เอ็ม 646 เพอฟอร์มานซ์
ลูกโม่ระดับไฮเอนด์ ขนาด .40 สมิธฯ

เชื่อหรือไม่ว่า ไม่ว่าที่ใดต้องมีชั้นมีวรรณะ ต้องมีสิ่งในระดับธรรมดาสามัญและสิ่งพิเศษควบคู่กันไปเสมอ ในวงการปืนผาหน้าไม้ก็เช่นกัน พวกเราได้เห็นปืนโรงงานที่อยู่ในสายการผลิตธรรมดาทั่วไปและปืนที่แต่งพิเศษ แบบคัสตอมในระดับสุดยอด หรือ "ไฮเอนด์" ซึ่งพวกเราคุ้นหูกันในชื่อเรียกว่าปืน "ซิ่ง" ในทุกๆปี นิตยสารฉบับนี้ ได้นำเสนอปืน "ซิ่ง" ให้ผู้อ่านได้รับทราบและเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับชาวปืน นอกเหนือจากปืนโรงงานทั่วไปอยู่เสมอ ในวันนี้ก็มีปืนคัสตอมกระบอกหนึ่งมาเล่าแจ้งแถลงไขให้ทราบ นั่นคือปืนสมิธฯ เอ็ม 646 พีซี

รูปเต็มของ เอ็ม 646 พีซี ขนาด .40 สมิธฯ ผิวสเตนเลสส์แบบ glass stainless

เอ็ม 646 พีซี ชื่อรุ่นแบบนี้หากเปิดดูในแคตตาล็อกของสมิธฯ คงหาไม่พบแน่ เพราะอย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ปืนกระบอกนี้ไม่ใช่ปืนมาตรฐานตามสายการผลิตปกติของสมิธฯ แต่เป็น "ซิ่ง" พิเศษโดย "พีซี" หรือ "เพอฟอร์มานซ์ เซ็นเตอร์" ของสมิธฯ ในความเป็นจริงแล้ว ปืนกระบอกนี้ใช้โครงปืนขนาดแอลของเอ็ม 686 มาเป็นพื้นฐานในการตกแต่ง ว่ากันว่า เอ็ม 686 รุ่นนี้ เป็นโครงปืนที่พีซีนิยมนำมา "ซิ่ง" เป็นปืนในรูปแบบต่างๆมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำออกมาเพื่อใช้กับกระสุนขนาด .357 แม็กนั่ม เพิ่งมาคราวนี้ที่แปลกหน่อยก็คือ พีซีนำเอ็ม 686 มาแต่งให้เป็นเอ็ม 646 พีซี โดยเป็นปืนที่ใช้กระสุนขนาด .40 สมิธแอนด์เวสสัน

ข้างลำกล้องซ้าย พิมพ์ คำว่า PERFORMANCE CENTER เพื่อแสดงว่าเป็นปืนแต่งพิเศษโดย ศูนย์เพอฟอร์มานซ์ของสมิธฯ

โม่เป็นไทเทเนียมสีเทา ตัดกับผิวสเตนเลสส์

พอถึงตรงนี้ก็ชักยุ่งยากขึ้นแล้วครับ เพราะโดยปกติเอ็ม 686 เป็นปืนที่มีโครงปืนเป็นเหล็กสเตนเลสส์ และโม่ก็เป็นเหล็กสเตนเลสส์ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากจะนำโม่ที่เป็นเหล็กสเตนเลสส์มาใช้ยิงกระสุนขนาด .40 สมิธฯ ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้น ปัญหาดังกล่าว ไม่ใช่เกิดจากแรงดันของกระสุนต่างชนิดกันนี่หรอกนะครับ เพราะกระสุนขนาด .40 สมิธฯ กับขนาด .357 แม็กนั่ม มีแรงดันพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่หน้าตัดของกระสุน .40 สมิธฯใหญ่กว่า หากใช้โม่ขนาดเดิมที่ทำด้วย เหล็กสเตนเลสส์มา "คว้าน" ช่องโม่ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับกระสุนขนาด .40 สมิธฯ ก็จะเหลือเนื้อโลหะรอบช่องโม่น้อยเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโม่ พีซีเขาจึงหันไปหาโลหะอื่นที่มีความแข็งแรง สามารถต้านทานแรงดันขนาดนี้ในพื้นที่เท่ากันได้ และสุดท้ายก็มาลงเอยที่โลหะไทเทเนียม

