๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 12, 2024, 07:00:39 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: @@@@ การเตรียมลูกปืนลมสำหรับแข่งขัน @@@@  (อ่าน 27336 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 06:12:27 PM »

การเตรียมลูกปืนลมสำหรับแข่งขัน (อย่าลืมอ่านหมายเหตุ ตอนท้ายสุดนะครับ สำมะคันมัก ๆ ขอบอก)
ก่อนอื่น ต้องขอทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า การที่จะประสพความสำเร็จในการแข่งขันยิงปืนลมนั้น มีปัจจัยต่าง ๆ มากมาย แต่ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ปืน ลูกปืน และ คนที่อยู่หลังไก (ความจริงภาษาไทยก็คือ คนยิง แต่ฝรั่งมักใช้คำว่า The person behind the trigger)  โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า ปืนกลับสำคัญ “มากกว่า” คนยิง ทำไมนะเหรอครับ ก็เพราะว่าการแข่งขัน FT ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะยอมให้เรานั่ง แล้วเอาปืนวางในท่าไหนก็ได้ แม้แต่จะเอาอุปกรณ์เสริม เช่น หมอนรอง สายรัดหลัง รัดเอว ฯลฯ ก็ไม่ว่ากัน แต่ห้ามพิง หรือเอาอะไรที่ไม่ใช่อวัยวะของเราวางกับพื้นแล้วให้หนุนรองปืน  แต่ที่ชมรมของผมนั้น ต้องยืนยิงเท่านั้นครับ มาตอนหลัง นักยิงสูงอายุเริ่มบ่น ว่ายิงกันไม่ค่อยถูก อีกอย่างพวกเขาใช้ปืนธรรมดา ไม่ได้โม  ก็เลยต้องตั้งขึ้นมาอีก 1 ประเภท คือ hunter โดยให้เอาขาตั้ง เก้าอี้พับหรือที่ค้ำรองพาดปืนได้ แต่มีข้อแม้ว่า นอกจากปืนห้ามโมแล้ว ยังต้องใช้กล้องไม่เกิน 12X และห้ามใช้  range finder หาระยะ  ถ้ายังจำจอห์นกันได้ ซึ่งอายุกว่า 80 แล้ว ผมผลักดันให้สมัครเข้าประเภทดังกล่าว และทำการโค้ชหลังจากตั้งปืนและกล้องให้  ได้อันดับ 3 มาครอง  กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า...  ถ้าเราตั้งและปรับปืนให้ดี โอกาสยิงถูกมีมาก  ในทางตรงกันข้าม ไม่ว่าปืนจะดีแค่ไหน ถ้าคนยิงไม่เอาไหน จ้างก็ยิงไม่ถูกเป้า




การเตรียมลูกกระสุนนั้น ต้องอย่าลืมว่า ต้องควบคู่ไปกับการเตรียมปืน กล้องและลำกล้อง ถึงจะได้ผลตามที่หวัง  ในการติดตั้งกล้องสำหรับแข่งขัน FT นั้น ผมต้องใช้เวลาตั้งกล้อง (ซึ่งจะมาเล่ารายละเอียด ตามขั้นตอนในภายหน้า) อย่างน้อย 3 วันเต็ม ๆ  ส่วนลำกล้องนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพและการเก็บรักษา เพราะถ้าไม่ดูแลให้ดี ถ้าทิ้งไว้นาน โดยเฉพาะในเขตุร้อนชื้นก็จะทำให้สนิมจับภายในลำกล้องได้  ถ้าเป็นสนิมก็ต้องใช้แปรงที่เป็นทองแดงหรือทองเหลืองทำความสะอาด และที่สำคัญตัวก้านแปรงและด้ามจับต้องไม่ติดตาย คือก้านแปรงจะต้องหมุนได้รอบตัว ทั้งนี้เพราะเวลาเราสอดตัวแปรงเข้าไปในลำกล้อง เราต้องการให้แปรงหมุนไปตามร่องเฟิ้ลที่อยู่บนผิวด้านในของลำกล้อง เพราะถ้าตัวแปรงไม่หมุน ขนแปรงก็จะไปขูดกับร่องดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดรอยขูดขีดได้ ร่องนั้นฝรั่งเรียกกันว่า land and groove โดยที่ groove นั้นคือบริเวณร่องที่อยู่ต่ำกว่า land จากนั้นถึงใช้แปรงผ้าชุบน้ำมันบาง ๆ เช็ดตาม จะเห็นได้ว่าถ้าเราซื้อแปรงดังกล่าวมา 1 ชุด เขามักจะใช้แปรงลวดแค่อันเดียว แต่จะได้แปรงผ้า 3-4 อัน ทั้งนี้เพราะตอนเราใช้แปรงผ้าเช็ด มันจะติดคราบสนิมออกมาจนแปรงจะกลายเป็นสีสนิม ซึ่งเราจะต้องเปลี่ยนแปรงใหม่และเช็ดซ้ำจนเวลาถอนแปรงออกมาแล้ว ไม่มีร่องรอยของสีสนิมติดมาด้วย


