อันชูตส์ 525 .22LR

ครั้งสุดท้ายที่นิตยสาร อวป.ได้ทดสอบปืนยาวลูกกรดอันชูตส์ 525 ไปนั้น คือในฉบับที่ 287 เดือนกันยายน 2541 ครั้งนั้นเป็นปืนต้นแบบที่ทำการติดตั้งลำกล้องหนาพิเศษสำหรับทดลองลงแข่ง ไรเฟิลรณยุทธ์ที่เพิ่งเกิดใหม่ กติกายังคงเน้นความแม่นยำโดยให้ยิงเป้าขนาดเล็กที่ระยะค่อนข้างไกล ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวของผู้ยิงมากนัก การออกแบบสนามแข่งยังคงคำนึงถึงที่พาดปืนให้นักกีฬาอยู่ด้วยซ้ำไป อันชูตส์ 525 พิเศษกระบอกนั้นจึงเน้นความแม่นยำ น้ำหนักปืนมากหน่อยก็ไม่เป็นไร


ภาพปืนไรเฟิลอันชูตส์ 525 ทางด้านขวา กล้องเล็งบอชแอนด์ลอมบ์ 6x-24x ไม่ได้แถมมาด้วยนะครับ ห่วงสำหรับติดสายสะพายมีมาให้

อันชูตส์ 525 กระบอกที่มาทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่นมาตรฐาน ลำกล้องยาวเรียว น้ำหนักปืนไม่มากนัก นับเป็นปืนอเนกประสงค์ที่จะใช้ทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะยิงนก ยิงหนู ยิงงู ยิงปลา เฝ้าบ้านกันขโมย ยิงเป้าเล่นยามว่าง หรือจะลงแข่งรณยุทธ์เล่นบ้างก็ยังได้

รูปแบบทั่วไปของอันชูตส์ 525 ก็เป็นปืนยาวลูกกรด ระบบการทำงานกึ่งอัตโนมัติ คือปืนจะป้อนกระสุนจากแม็กกาซีนให้เอง เมื่อยิงไปแต่ละนัด เมื่อเหนี่ยวลั่นไกแต่ละนัด แล้วต้องคลายนิ้วเพื่อลั่นไกใหม่จนกว่ากระสุนหมดแม็กกาซีนลูกเลื่อนก็จะเปิดค้างเพื่อเตือนให้ทราบ พานท้ายแยกส่วนจากกระโจมมือ ทั้งคู่ทำด้วยไม้ธรรมดาๆ สีน้ำตาล ปกติปืนรุ่นประหยัดแบบนี้จะใช้ไม้ไม่มีลวดลายอะไรมากนัก แต่กระบอกที่รับมาทดสอบมี ลายไม้พอสวยงามทีเดียว รูปร่างของปืนดูยาวเรียวเนื่องจากลำกล้องเล็กและยาวอยู่แล้วบวกกับพานท้ายที่ยาวเต็มขนาดผู้ใหญ่ ศูนย์เล็งเป็นของปืนยาวอันชูตส์ทั่วไป ศูนย์หลังปรับขึ้นลงโดยเลื่อนตัวดันมีขีดสเกลบอกระยะโดยประมาณไว้ การปรับซ้าย-ขวา ใช้เคาะศูนย์หลังทั้งชุดให้เลื่อนไปในร่องหางเหยี่ยว ศูนย์หน้าเป็นเม็ดลูกปัดอยู่บนเสา


ภาพปืนอันชูตส์ 525 ทางด้านซ้าย ขนาดความยาวเป็นปืนโตสำหรับผู้ใหญ่เต็มรูปแบบ สมดุลในการจับถือดี

ศูนย์หน้าเม็ดลูกปัดนี้ผมชอบมากครับ สายตาของผมสามารถจัดภาพศูนย์ได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะกับเป้าวงดำซึ่งการมองภาพให้เป้าวงกลมดำใหญ่วางอยู่บนศูนย์หน้าวงดำเล็กนั้น เมื่อมันอยู่ไม่ตรงกันก็เห็นได้ง่าย เมื่อสูงไปหรือต่ำไปก็ดูออกจากแนวสีขาวที่สอบเข้าหากัน แต่เรื่องนี้ก็แล้วแต่สายตาของแต่ละคนที่จะถนัดแบบไหน ส่วนการใช้ศูนย์เปิดกับเป้าหมายอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างกับศูนย์หน้าแบบอื่นๆ

