๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ มาร์ค คาร์นีย์ ยืนยันเป็นครั้งแรกว่าธนาคารมีแผนฉุกเฉินรองรับด้านการเงิน ไม่ว่าผลการลงประชามติเพื่อแยกตัวของสกอตแลนด์จากสหราชอาณาจักรจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม ในวันที่ 18 กันยายน ที่จะถึงนี้

 รัฐมนตรีทั้งในสกอตแลนด์และสหราชอาณาจักรต่างเห็นขัดแย้งกันในประเด็นที่ว่า สกอตแลนด์ควรจะใช้เงินสกุลปอนด์สเตอร์ลิงต่อไปหรือไม่ ผู้นำของพรรคการเมืองหลักของสหราชอาณาจักร ระบุว่าพวกเขาจะไม่สนับสนุนข้อตกลงที่จะใช้สเตอร์ลิงอย่างเป็นทางการ

 

มาร์ค คาร์นีย์มาร์ค คาร์นีย์

 นายคาร์นีย์ อธิบายถึงสุนทรพจน์ว่่าด้วยการระบุเกณฑ์สำหรับสกุลเงิน ที่เขากล่าวเมื่อเดือนมกราคม ณ กรุงเอดินบะระว่า เป็น "การประเมินจากผู้กำหนดนโยบายสาธารณะที่จะทำให้สหภาพเงินตรามีประสิทธิภาพระหว่างประเทศที่เป็นอิสระ" มากกว่าการประเมินตัวเลือกทางเศรษฐกิจในอนาคตของสกอตแลนด์

 ระหว่างการแถลงข่าวในกรุงลอนดอนในวันพุธที่ผ่านมา นายคาร์นีย์กล่าวว่านักการเมืองจะเป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้สกุลเงินของสกอตแลนด์

 นายคาร์นีย์ตอบอย่างกลางๆว่าบทบาทของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษคือการนำแผนไปปฏิบัติและการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของทั้งสหราชอาณาจักร ธนาคารมีแผนฉุกเฉินสำหรับผลลัพธ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

 "ไม่ใช่เรื่องดีที่จะเที่ยวพูดเกี่ยวกับแผนฉุกเฉินในที่สาธารณะเพียงเพื่อให้คนมั่นใจว่าเรามีแผนฉุกเฉิน" เขากล่าวเพิ่ม "ในแง่ของความรับผิดชอบของเราเรื่องความมั่นคงทางการเงินนั้น เรามีเครื่องมือและแผนที่เพียบพร้อม"

 บทบาทสำคัญของผู้ว่าการธนาคาร คือการสร้างความมั่นใจทั้งในระบบการเงินของสหราชอาณาจักรและสำหรับตลาด

 หากสกอตแลนด์จะลงคะแนนเลือกเป็นอิสระ ก็ยังคงเป็นบทบาทของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษที่จะธำรงเสถียรภาพทางการเงินสำหรับทั้งของสหราชอาณาจักร และสกอตแลนด์  จนถึงวันที่อิสรภาพของสกอตแลนด์จะมาถึงอย่างเป็นทางการ

 จอห์น สวินนี่  รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสกอตแลนด์ เห็นด้วยกับผู้ว่าการธนาคารที่จะยังคงรับผิดชอบในสกุลเงินและความมั่นคงทางการเงินของสกอตแลนด์และส่วนที่เหลือของสหราชอาณาจักรหลังผลโหวต

 "รัฐบาลสกอตแลนด์ ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะใช้เงินปอนด์และเรายืนยันสหภาพเงินตรา ข้อเสนอแนะใดๆ ที่เป็นอย่างอื่น เป็นเพียงเสียงโวยวาย เราได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีระดับสูงในสหราชอาณาจักรว่า 'จะมีสหภาพเงินตรา' หลังการลงคะแนนเสียง”

ความเห็นของนายคาร์นีย์ แตกต่างกับจุดยืนของรัฐบาลสหราชอาณาจักรซึ่งยืนกรานว่าไม่มีแผนฉุกเฉินหากสกอตแลนด์ต้องการเป็นอิสระจริง
https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-bbc-thai/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C/1539966949557673?ocid=socialflow_facebook


เบรฟฮาร์ท เรืื่องจริงรึเปล่าครับ  ได้แยกเอกราชแล้วจริงๆ โอ้.... :o :o :o

(http://image.ohozaa.com/i/393/zV3CgR.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xMuhNBS2DXdcKkgr)

ภาพยนตร์ออกฉายพร้อมเสียงชื่นชมและคำวิจารณ์ในทางบวก ถึงอย่างนั้นก็มีคำวิจารณ์ในทางลบอยู่บ้างเช่นความรุนแรง ความยาวของภาพยนตร์ และเนื้อหาที่บิดเบือนไปจากความจริง แต่ถึงกระนั้นก็ยังสามารถคว้ารางวัลที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ มาครองได้ถึง 5 รางวัล คือ

    รางวัลออสการ์ 5 รางวัล
        สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
        สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
        สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม
        สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม
        สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม

อีกทั้งยังมีภาพยนตร์อีกหลายๆเรื่องนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอีกด้วย เช่น Gladiator, Troy เป็นต้น
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97_%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AC

โดนกดขี่รึถึงได้อยากแยกประเทศ

แปลว่าภาคใต้เราโดนกดขี่ด้วยสิ

คงไม่ใช่ประเด็นนั้นหรอกครับ
ชาวสกอร์ตไม่ใช่พวกแองโกล-แซกซอน  ที่อพยพมาจากตอนเหนือของเยอรมัน และเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของอังกฤษในปัจจุบัน
แต่ชาวสกอร์ตเป็นชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อยู่ตอนเหนือของเกาะอังกฤษมาก่อน  และมีภาษาของตัวเอง มีวัฒนธรรมเก่าแก่ของตัวเอง
ชาวสกอร์ตสร้างชื่อเสียงให้อังกฤษมากมาย เช่น อดัม สมิธ นักเศรษฐศาสตร์ขวาสุดขั้ว (ตรงข้ามกับคารล์มาร์ก), เดวิด ฮูม นักปรัชญา, ชาร์ล ดาวิน นักชีววิทยา, เจมส์ วัตต์ คิดเครื่องจักรไอน้ำ, โรเบิร์ต วัตต์ คิดเรดาร์,  อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง ค้นพบยาปฏิชีวนะ, จอห์น เนเปียร์ นักคณิตศาสตร์คิด logarithm, เบลล์ เรื่องเสียงกับโทรศัพท์, เจมส์ แมกซ์เวลล์ นักฟิสิกส์ ค้นพบ Electromagnetic,  เคลวิน เรื่องเทอร์โบไดนามิก ที่เราใช้นามสกุลมาเป็นหน่วยวัดอุณหภูมิในทุกวันนี้, จอห์น ดันลอป พัฒนายางรถระบบเติมลม, โจเซฟ แบล็ค ค้นพบ CO2, แดเนียล รัทเธอร์ฟอร์ด ลูกศิษย์ของแบล็ค และเป็นคนพบวิธีแยกไนโตรเจน ออกมาผลิตปุ๋ยกับระเบิด, วิลเลียม ปีเตอร์สัน สร้างธนาคารกลาง (ธนาคารชาติ) ให้อังกฤษและเป็นต้นแบบไปทั่วโลก, ทอม ซัทเทอร์แลนด์ คนตั้งธนาคาร HSBC สร้างความเจริญให้ฮ่องกงมากมายจนมีถนนกับอนุสาวรีย์อยู่ที่ฮ่องกง, แอนดรู คาเนกี มหาเศรษฐีที่บริจาคเงินสร้างมหาวิทยาลัยกับมูลนิธิเพื่อการศึกษาวิจัยมากมาย
คนพวกนี้เป็นชาวสกอร์ตทั้งสิ้น   รวมทั้งฌอน คอนเนอรี่ เจมส์ บอนด์คนแรก, กอร์ดอน บราวน์, โทนี แบลร์ กับจอห์น รัสเซล อดีต PM ชั้นดีของอังกฤษ ก็เป็นชาวสกอร์ต

ขอบคุณครับ

เหล้าสก๊อตก็ดังไปทั่วโลก

ภาคไต้ไม่ได้โดนกดขี่ครับ  แต่มีพวกเหี้ยไม่กี่ตัวที่เรียกร้องหาความเป็นธรรม 

อดีต  ครั้งโบราณ  เราเป็น  พุทธ  มาตลอด  ตั้งแต่ครั้ง อินโดฯ  สร้าง  เจดีย์  บูพุทธโธ  จนมาวัดช้างให้  พระธาต  ไชยา

พระธาติเมืองคอน  นั่นก็  ๒,๐๐๐  กว่าปี  มาแล้ว

แต่มีพวกแม่งจากใหน  ผมไม่ทราบ มาบอกว่า  ภาคใต้  ของเรา  เป็น  ดินแดน  ลังกาสุกะ  ดินแดน  แห่ง  อิสลาม  พ่อมึงสิ 

ศาสนา  พุทธ  เกิดก่อน  คริสน์  ๕๔๓  ปี  เกิดก่อน  อิสลาม  ๑,๐๐๐  กว่า  ปี 

ศาสนาอื่น  พิสูจน์ได้ใหมว่า  พระเจ้ามึง  พ่อ แม่  ชื่ออะไร  แต่  พุทธ  เรามี  หลักฐาน

ผมเคารพ  ในทุก  ศาสนา  ครับ  ทุก  ศาสนา  สอน ให้ทุกคนเป็นคนคนดี  สอนให้ทุกคนทำความดี

ส่วน3จชตของเรา คงมีแต่พวกชั่วที่อยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ก็คิดจะยึดเอาอย่างเดียว
คิดแต่จะฆ่าไม่เว้นแม้แต่เด็ก และคนที่นับศาสนาเดียวที่มันอ้าง   ไม่รู้ว่ายังมีคนที่อยากจะอยู่ร่วมกับ
พวกชั่วนี้รึเปล่า หากแบ่งประเทศแล้วเอาปืนระเบิดมาปกครอง

ตามนั้นครับ... นายสมชายก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าภาคใต้โดนแทรกแซงจากนอกประเทศเพื่อหวังแยกเป็นรัฐอิสระที่มีแหล่งน้ำมันครึ่งอ่าวไทยติดกับรัฐใหม่ไปด้วย แล้วจากนั้นฝ่ายที่รวมหัวแยกรัฐใหม่ก็จะแย่งกันผนวกรัฐใหม่เข้ากับรัฐของตนเองครับ, โมเดลเดียวกับเท็กซัส(มีบ่อน้ำมัน) หรือแคลิฟอร์เนีย(มีเหมืองทองคำ) เพียงแต่ครั้งนี้ประเทศไทยโดนรุมแทรกแซงฯ...

แล้วที่แสบไปกว่านั้นคือมันมีคนขี้โกงได้ประโยชน์จากงบประมาณหลวงจำนวนมหาศาลที่ทุ่มลงไปที่ จชต. แล้วพวกนี้มันก็เลี้ยงไข้เอาไว้เพื่อขี้โกงงบประมาณหลวง... พวกหลังนี่แสบที่สุด...

วิธีแทรกแซงก็เหมือนเดิมคือหลอกคนโง่ด้วยการเอาประเด็นทางศาสนามั่ง ประเด็นการกดขี่มั่ง ประเด็นความไม่รู้มั่ง... หลอกคนโง่ไปเรื่อยให้โกรธ ให้เกลียด ให้โมโห ฯลฯ, เพราะคนโง่จะเจ้าอารมณ์ ไม่ใช้สมอง แต่กำหนดพฤติกรรมตนเองด้วยอารมณ์ที่โดนหลอก...

มีอุตสาหกรรมหลายอย่างอยู่ใน Scottland นะเช่นอู่ต่อเรือรบ

แล้วที่แสบไปกว่านั้นคือมันมีคนขี้โกงได้ประโยชน์จากงบประมาณหลวงจำนวนมหาศาลที่ทุ่มลงไปที่ จชต. แล้วพวกนี้มันก็เลี้ยงไข้เอาไว้เพื่อขี้โกงงบประมาณหลวง... พวกหลังนี่แสบที่สุด...

