต้องใช้ระดับกลั่นที่ 375 องศาซึ่งโรงกลั่นไทยไม่น่าจะทำได้ขายส่งออกไปดีกว่า เลิกเพ้อฝันของในประเทศไปได้แล้วขนาดลานกระบือหลุมก็าซก็ปิดเพราะหมดเครื่อง Generator ก็ถูกย้ายไปติดที่สนามบินไปแล้วตอนนี้คงสูบได้น้ำมันดิบจำนวนน้อยส่วนที่ฝางโน่นหรอของกรมพลังงานทหารเขาโน่นกลั่นส่งตราเปลวไฟสีส้มก็แทบไม่พอแล้ว
ต่อไปคงไม่ต้องเทียบราคาน้ำมันกับมาเลอีกแล้วนะเพราะมาเลเลิกชดเชยส่วนต่างของราคาตลาดกับราคาอุดหนุนไปแล้ว คือเลิกอุ้มนั้นแหละทีนี้คงเหลือประเทศที่มีบ่อใหญ่ของตัวเองอุ้มราคาน้ำมันอีกไม่กี่ประเทศ
บันทึกการเข้า
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #33 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2014, 11:43:48 PM »

พี่Yut64 ผมถามหน่อยครับ
ปตท.ขาดทุนทั้งน้ำมัน ขาดทุนทั้งLPG แล้วกำไรแสนกว่าล้าน และเพิ่มขึ้นทุกปี มันมาจากใหน
 เห็นบอกว่ากำไรมาจากพลาสติก ...แล้วมาจากขั้นตอนใหน การกลั่นน้ำมันหรือเปล่า
ส่วนต่างกำไร นำมาคำนวนสุทธิแล้วเหลือแสนล้าน ........ ?

น้ำมันดิบตัวเองกลั่นลำบาก>ขายให้ต่างชาติ กระบวนการนี้มันควรจะได้กำไรจากการสูบมาขาย

LPGขายขาดทุน---NGVขายได้มั้ย

ซื้อน้ำมันดิบคนอื่นมากลั่นขาย>ยังขาดทุน

ขายพลาสติกที่ได้จากการกลั่นนำมันดิบกำไรเหน่งๆ เอาไปโป๊ะพวกข้างบน >ยังเหลือแสนกว่าล้าน?Huh?
บันทึกการเข้า
nut.ta
Hero Member
*****

คะแนน 1089
ออฟไลน์

กระทู้: 4171



« ตอบ #34 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 08:19:35 AM »

 ไหว้ ไหว้มาตามข่าวครับ
บันทึกการเข้า

Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10061



« ตอบ #35 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 09:09:28 AM »

พี่Yut64 ผมถามหน่อยครับ
ปตท.ขาดทุนทั้งน้ำมัน ขาดทุนทั้งLPG แล้วกำไรแสนกว่าล้าน และเพิ่มขึ้นทุกปี มันมาจากใหน
 เห็นบอกว่ากำไรมาจากพลาสติก ...แล้วมาจากขั้นตอนใหน การกลั่นน้ำมันหรือเปล่า
ส่วนต่างกำไร นำมาคำนวนสุทธิแล้วเหลือแสนล้าน ........ ?

น้ำมันดิบตัวเองกลั่นลำบาก>ขายให้ต่างชาติ กระบวนการนี้มันควรจะได้กำไรจากการสูบมาขาย

LPGขายขาดทุน---NGVขายได้มั้ย

ซื้อน้ำมันดิบคนอื่นมากลั่นขาย>ยังขาดทุน

ขายพลาสติกที่ได้จากการกลั่นนำมันดิบกำไรเหน่งๆ เอาไปโป๊ะพวกข้างบน >ยังเหลือแสนกว่าล้าน?Huh?

พลาสติกมาจากก็าซธรรมชาติครับ ไปดูโรงงานมาตาพุดเลยเยอะแยะไปหมดส่วนใหญ่ก็เป็น PTT + SCT (ลูกค้าผู้มีพระคุณ) และรายย่อยอื่นๆ ปัญหาคือยิ่งใช้ NGV มากขึ้นพลาสติกก็มากตาม กลั่นน้ำมันได้แค่ น้ำมันสามอย่าง LPG และยางมะตอย
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4087
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20181


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #36 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 09:20:50 AM »

อยู่ที่ ท่านจะยืนอยู่กับฝ่ายใด ประชาชน หรือ นายทุนสามานย์

ข้อเท็จจริง ต้องปราศจาก การถูกบิดเบือน แล้วมาป้อนให้ กับสาธารณะ
และ ถูกรับไป มาขยายต่ออีก

