ใครมีรุ่นนี้ที่ยังไม่ได้อ่านก็อ่านซะ
ลูกโม่ .357 ห้านัด สามนิ้ว รูเกอร์ เอสพี101 (Ruger SP-101)
วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09:00 น.
ในยุคที่ปืนกึ่งอัตโนมัติ เก้าลูกดก ขนาด 9 มม. ตัวเล็ก ๆ จุกระสุนได้กว่าสิบนัด ดูเหมือนว่าปืนลูกโม่ที่บรรจุกระสุนขนาด .357 หรือ .38 สเปเชียลได้เพียง 5 นัด จะเข้าข่ายใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกที แต่ก็ยังมีผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น สมิธ แอนด์เวสสัน, รูเกอร์, เทารัส เป็นต้น ผลิตปืนลูกโม่ห้านัดออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจับลูกค้ากลุ่มที่ชอบความสะดวกปลอดภัยในการใช้งานของปืนลูกโม่ และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีกระสุนติดปืนมากมาย โดยเชื่อว่า ถ้ากระสุนแต่ละนัดที่ยิงออกไปนั้นเน้นความประณีต ไม่ยิงสะเปะสะปะ ห้านัดน่าจะพอยุติเหตุร้ายได้แล้ว
รูเกอร์ เริ่มผลิตปืนลูกโม่แบบดับเบิลในช่วงทศวรรษ 1970 คือรุ่น ซิเคียวริตี ซิกส์ (Security Six) เป็นปืนโครงขนาดกลาง จุหกนัดตามชื่อ ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการตำรวจของสหรัฐ มีเพื่อนร่วมรุ่นคือ เซอร์วิส
ซิกส์ (Service Six) กับ สปีด ซิกส์ (Speed Six) ที่ใช้ศูนย์ตาย โดย สปีด ซิกส์ ทำส้นด้ามมน พกในเสื้อได้แนบเนียนกว่าแบบด้ามเหลี่ยม และจากการเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่าง ทำให้ปืนของรูเกอร์แข็งแรงบึกบึนกว่า แต่ราคาประหยัดกว่า สมิธฯ กับโคลท์ ที่ครองตลาดอยู่ในช่วงนั้น ปืนในชุด ซิกส์ ของรูเกอร์นี้ ณ วันที่เลิกผลิตในปี ค.ศ. 1988 ขายได้รวมกว่าหนึ่งล้านห้าแสนกระบอก
ปืนที่ รูเกอร์ ออกแบบใหม่ในปี ค.ศ. 1985 เพื่อเป็นตัวแทนของ ซีเคียวริตี ซิกส์ คือ GP 100 ที่ทำลำกล้องทรงเหลี่ยมทึบ ในแนวเดียวกับ สมิธฯ 686 ช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวปืนให้ยิงกระสุนแรงสูงได้นุ่มนวลดี และเมื่อบริษัทออกแบบลูกโม่โครงเล็กคือ SP101 ในปี ค.ศ. 1989 ก็ยังรักษารูปทรงลำกล้องหนานี้ไว้ ใช้น้ำหนักตัวสร้างความแตกต่างเป็นจุดขาย ไม่แข่งลดน้ำหนักกับสมิธฯ ที่ทำปืนโครงอัลลอยน้ำหนักเบาหลายรุ่น ส่วนโคลท์นั้น แม้จะมีความได้เปรียบที่จุกระสุน 6 นัด แต่จากการบริหารงานผิดพลาดทำให้ต้องล้มหายตายจาก หลุดวงการปืนลูกโม่ไปอย่างน่าเสียดาย