แหมเบี้ยเลี้ยงมันดีกว่าไปอิรัคซะอีก ใกล้บ้านด้วย

นอกจากน้ำมัน  แล้วยังมีสายแร่  ทั้งทองคำและดีบุก  แถบ  สุคิรินทร์ ที่ยังสำรวจไม่หมด  อีกเพียบครับ  อาจารย์สมชาย

เอ ดีบุกหมดไปแล้วไม่ใช่เหรอ ส่วนเหมืองกลายเป็นรีสอร์ท หรือในสามจังหวัดสำรวจไม่ได้

+ 2 เลยครับท่านผู้การฯ   ::014::   ::002::

ไม่ทราบครับ  ผมเดาๆเอา   ::005:: ::005:: ::005::

ขอบคุณครับ

รับทราบครับ   ;D ;D ;D

ซับซ้อนมากครับ ;D ;D ;D

ไม่ซับซ้อน  หรอกครับ  ถ้าชาวบ้านใน  พื้นที่  ได้รับการศึกษา  มีลูกน้องเก่าผมอยู่สองคน  คนนึงแก่กว่าผม  ๒  ปี  อีกคน  รุ่นเดียวกัน

ไม่ได้เรียนหนังสือแบบหลักสูตรพื้นฐาน  เขียน  และอ่านภาไทยไม่ได้  เล่นเอาผมมึน 

+ ชัดเจนที่สุดครับ   เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว จะรู้วิธีแก้ครับ

ทอนคืนที่เลขสวยครับ  ๓๓

 ::014:: ::014:: ::014::

แถม เซอร์อเล็กซ์ เฟอกูสัน บรมกุนซือชาวสก๊อต อีกคน ที่สร้างทีมบอลของแผ่นดินอังกฤษให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทำให้มีแฟนบอลบ้าทีมผีแดงไปค่อนโลก

ขอบคุณครับน้าอ๋อง

สมัยเรียนมอ.หาดใหญ่ผมข้องใจมาก ว่าทำไมโควต้านักศึกษาอิสลามถึงมากมายนัก เข้ามาแล้วก็เรียนไม่รอด แต่ทำไมถึงอยู่กันได้ยันปี4ทั้งๆที่ผลสอบออกมาพวกนี้นอนเป็นฐานให้เพื่อนเหยียบเกือบทั้งนั้น.....เพื่อนที่เรียนมอ.ปัตตานีบอกว่าที่นั่นยิ่งกว่าที่ผมสงสัยอีก

เข้ามาด้วยวิธีพิเศษ และอยู่อย่างผู้มีอภิสิทธิ์อย่างแท้จริงแม้กระทั่งในระบบอุดมศึกษา

เหมือนพวกถูกกดขี่ตรงไหน ?

มติออกยังครับ ไม่ได้ดูข่าว

     18 กันยายนครับ...อีกเดือนนึง  :)

สงสัยต้องตัดแว่น นึกว่า18สิงหา

ในที่สัมมนากองทุนวิจัยฯ มีนักข่าวผู้หญิงของ นสพ. ของชาวมุสลิม ท่านหนึ่งบอก ต้องใช้กฎชาเรีย.. เอาเข้าไปนั่น..

ผมเคยถามโต๊ะครูที่ตำบลโต๊ะเด็ง ให้รวมกับมาเลเซียเอาไหม แกบอกไม่เอากฎหมายเข้มงวด ขนาดขี่มอไซค์ในหมู่บ้าน
ยังต้องใส่หมวก

ในภูมิภาคย่านนี้ เลยไปจนถึงจามในเขมรต้อนใต้ ศาสนาพราหมณ์เข้ามาแล้วจางไป กลืนๆ ไปกับพุทธ
พุทธมาเหลือมีไว้เป็นหลักใหญ่ อิสลามมาทีหลังกลืนพื้นที่ไปบางส่วน..

ถ้าจะนับย้อนเจ้าถิ่นต้องไปให้ไกล จะมาทึกทักเอาแค่รัฐปัตตานีไม่ได้..

ความเชื่อทางศาสนาส่วนหนึ่ง แต่ความเป็นมนุษย์ จะหายไปไม่ได้..

สมัยนั้น มอ. เขาตัดยอดเอ็นต์ตรง ให้นักเรียนมุสลิม 5 เปอร์เซ็นต์ สมัยนี้ ไม่ทราบว่ายังคงโควต้าไว้หรือไม่ครับ..


 

ไอริสวิสกี้ ถ้าใครเคยลองลิ้มรสผมว่าสกอตวิสกี้ชิดซ้ายเลย ::002::

ได้งั้นพี่ติดผมขวดหนึ่งนะ ;D

มันเกี่ยวอะไรมั้ยเนี่ย แต่จริงๆแล้วไปตามสโตร์ขายเหล้า ถามไอริสวิสกี้ร้านทำหน้าเหวอบ่อย ต้องไปบาร์เบียร์แถวพัทยาสั่งปุ๊บได้ปั๊ป ::002::

เทียบกับ มูนไชน์วิสกี้ อันไหนแรงกว่ากันครับ  :o

เกี่ยวในฐานะที่เปิดประเด็นไอ้ฤทธิ์วิสกี้  ;D
(http://img.painaidii.com/images/20130814_3_1376458377_334767.jpg)


http://www.youtube.com/v/ea-oVCU-3Fo

ผมรู้จักไม่กี่ยี่ห้อ ในตู้มียี่ห้อเดียวเอง ทัวลมอร์ เมาอิ๊บอ๊าย เคยเดินหาซื้อในไทยไม่มี เป็คนึงใส่น้ำแข็งไปก้อน :D~

ลุงจอยหามาให้ชิมหน่อยสิครับ  ::005:: ::005::

(http://bargainbourbon.files.wordpress.com/2013/11/ardbeg-uigeadail.jpg)

ไอ้ประเภทมอลล์ไม่เคยเห็นแบบนี้แหละชอบเก็บครับ ::005::

น้าจอยเลือกอยู่เหรอ  สมัยผมกินผมไม่เลือกซักทีขอให้แรงๆเป็นโอเค  ดีกรีต่ำๆกว่าจะเมาคาเฟ่เลิกก่อน

คนหนึ่งพยายามแยก คนหนึ่งพยายามรวม ;D ;D ;D ดูว่าใครมากกว่ากัน

จากอังกฤษ ไป 3จว.ชายแดน นี่ไปวิสกี้
ที่พูดนี่ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่อยากลองวิสกี้ไอริชบ้าง  ::005:: ::005::

   


         พูดถึงไอริช ทำให้นึกถึงเบียร์กินเนสเลย ยกทีฟองติดจมูกเลย :D~ :D~

5555   นักเศรษฐศาสตร์ รางวัล  " Noble Prize 2008 "  เขาวิเคราะห์ อ่ะ ฮา 5555

" พอล ครุกแมน "  คนนี้แหละ  ที่ส่งคำเตือน มาถึงประเทศไทย ก่อน  วิกฤต ต้มยำกุ้ง อ่ะ ฮา 

ยายว่าอ่านแล้ว  ได้ประโยชน์  ประเทืองปัญญา  อ่ะ ฮา
เดี๋ยว คงมี   " ดร. กำมะลอ "  มาบอก  เรื่องน้ำมันในทะเล อีก อ่ะ ฮา

อ่านแล้ว  ลอง " หวน " กลับมาคิด  ถ้าเป็น เมืองไทย ฮา

55555  ถ้าเป็น  " ปัตตานี  ยะลา นราธิวาส "  จะทำงัย ดี อ่ะ  ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007::


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410264715

ฤาจะเป็นอาทิตย์อับแสง:   บทเรียนความเสี่ยง
ที่"สก็อตแลนด์"ควรเรียนรู้จาก"สเปน"ก่อนแยกตัวเป็นอิสระ

สก็อตแลนด์จะแยกหรือไม่แยกจากสหราชอาณาจักร กำลังเป็นประเด็นในความสนใจของผู้คน
และยิ่งนานวัน เสียงสนับสนุนให้แยกก็มีมากขึ้น แต่น่าสนใจว่า หลังจากโพลเมื่อไม่กี่วันมานี้

ชี้ว่าคนสก็อตมากกว่าครึ่งหนุนให้แยกสก็อตแลนด์ ค่าเงินปอนด์ก็ร่วงลงต่ำสุดในรอบสิบเดือน


ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา พอล ครุกแมน (Paul Krugman) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อดัง
เจ้าของรางวัลโนเบลปี 2008 ได้เขียนบทความลง The New York Times เตือนชาวสก็อตว่า

จงกลัวให้มากเข้าไว้ ความเสี่ยงของการอยู่ตามลำพังนั้นใหญ่หลวงมาก
คุณอาจคิดว่าสก็อตแลนด์สามารถเป็นอย่างแคนาดา
แต่มันก็อาจจบลงด้วยการกลายเป็น สเปนที่ปราศจากแสงอาทิตย์


ครุกแมนบอกว่า แม้สก็อตแลนด์กับแคนาดาจะมีขนาดเศรษฐกิจเล็กเหมือนๆกัน
และแคนาดาดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ   แม้จะน่ากังวลอยู่บ้างในเรื่องภาวะหนี้ครัวเรือน
และฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์  แต่แคนาดานั้นมีสกุลเงินตราของตนเอง
ซึ่งหมายความว่าถ้ามีปัญหาใดๆก็จะสามารถระดมเงินจากธนาคารของตนเองได้


แต่สก็อตแลนด์ทำไม่ได้   แถมขบวนการเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของสก็อตแลนด์
ยังแสดงท่าทีชัดเจนเสียอีกว่า ตั้งใจจะใช้สกุลเงินปอนด์ของอังกฤษต่อไป

ซึ่งสำหรับครุกแมนแล้วส่วนผสมของอิสรภาพทางการเมืองกับสกุลเงินตรา
ที่ต้องใช้ร่วมกับประเทศอื่นนั้น เป็นสูตรแห่งความหายนะอย่างที่เกิดขึ้นในสเปน


ครุกแมน ยกตัวอย่างสภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์

ก่อนเกิดภาวะฟองสบู่แตกขั้นรุนแรงในสเปนกับรัฐฟลอริด้าของสหรัฐ
ซึ่งเขามักยกมาพูดถึงบ่อยๆในระยะหลังมานี้ โดยชี้ว่าสเปนตกอยู่ในวิกฤติ

แต่ฟลอริดาไม่เป็นอย่างนั้นเพราะฟลอริดาสามารถพึ่งพารัฐบาลกลางสหรัฐที่กรุงวอชิงตัน
เพื่อค่าประกันสังคมและค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของธนาคารและอื่นๆ


แต่สเปนไม่มีใครคุ้มครอง ทำให้เกิดวิกฤติงบประมาณซึ่งยิ่งเลวร้ายมากขึ้น
เมื่อประกอบกับวิกฤติธนาคาร ผลคือสเปนมีคนหนุ่มสาวว่างงานกว่าห้าสิบเปอร์เซนต์
และแทบไม่มีหนทางที่จะเริ่มต้นฟื้นฟูได้เลย ซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนี้
แม้ประเทศยุโรปที่เศรษฐกิจแข็งแรงอย่างฟินแลนด์และเนเธอร์แลนด์ ก็ยังได้รับผลกระทบ


ครุกแมนสรุปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุโรปตั้งแต่ปี 2009 หรือใกล้เคียง

แสดงให้เห็นว่าการใช้เงินตราร่วมกันโดยไม่บริหารร่วมกันนั้นอันตราย
สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสก็อตแลนด์นั้นอาจเลวร้ายกว่าที่เกิดกับประเทศในยุโรป
ซึ่งอย่างน้อยก็มีธนาคารกลางยุโรป


ประเด็นที่ครุกแมนเตือนนั้นน่าคิด และเอาเข้าจริงๆ
ไม่เพียงเรื่องการใช้สกุลเงินปอนด์ที่ต้องเป็นห่วงเท่านั้น
เพราะถ้าสก็อตแลนด์ได้เป็นเอกราชจริง
ก็ยังต้องห่วงเรื่องหนี้สาธารณะมูลค่า 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
เรื่องบ่อน้ำมันในทะเลเหนือและฐานทัพเรือดำน้ำอังกฤษในสก็อตแลนด์ เป็นต้น


