๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

พี่ๆๆครับคือปืนอะไรครับ

พอดีญาติถ่ายรูปมาให้ดูครับ ราคาประมาณเท่าไรได้ครับ ตามสภาพ ลูกกระสุนหายากไหมครับ

เมาเซอร์ C96
ยังประมาณราคาไม่ได้  ต้องเช็คว่าเลขประจำชิ้นส่วนตรงกันทุกชิ้นหรือเปล่า
สภาพนี้ยังพอมีราคาอยู่บ้าง  แต่ถ้าเอาไปรมดำใหม่  ให้ฟรี ๆ ก็ไม่เอา
กระสุน S&B ยังทำขายอยู่  ใช้ลูกโตกาเรฟยิงแทนก็ได้

ขอบคุณครับ

ถ้าญาติให้ไม่แพง ก็รับไว้นะ ตอนต้นแบบมันเกิดขึ้นในโลกนี้ มันเกิดก่อนการล้มล้างราชวงค์ชิง.แมนจู เชียวนะ

มันเป็นราก ของปืนในปัจุบัน ในหลายๆอย่าง

สอบถามแล้วครับ ราคาหมื่น ไม่ถึงสองหมื่บนครับ มีใบป.4ด้วยครั

   เมาเซอร์ด้ามไม้กวาด น่าเก็บสะสมนะครับถ้ามีพานท้ายไม้มาด้วยละครบเลย ::002::

ปืนรุ่นนี้ใช่ที่มีซองปืนมันเป็นไม้มีฝาปิด และสามารถใช้ซองปืนต่อเป็นพานท้ายได้หรือเปล่าครับ

ปืนแบบนี้เมื่อซักยี่่สิบปีที่แล้วเคยมีคนเอามาขายให้ผมแปดพันสภาพดีไม่มีสนิมแต่ด้วยความไม่ประสีประสาเรื่องปืนผมปฏิเสธไปเพราะคิดว่ามันเป็นปืนเก่ามากแล้วคงไม่มีกระสุนขาย ตอนนั้นผมคิดว่าปืนแต่ละแบบแต่ละยี่ห้อต้องใช้กระสุนของมันเอง ขนาดมีคนเอาปืน๑๑มม.มาขายถูกๆแต่ไม่มีแมกกาซีนผมยังไม่เอาเลยเพราะไม่รู้ว่ามันมีแมกกาซีนขายต่างหาก มารู้ก็ตอนเข้าเวป อวป.นี่แหละครับ ตอนนี้เสียดายคนที่เอามาขายก็ตายไปแล้ว

เรียนถามท่านผู้การครับ ทำไมปืนแบบนี้หรือประเภทนี้เค้าถึงไม่นิยมปืนที่รมดำใหม่ครับ ทั้งๆที่มันสวยกว่าสภาพแบบนี้ครับ

ขอร้องด้วยความเคารพ รีบไปเอามาเลยครับท่าน พูดตรงๆนะ ปืนเถื่อนไม่มีทะเบียนยังขายกันแพงกว่านี้เลย
ปืนรุ่นนี้ ถือเป็นปืนออโต้ ในทางการทหารในยุคต้นๆเลยทีเดียว มันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สงครามไปเสียแล้ว ในราคาไม่ถึงสองหมื่น ในขณะที่ปืนใหม่ไร้ประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน ราคาแสนอัฟเป็นแถวๆ แค่ราคาค่าประวัติของมัน ก็เกินคุ้มสองหมื่นแล้วครั

ข้างนอกสนิมขนาดนี้ ลำกล้องคงไม่เหลือแล้ว ตามด ตาปลวก คงเต็มไปหมด สนิมขุมคงเล่นด้วย แต่เชื่อว่ามันยังยิงออก และสภาพนี้ แห้ง มากๆ ไร้น้ำมันเลย ผมว่าลงน้ำมันเสียหน่อย ถ่ายภาพมาอวดกันใหม่คงหล่อกว่านี้

อยากเห็น ป.4 เป็นบุญตาด้วยครับ

เห็นว่า ปืนนี้ แม้เป็นปืนจากเยอรมัน แต่ในช่วงสงครามโลก ฝ่ายเอเซีย เช่น จีน หรือ ญี่ปุ่น นี่แหละ เหมือนมีการก็อปปี้ ปืนนี้ขึ้นมาด้วย

