๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 13, 2024, 07:03:16 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใครและทำไมจึงต้องก่อการร้ายในภาคใต้  (อ่าน 3635 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 01:05:20 AM »

โดย ยอดธง ทับทิวไม้ 6 มกราคม 2548 18:07 น.
 
 
       tavanron@yahoo.com
       
       "พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย ท่านมีข้อผูกพันกับหลักการทางศาสนาของเราในอันที่จะต่อต้านอเมริกันในฐานะที่ชาวมุสลิมทุกคนต้องได้รับการดูหมิ่น และเหยียดหยามจากคนพวกนี้
       
       ความจริงอเมริกันไม่ได้เป็นมนุษย์ที่วิเศษเลิศล้นอะไรที่จะมาว่ากล่าวสั่งสอนว่าคนมุสลิมนั้น จะต้องสนับสนุนใครและต้องรบราฆ่าฟันกับใคร พี่น้องชาวมุสลิมทั้งหลาย ท่านเป็นชาวมุสลิมคนหนึ่งที่ได้รับอาณัติมอบหมายให้เป็นผู้ชี้ทาง และเป็นผู้ให้แสงสว่างแก่มนุษยชาติ พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นผู้สั่งสอนพวกท่านทุกคนว่า ท่านเป็นผู้คนที่ดีที่สุดที่จะนำผลประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติ พวกท่านเป็นผู้ที่ผูกพันอยู่กับคุณงามความดี และไม่แตะต้องความชั่วใดๆ ในหมู่มนุษย์ และท่านทุกคนเป็นผู้มีความเชื่อมั่นในพระเจ้า"
       
       สำหรับการกระทำจีฮัดเป็นการกระทำที่ถูกกฎหมาย เป็นพันธกรณีและเป็นหลักการทางศีลธรรมของอิสลาม อย่างที่ผู้นำสูงสุดกล่าวไว้ว่า จงเก็บและสะสมอาวุธที่สามารถจะนำมาใช้การได้ในทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เราเตรียมการเอาไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการฟาดฟันบรรดาใครก็ตามที่เป็นศัตรูของเรา และพระผู้เป็น เจ้าทรงรับสั่งไว้ว่า "ศาสนาอิสลามเป็นศีรษะ ผู้เคารพบูชาเป็นกระดูกสันหลัง และฮัดคือการกระทำทุกสิ่งทุกอย่างที่สมบูรณ์"
       
       "พี่น้องชาวมุสลิมทั้งหลาย ตัวบทกฎหมายของศาสนาอิสลามไม่ยินยอมให้ใครคนใดยอมมอบอะไรให้แก่อเมริกา ไม่ว่าจะเอาอำนาจอิทธิพลใดๆ มาบังคับขู่เข็ญให้จำยอม คนมุสลิมทุกคนจะต้องไม่ยอมรับคำแนะนำสั่งสอนของมันหรือจัดการใดๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่มัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวใดๆ หรือแม้แต่ข่าวกรองหรือความสะดวกใดๆ ในการที่จะใช้ประเทศชาติบ้านเมืองของท่านเพื่อประโยชน์ของมัน แม้น่านฟ้าหรือน่านน้ำในประเทศของท่าน และจะต้องไม่ยอมอนุญาตให้แผ่นดินของตัวเองเป็นฐานทัพหรือที่ทำการทางทหารของอเมริกา และจะต้องไม่มีการใช้ความร่วมมือและความช่วยเหลือทางทหารหรือการร่วมมือใดๆ กับอเมริกา จะต้องไม่มีการเข้าไปพัวพันหรือเกี่ยวข้องหรือความซื่อตรงพินอบพิเทาใดๆ แม้แต่ความซื่อสัตย์ภักดีต่ออเมริกันก็จะทำไม่ได้เพราะว่าอเมริกาคือศัตรูของอิสลาม พระผู้เป็นเจ้าเคยรับสั่งว่า "สาธุชนทั้งหลาย พวกท่านทุกคนจะต้องไม่เป็นมิตรกับศัตรูของเรา และศัตรูของท่าน พวกนี้จะเป็นผู้ที่คอยขัดขวางสัจธรรมทุกอย่างที่พวกท่านจะต้องรับรู้"
       
       ข้อความเหล่านี้เป็นข้อความสั้นๆ ส่วนหนึ่งในเอกสารของขบวนการมุสลิมโลกที่เรียกตัวเองหรือมีขบวนการของตนเองที่มีชื่อว่า Islamic Party of Liberation หรือองค์การเสรีภาพของชาวมุสลิมโลกที่มีความสัมพันธ์กับขบวนการมุสลิมอุซเบกิสถาน มุสลิมประเทศหนึ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตที่มีชื่อว่า Islamic Movement of Uzbekistan ซึ่งเป็นขบวนการมุสลิมที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหรือเป็นส่วนหนึ่งของ ขบวนการอัลกออิดะห์ ของ บิน ลาดิน และพวก Hizb Ut-Tahhiral-Islamic ซึ่งได้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรัฐสภาของอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมนี้
       
       ท่ามกลางความยุ่งยากนานาประการทางการเมืองของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งที่เปิดเผย ทั้งที่ทับซ้อนและแฝงเร้นอยู่ทั่วไปในวงการเมืองของประเทศต่างๆ นั้น ดูเหมือนว่ายังมีคนอีกพวกหนึ่งซึ่งมีเรื่องราวอันเลวร้ายเกิดขึ้นไม่เคยหยุด เฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง ซึ่งมีแต่จะเลวร้ายขึ้นมาทุกวัน และมีผลให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนึ่งขึ้นทั่วโลก ทั้งในปัจจุบันซึ่งมันจะมีแต่ความยุ่งยากอย่างหนักไปอีกนาน ซึ่งมีสาเหตุมาจาก (1) การล่าเมืองขึ้นแบบนักเลงโตของสหรัฐอเมริกาที่พยายามจะไปปักหลักในตะวันออกกลางเพื่อปล้นบ่อน้ำมันจากชาวตะวันออกกลางทั้งหมด โดยจะมีอิสราเอลเป็นตัวหมากที่ทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายต่อไป (2) ความพยายามที่จะยึดเอเชียแปซิฟิกเอาไว้เป็นเมืองขึ้นของตนให้ประสบความสำเร็จตามโครงการเก่าแก่ของมหาอำนาจ ประเทศนี้ได้วางแผนมาแล้วตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีคนที่ 22 ของอเมริกา โดยเข้าไปจิกหัวใช้ประเทศที่ยอมเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ในเอเชีย 5 ประเทศ เป็นเครื่องมือเข้ามาทำลายพม่าเพื่อเข้าไปบ่อนทำลายจีน ในขณะเดียวกันก็มุ่งหน้าเข้าขยี้เกาหลีเหนือเพื่อครอบครองคาบสมุทรเกาหลี โดยการร่วมมือกับญี่ปุ่น (3) ประเทศเล็กประเทศน้อยหรือบรรดาประเทศคอร์รัปชันต่างๆ ในเอเชียที่ทำหน้าที่เป็นสุนัขรับใช้ก็จะเกิดความวุ่นวายจากการคัดค้านของประชาชน ซึ่งนับวันแต่จะรวมตัวขึ้นอย่างไม่หยุด การต่อสู้ที่หนักหน่วงยาวนานหรือสู้ชนิดที่จะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มชาวมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลกที่ได้เริ่มงานการจัดตั้งของตนเอง และการจัดตั้งตามแบบของวลาดิมีร์ เลนิน และท่านโจเซฟ สตาลิน มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นต้นมา โดยมีคนมุสลิมทั่วโลกในการที่จะเป็นศัตรูและพร้อมที่จะบ่อนทำลายประเทศมหาอำนาจที่ไม่รู้จักอิ่มในการกินเลือดมนุษย์อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ ชาวมุสลิมทั่วโลกและทั่วเอเชียซึ่งคงยากที่จะยุติได้
       
       รายงานข่าวที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับองค์การนี้ที่จะดูกันอย่างผิวเผินไม่ได้เป็นอันขาดเพราะการจัดตั้งและการเผยแพร่ความคิดในการที่จะต่อสู้ และทำลายล้างศัตรูนอกศาสนา (Infidel) คืออเมริกาหรือพวกจักรวรรดินิยมอเมริกากับสมุนบริวาร และบรรดาสุนัขรับใช้แห่งเอเชียทั้ง 5 ตัวที่ฝากผีฝากไข้กันอยู่นั้น ได้ทำกันอย่างเอาเป็นเอาตายทีเดียว
       
       สมาชิกหรือผู้ปฏิบัติงานขององค์การต่อต้านคนนอกศาสนา และสุนัขรับใช้ของอเมริกานี้เฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยกล้าตายที่พร้อมจะตายอย่างที่ถูกฆ่าฝ่ายเดียวอย่างในเหตุการณ์ที่ กรือเซะ หรือที่ ตากใบ นั้น มีรออยู่แล้วประมาณ 5,000-10,000 คน ผู้สนับสนุนหรือสมาชิกส่วนใหญ่ตอนแรกๆ จะอยู่ในเอเชียกลาง หรือประเทศที่แยกตัวออกจากรัสเซียเก่าได้แก่ อุซเบกิสถาน และทาจิกิสถาน ประเทศที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันคือ คาซัคสถาน และที่สำคัญที่สุดและน่ากลัวที่สุดสำหรับเมืองไทยและคนไทยก็คือ อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน ที่กำลังทำหน้าที่และรอคอยวันเวลาที่จะปฏิบัติงานกันอยู่ก็คือ ในปากีสถาน ซีเรีย ตุรกี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไม่ต้องสงสัยว่ายังมาไม่ถึงเมืองไทยหรือในเมืองไทยไม่มี
       
       ไม่น้อยกว่า 500 คนที่เตรียมตัวพร้อมแล้วที่จะดำเนินการชนิดไม่มีใครห่วงศพตัวเองก็คือ ในอุซเบกิสถานประเทศเดียว และทุกประเทศที่มีผลประโยชน์ของอเมริกันอยู่ หน่วยกล้าตายขององค์การแห่งนี้ก็พร้อมที่จะเข้าไปทำลายรัฐบาลที่ทำหน้าที่เป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกาอยู่
       