สำหรับสกอตแลนด์นั้น เคยเป็นประเทศอิสระ
จนเมื่อกษัตริย์สก็อตแลนด์คือพระเจ้าเจมส์ที่ 6 ได้ขึ้นครองบัลลังก์ประเทศอังกฤษใน ค.ศ.1603
จึงถือว่าสองประเทศมีกษัตริย์ร่วมกันแม้รัฐบาลสองประเทศไม่ได้ขึ้นแก่กัน

แต่ใน ค.ศ. 1707 สองประเทศได้รวมตัวกันด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ
กลายเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ปัจจุบันสก็อตแลนด์มีประชากรประมาณ 5.3 ล้านคน
หรือ 1 ใน 10 ของอังกฤษ


ประชาชนสก็อตแลนด์จะลงประชามติว่าจะแยกตัวจากสหราชอาณาจักรหรือไม่ในวันที่ 18 กันยายนนี้

ประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน กทมมีคนเยอะกว่า ;D ;D ;D ตั้งเงินสกุลใหม่ยากไหมหนอ

5555  ตั้งสกุลเงินตราใหม่  " ไม่ยาก "  ร๊อกส์ อ่ะ ฮา 555555


ตั้งอ่ะ  ตั้งได้  แต่  " สากล " เขายอมรับ  หรือเปล่า อ่ะ ฮา
ถ้าใช้ได้แต่ใน  " สก๊อตแลนด์  "  มันก็เป็นแค่  กระดาษ เช็ดตูด แค่นั้น อ่ะ ฮา

5555  ลองพิมพ์ ใช้ดูอ่ะ  " เงินเฟ้อ "  บานเลย อ่ะ ฮา 5555  ::007:: ::007:: ::007::

 ;D
สักสามสัปดาห์ก่อน
ผมไปยืนอยู่หน้าชั้นเหล้าใน Top's Supermarket แถวบ้าน
เห็นสก๊อตช์วิสกี้เกือบทุกยี่ห้อติดธงสก๊อตแลนด์เล็กๆอยู่ตรงป้ายบอกราคาที่แขวนเกี่ยวอยู่ตรงราง
ธงพรืดไปทั้งแผง
พร้อมคำว่า Product of Scotland
ยังสงสัยในใจว่านี้เป็นหนึ่งในกระบวนการเตรียมตัวเป็นชาติใหม่หรือเปล่านะครับ?
อย่างน้อยก็มีนักกินเหล้าทั่วโลกประกาศรับรองสถานภาพไว้ชั้นหนึ่งก่อน

555555  ไม่ใช่อย่างนั้น  หรอก อ่ะ ฮา 555555

มันแสดงถึง  " Origin "  หรือ แหล่งผลิต   อ่ะ ฮา

มันไม่เกี่ยวกับกระแส  แยก " แผ่นดิน " อ่ะ ฮา

55555 ไอ้  " Product of Scotland "  มันมีมาก่อน แนวคิดแยก อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ต้องเลิกใช้เงินปอนด์ด้วยสิ ไม่งั้นจะเรียกว่าแยกตัวได้อย่างไร  แต่ตั้งสกุลเงินใหม่ ก็ยากอยู่

แต่ข่าวว่าคนอังกฤษ จนถึงราชวงษ์ ก็ออกมาเรียกร้อง +อ้อนวอน ขออย่าแยกตัวเลย  ::005::

5555  คะแนน  พลิก  กลับมา  " สูสี "  อีกครั้ง อ่ะ  ฮา
หลังจาก ราชวงศ์  แสดงบท  " ดราม่า "  ทำตัวน่าสงสาร อ่ะ ฮา

555555  ยาย  " รอง "  ข้าง  สี่สิบแปด อ่ะ ฮา 55555555  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1556796461208055/?type=1&theater

โพลหนุนสกอตแลนด์พลิกอีก

YouGov จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นให้กับ นสพ. เดอไทม์ส ในอังกฤษ ชี้ว่า

ผลสำรวจล่าสุดที่ออกมาพลิกกลับอีกครั้ง

โดยฝ่ายที่คัดค้านการแยกสกอตแลนด์ออกจาก สหราชอาณาจักร
มีแต้มกลับมานำที่ 52 ต่อ 48   

นสพ. เดอะไทมส์พาดหัวว่า
เสียงสนับสนุนให้แยกสกอตแลนด์กำลังลดลง

(http://s9.postimg.org/qxbu4d3xr/10671502_1556796461208055_3092368890917068776_n.jpg) (http://postimage.org/)

ตามชมครับ ;D ;D ;D น่าสนใจมาก

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยครับว่า..แยกแล้วสก๊อตแลนด์ได้อะไร..ถ้าไม่แยกอังกฤษได้อะไร  

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410489773

สก๊อตแลนด์แยกอังกฤษ 

ธง"ยูเนี่ยนแจ็ค"ที่อาจต้อง"เปลี่ยนตัวเอง"

และ"ความจำเป็นที่จะต้องพลิก"แบรนด์"


ในขณะที่ไม่กี่วัน อนาคตของสก๊อตแลนด์กำลังจะถูกเปิดเผยว่าจะก้าวสู่"เส้นทางใหม่"
หรือ"ย่ำสู่เส้นทางเก่า"จากการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น

มีคำถามเกิดขึ้นหลายมุม   ด้านเกี่ยวกับผลกระทบ"ด้านลบ"
ของการจากไปของสก๊อตแลนด์  จากสหราชอาณาจักร ว่าในอนาคตจะเป็นเช่นใด

 เช่นเดียวกัน ประเด็นหนึ่งที่ถูกตั้งคำถามก็คือ การเปลี่ยนแปลง

"สัญญลักษณ์บนยอดสูงสุด"ของสหราชอาณาจักร นั่นคือ"ธงยูเนี่ยนแจ๊ค"
ที่เคยสะท้อนความเป็นอังกฤษ และดินแดนต่าง ๆ

รวมทั้ง"สก๊อตแลนด์" ที่กำลังอยู่บนทางสองแพร่งว่า
จะต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และเปลี่ยนแปลงอย่างไร

 นายจอห์น คริดแลนด์ ผุ้เชี่ยวชาญด้านการตลาดระบุว่า

กรณีสก๊อตแลนด์มีแนวโน้มจะแยกออกจากสหราชอาณาจักร

ส่อเค้าว่า อาจทำธงสหราชอาณาจักร หรือธงยูเนี่ยน แจ๊ค ที่เคยใช้มากว่า 200 ปี
ต้องเปลี่ยนไป โดงธงดังกล่าวซึ่งมีสีแดงเข้ม สีขาว และน้ำเงิน
เคยเป็นสิ่งที่ติดตาชาวโลก และเป็นสัญญลักษณ์ของความเชื่อมั่นด้านธุรกิจ
และภาพลักษณ์ของความเปิดกว้างทางการค้าต่อธุรกิจทั่วโลก

 ขณะที่นายแอนดี้ ไวส์ นักการตลาดด้านการสร้างแบรนด์บอกว่า
ธงชาติอังกฤษเคยเป็นสิ่งที่สามารถติดจำได้ง่ายทั่วโลก
เพราะปรากฎทั่วไปตั้งแต่บนเสื้อจนถึงกระเป๋า ซึ่งแตกต่างจากธงชาติอื่น ๆ

เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และสหภาพยุโรป ที่ไม่มีธงชาติในลักษณะ
ของการหลอมรวมดินแดนต่างๆ  เป็นหนึ่งเดียว

 ในแง่การมอง ธงยูเนี่ยน แจ๊ค เดิม เป็นสิ่งที่เตะตาและกระตุ้นให้เกิดพลัง 

ขณะที่ธงชาติอย่างญี่ปุ่น มาจากการออกแบบด้วยมุมมองที่สะท้อนถึงความเบิกบาน
 และการใช้ภาพง่าย ๆ ที่สะท้อนคุณค่ามากมาย" 

และว่า หากอังกฤษต้องการ"ดีไซน์"ธงชาติใหม่
อาจเป็นการออกแบบในรูป"ธงแดงขาว"หรือธงแดง ขาว เขียว"แทนสีน้ำเงิน
ซึ่งหมายถึงความจงรักภักดีของเวลส์ ที่ยังมีต่ออังกฤษและสหราชอาณาจักร

 นายไวส์กล่าวว่า การเปลี่ยนธงชาติอังกฤษ
ย่อมจะกระทบภาพลักษณ์ความเป็นตัวตน"ของอังกฤษ

และสหราชอาณาจักรกว่า 20 ดินแดน รวมทั้งออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และฟิจิ

ผลดีด้านหนึ่งของมันคือ การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ผู้ผลิตได้มีโอกาส"ขายธงชาติใหม่"

 ทว่า อีกด้านหนึ่ง นักการตลาดมองอย่างวิตกว่า การเปลี่ยนแปลงธงชาติยูเนี่ยน แจ๊ค
จะส่งผลกระทบต่อ"ความเป็นแบรนด์ของอังกฤษ อย่างเลี่ยงไม่ได้
รวมทั้งการขายสินค้าต่าง ๆ ที่มีตราของยูเนี่ยน แจ๊ค ประดับอยู่

แต่ในทางกลับกัน ในการเปลี่ยนแปลงใหม่ ที่จะทำให้อังกฤษต้องมี"ธงชาติใหม่"
ก็อาจสร้างโอกาสให้อังกฤษได้สร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาได้ โดยภายใต้การดีไซน์นี้
อังกฤษจะต้อง"ค้นหา"ถึงตัวตนของอังกฤษในปัจจุบัน หรือการสร้าง"สัญญลักษณ์ใหม่"
สะท้อนสู่ภาพลักษณ์เชิงมุมมอง  โดยตีความจากจุดยืนโดดเด่นที่เป็นอยู่ของอังกฤษในปัจจุบัน
และสร้างสิ่งนั้นให้กลายเป็นไอคอนใหม่ที่สะท้อนถึงความเป็น"อังกฤษใหม่"ต่อโลกออกมา

 แน่นอนว่า สิ่งนี่ถือเป็นโจทย์ยากและท้าทายที่อังกฤษกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ในขณะที่สก๊อตแลนด์ส่อเค้าจะสลัดตัวจากสหราชอาณาจักรให้เป็นเพียงอดีตและวันวาน

อังกฤษปัจจุบันที่ยังต้องคงอยู่ จะต้องทำอย่างไร ให้สามารถรักษาภาพลักษณ์ ฐานการค้า
และชื่อเสียงของพวกเขา ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของโลก

ที่กำลังจับจ้องว่า อังกฤษกำลังจะ"เจ็บตัวหนัก"กับการเปลี่ยนแปลง
ที่พวกเขาไม่อาจเรียกคืนมาได้

https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-bbc-thai/%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88-%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9-2/1537426613145040


แยกหรืออยู่ สกอตแลนด์กับอังกฤษ (2)
6 August 2014 at 08:26

เหตุผลของฝ่ายที่อยากแยกสกอตแลนด์คือ แยกแล้วประเทศจะมั่งคั่งขึ้น
ทรัพยากรถูกนำไปใช้ในการพัฒนาเพื่อเจ้าของอย่างแท้จริง

แต่ค่ายรณรงค์ไม่เห็นด้วยชี้ว่า แยกแล้วอาจจะแย่ลงเพราะสิ่งที่ได้มาจากการอยู่ร่วมกันนั้นหาไม่ได้อีก
อย่างหนึ่งก็คือเรื่องของสกุลเงินและสมาชิกภาพในสหภาพยุโรป



การโต้วาทีระหว่างนายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ นายอเล็กซ์ ซาลมอนด์ กับสส.พรรคเลเบอร์ อลิสแตร์ ดาร์ลิง
ที่ออกอากาศทางทีวีเมื่อวานนี้จบไปอย่างที่สื่อหลายรายบอกว่า ไม่มีคนชนะอย่างชัดแจ้ง