แปรงที่ผมใช้ ผมจะพันเทปไว้บอกตำแหน่งความลึกของลำกล้อง คือถ้าดันลึกเกินไป อาจไปทำให้ส่วนอื่นเสียหาย นอกจากนี้ ยังเอาปากกาเขียนเป็นรูปเกลียวเอาไว้ (แบบร้านตัดผมนะครับ) จะได้เห็นกันชัด ๆ ว่าตอนดึงแปรงออกและดันแปรงเข้านั้น ตัวก้านมันต้องหมุนไปด้วย


แบบนี้เขาจัดแยกมาให้เสร็จ


นอกจากนี้ ในกรณีที่เราทำความสะอาดขั้นตอนตามข้างบนแล้ว ต่อไปเป็นระยะ ๆ เราก็สามารถใช้วิธีที่สะดวกกว่า คือใช้ลูกปืนที่ทำด้วยสักหลาดสีขาว (ตามรูป) ชุบน้ำมัน ใส่เข้าไป (ปืนยาวใช้ครั้งละ 3 ลูก ปืนสั้น 1-2 ลูก  ทราบหรือไม่ครับว่าทำไมไม่ใช้แค่ลูกเดียว?Huh) แล้วก็ยิงเข้าไปในถุง ไม่ใช่ยิงขึ้นฟ้าทิ้งไปนะครับ  เพราะจะต้องติดตามเก็บลูกกระสุนเหล่านั้นมาดูว่าออกมาเป็นสีอะไร ถ้ายังดูขาวดีอยู่ก็ใช้ได้ แต่ถ้ายังออกสีน้ำตาล ๆ ละก็ ก็ต้องซ้ำสองหรือสามกันจนออกมาเป็นสีขาว ๆ ก็แล้วกัน


