เอสทีไอ "วี.ไอ.พี." 9 มม. พาราฯ
บรรจุ 16 นัด มีเพียง 30 กระบอกเท่านั้น

เมื่อนำปืนที่ใช้แข่งขันมาปรับเป็นปืนใช้งาน อะไรจะเกิดขึ้น ที่แน่ๆ มีโอกาสคิดไม่นานนัก เพราะจำนวนที่ผลิตจำกัดเพียง 30 กระบอก จากความคิดนำไปสู่การผลิตจริง แม้ในประเทศผู้ผลิตเองยังไม่มีปืนรุ่นนี้ การพิสูจน์แนวความคิดเรื่องอย่างนี้มีอยู่สองทางเท่านั้น ไม่ตายก็รอด !


โครงปืน V.I.P. 9 มม.พาราฯ กระบอกนี้เท่ากับ รุ่น .45

ปืน STI เป็นปืนที่ใช้แข่งขัน IPSC ระบบการทำงานเป็นแบบโคลท์ แต่ปรับปรุงโครงสร้างใหม่ตรงที่ส่วนประกอบบางส่วนของโครงเป็นพลาสติก ความคิดในการผลิตแบบนี้เนื่องจากทำให้เจ้าของปืนสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนของปืนได้ สามารถแยกส่วนของด้ามออกจากโครงสไลด์ที่เป็นสเตนเลสส์ด้วยการถอดสกรูที่ยึดออก

โครงปืนที่เป็นพลาสติกแบบกล็อก ได้พิสูจน์แล้วว่าแรงรีคอยล์ที่เกิดขึ้นน้อยกว่าปืนที่เป็นโครงโลหะ ลดน้ำหนักลงได้มากกว่า 30% แต่ว่าเมื่อเทียบความแม่นยำแล้ว ยังเป็นรองปืนที่มีโครงสร้างเป็นโลหะ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงมีปืนที่มี โครงด้ามเป็นพลาสติกแต่ส่วนที่รองรับสไลด์ทั้งหมดเป็นโลหะ เป็น การใช้ประโยชน์ทั้งหมดจากความได้เปรียบของวัสดุนั่นเอง


วิธีถอดปืน เริ่มจากใช้ลวดขัดสปริง ไกด์ร็อดก่อน

ดึงสไลด์มาที่ตำแหน่งปลดตัวล็อกสไลด์

บริษัท STI เองมีปืนที่ผลิตออกมาในสองลักษณะ หนึ่งเป็นปืนที่บรรจุแม็กกาซีน แบบแถวเดียว ได้แก่รุ่นต่อไปนี้ LS, BLS, Ranger, Trojan 5.0, Trojan 6.0, Trojan 40 Super และ Xcaliber 450. ส่วนแบบแม็กฯแถวคู่ ได้แก่ V.I.P., Eagle 5.0, Eagle 6.0, Xcaliber 450, Edge, Executive, Competitor, TruBor Competitor, Grand Master. ในบางรุ่นยังแยกเป็นกระสุนคนละชนิด รวมทั้งโครงที่เป็นโลหะแตกต่างกัน ทั้งนี้ยังอาจกำหนดส่วนประกอบ อื่นๆเองได้ตามใจคนที่จะใช้อีกต่างหาก นับตั้งแต่ทางสหรัฐฯออกกฎหมายการใช้
แม็กกาซีนไม่เกิน 10 นัดขึ้นมา ปืนที่ทำจึงเน้นแบบแม็กฯแถวเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่เพื่อการขาย ในประเทศ ส่วนแม็กกาซีนแถวคู่ จะเป็นการขายให้ต่างประเทศ และหน่วยราชการเท่านั้น เพราะบรรจุได้เกิน 10 นัด

STI V.I.P. รุ่นแรกที่เข้ามาเป็นปืนคอมแพ็ก ขนาด .45 บรรจุกระสุนได้ 10 นัด ทดสอบ โดยอาจารย์ผณิศวร (ดู อวป. ฉบับที่ 323) รุ่นนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้ดีกว่าปืน คอมแพ็กขนาดเดียวกันของหลายๆบริษัท ขณะเดียวกันก็มีแฟนๆเรียกร้องอยากได้ขนาด 9 มม.พาราฯ แต่ขอให้เป็นรูปร่างแบบนี้ เพราะจะได้ปืนขนาดพกพาที่บรรจุกระสุน ยอดนิยมได้ และขอติงอีกนิดเดียวคืออยากได้โครงแบบสเตนเลสส์ด้วย คราวนี้เป็นเรื่องเลย เพราะว่าไม่มีปืนรุ่นนี้แบบนี้ตามสายการผลิตปกติของบริษัท STI ทางร้านปืนประโยชน์ คงหนักใจไม่น้อยที่จะต้องสั่งปืนอย่างน้อยที่สุดต้อง 30 กระบอก จึงเป็นที่มาของปืน 30 กระบอกเฉพาะไทยแลนด์เท่านั้น เป็นเลขประจำปืนที่วิ่งตั้งแต่ 001-030 งานนี้ยกนิ้ว ให้กับความคิดของร้านปืนประโยชน์ที่เปิดโฉมหน้ากล้าตัดสินใจ