รอยเตอร์บอกว่าคนที่ผิดหวังมากกว่าคือค่ายที่รณรงค์ให้คนโหวต เห็นด้วย หรือ เยส

พร้อมกับชี้ว่า ก่อนจะมีการโต้กันหนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ให้นายซาลมอนด์เป็นต่อ
และเชื่อว่าเขาคงจะน็อคคู่โต้คือนายดาร์ลิงไปแบบสบายๆ 
และเพิ่มความคึกคักให้กับค่ายรณรงค์โหวตเห็นด้วย
ซึ่งตอนนี้ตามผลการสำรวจยังได้คะแนนตามหลังค่ายไม่เห็นด้วยอยู่


รอยเตอร์บอกว่า ผู้คนคาดว่าอลิสแตร์ ดาร์ลิง อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ
ซึ่งเป็นแกนนำค่ายรณรงค์ให้โหวตไม่เห็นด้วย น่าจะเพลี่ยงพล้ำอย่างมาก
เพราะลีลาน่าเบื่อถูกเปรียบเทียบเหมือนครูใหญ่ในโรงเรียน ไม่น่าจะสู้นายซาลมอนด์ที่มีสีสรรได้


แต่ปัญหาที่นักวิจารณ์มองจากการโต้หนนี้คือ นายซาลมอนด์มือตกไปบ้าง
เพราะไม่สามารถจะให้ภาพของสกอตแลนด์ที่เป็นเอกราชได้ว่า จะสานฝันในทางเศรษฐกิจได้อย่างไร


ผลการวัดคะแนนจากคนดูผ่านการทำโพลหลังการโต้พบว่า
คนจำนวนมากกว่าให้นายซาลมอนด์แพ้ในการโต้หนนี้

ในโพลที่ทำให้กับนสพ.เดอะการ์เดี้ยน 47%ให้นายดาร์ลิงชนะ 37% ให้นายซาลมอนด์เหนือกว่า
แต่นักวิจารณ์หลายคนก็สรุปว่า ปัญหาอยู่ที่นายดาร์ลิงพูดได้ดีกว่าที่คนคาดเอาไว้มากกว่าอย่างอื่น
ขณะที่นายซาลมอนด์ไม่ดีเท่าที่คิด


ประโยคเด็ดที่สื่อทั้งหลายหยิบมาเสนอที่มาจากนายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์คือ
ที่เขาบอกว่า ไม่มีใครจะบริหารจัดการสกอตแลนด์ได้ดีเท่าคนที่อยู่ในสกอตแลนด์


“18 กันยายน เรามีโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตที่จะต้องรีบตักตวงเอาไว้ด้วยสองมือของเรา” เขาว่า


ขณะที่อลิสแตร์ ดาร์ลิงเฝ้าแต่ถามเรื่องว่าสกอตแลนด์จะใช้เงินสกุลอะไร
หากเป็นเอกราชแล้ว เพราะอังกฤษย่อมไม่ยอมให้ใช้เงินปอนด์แน่นอน


อเล็กซ์ ซาลมอนด์บอกผู้ชมว่า การแยกตัวออกจากอังกฤษจะทำให้สกอตแลนด์ฐานะดีขึ้นในทางเศรษฐกิจ
เขาบอกว่ารัฐบาลอังกฤษใช้เงินมากไปในการลงทุนเรื่องอาวุธนิวเคลียร์
และถ้าเป็นเอกราชสกอตแลนด์จะยกเลิกเรื่องนี้

แต่การที่ซาลมอนด์ไม่ยอมตอบเรื่องสกุลเงินอย่างชัดเจน
นอกจากบอกว่าเห็นด้วยกับการที่จะยังใช้เงินปอนด์อยู่ทำให้เขาดูไม่ดีเท่าไหร่


ขณะที่อลิสแตร์ ดาร์ลิงบอกว่า การอยู่กับอังกฤษจะทำให้สกอตแลนด์ได้ประโยชน์มากกว่า
เพราะสามารถใช้ความเข้มแข็งของอังกฤษช่วยสร้างสกอตแลนด์
“ถ้าเราตัดสินใจเดินออก ก็คือออกเลย เราจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก”


น้ำเสียงแบบนี้ทำให้ซาลมอนด์บอกว่า คือการรณรงค์แบบสร้างความกลัว กล้วพลาด กลัวเสียโอกาส
เขาเรียกมันว่า Project Fear ขณะที่สมาชิกในกลุ่มรณรงค์โหวตให้เห็นด้วย ก็วิจารณ์นายดาร์ลิงว่า
มาเพื่อจะพูดแต่สิ่งร้ายๆ ในบรรดาสิ่งต่างๆที่เขาหยิบยกมากล่าวนั้นไม่มีอะไรเป็นบวกสักอย่าง


กลุ่มรณรงค์เห็นด้วยบอกว่า สกอตแลนด์มีทั้งรัฐสภาและระบบยุติธรรมของตัวเอง
แต่ไม่ไหนไกลไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจจัดเก็บภาษีเอง
ถ้าแยกตัวแล้วจะมั่งคั่งขึ้นเพราะมีทรัพยากรอยู่กับตัวเอง


ส่วนกลุ่มรณรงค์ไม่แยกหรือไม่เห็นด้วยบอกว่า

การที่สกอตแลนด์จะไม่ได้ใช้เงินปอนด์จะทำให้เสี่ยงเสียหายทางเศรษฐกิจ
ตำแหน่งงานจำนวนมากจะหายไป และอาจจะยากที่กลับเข้าไปอยู่ในสหภาพยุโรป


นี่ก็เป็นการโต้วาทีกันทางทีวีอุ่นเครื่องก่อนที่จะมีการลงประชามติของชาวสกอตแลนด์
ว่าจะอยู่หรือจะแยกจากอังกฤษ การโต้วาทีทางทีวีแบบนี้ยังจะมีมาอีก รายถัดไปที่จะจัดก็คือบีบีซีนั่นเอง

https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-bbc-thai/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3-%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C/1550620398492328


คนในสหราชอาณาจักร “แคร์” แค่ไหนกับการแยกสกอตแลนด์
3 September 2014 at 00:35

เหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวันลงประชามติว่าจะแยกสกอตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักรหรือไม่
คนในพื้นที่อื่น ๆ ของสหราชอาณาจักรนอกเหนือจากสกอตแลนด์ดูจะให้ความสนใจไม่น้อย
เห็นได้จากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ การโต้วาทีอย่างเผ็ดร้อน

ระหว่างนายอเล็กซ์ ซาลมอนด์ นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์กับนายอลิสแตร์ ดาร์ลิง ส.ส.พรรคเลเบอร์
ผู้สนับสนุนให้สกอตแลนด์อยู่กับราชอาณาจักรต่อไป ดึงดูดผู้ชมทั้งในอังกฤษ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ ถึง 1.5 ล้านคน

 นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ในสหราชอาณาจักรพบว่า
สื่อเองก็ลงข่าวเรื่องนี้เยอะขึ้น และจากการใช้เสิร์ชเอ็นจิ้น Lexis Nexis
สำรวจพบว่าเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีบทความถึง 1,325 ชิ้นที่มีคำว่าสกอตแลนด์
และคำว่าเอกราชอยู่ในข่าว ขณะที่เดือนกรกฎาคม มีเพียง 839 ชิ้น และเดือนมีนาคม 879 ชิ้น

 นายเควิน โชฟิลด์ หัวหน้าข่าวการเมืองของ นสพ. เดอะซัน บอกว่า
ที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวเรื่องนี้เยอะขึ้นก็เพราะใกล้ถึงวันลงประชามติเข้ามาทุกทีแล้ว

 ด้านสจวต แมคอนัลลา นักวิชาการด้านการเมืองอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยลีดส์ เห็นด้วย
และว่านักการเมืองและคนดังก็จะออกมาให้ข่าวเรื่องนี้มากขึ้น
รวมทั้งประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งสหราชอาณาจักรอย่าง
เช่นเรื่องข้อเสนอของนายซาลมอนด์ เกี่ยวกับสหภาพเงินตราก็เป็นประเด็นที่คนสนใจ

ผลสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ ชี้ว่า คนอังกฤษ 53% ไม่ต้องการใช้สกุลเงินร่วมกับสกอตแลนด์หากสกอตแลนด์แยกตัวออกไป  แต่นายแมคอนัลลาเห็นว่าอาจเป็นเพราะคนอังกฤษยังไม่ค่อยเข้าใจในประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสักเท่าไหร่ 

 ด้านปีเตอร์ เกฮีเกน ผู้สื่อข่าวในกลาสโกว์เห็นว่า การโต้วาทีเกี่ยวกับสกอตแลนด์
คงเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับคนในไอร์แลนด์เหนือมากกว่าที่อื่น
เพราะดินแดนทั้งสองมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาหลายศตวรรษ
และบรรพบุรุษของคนไอร์แลนด์จำนวนมากมาจากสกอตแลนด์
ขณะที่คนไอริชจำนวนมาก ก็เข้าไปตั้งถิ่นฐานในสกอตแลนด์

สำหรับที่เวลส์ นั้น รีเบ็คกา รัมเบลจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟ
กล่าวว่าคนที่นั่น ยังรู้สึก “ครึ่ง ๆ กลาง ๆ” กับประเด็นนี้ เพราะคนเวลส์ เห็นกันว่า
ความสัมพันธ์ระหว่างเวลส์กับอังกฤษสำคัญกว่า ดังนั้น
เลยไม่ค่อยสนใจกับการลงประชามติของสกอตแลนด์เท่าไหร่

 เมื่อเดือนที่แล้ว YouGov สำรวจความเห็นคนอังกฤษและเวลส์ของ
พบว่ามีผู้เห็นด้วยกับการแยกตัวของสกอตแลนด์ 18% ไม่เห็นด้วย 59% และไม่ทราบ 23%

ส่วนที่สกอตแลนด์ ผลการหยั่งเสียงจากหลายสำนัก ยังชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ยังจะโหวต “โน”

 ผู้สื่อข่าวของเรายังถามคนเดินถนนในกรุงลอนดอนหลายคน
ส่วนใหญ่อยากให้สกอตแลนด์อยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป 

ก็ใช้ธงเก่าไม่ได้เหรอ ;D ;D ;D

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20:55 น.  ข่าวสดออนไลน์


‘เบคแฮม’ ออกโรงร่วมต้านสกอตแยกดินแดน

  เดวิด เบคแฮม อดีตซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอังกฤษ ออกมาร่วมต่อต้านการแยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรของสกอตแลนด์ โดยวอนให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงช่วยกันเลือกที่จะไม่แยกตัวออกไป

  อดีตปีกขวาเท้าชั่งทอง ระบุในจดหมายเปิดผนึกถึงแคมเปญ “เล็ตส์ สเตย์ ทูเกเธอร์” ซึ่งรณรงค์การรวมดินแดนกันต่อไป โดยเผยว่า “ความหวังจากใจจริงของผมคือการที่พวกคุณลงคะแนนเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ การที่เรารวมกันมันย่อมเป็นเรื่องยอดเยี่ยมกว่าการที่เราแบ่งแยกกัน”

  สำหรับการลงคะแนนประชามติครั้งนี้ จะเริ่มต้นกันในวันที่ 18 ก.ย.




อยากรู้จัง บริษัทรับพนันในอังกฤษ จะรับแทงคู่นี้มั้ย เห็นรับทุกงาน  ::005::

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%9E%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9

เครือจักรภพแห่งอังกฤษ

ดีเน๊าะอยากแยกตัวก็ลงประชามติไม่ต้องรบราฆ่าฟันกันอีกฝ่ายก็ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ถ้าเป็นประเทศอื่นคงรบกันตายเป็นเบือ

แค่มุมเดียวก่อน..สก็อตแลนด์ มีทรัพยากรมหาศาล(ปิโตรเลียมในทะเลเหนือ) แต่พลเมืองไม่ถึง 10 ล้านคน
อังกฤษมีประชากร 50-60 ล้านคน แต่ไร้ทรัพยากร..ชาวสก็อตจึงเห็นว่าตนจะมั่งคั่งขึ้นถ้าได้บริหารทรัพยากรเอง..ดูท่าจะเสร็จสก็อตแฮะ

ผมสงสัยนะครับ กรณีให้แยกประเทศสมมุติว่ามติออกมาส่วนใหญ่อยากจะแยกประเทศ แล้วกำลังทหาร จะแบ่งกันยังไง สก๊อตต้องไปตั้งกองทัพเองฝึกทหารใหม่เองหมดเลยเหรอ แล้ว เครื่องบิน เรือรบ แบ่งกันยังไง กำลังตำรวจอีก

บีบีซีไทย - BBC Thai
1 ชม. · แก้ไขแล้ว ·
·

เซียนพนัน vs เซียนสถิติ : คุณเชื่อใคร?

