๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

อยากทราบเฉยๆครับว่าหากท่านประสบเหตุการณ์แบบนี้ท่านจะทำอย่างไรกัน เพราะทุกวันเหตุการณ์อย่านี้มันเกิดขึ้นเกือบทุกที่และสร้างความหวาดกลัวกับเราหากออกไปข้างนอกตอนหัวค่ำและกลางคืนกับคนที่เรารัก แล้วเราจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์เช่นนี้ดีครับ
เรียนรู้เป็นครูก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป

มีคำตอบในใจแล้วครับ  ขอยังไม่โหวตครับ   :)

 ;D ที่จริงกรณีอย่างนี้ต้องดูสถานการณ์ ณ เวลานั้น ๆ ครับ ว่าควรจะทำอย่างไร แต่ถามมาอย่างนี้เลยต้องโหวด ที่โหวดไปคือวิ่งหนีครับ เพราะเป็นสิ่งแรกที่ผมคิดจะทำเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในสถานการณ์จะทำได้หรือไม่หรือทำอย่างไรก็อีกเรื่องนึงครับ ;D

 :)
ครับ
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบที่ว่า  สิ่งแรกที่ทำคือพาแฟนหนีครับ
เมื่อหนีแล้ว ไม่ขอต่อกรแล้ว  ยังราวี จนดูแล้วเป็นอันตรายแน่นอน ไม่มีทางหนีแล้ว...
 ???...
สิ่งสุดท้ายก้อคงต้องป้องกันตนเอง พลาง....หนีต่อพลาง...
 8)

ทั้งตอบและทั้งโหวต ลำบากครับ.........คำถามนี้

เพราะถ้าคนกำลังจะเข้ามาทำร้ายมีอาวุธอยู่ในมือหรือไม่?.............คนร้ายมีความมุ่งมั่นแค่ไหน

แต่ขอโหวต หยิบปืนขึ้นมาขู่ครับ......เพราะผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ มาแล้วหลายครั้ง.........มียิงขึ้นฟ้าครั้งเดียว นอกนั้นแค่หยิบ 1911 ออกมาขึ้นลำ แล้วชูให้ดู พร้อมขู่ว่า เฮ้ย.........นี่ปืนนาเว้ย ถ้าไม่อยากตายก็ไปซะ.................ปรากฎว่า มันทั้งไม้ทิ้งเหล็ก วิ่งหนีครับ

แต่ถ้าขู่ขนาดนี้ ยังวิ่งเข้าใส่............ก็ต้องยิงครับ ไม่มีเวลาคิดแล้ว  ??? ???

...... ;D..กระทู้นี้ผม ขอไม่ออกความเห็น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเจรจา วิ่งหนี ยิงขึ้นฟ้า หรือยิงต่อสู่   มันขึ้นอยู่กับเหตุการที่เจอตอนนั้นครับ คงเอาคำตอบข้อหนึ่งข้อใดเป็นบรรทัดฐานในการเจอสถานการแบบนี้ ..ไม่ได้..... ;D ;D

หนีแต่รอสวนครับ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามสถานการ

 โจทย์คือ ทำร้ายผม"และภรรยา"ฉะนั้น วิ่งหนีไม่ได้ เมียผมวิ่งไมทันแน่ ขอตอบว่ายิงสวนแสกหน้าทันที ไม่มีลังเล ผมยอมขึ้นศาลไปอีก10ปีแต่ไม่ยอมให้กเฬวรากที่ไหนมาแตะคนในครอบครัวเด็ดขาดครับ :-\

...อย่างที่เพื่อนๆ บอกครับ  โจทย์ข้อนี้มีข้อมูลไม่พอให้คำตอบ  แต่ก็ทำให้ผมนึกถึงหลักการป้องกันตัวที่เรียกว่า OODA Loop (Observation, Orientation, Decision, Action)  เป็นหลักการที่ใช้ฝึกนักบินขับไล่ในสงครามเกาหลีนะครับ  วิธีนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้เร็ว (ยิ่งทำ Loop ได้เร็วก็จะได้เปรียบ)โดยสรุปก็คือมีการสังเกต ประเมินสถานการณ์ ตัดสินใจและลงมือ แล้วเข้าวงจรอีกครั้ง (เป็น loop) คือสังเกต ประเมิน ตัดสินใจ ลงมือ...ครับ 

...(OODA Loop มักจะถูกใช้และสอนควบคู่กับโค๊ดสี (Color Code) ของ Jeff Cooper)

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

Hello ,

The  best  solution  is  to  avoid  that  situation !

If  we  are  not  able  to  avoid  them  and  they  are  intending  to  kill  or  harm  us ! 

Do  not  think  too  much , empty  your  magazine  by  giving  them  all  your  stuffs  ( bullets ) !

Nakin  M .   :-* 

ถ้าตามที่กระทู้ตั้งมาคือโดนทำร้ายแน่๐หรือทำร้ายไปแล้วก็คงต้องชักปืนมายิงอย่างเดียวครับแต่ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ

โหวตไปแล้ว ครับ  ขอเลี่ยงครับ เพราะ เค้ากำลังจะทำร้าย แต่ ถ้า เค้า ตาม ทันคงต้องยิงสะกัดเค้าอ่ะครับ 

แต่ ยิง สะกัด คือเช่น ขา แขน   กับ ยิง โดน จุดสำคัญเลยแบบตายเลย   อันไหน โทษ หนักหนากว่ากันครับ  แต่ ยิงขึ้นฟ้า คงไม่ เพราะ พ่อสอนไว้ ถ้า ชัก คือยิง  ไม่ชักขู่  คือต้องสุดๆ จริง ถึงจาเอาออกมาแหละ

   โหวตแลวครับ แต่อ่านของพี่มะขื่นแล้วทำให้ต้องมาทบทวนอีกทีเพราะยังไม่เคยเจอขนาดนั้นครับ

 :-* ผมใช้การเจรจาก่อนครับ พร้อมประเมินสถานการณ์ด้วย แล้วก็ต้องเตรียมพร้อมด้วยครับ มันต้องทำหลายๆอย่าง ควบคู่กันไปด้วยครับ :-*

 ;D ;Dไม่โหวตนะครับเพราะไม่ทราบเหมือกันครับเพราะยังไม่มีภรรยาทีเคารพเหมือนพวกพี่ ๆ เขา(แฟนก็ยังไม่มี :'() ;D ;Dแต่ถ้าเปลี่ยนคำถามเป็น ลุงและป้า,พ่อกับแม่,อากับอาสะใภ้ หรือว่าย่า อันนี้ตอบง่ายครับ ยิงสวนที่ละคนให้ลมลงก่อน แล้วเข้าไปจ่อยิงกระบาลที่ละคนให้ตายสนิทแล้วรอมอบตัวกับตำรวจ สารภาพสิ่งที่ทำลงไป รอการลงโทษจากกฎหมาย สุดท้ายแม้ว่าจะต้องถูกประหารผมพร้อมที่จะเดินเข้าสู่หลักประหารนั้นด้วยความยินดี ผมยอมตายดีกว่าต้องมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกที่ไม่สามารถปกป้อง ผู้ที่ให้ชีวิต เลี้ยงดูเรามา ยอมกินสิ่งที่เราถ่ายออกมาเพือให้รู้ว่าเราท้องเสียเมือเรายังแบเบาะ ยอมอดให้เราได้อิ่ม ยามเราไม่สบายกายมีคนที่เจ็บหนักทางจิตใจมากกว่าเรา ได้หรอกครับ ลืมบอกไปผมเป็นลูกชายคนเดียวและเป็นหลานคนเดียวของบ้าน
ปล.ถ้าพี่ ๆ จะตำหนิผมในความคิดนี้ก็ไม่ว่าอะไรครับยินดีรับคำสังสอนของทุก ๆท่านครับผม ;D

 ??? ตอบยากนะ เพราะต้องขึ้นกับสภาพแวดล้อมด้วยว่าอยู่ใที่ชุมชนหรือที่ค่อนข้างเปลี่ยว เรื่องวิ่งหนีแฟนผมวิ่งหนีไม่ทันแน่ คงต้องพาแฟนเลี่ยงหลบก่อน หากเหตุการณ์เฉพาะหน้าไม่ดีขึ้น ชักปืนขึ้นมาขู่ ถ้ายังถาเข้ามาก็ยิงขึ้นฟ้าให้รู้ว่าของจริงนะโว้ย ปกติถึงตอนนี้มันควรใส่เกียร์หมาโกยไปแล้ว ถ้ายังไม่หายบ้าจำเป็นต้องยิงสวนล่ะครับ ให้เหลือชีวิตไปต่อสู้คดีต่อไป ...