เราเป็นคนไทย ต้องรู้จัก รู้ร้อน รู้หนาว เมื่อถูกเอาเปรียบ จักต้องรู้จักปกป้องตนเอง
การปกป้องตนเอง เอาแต่อดทน  มันจะได้ประโยชน์อะไร ควรจักต้อง ต่อสู้ จัดการ
กับความเลวถ่อย ที่ มันกระทำกับประชาชน   ถ้าเห็นด้วย ก็เตรียมใจไว้
ปตท. และข้าราชการ ที่เลว  จะเอาแม่งไว้ทำไม  Huh
...........................

"รสนา" เสนอ คสช.ยกเลิกขึ้นค่าก๊าซหุงต้มทันที แนะอย่าลดราคาน้ำมันโดยไม่แก้โครงสร้าง

รสนา เสนอ คสช.ยกเลิกขึ้นค่าก๊าซหุงต้มทันที แนะอย่าลดราคาน้ำมันโดยไม่แก้โครงสร้าง
ภาพประกอบ 1

รสนา เสนอ คสช.ยกเลิกขึ้นค่าก๊าซหุงต้มทันที แนะอย่าลดราคาน้ำมันโดยไม่แก้โครงสร้าง
ภาพประกอบ 2

รสนา เสนอ คสช.ยกเลิกขึ้นค่าก๊าซหุงต้มทันที แนะอย่าลดราคาน้ำมันโดยไม่แก้โครงสร้าง
ภาพประกอบ 3

      
"รสนา" เสนอ คสช.ยกเลิกขึ้นราคาก๊าซหุงต้มทันที ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลก่อน ชี้ไม่กระทบโครงสร้างราคาส่วนอื่น เพราะเงินถูกนำไปชดเชยให้ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จริง พร้อมแนะอย่าแค่ลดราคาน้ำมันโดยไม่แก้ไขโครงสร้างที่ข้าราชการ ก.พลังงานผูกไว้หลายชั้น ไม่เช่นนั้นจะเป็นได้เพียงประชานิยมชั่วคราว
       
       วานนี้ (25 พ.ค.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "รสนา โตสิตระกูล " ว่า มีข่าวร่ำลือออกมาว่า คสช.อาจจะพิจารณาลดราคาน้ำมันลงไป30%
       
       แต่การรีบลดราคาโดยไม่ได้เข้าไปแก้ไขโครงสร้างราคาน้ำมัน ที่ข้าราชการในกระทรวงพลังงานที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจพลังงานได้ผูกไว้หลายชั้น จะทำให้การลดราคาน้ำมันเป็นเพียงการทำโปรโมชั่นประชานิยมแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
       
       สิ่งที่คสช.สามารถทำได้ทันทีเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ คือการยกเลิกการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มซึ่งจะทำได้ทันทีโดยไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างราคาส่วนอื่น
       
       รัฐบาลที่แล้วได้ขึ้นราคาก๊าซหุงต้มมาตั้งแต่เดือนกันยายน2556 โดยทะยอยปรับขึ้นราคาเดือนละ.50บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาก๊าซหุงต้มต่อถัง15กิโลกรัมในขณะนี้ มีราคาตั้งแต่ 350-390บาท เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาอาหารและค่าครองชีพปรับสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย
       
       ที่กล่าวว่าการยกเลิกการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มให้กลับมาที่ราคาเดิมคือราคาถังละ290-300บาท ไม่กระทบโครงสร้างอื่น เพราะเงินที่กระทรวงพลังงานเก็บเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มนั้น กระทรวงพลังงานได้นำมาเก็บไว้ในกองทุนน้ำมัน โดยอ้างว่าเพื่อจะได้ลดภาระการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากผู้ใช้น้ำมันเบนซิน
       
       แต่ข้ออ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะปัจจุบันมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากผู้ใช้น้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มจากเดิมลิตรละ 7 บาทเป็นลิตรละ 10 บาทในขณะนี้
       
       ปตท.เคยออกมาให้ข่าวว่าปตท.ไม่ได้รับเงินค่าก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มของกระทรวงพลังงานในขณะนี้ ดังนั้นเงินที่เก็บเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้ก๊าซหุงต้มจึงถูกนำไปกองอยู่ในกองทุนน้ำมัน ซึ่งเป็นกองทุนที่ผิดกฎหมายตามที่คณะกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
       