เมื่อปืนกระบอกนี้มีโม่เป็นไทเทเนียม ประกอบกับปืนทั้งกระบอกได้ผ่านการตกแต่งใหม่หมดจากช่างปืนฝีมือระดับโลกอย่าง สมิธฯ เพอฟอร์มานซ์เซ็นเตอร์ จึงทำให้ปืนกระบอกนี้กลายเป็นปืนระดับ "ไฮเอนด์" หรือ สุดยอดในพวกเดียวกันภายในช่วงเวลาข้ามคืน

สันลำกล้องปาดเว้าแบบกลีบมะเฟือง
ศูนย์หน้าทำเป็นแบบแข่งขัน ใบศูนย์ทรงสูง เป็นลิ่มสอดเข้าทางด้านข้าง ฐานศูนย์ยกสูง หลังใบศูนย์ชุบสีแดงส้ม

Lew Horton Distributing Company ซึ่งเป็นยี่ปั้วขายปืนรายใหญ่ในสหรัฐฯ ได้เห็น อนาคตของเอ็ม 646 พีซี ว่าจะต้องถูกตาต้องใจชาวปืนระดับไฮเอนด์เป็นแน่ จึงกวาดซื้อ เอ็ม 646 พีซี ไปจัดจำหน่ายเสียเอง และก็เป็นอย่างที่เขาคาดคะเนไว้ นั่นคือปืนทั้งล็อตขายเกลี้ยงหมดในสหรัฐฯ ทั้งๆที่ยังไม่มีการเผยแพร่ในนิตยสารเกี่ยวกับปืนผา-หน้าไม้มาก่อน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ถึงกับโชคร้ายมากนักสำหรับชาวปืนในเมืองไทย เนื่องจากยังมีปืนจำนวนไม่กี่กระบอกที่ ห.จ.ก. ไกอาร์ม สั่งเข้ามา และนับว่าเป็นเกียรติมากที่นิตยสารอาวุธปืนได้รับโอกาสให้นำปืนกระบอกนี้มายิงทดสอบเป็นครั้งแรก เพราะนิตยสารต่างประเทศก็ยังไม่มีการทดสอบปืนกระบอกนี้มาก่อน


ปากลำกล้องทำรูซ้อนรู (counter bored)

ศูนย์หลังแบบไมโครมิเตอร์ปรับได้ 4 ทิศทาง ตัดกรอบร่องบากด้วยเส้นขาว

เจ้าเอ็ม 646 พีซี กระบอกนี้ ไม่มีร่องรอยที่จะแสดงว่า ใช้เอ็ม 686 เป็น โครงปืนให้เห็นเลย เพราะไม่มีตรงไหนที่บอก ว่าเป็นเอ็ม 686 แม้กระทั่งที่บานพับโม่ก็ยังปั๊มคำว่า "646" ทางพีซีได้บอกมาว่าปืนกระบอกนี้มีสิ่งพิเศษ 3 สิ่งที่จะมอบให้ เจ้าของปืน นั่นคือ มีโม่ที่ทำขึ้นเป็นการเฉพาะแบบพิเศษจากไทเทเนียม มีเลขประจำปืนหรือซีเรียลนัมเบอร์พิเศษ และสุดท้ายคือมีรูปร่างพิเศษต่างจากปืนซิ่งของพีซีโดยทั่วไป

ด้านขวาของลำกล้องบอกขนาดกระสุนไว้ ด้านล่างฝักหุ้มก้านคัดปลอก เจาะรูให้เห็นก้านคันคัดปลอก