ปลายลำกล้องทำเกลียวไว้โดยมีปลอกขันสวมครอบอยู่ เห็นว่าที่ยุโรปนั้น ถือว่าการก่อให้เกิดเสียงดังเป็นการรบกวนผู้อื่น จะใช้ปืนจะยิงปืนก็กรุณาทำให้ค่อยๆ หน่อย จึงได้มีที่สำหรับติดอุปกรณ์ลดเสียงมาให้ด้วย ! เรื่องความพยายามที่จะทำอะไร ให้ไม่มีเสียงดังของพวกยุโรปนี้ผมเจอมาด้วยตัวเอง เห็นโฆษณารถบรรทุกของเขาคุยว่า เสียงค่อยเท่านั้นเท่านี้ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เคยไปยุโรปหนหนึ่งเดินอยู่ข้างถนนได้ยินเสียงแตรรถ "อิ๊นๆ" ก็หันไปดู ใจหายวาบ รถเทรลเล่อร์คันเบ้อเริ่มกำลังเลี้ยวมา เสียงเครื่องเคราอะไรก็ไม่มีให้ได้ยินเลย โดนเสียง รถอื่นกลบหมด แถมติดแตรเสียงน่าเอ็นดู เป็นบ้านเราคนขับอึดอัดตาย เรื่องอุปกรณ์ ลดเสียงนี้แบบของยุโรปเองผมเคยได้ลองยิงแล้วมันก็ไม่เงียบสนิทอะไร ไม่ใช่เครื่อง เก็บเสียงเพราะยังคงให้รู้ได้ว่ามีการยิงปืน


วิธีถอดล้างปืน เริ่มด้วยใช้ประแจ หกเหลี่ยมคลายโครงปืนแยกจากลำกล้อง ผมติดกล้องเล็งโดยไม่ได้ถอดศูนย์หลัง จึง ต้องคลายกระโจมมือที่ติดไว้กับลำกล้องออกด้วย


จากนั้นก็ถอดชุดลั่นไกออก ระวัง อย่าง้างชุดลั่นไก ให้ปล่อยลงมาตรงๆ

โครงปืนและโกร่งไกเป็นอัลลอยชิ้นเดียวกัน มีเส้นสายโค้งมนรับกันทั้งด้ามจับ และคันปลดแม็กกาซีนซึ่งแข็งชะมัด ที่มันแข็งนี่ก็ดีละครับ ไม่บังเอิญโดนหลุดง่ายๆ แต่ เอาไปแข่งรณยุทธ์นี่แย่กว่าเพื่อนเขาหน่อย การปลดแม็กกาซีนก็ให้ดันคันปลดไปข้างหน้าเข้าหาตัวแม็กกาซีน ตรงส่วนหลังช่องคายปลอกมีแผ่นเหล็กยื่นออกมากันไม่ให้ปลอกกระสุนที่ดีดออกมากระเด็นมาโดนคนยิงได้ และเจ้าชิ้นนี้ก็ทำหน้าที่เป็นตัวหยุดลูกเลื่อนด้วย แต่สำหรับกระบอกนี้ ถึงไม่มีอะไรกั้นก็ไม่ดีดมาโดนอยู่แล้ว ปลอกกระสุนที่ยิงกระเด็นออกข้างขวาตรงๆ ไปเลย คงเส้นคงวาดีเสียด้วย

ที่โครงปืนด้านซ้ายมีของแปลกอยู่หน่อยคือมีการเจาะรูสามรูไว้ตรงที่ลูกเลื่อนวิ่งไปมา ถ้าเกิดปลอกกระสุนแตกไฟแลบวิ่งตามลูกเลื่อนถอยหลังมาก็คงจะแลบออกทางช่องทั้งสามนี้ จะว่าเอาไว้ส่องดูจากทางซ้ายว่าแม็กกาซีนที่เสียบอยู่มันมีกระสุนหรือไม่ ก็ออกจะแปลกอยู่