       งานขององค์การนี้ที่ทำกันอยู่เป็นประจำในลักษณะการจัดตั้ง และทำงานทำเป็นขั้นตอนคือ (1) ทำหน้าที่ผลิตสมาชิกที่มีความเชื่อถือในหลักการหรือนโยบายของพรรค โดยการรับสมัครสมาชิก การสร้างความปั่นป่วน การจัดตั้งฐานปฏิบัติงานอย่างที่ทำกันอยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่จะไม่มีเทวดาที่ไหนจะไปเที่ยวตามดมกลิ่นได้ว่าพ่อไปนั่งบัญชาการอยู่ที่ไหนและทำอย่างไร (2) เตรียมการจัดตั้งรัฐบาลพยายามส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในเรื่องอิสลามอย่างกว้างขวาง และสมบูรณ์แล้วนำความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อประชาชนทั่วโลก เฉพาะผู้ปฏิบัติงานหรือสมาชิกพรรคที่พร้อมที่จะทำงานได้ตามความต้องการขององค์การในขณะนี้มีกระจัดกระจายกันอยู่ทั้งหมด 40 ประเทศ
       
       และก็จำเป็นที่จะต้องเชื่ออีกด้วยว่า การก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่เรียกกันนั้น จะเป็นสาขาหนึ่งในบรรดาชาติการปฏิบัติงานอยู่ 40 ประเทศที่ว่านั้น
       
       การจัดตั้ง การดำเนินงาน การเผยแพร่ความคิดเพื่องานที่อเมริกันเรียกว่า การก่อการร้ายของชาวมุสลิมในขณะนี้ที่ได้แพร่กระจายไปแล้วทั่วโลก ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ไม่ได้ทำกันอย่างเล่นๆ หรือล้อเล่น จากชัยชนะในการทำลายรัฐบาลตอลิบานในอัฟกานิสถานได้สำเร็จอย่างง่ายดาย หรือการขับไล่สหภาพโซเวียตออกจากอัฟกานิสถานของมุสลิมกลุ่มนี้ ซึ่งความจริงแล้วการจัดตั้งองค์กร และยุทธวิธีต่างๆ นักสู้มุสลิมเหล่านี้ได้รับ การฝึกฝนจากองค์การซีไอเอของอเมริกาทั้งสิ้น ในระยะแรกรัฐบาลอเมริกาในสมัยที่เริ่มลงมือขับไล่รัสเซียเพื่อเข้าครอบครองเอเชียกลางครั้งนั้น อเมริกาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก ปากีสถาน ซึ่งนายวิลเลียม เคซีย์ ผู้อำนวยการองค์การซีไอเอได้เดินทางเข้ามาดูลู่ทางและตกลงเองว่าจะทำอย่างไร และใช้เงินมากน้อยเท่าไร รัฐบาลเผด็จการของปากีสถานในขณะนั้น ได้รับการมอบหมายจากอเมริกาให้ระดมคนมุสลิมที่พร้อมจะเป็นนักรบที่ไม่มีงานทำทั่วโลกเข้ามาทำงานของซีไอเอคือ การขับไล่รัสเซียออกจากอัฟากานิสถาน บิน ลาดินที่อเมริกาตามฆ่าอยู่ทุกวันนี้ก็ได้รับเกียรติให้เข้ามาร่วมด้วยคนหนึ่งในนามของมุสลิมจากซาอุดีอาระเบีย ก่อนที่จะได้กลายมาเป็นศัตรูคู่ล้างผลาญกับอเมริกาในขณะนี้
       
       เรื่องที่น่าศึกษาสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศก็คือ การหาคำตอบให้ได้ว่า เมื่อรัสเซียพ่ายแพ้และถอนตัวกลับออกไปหมดแล้ว คนมุสลิมที่ได้รับการฝึกจากซีไอเอของสหรัฐอเมริกาในแต่ละด้าน และกินเงินเดือนของอเมริกามาตลอดเวลาที่ไปรบกับรัสเซียในอัฟกานิสถานนั้น เมื่อหมดเรื่องหมดหน้าที่แล้ว มุสลิมซีไอเอพวกนี้เขาพากันไปไหนหมด?
       
       คำตอบที่สามารถหลับหูหลับตาตอบได้ก็คือว่า ตัวใครตัวมัน ค่าจ้างแรงงานตอนที่ทำงานอยู่นั้น รัฐบาลปากีสถานและซีไอเอก็จ่ายครบหมดแล้ว
       
       เพราะฉะนั้นทุกคนก็กลับบ้าน
       
       มุสลิมหนุ่มหรือชายฉกรรจ์เหล่านั้น อาจจะไปจากสุไหงปาดีหรือเจาะไอร้อง หรือตันหยงมัสก็ได้
       
       และมันจะแปลกอะไรที่คนพวกนี้ไม่ได้มีการศึกษาอย่างใดเลย ไม่มีการงานที่จะทำที่ไหนจะต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ โดยการทำงานกับซีไอเอในเมืองไทยที่มาคุมการเคลื่อนไหวของคนพวกนี้อยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้
       
       เพราะฉะนั้นอย่าได้สงสัย ไม่ว่าคุณจะวิเศษมหัศจรรย์อย่างไรหรือยกกองทัพอีกกี่ร้อยกี่พันกองทัพเข้าไปประกบต้นยางทุกต้นใน 3 จังหวัดภาคใต้ หรืออาจจะคิดว่าคนพวกนี้เป็นเพียง พวกกระจอก อย่างที่เคยคิดกันมาแล้ว คุณจะทำอะไรกับกองกำลังซีไอเอที่ได้รับการฝึกฝนและผ่านสงครามล้างผลาญมาแล้วในอัฟกานิสถานเป็นแรมปี พวกนี้เขาจะพากันสะดุ้งสะเทือนอะไรกับความเก่งกล้าสามารถของคุณ
       
       คุยโม้โอ้อวดและวางแผนกันต่อไป ผมขอท้าทายว่าต่อให้อีกถึงวันสิ้นพุทธศาสนาอีก 2,500 ปีข้างหน้า ก็ไม่มีใครหรอกที่จะแก้ปัญหาการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ลงไปได้ นอกจากปล่อยให้ประชาชนตายไปทุกวัน
       
       เพียงแต่จะคิดให้มันถูกหรือพยายามศึกษาว่าอะไรเป็นอะไร ยังไม่เคยมีใครมีปัญญารู้ว่ามันมากขนาดไหน แล้วการคุยโม้โอ้อวดว่าแก้ภายใน 10 วัน 20 วันได้อย่างที่คุยกันมาเป็นแรมปีนั้น ไม่มีทางหรอกครับ
       ผมต่อให้แก้กันไปอีก 2,500 ปี เมื่อวันที่สิ้นสุดพุทธศักราชก็ยังไม่ไหว
 
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 01:06:16 AM »

เกือบจะทุกวันที่มีข่าวที่ไม่น่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นและมหัศจรรย์ในความรู้ความสามารถ และความรับผิดชอบของบ้านเมืองของเราอย่างยิ่ง ยิ่งสำหรับคนที่ไม่รู้วิธีการขายชาติและการหลอกลวงประชาชนของผู้ปกครองบ้านเมืองในแต่ละยุคแล้วจะต้องตื่นเต้นในความเก่งกาจในการทำงานที่ต้องรับผิดชอบอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวอย่างก็คือเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้ หลังจากข่าว "สึนามิ" ค่อยๆ บรรเทาลงไป หนังสือพิมพ์ที่สนใจปัญหาบ้าน เมืองก็ลงข่าวเกี่ยวกับความเก่งกล้าสามารถในการจัดการกับปัญหาก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ของเจ้าหน้าที่และผู้รับผิดชอบอย่างน่าทึ่ง
       
       "มติชน" วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา พาดหัวข่าวการจับผู้ก่อการร้ายได้สองรายจากศาลากลาง จ.ปัตตานีว่าผู้ก่อการร้าย 2 คน "ฝังตัวเป็นภารโรงศาลากลาง คอยส่งข่าวแก๊งเด็ดหัวบิ๊กขรก. ซึ่งเป็นทีมฆ่าผู้พิพากษา-นศ.มอ." และให้รายละเอียดของข่าวต่อไปว่า "เพรียวพันธ์เผย 2 ผู้ต้องหาที่จับกุมได้เกี่ยวพันคดีใหญ่ในภาคใต้ รวมทั้งยิงผู้พิพากษาปัตตานี-นักศึกษา มอ.ระบุหนึ่งในนั้น เป็นภารโรงประจำศาลากลาง จังหวัดปัตตานี ล่าสุดเตรียมสังหารทหารประจำศาลากลาง แต่ถูกจับได้ก่อน" (มติชน 9 มกราคม 2548)
       
       ต่อมาในวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวความเก่งกล้าของผู้ปกครองบ้านเมืองอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยว
       กับผู้ก่อการร้ายที่ว่านี้ซึ่ง "มติชน" อีกเหมือนกันพาดหัวว่า "ตั้งค่าหัวสะแปอิงเพิ่ม 10 ล้าน รวบอีก 5 ป่วนใต้มีอุสตาซ 3" (มติชน 11 มกราคม 2548) ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปว่า "สิริชัยประกาศตั้งค่าหัวหน้าบีอาร์เอ็น "สะแปอิง" 10 ล้าน มีอุสตาซด้วย 3 คน ดีเอสไอ รีบนำตัวเข้าสอบเค้นตั้งค่าหัวสะแปอิง 10 ล้าน" (มติชน 11 มกราคม 2548)
       