 ;D นับถือในความคิดกตัญญูครับคุณเซอุส แต่ถ้าทำแบบนั้นเมื่อคุณไม่ได้อยู่กับคนที่คุณรักเหล่านั้นล่ะ ใครจะดูแลเค้าครับ ;D

 :)โหวตแล้วครับ เลือกยิงคนที่จะทำร้ายเราครับ อดได้ก็อด อดทนให้ถึงที่สุด  >:(แต่ถ้ามันยังรังแก
เราและครอบครัว ป๋ายม ???ก็ต้องเอามันไปแน่ 

คือว่าอย่างโอเนี่ย อันดับแรกเวลาที่ต้องไปในที่ๆไม่คุ้นเคย เราต้องสังเกตเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ ดูว่าจะเป็นอันตรายต่อเราเปล่า ถ้าผิดสังเกตต้องหลีกเลี่ยงก่อนเลย
ปล. แต่จริงๆแล้วถ้ามีปืนอยู่ด้วยคงอุ่นใจมากขึ้นแน่ๆอ่ะค่ะ

ผมโหวตก่อนแต่ยังไม่ตอบ พอมาคิดอีกครั้งหนึ่งก็ยังยืนยันตามที่โหวต  คือหากถึงขั้นกรูกันเข้ามาแล้ว ผมก็ต้องโชว์ปืนให้ดู หากยังใจกล้าบ้าบิ่นเร่เข้ามาอีกก็คงต้องฉลองศรัทธาญาติโยม   แต่ใจผมเชื่อว่าแค่โชว์ปืน พวกนั้นก็คงชะงักแล้วเผ่นกันกระเจิงมากกว่า  ;)

คำถาม: มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังจะทำร้ายคุณและภรรยา ขณะที่คุณมีปืนมาด้วย


...อุ๊ยต๊าย  ใครจะทำร้ายภรรยาคุณโอ   ;D  ::)

. :o  :o ..ห๊า...อุ๊ยตายยย...อกอีแป้นแตก....คุณโอมีภรรยาแล้ว....โธ่...ความหวังพังทลาย.... ;D  ;D

จ๊ากๆๆๆๆๆๆ :oลืมไปค่ะว่าเค้าพูดถึงภรรยาด้วย....ถือว่าโอเดินคนเดียวแล้วกันค่ะพี่แก้ว...ในฐานะคนโสด...อิๆ ;D

...นั่นน่ะจิ  นึกสงสัยว่ามีภรรยาตั้งกะเมื่อไร  ที่จริงก็โสดอะนะ  ;D ;D ;D

 ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;)
 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

;D ;D ;D ;D อกอีแป้นแตก ;D ;D ;D ;D ;D ;D

ไม่มีเรื่อง.....ดีกว่ามี
แต่ถ้ามี......หนีดีกว่า
แต่หนี....ดีกว่า......สู้
สู้......ดีกว่าเจ็บ
เจ็บ......ดีกว่า.....ตาย.........ก๊าบ

 ;D ผมโหวตว่าหลีกเลี่ยงและวิ่งหนีคับ...

แต่เวลาเกิดเหตุการณ์จริง ขอรับรองอีกคนว่าไม่ได้ทำอย่างที่โหวตคับ...

แฮ่ๆ...ผมทำแบบพี่มะขิ่นคับเพราะตอนนั้นเลือดขึ้นหน้าแล้วคับ...

เท่าที่เจอมาสองครั้งหยิบปืนออกมาให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นเรื่องก็จบคับ...

โดยการหลีกหนีเหมือนกันแต่เป็นอีกฝ่ายนะคับ...  ;D

ปล.ผมยังยืนยันว่าหลีกเลี่ยงดีกว่าปะทะนะคับ...  ;)

" หลีกเลี่ยงดีกว่าต่อสู้(ถ้ามันมากกว่า   ;))
   ต่อสู้ดีกว่าเจ็บตัว(เจ็บตัวฟรี  ;D)
   เจ็บตัวดีกว่าตาย"

ถ้าเป็นผมคงต้องยิงปืนขึ้นฟ้าละครับ เพราะโจทย์บอกว่าขาโจ๋จะเข้ามาทำร้าย
ขาโจ๋สมัยนี้ชอบใช้อีดาบซะด้วยซิ 1 นัดขึ้นฟ้า..... 1 นัด ที่ขา .... 1 นัด ที่ตัว .... ;D
นัดแรกก็ไม่รู้ใครเป็นใครแล้วมังครับ อิ ๆๆ ;D

 เรียนแบบที่พี่ coda
 สังเกตว่ามันมากี่คน
 ประเมินว่าเรามีกี่นัด 1คน 1นัด
 ตัดสินใจเก็บให้หมด จะได้ไม่เหลือพยาน
 ลงมือ  ;D

 ปล   คิดอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าทำหรอกคร้าบบบ   ;D

มีความคิดเดียวกับท่านมะขิ่นครับ

ชักปืนขู่ครับ ถ้ากำลังจะทำร้ายผมถือว่าภัยใกล้ตัวแล้ว หนีไม่ทันแน่ ถ้าชักปืนขู่แล้วไม่หยุดก็ยิงขู่ ยิงขู่แล้วไม่หยุดก็ต้องยิงจริงเพื่อป้องกันชีวิตตามวัตถุประสงค์การขอมีขอใช้อาวุธปืน

สำหรับเหตุการณ์อย่างนี้นะครับ คงตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
ผมคงเลือกหลบเลี่ยงหนีก่อน ถ้าหนีแล้วยังไม่พ้น ก็คงต้องต้องขู่
แล้วตามด้วยขู่ด้วยอาวุธ ถ้ายังไม่หนีเลิกลา คงต้องยิงขู่ ครับ และสุดท้ายแล้ว
ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย มันตายดีกว่าเราตายครับ

       ไหนๆมันก็ตาย เอาพวกมันตายให้หมดเลยดีมั๊ยครับเดี๋ยวเพื่อนมันเหงา

ตอนโหวต..ก็คิดว่า...เอาปืนออกมาขู่..เต็มที่ยิงขึ้นฟ้า คงจะจบเรื่องกัน...แต่โดยส่วนตัว ตอนนี้.. ภรรยากับลูกที่ยังเล็กๆอยู่....เมื่อมองแล้วเราคงไม่ไปหาเรื่องพวกเขาแล้ว..และเราคงทำอะไรพวกมันไม่ได้ก็ควรจะจบกันแค่นี้...แต่ถ้ายังคิดว่าจะแสดงอภินิหารออกมาโดยขาดสามัญสำนึกผมคงจะ ซัดเข้าแบบไม่เลี้ยงแน่นอน...ซึ่งสถานการณ์จริงๆคงต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันอีกครับ..

โหวตให้แล้วนะครับ...
คงจะหลีกเลี่ยงก่อนละ...แต่ถ้าเลี่ยงแล้วยังจะตามมาทำร้ายอีกมันก็คงได้กลับไปนั่งแคะลูกกระสุนออกจากหัวแน่ๆ...

ผมโหวตแล้วครับ แต่จริงแล้วต้องประเมินสถานการณ์ก่อนว่าจะใช้การป้องกันตัวระดับไหน ก็คือสามารถใช้ทุกข้อ แต่ถ้าจะทำร้ายเราและภรรยาแล้วก็ต้องชักปืนขู่แล้วครับ 8)

...เพื่อความสมบูรณ์ในการพิจารณานะครับ  การป้องกันตัวในบางกรณีอาจกลายเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุได้  ถ้าการคุกคามนั้นไม่ใช่ "ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง" เพื่อนๆ ที่เป็นนักกฎหมายจะช่วยเสริมก็ดีครับ :)

Red aleart come, you carry a gun,

Shout.....hit the roof....self defence/protection...target termenated...disappear

แค่.....กำลังจะ......ทำร้ายคุณและภรรยา

ถ้า...วิ่ง...ได้....วิ่ง...ครับ

ถ้าวิ่ง...ม่ายทัน....ก็...เหมือน...ท่านมะขิ่น...ครับ....อิ อิ

เดินเลี่ยงก่อน ถ้าดันเดินตามมาปิดทาง/ล้อมหน้าล้อมหลังก็เจรจายุติเรื่องราว ถ้าไม่ฟังก็ชักปืนขู่ ถ้ายังไม่ยอมเลิกอีกและพื้นที่อำนวยก็ยิงขู่แต่ไม่ขึ้นฟ้า แต่ถ้าอาชญากร wannabe หรือที่ นสพ. ดันเรียกว่าขาโจ๋ จะมาทำร้ายให้ได้ก็ยิงผู้ร้ายครับ