ด้ามไม้ Altamont wood ทรงราวด์บัทท์ สวยงามสมเป็นปืนแต่งพิเศษ

ตัวปืนเอ็ม 646 พีซี เป็นเหล็กสเตนเลสส์ขัดผิวแบบขาวนวลพิเศษ ไม่ด้าน ไม่เงา ซึ่งเขาเรียกว่า การทำผิวแบบ glass stainless ทำให้ดูเด่นเป็นพิเศษเมื่อได้ประกับด้ามแบบคอมแบ็ทที่เป็นไม้ Altamont ลายสวย เคลือบเงาอย่างดี ส่วนสิ่งพิเศษที่กล่าว ไว้แต่ต้นสำหรับปืนรุ่นนี้ก็คือ ปืนกระบอกนี้ถอดลำกล้องเก่าออกหมดและนำลำกล้อง ที่ทำขึ้นพิเศษที่มีความยาว 4 นิ้วพร้อมกับ ฝักหุ้มก้านคัดปลอกรูปทรงยาวรีเป็นเนื้อเดียวกันสวมเข้าไปแทน ด้านข้างลำกล้องทั้งสองข้างปาดเรียบ และพิมพ์คำว่า "PER-FORMANCE CENTER" ไว้ที่ลำกล้องซ้าย ส่วนลำกล้องขวาพิมพ์ขนาดกระสุนไว้ว่า ".40 S&W" สิ่งที่แปลกก็คือด้านล่างฝักหุ้มก้านคัดปลอกเจาะรูให้เห็นก้านคัดปลอก จึงทำให้ปืนกระบอกนี้มีรูปทรงแตกต่างจากปืนซิ่งทั่วๆไป เพราะส่วนมากจะทำลำกล้องให้หนา-หนัก เพื่อผลในการยิงเมื่อมีลำกล้อง ถ่วงแรงรีคอยล์ไว้ ปากลำกล้องทำรูซ้อนรู (counter bored) ศูนย์หน้าทำเป็นแบบแข่งขัน ใบศูนย์ทรงสูงเป็นลิ่มสอดเข้าทางด้านข้าง ฐานศูนย์ยกสูง หลังใบศูนย์ชุบสีแดงส้ม จุดต่อไปของเอ็ม 646 พีซีที่เป็นลักษณะพิเศษคือ โม่ที่เป็นไทเทเนียม โม่บรรจุ 6 นัด ทำกลีบโม่แบบกลีบมะเฟืองตามปกติ ในขณะที่จุดสุดท้ายคือหมายเลขประจำปืนพิเศษนั้น เอ็ม 646 พีซีมีหมายเลขประจำปืนพิมพ์ด้วย ระบบไฟฟ้าไว้ที่โครงโม่ แทนที่จะอยู่ที่ส้นด้าม เช่นปืนโรงงานทั่วไป สำหรับปืนกระบอกนี้มีหมายเลขประจำปืน "PBG 0037" นอกจากนั้นปืนกระบอกนี้ยังประกอบด้วยชิ้นส่วน ที่เป็นของปืนประเภทคัสตอมหรือสั่งทำพิเศษ ได้แก่หลังไกติดหมุดยั้งไกอีกด้วย

หลังไกใส่หมุดยั้งไก เพื่อการยิงอย่างประณีต ไม่มีถลำ

วางเปรียบเทียบกับเอ็ม 686 เมาน์เทนกัน ซึ่งเป็นปืนโครงเดียวกัน กลไกภายในเหมือนกันทุกชิ้นี