       ข่าวที่น่าตื่นเต้นมหัศจรรย์ 2 ข่าวนี้ สำหรับคนที่ไม่สนใจปัญหาบ้านเมืองและปัญหาของโลก อาจจะอัศจรรย์ใจในความเก่งกล้าสามารถของข้าราชการไทยหรือผู้รับผิดชอบบ้านเมืองของไทยที่มีความห่วงใยประเทศชาติประชาชน แต่สำหรับคนที่ติดตามเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้วทุกคนอาจจะรู้สึกสลดใจว่าเราคิดอะไร ทำอะไร มันช้าเกินไปหรือเมื่อสุกงอมจนแก้ไม่ไหวแล้ว เราก็จะมาลงมือเสียเงินเสียทอง และเสียทุกอย่าง เพื่ออวดศักดาภินิหารกัน ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าแก่และเกิดขึ้นมาแล้วในเมืองไทยและทั่วโลก
       
       การก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่เป็นการกระทำของคนสองสามคนหรือกองโจรแบ่งแยกดินแดนพวกใดพวกหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งของมนุษยชาติหรือคนสองจำพวกที่เกิดมาอยู่ในโลกนี้ คือคนที่นับถือศาสนามุสลิมกลุ่มหนึ่งทั้งโลก และคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคนดูถูกเหยียดหยามและปล้นสะดมคนมุสลิมที่คนมุสลิมเรียกว่า คนนอกศาสนาหรือ Infidel ซึ่งได้ประกาศออกมาอย่างเปิดเผยและชัดเจนว่าคนนอกศาสนาพวกนี้โดยเฉพาะคือ คนผิวขาวหรือคนอเมริกัน และคนที่เป็นสมุนบริวารหรือเป็นสุนัขรับใช้อเมริกันตามภาษาที่คุณเหมาเจ๋อตุงนำมาใช้ ซึ่งถือกันว่าเป็นคำเรียกที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด บรรดาสุนัขรับใช้พวกนี้คือพวกที่ขายชาติขายตัวให้แก่อเมริกันถือว่าอเมริกันหรือคนผิวขาวเป็นเจ้าชีวิต ในประเทศบ้านเมืองต่างๆ ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ประจบสอพลอพวกนอกศาสนา และทำทุกอย่างตามความพอใจของอเมริกันแล้ว ยังมีหน้าที่ขายชาติขายแผ่นดินและขายอิสรเสรีภาพให้แก่อเมริกาเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่ตนเอง และพรรคพวกขายชาติด้วยกันที่จะได้รับกันอย่างทั่วถึง
       
       ความขัดแย้งระหว่างคนสองจำพวกนี้ คนมุสลิมที่นำกลุ่มดำเนินงานให้โลกรู้จักกันครั้งแรกคือ บิน ลาดิน ซีไอเอเก่าจากซาอุดีอาระเบียที่ประกาศออกมาให้คนมุสลิมทุกคนจงร่วมมือร่วมใจกันทำลายล้างพวกนอกศาสนาทั้งหมด เฉพาะอเมริกันไม่ว่ามันจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าจะมีอาวุธหรือไม่มีอาวุธ ต้องฆ่ามันอย่างเดียว!!
       
       และบิน ลาดินก็ได้จัดการกระทำให้เห็นเป็นตัวอย่างไปเรียบร้อยในการระเบิดตึกเวิลด์เทรด เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ที่ผ่านมาเป็นผลสำเร็จ
       
       ผู้ที่สนใจขบวนการทำลายล้างของ บิน ลาดินนี้จะอ่านรายละเอียดได้จาก Holy War INC,-Inside The Secret World Of Osma Bin Laden By Peter L. Bergen : The Free Press New York จะหมดความสงสัย ปัญหาของการก่อการร้ายและคนก่อการร้ายทั้งหมด ไม่ว่าจะใน 3 จังหวัดภาคใต้หรือที่ไหน ถ้ามีการขายชาติหรือมีการเป็นสุนัขรับใช้อเมริกันที่ไหน การก่อการร้ายของคนมุสลิมจะเกิดขึ้นที่นั่น และจะเกิดติดต่อกันอย่างยาวนานอย่างไม่มีวันจบสิ้น
       
       ในเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเป็นดินแดนแห่งทรัพยากรอันมหาศาล และยุทธศาสตร์ที่จะสะสมความร่ำรวยให้อเมริกัน ได้ถูกอเมริกาพยายามคิดพยายามทำมาเป็นร้อยๆ ปีมาแล้ว ที่จะฮุบเอาไปเป็นเมืองขึ้นหรือเป็นสุนัขรับใช้ประเภทที่ดีที่สุดให้ได้ แต่อเมริกาก็มีอุปสรรคและปัญหาขัดขวางเรื่อยมา การปล้นและการรุกรานทำมาได้แค่ฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ก็ไม่ถึงกับหวานคอแร้งตามที่หวังจนต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่นานาประการมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงและใช้เล่ห์เพทุบายอย่างไรก็ตาม บังเอิญอเมริกามีเคราะห์กรรมที่จะต้องคว้าน้ำเหลวหลังจากถูกเหยียบออกมาจากเวียดนามและอินโดจีนอย่างย่อยยับมาแล้ว การจะยึดเอาฟิลิปปินส์เป็นหัวหอกสำหรับรุกต่อไปไม่ได้ เพราะที่นั่นเกิดมีคนมุสลิมส่วนหนึ่งเป็นเจ้าของประเทศอยู่เช่นเดียวกับอินโดนีเซียซึ่งเกือบทั้งชาติเป็นชาวมุสลิมที่จะต้องมีหน้าที่เชื่อตามความเห็นของคนมุสลิมที่เชื่อว่าอเมริกาคือพวกนอกศาสนาเป็นเจ้าของประเทศนี้
       
       ในฟิลิปปินส์คนมุสลิมพวกหนึ่งได้รวมตัวกันขึ้นมา เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกา โดยการรวมตัวมุสลิมในฟิลิปปินส์ทั้งหมดขึ้นมาเป็นองค์กรเช่นเดียวกับองค์กรเพื่อฆ่า อเมริกันทั่วโลก องค์กรนี้ชื่อว่า "โมโร อิสลามิก ลิเบอเรชัน ฟรอนต์" ( Moro Islamic Liberation Front) เป็นองค์กรชาวมุสลิมซึ่งมีนิวาสสถานอยู่ในบางสะโมโร ในเกาะมินดาเนาและใกล้เคียงกัน เป็นองค์กรที่มีชื่ออยู่ในภาษาฝรั่งว่า MILF ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยได้รับการสนับสนุนจากชาวเกาะมินดาเนาดั้งเดิม แต่ก็เป็นขบวนการที่มีความเห็นและจุดมุ่งหมายต่างออกไปจากขบวนการโมโร อิสลามิก ลิเบอเรชัน ดั้งเดิม ตรงที่ต้องการมุสลิมที่จัดตั้งขึ้นมาจากการสนับสนุนของชาวเกาะมินดาเนานี้ ต้องการร่วมมือกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ และมีส่วนร่วมในการปกครองกับรัฐบาลกลางของฟิลิปปินส์ แต่ขบวนการโมโรเดิมไม่เห็นด้วย และปฏิเสธที่จะร่วมมือและพร้อมที่จะปลดปล่อยคนมุสลิมออกจากการเหยียดหยามย่ำยีของอเมริกา ขบวนการโมโรที่ว่านี้จึงได้ตั้งป้อมสู้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์อย่างหนักหน่วงเรื่อยมาเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว โดยขบวนการโมโรกลุ่มนี้มีผู้ยอมตายเพื่อเกียรติของคนมุสลิม 2,900 คน เป็นสมาชิก
       
       ว่ากันว่า หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวมุสลิมเริ่มตื่นตัวขึ้นมากเกี่ยวกับชีวิตและความเป็นอยู่ที่พยายามแสวงหา และเปลี่ยนแนวทางให้เหมาะสมกับยุคสมัย
       
       คนมุสลิมในสมัยนั้นเป็นคนประเภทที่ยึดถืออย่างเหนียวแน่นต่อขนบประเพณีความเป็นเอกภาพหรือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
       
       ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 เป็นต้นมา ครูสอนศาสนาหรืออุสตาซชาวมุสลิมได้เดินทางไปยังประเทศมุสลิมต่างๆ มากขึ้นและชาวมุสลิมฟิลิปปินส์ได้เดินทางออกไปต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะไปในงานพิธีฮัจญ์หรือการไปศึกษาเล่าเรียนในประเทศมุสลิมที่ก้าวหน้ากันมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน คนมุสลิมเหล่านั้นได้เปลี่ยนความคิดเห็นจากความเก่าแก่ล้าหลังมาเป็นคนทันสมัย เป็นประชาชนที่ตื่นตัวขึ้นมาพร้อมทุกด้านและ สร้างชีวิตจิตใจและวิญญาณของเขาให้เป็นส่วนหนึ่งของมุสลิมที่ก้าวหน้า เฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสังคมมุสลิมของตนเองให้เป็นมุสลิมระหว่างชาติ สิ่งที่มันเกิดขึ้นใหม่ในชมรมคนมุสลิมเหล่านั้นในระยะต่อมาก็คือ สุเหร่าใหม่ๆ ที่มีการสร้างขึ้นอย่างทันสมัย และโรงเรียนปอเนาะที่ทันสมัยที่จะต้องเรียน ต้องรู้จักคัมภีร์อัลกุรอานที่เป็นภาษาอารบิก มีสถาบันการศึกษาของชาวอิสลามระดับสูงมากขึ้น
       
       การแบ่งชั้นชาวมุสลิมตามความเหมาะสมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นกฎเป็นเกณฑ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 พวกอิสลามรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะพอใจมุสลิมรุ่นเก่าหรือโบราณ เช่น ดาโต๊ะ และสุลต่านกลายเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการสำหรับสังคมมุสลิมรุ่นนี้
       
       ไม่เพียงแต่ความคิดอ่านทางด้านศาสนาเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงของมุสลิมรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทุกเรื่องทุกด้านตั้งแต่เรื่องการเมือง การทหาร และการทำสงครามจรยุทธ์เรื่อยไป
       
       นั่นเป็นสาเหตุให้ฟิลิปปินส์เป็นฐานสำคัญฐานหนึ่งสำหรับการต่อสู้ปลดแอกจากการดูถูกเหยียบย่ำของอเมริกัน และคนผิวขาวที่มีปัญหามาจนถึงทุกวันนี้
       
