อีเดี่ยวของรอสซี
ไม่ต้องโคนเหลี่ยมก็ยิงลูกโดดได้

ข้าวกำลังตั้งท้อง ในไม่ช้าก็จะผลิรวงเหลืองอร่ามทุ่ง หัวอกไอ้หนุ่มลูกทุ่งอดไม่ได้ ที่จะเต้นระทึกเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาอยากครอบครองมาตลอด นับตั้งแต่เขาได้เห็น สิ่งที่ว่านั้นในมือลุงกำนันและพ่อผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งแสดงถึงความเป็นผู้นำ ความน่าเกรงขาม ที่ลูกบ้านที่เป็นชายอกสามศอกทุกคนใฝ่ฝันถึง สิ่งนั้นคือ อีเดี่ยวจุเดี่ยว ปืนลูกซองบรรจุทีละนัด ที่เขาอยากได้มานานแสนนาน


ปืนลูกซองรอสซี่ จะมาในสภาพถูกถอดออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นโครงปืน อีกส่วนหนึ่งเป็นกระโจมมือหน้าที่เกาะติดกับลำกล้อง

หลังจากเก็บเกี่ยวข้าว ไอ้หนุ่มชาวนามีเงินพอ เขาไม่ลังเลที่จะเก็บกระเป๋าเข้าสู่ บางกอกเพื่อไปซื้อปืนลูกซองอีเดี่ยวมากอดนอน พ่อแก่พ่อเฒ่าบอกไว้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนขึ้นใจว่า ปืนอีเดี่ยวที่ดีและเชื่อใจได้ต้องยกให้โคนเหลี่ยมตรามงกุฎ บนสันลำกล้องต้องมีอักษรบอกไว้ว่า "สั่งพิเศษยิงลูกโดดได้"

ในบ้านเราปืนลูกซองบรรจุเดี่ยวอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์เพราะผู้คนลืมเลือนภาพ ของลุงกำนันที่ถืออีเดี่ยวเดินชมทุ่งไปเสียสนิท ลูกซองสมัยใหม่ก็มีแต่พวกที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เรียกได้ว่าผู้ยิงไม่ต้องใช้ภูมิปัญญาอะไรมากนักก็สามารถยิงให้ดีได้ แต่อย่างไรก็ตาม โลกก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด ยังมีผู้ผลิตปืนยี่ห้อหนึ่งแห่งอเมริกาใต้นามว่า รอสซี่ ผู้ไม่ยอมตามกระแสการจัดระเบียบสังคม เอ๊ย ! ไม่ใช่ กระแสโลกสมัยใหม่ไปเสียทั้งหมด พวกเขายังยึดมั่นในหลักการที่จะผลิตปืนซึ่งมีส่วนช่วยรักษาเอกลักษณ์ไทยให้ยืนยงต่อไปได้ ปืนที่เขาผลิตขึ้นมาคือปืน อีเดี่ยวบรรจุเดี่ยว ลูกซองพื้นฐานสำหรับชาวนาชาวไร่


วิธีประกอบลำกล้อง ขั้นแรกจับปืนอยู่ในลักษณะหักลำ

อีเดี่ยวของรอสซี่มีมาในกล่องโดยถอดแยกปืนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็น ชุดลำกล้องประกบติดมากับกระโจมมือหน้าที่เป็นไม้เนื้อแข็งโดยยึดเข้ากับลำกล้องด้วย หูกระวินบนที่มีลักษณะเป็นสกรูเกลียวยึดกระโจมมือหน้าเข้ากับลำกล้อง ส่วนที่สอง เป็นโครงปืนพร้อมพานท้ายที่เป็นไม้เนื้อแข็งเช่นกัน

