ตามความคิดอันด้อยปัญญาของผม คงคิดว่าไม่มีมือปืนคนไหน เอาปืนมาทะเบียน มีป.3 ระบุชื่อของตน ไปลอบฆ่าใครหรอกครับ
แต่ทำไมรัฐบาลหลายสมัยถึงคิดว่า ยึดปืนคืนจากประชาชน หรือควบคุมปืนให้ขออนุญาตยากๆ จะเป็นการลดอาชญากรรม
หลักๆ คือแยกไม่ได้ว่าใครเป็นคนมีเหตุผล, ใครสามารถควบคุมอารมณ์, และใครสามารถรักษาอาวุธปืนไม่ให้อยู่ในมือคนอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาต(เช่นลูกเอาไปยิงเล่น หรือไม่เก็บรักษาให้ดี ปล่อยให้โดนขโมย)ได้ครับ ไหนๆ แยกไม่ได้ก็ห้ามเสียให้หมด... หากเราหาวิธีแยกได้ ก็น่าจะทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่...
ตัวอย่างที่ชัดคือเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองที่ผ่านมา... โชคดีมาที่กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองบางกลุ่มที่นิยมการใช้กำลังรุนแรงไม่มีอาวุธปืนในมือ มิฉะนั้นจะมีบุคคลสำคัญเสียชีวิตให้เห็นครับ...
ได้ฟังพอดีเหมือนกันครับ รอดูก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งไม่สบายใจ
ตามที่นายกพูดเป็นการตอบตามเหตุบริบทของคำถาม
ซึ่งตอนนี้นายกเองอาจยังไม่ทราบรายละเอียดเลยว่าการซื้อปืนของประชาชนอย่างถูกกฎหมายที่เป็นอยู่นั้นนั้น ยาก ง่าย ขนาดไหน? คนทั่วไปที่ไม่มีปืนเกือบทั้งหมดคิดว่าซื้อกันง่ายกว่าความเป็นจริงทั้งนั้น ลองถามเพื่อนๆ ที่ไม่มีปืนดูสิครับ
ประธานที่ปรึกษาพรรคก็เป็นผู้ที่มีอาวุธปืนอยู่ ไม่ใช่นายโคทมเป็นที่ปรึกษา ฯลฯ
สถานการณ์ปังจุบันก็แสดงชัดว่า รัฐบาลป้องกันประชาชนไม่ได้ ไม่ต้องพูดว่ารัฐบาลยังแทยป้องกันตัวเองไม่ได้
ข้อสำคัญคือ ผมว่ากระบวนการร่วมสมัยปัจจุบัน ต่างจากกระบวนการของนายกเผด็จการบ้าอำนาจ กลัวถูกยิงตายเพราะหมดดูทำนายมา ครับ
ที่ผ่านมาข้อมูลที่ผมได้รับจริงๆจากพรรคพวกคือ ...............
นายกฯคนนี้ ตอนเป็นฝ่ายค้าน เคยให้ สส.ในพื้นที่ ติดตามการไม่อนุญาตป.3 ให้สมาชิกเราคนหนึ่ง .......... จนได้รับป.3
ผมมองอีกแง่ว่า .................. การปราบปรามอาวุธสงคราม คงเข้มงวดมากขึ้น เพราะนายหัวชวน เน้นเรื่องนี้มาตลอด
อีกมุมหนึ่ง ผมมองเข้าข้างตัวเองคือ ................ อาจจะมีการเปิดให้ขึ้นทะเบียนปืนเถื่อน จากเคยเปิดมาเมื่อปี 2518 ...........และคงมีการปรับปรุงและสำรวจเรื่องประชากรปืน ให้มีระบบข้อมูลที่ดีขึ้น ..............
ถ้าเป็นจริง ในเรื่องการสำรวจสำมะโนประชากรปืน เฉพาะพวกปืนครอบปืนสวม มีสิทธิ์หนาว