ธอมป์สัน คอนเทนเดอร์
.223 จากคัสตอมช็อปของ TC

การเรียกปืนกระบอกใดกระบอกหนึ่งว่าเป็นปืนยาว หรือปืนสั้น ตามความเข้าใจของไทยเรากับของอเมริกา ไม่ค่อยจะเหมือนกันนัก สำหรับของอเมริกาเขาจะถือว่า ปืนยาวต้องมีพานท้ายและลำกล้องยาวมากกว่า 16 นิ้ว ส่วนปืนสั้นก็ต้องลำกล้องไม่เกิน 16 นิ้ว กับห้ามมีพานท้าย แต่พอมาดูในบ้านเราก็ปรากฏว่าไม่ได้กำหนดตรงนี้ไว้ชัดเจน เท่าที่ผมสังเกตดูทางราชการของไทยเราจะถือเอาตามใบอนุญาตสั่งนำเข้ากับตามที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดมาเป็นหลัก ดังนั้น คนไทยเราจึงอาจจะใช้ปืนยาวที่มีพานท้ายและลำกล้องสั้นเพียง 10 นิ้วได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ทีนี้บังเอิญว่ากฎหมายของเราไปห้ามปืนยาวไรเฟิลที่ทำงานในระบบกึ่งอัตโนมัติ ดังนั้น เราจึงต้อง จำกัดความยาวลำกล้องของปืนสั้นเอาไว้เพียง 160 มม. (พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 6 ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 ข้อ 2 (3) ก) เพื่อป้องกันนักเลงปืนหัวหมอแอบสั่งปืน AR-15 โดยใช้ใบ ป.2 ของปืนสั้น

ผมไม่ค่อยเห็นพ้องกับกฎหมายปืนของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจาก ปืนที่ใช้ในกีฬายิงเป้าแผ่นเหล็กส่วนใหญ่จะทำลำกล้องยาว 14 นิ้ว การสั่งปืนแบบนี้เข้ามาในบ้านเราจึงต้องใช้ใบ ป.2 ของปืนไรเฟิล ทีนี้เมื่อเราแปลใบอนุญาตเป็นภาษาอังกฤษ ก็ต้องระบุว่าเป็นปืนไรเฟิลตามไปด้วย เหตุที่ต้องส่งใบ ป.2 ฉบับภาษาอังกฤษไปก็เพื่อให้คนขายปืนในต่างประเทศที่เขาจะต้องเอามาใช้ใน การขอใบอนุญาตส่งปืนออกนอกประเทศหรือที่เรียกกันว่า Export License ซึ่ง ตามปกติแล้วการส่งอาวุธปืนออกไปขายต่างประเทศ ผู้ขายจะต้องขอใบอนุญาตส่งออกเสมอ มีรัฐบาลใจกว้างเพียงไม่กี่ประเทศหรอกครับที่ยอมให้ส่งปืนอัดลม และปืนลูกกรดออกไปขายนอกประเทศได้โดยไม่ต้องใช้ Export License แต่สำหรับปืนที่ใช้กระสุนชนวนกลางแล้ว ทุกประเทศจะกำหนดให้ทำใบอนุญาตส่งออกทั้งนั้น

ภาพเต็มด้านขวาของธอมป์สัน คอนเทนเดอร์

ปัญหาอยู่ตรงนี้เองครับ สมมุติว่าผมอยากได้ปืน เวเธอร์บี MK.5 CFP ลำกล้อง 15 นิ้ว หรือธอมป์สัน คอนเทนเดอร์ ซูเปอร์ 14 ซึ่งตามกฎหมายของอเมริกาเขาถือว่าเป็นปืนสั้น แต่ในเมื่อเราใช้ใบ ป.2 สำหรับ ปืนไรเฟิลเพื่อจะสั่งปืนแบบนี้เข้ามา ทางประเทศต้นทางยังไงๆเขาจะไม่อนุญาตให้อย่างแน่นอนเพราะเมื่ออ่านใบ ป.2 ของเราฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษแล้ว เขาก็ย่อมจะต้องเชื่อว่ารัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะให้อีตาคนนี้แกซื้อปืนไรเฟิล ไม่ใช่ซื้อปืนสั้นตามความหมายในระบบกฎหมายของเขา ยังไงๆ ก็ฝากเรื่องนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งกำกับดูแล กฎหมายอาวุธปืนของเราเอาไว้ด้วยนะครับ ว่าพอจะผ่อนผันพวกปืนสั้นบรรจุเดี่ยว ลำกล้องยาว 14 นิ้วหรือ 16 นิ้ว ได้หรือเปล่า หรืออาจจะเป็นว่าให้ใช้ ป.2 ไรเฟิลอย่างเก่า แต่มีวงเล็บว่าให้รวมถึงปืนสั้นบรรจุเดี่ยวด้วย