การประกอบปืนที่ถูกถอดแยกมานี้เพื่อเริ่มใช้งาน เริ่มจากกฎแห่งความปลอดภัย ก่อนโดยตรวจสอบว่ามีอะไรอยู่ในรังเพลิงหรือลำกล้องหรือไม่ จากนั้นให้ถอดกระโจมมือหน้าออกโดยคลายสกรูที่เป็นส่วนหนึ่งของหูกระวินบนออก ขั้นตอนต่อไปจับโครงปืนกับชุดลำกล้องมาประกอบเข้ากันโดยกดส่วนโคนลำกล้องที่เป็นขอเข้ายึดกับห่วงที่อยู่ ด้านล่างของส่วนหน้าโครงปืน โดยบิดหางปลาที่อยู่หลังไกเพื่อช่วยให้ลำกล้องล็อกเข้ากับ โครงปืนได้คล่องขึ้น เมื่อลำกล้องล็อกเข้ากับโครงปืนเรียบร้อยแล้วก็นำกระโจมมือหน้า มาประกอบเข้ากับลำกล้อง เท่านี้เป็นอันจบสิ้นขั้นตอน


มือหนึ่งกำคอปืน บิด หางปลา อีกมือหนึ่งจับลำกล้อง กดให้เข้าล็อก

อีเดี่ยวของรอสซี่มีลำกล้องยาว 28 นิ้ว โคนลำกล้องกลม ตรงจุดนี้ต้องยอมรับว่า รอสซี่เขาเชื่อมั่นในคุณภาพและชื่อเสียงของตนในประเทศไทยแล้ว เพราะพวกเขาไม่ จำเป็นต้องขอให้ช่างปืนในเมืองไทยไปทำโคนลำกล้องให้เป็นโคนเหลี่ยมและจำหลัก ตรามงกุฎ พร้อมคำว่า "สั่งพิเศษยิงลูกโดดได้" เพื่อให้เป็นที่เตะตาและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าให้ลำบากมากความ ตรงโคน ลำกล้องมีเพียงอักษรภาษาอังกฤษว่า "a.rossi s.a. 12 gauge 3" อยู่เท่านั้น ตัวอักษรดังกล่าว บอกอะไรเราบ้าง อย่างแรกคือ A.ROSSI บอกชื่อผู้ผลิตว่าเป็นของอมาเดโอ รอสซี่ (AMADEO ROSSI) และต่อมาคือ S.A. บอกสถานที่ผลิตปืนในบราซิลว่าเป็น SAO LEOPOLDO ส่วน 12 gauge คือ ขนาดลำกล้องของปืนที่เป็นขนาด 12 ในขณะที่ 3" เป็นการบอกความ ยาวรังเพลิงว่าสามารถใช้ลูกได้ทุกแรงไม่ว่าจะเป็น 1 แรง 1 แรงครึ่ง หรือ 2 แรง และสิ่งที่รอสซี่ไม่บอกมาแต่เป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้วว่าปืนกระบอกนี้สามารถยิงลูกโดดได้ เพราะเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าปืนขนาด 12 เกจในเมืองไทยสามารถยิงลูกโดดได้ทุกยี่ห้อ