       พฤติกรรมของขบวนการโมโรของมุสลิมฟิลิปปินส์ที่มีการศึกษา การรวมตัว การติดต่อกับต่างประเทศ และการสู้รบกับชนชั้นปกครองของฟิลิปปินส์มาเป็นเวลา 20 กว่าปีนั้น จึงไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นเรื่องที่เป็นตัวอย่างอันดีอย่างยิ่งสำหรับปัญหาการก่อการร้ายในภาคใต้ที่ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ใน 3 จังหวัดนี้เป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ ทุกอย่างเป็นการกระทำแบบเดียวกันทั้งสิ้น
       
       ความจริงนั้น ในสมัยที่ขบวนการโมโรหรือขบวนการเจไอ อิสลามิยาในอินโดนีเซีย ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นนั้น คนมุสลิมในภาคใต้ของเรานั้นก็เป็นคนไทย ที่ไม่ได้ถูกแบ่งแยกออกไปเป็นพุทธหรือมุสลิม ทุกคนอยู่ร่วมกันและรักบ้านเกิดเมืองนอนเหมือนกัน และถือว่าเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น และในสมัยนั้นคนมุสลิมส่วนมากหรือเกือบทั้งหมดยังไม่มีใครยอมพูดภาษาไทย ยังพูดภาษาไทยกันไม่ได้เลย แต่ทุกคนก็อยู่อย่างคนไทยและคิดอย่างคนไทย
       
       เฉพาะในหลายๆ จังหวัด ไม่มีความแตกต่างอะไรในการนับถือศาสนาหรือคิดว่าต่างคนต่างศาสนาและไม่ง้อคนไทย
       
       ผมเคยไปเที่ยวจังหวัดพัทลุง และนราธิวาส ผมเห็นคนมุสลิมไปช่วยพระซ่อมแซมวัดและเช่นเดียวกันในงานของมัสยิด พระก็อาจจะเอาของไปช่วยและเยี่ยมเยียนโดยไม่คำนึงถึงความเป็นพุทธและมุสลิมนอกจากความเป็นคนไทยด้วยกัน
       
       ไม่มีอะไรจะสร้างความแตกต่างหรือการแบ่งแยกดินแดนที่นักการเมืองชั่วรุ่นต่างๆ ของเราพยายามสร้างเรื่องขึ้นมาจนกระทั่งบัดนี้ แต่ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เราก็ได้ทอดทิ้งคนมุสลิมพวกนี้อย่างสิ้นเชิง ไม่มีรัฐบาลไหนที่มาคิดสนับสนุนให้การศึกษาของพวกเขาพอที่จะนำไปทำมาหากินได้ คนที่พอมีโอกาสได้เรียนหนังสือก็ไปเรียนที่ปอเนาะซึ่งไม่สามารถจะช่วยให้มีสิทธิไปทำมาหากินอะไรได้ทุกคนจะมะงุมมะงาหราพึ่งตัวเองในการที่มีชีวิตอยู่กับความยากจน ซึ่งคนเหล่านี้ความจริงเป็นทรัพยากรอันมหาศาลของแผ่นดิน แต่เขาถูกปล่อยให้เดินเกะกะอยู่เหมือนวัวควายที่ไม่มีเจ้าของ คนไทยพวกนี้จึงกระเซอะกระเซิงออกไปทำมาหากินที่ไหนก็ได้ที่มันจะได้เงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
       
       ในตอนกลางคืนที่โรงแรมบางนรา จังหวัดนราธิวาสจะมีผู้หญิงสาวชาวมุสลิมที่เรียกกันว่า "อีแมะ" ไปหลบมุมมืดๆ เพื่อรับจ้างบำบัดความใคร่ให้แก่เด็กหนุ่มจากอีสานที่ไปรับจ้างตัดยางแถบนั้นแข่งกับอีตัวไทยที่เป็นเรื่องธรรมดาไป อาชีพอื่นอะไรดีกว่านั้นจะไม่มี เพราะฉะนั้นซีไอเอและปากีสถานประกาศรับสมัครนักรบอิสลามเพื่อขับไล่รัสเซียออกจากอัฟกานิสถาน มุสลิมไทยจำนวนมากที่ต้องการชีวิตใหม่ก็แห่กันไปที่นั่น และได้รับการฝึกฝนวิชาทหารจากซีไอเอมาอย่างดี และเมื่อซีไอเอในไทยต้องการให้เกิดขบวนการโมโรไทยขึ้น พวกนี้ลงมือจับอาวุธกันขึ้นแล้ว และแน่นอนที่สุด การที่จะไม่มีความสัมพันธ์ติดต่อกับมุสลิมทั่วโลกซึ่งกำลังปีกกล้าขาแข็งขึ้นมาอย่างพร้อมที่จะสู้ทุกอย่างแม้กระทั่งยอมตายนั้น อย่าไปคิดว่าไม่มี
       
       และอย่าไปคิดว่าการไปจับครูสอนศาสนาเพียง 9 คน 10 คน และให้รางวัลนำจับ 10 ล้านบาท 100 ล้านบาทนั้น จะมาช่วยแก้ไขอะไรได้สำเร็จ เพราะขบวนการมุสลิมเหล่านี้ได้เคยพบปะ และร่วมงานกันมาแล้วภายใต้การอำนวยการของซีไอเอในการขับไล่รัสเซียออกจากอัฟกานิสถานก่อนที่อเมริกาจะเข้ายึดครองหลังจากขับไล่รัฐบาลตอลิบานของตนออกจากตำแหน่ง และเข้าไปครอบครองแทนแล้ว ปัญหาเรื่องการต่อสู้เพื่อฆ่าอเมริกาและสมุนบริวารนั้น สำหรับมุสลิมรุ่นนี้จะไม่มีวันยุติ แต่จะกระจายไปทั่วโลกเฉพาะในประเทศบ้านเมืองที่เป็น พันธมิตรนอกนาโต้ของอเมริกา และเป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกา
       
       ตอนนี้ แม้ว่าอเมริกาและไทยจะร่วมมือกันคอยรับมือ และล่าสังหารผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ทั่วทั้งเอเชีย ถึงจะต้องมายึดสนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์บัญชาการ และขนทหารอเมริกันเข้ามาฝึกร่วมในนาม "คอบร้าโกลด์" มาฝึกคอยรับมืออยู่ทุกปีนั้นก็เถอะ ผู้ที่จะแหลกมันไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายอย่างที่โกหกกันอยู่ แต่มันจะเป็นคนไทยพวกเรานี่แหละที่จะรับกรรม
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 01:07:42 AM »

   
       เพียงไม่กี่ปีที่อเมริกาจำเป็นที่จะต้องถอนทหารออกไปจากอู่ตะเภา ไปพร้อมกับรื้อองค์การขี้ข้าระดับ "สึนามิ" ของไทยคือองค์การที่มีชื่อว่า "องค์การซีอาร์โต้" ซึ่งทำให้ประเทศไทยและคนไทยได้มีการยอมรับนับถือกันในระหว่างประเทศโลกที่สาม และประเทศล่าเมืองขึ้น ซึ่งถือกันว่า เป็นประเทศหนึ่งในของเอเชีย ที่ได้มีการทะนุถนอมกันมาว่าเป็น สุนัขรับใช้ที่ดีที่สุดของอเมริกา แต่มาถึงปีนี้ ก็ยังคงเป็นสุนัขรับใช้ที่ว่านอนสอนง่ายของไทยที่มีต่ออเมริกานั้น ก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งให้คนไทย และผู้ปกครองบ้านเมืองได้ชื่นใจ นั่นคือการที่นักการเมืองคนสำคัญของโลกได้เดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างแน่นขนัด พร้อมกับการตั้งความปรารถนาดีที่จะใช้ประเทศนี้ เป็นศูนย์กลางสำหรับการต่อต้านมหาภัย ที่จะมาถึงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในอีกกี่ร้อยปีข้างหน้า นั่นคือ การมาของแผ่นดินไหวและทะเลพังอีกเหมือนครั้งนี้
       
       เป็นการรวมตัวกันเพื่อสู้กับการก่อการร้ายของธรรมชาติ ซึ่งเป็นภัยครั้งใหญ่เช่นเดียวกับสมัยก่อนที่อเมริกาไปเที่ยวจิกหัว สุนัขรับใช้ชาติเอเชียของตน ทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่สมมติเอาว่ามันมีอยู่ซึ่งอเมริกัน และพวกจักรวรรดินิยมทั้งหมดเรียกชื่อว่า "คอมมิวนิสต์"
       
       เช่นเดียวกับยุคก่อนนั้นไม่เคยมี จะมีก็พียงแต่ประชาชนที่ไม่ยอมให้อเมริกัน และบรรดาจักรวรรดินิยมกดขี่ขูดรีดที่ทำกันมาตลอดเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ นอกจากต่อสู้กันให้ฉิบหายไปข้างหนึ่งเท่านั้น แต่ขึ้นชื่อว่าประเทศล่าเมืองขึ้นหรือนักปล้นสะดมอย่างอเมริกาซึ่งเมื่อจะหาเหยื่อตัวใหม่มาเพื่อเชือดเนื้อเถือหนัง อเมริกาก็ใช้คำเรียกชื่อคนพวกนี้ว่า "ผู้ก่อการร้าย" คำว่า คอมมิวนิสต์เลิกใช้ไปดื้อๆ หรือปล่อยให้มันสูญพันธุ์ไปตราบใดที่มันไม่ขัดผลประโยชน์ของอเมริกา และจักรวรรดินิยมตะวันตก
       
       และบรรดาสุนัขรับใช้ทุกหนทุกแห่งของอเมริกันก็ยกมือไชโยโห่หิ้วชื่นชมกันขนาดยอมทำลายความเป็นมนุษย์ และวิญญาณของสัตว์ที่ยังไม่ได้ขัดเกลามาตั้งแต่ลืมตาเกิด เพื่อทำหน้าที่สัตว์เลี้ยงและเป็นสุนัขรับใช้ที่ดีของอเมริกาต่อไป
       