แต่ไม่ใช่ว่าผมจะเห็น ATF ของอเมริกาดีกว่าสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ของเราหรอกนะครับ อเมริกาเขาก็มีปัญหาตรงนี้เหมือนกันเพราะปืนคาบลูกคาบดอกบางแบบ อย่างเช่น TC หรือธอมป์สัน คอนเทนเดอร์ ที่เรานำมาทดสอบในฉบับนี้ สามารถเปลี่ยนสภาพตัวเองกลับไปกลับมาระหว่างปืนสั้น กับปืนยาวได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่กระดาษแผ่นเดียวหรอกครับ แต่ว่ามันหมายถึงการทำบัญชี เก็บสถิติ หรือว่าการออกใบอนุญาตล่าสัตว์ ให้กับปืนแต่ละประเภท รวมทั้งกระบวนการ บังคับใช้กฎหมาย เพราะหลายๆเมืองในอเมริกาจะจำกัดการขายปืนสั้น แต่มักจะให้ เสรีกับปืนไรเฟิลเพราะปืนยาวมันมีขนาดใหญ่โตเก้งก้าง แบกหามเอาไปทำผิดกฎหมายได้ลำบากกว่าปืนสั้น ซึ่งตรงนี้ออกจะแปลกกว่าบ้านเราที่จ้องจะคอยห้ามปืนไรเฟิลอย่างเดียว โดยหาว่าจะเอาไปใช้ ล่าสัตว์ทั้งๆที่การล่าสัตว์เป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้ว

กฎหมายไทยเราทันสมัยกว่าอเมริกา ก็เลยใส่สลับกับลำกล้อง 10 นิ้วได้แบบนี้

ผมดูๆแล้วเห็นว่านโยบายนี้ออกจะดูหมิ่นความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์มากไปสักหน่อย เห็นว่าเขาไม่มี ปัญญาจะกวดขันจับกุมพวกลักลอบล่าสัตว์หรือไงครับ ถึงได้พยายามจะห้ามการออกใบอนุญาตปืนไรเฟิล

ธอมป์สัน/เซ็นเตอร์ คอนเทนเดอร์ ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 หรือสามสิบกว่าปีมาแล้ว ในระยะแรก TC ยังมี เฉพาะเวอร์ชั่นปืนสั้น คือมีลำกล้องให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 10 นิ้วขึ้นไปจนถึง 16 นิ้ว แล้วก็ออกมาทั้งลำกล้องแบบชนวนริมและชนวนกลาง สำหรับพวกชนวนริมจะมีขนาด .22LR, .22 แม็กนั่ม แล้วก็ 5 มม. เรมิงตัน ส่วนพวกชนวนกลางก็จะเริ่มตั้งแต่ .218 บี, .22 ฮอร์เน็ต, .221 ไฟร์บอล, .222 เรฯ, .223 เรฯ, .256 วินฯ, .25-35 WCF, .30 คาร์ไบน์ ถ้าจะเขียนไล่หมดให้ทุกขนาดคงจะประมาณครึ่งหน้ากระดาษ เอาเป็นว่ากระสุนดุๆ อย่างเช่น .30-30 วินฯ, .375 วินฯ, .45-70, .45 วินฯแม็กฯ, .454 คาซูล พวกนี้ TC มีให้ เล่นทั้งหมด แม้แต่ .357 แม็กซิมั่มที่มีปัญหากับปืนรีวอลเวอร์ แต่พอเอามาใช้กับ TC ก็ยิงได้ราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น