กระเป๋าของผมเวลาไปแข่งจะมี 2 ใบ  วันหลังจะเอาออกมาให้ดูกัน

จบขั้นตอนการตระเตรียมลำกล้องแล้วก็มาถึงการเตรียมลูกกระสุนกันบ้าง  เริ่มจากกระสุนก่อนเลยครับ  ในท้องตลาดมีมากมายหลายยี้ห้อ หลายรูปร่าง หลายน้ำหนัก แต่ที่ดัง ๆ ได้แก่ Crosman Premier Heavy, JSB Exact, และ Beeman Match series  ปัญหาก็คือแล้วเราจะเลือกยี่ห้อไหน รุ่นไหน ถึงจะดี  ผมขอแนะนำให้ดูของคนอื่นก่อนเลยครับ โดยเฉพาะคนที่ใช้ปืนแบบเดียวกับเรา ทั้งนี้เพราะปืนแต่ละยี่ห้อนั้นชอบลูกกระสุนไม่เหมือนกัน  ลำกล้องที่นิยมกันมากได้แก่ Walther, และ HW ผมมีปืนอยู่กระบอกนึง ตอนโมนั้นซื้อลำกล้องชนิดเดียวกันมาถึง 5 ลำกล้อง หลังจากทดลองดูแล้ว 3 ลำกล้องต้องทิ้งไปเลยครับ ส่วนอีก 2 นำมาคัดเอาที่กรุ้ปดีกว่ามาใช้  และผมก็มีอยู่อีก 1 กระบอกที่หาลูกกระสุนให้ถูกใจเค้าไม่ได้  สรุปก็คือเราต้องทำการ match ลำกล้องและกระสุนให้ดี  อนึ่ง ปืนยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน อาจใช้กระสุนชนิดเดียวกันแล้วได้ผลดีไม่เท่ากันก็ได้ ทั้งนี้อาจขึ้นกับกระบวนการผลิต เช่นบังเอิญลำกล้องของปืนกระบอกแรก เป็นลำกล้องตัวชุดสุดท้ายของเครื่องผลิตลำกล้อง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเครื่องมือต่าง ๆใหม่ และปืนอีกกระบอกก็ได้รับลำกล้องชุดแรกของการผลิตลำกล้องชุดใหม่   อย่าเพิ่งงงนะครับ เพราะยังไม่จบ ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าปัจจัยร่วมนั้นมากมายเหลือเกิน  เหลือบไปเห็นง.งู 3 ตัวที่เพิ่งพิมพ์ติด ๆกันไป อีกกระเดี๋ยวผมคิดในใจไว้ว่าจะพิมพ์ ง.งู 4 ตัวติด ๆ กันให้ได้...555  กระสุนก็เช่นกัน แม้ว่ายี้ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่ซื้อมาจากคนละร้านก็อาจให้ผลต่างกัน ขอยกตัวอย่างเรื่องจริง คือเจ้า Crosman Premier Heavy ซึ่งเรียกกันย่อ ๆ ว่า CPH นั้น ถ้าพลิกกล่องดูด้นใต้จะมีตัวหนังสือสีแดง ๆ ตัวโต ๆ พิมพ์ไว้ว่า #2 หรือ #4 หรือ #5 เป็นต้น ตัวเลขเหล่านั้นคือ die number หรือหมายเลขเบ้าหลอมนั่นเอง เชื่อกันว่า #2 นั้นดีที่สุด ปกติกล่องละประมาณ 8 – 10 ดอลล่าร์ แต่ถ้าเป็น #2 ละก็ หายากครับ ถ้ามีก็เตรียมจ่าย 60 ดอลล่าร์ขึ้นไปต่อกล่องทีเดียว  เป็นไงครับ อย่าเพิ่งงงงันกันล่ะ....555 (ได้แว้ว..ง. งู 4 ตัว..)


ท่อนแยก...มีนักยิง FT ชาวอเมริกันอยู่คนหนึ่ง ติดต่อผมมาเพราะอยากได้ sound suppressor ของ FWB 700FT ที่ผมมีอยู่ แต่ผมใช้ flip compensator มากกว่า เลยไม่ได้ใช้เจ้า sound suppressor เลยขายต่อเขาไป ต่อมารู้ว่าภรรยาของเขาเป็นคนไทยและเป็นนักแข่งขัน FT ด้วย เขาเคยถามผมเรื่อง CPH #2 แต่ผมบอกว่าไม่มี และ surprise เขา โดยส่งไปให้ฟรี ๆ 1 กล่อง  การแข่งขันครั้งต่อมาภรรยาเขาเข้าที่สองครับ (เท่าที่ทราบ เขาไม่แยก ญ/ช นะครับ) ชนะตัวเต็ง ๆชายชาวอเมริกันหลายสิบคน
มาถึงตรงนี้ขอชี้แจงศัพท์แสงบางคำนะครับ เพราะผมได้อ่านการทดสอบปืนลมตัวหนึ่ง และผู้เขียนใช้คำว่า มัสเซิ่ลเบรคเจาะพอร์ท ซึ่งผมขอแปลว่า ported muzzle break เดิมทีก่อนที่ปืนลมจะแพร่หลาย เจ้า muzzle break นั้นมีใช้กับปืนที่ใช้ดินปืน โดยทำหน้าที่เป็น recoil compensators คือหันเหแก๊สที่ขับเคลื่อนลูกกระสุนเสร็จแล้ว ก็ออกมาตรงปลายปากกระบอก มาทำให้ปลายกระบอกเคลื่อนไหว โดยส่วนมากมักจะกระดกขึ้น ซึ่งเรียกกันว่า recoil แต่สำหรับปืนลมแล้ว เริ่มแรกที่ใช้เรียกกันว่า muzzle weight ซึ่งทำหน้าที่ 2 อย่างคือ เป็นน้ำหนักถ่วงให้ปลายกระบอกหนักกว่าเดิมจะได้ไม่กระดกขึ้นรุนแรงดังเดิม และสองก็คือใช้เป็นที่จับตอนขึ้นลำ เพราะลำกล้องเดิมปลายมักจะเรียบหรือไม่ก็ติดศูนย์หน้า (ถ้ามี)  ต่อมาเมื่อปืน PCP เริ่มเป็นที่นิยม ก็มีคนทำ “ที่เก็บเสียง” ออกมาขาย แต่ ในอเมริกานั้นผิดกฎหมาย เพราะจะใช้หรือขาย silencer  ไม่ได้ จึงมีการเลี่ยงโดยใช้คำว่า sound suppressor ซึ่งต่อมาก็โดนห้ามอีก แต่ก็มีคำใหม่คือว่า sound modulator แทน และก็มี flip compensator ตามมา (เรื่องนี้วันหน้าจะมาเล่าละเอียดอีกครั้ง)
ขั้นตอนการตระเตรียมลูกกระสุนปืนลม