ผมว่าไม่ยิงอย่าชักมาขู่เลย

 ;D ด้วยประสบการณ์ตรงครับเฮีย มีอย่างน้อยสามครั้งที่ผมพบเจอเอง ที่ผู้ที่ถูกคุกคามมีปืนชักปืนออกมาขู่แล้ว ผู้ข่มขู่ไม่กลัวครับ ด้วยเหตุผลว่า "มันคงไม่กล้ายิงหรอก" 2 ครั้ง อีกครั้งนึงมันบอกว่า "คิดว่าปืนปลอม" ครับ แต่ถ้าเอา 3 ครั้งที่ผมบอกคิดเป็น % ก็ถือว่าน้อยมากครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วชะงักหรือหยุดการกระทำคุกคามเมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีกำลังพอ ๆ กันหรือเหนือกว่า หรือบางครั้งแค่เห็นว่าผู้ถูกคุกคามสามารถทำให้มัน (ผู้คุกคาม) เจ็บตัวได้ มันก็ชะงักแล้วครับ (พวกกุ๊ยตาขาว) ;D

ควรงดดูหนังแอ็คชั่นเสียบ้างครับ  ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ  สุขภาพจิตจะแจ่มใส  ไม่หมกมุ่น

 ;D ;D ;D  วิ่งครับ...... ;D ;D ;D

 :) ..เคยทั้งออกมาขู่..และออกมายิงขึ้นฟ้า..มิใช่เพียงแค่ขู่ ..แต่จะยิงจริงๆๆ..ไม่ใช่ขู่.. ถ้ามันกร้าวร้าวเกินไป.. การแสดงตน.ว่าปืนจริง .เอาจริง.. หยุดเหตุการณ์ก้าวร้าวได้ชงัดนักครับ..
   การประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน..  ถือเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย.. ถ้ายิงขึ้นฟ้าแล้ว..ยังไม่หยุด ..เห็นปืนมันยังไม่เกรงกลัว ยังจะเข้ามาทำร้าย..สหบาทา ท่านก็ตายได้นะครับ.. ถือเป็นเหตุที่ท่านสามารถใช้อาวุธปืนนั้นยิงไปยังบุคคลนั้น.. แต่เพียงยิงไปเพื่อให้หยุดก่อนที่ท่านจะถูกเขาทำร้าย.ไม่ใช่ยิงเพื่อฆ่าเขา (ยิงที่แขน-ขา ที่ไม่ถึงตาย).. การป้องกันตัว มิใช่การที่ต้องหนี..จนตรอกแล้วจึงหันมาสู้นะครับ.. ถ้าชัดเจนพอรู้ว่าเขาจะประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของท่าน หรือของบุคคลอื่น.. ท่านก็สามารถใช้อาวุธปืนนั้น ปกป้องตัวคุณหรือเขา..ถือเป็นภันตรายที่ใกล้จะถึง..และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ .. แต่ขอให้เพียงเพื่อหยุดเขาไม่ให้ทำร้ายท่าน หรือคนอื่น เท่านั้น ครับ. :)..แต่ทั้งนี้ต้องมิใช่เป็นเรื่องท้าทาย หรือทะเลาะกันมาก่อน นะครับ จะเป็นเรื่องวิวาท อันไม่อาจอ้างการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ..  :) ;D

เสริมครับ ถ้ามาหาเรื่องต้องถามก่อนว่า อะไร ที่ไหน อย่างไร สาเหตุที่มาหาเรื่องเรา ถ้ายังจะเอาเรื่องก็ต้องสนองให้ แต่ถ้าเขามาคนเดียวก็ต้องหมัดต่อหมัด ปืนไม่สมควร แต่ถ้าเขามากันเป็นหมู่ก็ต้องใช้ครับ ถ้าเอาปืนมาขู่กลัวมันมาแก้แค้นที่หลัง ลูกเมียอาจได้รับอันตราย ถ้าชักแล้วต้องยิงครับ

...หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริง ผมว่าคงไม่มาตอบแบบสอบถามหรอกครับ ใช้เหตุและผล ตัดสินใจเลยครับ...ผิดถูกไปต่อสู้กันทีหลัง...น่าจะมีทางออก ;D

ผมมีประสบการณ์ตรงครั้งนึงครับ
ไปพักโรงแรมกระจอกกับแฟน เพราะหา้ที่พักไม่ได้ เต็มหมด ได้ห้องพัดลม มีวัยรุ่นมาเปิดห้องฝั่งตรงข้ามอัพยากัน คงแบกวิทยุมาด้วย เปิดเพลงดังมาก ห้าทุ่มกว่าผมนอนไม่หลับ ได้ยินพวกวัยรุ่นเปิดประตูก็เปิดออกไปเตือน กลับมาจะนอน เหมือนมีอะไรดลใจ ลงไปเอาปืนในรถมานอนด้วย

ตี3 ได้เรื่องครับ ตกใจตื่นได้ยินเสียงดังโครมคราม กะว่าวัยรุ่น 3-4 คน กำลังพังประตูห้องผม ทั้งโดดถีบ ทั้งแบกไม้มาฟาด นัยว่าไม่พอใจที่ไปเตือนแฟนมัน ต้องแสดงความเป็นลูกผู้ชายให้หญิงเห็น ผมจะปีนดูเพื่อประเมินสถาณการณ์ก็ไม่เห็นว่ากี่คนแน่ แต่มันคุกคามอยู่นานมาก ทั้งด่า ทั้งท้า ทั้งถีบ เลยให้แฟนไปหลบในห้องน้ำปิดประตูไว้ ส่วนผมรีรอว่าเอาไงดี จะออกไปก็เกรงว่าจะต้องยิงแน่ (แม็กใส่ไว้ 8 เม็ด คงพอแจกทุกคน) จะรออยู่ก็กลัวประตูพัง เกิดมันกรูกันเข้ามา ห้องก็แคบ ผมจะเสียท่าก่อน รอช่วงเงียบเสียงก็ขึ้นลำให้มันได้ยิน ได้ผลครับ พวกมันเีงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็เอาต่อ ตอนนั้นกะว่าต้องยิงขู่ แต่ห้องมันแคบ ไม่มีอะไรให้ชี้ปืนไปยิงแล้วปลอดภัยเลยครับ กำแพงทั้งสี่ด้าน หันไปหันมา เจอประตู ประตูไม้ (มาคิดได้ทีหลังว่ามีที่นอนกับหมอนให้ยิงทั้งอัน)ได้การละ เล็งลงต่ำแล้วเหนี่ยวไก (เล็งสูงกลัวทะลุประตูไปโดนแสกหน้ามัน) ...โป้ง.... (เสียงดังโคตะระครับ แก้วหูลั่นเลย) เงียบ แล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ตุ๊บตับๆ แน่บครับ ผมเปิดประตูวิ่งตาม (แค้นที่โดนมันด่ามาเกือบครึ่งชั่วโมง) ไปทันเห็นมันโดดซ้อนแมงกะไซต์ไปกัน 3 คัน 6 คน โล่งอกเลยผม

รีบเก็บของ ออกรถครับ กลัวมันไปแบกลูกซองพ่อมันมาแก้แค้นที่เสียฟอร์ม ทันได้ไปหยิบบัตรลงทะเบียนห้องพักของผมกับห้องของมันด้วย ทำลายหลักฐานของผม แล้วก็ได้ชื่อ-ที่อยู่มันด้วย เผื่อเรื่องยาว

ดีใจครับ มีืปืนอยู่กับตัว ขนาดห้องพักเต็ม อย่าหวังว่าคนอื่นจะเปิดประตูมาช่วยครับ ปืนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

ขอไม่โหวตนะครับ เอาเหตุการณ์ว่าดีกว่า

...เรื่องของคุณปลัด Deputy Sheriff เป็นตัวอย่างการแก้ปัญหาที่รอบคอบดีครับ   8)

มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังจะทำร้ายคุณและภรรยา ขณะที่คุณมีปืนมาด้วย

ย้อนคำถาม

กลุ่มวัยรุ่น แสดงว่าต้องมี 2 คนขึ้นไป อาจเป็น 3,4 หรือ 5 มีการเตรียมตัวและพร้อมมากกว่าเรา

