จากที่อ่านมาผมมีความคิดว่าน่าอิจฉาคนในเมืองหลวงที่สามารถใช้สิทธิของเราได้เต็มที่ตามสิทธิที่เรามีอยู่
เฉพาะเรื่องใบอนุญาตินะครับ แต่คนตามต่างจังหวัดใกลปืนเที่ยงอย่างผมหรือ อีกหลายๆท่านต้องยอบรับสภาพกับพฤติกรรมเ...ล....ว
ของนาย.......ตามแต่ละท้องที่รวมทั้ง.....หน้าห้อง...ปลัด.....เจ้าหน้าที่......จริงอยู่ทำงานไกลเจ้านายในกระทรวงคงต้องเก็บเงินเก็บทอง
(จากประชาชน)หยอดกระปุกไว้ยามสิ้นปี โยกย้ายจะได้ขยับไปนั่งเก้าอี้ที่ใหญ่ขึ้น กินคำโตมากขึ้น โดยที่ท่านเหล่านั้นเคยคิดหรืไม่ว่า
ตอนท่านสอบเข้ารับราชการ นั้นท่านตั้งปฏิธานไว้ว่าอย่างไร ท่านมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อบำบัดทุกข์
บำรุงให้แก่ประชาราชอย่างไร หรือท่านเหล่านั้นมีเพียงความตั้งใจว่าจะรับราชการเพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง ผมสังสัยอยู่วา
มาตรฐานของกระทรวงฯที่ควบคุมดูแล หน่วยงานนี้เคยส่งสายสืบออกสอดส่องบ้างหรือเปล่าครับ
ส่วนตัวผม เสียตั้งแต่กระบอกแรก ป.3 ราคา 1000 บาท ป.4 500 บาท กระบอกสอง ป.3 ราคา 6 บาท ป .4 500 บาท
กระบอกที่สาม ควบกระบอกที่สี่(357สองกระบอกสั้นหนึ่งยาวหนึ่ง) 8000 บาท ตอนนี้กระบอกที่ 3 ใบ ป.3 ออกแล้ว
(แต่ยังไม่ได้จ่าย)กระบอกที่ 4 ยังไม่มีวี่แววเลย ด้วยความเคารพครับผมก็เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่เสียภาษีให้กับรัฐอย่างถูก
ต้องตามกฏหมายแต่ต้องโดนแบบนี้บางครั้งผมก็มีความเครียดแค้นเจ้าหน้าที่รัฐแบบนี้เหมือนกันครับ แต่มีคนบน(อภ.)เขาพูดว่า
มีเงินซึ้อปืนตั้งหลายหมื่นกับอีแค่บริจากนิดหน่อยจะเป็นไรไป(เป็นคำพูดของคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองคนทั้งอำเภอ
นายสมชายพูดแล้วอย่าโกรธนายสมชายเล่าครับ... แฮ่ๆ...
ก็ท่านไม่สู้เอาเสียเลยนี่ครับ... ที่ว่าสู้น่ะ ขอให้สู้ตามช่องทาง สู้ในแบบที่ถูกต้องครับ เช่น 1) ยื่นเรื่องให้ได้ หากไม่ยอมรับเรื่องหรือบ่ายเบี่ยงไม่ยอมแจกคำร้อง ก็ต้องต่อสู้... 2) ยื่นเรื่องแล้วดองเรื่อง ไม่ยอมปฏิเสธเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ต้องต่อสู้... 3) ปฏิเสธแล้วมีข้อบกพร่องให้ถูกปฏิเสธได้ เช่นขาดหลักฐานโน่นนี่ ก็หาหลักฐานมาให้ครบถ้วน... ก็ต้องต่อสู้... 4) หากหลักฐานที่ขอเพิ่มเติมเป็นหลักฐานที่ไม่ได้กำหนดไว้ในกฏหมาย(เช่นขอหลักฐานการเงินจำนวนมากเกินควร หรือขอสำเนาโฉนดที่ดินฯ) ก็ต้องต่อสู้... 5) หลักฐานครบแล้วไม่อนุญาตอีก ค่อยดำเนินการขั้นสุดท้ายคือฟ้องศาลปกครองครับ...
ขอให้ทราบด้วยว่า... ข้าราชการไม่กลัวถูกฟ้องศาลปกครอง เพราะถูกฟ้องแล้วตัวเองก็ไม่เสียหาย จะอ้างคำสั่งนายตะพึด ยกเว้นนายฯ ลอยตัวหนีก่อนเลย... ฮา
แต่ข้าราชการกลัวเรื่องราว"ก่อน"ฟ้องศาลปกครอง... เพราะระหว่างเกิดเรื่องฟ้องศาลปกครองจะมีการขอเอกสาร ขอหลักฐาน ขอความร่วมมือจากส่วนราชการอื่น เช่นตำรวจต้องรับแจ้งความว่าอำเภอไม่แจกคำร้อง ป.1 หรือแจ้งความว่าเจ้าหน้าที่อำเภอไม่รับคำร้อง ป.1 ... หรือ กำนัน ผญบ. ต้องออกคำรับรองว่าลูกบ้านไม่มีพฤติกรรมเกกมะเหรก เกเร ฯลฯ... ซึ่งทั้งหมดนี่สามารถทำลายบารมีของข้าราชการฝ่ายปกครองครับ...
ข้าราชการฝ่ายปกครอง สามารถปกครองคนได้ด้วย"บารมี"ซึ่งเกิดจากลูกบ้านเลื่อมใส เป็นการปรามไม่ให้มีผู้คิดทำผิดกฏหมายครับ... แต่เมื่อใดเกิดเรื่องเป็นช่องให้คนอื่นติฉิน นินทา ว่าร้าย... ข้าราชการปกครองจะเสื่อมบารมี...
ระหว่างที่รวบรวมหลักฐานเนี่ย เรื่องไปถึงไหน ส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องเขาก็จะรู้ไปทั่ว... ดังนั้นขั้นตอนนี้ต้องเยื้อเข้าไว้ครับ เยื้อเข้าไว้ หาหลักฐานเพิ่มเติมแยะๆเข้าไว้... ป่าวร้องเรื่องเข้าไว้...
ข้าราชการที่ฉลาดจะเรียกให้มารับใบ ป.3 ดีกว่าเกิดเรื่องให้แม่ค้าในอำเภอแอบนินทาครับ... ฮา