เซียนพนันคนหนึ่งทุ่มเงิน 8 แสนปอนด์แทงว่าชาวสกอตส่วนใหญ่จะโหวตโนในวันพรุ่งนี้ ขณะที่บรรดาสำนักโพลทั้งหลายซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นเซียนสถิติยังบอกว่าเสียงสองฝั่งสูสีกัน

รายงานในหน้าหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ หนังสือพิมพ์ชั้นแนวหน้าทางด้านธุรกิจวันนี้ระบุ วงการพนันคึกคักมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในประเด็นการพนันผลการเลือกตั้งคือนัยว่าจะมีคนควักกระเป๋าแทงผลถึง 40 ล้านปอนด์

ผู้สันทัดกรณีบอกว่าคนที่ยอมควักกระเป๋าแทงผลเลือกตั้งมักจะไตร่ตรองมากกว่าคนที่ตอบคำถามการสำรวจซึ่งจะตอบอย่างไรก็ได้เพราะไม่ต้องเสียเงิน


หมอนี่รวยเลย ทุ่มสุดตัว  ::007:: ::007:: ::007::

ผมแทงข้างโหวตYesอะครับ โอกาส50-50 โลกล้วนเปลี่ยนแปลง แทงข้างแยกประเทศครับ

อย่างนี้ต้องยกเลิกหน่วยสก้อตแลนด์ยาร์ดด้วยหรือเปล่า ต่อไปอังกฤษต้องนำเข้าวิสกี็แล้วซิ
อาจจะผลิกถ้าผ่ายการเมืองไม่โชว์วิสัยทัศน์ให้ชัดเจนกว่านี้

การเปรียบเทียบ  ต้องจับคู่ให้มีเงื่อนไขตรงกันด้วย
อังกฤษเป็น "สหรัฐ" คือมีประเทศอิสระหลายประเทศมารวมกัน  การแยกประเทศหนึ่งออกไปจึงเป็นเรื่องที่ทำได้  แต่ถ้าจะมีใครจะแยกเมืองคอนวอลหรือเมืองเคนท์ออกเป็นอิสระจากอังกฤษ ก็ต้องเจอข้อหากบฎเหมือนกัน

อังกฤษ สกอร์ตแลนด์ กับไอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีภาษาของตัวเอง มีวัฒนธรรมของตัวเอง  จนถึงปัจจุบันอังกฤษไม่เคยประกาศว่าภาษาใดเป็นภาษาราชการเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเพราะยังไง ๆ ก็ใช้ภาษาอังกฤษโดยพฤตินัยอยู่แล้ว

ไอร์แลนด์มีสภาพประเทศต่ำกว่าสกอร์ตแลนด์ เพราะไม่ค่อยจะได้มีกษัตริย์ของตัวเอง ฝรั่งเศสบ้าง อังกฤษบ้างแล้วแต่ทางโรมจะกำหนดมา  จนกระทั่งเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษถึงได้ใช้ไม้แข็งแตกหักจากกรุงโรม   ส่วนสกอร์ตแลนด์มีกษัตริย์ของตนเองต่อเนื่องยาวนาน อังกฤษเสียอีกที่ขอ Union Crowns ให้พระเจ้าเจมส์ที่ 6 ของสกอร์ตแลนด์มาเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ของอังกฤษด้วย และกษัตริย์องค์นี้แหละที่รวมไอร์แลนด์เข้ามาอย่างเป็นทางการ  หลังจากนั้นอีกร้อยปี สกอร์ตแลนด์ถึงได้รวมกับอังกฤษ  นอกจากนั้นราชวงศ์สจ๊วตของสกอร์ตแลนด์ก็เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอังกฤษยาวนานที่สุด

ขอบคุณครับ ทีแรกผมเข้าใจว่าสก๊อตแลนด์เป็นรัฐหนึ่งของอังกฤษแบบพม่ามีรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยงครับ
ขอถามต่ออีกซักสองเรื่องนะครับทำไมคนอังกฤษถึงยอมรับราชวงศ์สจ๊วตของสก๊อตแลนด์ให้ปกครองอังกฤษละครับ
กับอีกเรื่อง ทำไมกรุงโรมจึงสามารถกำหนดได้ว่าใครจะเป็นกษัตริย์ให้กับไอแลนด์ได้ครับ ::014::

คือคนอังกฤษในปัจจุบัน ที่จริงแล้วเป็นชาวเยอรมันตอนเหนือ คือพวกแองโกลกับพวกแซกซอน (ปัจจุบันในเยอรมันก็ยังมีแคว้นแซกซอนกับโลเวอร์แซกซอน) อยู่แถว ๆ ที่เป็นประเทศเดนมาร์กในปัจจุบัน  และ 2 พวกนี้มีภาษาของตัวเอง แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางติดต่อกัน  แล้วต่อมาก็อพยพมาอยู่ที่อังกฤษ  จนกระทั่งพวกโรมันเข้ามาปกครองอังกฤษ และโรมันเสื่อมลง พวกแองโกลแซกซอนจึงได้เข้าปกครองอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นสกอร์ตแลนด์กับไอร์แลนด์เขาก็ตั้งถิ่นฐานกันอยู่ก่อนแล้ว

กษัตริย์ในระยะแรกก็มีทั้งแซกซอน เดนมาร์ก และยังมีพวกนอร์มันด์ที่ข้ามมารุกรานจากยุโรปเหนือ  จนกระทั่งภายในอังกฤษเข้มแข็งขึ้นจึงปกครองตัวเองได้มั่นคง  แต่ก็เกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ จึงได้นำกษัตริย์จากสกอร์ตแลนด์เข้ามาเป็นกษัตริย์ของอังกฤษเพื่อไม่ให้ตระกูลใดตระกูลหนึ่งของอังกฤษมีอำนาจมากเกินไป

ศาสนจักรเข้ามาครอบงำอาณาจักรโดยใช้สติปัญญาของพวกพระซึ่งมีสูงกว่ากษัตริย์ซึ่งเป็นพวกนักรบ  กำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นครองบัลลังก์ และต้องให้สันตะปาปาสวมมงกุฎให้ โดยศาสนจักรได้ผลประโยชน์จากได้สิทธิเก็บค่าเช่าที่ดิน   จนเขาทนกันไม่ไหว ทางเยอรมันแยกตัวออกเป็นนิกายโปรแตสแตนท์  และเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษก็ทำคล้าย ๆ กัน แต่อังกฤษเรียกของตัวเองว่านิกายแองกลิอัน  แต่สรุปก็คือไม่ต้องฟังทางกรุงโรม

อังกฤษถึงกับแก้กฎมณเทียรบาล ห้ามคาธอลิกเป็นกษัตริย์อังกฤษ  ซึ่งมาเกิดปัญหาเอาในสมัยควีนแอนน์ กษัตริย์ราชวงศ์สจ๊วตองค์สุดท้ายใน ค.ศ.1714 ที่รวมสกอร์ตแลนด์เข้ากับอังกฤษนี่แหละ  ปรากฏว่าทายาทของพระองค์เป็นคาธอลิก  ขึ้นครองบัลลังก์ไม่ได้  ต้องไปเอากษัตริย์ราชวงศ์แฮนโอเวอร์ของเยอรมันมาเป็นกษัตริย์อังกฤษจนถึงปัจจุบัน

มีการเปลี่ยนชื่อราชวงศ์ 2 ครั้ง  แต่จริง ๆ แล้วเป็นการสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์แฮนโอเวอร์ทั้งหมด  ราชวงศ์แฮนโอเวอร์มี 6 รัชกาล องค์สุดท้ายคือควีนวิคตอเรีย (ฉายาสมเด็จย่าของยุโรป เพราะลูกหลานปกครองยุโรปเต็มไปหมด) ที่ตราเหรียญกล้าหาญวิคตอเรียครอสนั่นแหละ  ควีนวิคตอเรียไปแต่งงานกับเจ้าชายในราชวงศ์แซก-โคเบิร์กของเยอรมัน  คิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ลูกของควีนวิคตอเรียจึงต้องเป็นราชวงศ์แซก-โคเบิร์กตามพ่อ  แต่ก็ใช้ชื่อนี้ได้แค่ 2 รัชกาล ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1  อังกฤษรบกับเยอรมัน  ราชวงศ์อังกฤษจึงต้องตัดความสัมพันธ์กับเยอรมัน  เมืองแซก-โคเบิร์กตั้งกษัตริย์ของตัวเองขึ้นใหม่  ส่วนทางอังกฤษก็เปลี่ยนชื่อเป็นราชวงศวินเซอร์มาจนถึงทุกวันนี้

มาเก็บความรู้ ขอบคุณครับ

55555  เช้ามืด  ของพรุ่งนี้  ( ตีสาม ตีสี่ ของคืนนี้ )  อ่ะครัช  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

เราจะได้  รู้ผล  ว่า   " แยก หรือ  ไม่แยก " อ่ะ ฮา

แล้วถ้าแยกสำเร็จ  มันจะส่งผล  ไปกระทบ  " ภูมิภาคไหน " ในโลกบ้าง อ่ะ ฮา
เพราะกระแส  เรียกร้อง  การบริหาร  " ปกครองตนเอง "  มันระบาด  สูงมาก อ่ะ ฮา


555555   รอดูการเปลี่ยนแปลง  " ครั้งสำคัญ "  ของโลก อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

5555  ดูเหมือนว่า  " จีน "  เขาไม่ค่อย แฮปปี้  กับที่การ สก๊อต จะแยก ประเทศ อ่ะ ฮา 555

เพราะเขาแสดง  " ความเห็น " กึ่งๆ  บอกว่า  ไม่รอด อ่ะ ฮา

ยายก็กลับมาดูเหตุผล  ว่า " ทำมัย "  เขาแสดงความเห็นอย่างนั้น อ่ะ ฮา
เพราะเป็นเรื่อง  " กิจการภายใน " ของอังกฤษ  อ่ะ ฮา

มาร้อง  อ๋อ  ตรงมันเป็น  "ปัญหา เดียวกัน "  กับเรื่องของจีน อ่ะ ฮา

" อุย์กรู  ซินเกียง  ธิเบต  ฮ่องกง  ไต้หวัน " กำลังเป็น  หนามยอกอก เขาเหมือนกัน อ่ะ ฮา  ::009:: ::009::

5555 ถึงขนาดขู่  จะใช้กำลัง  " ทางทหาร " เข้าจัดการ เชียวอ่ะ ฮา 555555 ::007:: ::007:: ::007::

55555  คะแนน  แยก  ไม่แยก  ยัง  " สูสี "  กันอ่ะ ฮา

เหมือน  ม้าแข่ง  วิ่งออกจากโค้งวัดเบญจ  แย่งกัน ควบ  " เข้าวิน " อ่ะ ฮา

5555  บีบีซี  เขาเอาเหตุการณ์  มาให้เราอ่านกัน อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::


https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1558646724356362/?type=1&theater

บีบีซีไทย - BBC Thai
6 hours ago · Edited
ตลาดเงินตลาดทุนจับตาผลลงประชามติ

อีกไม่กี่ชั่วโมงชาวสกอตจะออกไปใช้สิทธิกำหนดก็จะเริ่มหย่อนบัตรลงประชามติกันแล้ว
ในเวลาเดียวกันความเคลื่อนไหวของตลาดเงินตลาดทุนในระยะนี้
เป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นมาตรวัดที่จับต้องมองเห็นได้รวดเร็วและชัดเจน

อย่างค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมาก
เมื่อโพลชี้ว่าฝ่ายที่หนุนให้สกอตแลนด์เป็นเอกราชอาจแพ้
ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ต่อเงินสกุลอื่นกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย
และส่งผลในทางตรงกันข้ามเมื่อโพลออกมาให้อีกฝ่ายมีคะแนนนำ