ส่วน TC ในรูปลักษณ์ของปืนยาวแบบที่เรานำมาทดสอบในฉบับนี้ เป็นปืนที่ทำตามหลัง TC แบบปืนสั้นเกือบยี่สิบปี คือเริ่มผลิตออกมาในปี ค.ศ. 1985 ระบบกลไกเหมือนกับปืนสั้นทุกอย่างเพียงแต่ใส่พานท้ายกับใช้ลำกล้องยาว 21 นิ้ว นอกจากรุ่น "เยาวชน" หรือ Contender Youth Model ที่ใช้ลำกล้อง 16.25 นิ้ว คือยืดลำกล้องจากรุ่นปืนสั้น ออกไป 2 หุนไม่ให้ผิดกฎหมาย แต่โครงปืนก็อันเดิมนั่นละครับ ถอดพานท้ายออกแล้วใส่ด้ามปืนสั้นได้เลย


การถอดเปลี่ยนพานท้ายปืน ก็ทำได้ง่ายๆ โดยการถอดแผ่นปิดส้นด้าม แล้วใช้ประแจหกเหลี่ยมขนาดหุนครึ่ง (3/16" Allen Wrench) คลายสกรูยึดพานท้ายออกมา สกรูอันนี้ใช้ได้ทั้งพานท้ายปืนยาวและด้ามปืนสั้น

การทำงานของ TC เป็นระบบบรรจุทีละนัดคล้ายกับปืนลูกซองเดี่ยวหรือคอลท์ ตราควายที่มือปืนรับจ้างยุคเมื่อสี่สิบปีก่อนนิยมใช้กันอยู่เพียงแต่ TC ทำออกมาประณีต มั่นคงแข็งแรง และสวยงามมากกว่าเท่านั้นเอง วิธีหักลำกล้องก็ทำได้ง่ายๆ คือ ถือปืนไว้ในแนวระดับ แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลาง ช่วยกันเหนี่ยวโกร่งไกเข้ามาหาด้ามปืน น้ำหนักลำกล้องจะถ่วงให้เกิดการหักลำลงไปเอง ไม่ต้องบิด ไม่ต้องตบใดๆทั้งสิ้น

นอกจากนั้นการง้างโกร่งไกยังเป็นการเซ็ตไกอีกด้วย ดังนั้น เมื่อง้างโกร่งไกแล้ว เราจึงสามารถทดลองลั่นไกเปล่าหรือยิงแห้งได้ คล้ายๆกับระบบลั่นไกของปืนสั้นยิงช้า แต่เมื่อเราทดลองลั่นไกไปแล้ว ถ้าจะลองเหนี่ยวไกอีกครั้งหนึ่งเราก็จะต้องง้างโกร่งไก เพื่อเซ็ตไกอีกครั้งเสียก่อนถึงจะลั่นไกได้ นอกจากนั้นเมื่อเราเหนี่ยวไกไปแล้วเราก็จะง้างนกไม่ได้ คือง้างออกมาก็ได้อยู่หรอก แต่เซียร์จะไม่จับนกปืนไว้ให้ ต้องมีการง้างโกร่งไกเพื่อเซ็ตไกเสียก่อนถึงจะง้างนกได

การเปลี่ยนลำกล้องปืนก็เช็ก กระสุนในรังเพลิง คลายสกรูยึดกระโจม จากนั้นก็ง้างโกร่งไกหักลำกล้องแล้วต่อย สลักลำกล้องออกก็จะใส่ลำกล้องใหม่เข้าไปได้