       เงินจากกองทุนน้ำมันถูกนำไปชดเชยก๊าซหุงต้มที่มาจากโรงกลั่นน้ำมัน และชดเชยการนำเข้าก๊าซโพรเพน และบิวเทนที่นำไปใช้โดยตรงได้เลยในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แต่อ้างว่านำก๊าซทั้ง 2 ชนิดมาผสมเป็นก๊าซแอลพีจีหรือที่เรียกว่าก๊าซหุงต้มมาขายประชาชนในราคาอุดหนุนที่รัฐบาลกำหนดให้มีราคาต่ำกว่าต้นทุนของโรงกลั่นและราคานำเข้า จึงต้องเอาเงินกองทุนน้ำมันมาชดเชย
       
       ทั้งที่ปริมาณก๊าซหุงต้มที่ผลิตจากอ่าวไทยผ่านโรงแยกก๊าซทั้ง 6 โรงมีปริมาณเกินพอสำหรับภาคครัวเรือน แต่นโยบายที่รัฐบาลสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กำหนดขึ้นใหม่เพื่อให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีมาใช้ก๊าซหุงต้มหรือก๊าซแอลพีจีจากโรงแยกก๊าซได้ก่อนร่วมกับภาคครัวเรือน และกำหนดว่าถ้ามีก๊าซแอลพีจีเหลืออยู่จากโรงแยกก๊าซ หลังจากที่ปิโตรเคมีและภาคครัวเรือนใช้ ค่อยให้ภาคยานยนต์และภาคอุตสาหกรรมอื่นใช้ ถ้าไม่พอใช้ก็ให้นำเข้าจากต่างประเทศและเอาเงินกองทุนน้ำมันไปชดเชย
       
       ปริมาณก๊าซแอลพีจีที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซที่มาจากอ่าวไทย มีปริมาณ 3.5ล้านตันต่อปี ภาคครัวเรือนของประชาชน 65ล้านคนใช้ก๊าซหุงต้มเพียง 2.6ล้านตันต่อปี ถ้ารัฐบาลกำหนดนโยบายให้ภาคครัวเรือนได้ใช้ก๊าซหุงต้มที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซในประเทศก่อนผู้ใช้กลุ่มอื่น ก็มีปริมาณเพียงพอสำหรับประชาชน 65ล้านคนในภาคครัวเรือน โดยไม่ต้องไปใช้ก๊าซนำเข้าที่มีราคาแพงกว่าของผลิตเองในประเทศ ซึ่งการที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรจากแผ่นดินที่บรรพบุรุษของตนมีส่วนในการต่อสู้ ได้เสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องแผ่นดินนี้ไว้ สมควรจะได้รับการดูแลจากรัฐบาลก่อนธุรกิจเอกชนอื่นที่มุ่งแสวงหากำไรเพื่อองค์กรของตัวเอง ( ดูรูปที่1)
       
       ปริมาณก๊าซแอลพีจีจากทรัพยากรของเราเองในอ่าวไทยมีเพียงพอสำหรับภาคครัวเรือนโดยไม่ต้องมาขึ้นราคากับประชาชนคนส่วนใหญ่ แต่จะไม่เพียงพอเมื่อเอาปิโตรเคมีมาใช้ร่วมด้วยในโรงแยกก๊าซก่อนผู้ใช้กลุ่มอื่นเพราะปิโตรเคมีกินจุ กินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงระยะ 5-6ปี ใช้ปริมาณเพิ่มขึ้น1.5ล้านตัน แต่ใช้ราคาถูกกว่าผู้ใช้กลุ่มอื่น
       
       ก๊าซแอลพีจีจากโรงแยกก๊าซที่เหลือจากการใช้ของภาคครัวเรือน สามารถจัดสรรให้ผู้ใช้กลุ่มอื่นในราคาที่เหมาะสม แต่ถ้าต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจี เพราะปริมาณไม่พอใช้ ก็ควรให้ภาคปิโตรเคมีและภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นธุรกิจแสวงหากำไรไปรับผิดชอบราคาที่นำเข้าเอง ก็จะไม่ต้องมาขึ้นราคาก๊าซหุงต้มกับคนรายได้น้อยที่อยู่ในภาคครัวเรือน
       