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่โพลบอกก็คือ การลงประชามติหนนี้คะแนนจะออกมาสูสี
จึงเป็นผลให้ดัชนีวัดความเสี่ยง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Volatility Index ขึ้นไปเกือบ 20% เมื่อวานนี้
ดัชนีความเสี่ยงตัวนี้เป็นอีกดัชนีที่นักลงทุนจับจ้องไม่แพ้ดัชนีอื่น ๆ
นั่นก็เพราะดัชนีความเสี่ยงก็คือดัชนีความกลัวนั่นเอง ยิ่งดัชนีสูงก็แปลว่านักลงทุนยิ่งไม่มั่นใจและยิ่งกลัว

นายธนาคารบางคนบอกกับบีบีซีไทยว่า
"เพราะไม่ว่าผลลัพธ์จากการลงประชามติหนนี้จะออกมา 'เยส' หรือ 'โน'
ผลกระทบต่อการลงทุนไม่น้อยแน่

ถ้า 'เยส' พวกเขาก็ต้องจับตาดูว่าจะเกิดภาวะลูกค้าในสกอตแลนด์แห่กันถอนเงินฝากออกหรือไม่
ผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลกจะรุนแรงทันที เพราะธุรกรรมแบงกิ้งในปัจจุบันเกี่ยวโยงกันไปหมด
และหากฝ่าย 'โน' ชนะ สิ่งที่รัฐบาลอังกฤษในกรุงลอนดอนไปสัญญาไว้กับชาวสกอต
เพื่อให้พวกเขาโหวตให้อยู่ร่วมกันต่อไป อาจจะเป็นหอกทิ่มแทงทั้งเศรษฐกิจ
และการเมืองต่ออังกฤษเองในระยะยาวได้ ซึ่งก็จะมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนในระยะยาวของบริษัทหลายแห่ง"

อดัม ไมเยอร์ส จากธนาคารเครดิต อะกริโคล บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า
ผลกระทบด้านอัตราแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้นทันที
หากฝ่ายที่สนับสนุนให้สกอตแลนด์เป็นเอกราชชนะ

ค่าเงินปอนด์อาจจะตกได้มากถึงสิบเปอร์เซนต์
แต่หากอีกค่ายชนะ เงินปอนด์จะวิ่งกลับไปที่ 1.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์
(จากอัตราปิดตลาดเมื่อวานที่ 1.63 ดอลลาร์/ปอนด์)

จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมการลงประชามติหนนี้
จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองภายในของอังกฤษเท่านั้น
แต่เป็นสิ่งที่หลายประเทศทั่วโลกอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียไปพร้อม ๆ กับชาวสกอตและชาวอังกฤษ

ขอบคุณท่านผู้การครับ ::014::

ยายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอสักทีได้ไหมยาย ::013::
ไอ้ อะ ครัช นี่มันเคืองสายศิลป์-ภาษา นะยาย
จะครับก็ครับ จะค่ะก็ค่ะ..... อะ ครัช อ่ะ ครัช ..เป็นอีตุ๊ด ไปได้ ฮึ ::009::

 ::014::   ::002::  ขอบคุณความรู้ครับท่านผู้การสุพินท์  + + +

-คนสก๊อตต์..นี่แปลก ชอบใส่กระโปรง
-คนไอร์แลนด์..ล่ะครับ..เป็นพวกไหน ?..ทำไมไม่เก่งเหมือนคนอังกฤษ และสก๊อตต์  

โห  พวกไอร์แลนด์เทียวฆ่าพวกอังกฤษอยู่เรื่อยๆนะท่าน :OO

เป็นคนพื้นถิ่นดั้งเดิมครับ
แต่ก็เก่ง ๆ เยอะนะ  อย่างเช่นบอยล์ คนคิดกฎเรื่องความดันที่นักดำน้ำทุกคนต้องศึกษาให้ดี, เบอร์นาด ชอว์ ก็คนไอริช  เพียซ บรอสแนน ก็ไอริช, พวกเคเนดี ก็เป็นไอริช   ปัจจัยหนึ่งอาจจะอพยพไปอยู่อเมริกากันมาก ประมาณว่ามีคนไอริชอยู่ในอเมริการาวยี่สิบล้านคน อยู่ในไอร์แลนด์แค่สี่ล้าน

ไอร์แลนด์เหนือมีความขัดแย้งกับอังกฤษรุนแรง เพราะความแตกต่างเรื่องศาสนา  อังกฤษเองก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะมีคนอังกฤษที่เป็นโปรแตสแตนท์เข้าไปอยู่อาศัยในไอร์แลนด์เหนือมาก  ถ้าปล่อยให้ไปรวมกับประเทศไอร์แลนด์ คนอังกฤษในไอร์แลนด์เหนืออาจจะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายแทนไออาร์เอ

สกอร์ตแลนด์  ไอร์แลนด์เหนือ กับเวลล์ เขามีรัฐสภา  มีรัฐบาลของตัวเอง มีรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ด้วย แล้วก็มีหัวหน้ารัฐมนตรี แต่ไม่เรียกนายกรัฐมนตรี  เรียกว่าเฟิร์สมินิสเตอร์

ตรงนี้คล้าย ๆ กับอินเดีย  ตรงที่อินเดียมี 29 รัฐ ทุกรัฐมีรัฐธรรมนูญ มีรัฐสภาของตัวเอง มีรัฐบาล มีรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ  แต่เรียก หน.รัฐบาลว่าชีฟท์มินิสเตอร์  แต่ละรัฐมีภาษาของตัวเอง  และมีภาษากลางที่รัฐธรรมนูญรับรองมากถึง 15 ภาษา  ถ้าสกอร์ตแลนด์แยกตัวออกจากอังกฤษ อินเดียก็มีสิทธิแยกออกเป็นยี่สิบกว่าประเทศได้

ขอบคุณครับท่านผู้การ

สงครามชิงบัลลังก์ของอังกฤษที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุดมีชื่อน่ารักมาก  ชื่อสงครามดอกกุหลาบ (Wars of the Roses) เพราะเป็นสงครามระหว่างตระกูลยอร์คกับตระกูลแลงคาสเตอร์ ที่ใช้รูปดอกกุหลาบเป็นตราประจำตระกูลเหมือนกัน  ต่างกันที่สีขาวกับสีแดง  รบกันอยู่นานประมาณสามสิบปี แล้วก็สงบศึกกันแบบบ้านทรายทอง คือให้ลูกหลานแต่งงานกัน  เกิดเป็นราชวงศ์ใหม่ชื่อราชวงศ์ทิวดอร์  ยังใช้ดอกกุหลาบเป็นตราประจำราชวงศ์  กลีบนอกขาว/กลีบในแดง หรือ กลีบนอกแดง/กลีบในขาว อะไรสักอย่างนี่แหละ   เฮนรี่ที่ 8 ที่มีเมีย 6 คน แตกหักกับกรุงโรม แล้วก็ปฏิรูปศาสนาของอังกฤษก็อยู่ในราชวงศ์ทิวดอร์

สงครามดอกกุหลาบยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้  แต่แปรสภาพเป็นกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยยอร์คกับมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์  เรียกว่า Roses Tournament

ขอบพระคุณท่านผู้การ... สรุปย่อวิชาหลายหน่วยกิตเอามาใส่ในไม่กี่ Post, มีเรื่องให้ไปค้นต่อในกูเกิ้ลไม่รู้จบเชียวครับ...

ผมนึกว่าสงครามดอกกุหลาบเป็นเรื่องฟุตบอลของทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ แมนยูไนเต็ดเสียอีก ::014::

เขารบกัน ค.ศ.1455-1485 ตั้งแต่ยังเตะบอลกันไม่เป็นเลยครับ
ก่อนหน้านั้นเป็นสงครามร้อยปี  (ค.ศ.1337-1453) ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส  มีโจนส์ ออฟอาร์ค แม่ทัพหญิงที่อยู่ฝ่ายฝรั่งเศส  กับเริ่มใช้ปืนในตอนท้ายของสงครามนี้ด้วย

ถ้าจำไม่ผิด โจนส์ ออฟอาร์ค สุดท้ายตายเพราะการเมืองใช่มั้ยครับอาผู้การ

เพิ่งเข้าใจเรื่อง Church of England นี่เองทำไมไม่ขึ้นกัย Vatican   ::014::

55555   "  อ่ะ  เคร "   ฮา 5555555  ::007:: ::007:: ::007::

https://www.facebook.com/video.php?v=350707528406329&set=o.188706707983590&type=2&theater

5555  ในระหว่างที่รอ   " Yes  or  No Vote " เรามาอ่าน  บทความข้างล่างกันก่อน อ่ะ ฮา 55555

เขียนโดย   Doungchampa Spencer Isenberg

วันพฤหัสบดี, กันยายน 18, 2557

วิเคราะห์การลงเสียงประชามติในสกอตแลนด์
โพสต์จากบทความส่วนตัวใน Facebook:  วิเคราะห์การลงเสียงประชามติในสกอตแลนด์


อีกประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งข้างหน้า หรือ 7:00 นาฺฬิกา ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557
(เวลา 13:00 น ของประเทศไทย) สกอตแลนด์ (Scotland) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐในประเทศสหราชอาณาจักร (United Kingdom)
จะทำการออกเสียงประชามติ ด้วยคำถามเดียวที่ว่า

“สกอตแลนด์ควรจะเป็นประเทศอิสระหรือไม่?” “Should Scotland be an Independent Country?”

คำถามนี้ มีคำตอบอยู่ว่า ควร (Yes) หรือ ไม่ควร (No)

--------------------------------------------------

ในขณะที่เขียนอยู่ตอนนี้ โพลล์จากหลายสำนักยังให้คะแนนอย่างสูสี
(แบบไม่สามารถฟันธงลงไปได้ หรือ Too Close To Call)
เพราะแนวโน้มของการลงคะแนนเสียงว่า Yes นั้น ได้กระเตื้องขึ้นมาสู้กับ No
ได้ด้วยคะแนน 52-48 และเมื่อมี Margin of Errors อย่างน้อย + หรือ ลบ 4.0 นั้น
ก็ไม่มีใครคาดได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

สกอตแลนด์มีประชากรผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 4 ล้านคน
และคนที่สามารถออกลงคะแนนเสียง จะต้องอาศัยอยู่ในสกอตแลนด์
ไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้า หรือ ลงคะแนนจากต่างประเทศแต่อย่างใด
ถ้าผู้มีสิทธิฺ์ออกเสียงไม่ได้อยู่ที่นั่น ก็ถือว่าสละสิทธิ์ไป

เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมาฝ่าย No Vote นั้น มีคะแนนนำหน้า Yes Vote อยู่ถึง 10 จุดหรือมากกว่านั้น
แต่เมื่อการรณรงค์ของฝ่าย Yes Vote ระดมกันเข้ามาเป็นอย่างหนักทำให้จำนวนผู้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้
หรือ Undecided Voters นั้น เริ่มลดน้อยถอยลงไป และมิหนำซ้ำ การส่งข้อมูลทาง Social Network
ยังทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนเรื่อง No Vote นั้น กลับเปลี่ยนใจมาช่วยฝ่ายของ Yes Vote เสียอีกด้วย

การลงคะแนนเกี่ยวกับประชามติครั้งนี้ จะเปิดคูหาในเวลา 7 โมงเช้า (เวลาท้องถิ่น)
และ ปิดลงในเวลา 4 ทุ่มตรง การนับคะแนนเสียงจะเกิดขึ้นทันทีในวันพฤหัสบดีตลอดทั้งคืน
และควรจะได้รับคำตอบจากประชาชนในเช้าวันศุกร์ หรือราวๆ บ่ายๆ ตามเวลาของประเทศไทย


--------------------------------------------------

ถ้าถามว่า ทำไมมันถึงมีความต้องการที่จะแยกประเทศกัน? คำตอบที่เห็นง่ายที่สุดก็คือ
เมื่อสมัยนายกรัฐมนตรี มากาเรท แท้ชเชอร์ บริหารราชการอยู่นั้น
ได้นำเอาระบบภาษีรูปใหม่เข้ามาปฎิบัติใช้ในสกอตแลนด์เมื่อปี พ.ศ. 2532
นั่นก็คือ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ก่อให้เกิดความคิดที่จะแยกตัวออกไป

หลังจากนั้น พรรคการเมืองชื่อว่า Scottish National Party หรือ SNP
ก็เริ่มมีบทบาทหลังจากเรื่องภาษีนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นพรรคระบบสังคมนิยมประชาธิปไตย
(Social Democratic System) และหลายๆ ประเทศในยุโรป  ก็อยากให้มีความเป็นอิสระ
จากการปกครองของประเทศอังกฤษ หลังจากปี 2542 เป็นต้นมา พรรค SNP นี้ก็เริ่มได้รับการสนับสนุน
ทางการเมืองภายในสกอตแลนด์ รวมไปถึงกลุ่มที่ไม่ชอบหน้านายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลย์ด้วย
เมื่อปี พ.ศ. 2553 พรรค SNP กลายเป็นพรรคที่ได้รับเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาสกอตแลนด์
ก็ได้รับชัยชนะในการถกเถียงปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการแยกตัวออกเป็นอิสระจากรัฐบาลของนายเดวิด แคเมอรอน
--------------------------------------------------

สิ่งที่น่าจะนำไปคิดก็คือว่า ถ้าสกอตแลนด์เป็นประเทศอิสระแล้ว มันจะเป็นอย่างไรบ้าง?