บิดหางปลาให้ดีดกลับเพื่อล็อกลำกล้องและนำกระโจมมือหน้าประกอบ

ปืนกระบอกนี้วัดความกว้างปากลำกล้องได้ 0.693 นิ้ว ซึ่งแสดงว่ามีการ บีบปลายลำกล้องเพื่อควบคุมการกระจายของม่านลูกปรายแบบฟูลโช้ก ซึ่งภาษาชาวบ้านก็เรียกว่า พวกรีดลูกจัด โดยปกติปืนลูกซองขนาด 12 ที่มีโช้กแบบปลายตีบจะเรียกว่า ฟูลโช้ก และจะมีความกว้างปากลำกล้องประมาณ 0.693 นิ้ว โตขึ้นมาหน่อยจะเป็นพวกฮาล์ฟโช้ก คือ 0.710 นิ้ว จากนั้นจะเป็นพวกอิมปรู๊ฟ ซิลินเดอร์ คือ 0.719 นิ้ว และก็เลยไปเป็นซิลินเดอร์ คือ ไม่มีโช้กเลย ลำกล้องมีลักษณะเป็นท่อเรียบๆแบบท่อประปา ลูกจะออกมาตรงๆ หากวัดความ กว้างปากลำกล้องจะได้ประมาณ 0.725 ถึง 0.729 นิ้วครับ ในช่วงหลังมีโช้กชนิดพิเศษที่ ผู้ผลิตปืนเขาออกแบบมาเพื่อใช้ติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไปต่างหาก เช่น ปืนเรมิงตัน 870 เตอร์กี ที่มีโช้กแบบเอ๊กซ์ตร้า ฟูลสเตรท ไรเฟิล เพื่อบีบกลุ่มกระสุนให้มากขึ้นไปอีก

สำหรับปืนกระบอกนี้มีศูนย์หน้าแบบลูกปัด คือ ฝังตุ่มทองเหลืองไว้ที่ปลายลำกล้อง ศูนย์หลังไม่มี ตัวปืนทั้งลำกล้องและโครงปืนเป็นเหล็กคาร์บอนสตีลรมดำ กระโจมมือหน้า ยึดเข้ากับลำกล้องด้วยเกลียวของสกรู หูกระวินบนซึ่งแตกต่างจากปืนลูกซองโดยทั่วไป ที่มักจะมีการยึดด้วยสกรูหัวผ่าหรือเป็นลิ้นโยก ตรงจุดนี้แม้ว่าจะดูเสียเวลาในการถอดปืน แต่ก็อย่างที่ อ๊อด บ้านโป่ง ได้กล่าวแต่ต้นแล้วว่า ปืนกระบอกนี้ออกแบบสำหรับลุงกำนันหรือพ่อผู้ใหญ่ รวมทั้งไอ้หนุ่มรถอีแต๋น ที่จะใช้ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นคงไม่ค่อยจำเป็นต้องถอดปืนออกมาเพื่อเก็บรักษาหรือเดินทาง ไปไหนมาไหนบ่อยครั้งนัก ตรงโครงปืนพิมพ์โลโก้รูปนกและบอกว่าผลิตในประเทศบราซิลไว้ ส่วนหมายเลขประจำปืนก็พิมพ์ไว้ที่โครงปืนด้านขวา นอกจากนั้นยังพิมพ์หมายเลข
3 หลักไว้ที่ห่วงใต้โคนลำกล้องซึ่งตรงกับด้านล่างของโครงปืน (คงกลัวประกอบผิดตัวผิดฝา)

ผมลองนึกภาพดูถึงพ่อเจ้าประคุณ หนุ่มลูกทุ่งโชเฟอร์รถอีแต๋นที่ใส่เสื้อลายดอก หอบเงินที่ได้จากการขายข้าวมาเพียบเพื่อซื้อปืนกระบอกนี้และทันทีที่ได้รับปืน พ่อหนุ่ม คงอยากรู้ว่าปืนกระบอกนี้ทำงานอย่างไรเป็นสิ่งแรก และในเวลาต่อไปคงต้องออกไปปลายทุ่ง ไม่ใช่เพราะนัดอีเรียมไว้ครับ แต่เพื่อทดลองยิงปืนกระบอกนี้ให้สาใจ


เมื่อลำกล้องเข้าล็อกดีแล้ว ใส่กระโจมมือตามเข้าไป กดให้เข้าสนิท หมุนหมุดล็อกให้แน่น