       อีกประการหนึ่งการใช้กองทุนน้ำมันมาชดเชยก๊าซแอลพีจีจากการนำเข้า และแอลพีจีจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศตั้งแต่ปี 2551-2555 มีมูลค่ารวมสูงถึง 84,941 ล้านบาท หากนำเม็ดเงินจากกองทุนน้ำมันที่เอาไปชดเชยการนำเข้าก๊าซแอลพีจี เปลี่ยนมาสร้างโรงแยกก๊าซในประเทศเเทน น่าจะได้โรงแยกก๊าซเพิ่มอีก 2-3โรง (ดูรูปที่2)
       
       การมีโรงแยกก๊าซเพิ่มจะทำให้สามารถรองรับก๊าซดิบจากอ่าวไทยที่ยังเหลืออยู่จำนวนมาก แต่เพราะมีโรงแยกก๊าซไม่พอ ทำให้ต้องเอาก๊าซดิบไปเผาทิ้งในโรงไฟฟ้า โดยไม่แยกก๊าซแอลพีจีออกมาก่อน เปรียบเหมือนเอาไม้สักที่ปนอยู่กับเศษไม้ไปเผาทิ้งอย่างน่าเสียดาย
       
       ลองดูโรงแยกก๊าซ4โรงที่สร้างจากเงินภาษีของประชาชน ตอนแปรรูปปตท.ถูกตีมูลค่าเพียง 3,212ล้านบาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องมือทำกำไรให้กับกลุ่มทุนพลังงานแทนที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน (ดูรูปที่3)


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000058309
บันทึกการเข้า

~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #37 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 09:40:59 AM »

ถ้าทำให้ราคาน้ำมันลดไม่ได้  ก็เอาผลผลิตทางการเกษตรใส่เข้าไปสิ  ช่วยเกษตรกรได้ด้วยอีกทางหนึ่ง

ออกกฎ  ออกระเบียบ  มาได้  ตอนนี้ดูง่าย ๆ เกือบทุกปั้มจะมีน้ำมัน E20 ขายทุกปั้มแล้ว  ต่อไปก็ขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ

แล้วไบโอดีเซลล่ะ  หายไปไหน  ปาล์มดิบก็ราคาถูก  เอาไปทำไบโอดีเซลบ้างสิ  จะ B5 B10 B15 ก็ค่อย ๆ ขยับกันไป

ตามปริมาณผลผลิตปาล์มในประเทศ  และอย่าลืมออกข้อกำหนดรถที่จะเข้ามาขายให้รองรับพลังงานทดแทนด้วยนะ   Grin

บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #38 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:05:28 AM »

ประเด็นคือ ปตท. กำไรมากเกินครับ ไม่ว่ากำไรจะมาจากขายอะไรก็ตามฯ กำไรนั้นต้องส่งเข้าหลวงเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน เพราะสิ่งที่อำนวยให้ ปตท. ได้กำไรนั้นเกิดจากสิทธิพิเศษอันเกิดจากทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน...

ส่วนวิธีเอาผลกำไรเข้าสู่หลวงฯ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ คืออาศัยมติบอร์ดฯ ให้เอาผลกำไรส่งให้หลวงดื้อๆนั่นแหละ แทนที่จะปล่อยกลับออกไปในรูปปันผลใส่มือผู้ถือหุ้น ที่มีฝูงเหลือบอาศัยเกาะกินโดยอ้างเอาหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ของกระทรวงการคลังเป็นตัวประกันบังหน้า...

แล้วหากบอร์ดฯ ไม่ยอมโหวตตามที่ผู้กำหนดนโยบายฯ(ผู้กุมอำนาจบริหารประเทศ)ต้องการ ก็ทำง่ายๆ คือเรียกประชุมผู้ถือหุ้นฯ แล้วใช้มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นปลดบอร์ดนั้นเสีย... ทุกอย่างก็ถูกกฎหมาย/หลักธรรมาภิบาลทุกประการ...

ส่วนท่านที่อ้างว่าผลกำไรของ ปตท. นั้นเกิดจากฝีมือบริหารจัดการของเหล่าพนักงานฯ, เรื่องนี้ก็เล่นง่ายๆด้วยการให้จ่ายค่าตอบแทนพนักงานให้สอดคล้องกับตลาดแรงงงานในอุตสาหกรรมนี้, ซึ่งในขณะนี้ก็อยู่ในอัตราที่ว่าอยู่แล้ว... สำหรับหลายท่านไม่ทราบก็คือ เงินเดือนในอุตสาหกรรมนี้สูงมาก ชนิดที่คนอายุ 30 กว่าๆมีเงินเดือน 1.5 - 2 แสนขึ้นไปเดินขวักไขว่ชนกันในโรงอาหารนั่นแหละครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #39 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:14:33 AM »

ส่วนใครจะอ้างว่าไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยก็ไม่ต้องอ้าง... เพราะเรื่องมติบอร์ดฯ กับเรื่องผู้ถือหุ้นจะแต่งตั้ง/ปลดใครให้เป็นบอร์ดนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดจะเสียงใหญ่สุด เสียงดังสุด สามารถทุบโต๊ะสั่งโน่นสั่งนี่ได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย/หลักธรรมาภิบาลฯ สามารถทำได้ทั้งสิ้น...