ถอดแผ่นกันลูกเลื่อน/กันปลอกกระสุนดีด มาข้างหลังออก

ดึงก้านง้างลูกเลื่อนออกก็จะได้อย่างภาพนี้ ลูกเลื่อนพร้อมสปริงก็วิ่งออกมาให้ทำความสะอาดได้ แผ่นเหล็กแบนที่มีปลายโค้งเล็กๆ คือ เครื่องมือช่วยประกอบลูกเลื่อนโดยใช้มันช่วยกดสปริงไว้ไม่ให้ งอโป่งออกมานอกแนวขณะที่เราสอดลูกเลื่อนถอยเข้าที่

คันเซฟอยู่กับชุดลั่นไกที่หน้าโกร่งไกเป็นแบบลูกบิดหมุนโดยมีปีกออกมาให้ใช้นิ้วชี้ขวาดัน ดันเลื่อนไปข้างหน้าเป็นการปลดเซฟ ปีกจะบังตัวอักษรสีขาว S (safe) เอาไว้เห็นตัวอักษรสีแดง F (fire) ดึงคันเซฟมาข้างหลังก็เห็นตัว S ขาวโดยปีกคันเซฟจะบังตัว F แดงเอาไว้ เรื่องการใช้จะชักช้ากว่า แบบปุ่มกดนั้นก็ไม่แน่นัก แต่ที่มันแข็งนี่สิ แข่งความเร็วลำบากหน่อยครับ

นอกนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวลกับการใช้งานอีก แม้จะติดนิสัยอเมริกันที่ต้อง เขียนติดปืนไว้ว่าให้อ่านคู่มือการใช้ให้ละเอียดเสียก่อน อันชูตส์ 525 ก็ยังเป็นปืนที่ใช้งานง่ายมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีคันบังคับไหนต้องให้สงสัยว่ามันจะทำอะไร มีข้อควรระวังแค่อย่าดรายไฟร์หรือลั่นไกโดยไม่มีปลอก กระสุนเปล่าอยู่เพราะเข็มแทงชนวนอาจหักได้ ของ ผอ.สุวิทย์ เคยหักมาแล้วครับ

น้ำหนักลั่นไกของอันชูตส์ 525 กระบอกนี้นับว่าไม่หนักไปและไม่เบาไปสำหรับปืนยาวลูกกรดคืออยู่ที่ 4 ปอนด์ แต่ว่าออกจะมีระยะลากมากอยู่สักหน่อยและมีส่วนที่รู้สึกครืดคราดอยู่หน่อยๆ น่าจะเป็นเพราะชิ้นส่วนยังไม่ขัดสีกันเข้าที่ดี ตอนเอาไปทดสอบยิงที่สนามยิงปืนราชนาวี บางนา ผมไม่ชิน กับไกแบบนี้เลยพาดยิงเอาไม่ได้เลย ต้องขอเชิญให้ท่านที่พาดยิงอยู่บ่อยๆ อย่างอาจารย์ ผณิศวรกับหมอจันทร์ช่วยพาดยิงก็บ่นออกมาคำหนึ่งว่า ไกยาว แต่ก็เห็นผลการยิงว่าเรียบร้อยดี กลุ่มกระสุนก็ไม่แพ้อันชูตส์ 525 รุ่นลำกล้องหนาที่เคยนำมาทดสอบยิงเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ผมเอากล้องเล็งบอชแอนด์ลอมบ์ กำลังขยาย 6 ถึง 24 เท่า มาติด ปรากฏว่ารางสำหรับติดกล้องเล็งเป็น แบบแคบต้องขอยืมแหวนรัดกล้องของ ผอ.สุวิทย์มาติด ทีแรกก็คิดว่าจะติดไว้ไม่แน่นนัก กลัวจะเป็นรอยเพราะคงจะยิงไม่มาก ที่ไหนได้ยิงไปสิบนัดกล้องเดินไปข้างหน้า ต้องขันอัดเข้าไปอีกหน่อย คราวนี้อยู่แล้วก็ไม่เป็นรอยด้วย ไม่ว่าจะเรื่องอัดแน่นหรือขากล้องเดินหน้า