ส่วนผมและภรรยารวม 2 คน+ปืน 2 กระบอก(พกเป็นปกติครับ)

คำตอบคือ

ยิงในจังหวะแรก และนัดแรกเป้าแรกต้องทรุด เพื่อผลทางจิดวิทยา เพราะเขาตั้งใจมาทำร้ายเราแต่แรกแล้ว  เลี่ยงยังไงก็ไม่พ้น ถึงหนีก็ถูกตามไล่อยู่ดี แถมเสียโอกาสและจังหวะในการต่อสู้ ส่วนภรรยาคุมหลัง เผื่อผมพลาดโดนก่อน รับรองเธอรัวหมดโม่โดยไม่ลังเลเลยครับ

นี่เป็นข้อดี สำหรับท่านชายที่มี ผบ.ยิงปืนเป็น เพราะท่านจะมีคนคอยระวังหลังและช่วยยิงสนันสนุนในทันที กรณีที่ท่านพลาด ??? อันนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัว  ;D ส่วนใครจะลอกเลียนแบบไม่สงวนลิขสิทธิครับ แต่เน้นนะครับว่าต้องมั่นใจในความประพฤติของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก ไม่งั้นไม่รับประกันความปลอดภัยจาก ผบ.ครับ........ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 ผมประเมินโจทย์ออกมาแบบนี้เหมือนกันครับ มันมาเป็นกลุ่มกำลังคึกคะนองกลัดมันเต็มที่ไม่มียั้งคิด และเข้ามาเพื่อจะทำร้ายผม"กับภรรยา"แปลว่างานนี้หนีไม่ได้ :-\ งั้นต้องยืนยันคำตอบเดิม คือยิงให้หัวกระจุยซักตัวนึง :-X พวกที่เหลือจะได้วิ่งหางชี้ไปให้พ้นๆ แล้วค่อยไปประกันตัวออกมาสู้คดีต่ออีก2-3ปี :P

  ขอบคุณ คุณ coda ครับ  สังเกตุ ประเมินสถานการณ์ ตัดสินใจ ลงมือ   ;) ;)  บางทีชักปืนออกมาขู่  เป็นการหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้นะครับ ;D ;D
ผมจะโชว์ให้เห็นก่อน  ถ้าไม่กลัวก็ยิงครับ ;D ;D  ยิงก็ยิงที่ตัวครับ  ยิงแขนยิงขา อาจพลาดไปถูกคนไม่เกี่ยวข้องได้ :D ยิงตัวเป้าใหญ่กว่า
โอกาสพลาดมีน้อยครับ   ในสถานการณ์จริงบางครั้งมองศูนย์ปืนยังไม่ทันเลยครับ ;D  ว่างๆลองยิงในระยะสิบเมตรดูซิครับ  ชักแล้วยิงเลย
ดูว่ากลุ่มกระสุนอยู่ที่ไหนของเป้า   ;D ;D บางครั้งหลุดเป้านะครับ ;D ;D ;D

ผมว่าพอขู่ได้ครับ เพิ่มโอกาสระงับเหตุโดยไม่ต้องมีเรื่อง เคยได้ยินมามากว่าพอผู้ร้ายเห็นเรามีปืนก็วิ่งเลย แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังการแย่งปืน และต้องเคลื่อนย้ายตัวเรา (เผ่น) ออกจากสถานที่เกิดเหตุโดยมิชักช้าครับเพื่อป้องกันการย้อนกลับมาหาเรื่องต่อ

ส่วนตัวผมไม่พร้อมที่จะใช้อาวุธปืนทำร้ายคน หรือสิ่งมีชีวิต กลัวว่าจากการที่ไม่ต้องยิงกัน พอชักขึ้นมาเขาก็มีเลย กลายเป็นต้องยิง ไม่อยากคิดถึงผลที่ออกมา

แต่จวนตัวคงยิงแน่ไม่คิดแล้ว ถ้าบุกรุกเข้าบ้านยามวิกาล มีเท่าไรก็ยิงหมดครับ

 :) เพิ่มอีกนิดครับ...นำอาวุธปืนออกมาขู่.ยิงขู่..ถ้าตะโกนสำทับอีกว่า..เป็นเจ้าหน้าที่. เป็นกองปราบปราม..ปปส.. ปปง.. เป็นเจ้าหน้่าที่.ที่มีอาวุธปืน มีอำนาจในการจับกุม.. คงไม่มีใครคิดกล้ามีเรื่องมีปัญหาด้วย.. อาจเป็นปรามได้อีกทางครับ ;D...กับการใช้อาวุธปืนในการป้องกันชิีวิตและทรัพย์สิน..อาจเป็นเรื่องที่แต่ละคนเลือกปฎิบัติ... แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีจิตใจที่กล้า แข็งในระดับหนึ่ง..เชื่อมั่นในตัวคุณเอง.. ถ้าได้ตัดสินใจว่าสู้..ใจคุณจะนิ่งเอง.. ไม่รนรานหรอกครับ..คุณจะมีทางเลือกที่ดีกับตัวของคุณเสมอ.. คนเลวได้ใจ.เพราะคนดีอาจวางเฉย.. ;D

...กรณีตัวอย่าง... หากไม่มีปืนติดตัว ทั้งสามี-ภรรยา จะเจอเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรบ้าง...มีปืนติดตัวก็ดีไปอย่าง...แต่งานนี้ท่าทางจะ "หูอื้อ" ไปหลายวัน.... :D

ผมเลือก ที่ จะหลีกเลี่ยงก่อนครับ
  ถ้าฝ่ายนั้น ยังตามมา ทำท่าจะคุกคามอีก ก็คงชักปืนออกมาขู่ ครับ
   และถ้าเห็นปืนแล้วยังไม่คิดหนี ยังจะเข้ามาทำร้าย ผมก็ คงไม่ยิงขึ้นฟ้าครับ เพราะ ขนาดเห็นปืนมันยังไม่กลัว
มันก็คงมีอะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง ฉนั้น ถ้าต้องยิง ก็คงไม่ยิงขู่ครับ
      แต่อย่างที่พี่ๆ ท่านอื่นๆว่า สถานการณ์ จริง มันอาจไม่เป็นตามที่สมมุติ เสมอไป ครับ
 ไม่เจอะ ไม่เจอดีที่ สุดครับ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ผมมีวิทยุสื่อสารติดตัวอยู่ตลอด คืนนั้น รีบเิปิดช่องตำรวจท้องที่ ปรับเร่งเสียง กะว่าให้มันได้ยินคงเกรงใจ ว่ากำลังหาเรื่องกับตำรวจ แต่ตี 3 ไม่มี ตร.ที่ไหนเค้าเรียกกันเลยครับ เปิดได้แป๊บเดียวถ่านหมดอีก โทร 191 นานกว่าจะรับ ที่แน่ๆ ไม่มีสายตรวจมาซักสายครับ ถ้าจะรอให้มา นู่นครับ... รอร้อยเวรมาชันสูตรพลิกศพกันพอดี แต่อย่าให้เป็นศพพวกเราก็แล้วกันอะ

  ผมเลือก  ชักออกมาขู่ ครับ  :o

 เหตุกราณ์ ของคุณ  DeputySheriff  นี่รอบคอบ ดีจังเลยครับ นับถือๆ
 

ผมกลับมองว่าถ้ามันมากันแยะกว่าเรานี่มันไม่สนใจหรอกครับว่าเราเป็น อะไรขนาด สห.ในเครืองแบบนะครับยังโดนไอ้พวกนี้หาเรืองจะเข้ามาต่อยเลยครับ เขาถือว่าพวกแยะสุดท้าย สห.คนนั้นก็ต้องยิงเสียงปืนดังขึ้น1นัด :'(ไม่เล่าต่อนะครับ ;D ;Dหรืออีกกรณีเป็นชายอายุเกือยบ ๆ 50 ไปรับเหมาโดนไอ้พวกนี้เมากัน4คน
เข้ามาหาเรืองแล้วก็เอาไม้มาตีกระบาล+รุมชกต่อย สุดท้ายชายผู้นั้นก็ต้องชักปืนออกมายิงเสียงปืนดังขึ้น4นัด :'(ไม่เล่าต่ออีกเหมือนกันครับ