       เรื่องมันมีเท่านั้น
       
       ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ไม่ใช่ปัญหาของใครคนหนึ่งหรือกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม แต่เป็นปัญหาของอเมริกา และกระบวนการล่าเมืองขึ้นของพวกผิวขาวพวกนี้กับประชาชนอีกพวกหนึ่งซึ่งมีความแตกต่างกันทางด้านศาสนา และวัฒนธรรมที่มีการเหยียบย่ำทำลายกันมานานนับพันปีมาแล้ว เฉพาะอย่างยิ่ง การที่ประเทศมหาอำนาจมีความเข้มแข็งกว่าอย่างอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งพยายามสมมติเอาว่าดินแดนตะวันออกกลางที่เรียกกันอย่างตามภาษาของคนพวกนี้ว่า แผ่นดินของพวกแขกหรือไม่ใช่ผู้ใช่คนอะไรทำนองนั้น แต่ก็อยากจะฮุบเอาไว้เป็นทรัพย์สินของตัวเองเสียให้ได้ เพราะแผ่นดินของพวกแขกหรือทะเลทรายเหล่านี้มันเต็มไปด้วยทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล
       
       เท่านั้นแหละ
       
       ไม่มีเหตุผลอื่น ไม่มีเรื่องลึกลับซ้ำซ้อนอะไร ไม่มีการบ้านการเมืองอะไรกันนอกไปจากเรื่องปล้นของโจรพวกหนึ่งกับชาวบ้านที่ไม่มีทางสู้เท่านั้นเอง
       
       โจรหมาๆ ธรรมดานี่เอง
       
       ไม่มีอะไรแปลก ประเทศไทยที่เคยมีแผ่นดินและผู้คนเป็นของคนไทยเอง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินในแหลมลายู และแผ่นดินทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงมากกว่าแผ่นดินของคนไทยชาติไทย และเผ่าไทยที่รวมกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นแม้ว เย้า หรือกะเหรี่ยงหลายเผ่าพันธุ์ ทุกเผ่าก็อยู่ร่วมกันมาสร้างประเทศมาในนามของคนไทยหรือเป็นคนไทยเท่านั้น แต่ก็เป็นประเทศใหญ่ๆ โตๆ ที่ก่อการร้ายอยู่ทั่วโลกเวลานี้แหละที่มาแย่งชิงเอาไป สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นแก่หมู่คนเหล่านี้จนกระทั่งมองหน้ากันไม่ติด และต้องเป็นศัตรูกันมาโดยไม่มีวันหยุด
       
       ความขัดแย้งระหว่างประเทศจักวรรดินิยมล่าเมืองขึ้นกับคนในท้องถิ่น ไม่ว่าในเอเชีย แอฟริกา ตะวันออกกลางนั้น ได้เกิดติดต่อกันขึ้นมาอย่างหนักหนานานมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และมันเริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเพราะความเข้าใจในปัญหาของตัวเองที่ทำให้ประชาชน และประเทศล้าหลังเหล่านี้รวมตัว ร่วมกันคิดที่จะกำจัดความเจ็บปวดเหล่านี้ออกไป ในระยะแรกก็มีการรวมกลุ่มของประเทศต่างๆ ของประเทศโลกที่สามในด้านการรวมกันในทางด้านอุดมการณ์ เช่น องค์การ Afro-Asian Solidarity ซึ่งเป็นกลุ่มที่เริ่มต้นโดยประธานาธิบดีซูการ์โนแห่งอินโดนีเซียเและกลุ่ม Non-Alignment หรือที่เรียกว่ากลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่เริ่มต้นโดยผู้นำอินเดียโดยเฉพาะ นางอินทิรา คานธี ซึ่งมีประเทศด้อยพัฒนาหรือประเทศโลกที่สามทั้งหมดร่วมกันเป็นสมาชิกจัดตั้งองค์การที่ว่านี้ แต่ก็ทนการเสียดทานของวิธีการทำลายของประเทศล่าเมืองขึ้นเหล่านี้ไม่ไหวก็หมดความหมายไป พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของประเทศต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายล่าเมืองขึ้นกับฝ่ายที่ถูกล่าซึ่งมีการแบ่งพวกแบ่งฝ่ายได้ชัดเจนมากขึ้น
       
       อเมริกาและประเทศสุนัขรับใช้อเมริกาส่วนมากในองค์การสหประชาชาติยังมีความเชื่อมั่นอยู่ว่า อเมริกายังมีฐานะเศรษฐกิจที่ดีเพราะสามารถพิมพ์เศษกระดาษใช้เป็นเงินได้ โดยได้รับการยอมรับทั่วทั้งโลก และอเมริกามีอาวุธร้ายแรงที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลก อเมริกาเชื่อว่าตนสามารถจะใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือข่มขู่ประเทศที่ด้อยกว่าตัว อย่างที่กระทำกันอยู่กับเกาหลีเหนือที่อเมริกาพยายามข่มขู่ และใช้สวะสกปรกทางการเมือง และการทูตทุกประเภทเพื่อทำลายเกาหลีเหนือ และเข้าครอบครองคาบมหาสมุทรเกาหลีเหนือเพื่อขยี้จีนให้ย่อยยับลงไป โดยมีญี่ปุ่นเป็นสมุนมือขวาและพยายามจิกหัวสุนัขรับใช้ตัวอื่นที่อเมริกายังไม่สามารถจิกหัวใช้ได้อย่างเปิดเผยหรือใช้ได้โดยเด็ดขาดทั้งหมด อเมริกาและสมุนบริวารจึงพยายามหาทางตั้งหน่วยปราบปรามผู้ก่อการร้ายแห่งใหม่ขึ้นมา แต่ก็ยังคงอีหลักอีเหลื่ออยู่เพราะไม่สามารถจะชี้นิ้วสุนัขรับใช้ให้ยอมรับและร่วมมืออย่างสะดวกและเปิดเผยได้ จนกระทั่งเกิดกรณีคลื่นสึนามิขึ้นมาทำให้เอเชียทั้งเอเชียได้รับความเดือดร้อนกันอย่างถึงขนาด ที่จะต้องเตรียมตัวกันเพื่อรับมือกับเหตุการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากภัยพิบัติเหล่านี้ ซึ่งมันจะเกิดหรือไม่เกิดไม่สำคัญ สำคัญตรงที่ว่าจะหาเหตุเข้ามายึดครองประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นผ้าเช็ดเท้าที่เหมาะสมที่สุดในเอเชียต่อไป
       
       คำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือนโยบายต่างประเทศเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป นอกจากเสื้อนอกและรองเท้าที่พวกเขาใส่กันเท่านั้น ที่จะมีการเปลี่ยนไปบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับภูมิประเทศคือ ศูนย์กลางระวังภัยบนแผ่นดิน น้ำท่วมในเอเชียครั้งต่อไปคอยทำหน้าที่ตรวจสอบระวังภัยที่ว่านั้น
       
       และศูนย์กลางที่ว่านั้นเหมาะสมที่สุด สวยงามที่สุดและลงทุนถูกที่สุดก็คือ ประเทศไทยทั้งประเทศ
       
       หลังจากที่ซีไอเอ และองค์การบ่อนทำลายซึ่งเป็นสาขาของซีไอเอ และ NED ทั้งลับและเปิดเผยมีตำแหน่งแห่งที่บัญชาการพร้อมอยู่แล้ว ทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ นับว่าเป็นโชคอย่างมากของอเมริกาและสมุนบริวารเหล่านี้ที่ภัยพิบัติคลื่นสึนามิได้เกิดขึ้น ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่ไทยได้ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นมา ไทยได้กลายเป็นประเทศที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการทำลายล้างของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นสนามบินอู่ตะเภา สนามบินที่สำคัญในภาคอีสาน เชียงใหม่ และทั่วประเทศที่อเมริกาสามารถจะใช้ได้ง่ายกว่าในประเทศของตนเอง โดยไม่ต้องใช้ความเหนื่อยยากอะไรมากไปกว่ารู้จักหายใจให้เป็นเท่านั้น (ผู้ที่สนใจกิจการก่อการร้ายและงานของซีไอเอในประเทศไทยอาจจะไปถาม และศึกษาหาความรู้จาก พ.อ.แบร์รี่ ซาปิโร แห่งกองพัน 399 ที่เชียงใหม่ก็ได้ หรือจะติดต่อขอทราบโดยตรงจากหน่วยงานประเภทเดียวกับซีไอเออีกองค์การหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาทำงานในด้านการทำจารกรรมประเภทต่างๆ ทั่วทั้งเมืองไทย และเอเชียที่มีชื่อว่า CSIS ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮอนโนลูลู หรืออีกองค์การหนึ่งที่มีความสามารถในการสร้างสถานการณ์และการแตกแยกขึ้นในชาติต่างๆ ก็มีอีกองค์การหนึ่งที่มีชื่อย่อว่า NED กำลังดำเนินการแบบเดียวกันกับที่ทำใน 3 จังหวัดภาคใต้ของเรา ซึ่งองค์การนี้จะติดต่อตั้งแต่จากยอดเขาในทิเบตไปจนกระทั่งถึงชายแดนไทย-พม่า ฮ่องกง และไต้หวัน)
       