1. การคัดเลือกชนิด ซึ่ง รวมถึง รูปร่างและน้ำหนัก สำหรับการแข่งขัน FT ก็จะนิยมหัวมน หรือ dome head เพราะสามารถแหวกอากาศได้ไกลกว่า พวกหัวแบน (flat head หรือ wad cutter ซึ่งใช้สำหรับการแข่งขัน 10 เมตร เพราะหัวแบนจะตัดหรือเจาะกระดาษเป็นรูกลมคมชัด ทำให้บอกคะแนนได้ชัดเจน)

2. การตรวจดูด้วยตา หรือถ้าจะให้ดีก็ใช้แว่นขยายช่วย เพราะจะทำให้เห็นตำหนิและสิ่งแปลกปลอมได้ชัด ผมเคยซื้อลูกเบอร์ 1 แต่มีเบอร์ 2 ปนมาหลายลูกด้วย ยังโชคดีที่ผมใช้ปืนเบอร์ 1 เพราะถ้าผมใช้ปืนเบอร์ 2 แล้วใส่ลูกเบอร์ 1 เข้าไปก็คงยุ่ง ถ้าเจอลูกที่บิดเบี้ยว เสียทรง ก็เอาแยกออกเสีย บางครั้งการดูสีผิวก็อาจบอกอายุของลูกปืนได้ เพราะลูกบางยี่ห้อตอนใหม่ ๆ จะเงา แต่พอเก่าเก็บสีจะออกด้าน ๆ ไม่ควรใช้




เขย่าอย่างที่เห็นนี่แหละครับ อย่าให้แรงมากเชียว ลูกจะเบี้ยวหมด

3. การล้างด้วยน้ำและสบู่เหลว ทำได้ 2 วิธีคือ 1. ใช้กระชอนไนล่อน (ตามรูป) อย่าใช้กระชอนที่ทำด้วยโลหะเพราะจะทำให้ลูกเสียทรงได้ ใส่ลูกลงไปสัก 50 ลูก ถ้ามากเกินไป ตอนเขย่าลูกจะกระทบกันมากเกินไป  เอาลงแช่ในชามที่มีน้ำอุ่นผสมสบู่  น้ำไม่ต้องร้อนจัด น้ำอุ่นและสบู่จะช่วยขจัดคราบมันและสิ่งปนเปื้อนที่ติดมาจากกระบวนการผลิต  ทิ้งไว้สัก 5 – 10 นาที แล้วค่อย ๆ เขย่า แล้วเทน้ำทิ้ง ต่อมาใช้เพียงน้ำอุ่นอย่างเดียว (อย่าลืมล้างชามให้สะอาดก่อนนะครับ) เอากระชอนพร้อมกระสุนลงแช่ไว้อีกสักพัก เขย่าแล้วยกขึ้นรอให้สะเด็ดน้ำ   วิธีที่ 2 นั้น ไม่ต้องใช้กระชอนคือเอาลูกกระสุนใส่ถาดแบน ๆ เทน้ำอุ่นและสบู่เหลวลงไป เขย่า ๆ สักพัก แล้วเปิดน้ำให้ไหลผ่านถาดที่ถือเอียง ๆ จนฟองสบู่หมด เป็นใช้ได้


