งั้นก็ผ่านครับ ไม่มีอะไรแล้ว ที่เหลือก็การดูแลปืนอย่างเพื่อนว่า
อ้อ...อีกอย่างข้อเสียของลูกซองใช้แม็กก็คือ เวลายิงไปจะโหลดกระสุนไปเหมือนปืนใช้หลอดกระสุนไม่ได้
ต้องเปลี่ยนแม็กอย่างเดียว จะเปลี่ยนตอนไหน ตอนยังเหลือ2-3นัด หรือรอให้นัดสุดท้ายเข้ารังเพลิงก่อน
แล้วค่อยใส่แม็กที่2 แต่เวลานั้นจะค้างสไลด์ไม่ได้ ไม่งั้นต้องดีดนัดที่ว่าออกเพื่อค้างลูกเลื่อน
สรุป ง่ายที่สุดคือรอลูกหมด ลูกเลื่อนค้างแล้วใส่แม็กใหม่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากบริหารเป็นๆ ลูกซองไซก้าก็สามารถยิงได้ไวไม่แพ้ปืนใช้หลอดกระสุนครับ
เฮียตัง ร้านเบลดส์ แอนด์กันส์ เป็นคนหนึ่งที่ใช้ไซก้าล่าถ้วยรางวัลชนะปืนใช้หลอดกระสุนครับ
จะได้ยินชาวลูกซองชนิดแม็กหลอด บอกเสมอว่าลูกซองหลอดยิงไปก็โหลดลูกไป มันก็จริงครับ ถ้าสถานการณ์อำนวย แต่ถ้าต้องยิงต่อเนื่องจนหมดท่อ แล้วทีนี้จะทำยังไงครับ
ปืนลูกซองใช้แม็กกาซีนตลับ ( ฝรั่งเรียกว่า box magazine) ก็ไม่ต่างกับปืนพกกึ่งออโต้ หรือไม่ต่างกับปืนไรเฟิลจู่โจม ไม่เห็นผู้ใช้ปืนเหล่านั้นกังวลว่าบรรจุกระสุนไปเรื่อยๆไม่ได้ ยิงหมดแม็กก็เปลี่ยนแม็กใหม่ซิครับ
ไม่งั้นทุกวันนี้ตำรวจทหารก็คงยังใช้ปืนยาวคานเหวี่ยงกันอยู่เพราะมันบรรจุกระสุนไปได้เรื่อยๆเหมือนกันนี่ครับ อิอิ
อย่าเพิ่งซื้อแม็กเยอะไปครับ กำลังจะมีแม็กแถวคู่ออกมาขาย ก็ของนาย Mike แหละ
แม็กแถวคู่
แบบนี้ใส่ 15 นัดถึง 20 นัดได้สิพี่
มันขัดลำบ่อยมากครับ น้อยครั้งที่เจอยิงจะไม่ขัดเลย เลยเลือก Benelli M4 เก็บไว้ Saiga ขาย
ของผมรันอินด้วยลูก 100 เม็ด ยังไม่ติดขัดเลยแฮะ แสดงว่าผมคงเป็นส่วนน้อยแฮะ
เป็นผมขาย m4 ซื้อไซก้ารุ่นใหม่ แล้วซื้อแม็กมาตุน + กระสุนบานเบอะ
อย่าเพิ่งซื้อแม็กเยอะไปครับ กำลังจะมีแม็กแถวคู่ออกมาขาย ก็ของนาย Mike แหละ
เจ้าของเดียวกับแม็กดรัมใช่ไหมครับพี่
นายคนนี้ช่างประดิษฐ์จริงๆ น่าชวนมาอยู่ประเทศไทยบ้างนะครับ แหะๆ
อ่ะ..อ่านเอาเอง อิอิ
http://forum.saiga-12.com/index.php?showtopic=44279อย่างที่พี่เจษว่า ผมว่ามันเป็นวิวัฒนาการของปืนลูกซองมากกว่าสมัยก่อนคานเหวี่ยง แล้วมาปั๊มต่อมาออโต้ แต่ยุคแรงๆของลูกซองออโต้ต้องยอมรับว่าสู้ระบบปั๊มไม่ได้เลยแรงรีคอยล์ก็มากกว่ากันแถมยิงซ้ำก็ช้ากว่าแบบปั๊มซะออก
พอมาถึงยุคลูกซองแบบ Magazine ก็เหมือนกัน ทั้งใหญ่ทั้งหนักเหมือนลูกซองUSAS-12 แต่ต่อมาก็พัฒนาดีขึ้นจนถึงยุคAA-12 ที่ปืนทำจากสแตนเลสดูแลบำรุงรักษาง่ายเชื่อถือได้มากขึ้น
ที่รู้เพราะดูสารคดีมาครับ