ยิงลูกเดียวแล้วหนีครับค่อยหาทนายมาสู้กัน

เห็นทนายเขาสอนมา

ผมว่าแล้วแต่สถานะการครับผมว่ายังไงชีวิตเรากับครอบครัวสำคัญที่สุดครับ :-\ :o

เจรจาเป็นอันดับแรกครับ ถ้าดูแล้วไม่ดีขึ้นคงต้องยิงครับ

 ;D ;D ;Dขอขอบคุณครับสำหรับคำตอบที่ทุกท่านได้ช่วยออกความคิดเห็น และแสดงความคิดเห็นนะครับเพราะเหตุการณ์ต่างๆที่ทุกท่านยกขึ้นมามันสามารถเกิดขึ้นได้กับเราไม่วันใดก็วันหนึ่ง จากประสบการณ์ของทุกท่านทำให้ได้มีการประเมินสถานการณ์กันอยู่ตลอดและมีการยั้งคิดล่วงหน้า เพื่อไม้พลั้งไปทำอะไรผิดขึ้นมา  แต่จากประสบการณ์ เช่นนี้ทำให้หลายท่านยั้งคิดไม่ได้ครับเพราะเหตุการณ์มันรวดเร็ว จนตั้งตัวแทบไม่ทัน พวกขาโจ๋ทั้งหลายก็กลัดมันเหลือเกินมันไม่หยุดง่ายๆ จนกว่าเราจะล้มหรือเป็นอะไรไปก่อน คำถามในข้อนี้มาจากเหตุการณ์ที่ผมผ่านไปเจอมาเลยนำมาถามสมาชิกครับ
วันก่อน 25/9/47 ผมไปได้เจอกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง ไปซื้อของที่ตลาด(บ้านนอก) มีกลุ่มวัยรุ่น 8 - 10 คน นั่งดื่มเหล้ากันอยู่ ก็แซวภรรยาของชายคนนั้น เขาก็รีบซื้อของคงเพื่อจะเลี่ยงเหตุการณ์นี้ แต่ขาใหญ่มันลงแคร่เดินมา หาผู้ชายแล้วพูดแซวภรรยาเขาๆไม่พอใจก็ด่าแล้วจะเดินหนีมันเลยยกพวกมาปิดหัวท้ายซอยกะไม่ให้ไปไหน พอดูอีกทีฝ่ายสามีโดนรุมทั้งไม้ท่อนทั้งรั้วไม้ เก้าอี้ ส่วนภรรยาผมไม่เห็น ชาวบ้านได้แต่ยืนมอง ส่วนผู้ใหญ่บ้านก็หายหัวไม่ออกมา จนพ่อแม่พวกขาโจ๋ออกมาห้ามเรื่องจึงเลิก   ส่วนคู่กรณีสามี ภรรยาเจ็บทั้งคู่ครับไม่มีใครไปดู น่าสงสารก็พยุงกันไปหาหมอมั้งครับเลือดอาบเลยครับ ผมเป็นคนนอกไม่กล้าเข้าไปครับเดี๋ยวไอ้พวกขาโจ๋ที่นั่งคุมเชิงเข้ามาอีก     เลยวิทยุ(สมัครเล่น)บอกสมาชิกที่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ให้มาช่วยดูเหตุการณ์นี้ด้วย  ผมไม่กล้าไปช่วยครับบอกตรงๆไม่ใช่คนในพื้นที่ด้วยครับ ผมเลยเอาเหตุการณ์นี้มาตั้งคำถามไงครับ
ผมหวังว่าคนที่โดนรุมวันนั้นคงไม่เป็นอะไรมากนะครับ และหวังว่าเหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้นกับผมและท่านๆนะครับ

 :-[ น่าเห็นใจคู่สามีภรรยาผู้เคราะห์ร้ายทั้งคู่ครับ หวังเช่นเดียวกับคุณโมโตว่าสามีภรรยาคู่ดังกล่าวคงไม่บาดเจ็บร้ายแรงครับ :-[

อือม์ ในสถานการณ์อย่างนั้นมั่วไปว่าเป็น จนท. อาจช่วยได้ครับ เพราะนักเลง/ผู้ร้าย น่าจะรู้สึกว่า จนท. "กล้ายิงจริงๆ" มากกว่าประชาชนที่พกปืนไว้ป้องกันตัว

ตรงกันข้ามกะผมเลยครับ  ผมชอบยุ่งชอบ ส เื*์อก  เรื่องแบบนี้มากครับ  เมียผมก็อนุญาตให้ยุ่งด้วยเต็มที่  เกิดเรื่องราวหลายที่ ผมอาสาเป็นพยานให้ พอดีเจ้าตัวไม่ต้องการ และเห็นเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆจัดการได้ง่ายๆ เลยไม่ต้องไปเป็นพยาน  ถ้าเป็นเรื่องพวกนักเลงหัวไม้ข่มเห่งคนไม่มีทางสู้นี้ ผมยุ่งด้วยจริงๆ เมียสั่งไว้ว่าถ้าจะยุ่งต้องมีปืนในมือก่อน (คงต้องยิงขู่) ถ้าไม่มีปืนในมือห้ามยุ่งเด็ดขาด  กรณีเป็นเรื่องฉกชิงวิ่งราว ผมปล่อยครับ เพราะเห็นว่าเจตนาต้องการทรัพย์เท่านั้น แล้วเหตุการณ์ก็กำลังจะผ่านไปแล้ว (เรื่องของเรื่องคือไม่กล้าคลุกวงใน)

ผมโชคดีครับไม่ค่อยเจอเหตุการณ์ที่ว่าเลย 

ผมไม่กล้าไปช่วยครับบอกตรงๆไม่ใช่คนในพื้นที่ด้วยครับ ผมเลยเอาเหตุการณ์นี้มาตั้งคำถามไงครับ

ถ้ามีโอกาสอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลครับ
เดี๋ยวจะเหมือนกับพระเอก SPIDERMAN ครับ ที่ปล่อยคนร้ายไป จนลุงตัวเองต้องมาจบชีวิต
ไม่งั้นผู้ร้ายจะเต็มเมือง
นึกอยากได้ของใคร ก็ไปตบเอามา
นึกชอบผู้หญิงคนไหน ก็ฉุดไปเรียงคิว ถ้ามีแฟนมาด้วย ก็ฆ่าหรือทำร้ายผู้ชาย แล้วฉุดผู้หญิงไปข่มขืน(อย่างที่เป็นข่าวบ่อย ๆ จนกลายเป็นลัทธิเอาอย่างไปแล้ว ถือว่ามีพวกมาก หมาหมู่รุมคนไม่มีทางสู้)

ตัวผมเอง ยังคิดอยู่เสมอว่า ถ้าไปเจอเหตุการณ์ที่ผู้หญิงถูกข่มขืนอยู่ ผมว่าผมยิงทิ้งหมดแน่ เพราะพวกนี้ไม่เจอของจริง ประกอบกับเจ้าทุกข์อายไม่แจ้งความ เลยได้ใจก่อกรรมอยู่ตลอด ดังนั้นหากเจอก็ตัดตอนไม่ให้พวกนี้ก่อกรรมทำเข็ญได้อีกต่อไป

ส่วนเรื่องคดีความ เจ้าหน้าที่ดี ๆ ยังมีอีกเยอะครับ โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ยังเป็นที่พึ่งได้ครับ
เรื่องพวกนี้ระหว่างคนร้าย กับ คนดี เจ้าหน้าที่ไม่ว่าตำรวจ อัยการ หรือ ศาล ท่านเลือกที่จะช่วยคนดีให้อยู่ได้ต่อไปในสังคมครับ ส่วนพวกเลว ๆ ก็เอาไปเผาเท่านั้นเอง ดีไม่ดีพวกนี้ไม่มีใครไปเผาซะด้วยซ้ำ เพราะกลัวถูกเิ่พ่งเล็งจากราชการด้วยซ้ำ

เวลามีเหตุการณ์แบบนี้

มีคำแนะนำจากพี่ต่างเวปว่า

อย่าใช้อารมรมณ์...............................จงใช้อาวุธครับ

อย่าใช้อารมณ์...............................จงใช้อาวุธครับ

แต่มีข้อควรระวังไว้หน่อยนะครับว่า   หลังจากใช้อาวุธ...........อาจจะโดนอาฆาต  ครับ  ทั้งจากคนที่โดนเราใช้อาวุธ  และจากญาติๆ ครับ  โดยเฉพาะพวกที่ไม่มีสามัญสำนึก  ไม่รู้ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันเลวทรามแค่ใหน  จะพาลจ้องอาฆาต แก้แค้นให้กับญาติมิตรเพื่อนฝูงอีกครับ  คราวนี้เราก็จะอยู่ในที่แจ้ง  เขาก็อยู่ในที่มืด   อันตรายกว่าเก่าครับ  นี่ก็เป็นผลพวงหลังจากใช้อาวุธครับ