4. นำลูกกระสุนที่สะเด็ดน้ำแล้ว มาใส่ลงในกระดาษ หรือผ้าที่ไม่มีขน (lint free) เช่น micro-fiber cloth ที่เขาใช้เช็ดแว่นหรือเลนส์กล้องนะครับ เอามือค่อย ๆ เกลี่ยให้ลูกกระสุนกระจายกันไปทั่ว ๆ ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแบบค้างคืน ถ้าบ้านท่านมีฝุ่นมาก ก็หาอะมาครอบไว้ด้วย


5. ใช้แว่นขยายเล็ง ๆ ดูให้ดี โดยเฉพาะที่ชายกระโปรง (ของลูกกระสุนเด้อ...) ฝรั่งยังเรียก skirt  เพราะถ้าเจอตำหนิละก็ โละทิ้งได้เลย  ย้ายกระสุนที่เห้งสนิทแล้ว ไปยังแผ่นกระดาษ (ที่ไม่มีขน ดังนั้น กระดาษทิชชู่ใช้ไม่ได้นะครับ) หรือแผ่นฟองน้ำบาง ๆ หรือถ้าจะใช้ micro-fiber cloth ที่ราคาค่อนข้างแพงก็ไม่ว่ากัน  นำน้ำมันสูตรวิเศษค่อย ๆ เหยาะลง แล้วยกผ้าโยกเยกให้น้ำมันคลุกเคล้าไปทั่วถึงทุกอณูเม็ดกระสุน  ผมใช้กล่องใสเล็ก ๆ ด้านใต้ยัดฟองน้ำบาง ๆ ที่ตัดเป็นทรงกลมให้ติดก้นกล่อง เอาลูกกระสุนใส่ลงไป แล้วหยอดน้ำมัน แล้วจึงค่อย ๆ หมุนกล่องแบบชิงช้าสวรรค์ สัก 5 รอบ แล้วหมุนกลับอีกทางหนึ่ง กลับไปมา แล้วเปิดมาดูว่า น้ำมันเคลือบทั่วหรือยัง ถ้ายังก็ต่ออีกหน่อย  ถ้าทำพอดี ลูกกระสุนจะไม่เปียกจนแฉะ แต่จะมีคราบน้ำมันติดอยู่แบบหมาด ๆ






ถ้าดูด้วยตาเปล่า จะไม่เห็นตำหนิดังรูป โดยเฉพาะลูกที่ 2 จากซ้ายมือ จะมีเศษตะกั่วค้างอยู่ข้างใน





6. นำกระสุนมาใส่กล่องที่มีรูแยก ดังรูป (เจ้าตัวสีเหลืองนั้น ใช้ระบบเขย่า คือ เอาลูกวางลงไปทั้งหมด ปิดฝา เขย่าเบา ๆ แล้วลูกจะลงไปในรูเอง ไม่ต้องคอยหยอดทีละหลุม)




Pellet sizer นั้น มีไว้สำหรับปรับขนาดของลูกกระสุนทุกลูก ให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากันหมด เราสามารถเลือกซื้อขนาดของ Pellet sizer  ได้ต่าง กัน ขึ้นอยู่กับปืนของเรา บางยี่ห้อ ตอนใส่ลูกกระสุนจะรู้สึกคับอยู่ เราก็ต้องเลือกที่ขนาดเล็กลงไปอีก ข้อดีคือ ทำแล้วลูกกระสุนเราจะมีขนาดเท่ากันหมด และเหมาะกับปืนที่มีระบบ repeater เพราะจะไม่ติดขัด อนึ่งถ้าปืนเป็นแบบมีลูกเลื่อนยัดลูกกระสุนลึกเข้าไปในลำกล้อง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้  สำหรับผมถ้านั่งว่าง ๆ ก็เอามาทำไปเรื่อย ๆ เพราะอุ่นใจดีกว่า  อ้อ..สปริงในรูป ผมติดเพิ่มเข้าไปเอง เพราะไม่งั้นต้องคอยดึงขึ้น ประหยัดขั้นตอนและร่นเวลาไปด้วย