อีเดี่ยวกระบอกนี้บรรจุลูกทีละนัด (รู้อยู่แล้วจากคำว่าอีเดี่ยวไง) การหักลำใช้การบิดหางปลาด้านหลังนกสับ การหักลำกล้องแล้วบรรจุกระสุนทุกครั้ง เมื่อปิดลำกล้องลง นกสับจะไม่ง้างเอง การยิงก็ต้องง้างนก ทุกครั้งแบบปืนลูกโม่ ปืนกระบอกนี้ไม่มีเซฟให้ต้องปลด เวลาหักลำปลอกกระสุนจะดีด ออกจากลำกล้องทุกครั้ง ไม่ว่าจะยิงแล้วและคัดปลอกออกหรือจะดีดลูกที่ยังไม่ยิงออกมา เมื่อไม่ต้องการจะยิงก็ได้ การหักลำแรกๆก็ฝืดหน่อย แต่พอทำไปหลายๆครั้งก็จะคล่องขึ้น การลดนกเมื่อไม่ต้องการยิงก็กระทำเหมือนปืนลูกโม่ คือ รั้งนกไว้ขณะที่เหนี่ยวไกและค่อยๆปล่อยนกลง

ปืนกระบอกนี้ไม่มีระบบฮาล์ฟค็อก แต่ใช้ระบบความปลอดภัยด้วยนกสับ คือ โดยปกติแล้วนกสับจะวางตัวอยู่ไม่ชิดโครงปืน และไม่สัมผัสกับเข็มแทงชนวนที่อยู่ในโครงปืน เมื่อปืนหล่นกระแทก ปืนจะไม่ลั่น ต่อเมื่อจงใจเหนี่ยวไกเท่านั้น นกสับจึงจะตีเข็มฯ เมื่อนกสับตีเข็มฯแล้วจะมีกลไกที่ทำหน้าที่ดันนกกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมที่ไม่ชิดโครงปืนที่เขาเรียกว่า รีบาวน์ดิ้ง แฮมเมอร์ (REBOUNDING HAMMER)

พานท้ายของรอสซี่เดี่ยวบรรจุเดี่ยวกระบอกนี้เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลายเดียวกันกับกระโจมมือหน้า ด้านหลังของพานท้ายมีแผ่นพลาสติกเป็นแผ่นรองพานท้าย แต่เสียอย่างที่ทำมาบางๆ ตัวแผ่นรองนี้ยึดกับพานท้ายด้วยสกรู 2 ตัว เมื่อถอดสกรูออกจะเห็นช่องที่เจาะเข้าไปเป็นโพรงในเนื้อไม้ เพื่อให้ใส่เหวทหรือตุ้มถ่วงน้ำหนัก งานนี้รอสซี่เขาไม่ได้ให้ตุ้มถ่วงมาให้ เจ้าของปืนอาจให้ช่างกลึงเขาทำ เป็นก้อนทรงกระบอกใส่เข้าไปตามจำนวนที่ต้องการได้ (งานนี้สำหรับคนชอบพานท้ายหนักๆครับ ผู้ที่ไม่ต้องการก็ไม่จำเป็น)


ประกอบเสร็จเป็นปืนลูกซองเดี่ยวพร้อมยิงตามรูปแบบของ "รอสซี่"

การถอดอีเดี่ยวรอสซี่ ก็เริ่มจากถอดกระโจมมือหน้าออก และดึงออกจากชุดลำกล้อง โปรดสังเกตว่าที่ลำกล้องเขาจะต๊าปแป้นรูสกรูไว้ด้วยเพื่อให้เป็นที่ล็อกกระโจมมือหน้า นอกจากนั้นยังมีแกนบังคับกระโจมมือหน้าซึ่งจะสอดเข้ากับรูที่กระโจมมือหน้า เพื่อความมั่นคงแข็งแรงอีกชั้นหนึ่ง เมื่อถอดกระโจมมือหน้าออกก็บิดหางปลาและหักลำ นำลำกล้องออกจากโครงปืน ชิ้นส่วนใหญ่ๆ ก็มี 3 ชิ้นเท่านี้ครับ