ส่วนใครไม่พอใจก็ต้องทำใจให้พอใจ ไม่งั้นก็ต้องไปหาเงินมาซื้อหุ้นให้แยะๆ แล้วมางัดข้อกันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ...
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31463


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #40 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:18:53 AM »

ประเด็นคือ ปตท. กำไรมากเกินครับ ไม่ว่ากำไรจะมาจากขายอะไรก็ตามฯ กำไรนั้นต้องส่งเข้าหลวงเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน เพราะสิ่งที่อำนวยให้ ปตท. ได้กำไรนั้นเกิดจากสิทธิพิเศษอันเกิดจากทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน...

ส่วนวิธีเอาผลกำไรเข้าสู่หลวงฯ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ คืออาศัยมติบอร์ดฯ ให้เอาผลกำไรส่งให้หลวงดื้อๆนั่นแหละ แทนที่จะปล่อยกลับออกไปในรูปปันผลใส่มือผู้ถือหุ้น ที่มีฝูงเหลือบอาศัยเกาะกินโดยอ้างเอาหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ของกระทรวงการคลังเป็นตัวประกันบังหน้า...

แล้วหากบอร์ดฯ ไม่ยอมโหวตตามที่ผู้กำหนดนโยบายฯ(ผู้กุมอำนาจบริหารประเทศ)ต้องการ ก็ทำง่ายๆ คือเรียกประชุมผู้ถือหุ้นฯ แล้วใช้มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นปลดบอร์ดนั้นเสีย... ทุกอย่างก็ถูกกฎหมาย/หลักธรรมาภิบาลทุกประการ...

ส่วนท่านที่อ้างว่าผลกำไรของ ปตท. นั้นเกิดจากฝีมือบริหารจัดการของเหล่าพนักงานฯ, เรื่องนี้ก็เล่นง่ายๆด้วยการให้จ่ายค่าตอบแทนพนักงานให้สอดคล้องกับตลาดแรงงงานในอุตสาหกรรมนี้, ซึ่งในขณะนี้ก็อยู่ในอัตราที่ว่าอยู่แล้ว... สำหรับหลายท่านไม่ทราบก็คือ เงินเดือนในอุตสาหกรรมนี้สูงมาก ชนิดที่คนอายุ 30 กว่าๆมีเงินเดือน 1.5 - 2 แสนขึ้นไปเดินขวักไขว่ชนกันในโรงอาหารนั่นแหละครับ...
ส่วนใครจะอ้างว่าไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยก็ไม่ต้องอ้าง... เพราะเรื่องมติบอร์ดฯ กับเรื่องผู้ถือหุ้นจะแต่งตั้ง/ปลดใครให้เป็นบอร์ดนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดจะเสียงใหญ่สุด เสียงดังสุด สามารถทุบโต๊ะสั่งโน่นสั่งนี่ได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย/หลักธรรมาภิบาลฯ สามารถทำได้ทั้งสิ้น...

ส่วนใครไม่พอใจก็ต้องทำใจให้พอใจ ไม่งั้นก็ต้องไปหาเงินมาซื้อหุ้นให้แยะๆ แล้วมางัดข้อกันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ...



บวกพี่สมชาย ๑ แต้มครับ ตรงใจครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10361



« ตอบ #41 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:23:35 AM »

ที่ฮากว่านั้น ครั้งหนึ่งเคยได้ยินว่า กำไรของ ปตท ที่มากมายมหาศาลนั้น มาจากร้านขายกาแฟที่อยู่ทุกๆปั๊มอ่ะ คริคริ Grin คิก คิก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
nut.ta
Hero Member
*****

คะแนน 1089
ออฟไลน์

กระทู้: 4171



« ตอบ #42 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:31:23 AM »

ประเด็นคือ ปตท. กำไรมากเกินครับ ไม่ว่ากำไรจะมาจากขายอะไรก็ตามฯ กำไรนั้นต้องส่งเข้าหลวงเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน เพราะสิ่งที่อำนวยให้ ปตท. ได้กำไรนั้นเกิดจากสิทธิพิเศษอันเกิดจากทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน...