Pell seat นั้น เหมือนปากกา ด้านหนึ่งปลายแหลมมน อีกด้านกลม ๆ ด้ายแหลมมนใช้กดเสียบลูกกระสุน สำหรับปืนลมแบบหักด้ามขึ้นลำ ตามปกติถ้าเราเอานิ้วกด บางครั้งอาจกดลึกไม่เท่ากัน ทำให้การยิงไม่สม่ำเสมอ  ถ้าเอาเจ้าตัวนี้กด จนจมมิด ก็จะเท่าๆ กันทุกครั้งไป  ส่วนด้านกลมเอาไว้ใช้กับแบบรูเปิดด้านข้าง เช่นพวก FBW เป็นต้น  อนึ่ง Pell seat นั้น ทำเอาเองก็ได้ แต่อย่าใช้โลหะที่แข็งมาก ผมว่าเอาไม้แข็งเหลาให้ได้ทรงก็ใช้ได้แล้ว  มีสมาชิกที่ชมรมคนหนึ่ง เขาเคยขึ้นถึงอันดับ 3 ของโลก เขาเอาอุปกรณ์ที่คิดขึ้นเองมาอวดผม คือเป็นแม็กกาซีน ที่เราเอาลูกใส่ไว้หลาย ๆ ลูก แล้วเอาไปจ่อที่ ๆ เราเคยเอาลูกปืนไปใส่ กดปุ่มยัดลูกลงไปเลย  แต่ถ้าจะทำขาย เขาบอกว่าต้นทุนสูงเกินไป  อีกคนเอา Pellet sizer แบบที่ทำทีเดียวหลาย ๆ ลูก แต่ปัญหาคือ แต่ละรูอาจไม่เท่ากันเป๊ะ..


น้ำมันที่ใช้ ในวงการ FT ต่างก็มีสูตรเด็ดและมีชื่อที่ตั้งกันออกมา ต่าง ๆ นานา ผมเองก็ลองมานักต่อนัก และมาตายเอาที่น้ำยา 2 ตัวคือ เจ้า FP-10 และ Beeman Metalophilic Oil ใช้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเคลือบคลุมผิวลูกปืนให้ได้มากที่สุดจะดีที่สุด  ผมไม่แน่ใจว่าทางเมืองไทยจะมีน้ำมันอะไรบ้าง แต่ถ้าดูตัวยาแล้ว ไม่ควรจุดติดไฟ และที่สำคัญต้องทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิทั้งต่ำสุดและสูงสุด อาทิ เจ้า FP-10 นี้ เขาบ่งชัดไว้เลยว่า temperature operating range (-76 to 500 F) อย่าได้ใช้ที่มี wax หรือ Teflon เพราะมักจะเป็นไข และฝุ่นผงจับง่าย พวกที่มีความข้นสูงก็ไม่เหมาะนะครับ


3 ชนิดข้างบนนี้ ผมใช้มากที่สุด ไว้โอกาสหน้าผมจะมาคุยให้ฟังว่า น้ำมันและสารหล่อลื่นสารพัดสำหรับปืนลมนั้นมีอะไรบ้าง อย่างไหนใช้บริเวณไหน
หมายเหตุ 1 การที่เราทำการเคลือบน้ำมันบนพื้นผิวลูกปืนลมนั้น หาใช่เป็นการหล่อลื่นลูกปืนลมลูกนั้นไม่ แต่ความจริงแล้ว หลังจากที่ลูกแรกถูกยิงออกไป น้ำมันดังกล่าวจะทอดทิ้งร่องรอยของมันไว้บน land and groove ของด้านในลำกล้อง ซึ่งจะทำหน้าที่หล่อลื่นลูกปืนลม “ลูกต่อไป” และต่อ ๆ ไป ด้วยกระการละชะนี้ 

หมายเหตุ 2 ก่อนการยิงจริง ก็ควรจะซ้อมยิง (หรือยิงทิ้งสัก 5 – 10 ลูก) เพราะนอกจะทำให้การหล่อลื่นเข้าที่แล้ว ยังถือเป็นการวอร์มอัพของคนยิงและตัวปืนอีกด้วย

หมายเหตุ 3 สำหรับปืนที่ใช้สปริง (ไม่ใช่ PCP) ไม่สมควรเคลือบน้ำมันนะครับ เพราะแรงอัดในกระบอกสูป อาจทำให้เกิดการจุดระเบิดหรือ dieseling เพราะน้ำมันดังกล่าว ปืนอาจเสียหายได้ แต่สมัยก่อนก็มีการทำให้เกิดการจัดระเบิดแบบตั้งใจ คือเอาท่อเล็ก ๆ ติดแนบข้าง แล้วพ่อไอน้ำมันเข้าไปในกระบอกสูป ตอนยิงนั้น จะเห็นควันขาวออกมาจากปลายลำกล้องและจะมีเสียงดังปังข้างใน  ถ้าจะหล่อลื่นกระบอกสูปต้องใช้น้ำมันที่เขาทำมาโดยเฉพาะ เพราะมีจุดเดือดสูง เรียกว่า chamber oil