ลูกโม่ของรูเกอร์ มีรายละเอียดจากการออกแบบที่แตกต่างจากปืนสมิธฯ คือ โครงปืนทึบ ไม่มีประกับข้าง ชุดลั่นไกสอดจากด้านล่าง จุดนี้ทำให้ปืนแข็งแรงดีมาก การเปิดโม่ใช้กดปุ่มให้จมเข้าในโครง ไม่ผลักเดินหน้าเหมือนของสมิธฯ ซึ่งในสภาพปกติไม่ต่างกัน แต่ถ้าจำเป็นต้องออกแรงกดมาก ๆ แบบของรูเกอร์จะทำได้ดีกว่า และรูเกอร์ยังมีขาล็อกที่ด้านหน้าตัวโม่อีกจุดหนึ่ง โดยของสมิธฯ ไปล็อกที่ปลายก้านคัดปลอกห่างออกไป จุดที่สมิธฯ ได้เปรียบด้านความแข็งแรง เฉพาะสำหรับปืนโครงเล็กห้านัด คือตำแหน่งช่องรับตัวล็อกโม่ที่อยู่ตรงเนื้อเหล็กหนาที่สุด ส่วนของรูเกอร์จะเยื้องออกมาเล็กน้อยเนื่องจากตัวล็อกไม่อยู่กลางโครง ถ้าจำนวนช่องโม่เป็นเลขคู่ รูเกอร์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะสมิธฯ ที่วางขาล็อกโม่ไว้กลางโครงต้องเจาะช่องรับขาล็อกในตำแหน่งบางที่สุดของโม่
อีกจุดหนึ่งที่ รูเกอร์ บุกเบิกทำเป็นรายแรกสำหรับปืนลูกโม่ คือระบบความปลอดภัยที่ใช้แท่งถ่ายทอดแรง (transfer bar) จากนกสับไปท้ายเข็มแทงชนวน ปืนลูกโม่ดับเบิลของรูเกอร์ทุกรุ่น ออกแบบให้เข็มแทงชนวนฝังไว้กับโครงปืน นกสับส่วนบนยื่นไปยันกับโครง ทำให้หน้านกสับเข้าไม่ถึงท้ายเข็มแทงชนวน ต่อเมื่อเหนี่ยวไกเข้ามาสุดจึงจะมีแท่งถ่ายทอดแรงยื่นขึ้นมารับหน้านกสับ ให้ส่งแรงถึงท้ายเข็มแทงชนวนได้ ปืนเทารัสที่ส่วนอื่นลอกแบบมาจากสมิธฯ ก็ใช้ระบบนี้ของรูเกอร์ ป้องกันปืนตกแล้วลั่นได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
กล่าวโดยรวม รูเกอร์ เอสพี 101 เป็นลูกโม่ตัวเล็กที่ยิงได้นิ่มนวลดีมาก ใช้กระสุน .357 และ .38 สเปเชียลได้ทุกแบบ ทุกระดับความแรง วัสดุเหล็กปลอดสนิมแข็งแรงทนทาน เป็นปืนอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งติดบ้าน ติดรถ ติดตัว ลำกล้องสามนิ้ว ได้สมดุลระหว่างการเล็งยิงประณีตกับความคล่องตัว สำหรับปืนลูกโม่โครงเล็กจัดว่าหนักสักหน่อย ถ้าชอบทั้งสั้นทั้งเบา ลองดูรุ่น LCR ที่ลงในคอลัมน์นี้ของฉบับวันที่ 2 มิ.ย. 2555 ครับ.
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
..........................................
ข้อมูลสรุป Ruger SP101
ขนาดกระสุน .357 /.38 สเปเชียล โม่จุ 5 นัด
มิติตัวปืน ยาวxสูงxหนา : 199x118x33 มิลลิเมตร
ลำกล้องยาว 78 มม. (3 นิ้ว)
น้ำหนัก 765 กรัม
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 5,900 กรัม (13 ปอนด์) ซิงเกิล 2,050 กรัม (4.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กปลอดสนิม, ด้ามยางแข็ง
อื่นๆ มีรุ่นลำกล้อง 2.25 นิ้ว
ลักษณะใช้งาน ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง, ติดบ้าน, พกพา
ตัวเลือกอื่น Smith Model 60, Taurus Model 605
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/article/117526/167015