ส่วนวิธีเอาผลกำไรเข้าสู่หลวงฯ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ คืออาศัยมติบอร์ดฯ ให้เอาผลกำไรส่งให้หลวงดื้อๆนั่นแหละ แทนที่จะปล่อยกลับออกไปในรูปปันผลใส่มือผู้ถือหุ้น ที่มีฝูงเหลือบอาศัยเกาะกินโดยอ้างเอาหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ของกระทรวงการคลังเป็นตัวประกันบังหน้า...

แล้วหากบอร์ดฯ ไม่ยอมโหวตตามที่ผู้กำหนดนโยบายฯ(ผู้กุมอำนาจบริหารประเทศ)ต้องการ ก็ทำง่ายๆ คือเรียกประชุมผู้ถือหุ้นฯ แล้วใช้มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นปลดบอร์ดนั้นเสีย... ทุกอย่างก็ถูกกฎหมาย/หลักธรรมาภิบาลทุกประการ...

ส่วนท่านที่อ้างว่าผลกำไรของ ปตท. นั้นเกิดจากฝีมือบริหารจัดการของเหล่าพนักงานฯ, เรื่องนี้ก็เล่นง่ายๆด้วยการให้จ่ายค่าตอบแทนพนักงานให้สอดคล้องกับตลาดแรงงงานในอุตสาหกรรมนี้, ซึ่งในขณะนี้ก็อยู่ในอัตราที่ว่าอยู่แล้ว... สำหรับหลายท่านไม่ทราบก็คือ เงินเดือนในอุตสาหกรรมนี้สูงมาก ชนิดที่คนอายุ 30 กว่าๆมีเงินเดือน 1.5 - 2 แสนขึ้นไปเดินขวักไขว่ชนกันในโรงอาหารนั่นแหละครับ...

 พึ่งรู้ครับเงินพวกนี้สูงมากขนาดนี้
 ผอ.ผมซี 10 ยังมีเงินเดือนไม่ถึงขนาดนี้เลย เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า

nut.ta
Hero Member
*****

คะแนน 1089
ออฟไลน์

กระทู้: 4171



« ตอบ #43 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:32:51 AM »

ที่ฮากว่านั้น ครั้งหนึ่งเคยได้ยินว่า กำไรของ ปตท ที่มากมายมหาศาลนั้น มาจากร้านขายกาแฟที่อยู่ทุกๆปั๊มอ่ะ คริคริ Grin คิก คิก

 ไม่ใช่ผู้รับเหมาของ ปตท.งานไม่ผ่านด้วยนะสิ อิอิ
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #44 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 10:45:40 AM »

+ 2571 ทอนคุณกระจงครับ...

พึ่งรู้ครับเงินพวกนี้สูงมากขนาดนี้
 ผอ.ผมซี 10 ยังมีเงินเดือนไม่ถึงขนาดนี้เลย เศร้า เศร้า

ลองดูลิ้งก์นี่ครับ หน้า 6 เป็นอัตราเงินเดือนสำรวจทั่วโลกในอุตสาหกรรมนี้ในปี 2012 มีของไทยอยู่ด้วยเฉลี่ยที่ 4 หมื่นกว่าเหรียญ สรอ. ต้องหารด้วย 12 แล้วคูณด้วย 30 ให้กลายเป็นเงินบาทครับ... http://www.hays.com/cs/groups/hays_common/@og/@content/documents/digitalasset/hays_724929.pdf ...

นี่เขาสำรวจมาเฉพาะกลุ่มที่ทำงานสายตรงนะครับ ไม่นับพวกที่ทำงานสนับสนุนในออฟิสอีกต่างหาก... พวกหลังนี่ก็เช่นคนไทยเป็นเลขาฝรั่งเงินเดือน 7 - 8 หมื่น, แล้วที่แพงที่สุดในสายออฟฟิสคือกลุ่มนักกฎหมายครับ โดยเฉพาะพวกจบ LLM./MCL. ที่ประสบการณ์สูงแบบเจรจาสัญญาดีลงานระดับ 1 พันล้านบาท - จนถึง 1 หมื่นล้านนี่อยู่แถว 3 แสนบาทต่อเดือนครับ(แล้วมีเงินจ้างก็หาคนไม่ได้ง่ายเสียด้วย)...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 43
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.159 วินาที กับ 20 คำสั่ง