ปากลำกล้องตีเกลียวไว้สำหรับติดเครื่องลดเสียง ไม่ใช่เก็บเสียงนะครับ มีปลอกขันครอบไว้กันเกลียวเสียหายด้วย

ตอนที่ผมได้ปืนมาทดสอบกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการแข่งสิงห์รณยุทธ์ ก็เลย มีความคิดว่าจะลองเอาลงแข่งด้วยเผื่อจะได้รู้จักปืนมากขึ้น แต่พอลองซ้อมยิงดูก็ พบว่าเสียเปรียบเขามากไปหน่อยตรงเรื่องแม็กกาซีนครับ มีสองปัญหา หนึ่งคือคันปลดแม็กกาซีนแข็งมาก แบบนี้ไม่หลุดหล่นหายเองแน่ๆ แต่ก็ทำให้ปลดเปลี่ยนได้ยากในการแข่งที่ต้องใช้ถึงสามแม็กกาซีน และสอง คือจำนวนกระสุนที่บรรจุได้แค่ 8 นัด ทำให้เสียเปรียบการออกแบบสนามที่มักจะตั้งเป้า ไว้ให้ยิงในแต่ละช่วงเกิน 8 นัด ทำให้ต้องเปลี่ยนแม็กกาซีนบ่อย ถ้าสงสัยว่าเป็น ปัญหาตรงไหนให้ย้อนไปอ่านข้อหนึ่ง แค่นั้นเองครับที่เป็นปัญหา เรื่องอื่นๆ เช่นลูกเลื่อน ปิดเองเมื่อปลดแม็กกาซีนเปล่าออกมานั้นไม่แปลก กระชากทีเดียวก็ยิงต่อได้ถ้าเปลี่ยนได้เร็ว คันเซฟที่แข็งก็ไม่เท่าไหร่ ความแม่นยำก็เหลือเฟือ

ลองซ้อมยืนยิงเป้าเหล็กก็ทำได้ดี สมดุลของปืนดีแม้จะติดกล้องเล็งยาวเหยียด การลั่นไกที่ตอนพาดยิงว่ามีปัญหาเรื่องระยะลากก็ไม่รู้สึกอะไรตอนยิงเร็ว ความเร็วที่ยิงได้ ไม่แพ้ปืนที่นิยมใช้แข่งกัน แต่จะเสียเปรียบก็ที่แม็กกาซีนนี่แหละครับ ถ้าต้องยิงด้วยกระสุนมากๆ เร็วๆ จะสู้เขาไม่ได้ ทำให้ผมนึกมองหาว่าจะเอาลงแข่งอะไรได้ อันหนึ่งที่น่าเล่นคือเอาไปยิงปืนยาวเป้าพลิก เพราะจากประสบการณ์ที่เคยแข่งปืนยาวเป้าพลิกนั้น อันชูตส์ 525 มีคุณสมบัติดีสำหรับ การยิงประเภทนี้คือสมดุลดี ลำกล้องยาวสำหรับชี้นำสายตาไปที่เป้าได้เร็ว ศูนย์เล็งง่าย ติดแต่ว่าจะให้เฉพาะลูกเลื่อนหรือไม่เท่านั้น ความจริงถึงจะเป็นออโตก็ยิงได้ทันพลิกละนัดเท่านั้น