STI เป็นปืนที่มีรากฐานมาจากความแม่นยำ ทนทาน และไม่มีการติดขัดในระบบ การทำงาน ผู้ที่ใช้ปืนของ STI จะมั่นใจได้ว่า ปืนจะมีการขัดข้องน้อยที่สุด เพราะในสนาม แข่งขันการติดขัดก็เท่ากับพ่ายแพ้นั่นเอง ส่วนปืนที่ใช้ในการพกพาถ้าติดขัดหมายถึงชีวิต


ดึงคันล็อกสไลด์ออก

V.I.P. 9 มม.พาราฯ กระบอกนี้ มีความยาวและรูปร่างเท่ากับปืน V.I.P. ขนาด .45 ผิดกันแต่ขนาดกระสุนและน้ำหนักของปืน เพราะในขนาด .45 เป็นปืนที่มีโครงอัลลอย ส่วนในขนาด 9 มม. พาราฯ เป็นโครงปืนสเตนเลสส์ น้ำหนักปืนเปล่าชั่งได้ 985 กรัม ส่วนในปืนขนาด .45 น้ำหนักปืนเปล่า 825 กรัม น้ำหนักไกวัดได้ที่ 3 ปอนด์ ไกไม่มี ช่วงลากไก จังหวะหลุดคมมาก ตรงนี้น่าสนใจมากทีเดียว คนที่จะควบคุมปืนที่มีน้ำหนักไก ขนาดนี้ได้ไม่ใช่คนธรรมดา เน้นว่าต้องเป็นคนที่มีความชำนาญพิเศษจริงๆ ปืนที่ใช้ในการ แข่งขันระบบต่างๆ มีการกำหนดน้ำหนักไกไว้หลายๆประเภทตามแต่มาตรฐานการแข่งขัน ปืนที่มีไกเบาๆ จะเป็นปืนที่ยิงยากขึ้น เช่น ปืนฟรีพิสตอล น้ำหนักไกอยู่ที่ 20-60 กรัม ปืนสั้นอัดลมอยู่ที่ 500 กรัม หรือประมาณ 1 ปอนด์ ปืนสั้นมาตรฐานอยู่ที่ 1,000 กรัม หรือที่ 2.2 ปอนด์ ส่วนปืนสั้นชนวนกลาง อยู่ที่ 1,350 กรัม ประมาณ 3 ปอนด์

ปืน V.I.P. รุ่นนี้จึงจัดเป็นปืนที่มีน้ำหนักไกเท่ากับปืนแข่งขันชนวนกลาง ปืน ที่ใช้พกพาที่มีน้ำหนักไกเท่านี้จำเป็นต้องมีการผ่านการฝึกยิงให้ชำนาญก่อนการใช้พกพา จริง เหมาะสำหรับคนที่มีความชำนาญในการแข่งขันปืน IPSC หรือเป็นนักกีฬามาก่อน


ดึงชุดไกด์ร็อดออกมา

STI กระบอกนี้ออกแบบมาให้พกพาโดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่ศูนย์หน้าเป็นแบบลาดเอน มีสลักเล็กๆยึดศูนย์ต่างหาก ส่วนศูนย์หลังแบบโนแว็ก มีสกรูหกเหลี่ยมยึดอยู่ เวลาปรับให้คลายสกรูก่อนแล้วเคาะเลื่อนสันหลังของสไลด์ถูกปาดเรียบตลอดเป็นรุ่น สไลด์คลาสสิก ข้อดีคือทำให้ศูนย์หน้าและหลังอยู่ตำแหน่งที่เตี้ย มีร่องเช็กเกอร์สไลด์ เฉพาะด้านหลัง ซึ่งเป็นแบบร่องใหญ่ ไม่มีสลักนิรภัยที่สไลด์นี้