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ฝ่าย Yes Vote มีความหวาดหวั่นเกี่ยวกับเรื่อง หนี้สินต่างๆ ที่ก่อไว้ใน
สมัยที่ยังรวมตัวกับสหราชอาณาจักรอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ต้องการแยกตัวออกไปนั้น
มีความมั่นใจอย่างแข็งขันว่า สามารถแยกตัวออกไปจากความครอบงำของฝ่ายสหราชอาณาจักรได้
และ เศรษฐกิจจะมีรูปแบบใกล้เคียงกันกับ ประชาธิปไตยสังคมนิยมของประเทศต่างๆ ในเขตแสกนดิเนเวีย

และตามประวัติศาสตร์แล้ว ทางฝ่ายสกอตแลนด์ก็ยังมีความใกล้ชิดทางประวัติศาสตร์
กับกลุ่มแสกนดิเนเวียมากเสียด้วย และถึงแม้ว่าจะแยกตัวออกไปแล้วก็ตาม ตนเองก็ยังมีทรัพยากรธรรมชาติ
เช่นน้ำมัน รวมไปถึงยังเป็นสมาชิกของสนธิสัญญานาโต้ (NATO) รวมไปถึงระบบรักษาสุขภาพกับประชาชนอันยอดเยี่ยม
และการสังคมสงเคราะห์และการศึกษาฟรีในระดับอุดมศึกษาด้วย


ส่วนการค้าการพาณิชย์นั้น กลุ่มที่จะกลายเป็น Swing Votes หรือทำให้เกิดตัวแปรผันในการลงคะแนนเสียง
ก็คือกลุ่ม ผู้อพยพเข้าไปอยู่และมีถิ่นฐานถาวรคือ Immigrants นั่นเอง พวกนี้จะกลายเป็นตัวแปร
ในเรื่องการออกเสียงสำหรับฝ่าย Yes Vote เพราะนำเอาประสบการณ์ของรุ่นพ่อหรือรุ่นของตนเองที่เคยมีอยู่
กับการเป็นประเทศอาณานิคมอย่างเช่นอังกฤษ หรือฝรั่งเศสเข้ามาขบคิดด้วย
ดังนั้น ตัวแปรจริงๆ คือกลุ่ม Immigrants นี่เอง ที่จะสร้างผลว่า จะกลายเป็น Yes หรือ No
(ตามข้อมูลกล่าวว่า ฝ่าย Immigrants มีจำนวนอยู่ประมาณ 4.5-6 เปอร์เซ็นต์ ที่มีสิทธิ์์ออกเสียงในการทำประชามติได้)


--------------------------------------------------

สำหรับเรื่องการเงินแล้ว การประชาสงเคราะห์โดยสกอตแลนด์ประเทศเดียว จะมีราคาแพงมากๆ
และไม่สามารถที่จะจ่ายเงินเหล่านี้ได้ นอกเสียจากต้องพึ่งพากับประเทศสหราชอาณาจักร
และอาจจะต้องตัดงบประมาณหลายอย่างเช่น สวัสดิการ, เงินบำนาน และระบบสาธารณสุขในปีแรกๆ
เพื่อที่ประเทศของตนเองจะสามารถรอดอยู่ได้


และทางกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรเองก็บอกว่า ประชาชนชาวสก็อตเอง
จะมีเงินเพิ่มประมาณ 1,400 Pounds ต่อปี (เกือบ 7 หมื่นบาท) ต่อคน
ถ้าประชากรของสกอตยังอยู่ในประเทศสหราชอาณาจักร


แต่กลุ่มที่เป็นฝ่าย Yes Vote นั้นกล่าวว่า ตัวเลขที่ออกมาไม่จริงแต่อย่างใด
และสกอตแลนด์เอง ก็ยังมีฐานะการเงินที่ยอดเดยี่ยม GDP ของสกอตแลนด์ตกอยู่ที่ $38,069 ต่อปี
ซึ่งสูงกว่า ประเทศฝรั่งเศส, อิตาลี, ญี่ปุ่น และที่สำคัญที่สุดคือ มากกว่าทุกๆ ประเทศในสหราชอาณาจักรด้วย


และเมื่อกล่าวถึงระบบการศึกษาและการประชาสังคมที่ยอดเยี่ยมแล้ว ข้อมูลได้แสดงว่า
ฝ่ายสกอตแลนด์เอง เป็นฝ่ายส่งภาษีอากรเข้าไปให้กับรัฐบาลของสหราชอาณาจักร
มากกว่าแคว้นอื่นๆ ทั้งหมดอีกด้วย



แต่กลุ่มนักธุรกิจที่มีผลประโยชน์ทั่วทั้งประเทศสหราชอาณาจักร ทำการข่มขู่ว่า
จะถอนตัวออกไปจากสกอตแลนด์ ถ้าเกิดกลายเป็นประเทศอิสระไป
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะต้องคิดกันดีๆ นั่นก็คือ น้ำมันดิบจากทะเลเหนือนั่นเอง
เพราะสกอดแลนด์สามารถค้าขายน้ำมันได้อย่างเป็นอิสระ ทางประเทศนอร์เวย์ก็สร้างตัวอย่างไว้แล้วว่า
สามารถตั้งกองทุนสำรองเพื่ออธิปไตยของประเทศ (Sovereign Wealth Fund)
และนำเอาผลกำไรที่มีนั้น ไปลงทุนในเรื่องทรัพยกรธรรมชาติอย่างอื่นแทนได้
แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านั้น อาจจะสูงเกินความเป็นจริงก็ได้


--------------------------------------------------

สกอตแลนด์จะใช้เงินสกุล Pound Sterling อยู่หรือไม่?

คำตอบที่ได้รับคือ จะใช้ เงินสกุล Pound อยู่ แต่รัฐบาลของประเทศอังกฤษเอง กลับบอกว่า ไม่
และจะไม่ยอมให้สกอตแลนด์ใช้เงิน Pound อย่างเด็ดขาด

แต่อย่างไรก็ตาม ทางลอนดอน ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งไม่ให้ สกอตแลนด์ใช้เงิน Pound ในประเทศอิสระได้
 เหมือนกับที่ประเทศเอควาดอร์ใช้ U.S. Dollar

สกอตแลนด์ก็สามารถสร้างเงินสกุลของตนเองได้ แต่ยังไม่มีการรณรงค์ในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ถ้าเกิดไปรวมกลุ่มกับทางสหภาพยุโรปแล้ว ก็คงจะต้องถูกบังคับให้ใช้เงินสกุล Euro แทน
และทางสกอตแลนด์เองก็คงไม่อยากจะให้เกิดแบบนั้นขึ้นมา

--------------------------------------------------

อะไรจะเกิดขึ้นถ้า สกอตแลนด์กลายเป็นประเทศเอกราชไป?


ประเทศสหราชอาณาจักรก็จะสูญเสียประชากรไปเป็นจำนวน 8 เปอร์เซ็นต์
และจะสูญเสียรายได้ส่วนใหญ่จากการค้าในเขตทะเลเหนือ รวมไปถึงกองกำลังทางทหารอีกด้วย

ส่วนชื่อของประเทศเองนั้น หลังจากที่มีการรวมตัวกันมานานถึง 300 ปี
ฝ่ายสกอตแลนด์เองก็มีความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษหรือ Britain เอง
รวมทั้งธงชาติอีกด้วย (ธงของอังกฤษจะเป็นเหมือนกาชาด ของ St. George)
ในขณะที่ธงของสกอตแลนด์เป็นเส้นไขว้สีน้ำเงินตัดกันของ St. Andrew
และถ้าสกอตแลนด์ออกไปแล้ว ธงส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรเองก็ควรจะนำออกไปด้วย


แต่สิ่งที่สำคัญคือ ความเป็นมหาอำนาจของประเทสสหราชอาณาจักรก็เริ่มลดลงไปทีละน้อย
และส่วนเรื่องจำนวนประชากรของสกอตแลนด์เอง ก็เป็นเรื่องเล็กๆ
แต่การโหวดเพื่ออิสรภาพนั้นจะมีผลกระทบออกมาอีกหลายรูปแบบทีเดียว

พรรคการเมือง SNP นั้น ต้องการให้สกอตแลนด์เป็นประเทศที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์
และอาวุธเหล่านี้ยังถูกเก็บอยู่ในดินแดนของตนรวมถึงในน่านน้ำอีกด้วย
เรื่องนี้ นำความปวดเศียรเวียนเกล้ามาสู่รัฐบาลอังกฤษ เพราะเรือดำน้ำนิวเคลียร์ติดอาวุธเกือบทั้งหมด
อยู่ในฐานทัพของสกอตแลนด์ เมื่อทางพรรคการเมืองต้องการให้ประเทศกลายเป็น Nuclear Free แล้ว
ก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องทำสัญญากับประเทศในองค์กรนาโต้ด้วย


แต่ถ้าความต้องการแยกประเทศได้รับชัยชนะขึ้นมา ก็อาจจะก่อให้เกิดความเคลื่อนไหว
อย่างควบคุมได้ยากในประเทศต่างๆ ของทวีปยุโรป ที่ต้องการจะแยกตัวออกไปบ้าง
ในเวลานี้ ก็มีการรณรงค์ในเขตคาทาโลเนียซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศสเปน
เพื่อการแยกตัวออกไปบ้าง และกำลังมีการดำเนินการนำเอาระบบประชามติเข้ามาทำแบบเดียวกัน
ที่บาเซลโลน่า ก็มีการประท้วงในการแยกตัวออกไป และกล่าวว่า มีผู้สนับสนุนอยู่ถึง 1.8 ล้านคน


การแยกตัวออกไปนั้น ก่อให้เกิดรัฐอิสระต่างๆ ขึ้นมา และเปิดประตูให้กับผู้อพยพเข้าเมืองใหม่
และถ้ากล่าวถึงเรื่องชาตินิยมเผ่าพันธุ์ที่เปลี่ยนรูปแบบแผนที่ของยุโรปเองในเวลาศตวรรษที่ผ่านมา


--------------------------------------------------

สำหรับประเทศไทยเอง ก็คงจะเห็นแบบเผินๆ จากกลุ่ม Royalists ประเภทที่ว่า ถ้าฝ่าย Yes Vote เกิดชนะขึ้นมา
ก็อาจจะบอกว่า ไม่สามารถนำเข้ามาใช้กับประเทศไทยได้ เพราะสถานการณ์เป็นคนละอย่างกัน
แต่ถ้าฝ่าย No Vote เกิดชนะขึ้นมา ก็จะบอกว่า นี่ไง ยังมีประชากรในสหราชอาณาจักรเป็นจำนวนมาก
ที่ยังรักและเคารพ Monarchy Institution อยู่นะ ฯลฯ ซึ่งก็อาจจะเห็นการโพสต์แบบนี้ กลายเป็นเรื่องน่าทึ่งจริงๆ
(ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในโลก Social Media ของไทยเสมอ)


ในเวลานี้ ฝ่าย No Vote กำลังได้เปรียบอยู่นิดหน่อย ซึ่งมีแนวโน้มว่า
สกอตแลนด์จะอยู่คู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป (จากโพลล์ 52 ต่อ 48)


แต่ก็ต้องรอการนับคะแนนอย่างเป็นทางการก่อน แล้วพรุ่งนี้ เราก็คงเห็นผลแล้วค่ะ
ว่า สกอตแลนด์จะกลายเป็นประเทศอิสระหรือไม่ ติดตามอ่านข่าวประกอบก็แล้วกัน.....