ศูนย์หน้าแบบลูกปัดอยู่ในครอบกันกระแทก

ศูนย์หลังของอันชูตส์ที่เห็นกันชินตา

การถอดประกอบเพื่อทำความสะอาดและศึกษากลไกการทำงานก็เริ่มต้นด้วยการ ดูให้แน่ใจว่าไม่มีกระสุนในปืนแล้วใช้ประแจหกเหลี่ยมขนาด 5 มม. คลายน็อตที่ยึด ลำกล้องกับโครงปืนไว้ด้วยกันออก น็อตตัวนี้อยู่ใต้โครงปืนหน้าแม็กกาซีนครับ เดิมทีน็อต ตัวนี้เป็นแบบหัวแบนคงจะขันกันจนเยินเพราะต้องแน่นพอควรเลยเปลี่ยนเป็นแบบหัวหลุมหกเหลี่ยม ตอนที่ถ่ายรูปถอดปืนอันชูตส์ 525 กระบอกนี้ผมต้องขันน็อตคลายกระโจมมือ จากลำกล้องด้วยเนื่องจากติดตั้งกล้องเล็งเอาไว้ และส่วนหัวของกล้องเล็งขวางทางออกของชุดศูนย์หลัง คลายน็อตหกเหลี่ยมออกแล้วจะดึงลำกล้องออกมาตรงๆไม่ได้ ต้องบิดเอียงออก บิดโดยไม่คลายกระโจมมือก็ไม่ได้ เพราะท้ายกระโจมมือมีสลักฝังอยู่ในโครงปืน แต่ถ้าไม่ได้ติดกล้องเล็งหรือกล้องเล็งไม่มีส่วนหัวโตล้ำมาหน้าชุดศูนย์หลังก็คงดึงลำกล้องออกมาตรงๆได้ครับ

เรื่องการติดกล้องเล็งนี้ถ้าจะใช้กำลังขยายสูงๆ หรือกล้องที่มีเลนส์ตัวหน้าใหญ่ ก็จะมีปัญหาพัวพันกับชุดศูนย์หลัง คงต้อง ใช้แหวนรัดกล้องที่มีขาสูงมากซึ่งก็อาจจะทำให้แนบแก้มกับพานท้ายไม่สนิทขณะเล็ง หลายคนถอดศูนย์หลังออกไปเลย สำหรับกล้องเล็ง 6X-24X ตัวนี้ยาวมากจนส่วนหัว ที่อ้วนเลยศูนย์หลังจึงติดได้ กล้องที่สั้นกว่านี้ และมีหัวโตแม้จะไม่มากก็ติดศูนย์หลังครับ จะติดเลื่อนมาข้างหน้าให้พ้นศูนย์หลังก็จะทำให้ช่องมองอยู่ห่างตาผู้ยิงมากจนไม่ได้ท่ายิงที่เหมาะสม


ตอกประทับไว้บนลำกล้อง บอกรุ่น 25 และขนาดกระสุน .22 แอลอาร์


น็อตหัวหลุมหกเหลี่ยมที่ยึดลำกล้องไว้กับโครงปืน เดิมเป็นแบบใช้ไขควงแบน รุ่นนี้ใช้ประแจหกเหลี่ยมไขออก ตอนไขออกเสียงลั่นดังเปี๊ยะ

ถอดปืนกันต่อ ถอดลำกล้องออกแล้วก็ถอดชุดลั่นไกด้วยการคลายสกรูตัวเล็กที่อยู่ หลังโกร่งไกก่อนที่จะตอกสลักขวางที่ใช้ยึดชุดลั่นไกไว้กับโครงปืน เจ้าสลักตัวนี้จะเห็น เป็นรอยกลมๆอยู่ด้านข้างของโครงปืนทั้งสองข้าง หาตัวส่งตอกเบาๆก็ออกมา คราวนี้ ชุดลั่นไกพร้อมโกร่งไกก็หลุดลงมาได้ทั้งยวง การถอดชุดลั่นไกนี้ระวังอย่าตอกสลักขวางก่อนนะครับ จะเผลอดึงลงมาทำให้สกรูท้ายงัดกับชุดลั่นไกทำให้บิดงอเสียสวยได้ ทีนี้ก็ทำความสะอาดชุดลั่นไกได้แล้ว จากนี้ถ้าจะถอดลูกเลื่อนออกมาทำความสะอาดก็ถอดแผ่นกันลูกเลื่อนที่หน้าตาเหมือนกับแผ่นกันปลอก กระสุนดีดถอยมาโดนผู้ยิงที่อยู่ข้างขวาของปืน หลังช่องคายปลอกแผ่นนี้ยึดด้วยสกรูหัวแบน สองตัวซึ่งไขออกไม่ยาก พอปลดออก ชุดลูกเลื่อนก็จะวิ่งต่อมาข้างหน้า เอาก้านง้าง ลูกเลื่อนมาชนด้านหน้าช่องคายปลอก ให้ดึงก้านง้างนี้ออกมาตรงๆ ไม่มีแรงเบียดอะไร แล้วเนื่องจากใช้แรงสปริงลูกเลื่อนกดไว้ซึ่งตอนนี้ก็คลายออกแล้ว ลูกเลื่อนพร้อมด้วย สปริงและแกนด้านท้ายก็วิ่งตามออกมา ใน โครงปืนก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ทำความสะอาดได้สะดวก ตัวลูกเลื่อนเองก็เอามาทำความสะอาดส่วนหน้าที่จะรับจานท้ายกระสุน ถ้าทิ้งไว้นานๆ เขม่าจะสะสมทำให้ขอรั้งปลอกทำงานได้ไม่เต็มที่ ทิ้งไว้นานกว่านั้นก็อาจ ทำให้เข็มแทงชนวนทำงานไม่สะดวกต่อไป นี่เป็นกับปืนยาวลูกกรดทุกกระบอกนะครับ ไม่ใช่เฉพาะอันชูตส์525้