ดังนั้น การใช้งานของปืนก็ทำได้ง่ายๆ คือง้างโกร่งไกเพื่อหักลำ สอดกระสุนเข้าไปในรังเพลิง ง้างนกแล้วก็เหนี่ยวไก แต่ถ้ายังไม่ต้องการจะยิงในขณะนั้นเราก็อาจจะ "เข้าห้ามไก" โดยการบิดกระเดื่องบังคับหมุด ตีเข็มแทงชนวนเอาไว้ตำแหน่งกลาง เผื่อว่านกหลุดฟาดลงไปก็จะไม่สัมผัสกับเข็มแทงชนวนเข็มใดเข็มหนึ่ง แล้วถ้าไม่มีเหตุจะต้องใช้ปืนเป็นเวลานานๆ เราก็อาจจะลดนกปืนโดยวิธีเดียวกับปืนลูกโม่หรือปืนออโต โดยการ ใช้นิ้วรั้งหางนกแล้วเหนี่ยวไก ค่อยๆผ่อนนกปืนลงไป

แต่การลดนกอย่างที่ว่าไม่ใช่วิธีที่โรงงานแนะนำให้ทำ เพราะนกปืนจะเดินหน้าได้จนถึงเข็มแทงชนวน ถ้าเกิดเราลืมโยก กระเดื่องมากึ่งกลางแล้วเผลอทำนกปืนหลุดมือก็อาจจะเกิดอันตรายจากปืนลั่นได้ด้วย นอกจากนั้นแล้วการลดนกโดยใช้วิธีเหนี่ยวไก ก็ยังทำให้เราต้องเซ็ตไกใหม่ เพราะว่ามีการ เหนี่ยวไกไปแล้ว วิธีลดนกที่โรงงานแนะนำมาก็คือใช้นิ้วรั้งหางนกเอาไว้ ง้างโกร่งไกแล้วค่อยๆ ผ่อนนกปืนลงไป การลดนกด้วยวิธีนี้ นกปืนจะถูกบล็อกไม่ให้เดินหน้าถึงเข็มแทงชนวน และไกปืนก็ยังเซ็ตตัวอยู่ สามารถง้างนกอีกครั้งหนึ่งได้ทันที

กระโจม (Foreneds) มีสองแบบ ลำกล้อง 10 นิ้ว ใช้กระโจมสั้นยึดด้วยสกรูตัวเดียว ส่วนลำกล้อง 12 นิ้วขึ้นไปจะใช้กระโจมยาวยึดด้วยสกรู 2 ตัว

ระบบการติดกล้อง เจาะรูทำเกลียวไว้โคนลำกล้อง สำหรับยึดสกรู 4 ตัว ลำกล้องที่วางอยู่ข้างๆ ติดเบส เบอร์ 92A ของวีเวอร์ ถ้าเห็นลำกล้อง แปลกๆโผล่ออกมาแจมอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ ผู้เขียนสะสมเอาไว้ร่วมครึ่งโหลตั้งแต่สมัยที่ยังขอ ป.2 บุคคลสั่งเข้ามาได้ง่ายๆ

TC กระบอกนี้เป็นรุ่นพิเศษที่ห้างฯ ม.ฮะกีมี สั่งเป็นแบบลำกล้องหนาเข้ามา ซึ่งเป็นลำกล้องพิเศษจากคัสตอมช็อปของ ธอมป์สันเอง ทำให้ได้ลำกล้องที่มีการแล็ปเกลียวลำกล้องมาเรียบลื่นเป็นพิเศษ และ ยังรมดำเงางามจนใครเห็นก็ต้องออกปากชมกันทุกคน บางท่านยังสงสัยว่าจะมาเปลี่ยนลำกล้องกันเองในบ้านเรา เพราะไม่เคยเห็นปืนโรงงานที่รมดำลึกและเงางามแบบนี้มาก่อน ซึ่งออกจะสบประมาทโรงงานในต่างประเทศ ไปสักหน่อย จะเอาสวยขนาดไหนฝรั่งมันทำให้ได้ทั้งนั้นละครับ ขอให้มีเงินจ่ายก็แล้วกัน