ผมเคยเจอขนาด 9 มม.พาราฯ ปืนทะเบียนนครสวรรค์ สภาพรมดำไม่เหลือแล้วแต่ไม่มีสนิม  เจอพร้อมๆกับโคลท์ โปลิศ โพสิทีฟ .38 Spl สภาพสวยๆ

โดนรุ่นพี่หักคอดังกร๊อบ ไปเรียบร้อย

ตอนผมไปรับมาเดียวถ่ายรูปอีกทีครับ

ไปรับมา เอามาคุยกัน อาบน้ำ อาบท่า ทาแป้ง เอ๊ย..ไม่ใช่ ลงน้ำมันซักนิด ท่านเอ๋ย จะถือแล้ว ได้อารมณ์ แต่งเป็นท่านเจ้าคุณ รุ่นรัชกาลที่5 ไว้หนวด คาดผ้าขาวม้า เหน็บเจ้า1896ไว้ ยืนคุมงานการขุดคลองรังสิต..จินตนาการหลุดโลก 
เอางี้ ไปเอามาก่อน เอาป.4มาจัดการทำให้เป็นป.4ชื่อท่านได้เมื่อไหร่ เข้ามาคุยกันอีกที มีเรื่องทะยอยๆเล่าให้ฟังสำหรับปืนประวัติศาสตร์กระบอกนี้
เอาเป็นน้ำจิ้มไปก่อนหนึ่งเรื่อง
ยังจำ จตุคาม รามเทพ ได้ไหม นายตำรวจผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ถูกร่ำลือว่า ท่านใช้เจ้า 1896 นี้แหละในการปราบปรามเหล่าร้ายในช่วงที่ สุพรรณบุรี หรือพื้นที่ใกล้เคียงนั้น คนปล้นคน ชุมยังกะยุง เลยทีเดียว

เท่านั้น ยังไม่พอ สำหรับคนที่ยิงปืนออโต้ ยี่ห้ออื่นๆใดๆ ที่มีรากฐานการออกแบบโดย บราวนิ่ง มาจนเชื่องมือแล้ว ถ้าได้ลองมายิง 1896 ซักครั้ง ท่านจะได้รับความรู้สึกถึงความนุ่มนวลในปฏิบัติการของมัน จะว่ามันนุ่มเพราะน้ำหนักมันเยอะ หรือลำกล้องมันยาวก็ไม่เชิงนะ เอาเป็นว่า มันนุ่มจนรู้สึกได้ก็แล้วกัน

ได้มาเดี่ยวผมจัดให้ครับ

อย่าเพิ่งมั่ว
สเปนโดยแอสตราก็อปปี้ แต่ทั้งหนา ทั้งหนัก และลำกล้องคนละชิ้นกับโครงปืน เพราะไม่มีปัญญาทำให้เหมือนต้นแบบ
ส่วนจีนทำเป็น.45 เพราะได้ลูกฟรีจากเมกา แต่ไม่มีเกลียวลำกล้อง เรียกว่าก็อปปี้ ไม่ได้หรอก

ขอบคุณครับ ท่านผู้การฯสุพินท์  ::014::

หึ หึ ขำดี

ผมรู้แต่ว่า ท่าน พล.ต.ต.ขุนพันธุ์ฯ ท่านใช้ Luger P08 เป็นปืนพกประจำตัว

ครับพี่

ประกับด้าม ยังสภาพดีกว่าหลายๆตัวที่ผมเคยเห็น เอาน้ำมันลูบค่อยๆขัดสนิมออก เชื่อว่าน่าจะคืนสภาพได้บ้าง

การแก้ไขดัดแปลง ทำให้หมดสภาพการเป็นของสะสม
ปืนรุ่นนี้ ผลิตออกมาก่อนที่จะมีวิธีรมดำร้อน ที่ต้มในน้ำยารมดำแบบทุกวันนี้

สมัยนั้นใช้วิธีทาน้ำยาทิ้งไว้ให้สนิมขึ้น แล้วขัด ทา-ขัด เปลี่ยนน้ำยา สี่ถึงห้าครั้ง
สีปืนจะเป็นเอกลักษณ์  อย่างเช่นโคลท์ SAA จะออกสีเทา  สมิธฯ สีน้ำเงิน  ปืนเยอรมันออกดำ ปืนอังกฤษมักจะออกสีน้ำตาล

ขอบคุณครับ ::014::