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2010, 06:50:31 AM โดย ดร.ธนาสิทธิ์ » บันทึกการเข้า
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 06:20:49 PM »

Reserved....
Tanasit

ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ปืนลมสปริงนั้นไม่ต้องเคลือบน้ำมันลูกปืน เพราะในระบบจะมีการพ่นฉีดไอน้ำมันซึ่งมาจากกระบอกสูปไปยังลำกล้องอยู่แล้ว  และสำหรับปืนแข่ง 10 เมตร ความเร็วต่ำก็ไม่ต้องทำครับ

ส่วนสูตรนั้นมีมากมาย เช่น ผสม 2 ใน 3 ส่วนของ Hoppes Gun Oil เข้ากับ 1 ใน 3 ของ STP Engine Treatmentโดยปริมาตร เขย่าให้เข้ากันแล้ว จะไม่แยกจากกันอีก

อีกชนิดทำสำเร็จคือ Napier Pellet Lube http://www.straightshooters.com/Cleaning/napierpelletlube.html

ถ้าจะเอากันแบบละเอียดขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ก็ต้องมีการชั่งน้ำหนักกัน แต่ต้องมีตาชั่งที่วัดได้ละเอียด อย่างน้อย 1/100 กรัม จากรูปผมลองจาก CPH (Crosman Premier Heavy) , Dynamit Nobel SUPER MAG และ RWS – Meisterkugeln ซึ่งต่างก็เป็นยี่ห้อดัง ผลออกมาคือยังมีความแตกต่างมากพอ โดยถ้าเราต้องการความสม่ำเสมอของน้ำหนัก ก็ต้องชั่งและเลือกเอาที่น้ำหนักมาตรฐานหรือที่หาได้มากที่สุดในกล่องกันละครับ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2010, 06:52:48 AM โดย ดร.ธนาสิทธิ์ » บันทึกการเข้า
regulator
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 06:44:53 PM »

ขอเรียนถามอาจารย์ ดร.ธนาสิทธิ์ สำหรับปืน PCP AIR ARMS ใน user manual ระบุไว้ว่าน้ำยาสำหรับทำความสอาดลำกล้อง (cleaner) ให้ใช้ "Napier Gun Cleaner; alternatively White spirit ในกรณีที่ไม่สามารถหา Napier Gun Cleaner ได้นั้น White Spirit หมายถึงน้ำยาหรือสารเคมี (solvent) ประเภทใดครับ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
motหัดยิง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 59
ออฟไลน์

กระทู้: 391



« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 07:16:46 PM »

 ไหว้ขอบพระคุณครับ อาจารย์ที่ให้ความรู้ ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

T.  081 4390538 T. 089 0599898
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 07:48:38 PM »

ขอขอบคุณอาจารย์ ที่ให้คำแนะนำครับ
บันทึกการเข้า
rt56
ความฝันถึงจะเรื่องเล็กแค่ไหน ก็มีคุณค่าเสมอสำหรับผู้เป็นเจ้าของ
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 147
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 498



« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 09:05:07 PM »

ได้ความรู้มากมายครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ
บันทึกการเข้า

ไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่างจนหาที่ติไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครเลวไปหมดทุกอย่างจนหาที่ชมไม่ได้เช่นเดียวกัน
คนบางคนไม่เคยคิดที่จะปลูก"ต้นประโยชน์" แต่ทำไมถึงเอาเปรียบผู้อื่นด้วยการจ้องคอยแต่จะเก็บเกี่ยว "ผลประโยชน์"
การขอที่ไม่ต้องละอาย คือการขอโทษ การให้ที่ไม่ต้องเสียอะไรเลย คือการให้อภัย
nrungrod
Full Member
***

คะแนน 15
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 160



« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 09:19:01 PM »

 ไหว้ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ จะติดตามผลงานของ หลงรัก อาจารย์ในต่อๆไปนะครับ
บันทึกการเข้า

             " border="0
K@!gG - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 109



« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 09:26:45 PM »

โอ้  มาย  ก๊อด   ละเอียดทุกขั้นตอนเลย สุดยอดครับ
ได้ความรู้เยอะเลย   ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
AJ_6080
พระราม2 กทม.
Hero Member
*****

คะแนน 1600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5415


บารมี-มีได้เพราะความดี...


« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 09:37:39 PM »

ขอบคุณมากครับ  ไหว้ อ.ธนาสิทธิ์ เดี๋ยวขอเอาไปลองใช้ดูบ้างครับ... หลงรัก หลงรัก

รอติดตามตอน...ตั้งกล้อง  แล้วก็  compensator ครับ...

อ. อย่าเว้นฉายโฆษณานานนะครับ... Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

  ผมรักในหลวง...ครับ
tui086
Hero Member
*****

คะแนน 1083
ออฟไลน์

กระทู้: 6255



« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 10:58:34 PM »

ทีนี้จะได้รู้กันว่า ตุ้ยตั้งกล้อง 7 วัน กับอ.ธนาสิทธิ์ตั้งกล้อง 3 วัน จะมีเหตุผลเดียวกันไหม??? 5555
บันทึกการเข้า
นะครับ
Hero Member
*****

คะแนน 686
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1288


AIR ARMS S510TC .22 AA TDR FAC .177 HW97K .177


« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 12:07:35 AM »

 ไหว้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับว่าการเตรียมตัวเพื่อชัยชนะจะมีรายละเอียดที่คิดไม่ถึงมากมายขนาดนี้ ขอบคุณครับ รอตอนต่อไป เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม ไหว้
บันทึกการเข้า

ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 12:24:46 AM »

ขอเรียนถามอาจารย์ ดร.ธนาสิทธิ์ สำหรับปืน PCP AIR ARMS ใน user manual ระบุไว้ว่าน้ำยาสำหรับทำความสอาดลำกล้อง (cleaner) ให้ใช้ "Napier Gun Cleaner; alternatively White spirit ในกรณีที่ไม่สามารถหา Napier Gun Cleaner ได้นั้น White Spirit หมายถึงน้ำยาหรือสารเคมี (solvent) ประเภทใดครับ ขอบคุณครับ
white spirit เขาเอาไว้ใช้ล้างสีครับ ทำมาจากน้ำมันดิบ หรือ petrolium นี่แหละครับ มีด้วยกัน 3 เกรด หรือ 3 ระดับ octane ผมคิดว่าของเราใกล้เคียงที่สุดคือ น้ำมันสน ถ้าขัดสน (ขัดน้ำมันสนนั่นแหละครับ) ก็ลองใช้ thinner หรือ แอลกอร์ฮอล แต่ต้องตามด้วยน้ำมันเคลือบกันสนิม เช่น WD40 ก็ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2011, 06:21:34 PM โดย ดร.ธนาสิทธิ์ » บันทึกการเข้า
Dunk
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1657
ออฟไลน์

กระทู้: 4331



« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 12:33:23 AM »

ความรู้หลั่งไหลมาเรื่อยๆ ขอบพระคุณอาจารย์มากเลยครับ จะติดตามต่อไปครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

     
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 01:17:09 AM »

ทีนี้จะได้รู้กันว่า ตุ้ยตั้งกล้อง 7 วัน กับอ.ธนาสิทธิ์ตั้งกล้อง 3 วัน จะมีเหตุผลเดียวกันไหม??? 5555

ผมลืมบอกไปครับว่า บางกระบอกผมใช้เวลาตั้งกล้องข้ามเดือนเลย......เริ่มเอาตอนสิ้นเดือนพอดีหรือไงเนี่ย...555
บันทึกการเข้า
Rapin paiwan
Sr. Member
****

คะแนน 21
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 583



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 12:21:19 PM »

รบกวนท่านอาจารย์ครับ

เคยได้ยินว่าถ้าแทงลำกล้อง(ล้างลำกล้อง)ปืนอัดลมpcp แล้วกลุ่มกระสุนจะเสีย ไม่ทราบว่าเป็นจริงเช่นที่ว่าหรือป่าวครับ


ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

สุดท้ายมนุษย์ก็เป็นเพียงแค่ละอองดาว
www.silacarborundum.com
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.092 วินาที กับ 24 คำสั่ง