ถึงแม้ว่า TC จะทำใช้กระสุนมากมายหลายขนาดก็ตาม แต่ในบ้านเรามีข้อจำกัดในเรื่องกระสุน ไปใช้แปลกเกินไปก็อาจจะหากระสุนมายิงไม่ได้ ดังนั้น ม.ฮะกีมี จึงเลือกสั่งมาเฉพาะขนาด .223 เนื่องจากเป็น กระสุนที่ออกจะหาง่ายหน่อย ลำกล้อง .223 ของ TC กระบอกนี้ใช้เกลียวเวียนขวา ครบรอบที่ 12 นิ้วเหมือนกับปืน M16 A1 และปืน .223 พาณิชย์อื่นๆโดยทั่วไป


ติดฐานกล้องของ ลิวโพลด์ แหวนรัดกล้องมี 2 อัน บิดเข้าที่ไปแล้ว 1 อัน ส่วนอีกอันหนึ่งเพิ่งบิดไป 45 องศา แหวนรัดกล้องระบบนี้ แข็งแรงมาก แต่ปรับซ้าย-ขวา ช่วยตัวกล้องไม่ได้ ถ้าเกิดโรงงาน เจาะรูติดฐานกล้องมาไม่ตรงก็ ต้องเปลี่ยนไปใช้ฐานกล้องที่ปรับได้


ติดกล้องเสร็จแล้ว เปรียบเทียบให้ดูทั้งกล้อง ปืนยาวและกล้องปืนสั้น

ถ้าท่านผู้อ่านติดตามเรื่องเกี่ยวกับเกลียวลำกล้องปืน .22 คงจะจำได้ว่าปืนลูกกรดชนวนริมที่เป็นปืนยาวมักจะใช้เกลียว 1-16 และปืนสั้นลูกกรดซึ่งให้ความเร็วกระสุนต่ำกว่าปืนยาว ก็จะต้องใช้เกลียวเร็วขึ้นเป็น 1-12 ถึง 1-14 ถึงจะได้จำนวนรอบการหมุนตัวเพียงพอที่จะประคองหัวกระสุนให้วิ่งไปตรงๆได้ ส่วนปืน .22 ชนวนกลาง ซึ่งมีหัวกระสุนยาวกว่าปืนลูกกรด จึงต้องใช้เกลียวเร็วขึ้น ซึ่งมักจะอยู่ที่ 1-14 กันเป็นมาตรฐาน แต่เหตุที่ .223 นิยมใช้เกลียว 1-12 ก็เป็นเพราะไปใช้ตามปืน M16 A1 ของทหารที่ใช้เกลียวขนาดนี้
ที่ปืนทหารใช้เกลียว 1-12 ก็เพราะว่ากระสุนปืนของทางทหารมีทั้งหัวกระสุน แบบ FMJ ธรรมดาและกระสุนแบบส่องวิถี ซึ่งมีหัวกระสุนยาวกว่าหัวกระสุนแบบ FMJ จึงต้องใช้เกลียวลำกล้องหมุนตัวให้เร็วขึ้นด้วย ดังนั้นบทสรุปก็คือทางทหารจึงได้เลือกใช้เกลียว 1-12 เพื่อที่จะได้ใช้กระสุนได้ทั้งแบบธรรมดาและแบบส่องวิถี แต่เมื่อปืนพาณิชย์ในขนาด .223 หันมาใช้เกลียว 1-12 ทั้งๆที่ ไม่มีกระสุนแบบส่องวิถี ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องดีอยู่เหมือนกัน เพราะทำให้เพิ่มน้ำหนักหัวกระสุนขึ้นไปได้ถึง 60 เกรน ซึ่งช่วยให้ได้อำนาจสังหารมากขึ้น และยังช่วยให้มีวิถีกระสุนสู้ลมดีขึ้นอีกด้วย

นัดบนเป็นกระสุน ลูกกรด นัดล่าง .223 ส่วนอัน กลางเป็นปลอกรองรังเพลิงให้ใช้ กระสุนลูกกรดยิงในลำกล้อง .223 ได้