       แต่ไม่ว่าประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกาอย่างไรนั้น สำหรับคนไทยทั้งชาติอาจจะไม่ได้สนใจหรือไม่ได้แคร์ว่าอะไรจะเสียหายหรือเป็นความอัปยศของชาติ เพราะประเทศไทยตามประวัติ และสถานการณ์ทางการเมืองที่ได้ร่วมกัน
       สร้างขึ้นมาจนกลายเป็นขนบธรรมเนียมไปแล้วก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นการโกงชาติกินชาติหรือเอาชาติไปขาย เราก็จะพากันเฉยและดำเนินนโยบายสัจนิยมคอร์รัปชันของเราเรื่อยไป และก็ช้าเกินไปแล้วสำหรับการแก้ไขที่จะให้อยู่ร่วมกับชาติอื่นในโลกอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งหลายชาติหลายประเทศในเอเชียพยายามทำกันอยู่ แต่ที่น่าเป็นห่วงอยู่บ้างก็คือปัญหาที่ทำให้ประเทศไทยต้องเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อของผู้ก่อการร้ายของอเมริกาในประเทศอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เพราะผู้ก่อการร้ายที่ว่าร้ายยิ่งกว่าคอมมิวนิสต์ในทัศนะของอเมริกานั้น มีความร้ายยิ่งกว่าคอมมิวนิสต์หลายหมื่นหลายพันเท่า ด้วยเหตุผลที่ผู้ก่อการร้ายหรือชาวมุสลิมที่เที่ยวก่อกวนทุกวันนี้ ไม่ว่าในปาเลสไตน์ ตะวันออกกลาง ในอัฟกานิสถาน และแม้แต่ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึง 3 จังหวัดของไทยที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ เพราะคนมุสลิมเหล่านั้นถือว่า อเมริกันคือพวกคนนอกศาสนา คนมุสลิมจะต้องฆ่าคนอเมริกันไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าจะพบปะที่ไหนจะต้องฆ่าให้หมดสิ้น และใครก็ตามที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนอเมริกาก็ต้องถูกถือว่าเป็นศัตรูของชาวมุสลิมทุกๆ ประเทศ
       
       ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นสมุนบริวารหรือเป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกา ที่คนมุสลิมทุกชาติทุกเผ่าพันธุ์ไม่ยอมขายตัวให้อเมริกาจะถือว่าเป็นศัตรูของประชาชนมุสลิม
       
       และคนพวกนี้จะต้องตายเพื่ออเมริกา
       
       และการเปิดตัวประเทศไทยเป็นสุนัขรับใช้ที่ถูกต้องตามหลักการของอเมริกา โดยการใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์บัญชาการการปราบปรามผู้ก่อการร้ายที่ทำหน้าที่ซีอาร์โต้องค์การใหม่ในครั้งนี้ หลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศกว้างทุกจุดทุกด้านสำหรับการสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปโดยอัตโนมัติ
       
       ในรายงานสืบราชการลับของซีไอเอคือ CSIS ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า
       
       "สหรัฐอเมริกากับประเทศไทยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับซีไอเอในการปราบปรามผู้ก่อการร้าย หน่วยข่าวกรองของไทยทำงานร่วมกันแบบยอมเป็นยอมตายด้วยการจัดตั้งเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการข่าวเกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย องค์การสืบราชการลับที่ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้นก่อนการโจมตีตึกเวิลด์เทรดของสหรัฐอเมริกาในชื่อที่รู้จักกันว่า CTIC : A Joint Center-Terrorism Intelligence ซึ่งในตอนนี้องค์การจารชน CTIC กำลังดำเนินการควบคุมกำกับการก่อการร้ายอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยไม่คำนึงถึงความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาแต่ประการใด แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพไทยได้เช่าดาวเทียมจารกรรม 3 แห่งดำเนินการค้นหาอาวุธของกองทัพไทยที่ถูกขโมยไปอยู่"
       
       ข้อความตรงนี้ผมพยายามแปลให้เป็นสำนวนไทยหรือเป็นภาษาชาวบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้อความเดิมที่ภาษาอังกฤษขององค์การจารชนแห่งนี้เขียนว่า
       
       "The CTIC is now directing attention to southern Thailand, though no U.S.military assistance is contemplated.Hoewever,Thai forces have rented on three U.S.spy satellites to search for the stolen army weapons"
       
       และมีรายละเอียดบอกต่อไปว่า
       
       "ทางภาคใต้ของประเทศไทยขณะนี้กำลังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก และได้มีการพูดถึงการสร้างรั้วขึ้นที่ชายแดนมาเลเซีย ทั้งฝ่ายไทย และมาเลเซียกำลังเตรียมการที่จะตั้งหน่วยลาดตระเวนระหว่างสองประเทศ และเตรียมการในการที่จะเข้มงวดกับประชาชนสองสัญชาติที่ข้ามไปข้ามมาระหว่างสองประเทศอยู่"
       
       เหตุการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ มีคนรู้กันทั้งโลกยกเว้นประเทศไทย และนักการเมืองไทยเท่านั้นที่ไม่รู้ว่ามันเกิดมาจากไหน และใครอยู่เบื้องหลัง
       
       คนไทย 3 จังหวัดภาคใต้ทำมาหากินไม่ได้ คนที่ตายก็ตายไปไม่มีใครสนใจนอกจากเอะอะโวยวายเพื่อสร้างชื่อเสียง และโกหกหลอกลวงประชาชนทั้งชาติกันเป็นปีมาแล้ว
       
       ใครบ้างที่ขายชาติขายประชาชนกันบ้าง ก็ไม่มีอะไรต้องสงสัยกันอีก จากรายงานสั้นๆ ของจารชนแห่งนี้ก็พอมองเห็นหน้ากันอยู่หรอก
       
       แต่น่าสงสัยมากก็คือว่า ใครได้ไปคนละกี่หมื่นกี่แสนล้านคราวนี้?
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 01:09:03 AM »

 ผมขอแสดงความยินดีอย่างสูงต่อนายตำรวจระดับนายพลคนหนึ่งคือ คุณวงกต
       มณีรินทร์ ที่ถูกส่งไปดูแลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนใน 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งตอนนี้ปรากฏว่าท่านได้ถูกย้ายออกจากภาคใต้ไปไกลลิบแล้ว ซึ่งข้อหาในการย้ายนั้นใครจะโกหกออกมาอย่างไรก็ตาม แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านมีความผิดหรือบกพร่องแม้แต่ประการใดในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เหตุผลที่ผมไม่เชื่อก็เพราะผมรู้ดีว่าพฤติกรรมหรือความคิดเห็นของท่านผู้นี้ เป็นความคิดเห็นที่เป็นคุณต่อประเทศไทยและคนไทย ซึ่งไม่เป็นที่พึงปรารถนาของซีไอเอที่ยกขบวนไปจัดการปลุกปล้ำผู้ก่อกวนบ้านเมืองอยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้ อย่างสนุกสนานเป็นเวลา 1 ปีกว่ามาแล้วนั่นเอง
       
       ที่ต้องขอแสดงความดีใจด้วยก็เพราะพึ่งจะรู้จะเห็นอย่างน้อยก็ยังมีข้าราชการระดับสูงของไทยท่านหนึ่งที่ไม่ยอมเป็นข้าช่วงใช้ของซีไอเอ และยอมไม่ขายชาติให้อเมริกันตามความต้องการของซีไอเอ และนักขายชาติไทยที่มีตำแหน่งฐานะระดับเดียวกัน
       
       ท่านยังสามารถรักษาความเป็นคนไทยและความเป็นลูกไทยหลานไทยของลูกผู้ชายไว้ได้ท่ามกลางลาภยศ และความร่ำรวยมหาศาลของอเมริกาที่มันปรนเปรอกันอย่างหนัก
       
       เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นอย่างติดต่อเหมือนกับบ้านเมืองของเรามีแต่หัวหักหลักตอโดยที่ไม่เคยมีใครทำอะไรได้ และไม่ว่าจะเป็นตัวบทกฎหมายหรืออำนาจราชศักดิ์ใดๆ เมืองไทยเป็นเพียงเศษกระดาษหรือหัวหลักหัวตอที่ว่านั้น ล้วนมาจากความจงรักภักดีของคนไทยบางพวกที่มีชีวิตอยู่เพื่ออเมริกันและซีไอเอทั้งสิ้น
       
       ผมได้เขียนเรื่องนี้ไว้ใน "ผู้จัดการรายวัน" ฉบับวันศุกร์ที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมาว่า ตอนนี้ซีไอเอของอเมริกากำลังดำเนินการก่อการร้ายอยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้อย่างสนุกสนาน
       
       ไม่ว่าจะเป็นใครหรือ "หน้าไหน" ที่จะมาปฏิเสธความจริงทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้
       ว่าไม่เป็นความจริงหรือเป็นการพูดสุ่มสี่สุ่มห้าผมก็ไม่ว่าอะไร
       
       ไม่เพียงแต่ผมจะยืนยันว่า ผมได้ติดตามศึกษาเรื่องราวของซีไอเอทำอะไรที่ไหนมาเป็นเวลานานนับเป็นสิบๆ ปีเท่านั้น ยังไม่สำคัญกว่าข้อความและหลักฐานที่ผมนำมานี้เป็นรายงานขององค์การจารชนแห่งหนึ่งของอเมริกาที่มีชื่อว่า CSIS ถ้าหากมันจะผิดก็ให้มันรู้ไป
       
       เมืองไทยนั้นเป็นของคนไทยและมีรูปโฉมเป็นไทย เพียงแต่เสื้อกางเกงและการ
       เล่นหวยใต้ดินบนดินเป็นเท่านั้น แต่กิจการอันใดที่เป็นเกียรติเป็นอำนาจของชาติหรือศักดิ์ศรีของชาตินั้น เป็นของอเมริกันทั้งหมดโดยการควบคุมของซีไอเอทั้งสิ้น
       
       ซีไอเอเป็นองค์การสืบราชการลับ และเป็นองค์การก่อการร้ายของอเมริกา ซึ่งคนไทยตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้ปกครองประเทศ ขุนศึกขุนทหารขนาดเขื่องๆ ทุกคนไม่เคยมีใครรู้จักนอกจากเคยได้ยินชื่อ ทั้งๆ ที่เป็นองค์การที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำหรับการบ่อนทำลายและเข้าไปสร้างสถานการณ์วุ่นวายและความขัดแย้งในประเทศต่างๆ เพื่อบุกเบิกให้กองกำลังทหารเข้ายึดครองอย่างที่ทำมาแล้วในทุกแห่งทั่วโลก อเมริกาต้องการเข้ามายึดอำนาจควบคุมเอเชียอาคเนย์ทั้งหมด ตลอดไปถึงประเทศจีน เพื่อเอาเข้าเป็นเมืองขึ้นของตนและควบคุมมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกันให้ได้
       