เอ็ม 646 พีซีจะมาพร้อมกล่องใส่ที่เป็นสเตนเลสส์สดใสมีโลโก้ของพีซีอยู่ด้วยตรงกลางกล่อง ในกล่องมีฟูลมูนคลิพมาให้ด้วย เพราะกระสุน .40 สมิธฯ เป็นกระสุนแบบไม่มีจานท้ายปลอกกระสุน ถึงตรงนี้ ก็อยากจะขอเตือนชาวปืนบางท่านที่คิดว่าจะนำกระสุนที่ไม่ได้ใส่ฟูลมูนคลิพเข้าไปยิงในปืนแบบนี้ครับ เพราะเขาจะทำช่องโม่ไว้พอดีกัน และกระสุนที่ไม่มีฟูลมูนคลิพจะเคลื่อนตัวไปมาอยู่ในช่องโม่ และอาจไหลเข้าไปกระแทกกับเข็มแทงชนวนได้ ไม่ว่ากรณีใดกรณีหนึ่ง จึงขอเตือนท่านผู้อยากลองว่าอย่าทำเลยครับ อันตรายเปล่าๆ ส่วนการคัดปลอกกระสุนที่ยิงแล้วออกจากฟูลมูนคลิพนั้น ทางพีซีเขาอำนวยความสะดวกให้โดยให้เหล็กคัดปลอกกระสุนมาพร้อมกัน การคัดปลอกก็ให้นำเหล็กคัดปลอกส่วนที่โค้งสอดเข้าไปคล้องกับปลอกกระสุนไว้และบิด เท่านี้ก็สามารถนำปลอกกระสุนออกจากฟูลมูนคลิพได้ไม่ยากครับ


แสดงอุปกรณ์ การบรรจุกระสุนฟูลมูนคลิพ ใส่กระสุนเต็ม 6 นัด และเหล็กคัดปลอกออกจาก แหวนฟูลมูนคลิพที่ยิงแล้ว์

การยิงทดสอบกระบอกนี้กระทำที่สนามยิงปืนราชนาวี โดยใช้เป้าไอเอสยู ยิงในระยะ 15 เมตร ตอนแรกผู้ทดสอบคาดว่าจะพาดยิงจากระยะ 25 เมตร แต่พอดูรูปร่างปืนและน้ำหนักแล้ว คิดว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้พาดยิงเป็นแน่ จุดประสงค์ของการใช้ปืนก็คงเป็นการยิงแบบแอ๊คชั่นชู้ตติ้ง ที่ต้องมีการใช้ปืนในลักษณะเคลื่อนไหวมากๆ หรือพวกโบวลิ่งพินมากกว่า จึงใช้การยิงทดสอบแบบยืนยิง 2 มือ ระยะ 15 เมตร ผู้ทดสอบ เริ่มก่อนโดยยิงในขณะที่ยังไม่ได้ปรับศูนย์ใดๆ ผลปรากฏว่ากลุ่มกระสุนอยู่ที่ขอบวงเก้า ด้าน 11 นาฬิกา การคัดปลอกกระสุนที่ ยิงแล้วทั้งหมดออกมาพร้อมกับฟูลมูนคลิพทำได้ดีแม้ว่าเหล็กคัดปลอกที่เป็นรูปใบจักรเรือ จะดูเล็กไปหน่อยก็ตาม นอกจากนั้นผู้ทดสอบปืนท่านอื่นๆ ก็มาปรับศูนย์และยิงกันทุกท่าน ทุกคนบอกว่าปืนกระบอกนี้ไม่เตะเลยแม้ว่าจะใช้ลูก .40 สมิธฯ ก็ตาม

คุณอ๊อด บ้านโป่ง ผู้เขียนยิงทดสอบ และเป้าทดสอบที่ได้ ขวาสุดของคุณอ๊อด กลางของผู้พันสุพินท์ และซ้ายของ ผ.อ.สุวิทย์

ปืนรุ่นนี้มีอยู่ไม่มากที่ ห.จ.ก. ไกอาร์ม ดิโอลด์สยามพลาซ่า ถนนบูรพา กรุงเทพฯ โทร. 0-2225-8502, 0-225-9870 ลองเร่ไปดู ถ้าท่านเป็นชาวปืนในระดับ "ไฮเอนด์" ทางห้างฯ ตั้งราคาไว้ที่แปดหมื่นต้นๆครับ.

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 322 สิงหาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com