มีข้อมูลอยู่เท่านี้ครับ
ว่านเพชรหึงว่า เป็นกล้วยไม้ป่าชนิดหนึ่งที่พบในประเทศไทย
ในสกุลแกรมมาโทฟิลลั่ม (Grammatophyllum) ซึ่งกล้วยไม้สกุลนี้มีแหล่งกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชียและหมู่เกาะ ในตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก
เป็นกล้วยไม้ประเภทแตกกอ ที่มีระบบรากอากาศ ลำลูกกล้วยอยู่เบียดชิดกัน บางชนิดมีลำลูกกล้วยยาวมาก บางชนิดมีใบติดอยู่ที่ปลายลำลูกกล้วยเพียง 2-3 ใบ
แต่บางชนิดมีใบหลายใบ ออกดอกเป็นช่อมีทั้งชนิดช่อตั้งและช่อห้อย กลีบดอกหนา พื้นกลีบดอกสีเหลือง หรือสีเหลือง อมเขียวและมีแต้มน้ำตาลหรือม่วง
ลักษณะเด่นของกล้วยไม้สกุลนี้อีกอย่างคือรากมีจำนวนมากเกาะกันแน่นและแตกแขนงที่ปลาย ปลายรากจะชี้ขึ้นข้างบนหรือชี้ออกไปข้าง ๆ แทนที่จะหยั่งลงข้างล่าง
กล้วยไม้สกุลแกรมมาโทฟิลลั่ม ที่พบในประเทศไทยมีเพียงชนิดเดียว และเป็นชนิดที่มีต้นใหญ่โต จนถือได้ว่าเป็นราชินีกล้วยไม้ คือ แกรมมาโทฟิลลั่ม
สเปสิโอซัม (Grammatophyllum Speciosum) ซึ่งคนไทยนิยม เรียกว่า ว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง สำหรับชื่อว่านหางช้าง นั้นเรียกตามลักษณะ
ลำลูกกล้วย ซึ่งยาวและมีใบติดอยู่ที่ปลายหลายใบคล้ายกับหางของช้างที่ชี้ปลายหางขึ้น กล้วยไม้ชนิดนี้มีขนาดต้นและช่อดอกสูงใหญ่มาก เคยพบว่าก้านช่อยาวแข็ง
ตั้งวัดได้ 2 เมตรกว่า พื้นดอกสีเขียวอมเหลืองอ่อน ๆ ประจุดสีดำจุดใหญ่ ๆ ในแต่ละช่อมีดอกมากกว่า 50 ดอก แต่ละช่อมีดอกออกโดยรอบจากส่วนครึ่งปลาย
ของช่อ
นอกจากนั้น บางชนิดยังพบว่าดอกของว่านเพชรหึง มีสีเหลืองสด และมีประสีแดงเข้ม อยู่ทั่วไป คล้ายลวดลายของเสือ กล้วยไม้ชนิดนี้
เมื่อผสมเกสรแล้วติดฝัก จะมีเมล็ดขนาดเล็กมากนับแสน ๆ เมล็ด ที่พร้อมล่องลอยแพร่ออกไปตามลม แต่จะมีเพียงไม่กี่เมล็ดที่สามารถรอด ขยายพันธุ์ได้
ส่วนสรรพคุณทางยา ใช้ลำต้นฝนกับเหล้า ฟอกบาดแผล แก้พิษงูกัด ตะขาบ แมลงป่อง