       หลังจากได้กำหนดอุดมการณ์ในการล่าเมืองขึ้น และการเป็นเจ้าโลกมาเป็นเวลาร้อยๆ ปีมาแล้ว แต่อเมริกาก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ ไม่ว่าจะหอบความยิ่งใหญ่ไปที่ไหนก็แพ้ที่นั่น ไม่ว่าในจีน เวียดนาม หรือในอินโดจีน ซึ่งเตือนให้อเมริการู้ว่าการที่จะกระทำการดังที่ต้องการได้สำเร็จจะต้องมี (1) ผู้คนที่ตนฝึกฝนชุบเลี้ยงมาอย่างมีประสิทธิภาพ (2) ยุแยงตะแคงรั่วให้คนในกลุ่มเดียวพวกเดียวกันแตกกันเอง (3) อเมริกาในฐานะเจ้านายที่นั่งคอยชี้นิ้วบงการก็ผงาดเข้าไปคุ้มครองทันที
       
       ทั้งหมดเป็นงานของซีไอเอและองค์การที่เป็นเครือข่ายของซีไอเอทั้งสิ้น
       
       เมื่อทำได้สำเร็จที่ใดที่หนึ่งแล้วก็จะผงาดไปที่อื่นต่อไปไม่มีวันหยุด
       
       เมืองไทยก็เป็นศูนย์กลางที่สำคัญประเทศหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ที่อเมริกาได้จ้องและเหยียบย่างเข้ามาในจังหวะต่างๆ จนกระทั่งมาถึงยุคนี้เป็นยุคที่อเมริกาคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะต้องลงมือจริงจังเสียที เพราะเชื่อว่าหลังจากที่รอคอยมาเป็นร้อยๆ ปี ว่าตนพร้อมแล้วที่จะเข้ามาเหยียบเอเชียอาคเนย์ คาบมหาสมุทรแปซิฟิก และคาบมหาสมุทรเกาหลีให้ราบเป็นหน้ากลอง โดยการเข้ามาปักหลักและควบคุมบรรดาประเทศสุนัขรับใช้ในเอเชียไม่ยอมให้เงยหน้าอ้าปากได้อีกต่อไป โดยใช้ประเทศไทยเป็นสนามรบหรือใช้ประเทศไทยเป็นฐานกำลังรบที่จะต้องขนกันเข้ามา ไม่ว่าเครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และกำลังทหารมาไว้ในประเทศไทย
       
       ประเทศไทยหลังจากที่อเมริกาสามารถยึดเอาไว้ได้ตั้งแต่สมัยที่อเมริกาต้องการเหยียบหัวประชาชนชาติต่างๆ ไว้ในอุ้งเท้าของตนไม่ให้หือ จนถึงกับปั้นคอมมิวนิสต์รัสเซียให้เป็นลัทธิที่เป็นภัยต่อโลกถึงกับทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปราบคอมมิวนิสต์ให้หมด เพื่อให้โลกอยู่ด้วยความสุข
       
       นั่นก็บ้ากันมาพักหนึ่ง
       
       มาถึงตอนนี้ ประเทศที่ปกครองด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ก็มีประเทศจีน ประเทศเวียดนาม และแม้แต่คิวบาที่อยู่ปลายจมูกของอเมริกาก็เป็นคอมมิวนิสต์ แต่อเมริกากลับไม่เดือดร้อนหรือไม่คลุ้มคลั่งเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับมาบ้าคลั่งเรื่องการก่อการร้ายของลัทธิก่อการร้าย ซึ่งก็คือประเทศที่เป็นคนมุสลิมหรือเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันมหาศาล
       
       อเมริกาประโคมข่าวตีฆ้องร้องป่าวเรื่องราวการก่อการร้ายออกมาต้มผู้คนอย่างหนักอีกครั้งหนึ่งต่อจากการบ้าคอมมิวนิสต์
       
       เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ก่อการร้ายในเอเชียหรือลัทธิก่อการร้าย (TERRORISM)
       
       และประเทศที่ก่อการร้ายที่อเมริกาหมายหัวไว้นั้นได้แก่ ประเทศที่มีประชาชนชาวมุสลิมที่อเมริกาพิพากษาลงไปว่าเป็นตัวเสนียดจัญไรสำหรับใครต่อใครไม่รู้ แต่จะต้องกวาดล้างและปราบปรามให้หมดทั้งโลก เริ่มจากอิรัก อิหร่าน ซีเรียเป็นลำดับไป
       
       อเมริกาจึงมีหน้าที่จะเป็นหัวโจกเพื่อปราบพวกก่อการร้ายชาวมุสลิมเหล่านี้
       
       และก็เป็นหน้าที่ขององค์การจารชนที่จะต้องเดินทางล่วงหน้าเข้ามาสร้างหลักปักฐานในประเทศที่มีชาวมุสลิมอยู่พอที่จะนำมาสร้างสถานการณ์ชั่วร้ายต่างๆ ได้ อเมริกาก็ระดมกำลังเงินกำลังคนของตนเพื่อสร้างสถานการณ์ชั่วร้ายขึ้นในประเทศต่างๆ และประกาศความเป็นผู้นำในการที่จะเข้ามาปราบปรามผู้ก่อการร้ายทั้งหมดในเอเชียอาคเนย์เสียด้วยตนเอง ซึ่งความจริงมันก็คือการเข้ามายึดประเทศเอเชียแต่ละประเทศที่จะเอามาใช้เป็นขี้ข้าได้เท่านั้นเอง
       
       นี่คือการเมืองระหว่างประเทศของอเมริกาที่นักขายชาติของไทยเราได้พากัน เทิดทูนบูชาอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งๆ ที่ความชั่วช้าที่อเมริกาทำแก่ประเทศไทยนั้นหนักหนาสาหัสมาตลอด
       
       เอากันแค่เมื่อปี พ.ศ. 2546 เคยมีข่าวว่าที่ท่าขี้เหล็ก ชายแดนพม่า เคยมีระเบิดเกิดขึ้น 4 ครั้ง โดยการทำงานร่วมกันระหว่างกะเหรี่ยง-ไทยใหญ่-ไทยน้อย ที่ต้องการสร้างความขัดแย้งระหว่างไทยกับพม่าเพื่อให้เป็นศัตรูกันให้ได้ เพื่อจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือ การเปิดโอกาสให้อเมริกา มีเหตุผลที่จะเข้ามาปกครองประเทศไทยจากผู้ก่อการร้าย เพื่ออเมริกาจะมีสิทธิเสรีภาพที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ เฉพาะอย่างยิ่ง การใช้สนามบินอู่ตะเภาและสนามบินทั่วประเทศของไทยเพื่อประโยชน์ในการรุกรานประเทศในเอเชียอาคเนย์ตามความคิดฝันที่ผู้นำอเมริกาทุกคนได้มุ่งหวังเอาไว้เป็นร้อยปีมาแล้ว
       
       ระบิดที่เอามาใช้คราวนั้น มาจากฝีมือของซีไอเอในไทยจากกองพล ฉก. 399 หนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการรายวัน" ในตอนนั้นลงข่าวละเอียดยืดยาวเกี่ยวกับบทบาทและงานของซีไอเอพวกนี้ ตอนหนึ่งของรายงานฉบับนั้นมีว่า การสร้างความแตกแยกระหว่างประเทศครั้งนี้ เป็นฝีมือของนายทหารอเมริกันผู้ก่อตั้ง ฉก. 399 ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ "ผู้จัดการรายวัน" รายงานว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดจากการกระทำร่วมกัน 3 ฝ่ายคือ "มะกันหนุน-ไทยคุม-กะเหรี่ยงลงมือ" แต่บังเอิญว่าผู้หลักผู้ใหญ่ของไทยสามารถแก้ปัญหาได้
       
       แต่ซีไอเอก็หาทางอเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับเข้ามาปกครองประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการก่อการร้ายในเอเชียและแปซิฟิกให้ถึงอกถึงใจให้ได้ ประการแรกที่สุดก็คือ การวางกำลังเข้าก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ขึ้นมา จนกระทั่งสามารถปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมได้เป็นการกระทำเพื่อเป็นการบอกกล่าวแก่ประชาชนคนไทยและโลกว่า ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในอันตรายซึ่งเป็นหน้าที่ของอเมริกันจะต้องเข้ามาพิทักษ์ปกป้องเช่นเดียวกับที่ฟิลิปปินส์มีขบวนการโมโรของชาวมุสลิมหรือขบวนการมุสลิมอาเจะห์ในอินโดนีเซีย ซึ่งอเมริกาต้องรีบให้ความช่วยเหลือในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายให้ย่อยยับไป พอดีกับ 1 ปีของการดำเนินการใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่รอการสุกงอมอยู่นั่นเอง โชคดีของอเมริกาก็มาถึงนั่นคือเหตุการณ์ "สึนามิ" ที่เกิดขึ้นใน 6 จังหวัดภาคใต้ อเมริกาก็ลงมือสวมรอยในการจัดตั้งศูนย์ป้องกันภัยธรรมชาติขึ้นที่อู่ตะเภาเพื่อใช้สนามบินที่สำคัญแห่งหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ และคาบมหาสมุทรแปซิฟิก โดยอเมริกาทำหน้าที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเสียเองในขณะที่สนามบินในต่างจังหวัดหลายแห่งก็ถูกอเมริกันเช่าเอาไปใช้แล้วเพื่อจุดประสงค์อันเดียวกัน
       
       ก็พอจะสรุปได้ว่า เมืองไทยนั้นอยู่ในอุ้งมือของอเมริกาทั้งหมดแล้ว บรรดาสุนัขรับใช้ของเอเชียของอเมริกาก็มีหน้าที่เพียงเสนอหน้าคอยฟังคำสั่งเท่านั้น
       