ปืนรุ่นนี้ไม่มีบูชลำกล้อง เป็นลำกล้องแบบหัวโต เส้นผ่าศูนย์กลางของปากลำกล้อง 0.693 นิ้ว ความยาวลำกล้อง 3.9 นิ้ว ใช้ลำกล้องแบบมีแรมพ์หรือทางลาดป้อนกระสุน ลำกล้อง 6 เกลียวเวียนซ้าย สปริงไกด์ร็อดเป็นแบบสองชั้นวางซ้อนกันอยู่บนคนละแกนกัน มีเซฟหลังอ่อนแบบไฮด์กริพ ช่วยให้จับปืนเข้าใกล้แนวลำกล้องมากขึ้น ด้ามเป็นโพลิเมอร์ หรือพลาสติกที่เสริมเส้นใย มีความยืดหยุ่นสูง ชิ้นด้ามหล่อเป็นชิ้นเดียวกันรวมกับโกร่งไก แกะเช็กเกอร์ 30 เส้นต่อตารางนิ้วที่สัน ด้านหน้าและที่หน้าโกร่งไก ตัวเมนสปริงเฮ้าส์ซิ่ง หรือเรือนสปริงนกสับทั้งอันเป็นพลาสติก สกรูด้ามตัวบนยึดกับโครงสเตนเลสส์ สกรูตัวล่างทำหลอกเอาไว้


ดึงลำกล้องตามออกมา

รายละเอียดการถอดประกอบปืนเป็นแบบเดียวกับการถอดปืนโคลท์ เริ่มจากปลด แม็กกาซีนออก ดึงสไลด์ถอยหลังให้แกนไกด์ร็อดโผล่มาเล็กน้อยจนพ้นโครง ใช้ เส้นลวดปลายงอสอดเข้าไประหว่างชั้นของแกนในกับอันนอก ปล่อยสไลด์ให้งับเส้นลวดไว้ ดึงสไลด์ถอยหลังมาจนถึงร่องปลดแกนยึดสไลด์ ดึงแกนล็อกสไลด์ออก ดึงสไลด์ออก ทางด้านหน้า จับชุดไกด์ร็อดออกมาพร้อมกับปลอกแกนไกด์ร็อด ดึงลำกล้องออกทาง ด้านหน้า ชิ้นส่วนที่จะถอดต่อไปอีกขอแนะนำว่าไม่ควรถอดให้มากไปกว่านี้ เนื่องจากปืน รุ่นนี้ถูกปรับแต่งมาจากโรงงานอย่างสมบูรณ์มาก เมื่อมีการขยับของสปริงสามชายไป จากเดิม จะทำการใส่กลับในตำแหน่งให้เซียร์จับได้ยากมาก ชิ้นส่วนภายในเป็นชิ้นเดียว กับรุ่น V.I.P. ที่ลงในฉบับที่ 323

ทดสอบการยิง V.I.P. ใช้กระสุนสองชนิด คือวินเชสเตอร์ 115 เกรน กับ ฟิอ็อกกี้ 123 เกรน คอมแบ็ท ในการยิงระยะ 15 เมตร กระสุนวินเชสเตอร์ค่อนข้างมีปัญหากับปืนมาก เนื่องจากสไลด์ถอยไม่สุด การคัดปลอกกระสุนติดขัด ค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควร หลังจากเปลี่ยนมาใช้กระสุนฟิอ็อกกี้กลับลื่นตลอด ปลอกกระสุนกระเด็นอย่างสวยงาม ฉะนั้นจึงเป็นการบ้านสำหรับเจ้าของปืนที่ต้องไปเลือกกระสุนให้ถูกกับรสนิยมของปืน แต่ถ้าเอาแบบถาวรตัดสปริงลำเลื่อนออกสักสองข้อ หรือหาสปริงที่ อ่อนกว่าเล็กน้อยใส่จะหมดปัญหานี้แน่นอน

ผู้เขียนยิงทดสอบ 17 นัด ระยะ 15 เมตร

สรุปปืน STI V.I.P. 9 มม.พาราฯ กระบอกนี้เป็นปืนระดับคัสตอม แต่ผลิตออก มาใช้งานแบบพกพา มีจำนวนจำกัดเพียง 30 กระบอก ตั้งราคาที่ 130,000 บาท สนใจโปรดติดต่อ ห้างฯ ปืนประโยชน์ โทร. 02-221-3350

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 327 มกราคม 2545 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com