อย่าใช้อารมณ์ จงใช้อาวุธ ทั้งอาวุธทางปัญญา อาวุธทางพาวเวอร์ หรือสุดท้ายก็อาวุธโดยสภาพครับ

เจอเรื่องแบบนี้ สุขุมหน่อย โทรเรียกตำรวจ จดจำข้อมูลรายละเอียดให้ได้มากที่สุด

เตรียมพร้อมมีอะไรไว้ข้างๆตัวให้อุ่นใจหน่อยก็ดี จะขับรถตามแบบบางท่านก็ได้

แต่ขอให้ทำอย่างฉลาดครับ อย่าเฟอะฟะ พุ่งรี่เป็นฮีโร่ โดนสวนกองมาเยอะครับ

รู้จักประเมินสถานการณ์ อย่าใช้อารมณ์ จงใช้สมองเยอะๆ



สังคมไทยถูกสอนมาว่า อย่าเอาตัวไปยุ่งเรื่องคนอื่น

เราจึงได้ยินคำว่า เรื่องของผัวเมีย ใครอย่ายุ่งเป็นประจำ

แต่ถ้ามิจฉาชีพเอาคำนี้มาอ้างละครับ ไม่กลายเป็นว่า เราปล่อยให้เหยื่อถูกกระทำ โดยไม่ยื่นมือเข้าช่วยหรือครับ

เมื่อคนดีนิ่งเฉย คนเลวจะครองเมืองครับ

สรุปแล้ว.....ก็ยืนดุเฉยๆ ไม่ได้ช่วย ทำตัวเป็นชาวบ้านที่ดีอีกคนนึง ทั้งๆที่ตัวเองก็น่าจะช่วยได้   :-\

ไม่ไช่คนในพื้นที่นี่ก็ยิ่งดี ซัดกะมันแล้วก็กลับบ้าน กลับเข้าพื้นที่เรา....ช่างมันเถอะ ช่วยเขาไม่ทันแล้ว :'(

อยากพูดอย่างพี่ Sting ครับ ที่โจรครองเมืองได้ก็เพราะคนดีๆ คิดว่าเรื่องยังไม่ถึงตัวเองเลยปล่อยไว้ก่อน บ้านเมืองเลยเป็นสวรรค์ของคนชั่ว จนถึงขนาดเป็นข่าวว่านักเรียนหญิงโดนข่มเหงกลางวันกลางฝูงชนคนทำงานบนรถไฟฟ้าก็ยังไม่มีใครช่วย

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ด้วยก่อนที่จะทำอะไรลงไป เรื่องพวกคนชั่วจะมาอาฆาตทำอะไรทีหลังบางครั้งผมรู้สึกว่าไม่น่าวิตกเท่าที่คิด ถ้าเป็นธรรมเนียมหรือเป็นธรรมชาติว่าคนชั่วจะชนะคนดีได้ในที่สุดป่านนี้ คนที่ไปให้การในศาลไม่รู้กี่ครั้งจนพวกโจรอาชีพรู้จักยังกะเพื่อนสนิทคงเดี้ยงหมดแล้ว เห็นขู่จะทำอะไรกันทั้งนั้นแต่ก็เห็นสบายดีกันทั้งนั้น แต่ก็แล้วแต่คู่กรณีด้วยนะครับเรื่องแบบนี้…

บอกเหตุการณ์ไม่หมดอีกแล้ว  ผมไปโดยมอเตอร์ไซดรับจ้าง มีแต่วิทยุข่ายสมัครเล่น ปืนไม่ได้เอาไป กะจะไปบ้านเพื่อนไปตั้งวงซักหน่อยครับ ท่าน..ขนาดจะวิทยุต้องแอบๆเลยครับ เดี๋ยววิทยุเป็นฉนวนเหตุอีก จะเจ็บไปกับเขา หากอยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้ผมว่าท่านๆคงทำได้คล้ายๆกับผมเช่นกัน คิดอยากออกไปช่วยเคลียยังหวั่นๆครับ เพราะพวกขาโจ๋มันกลัดมันเหลือเกินพ่อแม่พวกนั้นก็ไม่ห้ามอีกหากท่านๆไปทำลูกเขาแล้วคิดว่าท่านๆจะรอดออกมาจากหมู่บ้านนั้น ในสุดหมู่บ้านมีอีก 1 หมู่บ้านนอกนั้นเป็นป่ามีทางออกทางเดียว คงเหมือนหลายๆท่านต่อกระทู้นะครับว่าคงแล้วแต่สถานการณ์  (หากเป็นกลางคืน + มีปืนไปด้วย ก็น่าสวนนะครับแล้วโฉบ)
นี่แหละครับ นานาจิตตัง

อันนี้คุณ sting คิดตรงกะใจผมครับ  ถ้าผมเจอเหตุการณ์แบบนี้และมีปืนอยู่ด้วย  ผมคงจะยิงทิ้งครับ  >:(  เพราะผมถือว่าการข่มขืนเป็นการฆ่าคนตายทั้งเป็น  เป็นเรื่องที่มนุษย์ทำความเลวร้ายที่สุดให้กับมนุษย์ด้วยกันเอง เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของผู้หญิงอย่างที่สุด  เจ็บตัวยังไม่เท่าไหร่  แต่แผลในใจนั้นยากจะลบเลือน  >:(

ถ้าเป็นกรณีของผู้ชาย ก็คงจะเหมือนกับถูกรุมซ้อมอย่างทารุณต่อหน้าลูกเมีย  เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของผู้ชายอย่างที่สุดแล้ว  >:(

                    ผมมีประสบการณตรงครับ
เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดที่จะพกปืน ทั้งๆที่มีปืนตั้งแต่อายุ18(ชื่อน้า) ผมมองปืนเป็นอุปกรณ์การแข่งขันอย่างหนึ่ง(เอาไปแข่งยิงปืนสั้นชาวบ้านมือใหม่ตอนนั้น) พออายุประมาณยี่สิบ ผมเปิดกิจการเล็กๆกับเพื่อน มีเด็ก(ผู้หญิง)ที่ร้านขโมยเงินในร้านไป ผมจึงไปตามที่บ้านไปกับแฟนและลูกจ้างซึ่งเป็นผู้หญิง(โดยแจ้งความไว้แล้วโดยตร.บอกว่าลองไปตามมาตกลงกัน ถ้าเขาไม่มาจะวอให้สายตรวจไปตามมาให้) พอผมไปตามที่บ้านคุยกับแม่น้องเขาเรียบร้อย ผมก็จะกลับ พอเดินมาที่จอดรถ(เวลานั้นประมาณสามทุ่ม) มีกลุ่มชายหลายคนยืนล้อมทางออกอยู่(ตอนหลังรู้ว่าเป็นพวกของน้องที่ขโมยเงินไป) เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง กระโดนใส่ รุมผมซะคว่ำ 1ต่อ5-8  รุมผมต่อหน้ายามและชาวบ้านแถวนั้น แฟนผมโทร191เท่าไหร่ก็ไม่ติดพอติดก็ดูไม่ค่อยสนใจ แฟนผมเข้ามาห้าม มันก็ยังทำร้ายแฟนผมอีก(ไม่สนใจแม้เป็นผู้หญิง) พอมันรุมสมใจ ผมก็บอก ok ok  เรื่องเงินช่างมัน ผมรีบหากุญแจรถ รีบพาแฟนขึ้นรถ มันยังเอาหินไม้ขว้างรถผมพังไปแถบนึงอีก ตอนนั้นผ่านไปครึ่งชั่งโมง ตร.ก็ไม่เห็นมา  ออกมาได้ไปแจ้งความที่โรงพัก ตร.ไปดูที่เกิดเหตุ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น สรุปจับใครไม่ได้ 
         หลังจากเหตุการณ์นี้ ทำให้ผมรู้ว่าไม่มีใครปกป้องเราและคนที่เรารักได้นอกจากตัวเราเอง จากนั้นผมก็พกปืนใส่รถในบางครั้งที่ต้องกลับดึก หรือคิดว่าจะต้องไปในที่ๆไม่น่าไว้ใจ   

           หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรร้ายๆขึ้นอีก สองปี ผ่านมา มันก็วิ่งเข้ามาหาผมอีก
ผมเปิดร้านขายอาหารเล็กๆ หน้ามหาลัย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร วันนึงมีน้องเจ้าของร้านมานั้งกิน ก็ไม่มีปัญหาอะไรจ่ายเงินเรียบร้อย แต่พอผมบอกจะปิดร้าน มันก็ไม่ยอมให้ปิด(มันเมาๆแล้ว) มันมากัน4คน แต่ผมอยู่กับแฟนกับเด็กเสริฟผู้หญิงในร้านอีกคน มันเริ่มอาละวาดแบบไม่มีเหตุผล มันข่มขู่และพยายามจะเข้ามาทำร้ายผม ผมก็พยามพูดกับมันดีๆ แล้วผมก็เลี่ยงมาหลังร้าน ตอนนั้นแฟนผมอยู่หลังร้าน เอา 686 ออกมาง้างนกบอกผมว่าถ้ามันทำอะไรผม โดยเธอยิงแน่ ผมก็เลยบอกใจเย็นๆ บอกให้เธอไปหยิบเงินแล้วรีบไปโรงพักกัน ทิ้งร้านไว้นั่นและ พอไปโรงพักแล้วกลับมากับตร. ร้านในสภาพของกระจุยกระจาย แล้วมันก็นั้งเมากันอยู่ตรงนั้น มันยังบอกกับตร.ว่านี่ร้านมันมันจะทำอะไรก็ได้(ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอคนไร้สาระอย่างงี้)  พอผมยืนยันสัญญาเช่า ตร.ก็เลยจับไปโรงพัก พอมันส่างเมา ก็หน้าซีดเลย ตร.ก็ไกล่เกลี่ย ชดใช้ค่าเสียหายตามระเบียบ 
         เท่าที่ผมคิดเอง คนพวกนี้มักจะไม่ใช้เหตุผลอย่างที่เรามีกันนักหรอก และมักจะใหญ่เมื่อดูแล้วว่าอีกฝ่ายไม่มีทางสู้
         ผมก็เคยคิดว่าถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นผมจะทำอะไรดี เคยคิดเคยวางแผน แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆ มันกลับไม่มีแผน มันจะมีสิ่งเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นกับเราโดยเราโดยไม่ทันคิดว่ามันจะเกิดขึ้นเสมอ
          ถ้าถามผมว่าทำไมไม่เอาปืนไปยิงให้มันตายๆไปไอ้พวก รกโลก ผมก็อยากทำ แต่ตอนนั้นไม่รู้ทำไมผมกลับคิดว่า ผมไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ผมแค่อยากจะทำงาน ทำร้านของผมให้มันเจริญขึ้น ทำไมมันต้องมาสร้างความวุ่นวายให้กับผมด้วย ที่ผมไม่ยิงมันเพราะผมคิดว่า ถ้ายิงมันเรื่องต้องยาวแน่ใจกลางเมืองอย่างนี้ มันคงยังไม่ร้ายแรงขนาดที่ต้องใช้ปืนหรอกผมคิด มันจะพังร้านก็ให้มันพังไป ผมเลือกที่จะให้มันมีปัญหาน้อยที่สุด ตอนนั้นมันค่อยข้างสับสน ถ้าเป็นตอนนี้ พอมีเวลามานั้งคิด ผมน่าจะยิงขู่มันไปสักนัดสองนัดไห้มันวิ่งหนีไปเหมือนหมา
          สุดท้ายนี้ผมว่า เราวางแผนได้ แต่โอกาสที่จะทำได้ตามในสิ่งที่เราคิดไว้ผมว่ามันมีโอกาสน้อย ผมว่า ดีที่สุดคือความไม่ประมาทรอบคอบ เตรียวตัวเสมอ และสิ่งสุดท้ายคือ การเตรียมใจพร้อมรับในทุกๆสิ่งๆที่จะเกิดขึ้น 
          ขอบคุณทุกท่านที่ฟังผมระบายครับ   

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำที่ออกมาจากสามัญสำนึกของทุกท่านครับ

ขออ้างถึงเอาคำกล่าวอมตะนี้มาอีกครั้ง

"หนีดีกว่าสู้
สู้ดีกว่าเจ็บ
เจ็บดีกว่าติดคุก
ติดคุกดีกว่าตาย"

ไม่ว่าทุกท่านใช้ปืนอะไร ขอให้มีโอกาสใช้มันรักษาลมหายใจของท่านและครอบครัว
ถ้าเป็นผมนะ คำตอบกระทู้นี้ง่ายมากครับ
เป็นความกะคนตาย ดีกว่าเป็นความกะคนเป็น

เรื่องท่านเสนัด....เตือนตัวเองดีครับ...
การมีปืนไม่ใช่จะยิงอย่างเดียว....
แต่กลับมีสติ....คิดก่อน.... ;D ;D

Show first :)
Shoot secound >:(
Last shoot agian
to all man die run ::)

ถ้าถีงขนาดทำร้ายก็ต้องป้องกันละครับ ยิงแน่นอนเป็นความกับผีดีกว่าเป็นความกับคน :'(

เมื่อก่อนผมเคยเจอเหตุการณ์ คล้ายๆอย่างนี้บ่อยครับ เพราะตอนนั้นที่บ้านทำกิจการคาราโอเกะ (แต่ตอนนี้เลิกไปแล้วครับ) เจอประเภทชกต่อย ตะลุมบอนก็เยอะ แต่ผมในฐานะผู้ดูแล ก็เพียงแค่พยายามไกล่เกลี่ย แล้วก็เชิญออกนอกร้าน มีเหมือนกันที่พกปืนเข้ามาในร้าน ก็เข้าไปขอร้องตรงๆ กันเลยว่า กรุณาเก็บปืนไว้ในรถเถอะครับ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจแล้วจะยุ่ง ซึ่งก็อำเภอของผมก็อำเภอเล็กๆ ก็พอจะรู้จักกันบ้าง ก็มีบ้างแบบประเภท โก๋บ้านนอกเข้ามาเที่ยวทีแล้วก็กร่างหาเรื่องหาราว ซึ่งก็มีประปราย แต่ก็มีเหตุการณ์ระทึกหลายๆครั้งเหมือนกัน มีครั้งนึงซึ่งตอนนั้นผมไม่อยู่ ก็มีกลุ่มพนักงานขายเครื่องไฟฟ้ายี่ห้อนึง (ที่เค้านิยมส่งกันถึงบ้านหน่ะครับ) พากันเข้ามาฉลองยอดขายตามเป้า ซึ่งวันนั้นก็มีแค่สองกลุ่มเท่านั้น คือกลุ่มพนักงานประมาณ 10 กว่าคน กับอีกกลุ่มนึงที่พนักงานบอกว่าไม่รู้จัก ประมาณ 5 คน กลุ่มพนักงานก็สนุกกันเต็มที่ครับ (คือห้องเป็นห้องรวม) แล้วประมาณว่าพออีกกลุ่มขอเพลงอะไรกลุ่มพนักงานนี่ก็ร้องตามแบบคอนเสิร์ต แต่กลุ่มที่มากัน 5 คนนี่ไม่พอใจก็เลยประกาศออกไมค์ว่า (ผู้หญิงด้วยนะครับ) เพลงที่เค้าขอนี่ห้ามใครร้องตามเด็ดขาด