การทำความสะอาดลำกล้องปืนลูกซอง เราก็จะสอดแส้ทำความสะอาด ลำกล้องเข้าไปทางด้านท้ายลำกล้องเช่นเดียวกับปืนไรเฟิลเหมือนกัน เพราะถึงจะไม่มีเกลียวลำกล้องก็ตาม แต่ที่ปากลำกล้องของปืนลูกซองก็ยังมีโช้กบีบปากลำกล้องเข้ามาเพื่อบีบกลุ่มกระสุนลูกปราย การสอดก้านแส้ เข้าไปทางปากลำกล้องอาจจะทำความเสียหายให้กับโช้กลำกล้องได้ คราบสกปรก ในลำกล้องปืนลูกซองมีเพียงคราบเขม่าธรรมดา และถ้าเราใช้กระสุนแบบที่ใช้หมอนกั้นหน้าดินส่งกระสุน คือรองเอาไว้เฉพาะด้านล่างลูกปรายไม่ได้หุ้มขึ้นไปถึงด้านข้าง อย่างเช่นลูกของอีเลย์ ซึ่งใช้หมอนหน้าดิน เป็นหมอนสักหลาด เวลายิงไปหลายๆนัดอาจจะมีคราบตะกั่วของลูกปรายจับอยู่ด้านในลำกล้อง แต่ไม่ว่าคราบเขม่าหรือคราบตะกั่วก็ตาม เราใช้แค่แปรงทองแดงกับน้ำยา ทำความสะอาดลำกล้องแบบธรรมดาก็สามารถล้างออกได้

รูลำกล้องของปืนลูกซองโตกว่าปืนไรเฟิล ก้านแส้รวมทั้งพวกบรรดาดอกแส้ สำหรับทำความสะอาดลำกล้องปืนลูกซองก็ต้องใหญ่โตกว่าของปืนไรเฟิลตามขนาดลำกล้องปืนไปด้วย ก้านแส้ที่ใช้กับปืนลูกซองแบบที่ผลิตภายในประเทศของเรามีความแข็งแรงเพียงพอที่จะใช้งานได้ แต่บางครั้งเราจะพบว่าก้านแส้ของบ้านเราทำเกลียวต่อกับดอกแส้ของนอกไม่ได้ ถ้าจะซื้อมาใช้ อยากแนะนำให้เอาดอกแส้ติดกระเป๋าไปลองเทียบดูก่อนซื้อ จะได้ไม่ต้องเสียเงินสองรอบ