       วิธีการต่างๆ ในการก่อการร้ายและการก่อกวนของผู้ก่อการร้ายของซีไอเอนั้น จะทำกันเป็นระบบตามแนวทางของซีไอเอที่ได้ทำมาแล้วในการต่อสู้ขับไล่รัสเซียในสมัยที่ บิน ลาดิน ยังเกี่ยวข้องอยู่ และในสมัยที่อเมริกันต้องการขับไล่ รัฐบาลตอลิบาน ออกจากการปกครองของอัฟกานิสถานก็จะทำอย่างเดียวกันทั้งในด้านยุทธวิธีประการเดียวกันคือทำกันอย่างไม่มีวันหยุด และไม่เน้นการแตกหัก เพียงแต่ต้องการการก่อกวนทำอะไรมากนอกจากเผาโรงเรียน และฆ่าเจ้าหน้าที่ และครูโรงเรียนทุกแห่งที่เป็นการก่อกวนโดยที่รัฐบาลตอลิบานไม่สามารถจะไปจัดการอะไรได้ เพราะกลุ่มที่เข้ามาก่อกวนนั้นมักจะเป็นเอกชนไม่สามารถจะติดตามไปสู้รบตบมืออะไรได้ และไม่รู้ว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน
       
       กลุ่มก่อการร้ายของซีไอเอเหล่านี้จะได้รับการฝึกฝนอบรมมาอย่างดีในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการปล้นปืน เผาโรงเรียนหรือฆ่าเจ้าพนักงานหรือพระภิกษุสงฆ์ แม้แต่การจัดตั้งประชาชนนับจำนวนพันๆ คนเข้ามาประท้วงพร้อมกันที่ตากใบ ซึ่งการมาอย่างนั้นและประท้วงแบบนั้น จะไม่สามารถทำได้ถ้าหากไม่มีการจัดตั้งมาอย่างมีระเบียบวินัยที่สูงยิ่งกว่าขบวนการของคอมมิวนิสต์
       
       มันไม่ใช่ โจรกระจอก หรือ ผู้ก่อกวนกระจอก อย่างที่คิด
       
       นอกจากการจัดตั้งที่ดีและมีประสิทธิภาพแล้วก็ยังใช้เวลาไม่ใช่วันสองวันแต่จะเป็นเวลาแรมปีอีกด้วย
       
       น่าจะเป็นไปได้ว่า อเมริกาได้มีการตกลงลับๆ กับผู้มีอำนาจในประเทศซื้อขายชาติกันมาอย่างเงียบๆ เหมือนที่เคยได้ตกลงกับอัฟกานิสถานและซาอุดีอาระเบียมาแล้วมาเป็นเวลานานก่อนหน้านั้น ตั้งแต่การใช้สนามบินอู่ตะเภาและการเช่าสนามบินในภาคอีสานเป็นฐานทัพถาวรของอเมริกาเพื่อดำเนินการตามอุดมการณ์ต่อไป ภายใต้ความคุ้มครองของกองกำลังที่มีชื่อว่า "คอบบร้าโกลด์" (COBRA COLD 2002) ซึ่งเป็นกองกำลังอเมริกันที่เข้ามาร่วมฝึกหัดในประเทศไทยทุกปีอย่างเปิดเผยและสง่างาม แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยมีใครรู้ไม่มีใครเข้าใจว่าเมื่อไม่มีศึกสงครามอะไรที่ใครต้องเดือดร้อน ทำไมอเมริกาและซีไอเอถึงต้องส่งทหารเข้ามาร่วมฝึกกับทหารไทยหรือทหารไทยเป็นสมุนสำหรับปราบปรามการก่อการร้ายในประเทศ รัฐบาลและนักขายชาติที่มีอำนาจวาสนาทุกคนก็จะปิดเรื่องไว้เป็นความลับ
       
       ในรายงานของซีไอเอจากฮอนโนลูลูเกี่ยวกับเรื่องการซื้อขายชาติกันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ มีข้อความว่า
       
       "ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนความพยายาม สหรัฐอเมริกาสกัดกั้นการให้เงิน สนับสนุนการก่อการร้ายและออกกฎหมายฟอกเงินเข้าสภาก่อนวันที่ 11 กันยายน โดยอ้างว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อป้องกันการค้ายาเสพติด ทางกรุงเทพฯ ประกาศด้วยว่าการฝึกร่วมทหารไทยกับทหารสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นการกระทำกันประจำปีซึ่งก็รวมไปถึงการจัดการฝึกร่วมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายด้วย"
       
       ครับ, เรื่องนี้เป็นเรื่องมีความยืดยาวมากพอสมควร คนที่สนใจและคนทั่วโลกเขารู้กันเป็นอย่างดีทั้งนั้น
       
       เมื่อความจริงมันเป็นอย่างนี้แล้ว การหาตัวผู้ก่อการร้ายหรือพวกอุสตาซอย่างคุณเจ๊ะกูแม อะไรต่ออะไรนั้น ไม่น่าจะต้องไปตามที่ไหน ถามซีไอเอที่กรุงเทพฯ หรือที่เชียงใหม่ก็ได้


จริงไม่จริงไม่ไม่อาจจะทราบได้นะคับขอให้อ่านแล้วใช้วิจารณญาณกันนะคับ
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 09:41:47 AM »

ผู้เขียนสามารถผูกเรื่องเข้าด้วยกันกับสถาณการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ทราบว่าผู้เขียนเป็นสื่อมวลชนประเภทใด แต่ผมว่าเรื่องจริงคงมีอยู่บ้างแต่คงไช่ทั้งหมด ข้อเขียนข้างต้นอ่านได้เพื่อศึกษาเท่านั้นครับ น่าศึกษานะครับคุณยอดธง ทับทิวไม้ คือใคร? ประวัติความเป็นมาอย่างไร?
บันทึกการเข้า
SDH2th
Hero Member
*****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2203

การให้สบายใจกว่าการรับ


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 10:24:36 AM »

กระทู้นี้ มันเกี่ยวกับ สนทนาภาษาปืนตรงไหน.....น่าคิด ..กระดานนี้ไม่น่าเอาประเด็นร้อน..มาคุยครับ ยิงมีคนไม่ชอบชาวนิยมปืน..จ้องอยู่  ....เดี๋ยวโดยจัดเป็นแนวร่วมจะยุ่งนา.....ผู้ดูแล...ดูๆบ้างนะครับ ผมคนหนึ่งละว่าไม่ค่อยสวยครับ.....
บันทึกการเข้า

เข้าเถื่อนอย่าหมิ่นพร้า  มีไป
เข้าศึกอย่านอนใจ       เฉื่อยช้า
อาวุธอย่าวางไกล        ขุกค่ำ  คืนแฮ
นอนแต่ยามหนึ่งอ้า      อาจป้องภัยพาล
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 11:58:52 AM »

เรียนคุณSDH2THจริงๆๆแล้วนะคับ  ผมแค่นเสนอสิ่งที่มีอยู่นะคับ บุคคลที่เขียนเค้าเขียนในผู้จัดการคับผมแค่ก๊อปมาเพื่อที่จะให้ทุกท่านทราบว่าเกิดอะไรขึ้นมีคนเขียนแบบนี้นะ   มัน   คือนำสิ่งที่คิดว่าเราน่าจะรู้ว่ามีคนทำแบบนี้


จริงไม่จริงไม่ไม่อาจจะทราบได้นะคับขอให้อ่านแล้วใช้วิจารณญาณกันนะคับ
ดั่งที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบว่ามันจริงไหมที่เค้าเขียน    แต่เราก็ต้องรู้ว่ามีคนทำอะไรในบ้านเรามิใช่หรือคับ  ถึงมันจะไม่เกี่ยวกับปืนแต่ในเวปนี้มีพี่ๆๆเพื่อนๆๆที่อยู่3จังหวัดภาคใต้และบางท่านต้องไปปฎิบัติหน้าที่ที่นั้น    การที่มีคนพูดเกี่ยวกับความเดือดร้อนของเพื่อนๆๆพี่ๆๆเรา  เราก็ต้องบอกว่ามันมีคนพูดนะและพูดแบบนี้   การที่เรา"รู้เค้ารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง  รู้เค้าไม่รู้เรา รบแพ้บ้างชนะบ้าง ไม่รู้เค้าไม่รู้เรารบร้อยครั้งก็แพ้ร้อยครั้ง"           ผมมิได้มีเจตนาที่จะยุแหย่หรือส่งเสริมการใดๆๆที่ทำให้แผ่นดินบ้านเกิดต้องเดือดร้อนคับผมแค่อยากให้เราทราบเท่านั้นเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง    หากกระทู้ที่ผมโฟสมันหมิ่นเหม่หรือกระทำการใดให้ต้องเดือดร้อนรบกวนท่านเวปมาสเตอร์ลบทีนะคับ
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8575


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 12:13:34 PM »

ภูมิปัญญา อย่างหนึ่งของคนตะวันออก คือ กาละเทศะ ครับ
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
Ninja 19 + รักในหลวง +
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5259


" อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี "


« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 01:13:52 PM »


............... Grin..ยาวมากเลยอ่านแบบข้ามๆ เอาก็เลยไม่รู้เรื่อง..5555555555555555..แต่ผมรู้แต่เพี่ยงว่า คนไทยคงไม่ยอมให้ ใครแยก 3 จว. ชายแดนไปจากไทยหรอกครับ.. Grin

บันทึกการเข้า

BLUE ZONE " สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้ชัยชนะ นั้นก็เพราะคนดีๆ นิ่งดูดาย " http://www.youtube.com/watch?v=EfCsNdSTNdQ
MK 4
Sr. Member
****

คะแนน 12
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 503


ชีวิตต้องดำเนินต่อไป


« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 02:59:28 PM »

กระทู้นี้ มันเกี่ยวกับ สนทนาภาษาปืนตรงไหน.....น่าคิด ..กระดานนี้ไม่น่าเอาประเด็นร้อน..มาคุยครับ ยิงมีคนไม่ชอบชาวนิยมปืน..จ้องอยู่  ....เดี๋ยวโดยจัดเป็นแนวร่วมจะยุ่งนา.....ผู้ดูแล...ดูๆบ้างนะครับ ผมคนหนึ่งละว่าไม่ค่อยสวยครับ.....
Grin Grinเปิดใจให้กว้างหน่อยซิครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า

จริง..ตัวเดียวสำเร็จ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.254 วินาที กับ 22 คำสั่ง