ทีนี้ก็มาถึงตอนสนุก ปกติการประกอบกลับก็มักจะเป็นการทำย้อนรอยเดิม ซึ่งไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไร แต่กับอันชูตส์ 525 มีของสนุกอยู่อย่างหนึ่งคือการสอดลูกเลื่อนพร้อมสปริงให้เข้าที่ สปริงซึ่งเล็กและยาว มีแกนกำกับอยู่สั้นๆ อีกปลายหนึ่งสวมอยู่ในร่องในลูกเลื่อน ถอยชุดนี้เข้าที่ไปนิดเดียว สปริงก็จะเริ่มงอตัวโป่งออกมา อาจารย์ผณิศวรเตือนไว้ว่าตอนที่เคยประกอบเมื่อก่อนนั้นต้องใช้สี่มือ คือเรียกคนมาช่วยกดสปริงพร้อมๆกับค่อยๆถอยลูกเลื่อนเข้าไป ซึ่งเมื่อถอยได้ระยะก็ต้องสอดก้านง้าง ลูกเลื่อนเข้าที่ ค่อยๆถอยนิ้วออกมาทีละนิ้ว และขันแผ่นกันลูกเลื่อนเข้าที่ ปะเหมาะ เคราะห์ดีก็จะวางลูกเลื่อนไม่ตรงรอยทำให้ดึงถอยหลังได้ไม่สุด ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็หลังจากผ่านการกดสปริงไม่อยู่หลุดปลิ้นออกมาประมาณ 20 ครั้ง นั่นคือสมัยก่อนครับ สมัยนี้อันชูตส์ให้เครื่องมือช่วยกดสปริงไม่ให้ดีดออกมาด้วย เป็นแผ่นเหล็กแบนสำหรับมือจับ ส่วนปลายงอเป็นครึ่งวงกลมพอดีกับสปริงความกว้างของแผ่นก็พอดี สำหรับดันสปริงไว้จนถอยลูกเลื่อนและสปริงได้เข้าที่แล้วดึงแผ่นนี้ออกจากช่องได้พอดี แต่กระนั้นก็ต้องใส่อยู่สี่ห้าครั้งเหมือนกันครับ แต่ก็ทำคนเดียวได้ไม่ลำบากนั

พาดยิงทดสอบที่ระยะ40เมตร ของสนามยิงปืนราชนาวีบางนา

 เป้ายิงทดสอบทั้งที่ระยะ 40 เมตรและที่ระยะ 25 เมตร กลุ่มดีน่าสนใจทีเดียวกระบอกนี้

อันชูตส์ 525 เป็นปืนยาวลูกกรดกึ่งอัตโนมัติรุ่นเดียวของอันชูตส์ ทำขายมานาน ไม่มีปัญหาอะไรก็คงไม่ทำรุ่นใหม่มาแทน เรื่องอะไหล่คงหาง่าย ปืนรุ่นนี้ในบ้านเราก็มีเห็นใช้กันพอสมควร ไม่เห็นเจ้าของบ่นว่าไม่ดีอย่างไร ใช้งานอเนกประสงค์ ราคาก็ไม่ถึงกับจะแพงเกินไปนัก กระบอกนี้ ห้างฯปืนอำพล เป็นคนสั่งเข้ามา ลองไปดูตัวจริงหรือเลือกลายไม้ได้ครับ

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 324 ตุลาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com