อวป. นำ TC .223 ไปยิงทดสอบที่สนามยิงปืนค่ายนวมินทร์ฯ ชลบุรี วันนั้นเราได้เตรียม TC .223 ลำกล้องสั้นเพียง 10 นิ้ว มายิงเปรียบเทียบกันอีกกระบอกหนึ่ง ส่วนกระสุนเราเลือกใช้กระสุนแข่งขัน หัวหนัก 53 เกรนซึ่งทำความเร็วกับลำกล้อง 21 นิ้วได้ประมาณ 3,250 ฟุต/วินาที แต่พอเอามายิงกับลำกล้อง 10 นิ้ว ซึ่งสั้นลงไป กว่าเท่าตัว ปรากฏว่าความเร็วกระสุนก็หายไปร่วมครึ่งหนึ่งเหมือนกัน คือวัด 5 นัด ออกมาได้ค่าเฉลี่ยเพียง 1,750 ฟุต/วินาที คำนวณออกมาเป็นพลังงานได้เพียง 360 ฟุต-ปอนด์เท่านั้นเอง อ่อนกว่ากระสุน 9 มม. เสียอีก ออกจะแปลกใจอยู่เหมือนกันเพราะจำได้ว่าเคยวัดกับลำกล้อง 14 นิ้วได้ประมาณ 2,750 ฟุต/วินาที พอลำกล้องหายไปอีก 4 นิ้ว ทำไมความเร็วถึงได้ลดวูบวาบลงไปถึงขนาดนี้


ผู้เขียนยิงทดสอบที่สนามยิงปืนค่ายนวมินทร์ฯ ชลบุรี ตั้งเป้าที่ระยะ 100 เมตร


ลองยิงลำกล้องยาว 10 นิ้ว ใส่ด้ามปืนสั้นกับกล้องปืนสั้นที่มีกำลังขยาย 1.5 เท่า มาเปรียบเทียบกันดูกลุ่มของลำกล้อง 10 นิ้ว สวยพอสมควร แต่ความเร็วตกลงไปจนน่าใจหาย เพราะวัดได้เพียง 1,750 ฟุต/วินาที ในขณะที่ลำกล้อง 21 นิ้ว จะได้ประมาณ 3,250 ฟุต/วินาที ที่เห็นติดอยู่ที่ปลายลำกล้องเป็น คอมพ์แบบขวดพริกไทยของ DPMS ซึ่งทำเกลียวมาสำหรับใส่กับปืน AR-15 หรือปืน M16 ถ้าจะเอามาใช้กับปืนลูกกรดหรือไรเฟิล .223 ก็ต้องควั่นปากลำกล้องลงมาเหลือ 0.5 นิ้ว และต๊าปเกลียวระยะพิทช์ 28 เกลียว/นิ้ว เท่ากับเกลียวรับปลอกลดแสงของปืน AR-15 คอมพ์อันนี้จัดช่องระบายก๊าซเอาไว้ด้านหน้า ไม่ทำให้เสียงปืนรบกวนคนอยู่ข้างๆ

TC เป็นปืนที่มีความแม่นยำสูงมากก็จริง แต่ยังไม่ถึงกับจะเอามายิงแข่งขันกับปืนลูกเลื่อนชั้นดีได้ จึงเหมาะสำหรับการ ยิงเป้าแผ่นเหล็กซิลลูเอ็ทหรือใช้ยิงผ่อนคลายอารมณ์มากกว่า หรือถ้าพูดแบบไม่สร้างสรรค์ ก็คือเหมาะสำหรับการใช้ในงานพิเศษบางแบบ เพราะเมื่อใส่ด้ามปืนสั้นกับลดความยาวลำกล้องเหลือเพียง 10 นิ้ว ซึ่งจะทำให้บรรจุลงไปในกระเป๋าเอกสารธรรมดาได้ แล้วยังยิงทำกลุ่มกระสุนขนาดฝ่ามือปิดมิดในระยะ 100 เมตร แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว สำหรับราคาที่ติดปืนไว้คือ 65,000 บาท ส่วนผู้ส่งทดสอบคือ ห้างฯ ม.ฮะกีมี อยู่ถนน เจริญกรุง ใกล้สี่แยกอุณากรรณ กรุงเทพฯ หรืออาจโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่หมายเลข (02) 2227791, (02) 2228371 โทรสาร (02) 2265924

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 323 กันยายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com