ผู้เขียนยิงทดสอบ และกลุ่มกระสุนที่ยิงในระยะ 15 เมตร

เราวัดไกเจ้าอีเดี่ยวกระบอกนี้ได้ 6 ปอนด์ ระยะเดินไกไม่มาก และเพื่อเป็นข้อมูล ให้ไอ้หนุ่มลูกทุ่งผู้ใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของปืนกระบอกนี้ เราจึงยิงทดสอบให้ดูก่อนเผื่อ ไอ้หนุ่มแห่งทุ่งรวงทองจะใช้เป็นแนวทางในการ "ลอง" ปืนของเขาที่ชายทุ่งได้ การยิงทดสอบปืนกระบอกนี้ เราต้องการดูการควบคุมม่านลูกปรายของโช้กที่บอกว่าเป็นฟูลโช้กในระยะต่างๆกัน ว่าจะมีประสิทธิภาพ เพียงใด ว่ากันว่าฟูลโช้กนั้นเมื่อยิงจากระยะไกลถึง 30 หลา ควรได้ม่านกระสุนอยู่ในวงกลม 30 นิ้วเต็ม 100% หมอจันทร์กรุณาเริ่มก่อนด้วยการยิงลูกปราย 2 แรง โดยใช้เป้าวงกลม 30 นิ้ว ในระยะ 25 และ 30 เมตร ผลปรากฏว่าม่านกระสุนอยู่ในวงกลมเต็มๆ นอกจากนั้นผู้พันสุพินท์ยังช่วยยิงในระยะ 40 เมตรให้ด้วย ผลออกมา ม่านกระสุนยังอยู่ในวงกลมเป็นส่วนใหญ่แต่อยู่ค่อนข้างต่ำ ส่วนผู้ทดสอบนั้นยิงด้วยลูกเอสจี (SG) ที่ชาวบ้านเรียกว่าลูกเก้า เนื่องจากมีลูกเล็กๆภายในอยู่ 9 เม็ด เป้าที่ใช้ไม่ใช่เป้าวงกลม 30 นิ้วแต่ใช้เป้าหุ่นคน การยิงกระทำใน 4 ระยะ คือ 15 เมตร, 25 เมตร, 30 เมตร และ 40 เมตร ในการยิงได้ใช้ สายกระสุนสำรองเสียบกระสุน 5 นัดสวมไว้กับพานท้ายปืนด้วย เพื่อความรวดเร็วในการ บรรจุกระสุนเพิ่มเติม คือพอยิงเสร็จ หักลำ และดึงกระสุนใหม่จากปลอกบรรจุใหม่ทันที ผลการยิงปรากฏว่าในระยะ 15, 25, 30 เมตร กลุ่มกระสุนมีเม็ดกระสุนอยู่ในเป้าทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มที่ยิงในระยะ 15 เมตร กระสุนเกาะกลุ่มกันกลมทั้ง 9 เม็ด เจาะอยู่ที่ตรงลิ้นปี่ การเล็งศูนย์ปืนเดี่ยวลูกซองที่ไม่มีศูนย์หลังต้องเล็งในระดับแนวสันลำกล้องตลอดลำ ให้ตุ่มลูกปัดศูนย์หน้าโผล่ขึ้นมาทาบเป้าและเล็งเผื่อต่ำเล็กน้อย
ส่วนระยะซ้าย-ขวาให้ดูช่วงนกสับที่เป็นสันสี่เหลี่ยม

ปืนกระบอกนี้ การหักลำเมื่อยิงเสร็จสามารถทำได้ดี แรกๆอาจฝืดๆอยู่บ้างเวลาหักลำพร้อมบิดหางปลา แต่พอยิงไปสักระยะจะคล่องและคุ้นเคยขึ้น การดีดปลอกกระสุนแรงมากและสะดวกสบาย เมื่อผู้ทดสอบยิง เรียบร้อย ผู้พันสุพินท์ได้กรุณายิงทดสอบอำนาจทะลุทะลวงด้วยการยิงลูกโดด 2 แรง ไปที่แกลลอนพลาสติก 2 ใบคู่ซึ่งใส่น้ำและตั้งในระยะ 7 เมตร พอสิ้นเสียงปืน แกลลอน 2 ใบกระเด็นพร้อมแผลที่เปิดกว้าง
มองเห็นแล้วสยดสยอง

แม้ว่าในปัจจุบัน อ๊อด บ้านโป่ง จะไม่ใช่หนุ่มบ้านนาอีกแล้ว แต่ภาพอดีตที่เคยย่ำคันนา ลุยรอยไถ นอนกองฟางและขี่หลังควาย ยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำชีวิต ท้องไร่ท้องนาจะมีรสชาติไปไม่ได้หากขาด อีเดี่ยวสักกระบอก ซึ่งรอสซี่เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าปืนอีเดี่ยวชั้นดีไม่จำเป็นต้อง โคนเหลี่ยมแต่ก็ยังยิงลูกโดดได้ งานนี้ห้างฯ ปืนแสงทองและห้างฯ ไทยเนชั่นแนลการค้า เขาขอเสนอตัวเพื่อมีส่วนช่วยรักษาเอกลักษณ์ไทยในเรื่องปืนผาหน้าไม้ให้ยืนยงต่อไป
สนใจโทร. 0-2221-7808, 0-2225-2428, 0-2221-7131-2

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 325 พฤศจิกายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com