ไม่เคยอ่านประวัติอังกฤษลึก ๆ แบบนี้เลยครับ

ขอบคุณท่านผู้การสุพินท์ครับ

5555   สถานะการณ์  "  Yes  or  No "   ยังสูสี  อ่ะ ฮา  5555

ฝ่าย  NO  ดูเหมือนว่า  " นำ " ประมาณ  10 %  อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

55555  ตามไปดู  " รายงานสด "  ได้ที่ลิงค์ ข้างล่าง อ่ะ ฮา 5555  ::007:: ::007:: ::007::


http://www.mirror.co.uk/news/world-news/live-scotland-referendum-poll-results-4284826

ถ้าไม่แยกรัฐบาลคงต้องหันมาดูแลสก๊อตแลนด์มากขึ้น

นับคะแนนเสร็จแล้ว..ไม่แยกได้ 54 %, แยกได้ 46 %..สรุปว่าไม่แยกครับ..แหมพลิกล็อก

(http://s2.postimg.org/py8m9s5bd/1208495_1559050677649300_7362851154081011758_n.jpg) (http://postimage.org/)

แถวบ้านเรียกเยี่ยวเหนียวครับ

55555  อเลก เอ็งแพ้โหวต  อย่าเอาคน  ไปยึด  " ทำเนียบ "  น๊าาา  อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::


อเลก ซาลมอนด์ นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์

“ผมขอให้ชาวสกอตทั้งปวงยอมรับคำตัดสินอย่างเป็นประชาธิปไตยของคนสกอต
การลงประชามติครั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการที่มีการตกลงและเห็นชอบร่วมกัน
คนสกอตตัดสินใจ ณ ขณะนี้ว่าไม่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราช และผมยอมรับคำตัดสินดังกล่าว

อังกฤษก็ไม่ต่างอะไรที่คนไทยบ้าหวยหรอกพนันมันได้ทุกเรื่องแถมเป็นบริษัทรับแทงพนันอย่างถูกกฎหมายเสียด้วย
เพียงแต่ไม่ไปขอหวยจาก กล้วยสามปลี หมีสามขา หมาสามหู แบบบ้านเราทุกกลางเดือนสิ้นเดือนแบบบ้านเราเท่านั้น

เชื่อครับพี่ดุล บอลมีทุกวี่ทุกวัน เดือนละเป็นร้อยๆคู่ ตายพอดี  :<< +

บ้านเราน่าเอามั่ง หวยบนดิน ทำระบบดิจิตอลเลข กดจิ้มเลขเลย จ่ายเงินปุ๊บ บิลออกปั๊บ เข้าระบบServerทันที พวกอยากขายล๊อตเตอร์ใบละพันก็เชิญ ถ้ากลัวคนพิการขาดรายได้ ก็ทำพอกเกตPDA แบบเครื่องเขียนบิลค่าไฟ

 บ่อนาสิโน ก็เปิดแบบ7-11ไปเลย เงินจะไม่ไม่ไปตกแก่ตะกวดอย่างเดียว

คุณโสก็ขึ้นทะเบียนไปเลย จ่ายภาษีมันโลด

555555  พอโหวด  " Yes or No "  จบ  ปัญหา ตามมาเชียว อ่ะ ฮา 5555

https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1559104727643895/?type=1&theater

บีบีซีไทย - BBC Thai

 ประชามติสกอตแลนด์:ผ่านพ้นสภาพหนักหนาเข้าสู่ภาวะสาหัส

การลงประชามติเรื่องสกอตแลนด์ขอแยกเป็นประเทศอิสระผ่านไปแล้ว

แต่ปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่รับปากจะทำ
เป็นประเด็นที่สาหัสและยืดเยื้อ มาดูข้อเท็จจริงบางประการกัน

1   สหราชอาณาจักรยังประกอบด้วยสี่ชาติ คืออังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
     เราเรียกชาติเหล่านี้โดยรวมว่ายูเค   ส่วนประชาชนเรียกตัวเองว่า บริติช ซิติเซน

2   บริติช ซิติเซน ราว 1.6 ล้านคนโหวตขอแยกสกอตแลนด์เป็นประเทศ
     และนายอเลก ซาลมอนด์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีหรือมุขมนตรีของสกอตแลนด์

3   ผู้นำพรรคการเมืองใหญ่สามพรรคให้สัญญาว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งใหญ่
     เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกชาติที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นยูเค
     การต่อรองเรื่องนี้นัยว่าจะสาหัส

4    เพราะ อเลก ซาลมอนด์ คงต่อรองหนัก
      และผู้แทนจากอังกฤษก็คงเรียกร้อง "ขอความเป็นธรรม" หนักเช่นกัน

5    นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร
      บอกว่า ส.ส. อังกฤษจะโหวตเรื่องกฏหมายที่เกี่ยวกับอังกฤษ
      เรื่องนี้พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะอาจทำให้เกิดการแบ่งพวกขึ้นในสภาเวสมินสเตอร์
      และถ้าพรรคไหนขึ้นมาเป็นรัฐบาลของยูเค แต่มี ส.ส.เสียงอังกฤษไม่ถึงครึ่ง
      ก็อาจออกกฏหมายบางฉบับที่เกี่ยวข้องกับอังกฤษไม่ได้

ปัญหาหนักหนาสาหัสที่ต้องหาคำตอบก็คือ
ต่อไปนี้อำนาจการปกครองจะตกอยู่ที่ไหน
กับใครและอย่างไร

https://www.facebook.com/doungchampa/posts/689670001129902:0


Doungchampa Spencer Isenberg at Glacier Bay National Park and Preserve
Yesterday at 09:00 · Edited ·

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงติดตามการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด
และจะมีคำแถลงการณ์ออกมาจากสำนักพระราชวัง เพื่อเยียวยาสร้างความสมานฉันท์
จากความชอกช้ำในเรื่องการรณรงค์ครั้งนี้

(ย่อความจาก: The Queen is watching referendum results 'closely'
and is poised to issue a statement to heal the wounds of the campaign --
อ้างอิง: http://www.dailymail.co.uk/news/article-2761562/
The-Queen-watching-Scotland-referendum-results-closely-poised-issue-statement.html)

เมื่อผลของการทำประชามติเป็นที่เสร็จสิ้นลงไปแล้ว พระองค์จะมีพระดำรัส
ให้กับประชาชนได้ทราบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเป็นความพยายามของพระองค์
ที่จะนำความสมานฉันท์เข้ามาสู่ประเทศต่อไป

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีความสนพระทัยอย่างเป็นพิเศษต่อเหตุการณ์
จนขนาดที่พระองค์ต้องทำการเข้ามา "แทรกแทรง" ในการรณรงค์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยทรงขอร้องว่า ให้พิจารณาต่อเรื่องประชามติอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด
โดยทรงมีกระแสพระดำรัสว่า "ให้ทำการใคร่ครวญต่ออนาคตของตนเองอย่างถี่ถ้วน"
และเจ้าชายแฮรี่ก็มีพระดำรัสเช่นกันว่า พระองค์ทรงหวังว่า สกอตแลนด์จะอยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไปในปีหน้าด้วย

----------------------------

ตา่มความคิดเห็นโดยประชาชนทั่วไป (ซึ่งทำการวิพากย์วิจารณ์ถึงพระดำริของพระองค์ได้)
กล่าวว่า พระดำรัสของพระองค์นั้น มีนัยยะว่า ทรงต้องการเป็นพระราชินีปกครองทุกรัฐ
และแว่นแคว้นของประเทศในเครือสหราชอาณาจักรทั้งหมด

เมื่อสมัยที่มีการก่อตั้งรัฐสภาของสกอตแลนด์ในปี พ.ศ. 2520 นั้น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ทรงให้พระดำรัสอย่าง แข็งกร้าว ด้วยการขู่เตือนว่า อย่าคิดจะแยกตัวออกไปจากสหราชอาณาจักรอย่างเด็ดขาด

พระองค์ทรงตรัสว่า "ฉันไม่สามารถลืมได้ว่า ฉันยังได้รับตำแหน่งพระราชินีของสหราชอาณาจักร
ของประเทศอังกฤษ และของประเทศไอร์แลนด์เหนืออีกด้วย"

"บางทีวโรกาสนี้ (รัชดาภิเษก) ก็เป็นเวลาที่จะเตือนตัวเอง คำนึงในเรื่องผลประโยชน์
ที่การอยู่ร่วมกันได้นำมามอบให้ ทั่วทั้งในประเทศบ้านเมืองเรา และในการเจรจาระหว่างชาติ
รวมไปถึงประชากรทุกหมู่เหล่า และทุกๆ ส่วนของสหราชอาณาจักร"

แต่ทางสำนักพระราชวังที่บังกิ้งแฮมเอง ก็ได้ออกแถลงการณ์อย่างเข้มงวด ด้วยการเตือนว่า
"สถาบันกษัตริย์อยู่เหนือจากการเมืองทั้งปวง" และย้ำว่า
"บุคคลที่ทำงานอยู่ในสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองนั้น
มีหน้าที่ที่จะต้องสร้างความมั่นใจว่า เรื่องแบบนี้จะต้องปฎิบัติตามธรรมเนียมอยู่อย่างเสมอ"

----------------------------

ความคิดเห็นของผู้แปล:

(เชิญแชร์ได้ตามสบายค่ะ)

จาก Exit Poll และการนับคะแนนที่ผ่านมาแล้ว ดิฉันมั่นใจว่า No Vote จะได้รับชัยชนะ
เกี่ยวกับการลงประชามติของสกอตแลนด์

----------------------------

และตัวดิฉันเองก็คิดว่า เมื่อโลกและเวลาเปลี่ยนไป สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ก็คงจะทรงปรับพระองค์ตามสถานการณ์ และคงจะไม่มีพระราชดำรัสออกมาแบบ "ขวานผ่าซาก"
เหมือนปี พ.ศ. 2520 เป็นแน่ เพราะโลกใน Social Media นั้น มันเป็นโลกที่ไร้พรมแดน
และถ้าพระราชเสาวนีย์ของพระองค์เกิดออกมาแบบดูถูก ผู้คน
และคนฟังทั้งโลก สถาบันของพระองค์เองก็จะต้องเสื่อมไป

การจะเป็นผู้นำของประเทศมันไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เพราะคำพูด
หรือพระดำรัสของพระองค์จะเป็น "นาย" ของพระองค์เอง
และมันไม่สามารถที่จะปกปิดหรือแก้ไขในโลก Social Media ได้
แต่ดิฉันคิดว่า พระองค์ทรงมีความฉลาดเฉลียวพอที่จะกล่าวอย่างไร
ที่คนธรรมดาฟังแล้ว ทำให้ บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น....
ไม่ต้องมีการมาถากถางคนแพ้ หรือ สรรเสริญคนชนะจนเกินไป...

และถ้าพระองค์มีพระดำรัสที่ดี ชื่อเสียงในการเยียวยาสมานฉันท์ของพระองค์
ก็คงจะกระหึ่มไปทั่งทั้งโลก (และสัญญาณการกระจายเสียงอาจจะข้ามสู่ "ดาวอังคาร"
และพ้นขอบฟ้าสุดจักรวาล ต่อไปอีกเป็นเวลานับสิบๆ ปีก็ได้นะคะ...)

Happy Friday ค่ะ

Doungchampa Spencer Isenberg

อยากรู้อัตราต่อรอง 800000 ปอนด์นี่ได้กลับมาเท่าไร ;D ;D ;D