แต่กลุ่มพนักงาน นี่ก็ไม่สนใจครับ เพราะว่าได้ที่กันหมดทุกคนแล้ว ก็ยังร้องเพลงตามทุกเพลง  กลุ่ม 5 คนนี่เลยเช็คบิลแล้วออกจากร้านไป  หายไปประมาณ ครึ่งชั่วโมงครับ ทีนี้กลับมาพร้อมมีดดาบยาวครบมือ (เห็นพนักงานบอกว่า ผู้หญิงเป็นคนสั่งการครับ ควงดาบอยู่ข้างหลังเลย) พอดีพี่คนที่เป็นผู้จัดการเครื่องไฟฟ้านี่แกลืมอะไรก็ไม่รู้ไว้ในรถแก แกเลยเดินออกไปนอกร้าน พอออกไปนอกร้านเท่านั้นหล่ะครับ พวกเล่นรุมฟันเลย ไอ้คนแรกเข้ามาฟันฉับแรก โดนเข้าเต็มหน้าอกเลยครับ แต่..... ไม่เข้าครับ! พนักงานบอกว่า สงสัยดาบมันเป็นสนิมหน่ะเลยฟันไม่เข้า จากนั้นอีกคนก็ซ้ำครับ ทีนี้เข้าครับ เข้าที่หัวเข่าครับ สะบ้าแตก       ที่ร้านมันเป็นกระจกใสครับ เด็กเสริฟข้างในมองเห็นเลยตะโกนบอกกันให้ออกไปดู แต่สภาพแต่ละคนเมาเละครับแค่ยืนก็จะไม่ไหวแล้ว พอดีพนักงานต้อนรับที่ร้าน (อายุมากแล้วนะครับ) แกก็เลยวิ่งออกไปนอกร้านก่อนใครเพื่อน แล้วก็ตะโกนห้ามไอ้พวกที่เหลือว่าอย่าทำพี่เค้าเลย แล้วก็คร่อมทับพี่เค้าไว้    ส่วนพวกที่อยู่ในร้านก็เริ่มรู้ตัวแล้ว ก็วิ่งทะยอยกันออกมา(แบบเป๋ๆ) บางคนก็ถือเก้าอี้มาด้วย พอออกมาถึงก็ ทันทีครับ ไอ้คนที่ถือดาบสนิม ก็ฟันโช๊ะเข้าอีกที่คนแรกที่เดินออกไปเลย โดนหัวไหล่ครับ ครับแน่นอน ครับไม่เข้า แต่ทรุดครับ พวกที่เหลือก็เลยออกมากันเต็มเลย ที่นี้พวกนักดาบก็ถอยไปอยู่ฟุตบาทครับ ที่นี้จะเข้ามาใหม่ครับ บุกทีเดียว 5 คนเลย รวมทั้งผู้หญิงด้วย ก็พอดีมีคนตะโกนออกมาก่อนว่า เอาปืนในกระเป๋ามา เอาปืนในกระเป๋ามา ทีนี้ได้ผลครับ

พวกนักดาบนี่ก็ชะงักครับ ถอยออกไปดูเชิงพักนึง แล้วก็ท้าให้ออกไปรบกับมันที่ฟุตบาท (ก็ไม่รู้จะโกรธอะไรกันนักกันหนา กะอีแค่ ร้องเพลงแจมด้วยแค่นี่ ผมเห็นคนอื่นๆ เค้าก็สนุกกัน ยิ่งมีคนร้องตามแล้ว บรรยากาศก็เหมือนกับคอนเสิร์ตเลย) ซักพักก็ขับมอเตอร์ไซค์หนีหายไป  ซึ่งพี่ผู้จัดการเครื่องไฟฟ้า นี่แกก็นอนเลือดอาบเลยครับ ก็หามกันส่งโรงพยาบาลกันไป ปรากฏว่าที่หัวเข้านี่เย็บกัน เกือบร้อยเข็ม ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเย็บยังไง แผลคงลึกมาก จากนั้นต้องทำกายภาพบำบัดกันอีกนานเลย  เจอกันอีกทีเลยถามๆกันดูว่าวันนั้นมีปืนกันจริงๆมั้ย เค้าก็ส่ายหัวตอบครับว่าไม่มี ที่มีก็อยู่ที่บ้าน ส่วนผู้จัดการแกจะพกก็ตอนเฉพาะไปเก็บเงินทีละเยอะๆ เท่านั้น ฟังแล้วรู้สึกยังไงบอกไม่ถูกครับ ซื้อปืนมาเป็นปีๆ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรซักกะที พอเลิกพกก็ดันมาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซะนี่  ก็เสียใจกับแกครับ แต่จนเดี๋ยวนี้นะครับ ยังจับตัวคนทำไม่ได้เลย เห็นเค้าบอกมันหนีไปตั้งแต่คืนนั้นแล้ว  ใจร้ายจริงๆคนเรา ถ้าเหตุการณ์กลับกัน ถ้าพี่แกมีปืนตุงอยู่ที่เอว ไอ้พวกนักดาบ 5 คนนั่นคงโดนเป่าดิ้นไม่ใครก็ใครหล่ะแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องยิงแน่ๆหล่ะ เป็นผมผมก็ยิง แต่จะยิงขู่ หรือยิงไปที่คนก็คงอีกเรื่องนึง พูดตามตรงนะครับให้ยิงคนหน่ะมันไม่ง่ายสำหรับเราๆท่านๆ คนธรรมดาที่รู้พิษสง ของอาวุธปืนดีนะครับ คือยิงนี่ประมาณการได้เลยคือตาย(ไม่เหมือนยิงเป้ากระดาษหรือเป้าเหล็ก) ครับคนถึงได้กลัวไงครับว่าเจอพวกมีปืนแล้วต้องหลบเพราะมันทำให้ตายได้ด้วยเม็ดเดียว พอตายก็เรื่องยาว ไม่ตายก็เรื่องยาว ค้าความนี่เหนื่อยครับ เอาเป็นว่า ถ้าเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ผมจะแสดงให้คู่กรณีดูก่อนเลยว่าผมมีปืนนะ อย่านะ อะไรประมาณเนี๊ยะครับ  ขออภัยครับที่เล่ายาวไปหน่อย ปรกติแล้ว มีแต่อ่าน ไม่ค่อยได้ โพสต์เท่าไหร่ ฝากตัวด้วยนะครับผม

ผมเคยเจอมาแล้ว แต่ไม่ใช่ภรรยาเป็นน้องชาย สิ่งแรกที่ผมทำคือเจรจา แต่ไม่สำเร็จ  จึงเดินเข้าบ้านไปหยิบปืนพอวิ่งออกมาพวกมันได้รุมล้อมน้องชายผม  ผมจึงยิงขู่ขึ้นฟ้า  พวกมันวิ่งหนีกันหมดโดยทิ้งไม้ไว้ 4-5ท่อน

  ถ้าเหตุการณ์มันอย่างกระทู้ว่านะครับ   ( แต่ขอเปลี่ยน ภรรยา เป็น แฟน ละกัน )  ผม กดทิ้งตั้งแต่แรกเห็นแล้วล่ะ ( กดขู่นะครับ อย่าเข้าใจผิด )  ปีที่แล้วมีงานลอยกระทงที่บ้าน  แฟนผม มีใอ้หนุ่มหมู่บ้านอื่นมาจีบ แต่เธอไม่เล่นด้วย พอดีวันนั้นผมกลับจากบนดอยพอดี แฟนผมมาบอกเล่าเหตุการณ์ ให้ฟัง ตกกลางคืน ผมกับแฟนไปเที่ยวตามประสาหนุ่มสาว  ใอ้พวกที่มาติดแฟนผมมันเห็นปุ๊บ  ....เดินเข้ามา ในมือมี ลูกซองสั้น อีกคนมีลูกโม่ แต่ไม่ทราบยี่ห้อ  บอกว่าจะชวนแฟนผมไปเที่ยว  แต่แฟนผมไม่ไป  มันฉูด แล้วหันมาหาเรื่อง ผมเห็นท่าไม่ดี ก้อ   พูดคุยกันก่อนคร้าบเพ่    คำตอบคือ ส้นปืนลูกซองที่ว่า   หางคิ้วขวาแตก แอนตาซินไม่จ่าย   เนื่องจากอยู่ล่างเวที เหมือนโชคช่วย  แล้วพวกลุงๆ ผมก้อมา เพราะมีคนบอกว่ามีคนพกปืนมาถามหาผม  ลุงผมมีปืนทุกคนครับ ฉากตอนนั้น เหมือน หนังฮ่องกงเลย  ตอนเจ้าพ่อขัดคอกัน  ปืนสั้น 4กระบอก อีเดี่ยว อีก1 กระบอก  จ่อล้อมใอ้พวกนั้นอยู่ ต่อจากนั้นไม่ต้องบอกครับ........พรานเค้าไม่ว่ากัน

ปีนี้ เผลอๆ มีภาค 2.... ;D ;D ;D

 เพื่อนผมที่คบกันมาตั้งแต่10ขวบ สมัยไปเหมาช่วงโครงการวางท่อก๊าซไทย-พม่าที่จ.กาญจนบุรี ได้แฟนเป็นสาวเมืองกาญจน์อยู่แถวๆไทรโยค ก็เคยเจอเรื่องแบบของคุณevilแทบจะเปี๊ยบเลย รายละเอียดนี่คงต้องเล่ากันหลังไมค์ แต่สรุปของนิทาน พระเอก-นางเอกเพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อ2เดือนที่แล้วนี่เอง   8)

ฝากยินดีด้วยครับ   ผมยังคงอีกนาน แหะแหะ ผมมันยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย ;D ;D ;D ;D

มีแบ็คอัพดีอย่าง สบายไปแปดอย่าง ;D ;D ;D